Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ใครเคยไปทุน UCE มาทางนี้หน่อยค่ะๆ ^^*

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือ...ปีนี้อ่ะค่ะ ครูเอาใบสมัครมาแล้วบอกว่าเป็นของ UCE แต่ในใบสมัครเป็น ECE เป็นโครงการเดียวกันรึเปล่าคะ O.O?

แล้ว...ถ้าเป็นของ UCE นี่ของสอบยากมั้ยคะ มีสอบสัมภาษณ์มั้ย? แล้วไปแล้วเป็นยังไงมั่ง?
ช่วยกันตอบหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ > <

แสดงความคิดเห็น

>

10 ความคิดเห็น

bonnyloonier 28 พ.ค. 54 เวลา 21:43 น. 1
ข้อสอบภาษาอังกฤษ เปนแกรมม่าล้วน ๆ สอบสัมภาษอีกปะมาน สิบข้อ (เรื่องใกล้ตัว)เพื่อนเราไปมา บอกว่าสนุกมา ก  

0
Chong PoppY 30 พ.ค. 54 เวลา 17:57 น. 2

ข้อสอบเน้นไปทางแกรมม่าและพวกบทความส่วนใหญ่ค่ะเคยสอบแล้ว
^^
ส่วนสอบสัมภาเป็นเรื่องใกล้ตัวค่ะเหมือนข้างบนแต่ปีก่อนออกพวกเรื่องการเมืองกฎหมายอะไรแบบนี้ด้วยค่ะ เขาจะถามให้เข้ากับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ สู้ๆ นะค่ะ หาคำศัพท์ไว้เยอะๆ รับรองผ่านค่ะ
ปล.สอบข้อเขียนต้องเขียนเรียงความค่ะ สู้ๆ นะ

0
UCE suck ass 23 พ.ค. 55 เวลา 13:17 น. 5

เรียนทุกท่าน

เราเคยไปสอบทุน uce นี้มาแล้ว สอบติดเป็น uceรุ่นที่ 34 ไปอังกฤษ 3 อาทิตย์
สำหรับเรา เราเรียนภาคภาษาอังกฤษมา ข้อสอบจึงกลายเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ
หรือพูดได้ง่ายๆคือ "ง่ายเกินไปจนคัดคนเก่งๆไม่ได้" เพราะทุนนี้เป็นทุนที่ "แดกเงิน"
และ "ไม่สนคนเก่ง" อยู่แล้ว
คนที่เก่งและมีความสามารถจริงๆ พอติดแล้วก็เลือกที่จะไม่ไป
จึงเหลือแต่พวก "กระจอก" ไร้ความสามารถ "แต่อยากเด่น"
คนเก่งจริงที่ติดเข้าไป จึงกลายเป็นเหมือน "เศษเกิน" ของสังคม
ซึ่งเป็นสิ่งที่ "ผิดจุดประสงค์"

1. เด็กที่ไป 90% มักจะเป็นเด็กต่างจังหวัด เด็กกรุงเทพอย่างเราจึงกลายเป็นสวะได้

2. 20% ของเด็กที่ไป ไม่ได้สอบเข้า แต่ใช้เส้นเข้าไปโดยการยัดเงิน

3. เราคาดหวังไว้ว่า เมื่อเข้าไปจะได้เรียนร่วมกับชาวต่างชาติในห้องเรียน
แต่ผิด มันคือการเอาอาจารย์ชาวต่างชาติมาสอนในกลุ่มของคนไทยด้วยกันเอง
จึงไม่ต่างอะไรกับการเรียน ep แต่เปลี่ยนสถานที่ไปเรียนที่ต่างประเทศ
แถมยังต้องชะลอความเร็วในการเรียนเพื่อรอพวกที่ "กระจอก" ให้ตามเราทัน

4. วัตถุประสงค์ของทุนนี้มีไว้เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม แต่ในสายตาของรุ่นเรา มันมีไว้นินทาชาวบ้าน ม่อฝรั่ง ถ่ายรูปตลอดเวลา และช็อบปิ้ง

5.ระวังเรื่องโฮส (host family) ที่ท่านจะได้ บางคนก็ดี บางคนก็จะห่วยสุดๆ เพราะการไปครั้งนี้ เราได้อยู่กับครอบครัวที่เป็นแขกปากีสถาน อาหารที่กินคือ นำถั่วที่ใช้ทำเป็นถั่วต้มน้ำตาลมาบดให้เละ คนคลุกกับนมสดและผงกระหรี่ และเครื่องเทศที่ไม่มีในไทย รสชาติคล้ายขี้ :) หากคุณไม่กินให้หมดในมื้อนี้ มันจะหลอกหลอนคุณใหม่ในมื้อถัดไป และถัดไป สิ่งที่ข้าพเจ้าทำก็คือ พยายามวิ่งให้เหนื่อยที่สุด เพื่อที่จะได้กินสิ่งนี้ลงไปได้

