Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

กินเผ็ดทำให้ขาใหญ่ไม่รู้ตัว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ภัยร้ายจากอาหารรสเผ็ด

          คุณ รู้หรือไม่ว่า ยำ ส้มตำ และเมนูอาหารรสเผ็ดจัดจ้านจานอื่น ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของคุณผู้หญิงทั้งหลายนั้น ล้วนเป็นเมนูที่จะทำให้คุณผู้หญิงต้องกลับมานั่งกลุ้มใจกับปัญหาขาใหญ่อย่าง ไม่ทันตั้งตัว

          เนื่อง จากอาหารรสเผ็ดมีทั้งรสเผ็ด เปรี้ยว หวานซึ่งช่วยกันกลบรสเค็มไว้ ทำให้ความเค็มที่มาจากโซเดียมซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำไว้ในเนื้อเยื่อไหลลง สู่ที่ต่ำ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สาว ๆ ที่ชอบกินอาหารรสเผ็ดต้องนั่งกลุ้มกุมขมับกับปัญหาขาใหญ่อย่างไม่รู้สาเหตุ

          ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาก็คือ ไม่ควรกินอาหารรสเค็มและเผ็ดบ่อยจนเกินไป แต่ควรเลือกกินอาหารที่มีผักและผลไม้ ทั้งยังต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรูปร่างที่สวยงามและสุขภาพที่แข็งแรง นอกจากนี้อาจแก้ปัญหาขาใหญ่ได้ด้วยการนวดกดจุด โดยการนวดเอาน้ำที่บวมคั่งในกล้ามเนื้อขาออกไปทางระบบน้ำเหลือง ซึ่งจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ แล้วขาของคุณผู้หญิงก็จะค่อย ๆ เล็กลง กลับมาเรียวสวยเหมือนเดิม


ที่มา : http://health.kapook.com/

PS.  ไม่มี ' แฟน ' ไม่เหงาเท่า ไม่มี ' เพื่อน '

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

สมุดสีฟ้า ปากกาสีแดง :)) 27 ก.ย. 54 เวลา 21:57 น. 1

รู้สึกดีที่ตัวเองกินเผ็ดไม่ได้ก็ตอนนี้แหละ 5555555+

กินไม่ได้กินแล้วเดี๋ยวปากบวม =w=


PS.  ไม่มีใครหัวเราะได้ทั้งวัน และ ไม่มีใครร้องไห้ได้ทั้งวันเหมือนกัน
0
DearChikin 27 ก.ย. 54 เวลา 22:36 น. 2

 แล้วฝรั่งที่ไม่กินเผ็ด กินฟาสต์ฟู้ด ขาไม่ใหญ่กว่าหรอ 



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 27 กันยายน 2554 / 22:36
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 27 กันยายน 2554 / 22:49
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 27 กันยายน 2554 / 22:49

0
Spspy 27 ก.ย. 54 เวลา 22:55 น. 3
คห.3
ก็อาหารฟาสฟู๊ดมันมีไขมันเยอะกว่าอาหารที่มีรสเผ็ดนี่คะ
, อาหารที่มีรสจัด ไม่ว่าจะหวานจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หรือเค็มจัด ก็ล้วนแต่ส่งผลเสียให้แก่ร่างกายทั้งนั้นแหละค่ะ
และที่บอกว่า อาหารที่มีรสเผ็ดและรสเค็มทำให้ขาใหญ่ก็เป็นเพราะ โซเดียมที่มาจากความเค็ม
จะทำให้ร่างกายบวมน้ำ แล้วทำให้ไหลลงสู่ที่ต่ำที่สุดในร่างกายนั่นก็คือตั้งแต่ต้นขาลงไปค่ะ

แต่ประโยชน์ของมันก็มีนะคะ , พริกเองก็ถือเป็นสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อน 
ถ้ากินในขนาดที่พอดี จะช่วยเรียกน้ำย่อย
ทำให้กระเพาะหลั่งกรด ออกมาย่อยมากขึ้น แต่ถ้ามากเกินไป กระเพาะก็หลั่งกรด ออกมาเกินความต้องการ
กรดจะไปทำลายผนังกระเพาะได้ ยิ่งถ้าใครมีแผลในกระเพาะ หรือลำไส้อยู่แล้ว
อาการจะยิ่งกำเริบหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม
พริกยังช่วยให้เลือดไม่จับตัวเป็นก้อน แต่กลับไหลเวียนสะดวกดี


ข้อมูลจาก : LadyTip.com

PS.  ไม่มี ' แฟน ' ไม่เหงาเท่า ไม่มี ' เพื่อน '
0
kornnie 28 ก.ย. 54 เวลา 11:07 น. 4

ตัวผมก็นึกว่ามันไม่ทำให้อ้วน เพราะมันไม่มีไขมัน พริกไม่มีไขมัน ส้มตำงี้ มะละกอ ไม่มีไขมัน
ผมว่างๆก็เลยกินซะ 555

0
อินฟินิตี้เลิฟ 29 ก.ย. 54 เวลา 21:20 น. 5

 จริงหรอ?  อ้างอิงหน่อยดิ  งานวิจัยหรอ??


