Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สิ่งแปลกๆที่กำลังปรากฎในโลกเรา

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตื่นพบ"ปลาจระเข้"-จับได้ในแม่น้ำโขง

ชี้คนเลี้ยง ปล่อยทิ้ง





ปลาจระเข้- ปลาจระเข้ จับได้จากแม่น้ำโขง ยาวเกือบ 1 เมตร ฟันแหลมคม เป็นชนิด Alligator Gar ได้รับความนิยมในหมู่คนเลี้ยงปลาตู้ ไม่เกี่ยวข้องกับปลาช่อนยักษ์ อราไพม่า และคนละตระกูลกับปิรันย่า


ตื่นพบปลาจระเข้ในแม่น้ำโขง ลูกจ้างร้านอาหารที่หนองคายไปวางเบ็ดในแม่น้ำรุ่งเช้ าไปดูพบปลาขนาดใหญ่ ยาวเกือบ 1 เมตรมาติดเบ็ด เอามาให้เจ้าของร้านอาหาร ลักษณะปากแหลมเหมือนจระเข้ มีฟันเต็มปากและเขี้ยวแหลมคม ประมงจังหวัดชี้เป็นปลาจระเข้ แต่ไม่เคยพบในแม่น้ำโขง สง สัยมีคนเอามาเลี้ยงแล้วเลี้ยงไม่ไหวเลยเอามาปล่อย ระบุเป็นสัตว์อันตรายต่อสัตว์น้ำเพราะกินสัตว์น้ำเป็ นเหยื่อและกัดไม่เลือก อาจทำลายระบบนิเวศในแม่น้ำโขงได้

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านอาหารครัวตาแขก บ้านท่าดอกคำ ต.เมืองหมี อ.เมือง จ.หนองคาย หลังจากทราบว่าทางร้านดังกล่าวพบปลาจระเข้ ขนาดใหญ่ โดยจับได้จากแม่น้ำโขง เมื่อไปถึงพบนางชฎาพร โปตาเวชย์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน กำลังโชว์ปลาจระเข้ให้ชาวบ้านดู ปลาตัวดังกล่าวมีขนาดยาว 90 ซ.ม. หนัก 5 ก.ก. ปากแหลมลักษณะคล้ายจระเข้ มีฟันหลายซี่และเขี้ยวแหลมคม เกล็ดแข็งสีเทาเป็นมันวาว ครีบหางเป็นลายจุดสีดำ

นางชฎาพร กล่าวว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา นายเพชร อายุ 21 ปี ลูกจ้างประจำร้านอาหารของตน ได้นำเบ็ดตกปลาไปวางดักปลาในแม่น้ำโขงตลอดคืนโดยใช้ป ลาหมึกเป็นเหยื่อล่อ จนถึงเช้าวันที่ 1 มิ.ย. นายเพชรได้ไปดูเบ็ด ก็พบปลาตัวนี้มากินเบ็ด จึงนำมาให้ ตอนแรกตนนึกว่าเป็นปลาสะทงยักษ์ ซึ่งชาวหนองคายตกได้บ่อยในแม่น้ำโขง และมีลักษณะคล้ายกัน แต่สังเกตแน่ชัดแล้วพบว่าไม่ใช่ปลาสะทง เมื่อผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านได้ฟังต่างพากันมาดู ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยเห็นปลาชนิดนี้ในแม่ น้ำโขง เพิ่งจะเห็นเป็นครั้งแรก สำหรับปลาตัวนี้จะไม่นำมาทำอาหาร แต่จะนำไปสตัฟฟ์ไว้เพื่อให้ชาวหนองคาย และลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้านดู

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มคนเลี้ยงปลาตู้รู้จักปลาชนิดนี้ดี เรียกว่า ปลาจระเข้ Alligator gar ชื่อวิทยาศาสตร์:Lepisosteus spatula เป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มปลาการ์ มีปากคล้ายกับจระเข้รูปร่างกลมยาว ตากลมสีดำ บริเวณลำตัวจรดหางคล้ายปลา มีครีบเล็กใต้ท้อง 2 ครีบคู่ ใต้ท้องสีขาว บริเวณปลายหาง ใกล้หางมีครีบใหญ่อีก 2 ครีบ เป็นปลาพื้นเมืองของสหรัฐอเมริกา แถบฟลอริดา

