Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[สจ๊วต] มาดูอีกแง่มุม ของคนอยากเป็นสจ๊วต

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
พอดีอยากเป็นสจ๊วตเลยไปศึกษาข้อมูลดู หลังจากอ่านครั้งแรกพูดตรงๆรู้สึกหดหู่เลย แต่พอมามองแง่ของเรา ถ้าเรารักในอาชีพของเราจริงๆ เราทำไปก็ต้องมีความสุข เลยยืนยันจะเป็นสจ๊วตตตตต เหมือนเดิมมม :D

เครดิต :: http://jackijacky.gulife.com/diary/?date=2010-05-23%2022:58:21&page=1

แอร์/สจ๊วต งานที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน

สืบเนื่องมาจาก
หัวข้อของคราวก่อน
ที่ผมค้างเอาไว้

วันนี้ผมจะมาไขข้อข้องใจ
ว่าทำไม...
ผมถึงออกจากการเป็นสจ๊วตของ
การบินไทย

ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนเลย
การเป็นสจ๊วตของที่นี่
ก็เคยเป็นสิ่งที่ผมฝัน
และฝันนั้นก็เป็นจริงแล้ว

แต่ที่ผมยอมทิ้งตำแหน่งงาน
อันเป็นที่รัก
ของทั้งผม (ในอดีต)
และของใครหลายๆ คน

นั่นเป็นเพราะ
สองคำกว้างๆ
คือ

"ไม่ก้าวหน้าและไม่มั่นคงครับ"

ก่อนอื่น เรามาลงทีละประเด็นครับ
คำว่าไม่ก้าวหน้า

แน่นอนครับ
คนเรา
เมื่อทำงานอยู่ในตำแหน่งอะไรซักอย่าง

ย่อมคิดถึงความก้าวหน้าที่จะมี
และอนาคต
ที่ตัวเองจะไปถึง

การเป็นสจ๊วต
ก็คงมีแค่การเปลี่ยน Rank
ซึ่งเงินเดือนก็ต่างกันไม่มาก

ปัจจุบัน
ผมเงินเดือน
"หมื่นกว่าบาท"

และถ้ายังเป็นสจ๊วตจนเกษียณ
สามารถมีเงินเดือนได้
"ห้าหมื่นกว่าบาท"

นั่นหมายความว่า
ผมจะใช้เวลาไต่เต้าเงิน
"สี่หมื่นกว่าบาท"
โดยใช้เวลา
ประมาณ 12-20 ปี!!!

แต่เอ...
จากที่ทุกคนรู้มา
รายได้สจ๊วต/แอร์
มันมาจาก per diem ไม่ใช่เหรอ?

ใช่ครับ
แต่ลูกเรือทั้งลำ
รวมทั้งหัวหน้างานและนักบิน
ได้ per diem เท่ากันครับ

และปัจจุบัน
ได้มีการพยายาม
ทำให้ตารางบินกระจายรายได้
ให้เท่าเทียมกัน

นั่นหมายความว่า
รายได้ของทุกคน
จะต่างกันแค่เงินเดือน!!!

และนั่นก็หมายความว่า
ความก้าวหน้าของรายได้ของเรา
ก็มีแค่ความก้าวหน้าของเงินเดือนเรา

นั่นก็คือ
อาชีพนี้
มันเป็นอาชีพที่
รายได้เยอะตอนเริ่มต้น
แต่แทบจะเรียกได้ว่า
ก้าวหน้าช้า...มากกกก
จนเกือบจะเรียกว่า คงที่ด้วยซ้ำ

และที่เจ็บก็คือ
เงินเดือนที่ขึ้น
ขึ้นเป็นเปอร์เซนต์

แล้วผมเงินเดือนต่ำขนาดนี้
ขึ้นให้ 4 เปอร์เซนต์ยังแค่ 400 กว่าบาทเอง

แถมปีที่ผ่านมายังขึ้นได้ 1% เท่านั้น
นั่นคือ
107 บาท
ถ้วน!!!!

โอ้ววว

ดังนั้น
ในขณะที่เรา
กาดึ้บ กาดึ้บ

กับเงินเดือนของเรา
เพื่อนบนพื้น
ก็จะค่อยๆ มีเงินเดือนเท่าเรา

และค่อยๆ แซงเราไป
ห่างไปเรื่อยๆ

จนไม่เห็นฝุ่น....

