Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ข้าน้อยขอชวนทุกคนมารับธรรมมะนะครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมขอชวนพี่ๆ น้องๆ ทุกคนให้ไปรับธรรมมะนะครับ เพื่อสร้างบุญสร้างกุศลให้กับตัวเอง เพราะการรับธรรมมะจะทำให้เราลบชื่อ ออกจากยมโลก และนำไปสู่ สรวงสวรรค์ เท่ากับเราได้ลบปาบออกจากตัวเอง เมื่อรับแล้วเราควรปัฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตใจสงบสุข ข้าน้อยจึงอยากชวนทุกคนให้ไปรับธรรมมะนะครับ เพราะการที่เราได้รับธรรมมะ วิญญาญบัณพบุรุษของเราก้อจะขึ้นมาฟังธรรมกับเราด้วย เมื่อไปรับแล้วควรชวนพี่ๆ เพื่อนๆๆของตนไปรับด้วยนะครับ เพราะการที่เราชวนคนไปรับธรรมมะ1คน เท่ากับสร้างเจดีย์ทอง7ชั้นเลยนะครับ สุดท้ายนี้ข้าน้อยก้อขออนุโมธนาบุญด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็น

>

25 ความคิดเห็น

จัตตุรงค์ 17 เม.ย. 60 เวลา 11:20 น. 1-1

พวกคุณต้องการประโยชน์อันใดจากการตั้งลัทธิแบบลูกโซ่ ทางรัฐบาลปล่อยได้งัยกับการกระจายลูกโซ่ค่าสมัครต่างๆ

0
จามรมาน 30 ก.ค. 54 เวลา 21:16 น. 2

 มันใช่ทางที่พระพุทธเจ้าสอนสั่งรึ?
เเล้วบาปน่ะมันลบไม่ได้นะ บาปทำเเล้วยังคงอยู่ไม่หายไปไหน บุญก็เช่นกัน
เเล้วมันไม่มีหรอกการลบชื่อน่ะ คนจะดีได้ก็ด้วยการกระทำ ไม่ใช่เพราะการขีดฆ่าชื่อในบัญชี

0
เนยแข็ง 31 ก.ค. 54 เวลา 00:26 น. 4

ธรรมะ คงไม่ได้รับกันง่ายๆมั้งคะ

ถ้ารับกันง่ายขนาดนั้น&nbsp สังคมเราคงมี ธรรมะกัน เต็มบ้านเต็มเมือง

ธรรมะจะเกิดกับคนที่ปฏิบัติตามหลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ

และที่สำคัญ บาปลบไม่ได้นะคะ แก้กรรมไม่ได้ แต่ใช้กรรมได้ค่ะ

สุดท้าย..ไม่มีบุญไหน ยิ่งใหญ่ เท่าการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนะคะ ทุกคน

2
I-tiMz 3 เม.ย. 58 เวลา 13:44 น. 4-1

เพราะธรรมะในสมัยนี้รับกันง่ายจนทุกคนมองข้าม
ตอนนี้มีธรรมะกันเต็มบ้านเต็มเมืองแล้วจริงๆค่ะ
มีแต่คนที่คิดแบบนี้เท่านั้นที่ยังไม่ได้รับธรรมะ

0
โด่ง 19 เม.ย. 60 เวลา 05:55 น. 4-2

"ธรรมะจะเกิดกับคนที่ปฏิบัติตามหลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ" ถามตัวเองนะครับ ว่าวันนี้ ศีล 5 ของพระพุทธองค์ที่สั่งสอนไว้ทำได้ไหมครับ ถ้าท่านทำได้ครบ ปฏิบัติได้จริงทุกข้อ ก็หนีไม่ห่างธรรมของพระพุทธเจ้า ตอบตัวเองนะครับ ไม่ต้องตอบผม และคิดแบบไม่เข้าข้างตัวเองนะครับ คิดเอา

0
คนที่คุณก้รู้ว่าใคร 31 ก.ค. 54 เวลา 01:35 น. 5

ถึง จขกท นะคะ เราก้เปนคนนึงที่รับธรรมมะ แล้ว
มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนค่ะ ยากที่จะให้คนเข้าใจได้ง่ายๆ
ไม่ได้เป็นลัทธิอะไรทั้งนั้นแหละค่ะ ธรรมมะ ที่เป็นรากฐานของทุกศาสนา
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันนะคะ เปนการลบชื่อ ถอนชื่อ แต่จะได้ไปสวงสวรรค์อย่างที่ว่านั้นรึป่าว ก้ขึ้นอยู่กะบุญบารมีที่สร้างกันเองนั่นแหละค่ะ ไม่มีใครมาล้างบาปให้เราได้ ต้องชดใช้กรรมที่ทำไว้
ย้ำนะคะ ไม่ใช่ลัทธิ อืม จะอธิบายยังไงดี เหมือนเป็นการสั่งสอน ให้คนเร่งทำความดี
เพื่อเตรียมคนดี ที่จะไปสู่ยุคของพระศรีอริยะเมตไตย หรือที่เรียก พระศรีอาน น่ะคะ
เป็นยุคพระธรรมการยุคขาว ต่อจากยุคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรานี่แหละคะ เป็นยุคที่จะมีแต่คนดี ใครๆก้ออยากไปเกิดในยุคนี้ ลองถามคนเฒ่าคนแก่ดูสิคะ เวลาท่านกรวดน้ำจะแปลเปนภาษาไทยได้ว่า "ขอให้พบดวงแก้ว ขอให้แคร้วหมู่มาร ขอให้พบพระศรีอาร ในยุคทการถัดไป" อะไรประมาณนี้

