Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เงินเดือนเชฟทำขนม-เชฟทำอาหาร

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากทราบว่า
1.ระหว่างเชฟทำขนมกับเชฟทำอาหารใครได้เงินเดือนดีกว่ากัน
2.ตลาดแรงงานต้องการเชฟแบบไหนมากกว่า
3.เชฟแบบไหนหางานทำได้ง่ายกว่า
4.ถ้าจะเรียนควรจะเรียนเปงเชฟอะไรดี
5.มีสถาบันไหนที่เปิดสอนระดับปริญาตรีด้านนี้บ้าง
อยากรู้จริงๆคะหาข้อมูลไม่ได้เลยถ้าใครรู้รบกวนตอบด้วยนะคะ

แสดงความคิดเห็น

>

33 ความคิดเห็น

halland 1 ม.ค. 55 เวลา 20:35 น. 1
 ถ้าได้ทำงานที่ตัวเองรักและชอบแล้ว เงินเดือนเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญหรอกครับ

0
Unsimao!! 1 ม.ค. 55 เวลา 20:48 น. 2

 ทำอาหารครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ทำงานด้วยนะครับ ว่าเค้าจะให้เท่าไร 


PS.  เมื่อกลางคืนไร้นภา เมื่อเมฆาเกิดหม่นหมอง เมื่อวายุเริ่มสั่นคลอน เมื่อสายหมอกเริ่มจางลง เมื่ออัสนีลงมาจากฟ้า เมื่อพิรุนลงมาสู่พื้น เมื่ออรุนนั้นไร้แสงในกลางคืน...เมื่อนั้น จะปรากฏ ตัวข้า ออกมา
0
=w= 2 ม.ค. 55 เวลา 00:17 น. 3

โฮ่ๆๆ มีแฟนเป็นเชฟไม่ก็ทาทิซิเย่ก็โอละ=w=ชอบหม่ำ(เกี่ยวมั้ย)

ถ้าฝีมือดีๆโอกาสก็เยอะอ่าค่ะ ต้องขวนขวายหน่อยนึง ที่เมืองนอกนี่รู้สึกจะค่อนข้างป็อบกว่าในเมืองไทยนะคะ(คหสต.)

0
*-* 2 ม.ค. 55 เวลา 05:18 น. 4

ที่เปิดสอนก็เคยได้ยินของดุสิตธานีอะค่ะที่ดังๆ
อาจารย์แนะแนวที่โรงเรียนบอกว่าบางคนจบไปเป็นเชฟที่สถานทูตเมืองนอก เงินเดือนแสนสองไรงี้
สุดยอดมากกกก แต่ต้องเรียนเป็นแบบของเลอกระดองเบอร์อะไรนี่แหละ

รู้สึกมีทุนด้วยนะคะ ลองหาข้อมูลดู

0
13579 2 ม.ค. 55 เวลา 10:58 น. 5

1.ระหว่างเชฟทำขนมกับเชฟทำอาหารใครได้เงินเดือนดีกว่ากัน
- โดยส่วนตัวคิดว่าแล้วแต่สถานที่ที่ได้ไปทำอยู่ตรงจุดนั้น อย่างถ้าได้ไปทำบนเรือสำราญ
&nbsp  ก็คงต้องเชฟทำอาหาร อย่างพี่เราเค้ายังไม่ทันจบ ตอนนี้ก็ไปทำร้านอาหารฝรั่งเศส
&nbsp  เงินเดือนก็สตาร์ทที่หมื่นกว่าๆแล้วค่ะ

2.ตลาดแรงงานต้องการเชฟแบบไหนมากกว่า
- คิดว่าต้องการทั้ง2แบบ แต่ที่ต้องการจริงๆคือคนที่ทำอร่อย ฝีมือทั่วไปพื้นๆมีเยอะนะ

3.เชฟแบบไหนหางานทำได้ง่ายกว่า
- คิดว่าเชฟทำอาหารนะคะ เห็นแต่ร้านค้าส่วนใหญ่มักรับสมัครเชฟทำอาหาร ขนมหวานไม่ค่อยเห็น
&nbsp ส่วนมากพอเรียนจบ ผู้คนมักจะไปเรียนเป็นคอร์สกับอาจารย์ชื่อดังเพิ่ม
เพิ่มจะได้มีคล้ายๆกับ เป็นพอร์ตเชิดตัวเองไว้เวลาไปหางาน

