Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Leatherface / The Texas Chain Saw Massacre กับผองเพื่อนผู้ใช้เลื่อยไฟฟ้ามหาประลัย !!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 เครดิตบทความ  :  http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.56






Leatherface / The Texas Chain Saw Massacre กับผองเพื่อนผู้ใช้เลื่อยไฟฟ้ามหาประลัย !!!!

ณ ดินแดนไกลปืนเที่ยงแห่งหนึ่ง บ้านไม้เก่าซอมซ่อ กับครอบครัวประหลาดผู้นิยมบริโภคเนื้อคน ชายร่างใหญ่นามเลทเธอร์เฟซสวมใส่หน้ากากหนังมนุษย์ ควงเลื่อยไฟฟ้าออกไล่ล่าเหยื่อในค่ำคืนอันแสนมืดมิด เสียงใครคนหนึ่งย่ำฝ่าเท้าลงตรงหน้าบ้าน ปากตะโกนร้องเรียกหา ชายชราออกไปต้อนรับขับสู้ แววตาที่แสนยินดีปรีดา เชิญมายังโต๊ะอาหาร เบิกบาน เริงร่า กับดินเนอร์มื้อค่ำ

The Texas Chain Saw Massacre/1974 หรือ The Texas Chain Saw Massacre Original ในปี ค.ศ.1974 ในไทยเรียก “สิงหาสับ” ผลงานการกำกับของ Tobe Hooper เขียนบทหนังโดย Tobe Hooper และ Kim Henkel นำแสดงโดย Marilyn Burns(Sally Hardesty), Allen Danziger(Jerry), Paul A. Partain(Franklin Hardesty), William Vail(Kirk), Teri McMinn(Pam/as Teri Mcminn), Edwin Neal(Hitchhiker), Jim Siedow(Old Man), Gunnar Hansen(Leatherface), John Dugan(Grandfather), Robert Courtin(Window Washer), William Creamer(Bearded Man), John Henry Faulk(Storyteller), Jerry Green(Cowboy), Ed Guinn(Cattle Truck Driver) เเละ Joe Bill Hogan(Drunk) โดยดาราที่ได้รับบทเด่นในเรื่องได้เเก่ Marilyn Burns(Sally Hardesty), Edwin Neal(Hitchhiker) เเละ Allen Danziger(Jerry)

เรื่องราวของการขโมยศพ ณ สุสานเล็กๆแห่งหนึ่งในมลรัฐเทกซัส รัฐทางใต้และตะวันตกเฉียงใต้ ของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ กับฤดูร้อนอันแสนสงบเงียบที่ต้องปรับเปลี่ยนละเล่นชุ่มไปด้วยเลือด เมื่อกลุ่มเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งพยายามทำตัวเป็นนักสืบออกค้นหาความจริงเกี่ยวกับโจรขโมยศพดังกล่าว วัยรุ่น 5 คนที่ขับรถมุ่งสู่เทกซัส กับเหตุการณ์ฝันร้ายกลางวันแสกๆ และที่มาแห่งคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ เลวร้าย รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาเคยมีมา กลายเป็นตำนานแห่งนักฆ่า อำมหิต เลือดเย็น โรคจิต ที่สังหารโหดเหยื่อด้วยเลื่อยไฟฟ้า และก่อให้เกิดแรงบันดาลใจต่อการสร้างหนังสยองขวัญระดับตำนานของ Hollywood ตามมาอีกหลายเรื่อง อาทิ Psycho ในปี 1960, The Texas Chain Saw Massacre ฉบับ Original ในปี 1974 และ The Silence of the Lambs (อำมหิตไม่เงียบ)ในปี 1991 อันผลส่งให้ดารานำในเรื่องอย่าง Anthony Hopkins ที่รับบทเป็น Dr. Hannibal Lecter ได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(Academy Award for Best Actor)ในปีเดียวกัน


