Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ช่วยแปลอิเหนาหน่อยครับ มีบทอยู่ในนี้

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เมื่อนั้น                                                                          วิหยาสะกำใจกล้า
ได้ฟังคั่งแค้นแทนบิดา                                                                       จึงร้องตอบวาจาว่าไป
ดูก่อนอริราชไพรี                                                                                อย่าลบหลู่ท่านผู้ใหญ่
โอหังบังอาจประมาทใคร                                                                  จะนบนอบยอบไหว้อย่าพึงนึก
มิเราก็เจ้าจะตายลง                                                                              อย่าหมายจิตคิดทะนงในการศึก
ยังมิทันพันตูมาขู่คึก                                                                            จะรับแพ้แลลึกไม่มีลาย
ฯ ๖ คำ ฯ
เมื่อนั้น                                                                          สังคามาระตาเฉิดฉาย
ฟังวิหยาสะกำอภิปราย                                                                       หยาบคายเคืองขัดอัธยา
จึงทูลองค์ระเด่นมนตรี                                                                      น้องนี้จะขออาสา
สู้วิหยาสะกำผู้ศักดา                                                                            พระองค์จงยืนม้าเป็นประธาน
ฯ ๔ คำ ฯ
เมื่อนั้น                                                                          ระเด่นมนตรีใจหาญ
จึงตอบอนุชาชัยชาญ                                                                          เจ้าจะต้านต่อฤทธิ์ก็ตามใจ
แต่อย่าลงจากพาชี                                                                               เพลงกระยี่ยังหาชำนาญไม่
เพลงทวนสันทัดชัดเจนใจ                                                                เห็นจะมีชัยแก่ไพรี
ฯ ๔ คำ ฯ
เมื่อนั้น                                                                          สังคามาระตาเรืองศรี
น้อมองค์ลงถวายอัญชลี                                                                     กะระตะพาชีขึ้นไปพลัน
ฯ ๒  คำ ฯ
ยืนม้าอยู่ตรงวิหยาสะกำ                                             แสร้งทำเป็นทีเย้ยหยัน
แล้วว่าใครไม่คิดแก่ชีวัน                                                                    จะชิงตุนาหงันพระธิดา
จงมาเล่นทวนด้วยกันก่อน                                                                ให้เห็นฤทธิรอนแกล้วกล้า
แม้นควรคู่กับวงศ์เทวา                                                                       จึงจะยกกัลยาให้ไป
ฯ ๔ คำ ฯ
เมื่อนั้น                                                                          วิหยาสะกำศรีใส
ได้ฟังแค้นขัดกลัดใจ                                                                           จึงตอบคำไปด้วยพลัน
ดูก่อนเจ้าผู้เรืองฤทธิรงค์                                                                    รูปทรงงามสมคมสัน
เชื้อชาติญาติวงศ์พงศ์พันธุ์                                                                อยู่เขตขัณฑ์ธานีบุรีไร
หรือเป็นวงศ์อสัญแดหวา                                                                  ในสี่นคราเป็นไฉน
จึงปั้นหน้ามาต่อฤทธิไกร                                                                  ไม่กลัวชีวาลัยจะมรณา
ที่ยืนม้าอยู่ข้างหลังนั้น                                                                       กั้นกลดพื้นสุวรรณโอ่อ่า
นามวงศ์พงศ์ใดจงบอกมา                                                                 แจ้งกิจจาแล้วจึงจะรบกัน
ฯ ๘ คำ ฯ

เมื่อนั้น                                                                          สังคามาระตาเฉิดฉัน
ได้ฟังดังศรเสียบกรรณ                                                                       จึงตอบไปพลันทันใด
อันองค์สมเด็จพระปิ่นเกล้า                                                               คืออิเหนากุเรปันเป็นใหญ่
นั่นกะหรัดตะปาตีชาญชัย                                                                 ร่วมในสุริย์วงศ์ธิบดี
นี่สุหรานากงทรงสวัสดิ์                                                                     องค์อะหนะสิงหัดส่าหรี
นั่นระเด่นดาหยนภูมี                                                                         อยู่หมันหยาธานีกรุงไกร
เราชื่อสังคามาระตา                                                                            หน่อท้าวปักมาหงันเป็นใหญ่
ได้เป็นอนุชาเรืองชัย                                                                          ภูวไนยองค์ระเด่นมนตรี
ฯ ๘ คำ ฯ
เมื่อนั้น                                                                          วิหยาสะกำเรืองศรี
ยิ้มแล้วจึงกล่าววาที                                                                             ซึ่งว่ามานี้ยังแคลงใจ
อันกาหลังสิงหัดส่าหรีนั้น                                                                ดาหากุเรปันกรุงใหญ่
ทั้งหมันหยาธานีนั้นไซร้                                                                   ก็แจ้งใจว่าวงศ์กันสืบมา
ตัวสิอยู่ปักมาหงัน                                                                               ใช่วงศ์อสัญแดหวา
เหตุใดว่าเป็นอนุชา                                                                             นับในวงศาประการใด
หรือหนึ่งพึ่งจะมาเป็นน้อง                                                               เกี่ยวข้องรักกันเป็นไฉน
เราคิดเห็นผิดประหลาดใจ                                                                จงบอกไปแต่จริงบัดนี้
ฯ ๘ คำ ฯ
เมื่อนั้น                                                                          สังคามาระตาเรืองศรี
ฟังวิหยาสะกำพาที                                                                              ดังตรีเพชรบาดในอุรา
             จึงร้องว่าเหวย ไพริน                                                                           ลมลิ้นหยาบคายนักหนา
             มาถามไถ่ไล่เอากิจจา                                                                          คือจะปรารถนาสิ่งใด
             สุดแต่ว่าจิต พิศวาส                                                                              ก็นับเป็นวงศ์ญาติกันได้
อย่าชักเจรจาให้ช้าไป                                                                         จะชิงชัยให้เห็นฝีมือกัน
ว่าพลางทางกรายปลายทวน                                                              รำร่ายเป็นกระบวนหวนหัน
ชักอาชาชิดติดพัน                                                                               เข้าประจัญจ้วงโจมโถมแทง
ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง
เมื่อนั้น                                                                          วิหยาสะกำเข้มแข็ง
ขับม้าเลี้ยวล่อต่อแย้ง                                                                           กรายพระแสงทวนรำเป็นทำนอง
กลอกกระหยับกลับแทงซ้ายขวา                                                      สังคามาระตาปัดป้อง
ถ้อยทีหนีไล่รับรอง                                                                             เปลี่ยนท่าทวนทองแทงกัน
ฯ ๔ คำ ฯ พญาเดิน




