สายศิลป์-ภาษา กับ สายวิทย์-คณิต ... ?
ตั้งกระทู้ใหม่
สายไหนดีกว่ากันหรอค่ะ ?
แล้วเวลาเอนทรานซ์ สายไหน เอ็นติดได้มากกว่า
ขอบคุณค่ะ
baby
1 ส.ค. 54 เวลา 23:19 น.
3,291
views
39 ความคิดเห็น
ถ้าเธออยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยคณะที่เป็นสายวิทย์ฯ สายวิทย์ก็ดีกว่า
ถ้าอยากเข้าคณะสายศิลป์ สายวิทย์หรือสายศิลป์ก็สอบได้ ถ้าเรียนวิทย์มาแต่เก่งอิ๊งค์ ก็ดีกว่าสายศิลป์ แต่ถ้าอิ๊งค์สู้เขาไม่ได้ ก็เรียนศิลป์มาเถอะ !
มันจะไปนับยังไงว่าสายไหน เอนฯติดมากกว่า มันเอามาเทียบกันไม่ได้! เพราะต่างคนก็ต่างความชอบ ไม่ได้แปลว่าสายไหนติดเยอะว่าแล้วดีกว่า
แค่สายวิทย์เรียนไปแล้วมันสามารถเอาไปสอบได้ทุกคณะ จะเลื่อนลงไปสอบศิลป์ก็ได้ แต่ส่วนมากพวกที่เรียนวิทย์เขาก็มุ่งจะไปทางคณะของสายวิทย์กันอยู่แล้วล่ะ
ตอนนี้แค่คิดให้ได้ว่าอยากเรียนอะไรต่อไป แค่นั้น แล้วก็เลือกสาย
เรื่องเอนทรานซ์ก็ต้องบอกว่าสายวิทย์-คณิตมีตัวเลือกมากกว่าอยู่แล้วค่ะ
เพราะว่าจะสามารถมีความรู้เอ็นเข้าได้ทุกคณะ
แต่ถ้าจะไปเข้าคณะสำหรับคนที่เรียนสายศิลป์มาละก็อาจจะเสียเปรียบตรงเรื่องภาษาและภาษาที่3ค่ะ
บางคณะไม่ใช่เกรดวิทย์ด้วย ก็เลยอาจจะเสียผลประโยชน์ไปตอนนี้ค่ะ
แต่ก็อยากจะบอกว่าไม่มีอะไรที่เพอร์เฟกต์ไปสักทุกอย่างหรอกนะคะ
แนะนำว่าถ้าตอนนี้ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากเป็นอะไรในอนาคต
ก็แนะนำให้เรียนเรียนวิทย์-คณิตค่ะ ถ้าเรียนได้แล้วไม่มีปัญหาว่าชอบหรือไม่ชอบ:)
เราต้องลองเปรียบเทียบกับตัวเองนะคะ ว่าถนัดภาษาแล้วชอบเรียนด้วยหรือไม่
แต่ถ้าเรียนได้ ก็โอเคเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ ^^
ชอบสายไหนก็เรียนสายนั้น
มัวคิดมากทำไม เวลาจะเอ็นก็ตั้งใจสิ
มันไม่เกี่ยวหรอกว่าสายไหนติดมากกว่าน่ะ
PS. ใครว่า...ความเย็นชาต้องไร้หัวใจ ถึงจะเย็นชากับใครเพียงไร แต่ก็ยังมีหัวใจ ไว้มอบให้เธอเพียงผู้เดียว
แน่นอน สายวิทย์ คณิต แน่ๆ เพราะมันได้ใช้เยอะเวลาสอบ
แต่มันอยู่ที่ตัวเราด้วย ถ้าคิดว่าไหวก้อเอาเลยครับ ชอบแบบไหนเอาแบบนั้น
อย่าถามแบบนี้เลยค่ะ ต้องถามตัวเองว่าชอบอะไร
ถ้าชอบการทดลอง ชอบคิดคำนวณ แนะนำสายวิทย์คณิตค่ะ
แต่ถ้าชอบภาษา ชอบการท่องจำ ชอบการสื่อสาร
แนะนำไปทางสายภาษาต่างๆค่ะ ไรเตอร์เรียนภาษาจีนอยู่
ยากมากเหมือนกัน ซึ่งถามว่าสายวิทย์ยากไหม พอๆกันเลยค่ะ
ถ้าเราเข้ามาในสายนั้นเพราะคิดว่า อืม... มันน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในอนาคต
ห้ามเลือกเด็ดขาด เอาที่เราชอบ เท่านั้น นะคะ ไม่งั้นเราจะเสียใจตลอดชีวิตค่ะ
PS. หน้าปกงานเขียนรอกันหน่อยนะคะ สำนักพิมพ์มีงานเร่งกันเยอะมาก อย่าลืมอุดหนุนให้กำลังใจกันน้า
ถามตัวเอง ว่าชอบอะไรดีกว่า
แต่ละสายก็มี ดี ในแบบของมันนั่นแหละ
เบื่อจริง ไอพวกพี่ ๆ ที่บอกให้น้องเรียนวิทย์เนี่ย
พอมันไม่ได้เอา มาใช้เรียนต่อ แล้วจะรู้สึกว่า มันไม่จำเป็นหรอก ต้องเรียนวิทย์ ถึงจะเอนท์ติด ได้ใช้สอบเยอะ ==[
ต้องคิดก่อนว่าอนาคต..อยากเป็นอะไร ถ้าตั้งอาชีพตัวเองได้ ก็เรียนสายนั้นไปเลย...