0
จามรมาน 31 ก.ค. 54 เวลา 02:18 น. 6

 มันเป็นลัทธินอกรีตซึ่งมีคำสอนดังนี้
ไปอ่านเอาเอง
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1


เเนะนำให้อ่านกระทู้นี้ประกอบ
โปรดจำไว้ว่า คนมีคุณธรรมน่ะ เขาจะไม่ทำเเบบนี้กัน
ลูกศิษย์เป็นอย่างไร อาจารย์ก็เป็นอย่างนั้น
อาจารย์เป็นอย่างไรก็คงเป็นเพราะคำสอนของตัวมีปัญหาเอง
http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2011/05/Y10535540/Y10535540.html

กระทู้ที่สองนี่
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10851662/Y10851662.html
มีรายละเอียดจากคำบอกเล่าของหลายๆคน เกี่ยวกับบางสิ่งที่ไม่มีในคำพุดอันสวยหรูของลัทธิ

ประการสุดท้าย ก็ถ้าอนุตรธรรมมันมีอยู่เเล้ว ทำไมต้องตั้งลัทธิขึ้นมาใหม่
จะบอกว่าตัวเองไม่ใช่ลัทธิ? ก็ทำนองเดียวกับที่คนบางคนเเถวๆนี้พูดว่าศาสนาบางศาสนาที่ตนนับถืออยู่ไม่ใช่ศาสนา เเต่เป็นวิถีชีวิตรูปเเบบหนึ่ง ซึ่งในทางปฏิบัติมันก็ใช่นั่นเอง
เเล้วความชอบธรรม ความสมเหตุสมผลมันมีมั้ย?
เเล้วถ้าใครจะบอกว่าลัทธินี้สอนให้เป็นคนดีล่ะ?
คุณต้องมองลึกลงไปว่า การสอนให้เป็นคนดีเป็นจุดมุ่งหมายของลัทธิ?ลัทธินี้สอนความจริงหรือไม่?เเล้วสอนธรรมของใคร?
ไม่งั้นก็อาจจะเป็นคนดีที่โดนเขาหลอกใช้

0
จามรมาน 31 ก.ค. 54 เวลา 02:21 น. 7

 

คือเค้าไม่ศรัทธาคนที่ไม่กินเจหน่ะคะ แล้วก็ไม่นับถือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน 
แต่นับถือพระศรีอาริย์ ซึ่งดิฉันเคยบอกว่ายังมาไม่ถึงขอนับถือองค์ปัจจุบัน
คือ พระพุทธสมนโคดมก่อน เค้าก็หาว่าดิฉันยังไม่เข้าใจและต่อต้าน 
เคยโดนกราบเป็นพันๆ กราบมาแล้วนะคะ เพราะถามในสิ่งที่สงสัย
เค้าเลยคงคิดว่าดิฉันเป็นมารมาทดสอบ เค้าบอกว่านี่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ
แต่อนุตรธรรมเป็นสิ่งที่สร้างศาสนา เป็นศูนย์รวมจุดเกิดของทุกศาสนาคะ
ดิฉันก็ไม่ได้ต่อต้านเลย เค้าให้ทำอะไรก็ทำตามทุกอย่างคะ
แต่เชียงรายมันไกลมาก และดิฉันก็ลางานเพื่อไปงานธรรมะบ่อยๆ ไม่ได้
ด้วยงานในหน้าที่ และค่าใช้จ่าย พอเค้าเห็นผู้หญิงในสถานธรรมที่สามารถ
อยู่ในสถานธรรมได้ตลอดเวลา เค้าก็เลยให้อยากให้ลูกชายเลิกกับดิฉันคะ
และสามีดิฉันก็ยอม เพราะว่าดิฉันไม่สามารถออกไปฉุดช่วย บำเพ็ญบุญร่วมกัน
กับเค้าได้  นี่หรือคือสิ่งตอบแทนที่ดิฉันยอมอดทนมาทั้งหมด ไม่เคยปริปาก

0
บอกชื่อไม่ได้ 31 ก.ค. 54 เวลา 03:37 น. 8

เราขอเป็นคนหนึ่งที่ขอยืนหยัดต่อต้านเพราะเพื่อนเราหัวปักหัวปัมลงไปใหญ่ กินเจ ตัวผอม จะเหลือแต่กระดูกแล้ว เราเคยเถียงกันกะมันจนไม่อยากพูดกันไปแล้ว เฮ้ออออ ขอเถอะความเชื่อเป็นของใครของมัน ถ้าจะเชื่อธรรมะยุคใหม่อะไรนั่นก็เชื่อไปอย่ามาพูด มาสั่ง สอน ให้คนอื่นไปเชื่อ ไม่อยากฟัง
ถ้าคนที่เค้าอยากฟังจะเข้าหามันเองงง

0
@In_Yujin 31 ก.ค. 54 เวลา 18:43 น. 9

 อย่างมงาย ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างไม่เป็นดังเราคิดเสมอไป

ความดีน่ะทำเยอะๆ  


PS.  看破世情天理处 人生何用苦营谋 // กรุ๊ปตรงธรรม - http://group.dek-d.com/phunanphing/
0
@In_Yujin 2 ส.ค. 54 เวลา 00:57 น. 11

ธรรมมีอยู่สามัญทั่วไป คนเลยเฉยเมย คิดว่าไร้ค่า

"คนเลยใฝ่หาในสิ่งที่ตนคิดว่าไม่สามัญไม่ไร้ค่า"