แพร่- รอยพญานาคโผล่บ้านพักอดีตผู้ว่าฯ ตาก

12/9/2552
รอยพญานาคโผล่ที่บ้านพักของอดีตผู้ว่าฯ จ.ตาก ขณะแม่บ้านทำความสะอาดลานหน้าบ้านและลานในบ้าน สร้างความตะลึงให้กับผู้พบเห็น มีขนาดใหญ่และคดเคี้ยวไปมา ที่ล้อรถยนต์ไม่สามารถทำได้ พระครูบาสมจิตร เจ้าอาวาสวัดสะแล่ง ได้ตรวจสอบพบว่า เป็นเรื่องแปลก ที่ไม่เคยพบเห็นรอยที่คดเคี้ยวและมีเกล็ดคล้ายพญานาค มากที่สุด ยากที่จะพิสูจน์ว่าเป้นรอยของสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่ น ๆ



จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 19.30 น ของวันที่ 11 กันยายน 2552 ที่บ้านพัก นายสมบูรณ์ พรมเมศน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ซื้อบ้านไว้ที่ บ้านเลขที่ 144 หมู่บ้านภิรมย์วิลล่า ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่
โดยมีแม่บ้านเฝ้าดูแลบ้านพักไว้ มั่นใจดูแลทำความสะอาดพื้นซีเมนต์หน้าบ้านและในบ้านอ ย่างดี ฝนที่ตกลงมา ทำให้ถนนลื่น จึงได้ทำความสะอาด สิ่งที่ได้พบเป็นรอยเลื้อยแปลกประหลาด คล้าย พญานาค มีขนาดใหญ่ คดเคี้ยวเลี้ยวไปมา ทั้งบริเวณหน้าบ้านและในบ้าน จึงได้ทำความสะอาด ขัดถูอย่างไรก็ไม่ออก จนได้ไปบอกให้เพื่อนบ้านในระแวกนั้นทราบ ที่ต่างตกตลึงในความแปลกของ รอยของสัตว์เลื้อยคลานตัวขนาดใหญ่ผ่านไปมาในบ้านพัก



พระครูบาสมจิตร เจ้าอาวาสวัดสะแล่ง อ.ลอง จ.แพร่ ได้เดินทางไปพิสูจน์ พร้อมทั้งยืนยันว่า น่าจะเป็นเรื่องของความแปลกของรอยที่คดเคี้ยวไปมา คล้ายกับเกล็ดของพญานาค ที่หากมีใครมีคิดสร้าง หรือ ทำขึ้น คงเป็นไปได้ยาก และหากจะเป็นรอยของล้อรถยนต์ ก็ไม่สามารถจะทำให้คดเคี้ยวและมีบั้งของรอยล้อที่ละเ อียดเหมือนเกล็ดของงูขนาดใหญ่นี้ได้อย่างแน่นอน ถือว่าเป็ฯเรื่องแปลกและใกล้ความจริงมากที่สุดเท่าที ่พบมา









สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า "กูเกิลเอิร์ธ" สามารถจับภาพ "เนสซี" สัตว์ประหลาดลึกลับในตำนาน ได้ที่ทะเลสาบล็อคเนส ของสกอตแลนด์ได้จากดาวเทียม ในละติจูดที่ 57 องศา 12.52 ลิปดา 13 ฟิลิปดาเหนือ และลองติจูดที่ 4 องศา 34.14 ลิปดา 16 ฟิลิปดาตะวันตก
โดยเนสซีนั้น เป็นสัตว์ประหลาดที่มีชื่อเสียงเป็นที่ร่ำลือกันมานา นจนปัจจุบัน แต่ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ มีเพียงคำบอกเล่า และรูปถ่ายเท่านั้นที่ยืนยันการมีตัวตนของเนสซี
อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่า เนสซี อาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อกเนสที่เต็มไปด้วยความลึกลับแล ะตำนานที่เล่าขานกันมา โดยเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเกาะอังกฤษ และมีความลึกกว่า 250 เมตร
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา ได้มีความพยายามที่จะพิสูจน์ว่าเนสซีมีอยู่จริงหรือไ ม่ โดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เครื่องโซนาร์ ตรวจหาคลื่นเสียงใต้น้ำ และส่งกล้องถ่ายรูปลงไปสำรวจในความลึกระดับ 20 เมตร แต่ไม่มีรายงานว่าสามารถจับภาพเนสซีได้หรือไม่

