นิเทศ(ฬ) วารสาร(มธ) จะสู้ นิเทศม.กรุงเทพ ได้หรอครับ???
ตั้งกระทู้ใหม่
เข้าไปอ่านกระทู้ด้านบนนี้แล้วหมดกำลังใจแอด
พยายามเพื่อให้ได้คะแนนที่โครตจะสูงเพื่อเข้า 2 คณะนี้
ถ้ามีที่ๆเข้าได้เลย แล้วดีกว่าทุกด้านขนาดนี้
แต่ยังไงก็จะลองแอดครับ...
22 ความคิดเห็น
จากหัวกระทู้นะคะ ที่ถามว่า จะสู้ได้เหรอ
สู้ได้ไม่ได้ไม่รู้อ่ะค่ะ แต่วิธีเข้ามันไม่เหมือนกัน
ก็แค่มีคะแนนแอด สูงมากกกกก กับ มีเงินก็เข้าได้เลย
แค่นั้นเอ๊งง
ทั้งสามที่มันก็มีคุณภาพเหมือนกัน
ขึ้นอยู่กับคนเรียนต่างหาก ถึงคนห่วยแต่สอนดีขนาดไหนมันก็โง่อยู่ดี
มาอีกแล้วเรื่องนี้
ผมถามหน่อยว่า เอาควายมาเลี้ยงรวมกับเสือ ควายมันจะกินเนื้อได้ไหม
....คงไม่ได้ เผลอๆจะถูกินด้วย
เพราะงั้นคำตอบของประเด็นนี้อยู่ที่คนเรียนครับ ไม่ใช่สถาบันแต่อย่างใด โปรดอย่าดราม่า เบื่อจังเรย
เราไม่ได้อะไรนะ เราเคยเห็น ช่อง thaipbs ประกาศรับสมัครงาน เขาวงเล็บว่ารับเฉพาะ นิเทศ ฬ กับ วารสาร มธ แต่ของเเบบนี้อยู่ที่คนเนอะ
PS. เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ไม่ว่าเรื่องร้าย หรือว่าเรื่องที่เเสนดี เป็นคนตลก แต่ไม่ใช่ "ตัวตลก" =)
ความเห็นเรานะ
คือ นิเทศ ฬ  กับ วารสาร มธคะแนนแอดสูงใช่มั้ย
แล้วเด็กที่ติดส่วนมาก(หรือไม่ก็ทั้งหมด) ขยันอ่านหนังสือและทุ่มเทมาก
จนได้คะแนนสูงและแอดติด
พอเข้ามาอยู่ด้วยกันก็เหมือนรวมเด็กที่ขลัดเกลาตัวเองมาแล้ว
เวลามีความรู้ใหม่ๆ ก็รับมาได้ง่ายๆ เพราะผ่านความลำบากในช่วงม.6มาแล้ว
(เราสังเกตจากรุ่นพี่ที่ ฬ มาอะ)
แต่ก็ขึ้นอยู่กับ จขกท นะ 
แต่เราว่าถ้าแอดได้ก็น่าจะลองดู
สู้ๆนะ ^^
ถ้าม.กรุงเทพก็ดีตรงเครื่องมือที่ทันสมัยเเต่ต้องค่าเทมอเเพงงงงงงงง
มธ.คะเเนนเเอดสูงอย่างมากกกกกกกกชื่อเสียงก้ใช่ได้มีเเต่คนอยากเข้า
จุฬา.คะเเนนแอดพอกับมธ.เลยชื่อเสียก็ใช่ได้
เเต่เราว่านะเรียนที่ไหนก็ได้ถ้าทำให้เราสบายใจเเล้วไม่ต้องมากดดันในเวลาก็หน้าจะโอเคนะ^^
สู้ได้มั้ย?? มัวแต่มาเปรียบเทียบกันอยู่นั่นแหล่ะ เหอะๆ ชอบดราม่าหรอคะ สถาบันใครใครก็รัก
ขึ้นชื่อว่าสถาณศึกษาเป็นที่ให้ความรู้ มันก็ดีทั้งนั้นแหล่ะค่ะ
แต่คนที่เข้าไปเรียนจะเก็บเกี่ยวความรู้ได้แค่ไหน จบมาจะมีงานทำมั้ย ก็ขึ้นอยู่กับตัวเองล้วนๆ
นั่นสิ ลำบาก แต่ทำไมถึงอยากเข้ากันนักนะ ? คำตอบก็มีหลายเหตุผลด้วยกัน
ทั้งเรื่องค่านิยม ความชอบส่วนตัว เรื่องค่าใช้จ่าย ฯลฯ
ถ้าหมายถึงคนเรียนล่ะก็ ตอบได้เต็มปากเลยว่า สู้ได้แน่นอนค่ะ
ถึงจะยังไม่ได้เข้าก็เถอะ เราจะขอบอกว่าคณะนิเทศหรือวารสาร ม.รัฐ แม้อุปกรณ์หรืองบจะน้อย