PS.  看破世情天理处 人生何用苦营谋 // กรุ๊ปตรงธรรม - http://group.dek-d.com/phunanphing/
0
เกรียนดีนะคะ 2 ส.ค. 54 เวลา 11:42 น. 12

กระทู้เด็กดีนี่ก็แปลก&nbsp แทนที่จะมองข้อดี ของสิ่งที่มันมีทั้งดีและไม่ดี
แต่เรากลับมองข้อไม่ดีมากกว่า&nbsp ทำให้คนที่คิดดีเสียกำลังใจในการทำความดี
ก็ดีที่เป็นการวิเคราะห์ที่ดี แต่ไม่ดีที่สกัดกั้นการทำความดี

0
นายแสนดี 9 ส.ค. 54 เวลา 08:22 น. 13

ขออนุญาติแลกเปลี่ยนความเห็นนะครับ
สำหรับเรื่องอนุตรธรรมนั้นผมเคยตอบกระทู้เรื่องนี้เมื่อนานมาแล้วที่
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2148690

และผมก็ได้แลกเปลี่ยนไปเสียยืดยาว
เลยขออนุญาติญาตเอามาเล่าใหม่

เพราะที่ผมตอบไปค่อนข้างจะครอบคลุม และคิดว่าคงจะให้ความกระจ่างได้


โดยตอนนั้นมีผู้ตั้งกระทู้ว่า
ขอถามหน่อย วิถีอนุตตรธรรมคืออะไร แล้วเราเคยเห็นมีการนำพระสงฆ์ในพุทธศาสนา
ไปรับธรรม โดยมีอาจารย์เบิกธรรมเป็นผู้หญิงเจิมหน้าผาก อยากถามว่าอาบัติหรือไม่

 ขอแยกแตกเป็นประเด็นนะครับ
(๑)กับคำถามที่ว่า "ขอถามหน่อย วิถีอนุตตรธรรมคืออะไร แล้วเราเคยเห็นมีการนำพระสงฆ์ในพุทธศาสนา ไปรับธรรม โดยมีอาจารย์เบิกธรรมเป็นผู้หญิงเจิมหน้าผาก อยากถามว่าอาบัติหรือไม่"

ตอบ ผิดพระธรรมวินัยแน่นอน (ในที่หมายถึงพระธรรมวินัยฝ่ายเถรวาท)
เป็นพระเถรวาทแน่นอนก็ต้องปฏิบัติตามพระธรรมวินัยฝ่ายเถรวาท

(๒) ในกรณีที่ผู้ตอบกระทู้ท่านที่สองกล่าวว่า "แต่เราว่าถ้ากลุ้มใจอนุตรธรรมเพราะเรื่องนั้น
เราว่ากลุ้มใจกับวัดซึ่งเป็นสายเถรวาทแท้ๆ แต่ผิดจากหลักคำสอนดีกว่านะ
ไม่ให้ธรรมะเลย
"



ตอบ ผิดก็ว่าไปตามผิดครับ หลักการมีอยู่ในพระธรรมวินัยชัดเจน
จะตัดสินโดยชอบใจไม่ได้ ให้ยึดหลักการเอาไว้
ส่วนเรื่องที่ว่าพระเถรวาทสอนผิดหลักคำสอน
อันนี้ก็ต้องดูกันเป็นรายบุคคล แต่โดยหลักใหญ่แล้ว
เนื้อแท้แห่งพระศาสดายังคงอยู่ ขอให้เราคัดกรองโดย สติ-ปัญญา
โดยไม่เหมารวมเอาผิดกับทั้งหมด

(๓)ในกรณีที่ผุ้ตอบกระทู้ท่านที่สองกล่าวว่า 
"อนุตรธรรมอย่างน้อยก็ขึ้นชื่อว่าเป็นมหายาน ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเถรวาทนี่นา"

ตอบ ขอให้เข้าใจอย่างนี้ครับว่าคำว่ามหายานนั้น
มาจากคำว่าอาจารยวาทะ หมายถึงเชื่อกันไปตามๆที่อาจารย์สอน

(ถ้าสนใจประเด็นนี้ไปศึกษาประวัติศาสตร์พุทธศาสนาเพิมเติมได้ครับ
ผมเคยเขียนเรื่องนี้เอาไว้แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าระบบมีปัญหาหรืออย่างไรไม่ทราบ
บทความเก่าๆของผมหายไปหมดเลย ถ้าเกิดว่างๆจะเขียนใหม่ครับ
)

โดยทุกฝ่ายต่างยอมรับว่านิกายมหายานนี้สามารถที่จะเพี้ยนไปจากคำสอนเดิมได้ง่ายมาก
เพราะยึดตามแบบที่อาจารย์สอนมา (สิ่งนี้แม้แต่นักวิชาการในฝ่ายมหายานก็ยอมรับ)
ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้มหายานเองก็ยังแตกนิกายออกเป็นนิกายย่อยๆอีกมากมาย
ดูแค่ในญี่ปุ่นก็มีมหายายนิกายย่อยๆกว่าสองร้อยนิกาย 
บางนิกายก็ดูแทบไม่รู้เลยว่าเป็นพุทธ บางนิกายพระมีครอบครัวได้ ทำธุรกิจได้
บางนิกายก็คล้ายกับเถรวาทมากเช่ย นิกายเซน