The Texas Chain Saw Massacre/1974 หนังดังในตระกูล The Texas เปิดต้นตำรับแห่งตำนานสิงหาสับโดยเจ้าพ่อหนังแนวชำแหละเหยื่อ Tobe Hooper สร้างหนังอินดี้ต้นทุนต่ำแต่กำไรงามขึ้นมา ด้วยเล่าลือกันว่า Director อย่าง Tobe Hooper ใช้ต้นทุนในการถ่ายหนังเรื่อง The Texas Chain Saw Massacre/1974 ด้วยทุนสร้างเพียงแค่ 140,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หนังกลับทำรายได้มากกว่า 30,00,000 ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว The Texas Chain Saw Massacre/1974 (สิงหาสับ)ถือว่าได้สร้างความวิบัติแก่คนดูหนังแนวนี้อย่างแท้จริง ด้วยฉากการไล่ล่า ฆ่าอย่าวิปริตในหนัง(หลายฉากมาก) บวกการนำเสนอด้วยภาพของหนังในโทนสีที่ดูดิบ จึงเป็นเรื่องไม่ยากที่หนังเรื่องนี้เคยสร้างปรากฏการณ์ในปี 1974 ว่ามีคนดูอ้วกแตกคาโรงหนังมาแล้ว โดยเฉพาะฉากที่นางเอกถูกจับมัดคาเก้าอี้ ต้องทนดูครอบครัววิปริตนั่งรับประทานเนื้อคนกันอย่างเอร็ดอร่อย ฉากเหยื่อถูกหักคอจนหมุนได้รอบ ซึ่งโหดร้ายมาก(ในสมัยนั้นไม่มีใครกล้าทำฉากแบบนี้)หรือฉากจบที่เลทเธอร์เฟซควงเลื่อยไฟฟ้าไล่ล่าผู้หลบหนี นอกจากนี้จากการให้สัมภาษณ์ของผู้กำกับ Tobe Hooper เขาต้องการให้หนังเรื่องนี้ได้เรต PG (Parental Guidance)ซึ่งอนุญาตให้ทุกคนร่วมถึงเด็กๆเข้าชมได้……มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว!!!

หลังจากประสบความสำเร็จได้ผลกำไรตอบแทนอย่างงดงามจากหนังเรื่อง The Texas Chain Saw Massacre ภาคแรก ด้วยกระแสตอบรับที่ดี บวกมีแฟนคลับของหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นตามมา จึงเป็นแรงผลักดันให้เกิดการสร้างภาคต่อของหนังในตระกูล The Texas ตามมาอีกถึง 5 ภาค(รวมภาค Original ด้วยก็เป็น 6 ภาค) มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. The Texas Chain Saw Massacre Original (สิงหาสับ) ปี 1974 โดยผู้กำกับ Tobe Hooper เขียนบทหนังโดย Tobe Hooper และ Kim Henkel
2. The Texas Chainsaw Massacre 2 (สิงหาสับ 2) ปี 1986 โดยผู้กำกับ Tobe Hooper เขียนบทหนังโดย Tobe Hooper และ Kim Henkel
3. Leatherface: Texas Chainsaw Massacre 3 (สิงหาสับ 3) ปี 1990 โดยผู้กำกับ Jeff Burr เขียนบทหนังโดย Tobe Hooper และ Kim Henkel
4. The Return of the Texas Chainsaw Massacre หรือ The Texas Chain Saw Massacre : The Next Generation (สิงหาสับ : สยองไม่เลือกรุ่น) ปี 1994 โดยผู้กำกับ Kim Henkel เขียนบทหนังโดย Tobe Hooper และ Kim Henkel
5. The Texas Chainsaw Massacre (ล่อมาชำแหละ) ปี 2003 โดยผู้กำกับ Marcus Nispel เขียนบทหนังโดย Tobe Hooper และ Kim Henkel
6. The Texas Chainsaw Massacre: The Beginning (เปิดตำนานสิงหาสับ) ปี 2006 โดยผู้กำกับ Jonathan Liebesman เขียนบทหนังโดย Sheldon Turner และ Sheldon Turner

