..(ข่าว).....ผลวิจัยจุฬาเผยภาษาไทย "บูม" รับประชาคมอาเซียน เพื่อนบ้านแห่เรียน
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่จากงานวิจัยเรื่อง "การเตรียมบุคลากรเพื่อรองรับการเปิดตลาดอาเซียน" ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าภาษาไทยจะมีความสำคัญในการสื่อสารและการมีงานทำ และจะเป็นภาษากลางของกลุ่มประเทศอาเซียนเท่าเทียมกับภาษาอังกฤษ เพราะต่อไปประเทศไทยจะถือเป็นศูนย์กลางของอาเซียน มีการเปิดเสรีการศึกษา ขณะเดียวกันงานวิจัยยังพบว่า ประเทศเพื่อนบ้านสนใจมาเรียนภาษาไทยมากขึ้น
นายสมพงษ์กล่าวว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ ประเทศไทยจะเปลี่ยนจากระบบอุตสาหกรรมขยะคือ อุตสาหกรรมที่ผลิตพลาสติก มาเป็นอุตสาหกรรมสะอาดดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เท่ากับเป็นการยกระดับแรงงาน และอุตสาหกรรมของประเทศ
ดังนั้น สิ่งที่ควรเตรียมพร้อมคือ เตรียมส่งออกครูภาษาไทย ครูช่าง รวมถึงสิ่งที่เป็นจุดเด่นของประเทศไทย เพื่อใช้เป็นจุดแข็งสำหรับสอนชาวต่างชาติ สิ่งที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทยคือ ภาคเอกชน ดังจะเห็นได้ว่าทุกวันนี้มีสินค้าไทยวางจำหน่ายอยู่ในทุกประเทศ ส่วนจุดอ่อนที่สุดของไทยคือ เรื่องการเมือง ปัญหากระทบกระทั่งกับประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดน และการเปิดประเทศอาเซียน จะเป็นแรงส่งที่จะทำให้เกิดการยกเครื่องการปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นระบบมากขึ้น
อาจารย์จุฬาฯ กล่าวอีกว่า สำหรับผลกระทบด้านสังคมนั้น ในปี 2558 จะมีประชากรทะลักเข้าประเทศไทยจำนวนมาก หลากหลายชาติพันธุ์ สิ่งที่ตามมาคือ ปัญหายาเสพติดทะลักเข้าประเทศมากขึ้น รวมถึงกระบวนการค้ามนุษย์ ปัญหาอาชญากรรม และที่สำคัญคือจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น เกิดปัญหาการแย่งงานทำ ทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
"โดยเฉพาะแรงงานระดับล่าง และปัญหาสังคมที่จะตามมาก็คือ ปัญหาการศึกษา เช่น ระดับปฐมวัย เพราะหากพ่อแม่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ลูกก็ต้องตามมาด้วย ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ จะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีแรกแรกที่ไทยเข้าสู่ประชาคอาเซียน หากเราสามารถควบคุมและแก้ปัญหาได้ ในระยะยาวจะเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ประเด็นที่สำคัญคือ ขณะนี้คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และยังไม่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้" นายสมพงษ์กล่าว
ด้านนายพินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลขครูภาษาไทย และจำนวนนักศึกษาที่กำลังเรียนในคณะครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์ วิชาเอกภาษาไทย ถือว่ามีไม่น้อย แต่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องคุณภาพว่ามากน้อยขนาดไหน อย่างไรก็ตาม สำหรับสาขาที่มีปัญหาขาดแคลนครูจริงๆ ยังเป็นสาขาวิชาหลัก เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา
นายพินิติกล่าวว่า ส่ยังมีนักเรียนนักศึกษาอีกจำนวนมากที่มีความรู้เกี่ยวกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเพียงผิวเผิน ยังไม่รู้ว่าเมื่อไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว ต้องปรับตัวอย่างไรกับสภาพสังคมที่มีวัฒนธรรมต่างๆ หลากหลายเข้ามาเกี่ยวข้อง ในระดับนโยบายจะต้องเร่งสร้างความเข้าใจ รวมถึงกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงการเตรียมความพร้อมในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยโครงการปีการพูดภาษาอังกฤษ 2012 ( English Speaking Year 2012) ส่งเสริมให้นักเรียนรวมถึงข้าราชการพูดภาษาอังกฤษ น่าจะสามารถกระตุ้นความสนใจได้ส่วนหนึ่ง สำหรับระดับอุดมศึกษานั้น มีการแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้รับงบประมาณจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการแลกเปลี่ยนดังกล่าว
"สิ่งที่สำคัญคือ ต่อไปประเทศไทยจะต้องมองในภาพรวม ระดับนโยบายต้องมีโครงการหรือมาตรการสำคัญๆ เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเกิดการปรับตัวพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพราะเราจะต้องอยู่ในสังคมที่หลากหลายวัฒนธรรม ขณะเดียวกันต้องมีทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงพัฒนาการทำงานให้มีทักษะรอบด้าน ไม่ใช่ทำเฉพาะหน้าที่หลักของตัวเองได้เท่านั้น" นายพินิติกล่าว
สำหรับทีมาของอาเซียนเป็นองค์การทางภูมิรัฐศาสตร์และองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า อาเซียนมีพื้นที่ราว 4.4 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 590 ล้านคน
ในปี 2553 ผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของชาติสมาชิกรวมกันคิดเป็นมูลค่าราว 1.8 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา อยู่ในลำดับที่ 9 ของโลก เมื่อเรียงตามผลิตภัณฑ์มวลรวม
มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการของอาเซียน
สำหรับกฎบัตรอาเซียนมีการลงนามเมื่อเดือนธันวาคม 2551 ทำให้อาเซียนมีสถานะคล้ายกับสหภาพยุโรปหรืออียูมากยิ่งขึ้น เขตการค้าเสรีอาเซียนเริ่มประกาศเมื่อต้นปี 2553 และกำลังก้าวสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน ในปี 2558
ที่มา: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1325565595&grpid&catid=19&subcatid=1903
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 4 มกราคม 2555 / 22:37
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 4 มกราคม 2555 / 22:41
PS.