4.ถ้าจะเรียนควรจะเรียนเปงเชฟอะไรดี
- แล้วแต่ความชอบนะคะ อันนี้เราว่าควรจะตัดสินตัวเอง ให้ใครตัดสินให้คงลำบาก
หากเลือกทางผิด .. แต่เราว่า เชฟทำอาหารไปได้ไกลกว่าค่ะ เพราะเมนูและวัตถุดิบ
สามารถสร้างสรรค์อหารได้หลากหลายมากกว่าขนมหวาน

5.มีสถาบันไหนที่เปิดสอนระดับปริญาตรีด้านนี้บ้าง
- เราไม่ค่อยรู้อ่ะค่ะ แต่พี่เราเรียนอยู่ดุสิตธานี ที่นี่ก็โอเคค่ะ ถ้าไม่มีปัญหากับค่าเทอม
และปัญหาเล็กๆน้อยๆบางอย่าง เพราะนอกจากจะได้เรียนเชฟ เค้าจะให้เราเลือกด้วยว่า
จะเรียนบริหารอะไรควบคู่ไปอีก ที่สำคัญได้ภาษาอังกฤษด้วยค่ะ
เราไม่รู้ว่าปีไหนเป็นยังไงนะ แต่พี่เราเรียนเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ^^
แล้วค่อยไปเรียนเป็นคอร์สใหญ่ๆกับอาจารย์ชื่อดังดีกว่า เหมือนเรียนเพื่อนเอาสูตร
แล้วเอามาอะแดปกับอาหารของเรา ~~~


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราว่าขึ้นอยู่กับตัว จขกท เองนะคะ อย่าฟังเรามาก
มันเป็น คหสต ของเรา 55
ถ้าใจรักและมีฝีมือก็โอเคแล้วล่ะเนอะ
เราเป็นคนนึงที่ชอบการได้ทานอาหารอร่อยๆ โดยเฉพาะอาหารไทยแบบพื้นๆ
ซึ่งไม่รู้ทำไม ปัจจุบัน หาไม่ค่อยได้เลยค่ะ U_U
ยังไงก็สู้ๆนะคะ ว่าที่เชฟชื่อดัง~ ^^

0
naruren 2 ม.ค. 55 เวลา 18:17 น. 6

จะว่าไป ตั้งแต่เราดูรายการ Top Chef เรียลลิตี้ของอเมริกา
เราก็ชักสนใจเรื่องเชฟอยู่เหมือนกัน ใครดูมั่ง + +

แต่อาชีพเชฟของต่างประเทศจะเป็นที่นิยมอยู่เหมือนกัน
คือ ถ้าได้เป็นระดับ executive chef หรือ chef de cuisine จะรายได้สูงมากๆ

แต่ถ้าให้เลือกเชฟของคาว กับของหวาน ก็แล้วแต่ชอบ แล้วแต่ถนัดอ่ะค่ะ
เราว่าเชฟของหวานน่าจะยากกว่า ในแง่ของคุณภาพ เพราะเรื่องตวงต้องเป๊ะๆ ตอนผสมก่อนอบก็ชิมไม่ได้ (ใช่ป่าวหว่า - -)

1
เซน 5 ต.ค. 65 เวลา 08:33 น. 6-1

ทำขนมเบเกอรี่ยากกว่าทำ อาหารคาว ทำเบเกอรี่ส่วนผสมต้องไม่พลาด เวลาในการนวดแป้งหรือตีส่วนผสม อุณหภูมิต้องไม่ผิดพลาด เทคนิคต่างๆเยอะและยากกว่าทำอาหารมาก ทั้งเรื่องอุณหภูมิขณะอบ ยังมีเทคนิคการอบหน้าขนม ก้นขนมอีกด้วย ไม่เพียงนี้ถ้าเป็นขนมระดับสูง คุณยังต้องรู้เรื่องพื้นฐานของเชฟทำอาหารด้วย เช่นการใช้มีด การต้ม การปรับอุณหภูมิส่วนผสมก่อนผสม และอื่น การทำครีม ซอส และอื่นๆ แต่เชฟทำอาหาร ทำขนมพื้นๆนิดๆหน่อยได้แค่นั่นเอง