กระทู้นี้เสี่ยงดราม่า
จขกท.ลองถ้าตัวเองดูนะคะ ว่าชอบแบบไหน ชอบภาษาหรือว่าคำนวณมากกว่ากัน
ถ้าชอบภาษาลงศิลป์เลยค่ะ แต่ถ้าชอบคำนวณก็ลงวิทย์ไป
ก่อนที่จะเลือกอะไรคิดให้ดีก่อนนะคะ ไม่ตามเพื่อน ตามใจพ่อแม่ก็พอค่ะ
เพราะถ้าคุณเลือกตามเพื่อน ตามใจพ่อแม่ สุดท้ายคนที่เสียใจที่สุดคือคุณค่ะ
สู้ๆค่ะ จขกท.
PS. rise your mind up, and restart your life.
แล้วถ้าชอบ คำนวณด้วย ภาษาด้วย จะเลือกสายไหนดีหรอคะ ?
พี่สาวเราคนนึงละ ที่เลือกสายผิด
ชอบด้านภาษา แต่เพิ่งมารู้ตอนเข้า ศิลป์-คำนวน ไปแล้ว
พี่บอกว่าเลยเสียเปรียบเรื่องภาษา เพราะเพื่อนๆคนอื่นเค้าไม่ต้องมานั่งท่องคำ
มานั่งเรียนใหม่เหมือนคนอื่นที่เรียนพื้นฐานมาแล้ว
คิดก่อนว่าชอบอะไร ศึกษาอาชีพนั้นๆ
ดูว่าคณะนั้นๆเน้นวิชาอะไร ถ้าหมอก็ต้องตายตัว วิทย์ คณิต
ถ้าอยากเรียนเป็นแอร์ ก็เรียนศิลป์ภาษา (เป็นแอร์ใช้ภาษาด้วยใช่ป้ะค่ะ)
และอื่นๆ ดูคห.ต่อไปก็ได้ค่ะ อาจมีคำแนะนำที่ดีกว่านี้
ปล1.ไม่เคยเจอกับตัวเองหรอก ฟังจากพี่ทั้งนั้น
ปล2.คำแนะนำจากเด็กม.1
ปล3.คำไว้แล้วว่าอยากเรียนวิทยาศาสตร์สุขภาพ แต่ยังไม่รู้ว่าอชีพอะไร รู้แค่ว่าต้องเรียนวิทย์คณิต ฮ่าๆๆๆๆ
PS. เซ็งจริงๆนะ อยากเลิกแต่เลิกไม่ได้ กลัวเค้าเสียใจอ๊าส์
ชอบวิทย์+ชอบคำนวณ/เกลียดภาษา = สายวิทย์
ชอบวิทย์+เกลียดคำนวณ = สายวิทย์
ชอบวิทย์+ชอบภาษา = สายวิทย์ (ส่วนตัวคิดว่าสายวิทย์ที่เก่งภาษานี่ดีมาก)
ชอบคำนวณ+ชอบภาษา = สายศิลป์-คำนวณ
ชอบคำนวณ+เกลียดภาษา = สายศิลป์-คำนวณ(ถ้าเฉยๆกับวิทย์ก็เข้าสายวิทย์)
ชอบคำนวณ+เกลียดวิทย์ = ศิลป์-คำนวณ
ชอบภาษา+เกลียดคำนวณ = ศิลป์ภาษา
* เลือกวิชาที่ชอบไว้เป็นเสาหลักในการตัดสินใจ อย่าเลือกที่ไม่ชอบเป็นเสาหลัก
** สายศิลป์คำนวณเน้นเลขเยอะ ไม่ได้ภาษาเยอะอะไรเลย
*** อย่าคิดว่าเรียนภาษาแล้วจะสอบเข้ามหาลัยไม่ได้
ทั้งหมดเป็น 'คหสต.' จ้า
พี่ชอบภาษา เกลียดคำนวน แต่พี่จบศิลป์คำนวนมานะ
ตอนนี้พี่เรียนนิติศาสตร์จ๊ะ มันอยู่ที่ว่าน้องเรียนสายไหนที่ทำให้เกรดน้องสูง
หรือพูดง่ายๆก็คือ สายที่น้องถนัดและชอบนั่นเอง
ส่วนตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็ต้องดูอีกทีว่าน้องอยากเรียนอะไร
