ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง เราขอประณาม "ไอ่นักเขียนพรรค์นั้น" ว่า....
ตั้งกระทู้ใหม่
ประเด็นต่อไปนี้ เรานึกขึ้นได้จากมู้นึงในนี้แหละ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับใครทั้งนั้น
เพียงแต่... ถ้ามีเรื่อง "แบบนี้" เกิดขึ้นในวงการ "หนังสือ" จริงๆ
เราขอประณาม I นักเขียนและกลยุทธของมันไว้ ณ กระทู้นี้เลยนะ
นิยายยุคใหม่มักเป็นนิยายจากอินเตอร์เน็ทที่เปิดกว้าง กลายเป็นแหล่งค้นหานิยายจำนวนมากซึ่ง "อ่านฟรี" และมีอรรถรสไม่ต่างจากในหนังสือนิยายดังๆหลายเล่มในสมัยที่ยังไม่นิยมเล่นอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย
แน่นอนว่า หลายเวปจับทางจับกระแส และพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ถูกต้อง
และอินเตอร์เน็ต หรือกระทั่งชื่อเวปก็กลายเป็น ไอค่อน หรือสัญลักษณ์ที่มีอิทธิพลทางการตลาดในบางกลุ่มจนไปถึงวงกว้าง ในแต่ละด้านที่หลากหลาย
การทำการตลาดก็ต้องปรับตัวไปด้วย คนฉลาดที่อยู่รอดก็มักจะได้ไอเดียเด็ดๆมาใช้แข่งขันให้แซงหน้าคู่แข่ง
เป็นเรื่องปกติ...
แม้กระทั่งในวงการหนังสือ...
นิยายหรือHow to หลายเล่ม มีค่านิยมในการเล่นกลยุทธ์การตลาดโดยอาศัยประโยคพื้นๆที่ทำให้คนรุ่นใหม่ตื่นตาตื่นใจ และหยิบหนังสือนั่นมาอย่างง่ายดาย
เช่น
"Best Seller" เหรอ? เดี๋ยวนี้แน่ใจนะว่าเบส เซลเลอร์ที่ใช้กันมานานในร้านหนังสือมันจะได้ผลจริง
เพราะมีคนจับไต๋มันได้ไงว่า Best seller = ku อยากขาย
ดังนั้น แระโยคดังต่อไปนี้จึงถุกปลุกขึ้นมาแทนประโยคชวนซื้อแบบโบราณๆ นั่นคือ
"ติดอันดับนิยายที่มียอดชม 1,000,000 วิว แห่งเวปดัง"
"ติดอันดับนิยายหมวด..... ของเวปดัง... ดึ้กๆๆๆ"
"นิยายยอดนิยมในโลกไซเบอร์"
ฯลฯ
การตลาดใหม่ๆ ใช้ "ยอดวิว" จากโลกไซเบอร์เป็นตราการันตีว่าหนังสือมันเจ๋ง นามแฝงนี้เด็ด เจ้านามนี้ไงที่ดังมากจากนั่นนู่นนี่
เป็นต้น
เป็นเรื่องธรรมดามากที่จะทำการตลาด เพราะหนังสือที่ตีพิมพ์มาเล่มงามๆนั้นเป็น "สินค้า"
เขาอยากจะขายสินค้า เขาจึงโปรโมท
การโปรโมท การตลาดในวงการหนังสือน่ะ "ไม่ผิด"
แต่.....
ที่ผิดก็คือ "หลอกลวง ตอ แ หล และโกหก ผู้บริโภค"ต่างหาก
ถ้ามีกรณีเช่นนี้ที่ยืมมือเวปดังๆ หรือกระแสแฟนคลับหรือไม่แฟนคลับที่อุตลุดมาเป็นหนึ่งในแสนหรือล้านยอดวิวของคุณ ....