The Texas Chain Saw Massacre Original (สิงหาสับ) หนังสยองสุดดิบปี 1974 ของผู้กำกับ Tobe Hooper เขียนบทหนังเรื่องนี้โดย Tobe Hooper เเละ Kim Henkel หนังเก่าสมัยยุคเริ่มต้นของภาพยนตร์สยองขวัญชื่อดังในตระกูล The Texas โดยในภาค The Texas Chain Saw Massacre ปี 1974ในชื่อภาษาไทยว่า “สิงหาสับ” ได้รับการกล่าวขานกันว่าสร้างได้เข้าขั้นวิปริตที่สุดในบรรดาทุกภาค สโลแกน “ชายผู้มีใบหน้าพิการ สวมหน้ากากหนังมนุษย์-ควงเลื่อยไฟฟ้า ออกไล่ล่าเหยื่อ” หนังเรื่องนี้สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของ Edward Theodore Gein หรือ Ed Gein ฆาตกรฆ่าต่อเนื่องโรคจิตชาวอเมริกันผู้ที่มีชื่อเสียง เเต่กลับนำมาดัดเเปลงซะจนโหดเกินลิมิตทั้งๆที่เรื่องจริงฆาตรกรไม่ได้โหดเหมือนอย่างในหนัง

ว่าด้วยเรื่อง Edward Theodore Gein หรือ Ed Gein ต้นตำนานแห่ง Leatherface อาศัยอยู่ในรัฐวิสคอนซิน(Wisconsin) ประเทศสหรัฐอเมริกา (รัฐวิสคอนซิน : คำว่า วิสคอนซิน มาจากชื่อแม่น้ำวิสคอนซินในภาษาฝรั่งเศสของชนเผ่าอินเดียนแดงที่ว่า Ouisconsin อันหมายถึง ดินแดนแห่งหินสีแดง อันเป็นรัฐทางตอนกลางของประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในเขตมิดเวสต์) Ed Gein ชายหนุ่มขี้อายผู้อาศัยและทำงานอยู่กับครอบครัวในฟาร์มแถบรัฐวิสคอนซิน ซึ่งฟาร์มของรัฐแห่งนี้นี่เองที่มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์ที่มาจากวัว รวมถึงด้านการผลิตชีสชั้นเลิศ ครอบครัวของ Ed Gein เองก็ประกอบอาชีพเกษตรกรรมประกอบไปด้วยเขา น้องชายชื่อ Henry พ่อ และแม่ ทั้ง 4 ดำรงชีพอยู่ภายในฟาร์มแห่งนั้นอย่างกระท่อนกระแท่นเพราะพ่อของ Ed Gein เป็นคนตกงานขี้เมาหยำเป และมักหาเรื่องทำร้ายเขากับน้องชายอยู่เป็นประจำ ด้วยแม่เป็นคนที่เคร่งศาสนาเป็นอย่างมาก จึงพยายามบังคับให้ Ed Gein และน้องชายอ่านคัมภีร์ Bible ทุกวันในช่วงบ่ายอย่างเคร่งครัด จวบจนพ่อของเขาเสียชีวิตลงในปี ค.ศ.1940 และน้องชายถูกไฟคลอกตายในปี 1944 อย่างมีเงื่อนงำ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Ed Gein ต้องอาศัยอยู่ในบ้านน้อยภายในฟาร์มแห่งนั้นเพียง 2 คนกับแม่ของเขา