บางคณะเขาจะเลือกวัดสายวิทย์เป็นอันดับแรก
แต่บางคณะเขาก็เลือกสายศิลป์เป็นอันดับแรก
ส่วนตัวพี่ พี่มีดีอย่างเดียว ก็ภาษากับสังคม นอกนั้นเน่าหมด ๕๕๕
แต่ตอนนี้พี่อยู่มหาลัยไม่เจอคณิตสักตัว
แล้วการเลือกสาย มันอยู่ที่ว่าเรียนไปแล้วได้ใช้อ่ะเปล่า
แต่ส่วนมากเรียนไปแล้วไม่ได้ใช้หรอก มีแต่ประดับสมอง ยิ่งเป็นวิชาคำนวนแล้วด้วย
สุดท้ายนี้... พี่ขอให้น้องโชคดีนะค่ะ
PS.
กระทู้ชวนดราม่านะคะ ^^
PS. NoRitz is Real !!
ถ้าเราชอบวิทย์คณิต เรียนห้องวิทย์ ยังไงก็เทพค่ะ
แต่ถ้าตัวเองชอบภาษา ไม่ชอบวิทย์ แล้วไปอยู่ห้องวิทย์(เพราะเห็นว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้มากกว่า) เรียนจนอ้วกเป็นเลือดแ่น่ๆค่ะ...ขอรับรอง
(นอกจากว่าจะเทพแบบเทวดาลงมาเกิดดดดดดดด เก่งหมดทุกอย่าง)
PS. "Don't be embarrassed, I think... it's only fair that you have your fun, too..."
ตัวอย่างผมได้เลยครับ ผมอยู่ต่างจังหวัด(นครสวรรค์อ่ะครับ)ผมอยู่ร.ร. ประจำอำเภออ่ะครับ ภาษาก็ไม่เด่นเท่าไหร่ ส่วนใหญ่รุ่นพี่ที่จบๆไปก็เป็นหมอกันหลายคน ว่าง่ายๆคือ สายวิทย์โรงเรียนเราเจ๋งว่างั้น เพราะฉะนั้นตอนเข้า ม.4 อ่ะครับเค้ามีให้เลือก ศิลป์-ภาษา ศิลป์-คำนวณ วิทย์-คณิต แต่มาตรฐานของ ร.ร.ต่างจังหวัดอ่ะครับ สายวิทย์จะดูเทพ เมพ เท่ห์ เก่ง ทำอะไรดีไปหมด ส่วนสายศิลป์อ่ะหรอ โง่ ไม่เก่ง นิสัยไม่ดี โดดเรียน จะประมาณนี้อ่ะครับ ผมไม่ทราบว่า โรงเรียนต่างจังหวัดอื่นๆจะเป็นแบบร.ร.ผมหรือปล่าว ผมจึงตัดสินใจเข้า สาย วิทย์-คณิต เพราะ 1. เพื่อนครับ ตอนม.ต้น ค่อนข้างจะเรียนเก่งว่าง่ายๆคืออยู่ห้อง ควีน มี 12 ห้อง อยุ่ห้อง 11 (ห้อง12 เก่งสุดและเรียงลงไปเรื่อยๆ) เพื่อนๆจึงแห่เข้าสายวิทย์กันทั้งหมดครับ ตอน ม.4 ก็รู้สึกครับว่ามันยากมาก แต่ก็ทนเรียนไป แต่ ม.5 สิครับ(ปัจจุบัน) ผมคิดว่าผมไม่เหมาะกับวิทย์(ถึงแม้ว่าผมจะได้เกรดเฉลี่ย 3.88)ในสายวิทย์ได้เท่านี้ถือว่าเยอะมากๆในโรงเรียนอ่าครับ ผมคิดว่า ผมอ่ะ ชอบ ภาษามากกว่าและถนัดทางด้านคำนวณด้วยครับ ผมเลยรู้สึกคิดไปตอน ม.3(ใกล้ม.4 ตอนเลือกสาย) ว่าเอ๊ะทำไมเราก็รู้ว่า