เมื่อนั้น                                                                          สังคามาระตาแข็งขัน
ขับมาไวว่องป้องประจัญ                                                                   เป็นเชิงชั้นชิงชัยในทีทวน
ร่ายรับกลับแทงไม่แพลงพล้ำ                                                           วิหยาสะกำผัดผันหันหวน
ต่างเรียงเคียงร่ายย้ายกระบวน                                                          ปะทะทวนรวนรุกคลุกคลี
ฯ ๔ คำ ฯ
เมื่อนั้น                                                                          วิหยาสะกำเรืองศรี
ชักม้าวงวิ่งชิงที                                                                                    โหมหักไพรีด้วยแรงฤทธิ์
โถมแทงแล้วแปลงเปลี่ยนกระบวน                                                  ทบทวนม้าที่นั่งไม่พลั้งผิด
หมายเขม้นเข่นฆ่าปัจจามิตร                                                             ตามติดต้านทานราญรอน
ฯ ๔ คำ ฯ
เมื่อนั้น                                                                          สังคามาระตาชาญสมร
รบรับเคี่ยวขับอัสดร                                                                            ยอกย้อนเปลี่ยนกลรณรงค์
กลับกลอกรำร่ายกรายพระแสง                                                        ปะทะแทงลวงไปให้ใหลหลง
แล้วทำเสียเชิงชักม้าทรง                                                                    ตลบวงเวียนหันไปทันที
         ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

ช่วยหนอยนะครับ

แสดงความคิดเห็น

>

19 ความคิดเห็น

บานมาก 29 พ.ย. 54 เวลา 21:39 น. 1

ถ้าให้ช่วยแปล ทีละบท ว่าไปอย่าง
อันนี้เว่อร์ว่ะ เป็นหน้า ๆ

ใช้สมองตัวเองเถิดนะ
อัตตหิ อัตตโนนาโถ.

0
Aoriiz 29 พ.ย. 54 เวลา 21:52 น. 2

เราก้กำลังเรียนอยุ่ ,,,
แต่ช่วยไม่ได้หรอกจ้า อ่านยากอ้ะ ,
ลองไปเปิดเว๊บดูน้ะ เผื่อมีคนแปลไว้ ^^"

0
mimidola 29 พ.ย. 54 เวลา 22:16 น. 3

โอย เยอะมากอ่ะ แต่พี่จะพยายามให้นะคะ คือตอนนี้พี่ก็ม.6แล้ว มันก็น่าพอควรกับความแม่นยำ ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ พี่จะแปลเป็นตอนๆให้นะคะ
-------------------
เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  วิหยาสะกำใจกล้า
ได้ฟังคั่งแค้นแทนบิดา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp จึงร้องตอบวาจาว่าไป
ดูก่อนอริราชไพรี&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp อย่าลบหลู่ท่านผู้ใหญ่
โอหังบังอาจประมาทใคร&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  จะนบนอบยอบไหว้อย่าพึงนึก
มิเราก็เจ้าจะตายลง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  อย่าหมายจิตคิดทะนงในการศึก
ยังมิทันพันตูมาขู่คึก&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  จะรับแพ้แลลึกไม่มีลาย
ฯ ๖ คำ ฯ

วิหยาสะกำเมื่อได้ฟังความจากศัตรู ก็เกิดความแค้นแทนพ่อของตน จึงได้พูดตอบไปว่า
ดูก่อนเถอะเจ้าศัตรู อย่ามาบังอาจมาลบหลู่นะ มาทำโอหังประมาทอย่างนี้ ไม่เราก็เจ้าล่ะจะตายลง
อย่าคิดทะนงตนในการศึกเลย ยังไม่ทันได้รบก็มาทำเป็นพูดขู่ จะชนะหรือแพ้ก็ยังไม่รู้&nbsp 

เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp สังคามาระตาเฉิดฉาย
ฟังวิหยาสะกำอภิปราย&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp หยาบคายเคืองขัดอัธยา
จึงทูลองค์ระเด่นมนตรี&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp น้องนี้จะขออาสา
สู้วิหยาสะกำผู้ศักดา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  พระองค์จงยืนม้าเป็นประธาน
ฯ ๔ คำ ฯ

เมื่อฝ่ายสังคามาระตาได้ฟังคำหยาบที่วิหยาสะกำพูดออกมา จึงรู้สึกโกรธเคืองอยู่ในใจ
จึงได้ทูลแก่อิเหนาว่า ตัวสังคามาระตาจะอาสาสู้กับวิหยาสะกำเอง

เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ระเด่นมนตรีใจหาญ
จึงตอบอนุชาชัยชาญ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เจ้าจะต้านต่อฤทธิ์ก็ตามใจ
แต่อย่าลงจากพาชี&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เพลงกระยี่ยังหาชำนาญไม่
เพลงทวนสันทัดชัดเจนใจ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เห็นจะมีชัยแก่ไพรี
ฯ ๔ คำ ฯ

อิเหนาจึงบอกกับสังคามาระตาว่า ถ้าจะสู้กันก็ตามใจ แต่อย่าลงจากหลังม้านะ
เพราะเพลงกระบี่เจ้ายังไม่ชำนาญ แตถ้าใช้เพลงทวนสู้ล่ะก็ คงจะชนะเป็นแน่

เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  สังคามาระตาเรืองศรี
น้อมองค์ลงถวายอัญชลี&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp กะระตะพาชีขึ้นไปพลัน
ฯ ๒&nbsp คำ ฯ

สังคามาระตาได้ฟังดังนั้นจึงน้อมลงไหว้อิเหนาแล้วก็ขึ้นหลังม้าไป

ยืนม้าอยู่ตรงวิหยาสะกำ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp แสร้งทำเป็นทีเย้ยหยัน
แล้วว่าใครไม่คิดแก่ชีวัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  จะชิงตุนาหงันพระธิดา
จงมาเล่นทวนด้วยกันก่อน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ให้เห็นฤทธิรอนแกล้วกล้า
แม้นควรคู่กับวงศ์เทวา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  จึงจะยกกัลยาให้ไป
ฯ ๔ คำ ฯ

สังคามาระตาก็มาหยุดม้าอยู่ตรงหน้าวิหยาสะกำ แกล้งพูดจาทำท่าเย้ยหยั่นว่า จะมาแต่งงานกับพระธิดาเนี่ยไม่คิดถึงชีวิตตัวเองเลยนะ มาประลองเพลงทวนกันดีกว่า ให้เห็นฝีมือกันไปเลย ถ้าคู่ควรกับวงเทวัล ก็จะยกนางบุษบาให้

เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp วิหยาสะกำศรีใส
ได้ฟังแค้นขัดกลัดใจ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp จึงตอบคำไปด้วยพลัน
ดูก่อนเจ้าผู้เรืองฤทธิรงค์&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  รูปทรงงามสมคมสัน
เชื้อชาติญาติวงศ์พงศ์พันธุ์&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  อยู่เขตขัณฑ์ธานีบุรีไร
หรือเป็นวงศ์อสัญแดหวา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ในสี่นคราเป็นไฉน
จึงปั้นหน้ามาต่อฤทธิไกร&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ไม่กลัวชีวาลัยจะมรณา
ที่ยืนม้าอยู่ข้างหลังนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  กั้นกลดพื้นสุวรรณโอ่อ่า
นามวงศ์พงศ์ใดจงบอกมา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  แจ้งกิจจาแล้วจึงจะรบกัน
ฯ ๘ คำ ฯ

เมื่อวิหยาสะกำได้ฟังก็ขัดแค้นอยุ่ในใจ จึงตอบไปในทันทีว่า ดูก่อนเถอะนะเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ รูปเจ้าก็งดงามดีนะ แต่เจ้าเนี่ยเป็นชาติเชื้อไหนอยู่ในเองอะไรหรือ หรือว่าเป็นวงศือสัญแดหวาในสี่เมืองงั้นรึ
จึงได้กล้าที่จะมาสู้กับข้า ไม่กลัวตายเอาซะเลย ที่หยุดม้าอยู่ใต้กรดทองอันใหญ่ข้างหลังนั่นล่ะ
ชื่ออะไรวงศ์วานไหนจงบอกมาก่อนแล้วค่อยรบกัน

เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp สังคามาระตาเฉิดฉัน
ได้ฟังดังศรเสียบกรรณ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp จึงตอบไปพลันทันใด
อันองค์สมเด็จพระปิ่นเกล้า&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp คืออิเหนากุเรปันเป็นใหญ่
นั่นกะหรัดตะปาตีชาญชัย&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ร่วมในสุริย์วงศ์ธิบดี
นี่สุหรานากงทรงสวัสดิ์&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  องค์อะหนะสิงหัดส่าหรี
นั่นระเด่นดาหยนภูมี&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp อยู่หมันหยาธานีกรุงไกร
เราชื่อสังคามาระตา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  หน่อท้าวปักมาหงันเป็นใหญ่
ได้เป็นอนุชาเรืองชัย&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ภูวไนยองค์ระเด่นมนตรี
ฯ ๘ คำ ฯ