0
แงแง้ 2 ม.ค. 55 เวลา 18:25 น. 7

เรียนที่ดุสิตดิ ดีมากๆๆเลยอ้ะ จบมาเงินเดือนก้สูง เราก้อยากเรียนแต่พ่อแม่ไม่ให้ง้ะ T^T

1
เซน 5 ต.ค. 65 เวลา 08:41 น. 7-1

ทางบ้านต้องมีฐานะครับไม่งั้นเรียนไม่ไหว เคยไปถามค่าเรียนแค่เบเกอรีพื้นฐาน 2แสนบาทแล้ว เขาแบ่งเป็นคอร์ส ไม่ใช่แบบบ้านเรา เรียน 1-3ปีได้ปริญญาทำเป็นทุกอย่างแต่แค่พื้นฐาน กะสูตรสำเร็จ แต่ไม่มีความรู้ระดับเชฟท่ี่จะคิดสูตรเองได้

0
ถถถถ 2 ม.ค. 55 เวลา 18:31 น. 8

อยากถามว่าสอบสัมภาษที่ดุสิตยากมั้ย เค้าถามอะรัยบ้าง กลัวววว จะไปสอบแล้วๆ ฃบอกหน่อยๆๆ

0
น้อง 2 ม.ค. 55 เวลา 18:38 น. 9

เอิ่มม ทักษะทางด้านอาหารเราคิดว่ามันคือพรสวรค์ที่ทุกคนไม่ได้มีเหมือนกัน อย่างพี่เราเรียนจบดุสิตธานีทำอาหารไม่ได้อร่อยอะไรมากมาย ต้มซุปยังใช้คนอร์ ผัดผักก็ยังใส่ผงปรุงรส หมักหมูก็ไม่นุ่ม เรียนทางด้านนี้ขอให้ใจเรารักจริงๆ อย่าคิดว่าเป็นเชฟเท่ห์ดี เงินเดือนเยอะ เพราะคนเราไม่สามารถทำสิ่งที่ตัวเองไม่ได้รักไปได้ตลอดชีวิต..และมันจะเป็นอาชีพที่ติดตัวเราไปจนตายเลยนะ

1
เซน 5 ต.ค. 65 เวลา 08:48 น. 9-1

ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ครับ พรแสวงก็ได้ แค่คุณเป็นคนมีระเบียบวินัย และเป็นคนช่างสังเกตุ ทำงานละเอียดละออ ไม่มักง่าย ไม่ชุ่ย ไม่อวดดีคุณก็ทำออกมาได้อร่อยเหมือนคนสอนครับ เอาง่ายๆความสามารถของเชฟที่ดีคือ "นัก copy" เพราะคำนี้ขยายความว่า คือต้องมีความอุสาหะใส่ใจทุกรายละเอีนด ทำตามไม่ผิดพลาด รวมถึงการตั้งใจเรียนทฤษฎีให้ท่องแท้ด้วย

0
lavenderblack 2 ม.ค. 55 เวลา 19:33 น. 10

เงินเดือนสำคัญนะ คห. 1 สมัยนี้พูดไม่ได้หรอกว่าเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ น้ำท่วมบ้านที มีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้นทีนึง จะให้ใครมาเลี้ยงเราได้ตลอดหรอ เจ็บไข้ได้ป่วยไม่สบาย มีลูกแล้วไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมส่งลูกเรียนดีดี เงินเก็บน้อย เงินจ่ายไม่พอ ก็เครียดตายจิคะ

จขกท คิดดีแล้วที่ถามแบบนี้ .. แต่เราก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ตรงๆหรอก คุณต้องเลือกสิ่งที่เหมาะกับคุณด้วย หากคุณมีความสามารถที่ดี มีพรสวรรค์ มีความพยายามไม่ยอมแพ้ และมีทรัพย์ในการลงทุน เราคิดว่า คุณจะทำร้านอาหาร หรือ ร้านขนม คุณก็รุ่ง เพียงแค่เลือกแบบที่เหมาะกับคุณ และลงทุนในสิ่งที่จะรุ่งในตลาดเท่านั้น

ส่วนที่ถามว่าตลาดต้องการคนทางด้านไหนมากกว่า?