ศิลป์-คำนวน โรงเรียนเราอ่อน เราทำไมไม่ย้ายไปที่อื่น เช่นขออนุญาติพูดชื่อโรงเรียนนะครับ โรงเรียน สตรีนครสววรค์อ่ะครับถึงจะไม่ใช่โรงเรียนประจำจังหวัด แต่มีโครงการ EP ด้วย ตอนนี้ก็แอบมีน้อยใจชีวิต แต่ผมคิดว่าผมก็ยังรู้ตัวทันตอนยังไม่เอนท์ครับ บางคน รู้ตัวว่าชอบอะไรก็เข้ามหาลัยไปแล้ว
หาตัวตนเราให้พบครับว่าเราอยากเรียนอะไร แล้วเราจะมีความสุขกับมันครับ
สายวิทย์ คณิตค่ะ เพราะมันจะมีตัวเลือกมากกว่า
ส่วนใหญ่ตอนม.ต้นเราจะฝันว่าอยากเปนนู่น อยากเป็นนี่
แต่กลัวเรียนวิทย์ ไม่ไหว กลัวเลขคณิต
แต่พอเรียนไปเราจะรู้ว่าเราชอบ ไม่ชอบ เองค่ะ
ถ้าน้องเรียนไปแร้วเกิด เรียนไหว ชอบ ความฝันเปลี่ยนจากอยากเรียนรัฐศาสตร์ แต่พอป.ปลายปุ๊บ อยากเป็นพยาบาล สาสุข ก้อเปลี่ยนได้
แต่ถ้าน้องน้องอยู่ม.ปลายสายศิลป์ แร้วถ้าน้องเกิดอยากเป็นพยาบาล หมอ น้องก้อหมดสิทธิ์ค่ะ
เพราะ เอนทรานต์ถ้าจะเลือกเรียนมหาลัยสายวิทย์ เค้าก้อจะให้ยื่น pat2
แต่ถ้าน้องเรียนสายศิลป์น้องจะไม่ได้สอบpat2 แร้วน้องก้อจะพลาดโอกาสได้
อย่างเด็กสายวิทย์ เค้าก้อจะเอาไว้เปนทางเลือก ถ้าเค้าได้pat2เยอะหน่อยเค้าก้อมีสิทธิ์ลุ้น คณะวิทย์ในฝัน
แต่น้องสายศิลป์ต้องขยันทำgat ให้ได้เยอะกว่าสายวิทย์ เพราะถ้าหากว่าสายวิทย์ ได้ gat เยอะ เค้าก้อจะเลือกเรียนมหาลัยสายศิล ได้
ถ้าน้องสายศิลป์ทำgatได้เยอะ ก้อไม่ต้องกลัวค่ะ
แต่อย่าลืมว่า gat คะแนนมาตรฐาน เดี๋ยวนี้เดกส่วนใหญ่ทำได้
ตอนปีพี่นี่ คะแนน gat จะใกล้กันมาก จะมาลุ้นpat2 กันเท่านั้น
ไม่ต้องกลัวว่าเรียนวิทย์-คณิตแล้วมันจะไม่ได้ใช้
คิดซะว่า เป็นพื้นฐานชีวิตที่ควรพึงมี
เรียนสายไหนเอนติดเท่ากันหมด แล้วแต่ความพยายาม
มันเเล้วเเต่ความชอบส่วนบุคคล
อย่าใช้ค่านิยมเป็นตัวตัดสิน
PS. ทุกๆวันมีไว้ให้ท้าทายมิใช่ไว้ท้าทาย
สอบติดมันก็ติดทุกคนแหละค่ะ ไม่ว่าจะสายไหน ขยัน.
แต่ก็อย่าเอาแต่ใจมากนะ ปรึกษาพ่อแม่ดู
ไม่ไหวจริงๆค่อยเปลี่ยน ;)
ไม่บอกไม่ได้ว่าสายวิทย์ หรือ ศิลป์จะติดมากกว่ากันน่ะ แต่มันอยู่ที่ตัวเราเองจ่ะ สู้สู้เป็นกำลังใจให้ค่ะ:)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?