แต่อย่าลืมคิดถึงอนาคตนะ บางที่เค้าดูสถาบันก่อนเกรดอีกนะคะ
ไม่ได้จะบอกว่า ม.รัฐดีกว่า แต่สังคมสมัยนี้ ถ้าเราไม่สู้ เราก็ตายค่ะ
ที่บอกว่าแอดแล้วเหนื่อย ใช่แล้วมันเป็นเรื่องจริงเลยล่ะ
แต่เราก็ดีใจที่เห็นเด็กไทยแอดกันเยอะขนาดนี้ แสดงว่าเด็กไทย มีความพยายามมากทีเดียว
อยากให้ไปถามผู้ใหญ่ดีกว่าเพราะท่านอาบนําร้อนมาก่อน แบบที่ถามไม่ต้องบอกก็รู้
ม.เอกชน ใครทุนทรัพย์พอก็เรียนได้แล้ว รับสมัครสอบเป็นพิธี รับเกรด2.5 พวกที่เรียนเก่งๆไม่มีมาหรอก เขาติดจุฬา มธ.หรือม.รัฐบาลที่เปิดสอนด้านนี้ไปหมดแล้ว ไอคิวสมองมันต่างกันมากนะ
นักศึกษาดี สถาบันก็ดีตาม
เราสร้างชื่อ เราได้ชื่อ สถาบันก็ได้ชื่อตาม
อยู่ที่ไหนก็เก่งได้ ชื่อสถาบันไม่ได้ติดสินอนาคตเราครับ
บางทีมันก็อยู่ที่คน แล้วก็โอกาสด้วยนะ
เราคิดว่าอยู่ที่ตัวคนไม่ใช่สถาบันนะคะ
อย่าง ฬ และ มธ คนแข่งขันกันเยอะ คะแนนสูงมาก เพื่อนเราบางคนที่เข้าไปได้ ดีใจสุดขีด แต่พอเอาเข้าจริงๆ พอได้เรียนแล้วกลับไม่ไหว อยากออก เพราะการแข่งขันสูงมาก คนเก่งมันเยอะก็ต้องดินร้นกันไป
ถ้าอยากเรียนจริงๆ ต้องขยันอดทน ส่วนม.กรุงเทพ คนจบแล้วที่มีงานดีๆทำเยอะแยะไปนะคะ ยังไงเลือกที่ตัวเองไหว และ มีความสุขก็พอจ้า
จริงๆ สถาบันมันก็เป็นส่วนนึงที่เขาพิจารณานะคะ
แต่ถ้าเราไปสมัครงานจริงๆ ทำงานที่เดียวกันมันไม่ได้มีข้อแตกต่างกันเลยค่ะ
การเรียนคือการปูพื้นฐาน ความสามารถประสิทธิภาพของเรา สมองของเรา
ันั่นแร่ะค่ะ จะเป็สิ่งสุดท้ายจริงๆที่วัดกันตอนทำงาน
เราขอพ่อเรียน นิเทศ เหมือนกัน โดนด่า3วันเลย ว่าเราเรียนไม่เก่งเกรดแค่2.64 แล้วยังสมองหมูอีก
ไหนๆก็ต้องเสียเงินเรียนเอกชนแล้วก็ต้องเรียนบัญชี จบมาหางานไม่ได้ยังมาทำที่บริษัทได้
อยากเป็นดารา ประชาสัมพันธ์ พิธีกร เรียนสาขาอะไรก็ได้ สังคมสงเคราะห์ยังได้เลย ขอให้น่าตาดี
บุคคลิกดี พูดเก่ง ก็เป็นได้แล้ว คิดเรื่องเรียนบางทีก็น้อยใจทำไมเราเรียนไม่เก่งเหมือนเพื่อนๆสายวิทย์ สอบหมอได้ตั้งหลายคน บางคนสอบหมอmdxขอนแก่นได้ไปแล้ว โอเนตวิชาเลขยังได้100 คะแนนเต็ม ตัวเราเรียนศคน. รับตรงซักที่ยังไม่ติดเลย แอดกลางยิ่งไม่มีทางเพราะลองคิดคะแนน
gpax onet gat  น้อยมากๆยังไม่ถึง12000เลย ต้องเรียนเอกชนอย่างเดียว
เราว่ามันต่างกันนะ ฬ กัย มธ.เนี่ย เข้ายากพอกัน แต่ ม.กท เนี่ยมีเงินอย่างเดียวจบไม่ได้นะ หินเอาการอ่ะ และเด็กที่ไม่จบก็เยอะ อย่าไปเอามาเทียบกันเลย เด็กจะทะเลาะกันป่าวๆ ชอบอะไรก็เข้าอันนั้น จบ.