ที่ไล่เรี่ยงมาเป็นลำดับนี้ ก็เพื่อให้เราเข้าใจตรงกันก่อนว่า "มหายาน" คืออะไร

ที่นี้เรามาดูกันกับประเด็นที่บอกว่าวิถีอนุตรธรรม คือมหายาน
จะบอกว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่ก็ต้องเข้าใจให้ชัดว่ามหายานแบบไหนนิกายไหนครับ
เพราะพุทธศาสนามหายานเองก็มีนิกายย่อยอยู่หลายร้อยนิกาย

มหายานแบบจีนหรือเปล่า ดูแล้วก็ไม่ใช่ทั้งรูปแบบ และวิธีการ
มหายานแบบญี่ปุ่น(เซน) ก็ไม่ใช่ มหายานแบบเกาหลี ก็ไม่ใช่
โดยรูปแบบแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นมหายานสายไหน

แต่อาจจะมีการอ้างถึง(มหายาน)เซน 
โดยคำสอนได้มีการไล่เรียงว่า
อนตุรธรรมได้สืบสายมาจากสังฆปริณายกองค์สุดท้ายของฝ่ายเซน 
ซึ่งถ้าพูดตรงๆ ดูโดยหลักการ ก็ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใดๆรองรับ
กับคำกล่าวอ้างนี้เลย
และยิ่งดูในลักษณะการสอนแล้ว ไม่พบว่ามีการสอบอะไรแบบเซนเลย
โดยเฉพาะสิ่งที่สำคัญๆของเซนก็ไม่มีการสอน เช่น ซาเซน(สมาธิแบบเซน)
โกอาน (ปริศนาธรรมแบบเซน) เป็นต้น

แต่มีเพียงหลักธรรมเพียงบางข้อที่หยิบยก
ไปจากพุทธศาสนามหายาน (แบบสุขาวดี)
ที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากกรณีที่บอกว่า 
นิพานคือดินแดนที่เป็นทิพย์ จะเข้าถึงเมื่อวายชนน์เท่านั้น

สังเกตุได้ว่าอนุตรธรรมอ้างถึงเชนในแง่การสืบสายมาจากสังฆปริณายกองค์สุดท้าย
แต่ทว่ากลับใช้หลักการของสุขาวดีเรื่อง พิพานคือแดนทิพย์
ซึ่งถ้าไปศึกษาดูจะเห็นว่าหลักการของเซนและสุขาวดี
ขัดแย่งกันอย่างสิ้นเชิง แต่กลับพบว่าแนวคิดทั้งสองนี้มีอยู่ในอนุตรธรรม


นอกจากนี้ยังมีการผสมกับหลักธรรมของเต๋า และของลัทธิขงจื้อ
เห็นได้จากการสอนหลัก คุณธรรม ๕ ประการ และคุณสัมพันธุ์ ๘ ประการ
ซึ่งเป็นหลักการของบรมครูขงจื้อ

และยังมีอ้างถึงศาสนาอื่นๆอีก 
เช่น คริสต์ และอิสลาม ว่าทุกศาสนาร่วมเป็นหนึ่งเดียว (พุทธ คริสต์ อิสลาม เต๋า ขงจื้อ)
แต่ไม่ค่อยเห็นว่าได้นำเอาหลักธรรมของคริสต์และอิสลาม
มากล่าวถึงเท่าใดนัก (แทบไม่มีเลย)
นอกจากจะยกเอามาเพียงแค่ชื่อเท่านั้น

ผมสังเกตุว่าคติของอนุตรธรรมที่ว่าทุกศาสนาร่วมเป็นหนึ่งเดียวนั้น
ดูเหมือนว่าจะลืมไปว่า โลกนี้ยังมีศาสนาอื่นอีก
เช่น ฮินดู ซิกข์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นศาสนาใหญ่ๆของโลกเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีศาสนาเล็กๆของโลกอีกมากมาย เช่น บาไฮ โซโลอัสเตอร์ ฯลฯ 
คล้ายกับว่าเป็นการหลงลืมศาสนาเหล่านี้ไป (หรืออาจจะไม่รู้จัก)


ถ้าลองศึกษากลุ่มแนวคิดคติที่จะร่วมศาสนาให้เป็นหนึ่งเดียว
ก็จะเห็นว่ามีคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก
ขอยกตัวอย่างให้เห็นพอสังเขป

กลุ่ม "ไต้ผิง" ในประเทศจีน ซึ่งมีศาสดาชื่อ ฮุง
อ้างตนว่าเป็นผู้นำทางศาสนาที่จะเป็นตัวแทนของศาสนา พุทธ คริสต์ เต๋า และขงจื้อ
โดยนาย ฮุง อ้างว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้ส่งมา และจะพาชาวจีนย้อนหลังไปสู่
ชีวิตสมัยพุทธกาลก่อนคริสตกาลอันมีสันติสุข

นาย ฮุย เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย เขาสัญญากับสาวกว่าเขาจะนำคนจีน
ต่อสู้ให้หลุดพ้นจากการปกครองของจักรพรรดิจากราชวงค์แมนจู
ซึ่งคำสัญญาข้อนี้ เกี่ยวพันกับเรื่องการเมืองโดยชัดเจน
(คล้างคลึงกับการกรณีกบฏ "ผู้มีบุญ" ในสมัยราชกาลที่ ๕ ของไทย)


นองจากนี้ยังมีในประเทศเวียดนาม
หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ได้เกิดลัทธิคาวได โดยผู้นำชื่อ โง เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยเช่นกัน
ในขณะนั้นได้อ้างว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชื่อ คาวได
ได้มาเข้าทรงว่า ขงจื้อ เต๋า พุทธ คริสต์ ที่ได้เกิดขึ้นในที่ต่างๆของโลกนั้น
ศาสนาคาวไดจะเป็นศาสนาที่รวมความเชื่อเหล่านี้ทั้งหมด