เมื่อสังคามาระตาได้ฟังก็รู้สึกเจ็บแค้นดังถูกศรเสียบเข้าที่หู จึงตอบไปทันทีว่า
นั่นคือองศ์กษัตริย์อิเหนาแห่งเมืองกุเรปัน นั่นองค์กะหรัดตะปาตี ก็อยู่ในวงค์เดียวกัน
นี่องค์สหรานากง เจ้าเมืองสิงหัคส่าหรี่ นั่นท้าวดาหยาจากเมืองหมันหยา
ส่วนตัวเราคือ สังคามาระตาเป็นเชื้อสายของท้าวปักมาหงัน และเป็นอนุชาขององค์อิเหนา

เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp วิหยาสะกำเรืองศรี
ยิ้มแล้วจึงกล่าววาที&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ซึ่งว่ามานี้ยังแคลงใจ
อันกาหลังสิงหัดส่าหรีนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ดาหากุเรปันกรุงใหญ่
ทั้งหมันหยาธานีนั้นไซร้&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ก็แจ้งใจว่าวงศ์กันสืบมา
ตัวสิอยู่ปักมาหงัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ใช่วงศ์อสัญแดหวา
เหตุใดว่าเป็นอนุชา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  นับในวงศาประการใด
หรือหนึ่งพึ่งจะมาเป็นน้อง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เกี่ยวข้องรักกันเป็นไฉน
เราคิดเห็นผิดประหลาดใจ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp จงบอกไปแต่จริงบัดนี้
ฯ ๘ คำ ฯ

เมื่อวิหยาสะกำได้ฟังก็ยิ้มเยอะ แล้วก็พูดออกไปว่า ที่เจ้าพูดมาน่ะยังสงสัย ทั้งอิเหนาทั้งกะหลัดตะปาตีทั้งสุหรานากงหรือแม้แต่ท้าวหมันหยา ก็เข้าใจว่าเป็นเชื้อสายเดียวกัน แต่ตัวเจ้าซิอยู่ปักมาหงัน
จะว่าเป็นวงศ์อสัญแดหวารึก็ไม่ใช่ ทำไมถึงมาบอกว่าเป็นน้องอิเหนา นับญาติกันยังไง หว่าว่าเพิ่งจะมาเป็นพี่น้องกัน ไปเกี่ยวข้องรักใคร่กันยังไงหรือ เราคิดๆดูแล้วก็สงใส จงบอกความจริงมา

เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  สังคามาระตาเรืองศรี
ฟังวิหยาสะกำพาที&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ดังตรีเพชรบาดในอุรา
จึงร้องว่าเหวยไพริน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ลมลิ้นหยาบคายนักหนา
มาถามไถ่ไล่เอากิจจา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  คือจะปรารถนาสิ่งใด
สุดแต่ว่าจิต พิศวาส&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ก็นับเป็นวงศ์ญาติกันได้
อย่าชักเจรจาให้ช้าไป&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp จะชิงชัยให้เห็นฝีมือกัน
ว่าพลางทางกรายปลายทวน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  รำร่ายเป็นกระบวนหวนหัน
ชักอาชาชิดติดพัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เข้าประจัญจ้วงโจมโถมแทง
ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง

เมื่อสังคามาระตาได้ฟังที่วิหยาสะกำพูดก็เจ็บใจดั่งถูกตรีเพรชบาทในอก นึงร้องว่าเฮ้ย เจ้าศัตรู จะตายอยู่แล้วยังจะพูดจาหบายคายอีก มาไล่ถามนั่นนี่จะเอาอะไรห๊ะ ถ้าใจเค้าจะรักใครชอบพอกันก็นับเป็นญาติได้หมดล่ะ อย่ามามัวพูดจาถ่วงเวลาเลย มาสุ้กันให้เห็นฝีมือไปเลยดีกว่า
พูดจบก็กวาดปลายทวนร่ายรำกระบวนท่า ชักม้าเข้าไปประจันหน้าแล้วก็จู่โจมจ้วงแทงอย่าเมามัน

เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  วิหยาสะกำเข้มแข็ง
ขับม้าเลี้ยวล่อต่อแย้ง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp กรายพระแสงทวนรำเป็นทำนอง
กลอกกระหยับกลับแทงซ้ายขวา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp สังคามาระตาปัดป้อง
ถ้อยทีหนีไล่รับรอง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เปลี่ยนท่าทวนทองแทงกัน
ฯ ๔ คำ ฯ พญาเดิน

วิหาสกำเห็นงั้นจึงขี่ม้าเข้าสู้ทั้งล่อทั้งเลี้ยวทั้งรำเพลงทวน ทำหลอกล่อไล่แทงซ้ายขวา สังคามาระตาก็ปัดป้องได้ทัน ต่างก็หนีบ้างไล่บ้าง ต่างก็นำกระบวนท่าต่างๆ มาสู้กัน


เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp สังคามาระตาแข็งขัน
ขับมาไวว่องป้องประจัญ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เป็นเชิงชั้นชิงชัยในทีทวน
ร่ายรับกลับแทงไม่แพลงพล้ำ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  วิหยาสะกำผัดผันหันหวน
ต่างเรียงเคียงร่ายย้ายกระบวน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ปะทะทวนรวนรุกคลุกคลี
ฯ ๔ คำ ฯ

เมื่อนั้นสังคามาระตาก็ขับมาเข้าใส่อย่างไวซึงเป็นชั้นเชิงในการเอาชนะ ทั้งรับทั้งแทงกลับก็ไม่พลาดพลั้งผลัดกันกับวิหยาสะกำต่างก็พอๆกันเปลี่ยนมาสู้กันหลายกระบวนทั้งแทงทั่งรับ

เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp วิหยาสะกำเรืองศรี
ชักม้าวงวิ่งชิงที&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  โหมหักไพรีด้วยแรงฤทธิ์
โถมแทงแล้วแปลงเปลี่ยนกระบวน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ทบทวนม้าที่นั่งไม่พลั้งผิด
หมายเขม้นเข่นฆ่าปัจจามิตร&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ตามติดต้านทานราญรอน
ฯ ๔ คำ ฯ

เมื่อนั้นวิหยาสะกำก็ชักม้าวิ่งจะเข้าใส่กับศัตรู จ้วงแทงแล้วก็เปลี่ยนท่าทั้งขับม้าที่นั่งก็ไม่พลาดผั้ง ด้วยใจหมายที่จะฒ่าศัตรูให้ตายก็ตามแทงอยุ่นั่นล่ะ

เมื่อนั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  สังคามาระตาชาญสมร
รบรับเคี่ยวขับอัสดร&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ยอกย้อนเปลี่ยนกลรณรงค์
กลับกลอกรำร่ายกรายพระแสง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ปะทะแทงลวงไปให้ใหลหลง
แล้วทำเสียเชิงชักม้าทรง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ตลบวงเวียนหันไปทันที
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

เมื่อนั้นสังคามาระตาก็สู้กับวิหยาสะกำไปเรื่อยทั้งก็กลับคิดอุบายขึ้นมาได้ จึงแล้วรำเพลงทวนทำแทงหลอกให้งง แล้วก็แกล้งทำว่าเสียหลักจากม้าที่นั่งอยู่ แล้วก็ตลบหลังหันไปในทันที


-- เห้ออ กว่าจาเสร็จ ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ
แล้วฝากถึงคนอื่นๆถ้าจะให้ช่วย ติดต่อพี่ได้นะคะ malapropos@hotmail.co.th
หรือไม่ก็มาฝากข้อความที่My.idของพี่ก็ได้จ้า

1
Ggdahh 1 ส.ค. 60 เวลา 22:22 น. 3-1

ขอบคุณค่าาา ไม่ได้ไว้นี่เเย่เเน่ๆขอบคุณน้าค่าาาา

0
ฺbambiie 27 มิ.ย. 56 เวลา 17:11 น. 7

ช่วยหนูแปลหน่อยนะค่ะ

ครั้นถึงจึงหยุดจตุรงค์ เสด็จไปเฝ้าพระองค์เชษฐา
ถ้อยทีมีใจปรีดา ตรัสสั่งสนทนาพาที
แล้วแถลงแจ้งเหตุบรรยาย แต่ต้นจนปลายถ้วนถี่
วันนั้นน้องมาถึงธานี ได้ทูลว่าพระพี่จะยกมา
ดูดีท้าวตรัสเห็นขัดเคือง ว่าไหนจะจากเมืองหมันหยา
เมียเขาเขารักดังแก้วตา หรือจะอาจคลายคลาเห็นผิดไป
แต่พระเชษฐาให้หาตัว ก็ไม่มีความกลัวยังขัดได้
เกิดณรงค์สงครามก็เพราะใคร จนเดือดร้อนทั่วไปถึงธานี
นับประสาอะไรแก่ตัวเรา ถึงตายเขาก็ไม่ดูผี
เห็นเคืองขัดตรัสซ้ำอยู่ดังนี้ พระภูมีจงทราบบทมาลย์

0
พรค่าาาา 20 ส.ค. 56 เวลา 23:15 น. 9

ขอบคุนมากๆเลยค่า ส่งพรุ่งนี้ด้วย ตามหามาหลายเว็บแล้ว ขอบคุนจากใจเลย เราเป็นคนไม่เก่งภาษาไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วมาเจอแบบให้แปลแบบนี้ไปไม่เป็นเลยอ่ะ ต้องขอบคุนจริงๆนะคะ เยี่ยม