เรามาต่อกันเรื่อง
ความก้าวหน้าครับ

career path
ของการเป็นลูกเรือ
คืออะไร

คือการได้เป็นหัวหน้างาน
ในการบินไทยจะมี
(เรียงตามเล็กไปใหญ่)
A/P = Air Purser
IM = Inflight Manager
และ ถ้าเป็นผู้บริหารด้วยก็จะเป็น IMV

จริงอยู่ครับ
ถ้าได้เป็นตำแหน่งเหล่านั้น
ก็คือการก้าวหน้าในอาชีพ

แต่!!!

การสอบเข้าร่วมสอบ A/P ครั้งแรก
จะสมัครสอบได้
ต้องเป็นลูกเรือที่บริการชั้น First ก่อน
(ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 5-10 ปี)
และต้องมีประสบการณ์
ในการเป็นลูกเรือ
อย่างน้อย 12 ปี
(เท่าที่รู้มา)

ซึ่งสมัครสอบได้
ใช่ว่าจะสอบติด!!!

จริงไหม??

และในกระบวนการสอบ
ของการบินไทย
คิดว่าจะมีเส้นกันไหมนะ

แค่คิดถึงวันที่จะสมัคร
ก็เหนื่อยแล้วครับ

ทำงานบนพื้น 12 ปี
น่าจะปีนตำแหน่งและเงินเดือน
ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

พอเห็นภาพไหมครับ...

เอาล่ะ
ต่อเรื่อง
คำว่าไม่มั่นคง

บางคนอาจจะบอกว่า
การบินไทย
ไม่มีวันเจ๊งหรอก...

ใช่ครับ
การบินไทย
"คง"
ไม่มีวันเจ๊ง

แต่ก็ต้องถามว่าถ้าสิ่งนั้น
มันเกิดขึ้น
เรามีแผน B สำรองไว้ไหม

อย่าลืมนะครับ
Japan Airline
ยังล้มละลายได้เลย

และถ้าการบินไทยไม่เจ๊ง
แต่ตัวเราล่ะ
ที่เจ๊ง!!!

ทุกคนคงรู้ว่างานนี้
เป็นงานที่ทำงานสุขภาพ
และเป็นงานที่เสี่ยง...

ดังนั้น ถ้าเกิดวันใด
เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา
หรือป่วยจนไปบินไม่ได้

รายได้ที่เป็นเงินเดือน
แค่ 10000 บาท
นอกนั้น
มาจาก per diem
ถ้าไม่บินก็ไม่ได้

แค่คิดว่า
ผ่อนรถเดือนละ 15000 บาทอยู่
แล้วป่วย ขาหัก
ไม่ได้บิน 3 เดือน
ก็ตายแล้ว...

ถ้าลองคิดว่า
ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร
ไม่ว่าจะเป็น

ร่างกายไม่พร้อมบินไม่ได้...
เบื่องานนี้...
มีครอบครัวอยากลงพื้น...
หรือกระทั่ง
โดน lay off...

แล้วอยากหางานใหม่

จะทำอะไร?????

งานสจ๊วต/แอร์
ไม่สามารถเป็นประสบการณ์
ที่จะเป็นใบเบิกทาง
ให้เข้าสู่ตำแหน่งงานอะไรได้เลย
ต่อให้ทำงานนี้มา 20 ปี
ก็ไม่นับประสบการณ์

ลองคิดดูง่ายๆ ว่าสมมติ
ผมทำงานนี้ อีกซัก 7 ปี
ตอนนี้ผมอายุ 27
ตอนนั้นก็คง 34

มีแค่ปริญญาตรีหนึ่งใบ

ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ
คุณจะจ้างคนไหน
ระหว่าง...
1. เด็กจบใหม่ อายุ 23 ปริญญาตรี ไม่มีประสบการณ์
2. สจ๊วตเก่า อายุ 34 จบปริญญาตรี

เท่ากับเมื่อทำงานไปได้ซัก
7 ปี
10 ปี...

เราอาจจะ
ไม่ใช่ไม่อยากไปไหน
แต่ไปไหนไม่ได้แล้ว.......

และก็ต้องฝากชีวิตและความหวัง
กับสายการบินที่อยู่
ต่อไป
เรื่อยๆ.....

สายการบินอยู่
ก็ดีไป...
แต่ถ้าไม่อยู่
จะทำยังไง...

บางคนก็บอกว่า
ไม่จำเป็นต้องการบินไทยนี่น่า
ถ้าการบินไทยไม่ดี...