พี่ว่า ถ้าแอดมิดชั่นได้ยังไงก็ลองดูก่อนนะครับ...
ถ้าติดก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ค่าเทอมก็สบายกระเป๋าขึ้น เรื่องคุณภาพพวกเราก็ทราบกันดีว่า 2 สถาบันนี้ เยี่ยมเลยทีเดียว
แต่ถ้าพลาดจากการแอดมิดชชั่น ม.กรุงเทพ หรือ มหาวิทยาลัยเอกชน ล้วนแล้วแต่มีศักยภาพทั้งคณะครูอาจารย์ และเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์การเรียนที่ทันสมัย... ก็น่าสนใจเช่นกัน
ของอย่างงี้ พี่ไม่อยากให้มาวัดกันว่าใคร ดี เลิศ หรู กว่ากัน พี่เชื่อว่า ทุกสถาบันเป็นที่ให้ความรู้น้องๆ ได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน... ขอแค่ สู้ สู้ คร้าบ บ บ
สรุปว่า ขึ้นอยู่กับ มุมมอง และที่ปรึกษาที่ดีที่สุด คือ คุณพ่อคุณแม่นะคร้าบบบ
ปีหน้า56หนูต้องentแล้ว พ่อหนูไม่อยากให้เรียนนิเทศ แต่จะให้เรียนบัญชีอินเตอร์มากกว่า หนูเรียนepม1-6 อังกฤษฟังได้พูดได้พอควร เกรดเฉลี่ย4เทอม3.85 พ่อบอกปี58เปิดเสรีอาเซี่ยน บ/ชเป็น1ใน7 อาชีพที่เคลื่อนย้ายแรงงานได้อย่างเสรี
(แพทย์ ทันตะ พยาบาล วิศวะ สถาปัตย์ บัญชี การสำรวจ) ไปเรียนอย่างอื่นต้องแย่งงานกันแล้วยังโดนต่างชาติมาแย่งอีก ประเทศเรายังไม่พร้อมกับเรื่องนี้เลย ภาษาเราเสียเปรียบมากแล้วยังต้องมาเรียนสาขาที่กำหนดไว้อีก ต่อให้เรียนนิเทศอินเตอร์ ก็ไมเข้าเงื่อนไข หางานยากอยู่ดี
แล้วนิเทศ ไม่เหมือนก่อนแล้ว เด็กเรียนเก่งๆเขาไม่เลือกแล้วก็ยกตัวอย่างญาติหนูลูกของอาเขาเรียนหมอ2คนเลย พูดยังไงพ่อก็ไม่เห็นด้วย
เราไม่อะไรกับเรื่องสถาบันมากอ่ะค่ะ
เพราะเรารู้ตัวว่าเราต้องหาประสบการณ์ตอนเรียนให้ได้ให้มากที่สุด
เราเลือก ม.กรุงเทพค่ะ และก็ผึกงานปิดเทอมตลอด
เรารู้จักพี่ในแวดวงที่ทำงานหลายคน เราว่าคอนเนคชั่นเหล่านั้นจะช่วยเราได้มากตอนหางานนะคะ
แต่เราอยากเข้า ม.กรุงเทพ มากกว่าอยู่แล้วอ่ะค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?