0
Heip pess 22 ส.ค. 57 เวลา 19:11 น. 13

ถอดความ บทนี้ให้หน่อยค่ะ

เมื่อนั้น สองกษัตริย์ฟังแจ้งแถลงไข
จึงทูลขัดทัดทานทันใด เป็นไฉนผ่านเกล้ามาเบาความ
อันสุริย์วงศ์เทวัญอสัญหยา เรืองเดชเดชาชาญสนาม
ทั้งโยธีก็ชำนาญการสงคราม ลือนามในชวาระอาฤทธิ์
กรุงกษัตริย์ขอขึ้นก็นับร้อย เราเป็นเมืองน้อยกระจิหริด
ดังหิ่งห้อยจะแข่งแสงอาทิตย์ เห็นผิดระบอบบุราณมา
ใช่จะไร้ธิดาทุกธานี มีงามแต่บุตรีท้าวดาหา
พระองค์จงควรตรึกตรา ไพร่ฟ้าประชากรจะร้อนนักตกใจ

0
มาย 17 ส.ค. 64 เวลา 21:48 น. 16

•บัดนั้น ฝ่ายดักมังกุเรปันกรุงศรี

ครั้นถึงหมันหยาธานี ก็ตรงไปยังที่ประเสบัน

ขึ้นบนชานพักตำหนักนอก พอเห็นเสด็จออกดิดาหยัน

จึงเข้าไปใกล้องค์พระทรงธรรม์ อภิวันท์เเล้วถวายสารา

ช่วยถอดบทความให้หน่อยได้มั้ยคะคือหาเเล้วไม่เจอจริงๆคะ











1
ท้อ 3 ก.ค. 65 เวลา 16:26 น. 16-1

พี่ช่วยแปล หน้า 62 ให้หน่อยค่า

ขอบคุณล่วงหน้า

0
Chompoo 30 พ.ย. 65 เวลา 11:13 น. 18

ช่วยบทนี้หน่อยได้มั้ยคะ

เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีใจหาญ

จึงตอบอนุชาชัยชาญ เจ้าจะต้านต่อฤทธิ์ก็ตามใจ

แต่อย่าลงจากพาชี เพลงกระยี่ยังหาชำนาญไม่

เพลงทวนสันทัดชัดเจนใจ เห็นจะมีชัยแก่ไพรี

ฯ ๔ คำ ฯ

เมื่อนั้น สังคามาระตาเรืองศรี

น้อมองค์ลงถวายอัญชลี กะระตะพาชีขึ้นไปพลัน

ฯ ๒ คำ ฯ

ยืนม้าอยู่ตรงวิหยาสะกำ แสร้งทำเป็นทีเย้ยหยัน

แล้วว่าใครไม่คิดแก่ชีวัน จะชิงตุนาหงันพระธิดา

จงมาเล่นทวนด้วยกันก่อน ให้เห็นฤทธิรอนแกล้วกล้า

แม้นควรคู่กับวงศ์เทวา จึงจะยกกัลยาให้ไป

ฯ ๔ คำ ฯ

เมื่อนั้น วิหยาสะกำศรีใส

ได้ฟังแค้นขัดกลัดใจ จึงตอบคำไปด้วยพลัน

ดูก่อนเจ้าผู้เรืองฤทธิรงค์ รูปทรงงามสมคมสัน

เชื้อชาติญาติวงศ์พงศ์พันธุ์ อยู่เขตขัณฑ์ธานีบุรีไร

หรือเป็นวงศ์อสัญแดหวา ในสี่นคราเป็นไฉน

จึงปั้นหน้ามาต่อฤทธิไกร ไม่กลัวชีวาลัยจะมรณา

ที่ยืนม้าอยู่ข้างหลังนั้น กั้นกลดพื้นสุวรรณโอ่อ่า

นามวงศ์พงศ์ใดจงบอกมา แจ้งกิจจาแล้วจึงจะรบกัน

ฯ ๘ คำ ฯ

0
เรดรอ 2 ธ.ค. 65 เวลา 11:58 น. 19

สถิติ

เปิดเมื่อ 19/07/2012

อัพเดท 26/07/2012

ผู้เข้าชม 126165

แสดงหน้า 159467

เมนู

หน้าแรก

ข่าวสาร

บทความ

เว็บบอร์ด

รวมรูปภาพ

สมาชิก

ติดต่อเรา

บทความ

บทความทั่วไป

ปฎิทิน

December 2022

Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat

1 2 3

4 5 6 7 8 9 10

11 12 13 14 15 16 17

18 19 20 21 22 23 24

25 26 27 28 29 30 31

อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง

อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง

อ้างอิงอ่าน 133431 ครั้ง / ตอบ 19 ครั้ง

lovecherry

อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง

เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงใจกล้า

จึงว่าเรายกโยธา หมายจะมาชิงพระบุตรี

ถึงจะรับของสู่ระตูไว้ ยังมิได้ทำการภิเษกศรี

จรกาไม่มาก็ยิ่งดี ไม่มีผู้หวงแหนเกียดกัน

สุดแท้แต่นางอยู่ที่ไหน เราก็จะชิงชัยที่นั่น

อันชิงนางอย่างนี้ไม่ผิดธรรม์ ธรรมเนียมนั้นมีแต่บุราณมา

สุดแต่ใครดีใครได้ การอะไรของเจ้าผู้เชษฐา

จงยกทัพกลับคืนไปพารา เบื้องหน้าจะได้สืบสุริย์วงศ์

ถอดคำประพันธ์

ท้าวกะหมังกุหนิงกล่าวว่า เรายกทัพมาหมายจะช่วงชิงพระธิดา แม้รับหมั้นระตูจรกาไว้แต่ก็ยังไม่ได้เข้าพิธีอภิเษก จรกาไม่มาก็ยิ่งดี จะได้ไม่มีคนหวงแหนกีดกัน นางอยู่ที่ไหนเราจะชิงเอาที่นั่น การชิงนางอย่างนี้ ไม่ผิดธรรมเนียมโบราณ ใครดีใครได้ ไม่ใช่ธุระกงการของเจ้าซึ่งเป็นพี่ จงยกทัพกลับบ้านเมืองเสีย จะได้สืบวงศ์เทวาสืบไปในภายหน้า

เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีตอบตามประสงค์

ซึ่งจะให้เรายกจตุรงค์ คืนคงกรุงไกรนั้นไม่ควร

อับอายไพร่ฟ้าประชาชน เสนีรี้พลจะแซ่สรวล

หรือหมายไม่สมคะเนเรรวน จึงชวนพูดจาหย่าทัพ

อย่าพักพูดอุบายให้ตายใจ ท่านมิยกคืนไปก็ไม่กลับ

รี้พลจะพลายย่อยยับ เราก็ระตูมาสู้กัน

จะได้ลองฤทธีฝีมือ ให้ลือชื่อในชวาเขตขัณฑ์

หรือรักตัวกลัวจะม้วยชีวัน บังคมคัลจะให้คืนไปพารา

ถอดคำประพันธ์

อิเหนาตอบทันทีว่า การให้เราล่าทัพกลับเมืองนั้นไม่เป็นการสมควร จะเป็นที่อับอายเย้ยหยันแก่ไพร่ฟ้าประชาชนและเหล่าทหาร หรือท่านเห็นท่าจะไม่สมหวังจึงชวนเราหย่าศึกหรือเป็นอุบายให้เราตายใจ ถ้าท่านไม่ยกทัพคืนไปเราเองก็ไม่กลับ มาประลองฝีมือกันให้เป็นที่เลื่องลือทั่วแดนชวา เพื่อรี้พลไม่พลอยพินาศด้วยจะดีกว่า หรือว่าท่านรักตัวกลัวตายก็จงมาไหว้เราเสียจะได้ไว้ชีวิตให้ยกทัพกลับเมือง

เมื่อนั้น วิหยาสะกำใจกล้า

ได้ฟังคั่งแค้นแทนบิดา จึงร้องตอบวาจาว่าไป

ดูก่อนอริราชไพรี อย่าพาทีลบหลู่ท่านผู้ใหญ่

โอหังบังอาจประมาทใคร จะนอบน้อมยอมไหว้อย่าพึงนึก

มิเราก็เจ้าจะตายลง อย่าหมายจิตคิดทะนงในการศึก

ยังมิทันพันตูมาขู่คึก จะรับแพ้แลลึกไม่มีลาย

ถอดคำประพันธ์

วิหยาสะกำได้ฟังเช่นนี้ก็รู้สึกแค้นใจแทนบิดาจึงร้องไปว่า พวกเจ้าอย่าพูดจาลบหลู่ผู้ใหญ่ อย่าโอหังบังอาจเช่นนี้ อย่านึกว่าใครจะยอมนบไหว้ ไม่เราก็เจ้าต้องตายไปข้างหนึ่ง ยังไม่ทันลงมือก็อย่ามาขู่ที่จะยอมแพ้นั้นอย่าหมายเลย

เมื่อนั้น สังคามาระตาเฉิดฉาย

ฟังวิหยาสะกำอภิปราย หยาบคายเคืองขัดอัธยา

จึงทูลองค์ระเด่นมนตรี น้องนี้จะขออาสา

สู้วิหยาสะกำผู้ศักดา พระองค์จงยืนม้าเป็นประธาน

ถอดคำประพันธ์

สังคามาระตาได้ฟังคำพูดหยาบคายของวิหยาสะกำ รู้สึกขัดใจจึงทูลอิเหนาว่าน้องขออาสาสู้กับวิหยาสะกำ ขอเจ้าพี่ยืนม้าเป็นประธานให้ด้วย

เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีใจหาญ

จึงตอบอนุชาชัยชาญ เจ้าจะต้านต่อฤทธิ์ก็ตามใจ

แต่อย่าลงจากพาชี เพลงกระบี่ยังหาชำนาญไม่

เพลงทวน-ทัดชัดเจนใจ เห็นจะมีชัยแก่ไพรี

ถอดคำประพันธ์

อิเหนาตอบสังคามาระตาว่า เจ้าจะสู้ก็ตามใจแต่อย่าลงจากหลังม้า เพราะเจ้ายังไม่ชำนาญเพลงกระบี่ ถ้าใช้เพลงทวนที่ชำนาญเจ้าจะชนะศัตรู