6. เรื่องรูมเมท (room mate) คุณจะได้อยู่กับคนไทยในบ้านเดียวกันประมาณ 1-3 คน
หากอายุ 16 ปีขึ้นไป จะได้อยู่คนเดียว
หากอายุ 15 ปีจะได้อยู่ 2 คน
หากอายุต่ำกว่า 14 หรือ 14 จะได้อยู่ 3 คน
สำหรับเรา เรื่องรูมเมทนี้ไม่มีปัญหา
เราอายุ 14 ปี จึงอยู่กัน 3 คน
แต่มีรูมเมทหนึ่งคน ทนอยู่กับครอบครัวนี้ไม่ได้ จึงต้องย้ายออกไป จึงเหลือกันแค่ 2 คน
แต่การย้ายครั้งนี้ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่มากๆ ต้องเดือดร้อนถึงเราเองด้วย
เพราะด้วยความที่เรียน EP ภาษาอาจจะคล่องกว่าคนที่เรียนภาคธรรมดา
เราจึงต้องติดต่อทำเรื่องให้เพื่อน
โดยที่คุณครู 2 คน ที่คุมไปในครั้งนี้ "พูด+ฟังภาษาอังกฤษ ไม่รู้เรื่อง โต้ตอบไม่คล่องเลย"
นี่คือเรื่องจริง ไม่ได้ใส่ความใดๆ

7. การเดินทางไปโรงเรียนของเรานั้น เฉลี่ยประมาณ 50-60 ไมล์ โดยต้องเดินทางไป-กลับเอง
เพราะโชคค่อยไม่ดีที่ได้โฮสแบบที่ไม่ไปรับ-ส่ง โดยเราต้องศึกษาการเดินทางโดยรถประจำทางเอง และเปลี่ยนรถเองด้วย

8. เรื่องการนำเสนอและการแสดงและเปลี่ยนวัฒนธรรมในคืนที่มีชื่อว่า Thai night
หรือการแสดงของคนไทยนั่นเอง สิ่งที่เราประสบมากับตัวคือ
ด้วยความที่เราแต่งบทภาษาอังกฤษค่อนข้างคล่องกว่าเด็กที่เรียนภาคปกติ
จึงต้องแต่งบทให้ทุกคน โดยที่มีรุ่นพี่จอมเผด็จการคอยสั่งเราที่มีอายุเพียง 14
ว่า "อ่อ เก่งนักเหรอ เธอทำละกันนะ :)"
และเพิ่งมาบอก 1 วันก่อนหน้าการแสดงด้วย
ซึ่งเราปฏิเสธ ไม่ได้เลย เพราะถ้าเราไม่แบกรับไว้ก็เท่ากับจะเสียหน้ากันทั้งหมด
อับอาย on stage คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
การเขียนบทให้คน 5 คน รวมทั้งท่องบทของตนเอง ในช่วงเวลา 1 คืน ไม่ใช่เรื่องง่าย
เรานั่งค้นข้อมูล แต่งบทถึง ตีหนึ่ง จึงได้นอน
แต่นอนไม่หลับเพราะเสียงละหมาดของโฮส
สรุปได้ว่า คืนนั้น ไม่ได้นอน
แต่ทายซิ วันนจริงใครเป็นคนได้หน้าเต็มๆ
ก็จอมเผด็จการไง คือคุณเธออยู่เตรียมอุดม และหยิ่งจ้า
ไม่ได้เหมารวมนะ เพราะเด็กเตรียมส่วนใหญ่นิสัยดีอยู่แล้ว
เราเองก็อยู่สาธิตปทุมวัน มีรุ่นพี่เตรียมที่รู้จักเยอะมากๆ

9. วันรุ่งขึ้นเราตื่นมาด้วยความงัวเงีย หน้าลอกเพราะอากาศเย็น
หน้าแดงๆ และตอนที่มาโรงเรียนก็เมารถ จึงเซๆ *0*
เราจึงไปขอยาแก้ปวดท้องจากห้องพยาบาล
เข้าเทยาน้ำขาวๆให้ ด้วยความที่มันขมมาก เขาจึงผสมกับน้ำแอปเปิ้ลให้ดื่ม
แล้วนางพยาบาลก็เทยานั้นลงในขวดที่ปกติเอาไว้ใส่เหล้า
เราขอบคุณเขา แล้วเดินดื่มออกมาโดยไม่คิดอะไร
เท่านั้นแหละ อาจารย์ที่คุมไป 2 ท่านก็บอกให้ทุกคนอย่ามายุ่งกับเราทันที เพราะเราเมาเหล้า
อาจทำร้ายคนอื่นได้ *0* ช็อคค่ะ 55555
แต่เราให้อภัยครูเขาและอธิบายให้ฟังด้วยความที่เป็นครูไทยมาจากต่างจังหวัด
คงรู้อะไรไม่มาก
"อาจารย์ที่เอาไป เป็นแค่ไม้ประดับ" เวลาเกิดปัญหา....ก็แก้กันเอาเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงความคิดเราจะเป็นผู้ใหญ่แค่ไหน
เราก็เป็นแค่เด็กอายุ 14 ควรจะมีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนความคิดเราอยู่เบื้องหลังด้วย
แต่ไม่มีเลย คนที่อาวุโสกว่าอย่างจอมเผด็จการจึงได้เปรียบไปโดยปริยาย