พบสัตว์ประหลาดคล้ายงูแต่มีขา4ขา5นิ้ว




















คมชัดลึก :ชาวบ้านพบสัตว์ประหลาดบนเทือกเขาภูพาน จังหวัดสกลนคร รูปร่างคล้ายงู แต่มี 4 ขา มีนิ้วเท้าข้างละ 5 นิ้ว ลายเหมือนงูเหลือม หางคล้ายงูสามเหลี่ยม นำไปให้ปศุสัตว์จังหวัดพิสูจน์ชี้คล้ายจิ้งเหลนเรียว ขาเล็ก
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม นายเฉลิมพล บุตรมหา อายุ 36 ปี ชาวบ้าน ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร ได้นำสัตว์รูปร่างประหลาด รูปร่างลักษณะคล้ายงู เข้าพบผู้สื่อข่าวจังหวัดสกลนคร โดยบอกว่าจับได้ที่บ้านพัก ซึ่งอยู่บนเขาภูพาน ขณะกำลังเลื้อยเข้ามาในบ้าน โดยสัตว์ตัวนี้ครั้งแรกเชื่อว่าเป็นงู เพราะผิวหนังพร้อมมีลายคล้ายงูเหลือม ความยาวตั้งแต่หัวจรดหาง 8 นิ้วครึ่ง หรือ 21 เซนติเมตร ลำตัวกว้างกว่า 1 เซนติเมตร มีหางคล้ายงูสามเหลี่ยม แต่มีขา 4 ขา แต่ละขามีนิ้วข้างละ 5 นิ้ว มีผู้สนใจมุงดูจำนวนมาก
นายเฉลิมพล บอกว่า หลังจากพบสัตว์ตัวนี้แล้ว ได้นำที่ตักขยะมาตักไม่เอามือสัมผัสเกรงว่าจะมีพิษ จากนั้นนำใส่กระติกน้ำแข็งนำไปให้เพื่อนบ้านดู ก็ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนและไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร จึงนำใส่ตู้ปลาซึ่งเป็นกระจกใส ก่อนจะนำมาให้ผู้สื่อข่าวดู เพราะเห็นว่าเป็นสัตว์ที่แปลกประหลาด เพราะนอกจากจะคล้ายงูแล้ว ยังมีลักษณะคล้ายปลาชนิดหนึ่ง คล้ายกับจิ้งเหลนเพียงแต่ลำตัวยาวกว่า ตอนนี้ตนไม่ทราบว่าจะนำสัตว์ตัวนี้ไปให้ใครพิสูจน์ จึงจะทราบว่าเป็นสัตว์ชนิดใด ซึ่งถ้าเป็นสัตว์หายากก็จะมอบให้กับผู้เกี่ยวข้องได้ เก็บไว้ศึกษา เพราะสัตว์ดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าไม่มีใครสนใจตนก็จะนำกลับไปปล่อยบนภูพานเช่นเด ิม
ต่อมา ผู้สื่อข่าวพร้อมนายเฉลิมพลได้เดินทางไปที่สำนักงานป ศุสัตว์จังหวัดสกลนคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและพิสูจน์ว่าสัตว์ตัว นี้คืออะไร โดยนายปราโมทย์ ศรีธรณ์ ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร พร้อมเจ้าหน้าที่ได้มาตรวจสอบแล้ว บอกว่า ยังไม่เคยพบเช่นกัน แต่ได้สั่งการให้ตรวจสอบทางอินเตอร์เน็ต และพบว่ามีสัตว์ที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกัน ระบุว่าเป็นจิ้งเหลนพันธุ์หนึ่งที่กำลังจะกลายพันธุ์ และเป็นชนิดที่หายาก มักจะพบในป่ารกและมีความชื้น
แต่สัตว์ตัวนี้กับจิ้งเหลนที่ตรวจสอบจากอินเตอร์เน็ต กลับมีสีและลายไม่เหมือนกัน เพราะในอินเตอร์เน็ตผิวหนังจะออกสีแดงปนดำ แต่สัตว์ตัวนี้กลับเป็นลายงูเหลือม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่บอกว่า จิ้งเหลนมีมากมายหลายสายพันธุ์ และยืนยันว่าตัวนี้ก็คือจิ้งเหลนอย่างแน่นอน
ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า สัตว์ตัวนี้คือ จิ้งเหลนเรียวขาเล็ก ชื่อภาษาอังกฤษคือ Short-limbed supple skink พบครั้งแรกเมื่อปี คศ.1766 สถานที่พบไม่ปรากฏ เป็นจิ้งเหลนขนาดเล็ก ที่มีลักษณะพิเศษอยู่ตรงขาที่เล็กมาก ตามชื่อของมัน ตัวมีสีเทาดำ หรือ น้ำตาลอ่อน อาจมีลายขีดสีคล้ำเป็นเส้นๆ เนื่องจากขาเล็กมาก จึงใช้วิ่งไม่ดีเท่าไหร่นัก จิ้งเหลนชนิดนี้เลยต้องเลื้อยไปตามดิน หรือ ไถตัวไปเรื่อยๆ มักพบหากินตอนเช้าหรือสาย กินหนอนผีเสื้อที่อยู่ตามต้นหญ้าเป็นอาหาร ปลวก และ แมลงขนาดเล็กอื่นๆ หาอาหารตามใบหญ้า โดยการใช้ขาเล็กๆ เกาะต้นหญ้า แล้ว ไสตัวไปเรื่อยๆ กลางวันหลบซ่อนตัวตามใต้ขอนไม้ ใต้กองใบไม้ผุ วางไข่ครั้งละ 2-3 ฟอง ปัจจุบันพบแพร่กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ แต่ไม่บ่อยนัก
พบวงปริศนาที่ไซบีเรีย เชื่อไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ต่างดาว