ก็ขอบอกก่อนว่า สมัยนี้..ไม่ว่าจะทำอะไร มันก็ต้องขายไอเดีย ขายความสามารถแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร ขายสินค้าที่มีคุณภาพ รสชาติดี บริการดี รูปลักษณ์ของร้านดูดีด้วย.... สรุปคือ ไอเดีย ความพิเศษนั่นสำคัญสุดในการที่จะส่งผลให้สินค้าของเราประสบความสำเร็จ

-------

ในความคิดเห็นของเรา .. เราคิดว่า อาหารเป็นสิ่งที่คนกินทุกวัน ไม่มีกินเมื่อไรก็ตาย .. ด้านการเรียนด้านอาหารจึงเป็นวิชาชีพใช้ทำมาหากินได้ไม่ว่าจะอยู่ประเทศใดก็ตาม .. แต่แค่ทำเป็นมันก็ไม่พอ .. ก็ต้องหาจุดเด่นใส่ลงไปในอาหารไม่ให้เหมือนร้านอื่น .. ขายไอเดียในอาหารและร้าน .. เพราะร้านอาหารสมัยนี้มันมีเยอะแล้ว .. ก็ต้องพยายามแข่งขันกับคนที่อยู่อยู่ในตลาดอาหารก่อนให้ได้ และ แข่งกับคู่ค้าใหม่ให้ได้ .. ถ้าจบมาเปิดร้านเอง เรื่องทำเลก็สำคัญ สมัยนี้ที่ดิน ที่เช่าก็แพงมาก ถ้าจะเปิดร้านเองก็คงต้องวางแผนมาก ไม่งั้นก็ต้องทำที่อื่นไปก่อน


ส่วนเรื่องด้านการทำขนม ... ขนมไม่ใช่อาหารที่เรากินเป็นหลักอยู่แล้ว ... ดังนั้น กลุ่มลูกค้าหลักก็จะเป็นวัยรุ่นและผู้หญิงซะส่วนใหญ่

ในความคิดเรา เราคิดว่ามันเพิ่งจะมา BOOM! (มากกว่าแต่ก่อน) บูมเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองในเมืองไทย ซึ่งที่บูมๆฮิตๆกันอยู่ก็เป็นพวกเค้ก คุ้กกี้ แบบญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ตกแต่งสวยๆ .. มันมีอิทธิพลมาจากรายการโทรทัศน์ รายการทีวี และอินเทอร์เน็ต ที่มีรายการร้านของหวาน แข่งกินขนมหวาน ถ่ายรูปขนมสวยๆลง social network เป็นต้น เหมือนเป็นเทรนด์แฟชั่น

ร้านขนมที่คนในสมัยนี้นิยมกันมักจะเน้นไปที่เรื่องคุณภาพ วัตถุดิบที่ใช้ และ รูปลักษณ์สวยงาม ร้านน่านั่ง เข้าไปกิน หรือซื้อมากินแล้วรู้สึกว่าเริ่ด... สังเกตได้ว่าร้านขนมที่คนฮิตกินกันในตอนนี้ (ในกรุงเทพ) เช่นร้าน คริสปี้ครีม, คอฟฟี่บีนบายดาว เป็นต้น มักมีราคาค่อนข้างสูง .. เพราะวัตถุดิบ สถานที่ และไอเดียขนม ...  รวมไปถึงการตกแต่งและชนิดของขนม .. ยิ่งเป็นขนมต่างชาติ วัยรุ่นไทยยิ่งฮิตอยู่ตอนนี้ ... ก็ลองคิดดูว่า .. ในวันที่ จขกท เรียนจบน่ะ คิดว่าจะทำขนมแนวไหนมาตีตลาด จะทำร้านแนวไหน ... ร้านเบเกอรี่ขายขนมปังหมูหยอง แยมโรล ไรงี้ สมัยนี้มันมีเยอะมาก แล้วเจ้าเก่าเปิดมานานแล้วก็มีเยอะเหมือนกัน

ลองคิดว่าแล้วทำอาหารกับขนม แบบไหนจะทำให้เราเลี้ยงดูตัวเองได้ดีกว่ากัน
ทำร้านชนิดไหนที่จะอยู่รอด และ รุ่งในหลายปีข้างหน้าที่คุณจะจบ ดูเศรษฐกิจ ดูความสามารถ ดู capacity ของคุณเอง

แต่สำคัญก็ต้องดูความชอบของตัวเองด้วย .. คนเราบางที ทำอะไรที่ชอบ มันก็จะมีความอดทนและมีแรงผลักดันมากกว่าทำสิ่งที่ไม่ชอบ