10. วัน present งานของจอมเผด็จการนะคะ หลังจากเธอสั่งทุกคนให้ทำบอร์ด และสั่งให้พิธีกร ซ้อมบท สั่งให้ซ้อมเต้น ซึ่งเธอเองก็เป็นพิธีกร และเธอเองก็ควรจะซ้อมบทเช่นกัน แต่ไม่เลย
พอจัดบอร์ดเสร็จ พิธีกรก็ต้องเตรียมนำเสนอ
...คือเธอออกแต่งชุดไทยสวยหรูที่เธอเตรียมมา
ทุกท่านคงคิดว่าเธอจะพูดบทเองทั้งหมด? เปล่าเลยค่ะ เธอออกไปเสนอหน้า ยิ้มเฉยๆ ไม่พูดห่า
เราจึงเข้าไปถามว่า
"พี่คะ พี่จะพูดส่วนไหนดีคะ หนูเขียนบทให้แล้วค่ะ"
"ไม่หละ ชั้นจะไม่พูด"
เราอึ่งไปซักพักกับคำที่เขาตอบออกมา
เราก็เลย "อ่าว แล้ว...(จะแต่งชุดทำไม)"
"ก็ชั้นจะยืนของชั้นแบบเนี้ย เธอมีอะไรมั้ย":)
"อ่อ ค่ะ ค่ะ" เราพูดแล้วเดินออกมา
เราแต่งชุดธรรมดา โทรมๆ แล้วก็พูดสิ่งที่ซ้อมมาทั้งคืนในการนำเสนอ
จึงทำให้มีบางคนที่ศรัทธา ไว้ใจ เป็นเพื่อนที่ดีกับเรา รวมถึงชาวต่างชาติบางคนบอกว่า
"ชุดนั้นน่าจะเป็นของเธอนะ"
เราเลยตอบไปแบบแรงๆนิดนึงว่า
"Let the dog has the bone :)" = ปล่อยให้หมาได้กระดูกไปเถอะ

11. คุณควรมีเครื่องมือสื่อสารติดไปด้วย ถึงแม้ทางโครงการจะบอกว่าไม่ให้เอาไปก็ตาม
สำคัญมากๆ เพื่อนเราเคยหลงทางและกลับบ้านไม่ได้ ด้วยความที่ไม่มีโทรศัพท์จึงต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที

กล่าวโดยสรุปเลยก็คือ หากคุณพร้อมเป็นผู้ตามที่พร้อมจะตามผู้นำที่ตัดสินจากความอาวุโส
หากพร้อมที่จะอยู่กับโฮสที่ต้องเสี่ยงเอา หากคุณเป็นคนที่มีความสามารถ
ถามตัวเองก่อน "คุณแกร่งพอที่จะอยู่ในสังคมแบบนี้หรือไม่"
ขอนำเสนอเพื่อนๆไว้เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจนะคะ
แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี่อาจเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว
จากประสบการณ์ของเราเอง ฝากไว้จ้า

0
**Minkiiz** 25 พ.ค. 55 เวลา 21:44 น. 6
"คห.5"ทำไมต้องใช้ว่ากระจอก? ทำไมต้องเปรียบ ต่างจังหวัด?
ทุนพวกนี้ยิ่งสอบง่าย มันยิ่งจ่ายแพงเป็นแสนอยุ่แล้วคะ
แล้วมันก็เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เคยไปและไม่เก่งเรื่องภาษา ได้ไปศึกษา ให้มันดีขึ้น
ถ้าเก่งนักไม่สอบทุน1ปี  ให้ติดเด็กทุนเต็มอัตราเลยละ?
อย่าพิมให้มันเกรียนและลุกล้ำคนอื่นเกินนะค้ะ "ไม่มีใครชอบหรอกคะ"
เพราะเราก้เด็ก ตจว เหมือนกัน ด้อยเรื่องอังกฤษแต่คงไม่ผิดที่จะทะเยอทะยานใช่มั้ย?

คหสต.

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2555 / 21:47
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2555 / 21:48

PS.  
1
Jlovefamily 11 ส.ค. 56 เวลา 20:44 น. 10
จะไปดีไหมหนอ???
พูดจนกลัวซะ...

เรากลัวทางครอบครัวไม่ให้ไป
อยากให้แม่ พ่อ ไปด้วยยยย

ไม่งั้น เราเหงาาา

0
ttooneeee 14 ส.ค. 56 เวลา 18:51 น. 11

เราว่าคห.5ไม่ได้พูดอะไรผิดหรอก แต่คุณเลือกที่จะฟังความจริงรึเปล่าเท่านั้นเอง เค้ามีความคิดของเค้า คุณก็มีความคิดของคุณ มันไม่มีทางเหมือนได้หรอก เพราะคนละมุมมอง คหสต.

0