(ส่วนหนึ่งยังเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเป็นปฏิกริยา เพื่อร่วมพลังต่อต้านฝรั่งเศษ)

"การจะเป็นคนดี" คือจริยธรรมหลัก แต่ในขณะเดียวกัน
ก็รวมเอาความเชื่อท่องถิ่นคือการเชื่อผีและไสยศาสตร์เข้าไว้ด้วย

สัญญาลักษณ์ของคาวไดเป็นรูปดวงตาส่งประกาย มีศาสดา ๓ องค์
คือ เหลาจื้อ(เจ้าลัทธิเต๋า) ขงจื้อ และพระพุทธเจ้า
ต่ำลงมาคือพระเยซู นอกจากนี้ในกลุ่มศาสดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ยังมีเจ้าท้องถิ่นองค์อื่นๆ เช่นโมเสส โจนออฟอาร์ค ซุนยัดเซน 
และวิคเตอร์ฮิวโก

สำหรับตัวอย่างลัทธิที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเนื้อหาโดยสังเขปครับ
มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะ แต่จะกล่าวไว้เพียงเท่านี้


สรุปแล้วการเกิดแนวคติรวมศาสนาเป็นหนึ่งเดียวนี้
เกิดขึ้นมากมายแทบจะทุกมุมโลก
โดยทางวิชาการถือว่าเป็นกระบวนการบูรณาการศาสนาอย่างหนึ่ง 
ซึ่งเกิดจากการขับดันของสภาวการณ์นั้นๆ เช่นการเมือง และสังคม เป็นต้น

แม้ในประเทศไทยเอง ก็ยังเคยเกิดแนวคติที่จะรวมศาสนาเช่นกัน
ดูได้จาก กรณี สำนักปู่สวรรค์ เป็นต้น



นอกจากนี้แล้วยังมีลักษณะการสอนของอนุตรธรรม
ที่ขัดกับคติของพุทธศาสนาเถรวาทอย่างสิ้นเชิง 
เมื่อมีการกล่าวอ้างว่าพระพุทธเจ้าประทานโอวาทผ่านร่างทรง 
ซึ่งโดยปกติในการประชุมอบรมธรรมของอนุตรธรรม
จะมีเทพองค์อื่นๆประทับทรงเป็นส่วนใหญ่
แต่จะมีบ้างที่กล่าวอ้างถึงพระพุทธเจ้าในการประทับร่างทรง
เช่น ในการ ประชุมธรรมชั้นบุคลากรวิริยะ ณ พุทธสถานจิ้นซั่ง 
ในวันเสาร์ที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๔๙ 

โดยถ้าดูตามคติพุทธศาสนาแล้ว
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดับขันธ์ปรินิพานหมดสิ้นอาสวะกิเลิส 
ไร้ซึ่งเชื้อแห่งการเกิดแล้วอย่างสิ้นเชิง 
การที่กล่าวอ้างว่าพระพุทธเจ้ามาประทับทรงนั้น
จึงเป็นเรื่องที่นอกเหนือคำสอนในพุทธศาสนาอย่างชัดเจน
แม้จะกล่าวว่ามาประทับทรงเพื่อประทานโอวาทธรรมก็ตามที

---------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่อ่านแล้วขอให้ท่านโปรดใช้ สติ - ปัญญาไตร่ตรองดู
จากสิ่งทั้งหลายที่ได้กล่าวมาทั้งหมดทั้งมวล
ก็ต้องขอกราบประทานอภัยหากทำให้เกิดความขุ่นเคืองใจ
และผมเองไม่มีความประสงค์จะสบประมาท แนวคติความเชื่อใดๆทั้งสิ้น
แต่สิ่งที่นำเสนอไปนั้น ก็เพียงเพื่อให้เกิดความ
เข้าใจอย่างชัดเจน โดยยึดเอาหลักการของพุทธศาสนาที่มีอยู่




PS.  ทันโต เสฏโฐ มนุสเสสุ แปลว่า ในหมู่มนุษย์ผู้ที่ฝึกแล้วประเสริฐ
0
เก่ง 1 ม.ค. 55 เวลา 16:34 น. 15

ปีใหม่ละ ไปหาปลามาปล่อยกันบ้างนะครับ ได้ทำเพื่อชีวิตสัตว์บ้างนะครับ กินเขามาตั้ง1ปี เต็มๆละ ไปสร้างเมตตาให้ตัวเองบ้างนะครับ ได้มีแต่สิ่งดีๆตลอดปีนะครับ สาธุ รวยๆนะครับ

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ไปรับธรรมะกันนะครับ ไปรับธรรมะกันนะครับ ไปรับธรรมะกันนะครับ ธรรมะดี ธรรมะดี ธรรมะดี จะได้รู้ว่าเวลาเราตายวิญญาณจะออกทางไหน
&nbsp &nbsp  ไม่ใช่ตา
&nbsp &nbsp  ไม่ใช่จมูก
&nbsp &nbsp  ไม่ใชปาก
&nbsp &nbsp &nbsp ไม่ใช่หู
&nbsp &nbsp &nbsp ไม่ใช่สะดือ
&nbsp &nbsp &nbsp ไม่ใช่กลางกระหม่อม&nbsp &nbsp &nbsp  เอ๋???&nbsp &nbsp &nbsp 
&nbsp &nbsp &nbsp จะออกทางไหนดีน๊า?????????&nbsp &nbsp 
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp คุณละเวลาทิ้งกายนี้แล้ว คุณจะออกทางไหนหรอ???&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ตาหรอ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  จมูกหรอ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ปากหรอ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  หูหรอ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  สะดือหรอ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  กลางกระหม่อมหรอ