นัก วิทยาศาสตร์พบวงกลมปริศนาที่ หรือ "ไอซ์เซอร์เคิล" 2 วง บนทะเลสาบไบคาลในเขตไซบีเรียของรัสเซีย แต่ไม่เชื่อว่าวงกลมนี้เกิดจากมนุษย์ต่างดาว

โฆษกองค์การนาซ่า แถลงว่า มนุษย์อวกาศบนสถานีอวกาศนานา ชาติพบ"ไอซ์เซอร์เคิล" ระหว่างวันที่ 5-27 เมษายน ขณะโคจรอยู่เหนือโลก 220 ไมล์ มันกว้าง 2.5 ไมล์ วงแรกพบทางขอบด้านใต้ของทะเลสาบ ส่วนอีกวงพบตรงกลาง จากนั้นมันได้แตกออกเพราะน้ำแข็งละลาย

นัก วิทยาศาสตร์เชื่อว่า น้ำอุ่นในทะเลสาบทะลักขึ้นมาบนผิวน้ำ ก่อให้เกิดรูปร่างแปลกตา แต่ยังสงสัยว่า น้ำอุ่นนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากบริเวณอื่นๆ ของทะเลสาบพบแหล่งระบายความร้อนหรือไฮโดรเทอร์มัล ขณะที่ไม่พบทางตอนใต้ แต่ทางใต้ของทะเลสาบกลับมี "ไอซ์เซอร์เคิล" ทั้งที่น่าจะเป็นบริเวณที่มีน้ำเย็นจัด

สำหรับทะเลสาบไบคาลเป็น ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด (เมื่อนับปริมาณน้ำ) และลึกที่สุดในโลกคือ 5,400 ฟุต ยูเนสโกยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก เนื่อง จากเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโ ลก คือมีอายุระหว่าง 25-30 ล้านปี ตะกอนข้างใต้หนา 4.3 ไมล์ เป็นถิ่นที่อยู่ของแมวน้ำและปลาหายาก

ความเห็นที่ 9 (1295021)





ความเห็นที่ 4 (1292535)ฝรั่งเศสเปิดเว็บเผยข้อมูลลับ UFO ที่เก็บมากว่า 50 ปี
Photo DetailsPoster: olj (see this users gallery)

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 มีนาคม 2550 00:00 น.