โดยเล่ห์กลที่มิชอบ ไม่ซื่อสัตย์ คดโกง
ซึ่งจะจับได้หรือไม่ก็ได้ จับกันง่ายซะทีไหน หากไม่มีข้อมูลทางระบบมาเผยแพร่
แต่ให้รู้ไว้เลยนะ ว่า ไ อ้ นักเขียน หรือไ อ้ นักการตลาด หน้าไหน ไม่ว่ามันจะดังหรือไม่ดังก็ตาม
หากมันใช้วิธีสกปรก เพื่อการนี้โดยเฉพาะ และไม่ว่าจะถูกจับได้หรือไม่ได้ โดยละม่อมหรือยังมีทางแถไปได้เรื่อย
หากมีใครทำ เราขอเป็นคนนึงที่จะ "ประณามมัน" ในฐานะ ทั้งคนที่อยากเขียน มีผลงาน และ"ฐานะผู้บริโภค"
ขอประณาม การกระทำนี้ไว้ก่อนเลยว่า
"ทุ เร ศ"
ถ้าถามว่า "วงการเล็กๆใครจะไปรู้ล่ะ" ก็เพราะมันเป็นวงการเล็กๆนี่แหละที่ปากต่อปากถึงวีรกรรมเน่าๆ ทรามๆ
คนข้างนอกเห็นว่า "คุณ" ฮอตมาก แต่อีกภาพของคุณในสายตาของคนในวงการเดียวกัน คุณคือ ตอ แ หล แบบนี้น่าภูมิใจเนอะ
สิ่งที่ได้ ก็แค่คำชมเชยจอมปลอมที่มาจากสิ่งที่เขาเห็นภาพลักษณ์จอมปลอมที่คุณจำอวดให้เห็นน่ะแหละ
ใคร "ไม่" ใคร่ภูมิใจอยากเป็นอะไรปลอมๆปลวกๆ แบบนั้น ก็จงซื่อสัตย์ต่อผลงาน ต่อตัวเอง ต่อผู้บริโภคเถิด
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 23 เมษายน 2555 / 22:22
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 23 เมษายน 2555 / 22:18
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 23 เมษายน 2555 / 22:34
PS. คำเตือน คห.นี้เกรียน และอาจนอกประเด็นมู้ ต้องขออภัย -..-
55 ความคิดเห็น
ร้อนแรงจริงๆ =[]=!
เด็ดมากพี่!!!
PS. ไม่มีเรื่องไหนถูกลืมจนหมด แม้เราจะจำมันไม่ได้ :)
จากที่อ่านมาผมสงสัยอย่างหนึ่งนะ...
มันเป็นเรื่อง หลอกลวง ตอแหล และโกหก ผู้บริโภคยังไงอ่ะ ?
PS. Drool...
PS. หากเพียงฉันสามารถเอื้อมมือเข้าไปถึงในใจของเธอภายในอกที่ปิดกั้นฉันเรื่อยมา เธอจะคิดถึงฉันบ้างไหมหนา หรือว่าฉันคงไม่มีวันจะสมหวัง.....
#3
ในความเห็นของเรานะ อย่างไปซื้อสินค้า ที่เอาผลการวิจัยมาโฆษณาว่าได้ผล 96% ...
จริงอยู่ว่า ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน
แต่ถ้าเบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้ หรือไม่สนใจจะสืบว่า จริงเหรอ?
กลายเป็นว่า "มันโกหก ตัวเลขงานวิจัยมาล่ะ"
PS. คำเตือน คห.นี้เกรียน และอาจนอกประเด็นมู้ ต้องขออภัย -..-
ซึ่ง ถ้าโกหกมา แต่สินค้าไม่มีปัญหากับผู้บริโภคเลยในแง่ของจิตใจ หรือสภาพร่างกายที่เข้าโรงหมอ
ก็รอดตัวไป
แต่หากวันไหน.... กรรมตามทัน โดยมีคนกว่า 38% ใช้สินค้าแล้วบ่นว่า "แย่นี่หว่า" หรือบางคนต้องเข้าโรงพยาบาล ...