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ขอยินดีกับท่านที่ได้ไปรับธรรมะเปิดประตู ด้วยนะครับ

ได้รู้ทาง
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ออกสะที ว่างๆไปหาปลามาปล่อยกันบ้างนะครับ กราบไหว้พ่อ แม่ บ่อยๆนะครับ สาธุ

1
เชื่อในพระพุทธเจ้า 10 มี.ค. 61 เวลา 03:11 น. 15-1

หากสัตว์ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด

พระพุทธเจ้าก็ยังคงอุบัติเกิดขึ้นมาในโลก

การกำหนดจิตออกจากจุดญาณทวาร เป็น

การปรารถนาการเกิด เพื่อไปสู่นิพพานในแบบสถานธรรม

แต่การคุมจิตไม่ให้ไปเกิดคือนิพพานในแบบฉบับที่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ทรงสอน

เป็นการไม่ปรารถนาการเกิดคือนิพพานคือไม่เกิดและไม่มีการตายอีกต่อไป

กล่าวคือพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดแบบถาวร

แล้วคุณละจะเชื่อพระพุทธเจ้า

หรือว่าจะเชื่อใคร ที่เอาพระพุทธเจ้ามาเข้าร่างทรง

ในเมื่อพระพุทธเจ้าทรงนิพพานแล้ว จะมีขันธุ์ห้ามาเข้าร่างทรงได้อย่างไร น่าจะอ่านและศึกษาตำราให้ถูกเล่มนะครับ

#ในฐานะชาวพุธเหมือนกันแนะนำให้ศึกษา พุทธวจนะ ของวัดนาป่าพง ซึงเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าล้วนๆไม่มีคำแต่งใหม่

น่าจะศึกษาดูนะครับไม่งั้นไม่มีทางพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดหรอกครับ

ต่อให้ถือศีล หรือ.กินเจตลอดชีวิตก็ตาม

การบิดเบือนพระธรรมถือเป็นบาปปิดทางนิพพาน

0
แป้งมัน 9 ก.พ. 55 เวลา 22:26 น. 16

ศิษย์พระพุทธเจ้า ขอตอบว่า สถานธรรมที่มีอยู่ทั่วไปนั้นไม่ว่าจะอ้างว่าสายธรรมใดก็แล้วแต่อยากจะบอกว่าสอนกันผิดอย่างร้ายแรง นี่ กรุณาฟังดูให้ดีๆด้วยใจที่เป็นกลางฟังด้วยเหตุผลนะครับ การปฏิบัติธรรมที่แท้จริงนั้นก็คือ การปฏิบัติจิตของตัวเองนั่นละครับไม่ต้องไปอ้างยุคเขียวยุคแดงอะไรหรอกไม่ว่าจะยุคใดสมัยใด ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครไปลบล้างได้ ธรรมไม่ใช่สิ่งที่ปกปิดดดยที่ถามอะไรก็ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเจิมหน้าผากแล้วเผากระดาษจะลบชื่อออกจากนรก ผมถามหน่อยเถอะครับ นรกอยู่ไหน&nbsp สวรรค์อยู่ไหน หากใครเอาสิ่งที่มองไม่เห็นมาบอกกล่าวเช่น อ้างว่า ฟ้าจะลงโทษ ฟ้าจะประทาน เบื้องบนเห็นใจอภัยให้แบบนี้ หลักเหตุผลในการรองรับนั้นไม่มี เป็นการเชื่อแบบงมงายที่สุดผมจะบอกอะไรให้เอาบุญนะครับ การจะไปนิพพานได้นั้น คุณต้องเข้าใจการทำงานของจิตก่อน ว่าจิตทำงานอย่างไร กายทำงานอย่างไร ทีนี้เราจะทำอ่ยางไรละ ก็ต้อง มาดูจิด ดูกาย พิจารณากายสังขารว่าเป็นของไม่เที่ยง เจริญ สมาธิก่อน โดย เอาศีลมาเป็นเครื่องมือให้จิตอยู่ในกรอบดีงาม ไม่ขุ่นมัว เกิดปิติ ปัญญาก็เกิดขึ้นมาเองเป็นลำดับแล้วจึงใช้ปัญญาของตัวเองเป็นเครืองดับทุกข์ พูดแล้วต้องเทศนาให้คนที่ยังงมงายอยู่ เห็นผิดเป็นชอบอยู่ฟังอีกยาว ต่อไป ต้องรู้จักขันธ์ 5 ว่า กระบวนการของขันธ์ 5 นี้ทำงานอย่างไร สอดคล้องกับจิตอย่างไร เช่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิณญาณ&nbsp รวม 5อย่างนี้เรียกว่าขันธ์ 5 หากไม่รู้ขันธ์ 5 แล้ว เลิกคุยเรื่องนิพพานได้เลยตายไปเกิดอีกหมื่นชาติก็ไม่มีโอกาสเข้าใกล้นิพพาน&nbsp การถึงซึ่งนิพพานนั้นจะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่ายนิดเดียว อยู่ที่การฝึกฝนจิตให้เจริญ ว่าการทำงานของขันธ์ ต่อ รูป(กาย)เป็นเพียงเครื่องมืออย่างนึงเช่น ดวงตานี้ก็เป็นรูป ใช้ในการมองเห็นไปตกกระทบวัตถุสิ่งหนึ่งเข้า ส่งกลับคืนมาที่สมอง ทำให้เกิด ความจำ สัญญาขึ้น แล้วเกิดความรู้สึก รัก เกลียด ชอบ ชัง (เวทนา)ขึ้น ส่งต่อไปยัง (วิณญาณ)คือ ความคิดนึก ส่งต่อไปยัง (สังขาร) การปรุงแต่ง โดยอาศัย อายตนะ 6 รับรู้ ทาง ตาหู จมูก ลิ้น กาย ใจ เกิดได้กลิ่นหอม&nbsp เห็นสวยงาม สัมผัสออ่นนุ่ม ใจหลง ทั้งหมดนี้เกิดจากการปรุงแต่งของจิตเราเองแบบรวดเร็วมากจนแทบแยกไม่ออกเป็นขั้นตอนปรุงแต่งตลอดเวลาตั้งแต่เช้าจนเข้านอน จะรู้ได้จนใช้ปัญญาแยก สมาธิพิจารณา นี่พระพุทธเจ้าท่านแยกให้ดูก่อนแล้ว เราปรุงแต่งกายเป็น ผัสสะ คือความอยากได้ อยาก มีอยากเป็น ตลอดเวลา หากเรารู้เท่าทันจิต เราจึงต้องตัดกระบวนการซะอย่าให้หลงปรุงแต่งไปตามอารมณ์ โดยเอาศีลมาล้อมไว้ เช่นเราจะฆ่าเสือ เราเพียงล้อมเสือไว้ในกรงเฉยๆไม่ให้อาหารมันก็ตาย เราฆ่ากิเลสก็เอาศีลล้อมไว้เท่านั้น โอยอีกยาวครับ สาธุชนทั้งหลายผู้หลงผิดอย่าไปนึกว่าจะไปเผากระดาษเพื่อล้างลบบัญชีออกจากนรกได้หรอกครับ หรือจะไปฉุดช่วยผู้อื่นให้พ้นนรกเลยครับเพราะหากสอนกันผิดๆไปแล้วนั้นหาไม่นั่นแหละจะเป็นการสร้างบาปทุกวันไม่หยุดหย่อน วันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนนะครับ สาธุ สาธุ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย

0
จากใจ 21 พ.ค. 55 เวลา 23:05 น. 17

อย่า อคติเลย จากการที่ผู้น้อยได้อ่านกระทู้ ทั้งหลายมาแล้วนั้น ก็มีหลายคนที่ไม่เชื่อ ผู้น้อยก็ไม่ว่าหรอกแต่อย่ามาทำลายกันแบบนี้ พวกคุณลองไปศึกษาโดยมีใจที่เหมือนแก้วที่นำ้ยังไม่เต็มดูคุณจะรูว่าอนุตรรธรรมนั้นสูงส่งมากแค่ไหน ถ้ามัวแต่อคติแบบนี้ไม่ดี นะคะ สมมุติว่ามีคนเอาหินมาให้เราแล้วบอกว่าเป็นทอง คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ถ้าหินนั้นเป็นทองจริงๆ แล้วเราไม่เอามันก็น่าเสียดาย

ถึงคนที่เอาสิ่งที่ตัวเองรับมา 3 อย่างนั้นมาบอกกับผู้อื่นผ่านทางอินเทอร์เน็ต คุณรู้ไหมว่ามีคนหลายคนที่เค้าใช้อินเทอร์เน็ท ถ้าเค้ามาเห็นพวกคุณเขียนอะไรแบบนี้ทั้งด่า และโจมตีคนอื่นแบบนี้เค้าก็พลอยเค้าใจผิดไปด้วย คิดไหมว่าบาปมาก ลองเอาใจเค้ามาใส่ใจเราบ้างสิ&nbsp อีกอย่างคุณไม่เชื่อแต่เค้าก็บอกไว้แล้วว่าเป็นความรับสวรรค์ห้ามเปิดเผย คนที่เปิดเผย กรรมหนัก ไม่ใช่โดนเฉพาะเราเมื่อสิ้นอายุขัย แต่บรรพบุรุษก็ยังจะได้รับกรรมด้วย เหตุเพราะ เทวดา ผี ต่างๆเค้าก็อยากได้รับการฉุดช่วยถ้าเค้ามาได้ฟังเราพูด หรือ จดเขียน เค้าก็จะรีบขึ้นไปที่ด่านตรีเทพ แล้วบอกนายหน้าด่านว่าเค้ารู้ 3 สิ่ง แต่ถ้านายหน้าด่านตรวจดูรายชื่อแล้วพบว่าผีตนนี้ยังไม่ได้รับการถอนชื่ออย่างแท้จริง นายหน้าด่านก็จะถามว่าใครเป็นคนบอก จากนั้น เค้าผู้นั้นก็ต้องได้รับกรรมอย่างหนักเพราะก่อนที่คุณจะรับธรรมมะ จำได้หรือไม่ว่าคุณได้พูดตามพิธีกร เอก โท แล้วว่า จะไม่เเพร่งพรายความลับสวรรค์ คุณจะโดนหนัง ดังนั้นขอเตือนถ้าเรายังไม่กระจ่างก็อย่าทำแบบนี้มันส่งผลเสียต่อคุณเอง จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ปัญญาที่จะพิจารณา
คนเราอ่ะจะรู้ว่าเป็นจริงก็ต่อเมื่อสาย(ตาย)ถึงจะรู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่การรับธรรมะก็มีประจักษ์หลัดฐานหลายอย่าง ที่บ่งบอกถึงความสูงส่ง
ลองศึกษาแล้วจะรู้ว่าที่คุณตั้งกระทู้กันในแง่ลบอ่ะมัน โครต มั่ว