สรุป ลองคิดดูเอง ว่าจะเอายังไง
เราแนะนำได้แค่นี้แหละ ... จะเป็นยังไงก็เลือกเอาเอง จะได้ไม่เสียใจนะ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 2 มกราคม 2555 / 19:35
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 2 มกราคม 2555 / 19:39
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 2 มกราคม 2555 / 19:44
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 2 มกราคม 2555 / 19:47
แก้ไขครั้งที่ 5 เมื่อ 2 มกราคม 2555 / 19:48

0
oioi 2 ม.ค. 55 เวลา 23:57 น. 11

ความคิดเห็นที่ 6 เราดู Top Chef&nbsp เหมือนกันตอนนี้เลยจะเรียนเชฟแล้ว 5555&nbsp  ตอนนี้ก็จะมีที่ราชภัฏสวนดุสิตที่กำลังรอสอบตรงอยู่&nbsp ดุสิตธานีค่าเทอมไม่ไหวอ่ะ T^T

0
Milds 3 ม.ค. 55 เวลา 11:39 น. 12

เราพึ่งไปสอบสัมภาษณ์มา สอบไม่ยากหรอกเค้าจะดู บุคคลิกเราอะ

แต่ถ้าเกรดเฉลี่ยไม่ถึง 3 ก็ต้องสอบข้อเขียนด้วย

0
ีะดาัเน 3 ม.ค. 55 เวลา 17:26 น. 16

เราก็อยากเป็นเชพเหมือนกัน

ชอบทำอาหารอ่ะ
คิดว่าทำได้ดีด้วย

ถ้าจะเป็นก็จะเอาให้ได้ดีไปเลยต้องอยู่ในโรงแรมหรูๆอ่ะ

ต้องตั้งใจเรียน

ปล.
ขำ ค.ห.1


ให้เราพูด เราก็พูดได้

เหอๆๆ

0
oioi 3 ม.ค. 55 เวลา 21:28 น. 17

คห.12 กับ 13&nbsp เค้ารับสมัครตอนไหนอ่ะค่ะ&nbsp เราไม่รู้เรื่องเลยรู้แค่ว่ามีรอบสอบตรงตอนเดือนกุมภา (ตกข่าวแล้วเรา T^T)

0
pzpatz 4 ม.ค. 55 เวลา 11:34 น. 18

1.ระหว่างเชฟทำขนมกับเชฟทำอาหารใครได้เงินเดือนดีกว่ากัน
- พี่ตอบไม่ได้นะคะ แต่เงินเดือนน่าจะสตาร์ทที่ 15,000 นะตามที่พี่เคยได้ยิน แต่บางคนได้มากกว่านั้นอีกนะ ^^

2.ตลาดแรงงานต้องการเชฟแบบไหนมากกว่า
- ทั้งสองแบบแหละจ้า พี่เรียนอยู่ดุสิตานี(การโรงแรมนะ 55) เขามาเอาตัวเด็กไปเยอะนะ แบบตั้งเป็นซุ้มเลย มาแบบของโรงแรมแชงกรีล่าอะไรแบบนี้แหละจ้า มาถึงถิ่งกันเลยทีเดียว บางคนฝึกงานแล้วได้งานเลยนะ อยู่ที่ตัวน้องด้วยนะอันนี้

3.เชฟแบบไหนหางานทำได้ง่ายกว่า
- พี่ว่าเชฟทั้งสองแบบมันแบ่งตลาดนะ แต่เป็นพี่ๆเรียนเชฟอาหารนะ เพราะมันมีอะไรเยอะแยะ ขนมมันมีไม่เท่าไหร่ แถมเชฟอาหารก็ทำขนมได้นะ พี่เห็นอ.พูดอยู่ประมาณปลายปีที่แล้วท่านว่า ตอนนี้โีรงแรมหลายแห่งเขาต้องการเชฟอาหารกันเยอะ ดังนั้นพี่ว่าเชฟอาหารหางานง่ายกว่านะ มันมีอะไรหลากหลายนะ

