++++พระสารีบุตร ให้กรรมฐาน กับลูกศิษย์ ๔ เดือน ไม่บรรลุแล้วเราจะ ให้ใครเป็นที่พึ่งแก่เราได้ จริงจัง ถ้าต้องการ มรรค ผล นิพพาน ถ้าไม่ใช่พระไตรปิฎก ซึ่ง รวบรวม คำสอนในที่ต่างๆๆ บุคคลต่างๆๆ อัธยาศัยของสั
++++พระสารีบุตร ให้กรรมฐาน กับลูกศิษย์ ๔ เดือน ไม่บรรลุ เพราะ คนเราต่างกัน ทั้งอุปนิสัย อัธยาศัย จริต ความเคยชิน
++++พระสารีบุตร ให้กรรมฐาน กับลูกศิษย์ ๔ เดือน ไม่บรรลุ
++++พระ พุทธเจ้า ให้วันเดียวบรรลุ อรรถกถา ชาดก เล่าว่า เพราะไม่มี อาสยานุสยญาณ (ปัญญารู้อัธยาศัยและอนุสัยของสัตว์ทั้งหลาย เนื่องจากญาณนี้มีแก่พระพุทธเจ้าเท่านั้น) ท่านจึงไม่สามารถเลือก กรรมฐานให้ตรงอัธยาศัยของภิกษุรูปนี้ได้
++++ แล้วเราจะ ให้ใครเป็นที่พึ่งแก่เราได้ จริงจัง ถ้าต้องการ มรรค ผล นิพพาน ถ้าไม่ใช่พระไตรปิฎก ซึ่ง รวบรวม คำสอนในที่ต่างๆๆ บุคคลต่างๆๆ อัธยาศัยของสัตว์ที่ต่างๆๆกัน เพื่อ จะตรงกับ อัธยาศัย จริต อุปนิสัย ของเรา
++++เพราะ คนเราต่างกัน ทั้งอุปนิสัย อัธยาศัย จริต ความเคยชิน
+++อรรถกถา บางแห่งกล่าวว่า ภิกษุนี้เป็นพุทธเวไนย (คือพระพุทธเจ้าเท่านั้นจะสอนให้บรรลุได้ ไม่ใช่สาวกเวไนยคือบรรลุด้วยสาวก)
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในพระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้เมืองสาวัตถี.
+++++ก็สมัยนั้นแล บุตรช่างทองคนหนึ่งซึ่งเป็นอุปัฏฐากของพระสารีบุตรเถระ ได้บวชในสำนักของพระเถระ.
+++พระเถระคิดว่า อสุภกรรมฐานเหมาะสำหรับคนหนุ่มทั้งหลาย จึงได้ให้อสุภกรรมฐานแก่พระหนุ่มนั้นเพื่อกำจัดราคะ.
---จิต แม้สักว่าเสพคุ้นในกรรมฐานนั้นก็ไม่เกิดแก่พระภิกษุนั้น ท่านจึงได้บอกแก่พระเถระว่า กรรมฐานนี้ไม่เป็นอุปการะแก่ผม. พระเถระคิดว่า กรรมฐานนี้เหมาะสำหรับคนหนุ่มทั้งหลาย จึงได้ให้กรรมฐานนั้นนั่นแลซ้ำอีก ๔ เดือนผ่านไปอย่างนี้ ภิกษุนั้นไม่ได้คุณวิเศษแม้สักอย่างหนึ่ง.
ต่อจากนั้น พระเถระจึงได้กราบทูลถึงเรื่องภิกษุนั้นแม้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า สารีบุตร การรู้กรรมฐานที่สบายแก่ภิกษุนั้น
++++ไม่ใช่วิสัยของเธอ
++++ภิกษุนี้เป็นผู้ที่"พระพุทธเจ้า"จะพึงแนะนำดังนี้แล้ว จึงทรงเนรมิตดอกปทุมมีสีประภัสสร (สีเลื่อมๆ พรายๆ) ด้วยฤทธิ์ ทรงประทาน
ใน มือของพระภิกษุนั้นแล้ว ตรัสว่า เอาเถิดภิกษุ เธอจงเอาก้านดอกปทุมนี้ปักลงบนเนินทรายที่ร่มเงาหลังวิหาร และจงนั่งขัดสมาธิหันหน้าไปหาดอกปทุมนั้น ระลึกภาวนาอยู่ว่า โลหิตํๆ (สีแดงๆ).