เมื่อนั้น สังคามาระตาเรืองศรี

น้อมองค์ถวายอัญชลี กะระตะพาชีขึ้นไปพลัน

ถอดคำประพันธ์

สังคามาระตาทำความเคารพอิเหนาแล้วเร่งม้าไปทันที

ยืนม้าอยู่ตรงวิหยาสะกำ แสร้งทำเป็นทีเย้ยหยัน

แล้วว่าใครไม่คิดแก่ชีวัน จะชิงตุนาหงันพระธิดา

จงมาเล่นทวนด้วยกันก่อน ให้เห็นฤทธิรอนแกล้วกล้า

แม้นควรคู่กับวงศ์เทวา จึงจะยกกัลยาให้ไป

ถอดคำประพันธ์

แล้วหยุดยืนหน้าวิหยาสะกำแกล้งทำทีเยาะเย้ยว่า ใครไม่เห็นแก่ชีวิตคิดจะชิงนางบุษบา จงออกมาต่อสู้แสดงฝีมือและความแกร่งกล้าด้วยทวนกันก่อน แม้คู่ควรกับวงศ์เทวาก็จะได้นางไป

เมื่อนั้น วิหยาสะกำศรีใส

ได้ฟังแค้นขัดกลัดใจ จึงตอบคำไปด้วนพลัน

ดูก่อนเจ้าชู้เรืองฤทธิรงค์ รูปทรงงามสมคมสัน

เชื้อชาติญาติวงศ์พงศ์พันธุ์ อยู่เขตขัณฑ์ธานีบุรีไร

หรือเป็นวงค์อสัญแดหวา ในสี่นคราเป็นไฉน

จึงปั้นหน้ามาต่อฤทธิไกร ไม่กลัวชีวาลัยจะมรณา

ที่ยืนม้าอยู่ข้างหลังนั้น กั้นกลดพื้นสุวรรณโอ่อ่า

นามวงศ์พงศ์ใดจงบอกมา แจ้งกิจจาแล้วจึงจะรบกัน

ถอดคำประพันธ์

วิหยาสะกำได้ฟังก็ขัดแค้นใจจึงตอบไปว่า เดี๋ยวก่อนเจ้าผู้มีความสามารถในการรบ และมีรูปงามคมสันเจ้าเป็นเชื้อวงศ์เมืองใด หรือเป็นวงศ์อสัญแดหวาหนึ่งในสี่เมือง จึงคิดมาหาญสู้ไม่กลัวตาย ผู้ยืนม้ากั้นกลดอยู่ข้างหลังนั้นเป็นใครช่วยบอกด้วย เมื่อรู้เรื่องแล้วเราจะได้รบกัน

เมื่อนั้น สังคามาระตาเฉิดฉัน

ได้ฟังดังศรเสียบกรรณ จึงตอบไปพลันทันใด

อันองค์สมเด็จพระปิ่นเกล้า คืออิเหนากุเรปันเป็นใหญ่

นั่นกะหรัดตะปาดีชาญชัย ร่วมในสุริย์วงค์ธิบดี

นี่สุหรานากงทรงสวัสดิ์ องค์อะหนะสิงหัดส่าหรี

นั่นระเด่นดาหยนภูมี อยู่หมันหยาธานีกรุงไกร

เราชื่อสังคามาระตา หน่อท้าวปักมาหงันเป็นใหญ่

ได้เป็นอนุชาเรืองชัย ภูวไนยองค์ระเด่นมนตรี

ถอดคำประพันธ์

สังคามาระตาได้ฟังก็รู้สึกเจ็บปวดเหมือนศรเสียบหูตอบว่า ผู้เป็นจอมทัพคืออิเหนาโอรสท้าวกุเรปันนั่นกะหรัดตะปาตีโอรสท้าวกุเรปันเช่นกัน นี่สุหรานากงโอรสท้าวสิงหัดส่าหรี นั่นระเด่นดาหยนแห่งเมืองหมันหยา ตัวเราชื่อสังคามาระตาโอรสระตูปักมาหงัน อนุชาของอิเหนา

เมื่อนั้น วิหยาสะกำเรืองศรี

ยิ้มแล้วจึงกล่าววาที ซึ่งว่ามานี้ยังแคลงใจ

อันเกาหลังสิงหัดส่าหรีนั้น ดาหากุเรปันกรุงใหญ่

ทั้งหมันหยาธานีนั้นไซร้ ก็แจ้งใจว่าวาศ์กันสืบมา

ตัวสิอยู่ปักมาหงัน ใช่วงศ์อสัญแดหวา

เหตุใดว่าเป็นอนุชา นับในวงศาประการใด

หรือหนึ่งพึ่งจะมาเป็นน้อง เกี่ยวข้องรักกันเป็นไฉน

เราคิดเห็นผิดประหลาดใจ จงบอกไปแต่จริงบัดนี้

ถอดคำประพันธ์

วิหยาสะกำยิ้มแล้วกล่าวว่าเราสงสัยว่ากาหลัง สิงหัดส่าหรี ดาหา และกุเรปันอีกทั้งหมันหยา เป็นที่รู้ว่าร่วมวงศ์เดียวกัน ตัวท่านอยู่ปักมาหงัน ไม่ใช่วงศ์เทวา เหตุใดจึงว่าเป็นอนุชาอิเหนา หรือเพิ่งมมาเกี่ยวดองเป็นพี่น้อง ฟังแล้วน่าประหลาดใจนัก จงอธิบายมาซิ

0