ไม่เห็นด้วยกับการใช้คะแนนมาตรฐานครับ
ตั้งกระทู้ใหม่
คะแนนดิบสำหรับผมแล้วคิดว่า มันทำให้ตัวเองมีเป้าหมายชัดเจนขึ้น เช่นครั้งนี้ได้แค่นี้ ครั้งหน้าต้องเอาให้ได้เท่านั้น เป็นแรงผลักดัน ถ้าใช้คะแนนมาตรฐาน มันเท่ากับว่าเราวัดทักษะของตัวเองด้วย 'มาตรฐานของคนอื่น' ไม่ใช่ มาตรฐานของตัวเอง' ไม่กระตุ้นให้เราพัฒนาขึ้น เพราะมันเป็นปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ มันขึ้นกับความยากง่ายของข้อสอบ ความฉลาดของเพื่อนๆที่เข้าสอบ
จริงๆแล้ว บอกว่าคนสมัครสอบไม่ทัน หรือไม่ได้สมัครสอบ ผมว่ามันไม่ใช่ข้ออ้างเพื่อเรียกร้องให้ใช้คะแนนมาตรฐานเลยครับ
ความคิดเห็นของผมก็มีเพียงแค่นี้เท่านั้น
36 ความคิดเห็น
เขาใช้คะเเนนดิบครับครั้งนี้ ทปอ ประชุมเเล้ว ใครที่ยังใช้คะเเนนมาตรฐานโปรดเข้าใจเสียใหม่ หากไม่เชื่อลองโทรไปถามได้เลยครับ เราเห็นด้วยกับ จขกท.
เพิ่มเติมนะครับ คะแนนแต่ละวิชาเต็ม 300 ถ้าคนที่เขาฟิตๆแล้วทำได้เต็ม แต่คะแนนมาตรฐานได้น้อยกว่าอีกคน ที่สอบอีกรอบแต่ไม่เต็มละครับ สรุปความผิดของเขาหรอครับ ก็ในเมื่อมันเต็มได้แค่นี้ คะแนนของเขายัแปรปรวนอยู่เลย
เหนด้วยกับ จขทก มากๆคับ แล้วเขาก็ประชุมกันเรียบร้อยแล้วด้วย
ผมคิดว่าการใช้คะแนนมาตรฐาน จะแก้ไขเรื่องข้อสอบแต่ละครั้ง ยาก ง่าย ไม่เท่ากันได้ไม่มาก ก็น้อยครับ
เรื่องเป้าหมาย ผมไม่คิดว่าเราจะตั้งเป้าหมายแบบว่า "คะแนนมาตรฐานรอบนี้ต้องได้เท่านี้ๆ" ไม่ได้นะครับ ยังไงถ้าคุณมีการพัฒนาตัวเอง ตั้งใจทำ อ่านหนังสือ คะแนนมาตรฐานมันก็ต้องขึ้นมาแหล่ะ แม้ว่า คะแนนดิบมันจะไม่ขึ้นก็ตาม
สมมุติ รอบแรกง่ายมาก รอบสองยากมากแบบขึ้นมาเลย
รอบแรกได้ 280 + กันเยอะเลย
รอบสองได้กันแค่ 150-180
ยื่นเป็นคะแนนดิบไป ใครสอบแต่รอบสองก็ซวยดิ
กลับกันถ้าใช้คะแนนมาตรฐาน จะให้ความเป็นธรรมกับคนสอบแค่รอบเดียวได้มากกว่า
ส่วนเรื่องคะแนนเต็ม 300
ถ้าได้ 300 แล้วคะแนนมาตรฐานน้อยกว่าอีกคน ก็สรุปได้ว่าข้อสอบรอบนั้นง่าย มีคนได้แถบๆนี้กันเยอะ
คนที่ได้น้อยกว่า 300 แต่ได้คะแนนมาตรฐานมากกว่า ก็อาจเพราะรอบนั้นข้อสอบออกมายากกว่า
ผมว่าไม่น่าจะใช่ปัญหานะ คะแนนระดับนี้ ยื่นไปติดอยู่แล้ว
ตอนแรกผมก็เคยคิดแบบนั้นครับว่าสอบเท่ากันทุกครั้ง ทำไมต้องใชค่ามาตรฐานด้วย
แต่สิ่งที่ทำให้ผมเปลี่ยนใจคือมาตรฐานของข้อสอบครับ ข้อสอบแต่ละครั้ง ในแต่ละวิชามันมีความยากไม่เท่ากัน ถ้าเตรียมตัวมาไม่ถูกวิชาก็จบกันสิครับ ไหนจะยังมีคนที่ยังไม่ได้สอบทุกรอบอีก