หุ่นเอเลี่ยนตัวนี้ยืนต้อนรับแขกอยู่ที่การประชุมยูเ อฟโอในเมือง Châlons-en-Champagne ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งองค์การอวกาศเมืองน้ำหอมกลายเป็นประเทศแรกที่เปิ ดเผยข้อมูลการพบวัตถุประหลาดและร่องรอยของมนุษย์ต่าง ดาว

เอเอฟพี - ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศแรกที่เปิดแฟ้มลับของตนในเรื่ องเกี่ยวกับ"ยูเอฟโอ" ซึ่งรวบรวมข้อมูลรายงานการพบเห็นวัตถุประหลาดบนฟากฟ้ ากว่า 1,600 กรณี ตลอดช่วงเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา

องค์การอวกาศแห่งชาติฝรั่งเศส (CNES : Centre National d’Etudes Spatiales) ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์ www.cnes-geipan.fr ซึ่งรวบรวมข้อมูลรายงานการพบเห็นวัตถุประหลาดบนฟากฟ้ า

ฐานข้อมูลออนไลน์แห่งนี้ ยังคงอัพเดตเมื่อมีรายงานกรณีใหม่ๆ เข้ามาด้วยนั้น ได้จัดทำรายการกรณีที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดยิบ โดยมีตั้งแต่เหตุการณ์ซึ่งสามารถโยนทิ้งไปได้อย่างง่ ายดาย ไปจนถึงเหตุการณ์จำนวนหนึ่งซึ่งแม้กระทั่งนักวิทยาศา สตร์ผู้ไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ ก็ยังต้องนิ่งอึ้ง

ฌาคส์ ปาเตอเนต์ (Jacques Patenet) วิศวกรการบินอวกาศ ผู้อำนวยการสำนักงานทำหน้าที่ศึกษา "ปรากฏการณ์ในบรรยากาศและอวกาศที่ไม่สามารถระบุ ชี้ชัดได้" (non-identified aerospatial phenomena) ขององค์การอวกาศฝรั่งเศส อวดว่าการเปิดแฟ้มผ่านทางออนไลน์ของแดนน้ำหอมเช่นนี้ ถือเป็นครั้งแรกของโลก

หลายประเทศโดยเฉพาะอังกฤษและสหรัฐฯ มีการเก็บรวบรวมข้อมูล "วัตถุบินได้ที่ไม่สามารถระบุชี้ชัด" หรือ "ยูเอฟโอ" อย่างเป็นระบบเช่นกัน ทว่าผู้สนใจศึกษาต้องอาศัยกฎหมายเสรีภาพด้านข้อมูลข่ าวสาร มาบังคับให้หน่วยงานที่จัดเก็บ ยอมเปิดแฟ้มให้ดู และก็ขอดูได้เป็นกรณีๆ ไปเท่านั้น

ปาเตอเนต์บอกว่า กรณีอย่างเช่นสตรีผู้หนึ่งรายงานว่า พบเห็นวัตถุที่ดูเหมือนม้วนกระดาษชำระกำลังบินอยู่ ย่อมเห็นได้ชัดเจนว่าไม่มีคุณค่าพอที่จะดำเนินการสอบ สวน แต่ก็มีกรณีจำนวนมากที่มีผู้พบเห็นกันหลายคน อีกทั้งมีหลักฐานอย่างเช่น รอยไหม้ หรือเรดาร์สามารถตรวจจับรูปแบบการบินของวัตถุนั้นๆ ตลอดจนมีการเร่งความเร็วชนิดที่ท้าทายกฎทางฟิสิกส์ เหล่านี้ย่อมควรที่จะต้องพิจารณากันอย่างจริงจัง

จากกรณีกว่า 1,600 กรณีที่เก็บรวมไว้ตั้งแต่ปี 1954 มีเกือบ 25% ถูกจัดให้อยู่ใน "ประเภท ดี" (type D) ซึ่งหมายความว่า "แม้จะมีข้อมูลที่ดีหรือกระทั่งดีมาก และมีพยานที่น่าเชื่อถือ แต่เราก็เผชิญกับอะไรบางอย่างที่เรายังไม่สามารถอธิบ ายได้" ปาเตอเนต์กล่าว

หนึ่งตัวอย่างของกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นในวันที่ 8 มกราคม 1981 บริเวณนอกเมืองตรองส์-ออง-โปรวองซ์ (Trans-en-Provence) เมืองเล็กๆ ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส ชายผู้หนึ่งที่กำลังทำงานในทุ่งนารายงานว่า ได้ยินเสียงหวูดหวีดแปลกๆ และพบวัตถุรูปร่างเหมือนชามกลมๆ ตื้นๆ รัศมีประมาณ 2.5 เมตร ลงจอดในทุ่งนาของเขา ห่างจากตัวเขาไปราว 50 เมตร