นั่นแหละ
สิ่งที่เราไม่ชอบ และมาตั้งกระทู้นี้
คือความรู้สึกส่วนตัว ถ้าได้เจอกับตัว เราก็โกรธที่มัน "โกหก"
PS. คำเตือน คห.นี้เกรียน และอาจนอกประเด็นมู้ ต้องขออภัย -..-
เรื่องกระแสโปรโมทเนี่ย... ไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกัน นอกจากบอกให้ปลงมั้ง? คือมันก็สิทธิของเขา โกหกมันก็คือเขาเสียของเขาเอง สำหรับผม ฮาตั้งแต่ที่ท่านสป็อกออกมาแฉเรื่องได้รางวัลใหญ่หลายรางวัลทั้ง ๆ ที่เป็นแค่รางวัลแจกกันเองในชาวคณะแล้ว (ฮา) หลังจากนั้นไม่ว่าเขาจะประกาศยอดขายหรือยอดเขาหัวซานอะไรก็แล้วแต่ ไม่เคยสนใจอีกเลยครับ มันก็แค่ราคาคุย... แค่ผมได้พิสูจน์ผลงานเขาเล่มเดียว ก็ซึ้งเป็นไหน ๆ แล้ว
ปล่อยวางเถิดครับ พี่น้อง... เอาเวลาไปพัฒนาตัวเองดีกว่า
(อืมม ออกมาพูดแบบนี้จะโดนข้อหาพ่อพระหรือเปล่านะ? ฮา)
พี่บอลคือแม่ชี >_<
PS. คำเตือน คห.นี้เกรียน และอาจนอกประเด็นมู้ ต้องขออภัย -..-
ส่วนนักเขียน ผมอยากเว้นไว้ซักกลุ่มนะครับ เพราะเอาเข้าจริงๆ เมื่อถึงเวลา นักเขียนก็ไม่มีสิทธิ์อะไรไปยุ่งเกี่ยวกับการตลาดของสนพ.นัก
เมื่อก่อนในยุคนั้นก็มีการโฆษณาโดยเอาภาพดารามาขึ้นปกหลังของหนังสือนิยาย พร้อมกับคำนิยมและลายเซ็นว่า นิยายเรื่องนั้นสนุกมาก ผมเลยถามทางบก.ตรงๆ ว่าดาราคนนี้ เขาอ่านนิยายผมด้วยเหรอ (นิยายผมเองก็ต้องมีำคำนิยมดาราเหมือนกัน) คำตอบคือ เขาไม่ได้อ่าน ข้อความด้านหลังนั่นก็เมกขึ้นมา แต่ได้รับความยินยอมจากดาราแล้ว พูดง่ายๆ อาศัยชื่อเขานั่นแหละ ผมเลยขอไปว่า อย่าเอาลงได้ไหม... ผมอาย หรือบางทีนิยายเพิ่งวางแผงวันแรก แต่มีป้ายติดคำว่าเบสเซลเลอร์บนหน้าปกตั้งแต่ต้นฉบับยังเขียนไม่จบก็มี นั่นก็เป็นการตลาดของเขา ถ้ามีวิธีที่สามารถช่วยเขาโฆษณาได้ดีกว่านี้ ผมก็อยากช่วยนะ แต่ผมไม่รู้จะช่วยยังไง ถ้าเขาคิดว่าทำแล้วมันขายได้ ถ้าไม่จำเป็นผมก็จะไม่ห้ห้าม
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 23 เมษายน 2555 / 22:51
PS. สมาคมคนทำหนังสืออินดี้ หนังสือดีที่คุณทำได้ พบปะกันที่ http://group.dek-d.com/handmadebook
การตลาดใกล้ตัวที่อยากให้รู้ไว้ ลองวิ่งไปหยิบรังนกฉลากสีแดงมาสักขวด
เขาอ่านข้างหน้ามันจะเขียนว่า รังนกแท้ 100% ทีนี้ลองหมุนดูด้านหลังครับ ว่ารังนกจริงๆมีกี่ %
ที่บอกอะมันก็ถูกว่าเป็น รังนกแท้ แต่ไม่ได้บอกว่าที่แท้น่ะใส่ไปเท่าไหร่
เป็นคติสอนใจว่า การตลาดทั้งหมดคือความจริง แต่ ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดครับ
ดังนั้นแล้วเรื่องนี้ก็เหมือนกัน เขาคงไม่ใส่หรอกว่า ยอดวิวเป็นแสนในเวลาไม่ถึงเดือน แต่กำลังจะโดนแซงแล้วเลยลบก่อน
PS. ผิดก็กล้ายอมรับว่าผิด เท่านั้นก็จบ