ตัวอย่างเช่นของผมที่สอบทุกครั้ง รอบตค. ที่วิทย์ง่ายๆ แต่เลขอยู่ในเกณฑ์ยาก ถ้าผมรู้ ผมคงอ่านทุ่มวิทย์ไปแล้วครับ แต่ตอนนั้นยังไม่สอบกสพท แถมตอนนั้นใกล้ช่วงยื่นคะแนนตรงจุฬา ทำให้ผมพยายามฟิตเลขเพื่อใช้เข้าวิศวะจุฬาครับ ปรากฎรอบนั้นที่ไม่อ่านวิทย์ ผมได้วิทย์ที่ไม่ได้อ่านมากกว่าเลขที่ทุ่มไว้อีกครับ
ซึ่งมันก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ เพราะยังเหลืออีกรอบมีค. ผมคิดแบบนี้ ว่าเดี๋ยวอ่านสอบรอบมีค ก็ได้ ผมเลยอ่านวิทย์ทั้งวันทั้งคืนเพื่อมาสอบใหม่ พอเจอข้อสอบทำให้รู้เลยครับ ว่า "มันไม่ได้มาตรฐาน"
ถ้าเกิดจะบอกว่ารอบนี้คนก็ทำไม่ได้เหมือนกันล้วถ้าคนเตรียมตัวมาทำรอบนี้ต้องไปแข่งเทียบคะแนนกับคนที่สอบรอบ ตค. ซึ่งมันง่ายกว่าหลายเท่าตัวมันจะแฟร์เหรอครับ?
คนที่ไม่อยากให้ใช้ค่า si ตอนนี้ผมว่ามีแต่คนที่ได้คะแนนรอบง่ายๆเยอะแล้วกลัวคะแนนจะตกเพราะค่า si มากกว่าครับ
ส่วนเรื่อง เต็ม 300 ครับมันมีปัญหาผมเป็นคนพูดถึงเองครับ แต่มันก็มีโอกาสเป้นแค่ไม่กี่อย่าง ซึ่งจริงๆคือ GAT ครับ ทำให้ผมอยากให้ทบทวนเรื่องการคิด si ของ GAT มากเป็นพิเศษถ้าจะใช้ แต่ถึงจะใช้ si หรือไม่ใช้ si สำหรับ GAT ผมลองคิดดูแล้วมันไม่ต่างกันมากครับ
"แต่ถ้าเป็น PAT ถ้าไม่เปลี่ยนจะเป็นระบบที่ไร้ความยุติธรรมที่สุดเลยครับ"
ข้อสอบแต่ละครั้งต่างกันนะ
ไม่ใช่แค่ความยากง่ายเรื่องเดียว
ต่างทั้งรูปแบบ เช่น บางครั้งเป็นปรนัยหมด บางครั้งมีอัตนัย
ข้อสอบเชื่อมโยงแต่ละครั้งมีจำนวนไม่เท่ากัน ฯลฯ
แถมยังมีบางวิชาที่ตอบไม่ครบ ติดลบอีก
ใช้คะแนนมาตรฐานน่าจะดีกว่า
เห็นด้วย เพราะ ตอนเดือนกรกฎา ปี 52 สอบครั้งแรก ผมได้ gat 225.75(เชื่อมโยง120.75,eng105.5) ตอนนั้นยังเชื่อมโยงไม่เป็น ได้คะแนนมาตรฐาน 75.94 ต่อมาทำเชื่อมโยงเป็น ได้เต็มทุกครั้งยกเว้นมีนา53 จนตุลา53 ได้คะแนน 292.5 ผิด engไป 3 ข้อ(ดูเฉลยแล้ว) แต่คะแนนมาตรฐานได้ 72.57 ตลกไหม 225.75>292.5
  มันไม่แฟร์ เพราะ ตอนสอบครั้งแรกๆมันยังมั่วกันอยู่ คนที่ดวงดีมั่วตอนนั้นได้คะแนนเยอะกว่าคนอื่นก็สบายไปตลอดชาติแล้ว เช่น เพื่อนผมคนนึงดวงดี ตอนครั้งแรกได้ pat2 ร้อยยี่สิบกว่า ผมมั่วได้ 109.5 ต่อมาผมอ่านหนังสือแล้วเดือนตุลา53 ได้ 173 เพื่อนคนนั้นได้ 141 แต่คะแนนมาตรฐานตั้งแต่ปีมะโว้นู้นของมันยังมากกว่า 173 ของผมอยู่ดี ทั้งที่ผมขยันอ่านแทบตาย