เขาแจ้งความกับตำรวจว่า วัตถุรูปชามซึ่งมีสีเทาสังกะสีตุ่นๆ นี้ ได้ทะยานขึ้นฟ้าแทบจะทันทีทันใด และทิ้งรอยไหม้ไว้หลายรอย คณะเจ้าหน้าที่สอบสวนได้ถ่ายภาพ และเก็บตัวอย่างหลายอย่างมาวิเคราะห์ ทว่าจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคำอธิบายที่น่าพอใจ

แต่ก็มีกรณีอย่างเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1990 ซึ่งมีพยานเกือบ 1,000 คนบอกว่าพบเห็นแสงสว่างวาบบนท้องฟ้า แล้วการสอบสวนระบุว่า เป็นเพียงเศษของจรวดที่ตกกลับเข้าสู่บรรยากาศของโลก

เมื่อถูกถามเรื่องมีมนุษย์จากนอกโลกจริงหรือไม่ ปาเตอเนต์ตอบว่า "เราไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อยนิดที่พิสูจน์ว่า มนุษย์ต่างดาวเป็นผู้อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์อันไม่ อาจอธิบายได้เหล่านี้"

ทว่าเขาก็กล่าวต่อไปว่า "แต่เราก็ไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อยนิดเช่นกันที่พ ิสูจน์ว่า พวกเขาไม่ได้อยู่เบื้องหลัง"

ทั้งนี้ CNES ได้รับรายงานการเห็น UFO ปีละ 50-100 กรณี และส่วนใหญ่เป็นการรายงานผ่านตำรวจ มีเพียงแค่ 10% ในจำนวนนี้ที่วัตถุประหลาดนั้นได้รับการสืบสวนต่อไป

เว็บไซต์ดังกล่าว นับเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี ซึ่งมีทั้งรูปภาพและรายงานของตำรวจอย่างละเอียด ซึ่งการเปิดให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเข้าถึงข้อมูลดั งกล่าว จะช่วยให้ง่ายต่อการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการมีอยู่ของ สิ่งมีชีวิตนอกโลกต่อไป

อย่างไรก็ดี ภายหลังเปิดตัวเว็บไซต์ www.cnes-geipan.fr ดูเหมือนว่าจะมีผู้ให้ความสนใจมากมายล้นหลาม จนเซิรฟเวอร์ไม่สามารถรองรับได้ ผู้เข้าชมจากทั่วโลกจึงอาจจะไม่สามารถรับชมเว็บไซต์ด ังกล่าวได้อย่างสะดวกนัก
พบ "ทะเลสาบแปลกประหลาด" ที่สุดในโลก! มีน้ำเป็น "น้ำยาซักฟอก"