8 ความคิดเห็น
เเต่เด็กในประเทศเราทำภาษาวิบัติลงทุกวันๆ
เห็นเเล้วน่าเศร้าที่สุด
จะปล่อยให้ต่างประเทศ เข้ามาขุดทองในประเทศตัวเองไปถึงไหนนะคนไทย
รับรองประเทศไทยเจริญขึ้นแน่แน่
แต่ยังไงก็ไม่เจริญมากเพราะมีนักการเมืองหัวดวยอยู่
คืองี้นะ เราว่า ปร 55 นี้เข้าจะเปิดรับแลลเปิดเอเอชียให้เข้าได้หมดโดยไม่ใช้ วีซ่า
การที่ต่างประเทศอยากเรียนภาษาไทยนี้ เราว่าเขาสนใจในภาษาของเรา
แต่เราก็ต้องกระตุ้นตัวเอง เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง
คนต่างชาติจะเข้ามาทำงานที่ไทยมาขึ้น
แล้วถ้าเป็นคุณจะเลือกใคร คนที่ได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ หรืออื่นๆ
กับคนที่ไทยแต่ภาษาไทย
เราต้องกระตุ้นตัวเองได้แล้วนะ คนไทย
คหสต.
...เข้าสู่ประชาคมอาเซียน แต่ ปัญหาการว่างงานมากขึ้น...
จะดีใจหรือเสียใจดี><"
อนาคต ข้างหน้าจะเป็นยังไง ก็พอจะเห็น ลางๆแล้ว
แล้ววันนี้ คุณล่ะ ทำตัวให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นรึยัง
PS. ถ้าถามว่าทำไมถึงยังรอเธอ ชั้นคงต้องตอบไปว่ายังลืมเธอไม่ได้ : P
ทุกอย่างน่าน่าจะโอกว่านี้ถ้า การเมืองสะอาด คือปัจจุบันไม่สิ ตั้งแต่อดีตมาแล้ว รัฐประหารไม่รู้กี่ครั้ง แต่ละครั้งทำนักท่องเที่ยวหายหด ทะเลาะกันในสภา รับเงินไต้โต๊ะ ถ้าไม่มีพวกนี้ ป่านนี้คงเจริญกว่าสิงคโปร์อีกนะ ไทยโชคดี น้ำดี ดินดี พระเจ้าแผ่นดินดี ประวัติศาสตร์ยาวนาน มีภาษาเป็นของตนเอง ไม่มีภัยพิบัติร้ายแรง(แบบญี่ปุ่น) และประเทศตั้งอยู่ตรงกลาง อาเซียน เหลือแต่คนไทยนี่แหละ ที่ทำให้เมืองไทยน่าอยู่
PS. ประเทศจะเป็นประเทศพัฒนาได้ก็ต่อเมื่อคนในประเทศสามัคคี มีจิตสำนึก ไม่คดโกง และเป็นคนดีของสังคม
ก๊ากกกก ชาติหน้าตอนบ่ายเถอะ 5555+ ประเทศ ไทยใกล้จะสูญพันธ์แล้ว เพราะอะไรหรอก คนมันไม่เห็นวัฒนธรรม แล้ว ประเพณีไทยด้วย จะหายไปแล้วละ ครับ ก๊ากกกกกกกกกกกกกก
PS. ชีวิตเป็นสิ่งมีค่าที่ให้ใครขโมยไปไม่ได้เด็ดขาด ขึ้นชื่อว่าพรากชีวิตก็คือการฆ่าคนทั้งนั้น แม้จะเป็นชีวิตของตัวเองก็ตาม (ฮัตโตริ ชิซึกะ)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?