  ดังนั้นผมว่าคะแนนดิบน่ะดีสุดแล้ว คนส่วนใหญ่ 99% ก็สอบทุกครั้งอย่างที่อย่างจขกท.บอก ตอนอ่านหนังสือเยอะแล้วได้คะแนนดิบมากกว่าแต่คะแนนมาตรฐานน้อยกว่า ถ้าใช้คะแนนมาตรฐานมันไม่ยุติธรรมจริงๆ
เอาเลยดิ งั้นเราก็ตั้งกระทู้ขึ้นมาบ้างดิ ว่า ใช้คะแนนดิบดียุแล้ว เอาเลยคับ จขกท มีคนเปิดก็ต้องมีคนตาม คัยก็ได้ตั้งเลยคับ
ความเห็นที่ 7 ผมก็เป็นคนนึงนะครับ ที่ได้ GAT 292.5 แต่ของผมรอบ กค.53 ซึ่ง si ผมก็ 70 กว่าเหมือนกัน ทำให้พอเข้าใจว่า GAT น่ะ พอคิด si แล้วมันมีขีดจำกัดของคะแนนเวลาได้คะแนนเต็มกันเกือบหมด แต่จริงๆมันก็ยังพอใช้ได้อยู่ครับเพียงแต่ว่าควรแก้เรื่องค่าจำกัด si นี้หน่อย ซึ่ง GAT จะใช้ไม่ใช้มันก็คงไม่ต่างกันหรอกครับเพราะตอนนี้ทุกคนก็ได้ 280+ กันเกือบหมดแล้วผมเชื่อว่า
แต่ PAT ยังไงผมไม่เห็นด้วยครับ เพราะการสอบมันความยากง่ายไม่เท่ากันเลยจริงๆ เพราะอย่างรอบตค.53 ข้อสอบวิทย์มันง่ายกว่ารอบ มีค.54 มากๆ ผมรู้ได้ชัดเจนเพราะผมเพิ่งทำก่อนนอน เลยรู้สึกเลย ตอนตค.53 ผมอ่านแต่เลขไม่แตะวิทย์เลย ผมยังสอบได้คะแนน 150 เพื่อนผมคนที่พอมีความรู้เขาบอกเขาอ่านแค่ฟิสิกส์เขาก็ได้ 210 กว่าแล้วครับ เทียบกับครั้งนี้คะแนนจะทำได้ 150 ยังยากเลย
ยังไง PAT ถ้านำคะแนนดิบไปใช้ก็ไม่ยุติธรรมครับ ถ้าเกิดข้อสอบรอบมีค.54 มันระดับพอๆกับ ตค.53 คงไม่มีคนเรียกร้องให้เปลี่ยนมาใช้คะแนนมาตรฐานหรอกครับ
อ่านหนังสือเยอะแล้วได้คะแนนดิบมากกว่าแต่คะแนนมาตรฐานน้อยกว่า ถ้าใช้คะแนนมาตรฐานมันไม่ยุติธรรมจริงๆ << คะแนนดิบเยอะกว่าแต่คะแนนมาตรฐานน้อยกว่า "แปลว่าครั้งนั้นข้อสอบง่าย" ยังไงล่ะครับ ถ้าเอาครั้งนี้ที่ง่ายกว่าครั้งอื่นมาเทียบเป็นคะแนนดิบกับรอบที่คนเขาต้องใช้คะแนนจากข้อสอบยากนี่แหละครับที่เรียกว่า ไม่ยุติธรรมครับ - -
เห็นด้วยคห.10ครับ ดูข้อสอบด้วย ไม่ใช่ตัวเองเป็นที่ตั้ง อ่านหนังสือเยอะ ต้องได้งี้ๆ อย่างเดียว
คห.7  "คนส่วนใหญ่ 99% ก็สอบทุกครั้งอย่างที่อย่างจขกท.บอก"
ดูต่างจังหวัดรึยังครับ ดูเรื่องฐานะทางการเงินด้วยครับ
ใช้คะแนนดิบเพราะคนส่วนใหญ่สอบทุกครั้ง
อย่างงี้มันกฎหมู่นี่หว่า
ถูกคับ หยั่งงี้มันก็กดหมู่หนิ พอได้คะแนนน้อยหรือทำข้อสอบไม่ได้ ก็ออกมาโวย พวกเราอย่าไปยอม ตั้งกระทู้ขึ้นมาบ้างดิ๊ ตั้งเลยดิ ว่าใช้คะแนนดิบดียุแล้ว แต่ถึงยังงัยก็เปลี่ยนไม่ได้หรอก เพาะเขาประชุมได้ผมกันออกมานานแล้ว
เอาเป็นว่ายังไง ปีนี้เขาก็ใช้คะแนนดิบละครับ