จริงครับ!!
สายการบินอื่น
ก็อาจจะดีกว่าบ้าง
ในบางมุม...

แต่ว่า สุดท้ายการเป็นลูกเรือ
ก็จะวกกลับมาที่ความไม่มั่นคง
ของตัวเราเอง
และของสายการบิน

ประมาณนี้แหละครับ
เหตุผลทั้งหมดที่ผมอยากจะบอก

ใครที่เคยอยากเป็นแอร์
แล้วได้ทำงานบนพื้น
อ่านแล้วอาจจะรู้สึกดี

ใครที่เป็นแอร์อยู่
ก็อย่าเพิ่งลาออกซะก่อนนะครับ
ผมไม่ได้บอกว่ามุมมองผมถูก
ลองคิดดีๆ
แต่อย่างน้อยก็ลองคิดดูบ้าง
ก่อนที่จะ
"ไปไหนไม่ได้"

วันนี้ก็เขียนมายาวแล้ว
จบดีกว่าเนาะ

ขอบคุณที่ติดตามครับ
^^'

แสดงความคิดเห็น

11 ความคิดเห็น

Semences 16 มี.ค. 55 เวลา 12:08 น. 1
 ทำงานเก็บเงินเเล้วลาออกก้อได้นิ งานก้อไม่หนัก เงินก้อดี ไม่ต้องทำตลอดชีวิต

เเล้วมาหางานรึทำธุรกิจ สบายทั้งชาติ



                             คหสต
0
แอร์เพลน 16 มี.ค. 55 เวลา 12:18 น. 2

เรื่องจริงเหรอคะ พอดีอยากจะลองไปสมัครเป็นแอร์ดูอ่ะ หาประสบการณ์ แต่ก้ไม่ได้อยากยึดอาชีพนี้เป็นหลักหรอก
อ่านแล้วช็อคค&nbsp 
อยากจะเข้าของการบินไทยซะด้วยสิ(แต่รู้ว่ามันยากกกกก) ยิ่งมาได้อ่านกระทู้นี้อีก
ยิ่งหนักจายยยย
จะเป็นแอร์ดีไหมเนี่ยยยยย

0
>BanG< 16 มี.ค. 55 เวลา 13:22 น. 3

ส่วนใหญ่คนที่ทำงานนี้เขาเข้าไปทำเก็บเงินเเล้วมาทำธุรกิจเอง ^^ 


PS.  [ขอบคุนค๊าบ]
0
อยากเป็นสจ๊วต 16 มี.ค. 55 เวลา 14:53 น. 4

คห 1 เคยทำเเล้วหรอครับถึงบอกว่างานไม่ยาก หรือสบายๆ? งานบริการบนเครื่องไม่ได้ง่ายเหมือนบ๋อยร้านอาหารหรอกนะครับ

0
สุภชีพ 23 ต.ค. 57 เวลา 18:29 น. 8

ยังมีชีวิตและเรื่องราวมากมายที่รอให้เราสัมผัส ยังมีชีวิตที่เรายังไม่เคยออกไปทัก ....รักเลย

1
นักล่าปีกฝัน 26 เม.ย. 58 เวลา 17:03 น. 8-1

และไม่ว่าที่ใดที่เธอจะไปฉันจะคอยร่วมทางมอบความรู้สึกที่อบอุ่นความรู้สึกอ่อนละมุนโดยมีรักของฉันเคียงข้างงง

0
นักล่าปีกฝัน 26 เม.ย. 58 เวลา 17:08 น. 10

งานแอร์-สจ๊วต ก็ไม่ได้แย่ไปซะทุกเรื่องหรอกนะครับ ยังมีเรื่องราวดีๆอีกเยอะแยะเงนเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆนะครับถ้าขยันบินหน่อยเดือนๆหนึ่งนี่เหยียดแสนเลยนะครับถ้าเรารู้จักประหยัดไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเราก็อยุ่ได้นะครับไม่ต้องไปดิ้นรนไขว่คว้าเอาอะไรให้มากนักขอแค่เราทำแล้วมีความสุขและหาเลี้ยงครอบครัวได้ก้พอแล้วครับ งานพนักงานต้อนรับถ้าเราทำงานดีและเสมอต้นเสมอปลายยังไงเรา็อยู่รอดและอยู่อย่างมีความสุขครับ

0