พบทะเลสาบแปลกประหลาดที่สุดในโลก มีน้ำเป็นน้ำยาซักฟอก และมีความเป็นด่างอย่างแรง รีบส่งนักวิทยาศาสตร์ไปสำรวจ เพื่อค้นหาชีวิตที่อาจจะมีอยู่ได้ และเชื่อว่าอาจจะเป็นพิมพ์เดียวกับของชีวิตต่างโลก
คณะนักวิทยาศาสตร์ของศูนย์การเดินทางในอวกาศมาร์แชลล ์ ขององค์การอวกาศสหรัฐฯ จะได้ยกคณะไปยังทะเลสาบอันเดอร์ซี ที่ขั้วโลกใต้ ซึ่งรับน้ำที่ละลายจากแม่น้ำน้ำแข็ง เป็นทะเลสาบที่ผิดแปลกจากที่อื่นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุว่าน้ำชั้นบนระดับสูงถึง 70 เมตร ล้วนมีฤทธิ์เป็นด่าง “มันมีความเป็นด่างแรงมาก” ยิ่งกว่านั้นตะกอนในทะเลยังปล่อยก๊าซมีเทนออกมามากยิ ่งกว่า สิ่งที่มีชีวิตในน้ำตามธรรมชาติอื่นใดบนโลกนี้
นายริชาร์ด ฮุเวอร์ ผู้เป็นหัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า มันนับเป็นกรณีตัวอย่างของสถานที่แปลกประหลาด ในสุริยจักรวาล ซึ่งอาจจะได้พบรูปแบบของชีวิตที่สามารถอยู่ได้ในสภาพ ดินฟ้าอากาศอันทารุณ สิ่งหนึ่งซึ่งเราได้รู้ในระยะสองสามปีมานี้
คือได้พบสิ่งมีชีวิตพวกจุลชีพอาศัยอยู่ในน้ำแข็งก็มี ในน้ำเดือดก็มี แม้แต่ในเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู ชีวิตแปลกๆเหล่านี้อาจจะเป็นชีวิตธรรมชาติที่อยู่ตาม ดินแดนแห่งต่างๆในจักรวาล
เขาบอกว่า เราหวังว่าจะพบรูปแบบชีวิตใหม่ๆที่ทนกับอุณหภูมิสูงแ ละทนกับความเป็นด่างมาก เราเคยพบแบคทีเรียในอุโมงค์ที่อลาสกามาแล้ว ที่กลับมีชีวิตขึ้นอีกเมื่อน้ำแข็งที่จับอยู่ละลายออ ก หลังจากที่ติดอยู่มานาน 32,000 ปี ในขณะที่จุลชีพบนโลกยังทนอยู่ได้ ทำไมบนดาวพระเคราะห์ดวงอื่น จึงจะไม่มีบ้าง.
ปลาน้ำลึก





นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ถ่ายวิดีโอปลาที่อยู่ใต้ทะเลลึกที่สุดเท่าที่ ถ่ายได้ ปลานี้มีชื่อว่า "โกสต์ลีย์ สเนลฟิช" ถ่ายในระดับความลึก 7.7 กิโลเมตร แถบแนวร่องญี่ปุ่น ในมหาสมุทรแปซิฟิก

นายมอนตี้ ไพรด์ ผู้วชาญจากมหาวิทยาลัยอะเบอร์ดีน สกอต แลนด์ ผู้ร่วมการสำรวจโครงการ "HADEEP" กับมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น กล่าวว่า การที่ "โกสต์ลีย์ สเนลฟิช" อาศัยอยู่ในความลึกระดับนี้ได้จะต้องทนทานต่อแรงกดดั นมาก ซึ่งแรงกดดันนี้เทียบเท่ากับช้าง 1,600 เชือก ยืนอยู่บนหลังคารถมินิ 1 คัน และปลา 17 ตัว ที่ถ่ายวิดีโอมาตัวที่ใหญ่ที่สุดมีความยาวประมาณ 12 นิ้ว



ปลาปีศาจ ครีบพัด ( Fanfin Seadevil ) หรือ Caulophryne jordani เป็น ปลาน้ำลึก ในตระกูล Anglerfish ปลาปลาปีศาจ ครีบพัด ( Fanfin Seadevil ) มีสี่งที่แปลก และโดดเด่นกว่า ปลาในตระกูล Anglerfish ทั่วไปคือ พวกมันไม่มีหงอนเรืองแสงบนหัว ที่ใช้สำหรับล่อเหยือในที่มืด และทั่วทั้งร่างมีครีบยาว คล้ายพัด
เช่นเดียวกับปลาในตระกูล Anglerfish เพศผู้มีขนาดเล็กกว่ามากเพศเมีย เพศผู้เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดเพียง 0.5 นิ้ว ( 1.27 เซ็นติเมตร ) ส่วนเพศเมียจะมีขนาดใหญ่ได้ถึง 10 นิ้ว ( 25 เซ็นติเมตร ความยาวไม่รวมหนวด) การที่เพศผู้มีขนาดเล็ก และเพศเมีย มีขนาดใหญ่นั้นเกิดจากอุปนิสัยที่ เมื่ตัวผู้พบ ตัวเมีย ตัวผู้จะเกาะติดตัวเมียด้วยปาก ทำตัวเหมือนกาฝาก โดยดูดเลือดของตัวเมียเป็นอาหาร และเมื่อนานวันตัวผู้ จะศูนย์เสียการมองเห็น และประสาทสัมผัสต่างไป และหลอมรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตัวเมีย









PS.  ฉันคือFC neji x tenten love neji x tentenมากกกกกกกกกกกก

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น