1
เชื่อพระพุทธเจ้าเถอะ 10 มี.ค. 61 เวลา 10:01 น. 17-1

หากสัตว์ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด

พระพุทธเจ้าก็ยังคงอุบัติเกิดขึ้นมาในโลก

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้และสอนธรรมะแบบเดียวกัน คือให้พ้นจากความเวียนเกิดเวียนตาย

คำสอนที่อ้างเอาคำสอนพระพุทธเจ้าไปใช้

แล้วยังมาลบหลู่ธรรมว่า เก่าล้าสมัยไม่ใช่ทางตรง ทั้งๆที่เอาธรรมะท่านมาประยุกต์ แอบอ้าง เสริมแต่ง ชักชวนคนให้หลงผิด หรือสอนธรรมะ

มาพาดพิงศาสนาอื่นให้เสียหาย นี่หรือคือการปฎิบัติธรรม?

การกำหนดจิตออกจากจุดญาณทวาร

(ในความเชื่อของศาสนาอนุตรธรรม) เป็น

การปรารถนาการเกิด เพื่อไปสู่นิพพานในแบบของสถานธรรม

แต่การคุมจิตไม่ให้ไปเกิดคือนิพพาน

ในแบบฉบับที่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ทรงสอน

เป็นการไม่ปรารถนาการเกิดคือนิพพานคือไม่เกิดและไม่มีการตายอีกต่อไป

กล่าวคือพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดแบบถาวร

#แล้วคุณละจะเชื่อพระพุทธเจ้า

หรือว่าจะเชื่อใครก็ไม่รู้ ที่เอาพระพุทธเจ้ามาเข้าร่างทรงแล้วมาบอกต่อ ว่าพระพุทธเจ้าพูดแบบนั้นพูดแบบนี้

ในเมื่อพระพุทธเจ้าทรงนิพพานแล้ว จะมีขันธุ์ห้ามาเข้าร่างเข้าทรงได้อย่างไร(พระพุทธเจ้าไม่ใช่ผีนะ)

น่าจะอ่านและศึกษาตำราให้ถูกเล่มนะครับ

#ในฐานะชาวพุธเหมือนกันแนะนำให้ศึกษา พุทธวจนะ ของวัดนาป่าพง ซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าล้วนๆไม่มีคำแต่งใหม่

น่าจะศึกษาดูนะครับไม่งั้นไม่มีทางพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้หรอกครับ

ต่อให้ถือศีล หรือ.กินเจจนตลอดชีวิตก็ตาม

การบิดเบือนพระธรรมคำสอนถือเป็นบาป

ปิดทางนิพพาน..

0
ปราบ 16 พ.ค. 56 เวลา 18:37 น. 19

อู๋ ไท่ ฝอ หมี่เลอ ที่คนไต้หวันบอกห้ามพูด โง่อะ ไปเชื่อมันเข้าไปได้
ทำไมต้องไปสถานธรรม หรือห้องพระล่ะ ทำที่บ้านไม่ได้หรอ
ทำไมต้องโอนเงินทำบุญไปไต่หวันอะเพื่อนที่แบงค์บอกมา
ทำไมต้องหาคนไปแยะๆล่ะครับ ผมช่วยงานพ่อไปไม่ได้ว่าท่านเป็นมารไม่ดีเลยครับ
ทำไมต้องมีคนทรงมาเข้าทรงละเขากับคนไต้หวันคงคิดว่าคนไทยโง่มากหรอครับ
ที่สถานธรรมผมเห็นครอบครัวแตกแยกมามากแล้วอย่าไปหลงเชื่อนะครับผมเกือบไป
ทำไมถามอะไรไม่คอยตอบแต่บอกว่าต้องทำ งงเลยเรา
อู๋ไท่ ฝอ หมี่เล่อ นี่มันวิเศษมากเลยหรอครับงันผมบอกแยอะก็ได้บุญแยอะใช่ไหมครับดีใจครับจะได้บุญใหญ่แพื่อจะทำให้คนตาสว่างครับไม่เอาเงินไปให้ต่างชาติ แล้วตัวเจ้าของลัทธิ. คุณรู้หรือเป่ลาว่าเขาไม่ได้กินเจ. เป็นอุบายทางจิตวิทยานะครับ
โง่มากถามมาก ตอบหน่อยนะครับ อย่าด่าผมเลยถ้ามีเหตุผลตอบได้หมดละครับ ขอบคุณครับ

1
บาส 8 ก.ย. 66 เวลา 21:53 น. 19-1

ระวังบาปน่ะครับไม่เชื่อไรอย่าลบลู่เถอะครับ

0
ปราบ 20 พ.ค. 56 เวลา 12:50 น. 20

ไม่ใช่ หู ตา จมูกปาก สะดือ ออกทางไหนถามได้
ออกทางปากคอกไงครับ มีหญ้าให้กินด้วย ไม่ต้องขอบคุณครับอยากให้หายหิว เห็นหิวอยากได้จังคนไปรับธรรมมะ ไปไต้หวันนะครับแล้วจะได้รู้ เมืองจีนห้ามครับพวกลัทธิอุบาศต่างๆ

0