4.ถ้าจะเรียนควรจะเรียนเปงเชฟอะไรดี
- เป็นพี่ๆเลือกเชฟอาหารนะ เพราะเพื่อนๆพี่ที่เรียนเชฟไทยเขาก็ได้ทำขนมกันด้วยนะ ควบ 2 แน่ะออกมาน่ากินมากๆเลยล่ะ -แต่พี่อยากให้น้องเลือกตามที่น้องถนัดนะ- พี่ว่าทำสิ่งที่ใจรักมันทำออกมาได้ดีที่สุดแหละจ้า

5.มีสถาบันไหนที่เปิดสอนระดับปริญาตรีด้านนี้บ้าง
- พี่รู้จักแค่ดุสิตธานีนิแหละ 555 ค่าเทอมโหดนะแต่พี่เป็นเด็กทุนกยศ. ถึงจะเป็นหนี้พี่ก็ยอมนะถ้าพี่ได้ทำตามฝัน แต่จบแล้วต้องใช้หนี้นะเพื่อเด็กๆรุ่นต่อไปจะได้มีเงินเรียนต่อ .. ถ้าน้องสนใจด้านนี้วิทยาลัยพี่ก็เป็น 1 ตัวเลือกนะ :) เห็นเป็นเอกชนดูชิลๆ เอาจริงๆที่นี่เรียนยากพอควรนะ(บางวิชา)หลายๆคนออกตอนปี1ก็มีเยอะ แบบไม่ไหว บางคนก็อยากเรียนวิชาเอกเต็มแก่ไม่ใช่นะคะ ที่นี่เรียนตั้งกะสากกระเบือยันเรือรบเลยล่ะ - -; คือเรียนจากลูกน้องไปยันเจ้านายเลยเพราะมันเป็นบริหารธุรกิจ ภาษาอังกฤษได้ชัวร์ค่ะ(ไม่รับประกันอยู่ที่ตัวน้องจะรับได้หมดไหม อ.เขาสปีคอิ้งค์กันพอสมควรนะ) ถ้าเรียนที่นี่วิชาอังกฤษจะมี พื้นฐานอังกฤษ อิ้งค์1 อิ้งค์2 อิ้งค์ประจำสาขา Bus eng1 Bus eng2 อ้อการเข้าครัวของที่นี่เริ่มปี 2 นะจ้ะวิชาพื้นฐานก่อนเลย

แต่ถ้าน้องสนใจทำขนมและมีทุนการเรียนสูง เรียน Le cordon bleu อันนี้หลักทำขนมจริงๆ แต่อิ้งค์ต้องเป๊ะนะของหลักสูตรนี้ จบมาได้ปริญญา 2 ใบทำงานได้ทั่วโลกเลยล่ะ :) แต่ถ้าเรียนของ Le เฉยๆที่สีลมหรือเปล่านะ 2 ปีก็จบนะ

เรื่องสอบสัมภาษณ์ขึ้นอยู่กะอ.จะถามนะ 555
คือก็ให้แนะนำตัว ทำไมถึงอยากเรียนตรงนี้ ดูบุคลิก อย่างพี่โดนสอบสัมอิ้งค์ด้วยนะ แต่แบบพี่ก็งูๆปลาๆไป อ.ก็บอกเข้าได้แล้วก็ฝึกอีกหน่อย ข้อเขียนพี่ว่ายากนะ(พี่เป็นเด็กกลางเทอมอ่ะจ้ะเลยได้สอบข้อเขียน เสียดายเกรดถ้าเข้าเทอมแรกสอบสัมฯอย่างเดียวเลย)

http://my.dek-d.com/pzpatz/ ติดต่อพี่เอาที่นี่นะถ้าคคล่องใจอะไรถ้าตอบได้จะตอบให้ พี่ขี้เกียจล็อกอินน่ะ 555

0
Boomiz 4 ม.ค. 55 เวลา 15:38 น. 19

สุดๆกันไปเลย ติดตามความมันส์หยดติ๋งๆกันต่อในมาดามมดไรเดอร์V1 Ep.2
www.youtube.com/watch?v=CCLUlURrPPg

0
BOOM 4 ม.ค. 55 เวลา 15:40 น. 20

เรียน เชฟ ต้อง ราชภัฎสวนดุสิต อัตลักษณ์ด้านที่ 1 สาขาอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ&nbsp เรื่องแข่งขันที่ 1 ของไทย ส่งนิสิตแข่งทั้งในไทยและเมืองนอกได้มาหลายรายการแล้ว

0