ถ้าพูดในเเง่ของลูกค้า
คำโฆษณาแบบนั้นบนปกหนังสือไม่ค่อยมีผลต่อการซื้อหนังสือของเราเท่าไหร่
เวลาเห็นประโยคอวยๆแบบนั้นบนปก เราก็คิดแค่ว่า "เหรอ? แล้วไง"
เงินอยู่ในกระเป๋ายังไงเราก็ยังมีสิทธิ์เลือก
แต่บางคนก็รู้ แต่ก็ยอมให้เขาหลอกอยู่ดี
แก้คำผิด
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 23 เมษายน 2555 / 23:05
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 23 เมษายน 2555 / 23:07
PS. ถ้าแกวางแอปเปิ้ลไว้บนหัว ฉันสัญญาเลยว่าจะยิงให้พลาด
ความเห็นที่10 เงินอยู่ในกระเป๋าเป็นสิทธิของเรา ถูกครับ แต่การโฆษณานั้นก็มีผลทำให้เงินออกจากกระเป๋าได้เร็วขึ้น (ฮา)
กระนั้นกลวิธีแบบนี้จะใช้ไปได้อีกนานเท่าไหร่กัน? คือเรื่องที่ผมสงสัยอยู่ในตอนนี้... (มุกเก่า ๆ เบื่อแล้ว ขอดูมุกใหม่ ๆ มั่งเหอะนะ)
สำหรับผมแล้ว โดนคนขายในงานสัปดาห์หนังสืออวยให้ซื้อ ได้ผลมากกว่าโฆษณาคำโปรยอวดอ้างสรรพคุณนะ (ซื้อดูนมาทั้งเซ็ต ยังไม่ได้อ่านสักกระแอะ)
PS. Drool...
@9 ประเด็นรังนกแท้ 100% ทางบริษัทเขาได้ออกมาชี้แจงว่า คำว่า 100% ของเขาคือ ปริมาณรังนกที่ใส่เข้าไปนั้นเป็นของแท้ 100% หาได้หมายความว่ามีรังนกอัดแน่นอยู่ 100% ทั้งขวดแต่อย่างใด
PS. The Curse of Laura นิยายภาษาอังกฤษโดยนักเขียนไทยเรื่องแรกบนเด็กดี @ http://writer.dek-d.com/zelena-rivers/writer/view.php?id=735550
แต่ว่านะ...
ที่เจ็บช้ำกว่านั้น มันคือการโดนเพื่อนอวยในงาน แล้วมาเฉลยทีหลังว่าให้เราเป็นหนูทดลองนี่สิ!!!!!
กรอดด... หมื่นลี้ฯ เอ็งเอาตังกรูคืนมาาาาาาาาาาา...!!!! (แอคโค่)
โปรดใช้วิจารณ์ญาณให้จงหนัก
แต่เด็กไม่ค่อยมี ก็เลยขายออก... ลั๊ลล๊า
PS. การยิ้มนั้นดี แต่การยิ้มอยู่คนเดียวเป็นเรื่องไม่ดี
ทั้งด็อกกี้กับท่าน no one know ผมเข้าใจความรู้สึกของท่านทั้งสองดี หัวอกเดียวกัน
PS. I keep none for myself.
คือความจริงก็รู้ล่ะว่าถ้าถามคนขายว่าเรื่องนี้สนุกไหม ยังไงคนขายก็ต้องตอบว่า "สนุกสิครับพี่" อยู่วันยังค่ำ...
ทั้งที่รู้อย่างนั้นเราก็หลงซื้ออยู่ดีนั่นแล T-T
ส่วนเรื่องโดนเพื่อนอวยบางทีมันเจ็บใจนะ แต่ของผมเพื่อนมันเชื่อด้วยความสัตย์จริงเลยว่าสนุก แต่มันดันคนละแนวกับที่เราชอบ ก็เลยไม่รู้จะทำไงดี
ปล. คห. นี้ออกทะเล
PS. Drool...
มู้นี้มีพ่อพระแล้ว เรากำลังรอนางฟ้ามาโปรดซาตาน
PS. คำเตือน คห.นี้เกรียน และอาจนอกประเด็นมู้ ต้องขออภัย -..-
สรุปว่า
ก่อนจะซื้อนิยาย เราต้องยืนอ่านก่อน
PS. คำเตือน คห.นี้เกรียน และอาจนอกประเด็นมู้ ต้องขออภัย -..-
ขึ้นอยู่กับเราตัดสินใจเองด้วยแหละ
PS. Home is behind the world ahead
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?