ทราบ ว่า ภิกษุนี้เคยเกิดเป็นช่างทองอย่างเดียวมาถึง ๕๐๐ ชาติ เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่านิมิตแห่งสีแดงเหมาะสำหรับภิกษุนั้น จึงได้ทรงประทานโลหิตกรรมฐาน
แก่ภิกษุนั้น. ภิกษุนั้นได้กระทำตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแนะนำ เพียงชั่วครู่เท่านั้นก็ได้บรรลุแม้ฌาน ๔ ในที่นั้นตามลำดับ ปรารภฌานกีฬาโดยนัยมีอนุโลมและปฏิโลมเป็นต้น.
ลำดับ นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอธิษฐานว่าขอดอกปทุมนี้จงเ่ยว. ภิกษุนั้นออกจากฌาน เห็นดอกปทุมนั้นซึ่งเ่ยวแห้งไปเป็นสีดำ
++++จึงได้อนิจจสัญญาว่า รูปที่ประภัสสรถูกชราย่ำยีแล้ว ต่อแต่นั้น ท่านได้นำดอกปทุมที่เ่ยวแห้งนั้น
++++น้อม เข้าไปแม้ภายใน ต่อจากนั้น ท่านได้เห็นภพทั้ง ๓ ปรากฎดุจไฟติดทั่วแล้วว่า สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา.
ก็ ในที่ไม่ไกลจากภิกษุนั้นผู้เห็นอยู่อย่างนี้ มีสระบัวอยู่สระหนึ่ง พวกเด็กๆ ลงไปในสระนั้น หักดอกปทุมทั้งหลาย แล้ว (นำมา) ทำเป็นกองไว้ ดอกปทุมในน้ำเหล่านั้นปรากฏแก่ภิกษุนั้น ดุจเปลวไฟที่ป่าไม้อ้อ ใบทั้งหลาย (ของดอกปทุมเหล่านั้น) หล่นลงก็ปรากฏแก่ภิกษุนั้นดุจตกลงไปในเหว ส่วนยอดของดอกปทุมที่ทิ้งไว้บนบก เ่ยวแห้งไปแล้ว ปรากฏดุจถูกไฟไหม้.
ครั้ง นั้น เมื่อภิกษุนั้นเพ่งพินิจธรรมทั้งปวงตามกระแสแห่งธรรมนั้นอยู่ ภพทั้งสามก็ปรากฏเป็นสภาพหาที่พึ่งพิงไม่ได้ ประดุจเรือนถูกไฟไหม้ ฉะนั้น.
+++++(สรุป บรรลุอรหันต์ เพราะภพ สิ้นแล้ว)
ต่อ จากนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งที่ประทับอยู่ในพระคันธกุฎีนั่นเอง ก็ทรงแผ่รัศมีแห่งพระสรีระไปเบื้องบนพระภิกษุนั้น และพระรัศมีนั้นก็ท่วมทับใบหน้าของภิกษุนั้นเต็มที่. ลำดับนั้น ท่านนึกรำพึงอยู่ว่านี้อะไรกัน ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าราวกะว่าเสด็จมาประทับยืนอยู่ใกล้ จึงได้ลุกขึ้นจากอาสนะ ประคองอัญชลี.
บทว่า อเสสํ ได้แก่ ไม่มีส่วนเหลือ (คือหมดสิ้นทั้งอนุสัย).
เปรียบเหมือนเด็กเหล่านี้ลงสู่สระ +++++"""เด็ดดอกปทุมซึ่งงอกในสระ""" ชื่อฉันใด ภิกษุใดหยั่งลงแล้วสู่โลกสันนิวาส คือไตรธาตุนี้ เข้าถึงแล้ว ซึ่งนัยมีอาทิอย่างนี้ว่า
2 ความคิดเห็น
ตัดความมาจาก อรรถกถา ขุ.สุ. ข้อ๒๙๔
อย่ากล่าวเช่นนี้อีกเลยที่ว่า "พระสารีบุตร ให้กรรมฐาน กับลูกศิษย์ ๔ เดือน ไม่บรรลุพระ พุทธเจ้า ให้วันเดียวบรรลุ อรรถกถา ชาดก " ถ้าพวกเขาไม่มีความคิดที่ลึกซึ้งและอาจเป็นกรรมกับตัวท่านเอง เพราะคนเราต่างกรรม ต่างวาระ ต่างจิตรต่างใจ และต่างความคิด หลายคนอาจตำหนิพระอรหันต์สารีบุตร ซึ่งก็จะเป็นบาปมหันต์(ซึ่งใช้กับคำว่าบาปมากไม่ได้ เพราะกระทำกับพระอรหันต์ แม้แต่คิดไม่ดีกับท่านนิดนึงก็บาปมากๆๆๆๆแล้ว) กับตัวเขาเอง