PS.  ก็เคยเสาะหามาซะจนท้อรักแท้ที่ใจเฝ้ารอมีจริงไหม? มันเป็นอะไรที่ไร้จุดหมายเคยคบใครไปกี่รายก็ไม่เคยเจอ
0
Spspy 29 ก.ย. 54 เวลา 22:09 น. 6
คห.6
อ้างอิงให้ข้างบนแล้วค่ะ > ที่มา : http://health.kapook.com/
และ
ข้อมูลจาก : LadyTip.com

PS.  ไม่มี ' แฟน ' ไม่เหงาเท่า ไม่มี ' เพื่อน '
0
H3LL-AnG3L 4 ต.ค. 54 เวลา 08:25 น. 7

จากที่ผู้เขียนกล่าวว่า

"เนื่อง จากอาหารรสเผ็ดมีทั้งรสเผ็ด เปรี้ยว หวานซึ่งช่วยกันกลบรสเค็มไว้ ทำให้ความเค็มที่มาจากโซเดียมซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำไว้ในเนื้อเยื่อไหลลง สู่ที่ต่ำ"

สาเหตุของการที่น้ำหนักของร่างกายเพิ่มขึ้นอันที่จริงแล้วมาจากปริมาณของโซเดียม ซึ่งโซเดียมนั้นเป็นแร่ธาตุที่มนุษย์ต้องการ แต่การที่บริโภคในปริมาณที่มากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกัน โซเดียมทำให้น้ำหนักเพิ่มได้ด้วยปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการ เพื่อคงสภาพความสมดุลของไอออนในร่างกาย

การยกตัวอย่างอาหารในที่นี้ได้แก่ ยำและส้มตำ ยำและส้มตำต่างๆนั้นส่วนประกอบหลักที่ขาดไม่ได้คือน้ำปลา ซึ่งตามปกติแล้วน้ำปลา1ช้อนโต๊ะประกอบด้วยโซเดียมกว่า 690mg ซึ่งคิดเป็น 30% ของปริมาณการบริโภคต่อวันของมนุษย์ ซึ่งคำนวนจากปริมาณการบริโภค2000kcalต่อวัน อันที่จริงแล้วผู้หญิงที่ทำงานบริษัทส่วนใหญ่นั้นต้องการพลังงานประมาณ1500kcalต่อวัน ซึ่งการยำหรือส้มตำหนึ่งจานนั้นอาจมีน้ำปลาอยู่มากกว่า2ช้อนโต๊ะ หรือ กว่า60%ของปริมาณการบริโภคต่อวัน ในบางบุคคลแล้วการปรุงอาหารประเภทนี้ก็มีการเติมน้ำตาลในอาหารด้วย

ในส่วนของคำว่าเนื้อเยื่อไหลลงสู่ที่ต่ำนั้น ตัวผมก็ไม่แน่ชัด และไม่แน่ใจว่าผู้เขียนหมายถึงอะไร เนื้อเยื่อไหลลงสู่ที่ต่ำนั้นขอพูดตามตรงว่าไม่เคยอ่านวิจัยอะไรซึ่งเกี่ยวกับการกล่าวอ้างนี้เลย เพราะตามหลักของร่างกายมนุษย์แล้ว ปริมาณของโซเดียมนั้นจะแบ่งกระจายไปยังส่วยต่างๆของร่างกายโดยไม่เจาะจงว่าต้องเปป็นขา

การที่ผู้เขียนใช้คำว่าทานอาหารรสเผ็ดแล้วทำให้ขาใหญ่นั้น เป็นการใช้ประโยคที่ผิด และอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้อ่านได้

อันที่จริงแล้วการรับประทานอาหารรสเผ็ดไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ขาหรือส่วนอื่นๆในร่างกายใหญ่หรืออ้วนขึ้นแต่อย่างไร ในทางกลับกันการบรโภคอาหารรสเผ็ดนั้นสามารถเพิ่มปริมาณการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ในช่วงระยะหนึ่ง ยกตัวอย่างการที่อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้นหลังจากบริโภคอาหารรสเผ็ด

การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดของผู้ที่ชอบอาหารประเภทนี้ก็คือ รัปประทานโดนที่ไม่ทานน้ำยำหรือส้มตำ เพราะ โซเดียมและน้ำตาลนั้นส่วนใหญ่แล้วอยู่ที่น้ำ แล้วอย่าทานพวกยำที่ใส่เส้นเช่นมาม่าหรือวุ้นเส้นเพราะพวกเส้นนั้นทำให้น้ำติดมาด้วยเวลารับประทาน

ส่วนเรื่องการอ้างอิงนั้น ผมไม่สามารถหาคำอ้างอิงจากเวปไซต์ต่างๆ ที่ได้ใช้อ่างอิงเลย และตามหลักแล้วการอ้างอิงเวปไซต์นั้นไม่สมควรนำมาใช้ในกาเขียน ยกเว้นแต่ว่าเป็นเวปไซต์ข่าวหรือเพื่อการศึกษาของรัฐบาล

ขออภัยเรื่องภาษาไว้นะที่นี้ เนื่องจากไม่ได้เขียนไทยมานาน


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 4 ตุลาคม 2554 / 08:26

0
MooK_KunG_Zaa 27 ก.พ. 55 เวลา 00:57 น. 8

จากที่อ่านๆมา มันบอกประมาณว่าอย่ากินอาหารเค็มนี่คะ (เผ็ดไปกลบรสเค็ม) ทำให้มีโซเดียมในร่างกายมาก.... แต่ก็นะเผ็ดแต่ไม่ถึงเกลือก็ไม่อร่อย ฮ่าๆๆ


PS.  โหมดคลั่ง HijiGin มันคือที่สุด สุโก้ยยยยย สุลู่บันไซซซ one piece / gintama / code geass กลายเป็นสามเรื่องที่รักที่สุดไปแล้วครับ อมตะๆ
0