เพราะเค้าได้ประชุมและออกระเบียบแล้ว
ไม่สามารถแก้ได้
ถูกต้อง เพาะเขาประชุมกันออกมาเปนระเบียบการเรียบร้อยแล้ว ยังงัยก็เปลี่ยนไม่ได้คับผม แต่เราก็อย่าไปยอมพวกที่มานมาบอกว่าคะแนนมาตรฐานมานดีกว่าดิ เพาะมานต้องการหาผลประโยดให้ตัวมานให้มากที่สุดอะ พอคะแนนออกมาไม่พอใจก็มาโวย กระจอก
คห.12 ผมว่าคนที่อยากใช้คะแนนดิบตอนนี้ต่างหากล่ะครับที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง - -' คือได้คะแนนดิบครั้งที่ข้อสอบง่ายเยอะ ถ้าใช้ si แล้วกลัวคะแนนตกสินะครับ ในขณะที่คนอื่นหลายคนบางคนก็ไม่ได้สอบรอบตค. บางคนก็มีเหตุไม่พร้อม
ส่วนเรื่องที่เขาประชุมทุกคนรู้ครับ ไม่ต้องพยายามย้ำ แต่ที่ทุกคนเขาออกมาเรียกร้องเพราะมันใช้มาตรการวัดที่ไม่เป็นธรรมครับ และที่จะให้ออกมาเรียกร้องก็เพื่อให้ใช้ระบบการวัดที่เป็นธรรมมากขึ้น ถ้าคะแนนดิบดีอยู่แล้วคนไม่เรียกร้องให้เป็น si เกือบทั้งประเทศหรอกครับ
แล้วถ้าคุณคิดว่าใช้คะแนนดิบมันดีอยู่ ผมว่าต่อให้เปลี่ยนเป็น si ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลยนะครับ เพราะถ้าคะแนนดิบดีแปลว่าเก่งจริง ทั้งคะแนนดิบและ si คุณก็สูงเองแหละครับ รวมถึงรอบสุดท้ายนี้ด้วย เก่งขนาดได้คะแนนดิบตค. ดี คุณก็น่าจะได้คะแนนดิบมีค.54 สูง si รอบนี้ก็สูงด้วยจริงไหม?
คห.8 12 14 นี่แยกร่างเหรอครับเนี่ย =_= ท่าทางจะกลัวการใช้ si จัด
ถ้าใช้คะแนนมาตรฐาน มั่วแน่ๆ ไม่สามรถวัดห่าอารายได้เลย แล้วทปอ ก็ออกมาบอกเองด้วยว่า ข้อสอบแกทแพท ไม่จำเปนต้องออกครบตามหลักสูตรหมด ไม่เชื่อไปอ่านใน unigang นะสาดดดดดด
โอะ เปลี่ยนชื่ออีกละ =_= จะโคลนตัวเองไปถึงไหนครับเนี่ย binary fission ได้รึเปล่าครับเนี่ย
กุโคลนหาหอกอาราย กุพึ่งไปอ่านเจอในumigang แล้วก็มาเม้น ก็บอกว่าไปอ่านดิ ถ้าไม่เชื่อ อารายของเมิง บร้าไปแล้ว
ใช้คะแนนดิบคงไม่มีปัญหา ถ้ามาตรฐานข้อสอบเท่ากันในแต่ละครั้ง คะแนนมาตรฐานจะวัดว่าเราแพ้ชนะคนอื่นอย่างไร แล้วแปลงสูตรเป็นคะแนน+-50เท่าไร ข้อสอบยากง่ายจะไม่มีผลต่อคะแนนมาตรฐานเพราะเราแข่งเปรียบเทียบกับคะแนนของผู้เข้าสอบ คนเก่งย่อมชนะคนอ่อนกว่าและจะได้คะแนนมาตรฐานสุงกว่า แต่การใช้คะแนนดิบมีผลได้เปรียบเสียเปรียบต่อบางกลุ่มที่ได้โอกาสเข้าสอบในข้อสอบยากง่ายต่างกัน คนอ่อนกว่าอาจชนะคนเก่งกว่าถ้ามีโอกาสสอบในรอบข้อสอบงายกว่า ในปีนี้คงยังไม่เปลี่ยนแปลงระบบ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?