ลองอ่านดูดีๆนะครับ ใน อรรถกถา หรือในพระไตรปิฏกท่านก็ยังแบ่งไว้เลย บัว มี 4 เหล่า ที่พระพุทธเจ้าท่านพิจารณาไว้ก่อนนำพระธรรมมาเผยแพร่ คนที่ไม่สามารรถสั่งสอนได้ ท่านก็ตัดเสียไม่สอน ไม่สนใจ
ส่วนเราเองหรือบุคคลที่จะบรรลุธรรมนั้นเป็นที่ตัวเราเองว่าเราสร้าง บุญ บารมีมาพอแล้วหรือยังที่จะเข้าใจในธรรมนั้นๆ เราเคยพิจารณาตัวเองหรือยัง มองดูแต่ตัวให้มากหรือยัง พระอรหันต์บางรูป ได้ฟังพระธรรมสั้น (ที่เราอ่านอยู่ ไม่รู้กี่ครั้งเนี่ย)แค่ 1 - 2 ครั้งก็บรรลุธรรมละ
ผมฟังบพระสูตร คิริมานนท์ มากกว่า 50 ครั้ง ยังไม่บรรลุธรรมสักที แต่ก็ทำสมาธิในการฟังอยู่เรื่อย บ่อยๆ ถือว่าเป็นการะสมบุญ บารมี ต่อๆไป
ท้ายนี้อยากบอกว่า ผมไม่ได้มาว่านะ แต่การใช้หรือการวิจารย์ อะไร ก็ระวังนิดนึง มันอาจก่อบาปกับตัวท่านเอง หากทำให้ท่านรำคาญใจ ขอขมาอภัยมาด้วยครับ (Email:sutin_boons@hotmail.com)
พระธรรมนั้นมีมาก่อนที่พระพุทธองค์อุบัติขึ้น แต่ ท่านเข้าใจและนำพระธรรมมาเรียบเรียง และแนะนำ อย่าถูกต้อง จะเห็นว่ามีพระปัจเจกพุทธเจ้า เกิดขึ้นบ่อยๆ ในช่วงพุทธธันดร(พิมพ์ถูกเปล่ามะรุ้)
ผมไม่ได้ตำหนิพระสารีบุตร แม้แต่คิดไม่ดีกับท่านนิดนึงก็ไม่มี
"" แต่จะให้เห็นว่า สาวก ไม่มีอาสยานุสยญาณ (ปัญญารู้อัธยาศัยและอนุสัยของสัตว์ทั้งหลาย เนื่องจากญาณนี้มีแก่พระพุทธเจ้าเท่านั้น) ""
เลยอยากให้หันมาร่วมกันศึกษา พระไตรบิฏก เพราะ เบ็นที่รวบรวม คำสั่งสอนของ
ทั้งพระพุทธเจ้า และ อริยสาวก แล้วเราก็ตรวจสอบตัวเรา ว่าเรามีความเข้าใจ และ กิเลส
ลดลงมากน้อยแค่ไหน สมัยนี้ ศึกษา เล็กน้อยแล้วคิดว่า เข้าใจถูกแล้ว
++ เพราะสมัยนี้ ศึกษากับ ครูบาอาจารย์ บางที่ ขัดแย้ง กับ คำสอนในพระไตรบิฏก
หรือบางที่ อ้างพระไตรบิฏก แต่ ก็เอามาแค่ บางแง่บางมุมที่เข้า กับตนเอง และ
กลุ่มของตน
ผมไม่ได้ตำหนิพระสารีบุตร แม้แต่คิดไม่ดีกับท่านนิดนึงก็ไม่มี
"" แต่จะให้เห็นว่า สาวก ไม่มีอาสยานุสยญาณ (ปัญญารู้อัธยาศัยและอนุสัยของสัตว์ทั้งหลาย เนื่องจากญาณนี้มีแก่พระพุทธเจ้าเท่านั้น) ""
เลยอยากให้หันมาร่วมกันศึกษา พระไตรบิฏก เพราะ เบ็นที่รวบรวม คำสั่งสอนของ
ทั้งพระพุทธเจ้า และ อริยสาวก แล้วเราก็ตรวจสอบตัวเรา ว่าเรามีความเข้าใจ และ กิเลส
ลดลงมากน้อยแค่ไหน สมัยนี้ ศึกษา เล็กน้อยแล้วคิดว่า เข้าใจถูกแล้ว
++ เพราะสมัยนี้ ศึกษากับ ครูบาอาจารย์ บางที่ ขัดแย้ง กับ คำสอนในพระไตรบิฏก
หรือบางที่ อ้างพระไตรบิฏก แต่ ก็เอามาแค่ บางแง่บางมุมที่เข้า กับตนเอง และ
กลุ่มของตน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?