แสดงความคิดเห็น

15 ความคิดเห็น

ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:42 น. 1

 ราว 2 ปีต่อมาแม่ของ Ed Gein เสียชีวิตจากไปด้วยโรคเส้นโลหิตไปเลี้ยงสมองอุดตัน หลังจากสูญเสียแม่อันเป็นที่เคารพรักและที่พึ่งแห่งสุดท้ายไปนี้แล้ว ทำให้ Ed Gein แสดงพฤติกรรมป่าเถื่อนแปลกประหลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ เขามักจะศึกษาเรื่องเกี่ยวกับนาซี และกายวิภาคศาสตร์(Anatomy)อยู่บ่อยครั้ง นอกยากนี้ยังหมกมุ่นอยู่แต่ในเรื่องเพศ Sex เรื่องที่เขาถูกแม่บังเกิดเกล้าสั่งห้าม และบอกว่ามันเป็นเรื่องผิดศีลธรรมในวัยเด็กเสมอมา Ed Gein กำลังลุ่มหลงมันอย่างมากจนวันหนึ่งเขาได้ชวนเพื่อนสนิทคนหนึ่งไปขุดศพของหญิงสาวที่เพิ่งเสียชีวิตขึ้นมาจากหลุมฝังศพ(โดยหลอกเพื่อนของเขาว่า ขุดศพขึ้นมาเพื่อการค้นคว้าทดลองทางการแพทย์) เขาทำอย่างนี้มาเป็นเวลายาวนานถึงกว่า 10 ปี และได้สร้างเครื่องเฟอร์นิเจอร์มากมายภายในบ้านของเขาจากซากศพมนุษย์ จวบจนอยู่มาวันหนึ่งความคิดที่จะได้ซากศพคนที่เพิ่งตายใหม่ๆมาครอบครองก็แล่นฉิวเข้ามาในหัว

Ed Gein ลงมือสังหาร 2 สาวอย่างเลือดเย็นเพื่อเก็บเข้าคอลเลคชั่นวิปริต โดยเหยื่อรายแรกเป็นสาวทำงานในโรงเหล้า Pine Grove เขาจัดการฆ่าเธอด้วยการยิงลูกกระสุนปืนเข้าสู่หัวของเธอในระยะเผาขน อีกรายก็เช่นเดียวกันกับรายแรก Ed Gein ยิงเข้าที่หัวของเธอจนเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ จากนั้นจึงกระทำการวิปริตต่างๆนาๆต่อภายในบ้านของตนอย่างลึกลับ จวบจนตำรวจในพื้นที่ได้เบาะแสว่าการหายตัวไปของเหยื่อสาวสองรายอาจเป็นฝีมือของฆาตกรจิตแตก Ed Gein จึงนำกำลังเข้าจับกุมและรื้อค้นภายในบ้านของ Gein ในวันที่ 16 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.1957 ตำรวจได้เจอภาพที่น่าสยดสยองเป็นอย่างมากปรากฏอยู่ภายในบ้านของเขา ศพของหญิงสาวที่คาดว่าเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายรายที่ 2 คือ Bernice Worden สภาพถูกตัดศีรษะ ร่างกายเปลือยเปล่า ถูกเชือกมัดเข้าที่ขาและแขนทั้งสองข้าง ลำคอชี้ปักพื้นห้อยลงอย่างสยดสยอง ส่วนอวัยวะเพศและรูทวารหนักนั้นของ Bernice Worden นั้นถูกเฉือนออกไป นอกจากนี้ทางตำรวจยังพบ สิ่งของเครื่องใช้ที่ทำจากซากศพของมนุษย์อีกเป็นจำนวนมากหลายรายการ อาทิ ตู้เสื้อผ้าที่ทำจากซากศพ เสื้อกั๊กที่ทำจากอวัยวะเพศและแผ่นหนังของผู้หญิง หน้ากากที่ทำจากหนังมนุษย์ ฯลฯ 

0
ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:42 น. 2

 Ed Gein ถูกจับและได้รับการวินิจฉัยทางการแพทย์ว่าบ้า มีอาการทางประสาทและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ Ed Gein ถูกบังคับให้เข้าบำบัดในโรงพยาบาลอยู่นาน ตลอดการเข้าบำบัดรักษาอาการป่วย เขาทำการสาปแช่งแม่ของเขาตลอดเวลา รวมถึงคนชื่อ Anne ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเป็นหญิงหรือชาย หรือเป็นใครมาจากไหน 26 กรกฎาคม ปี ค.ศ.1984 Ed Gein ลาโลกไปอย่างสงบด้วยอาการหัวใจวายที่โรงพยาบาล Mendota Mental Health Institute ใน Goodland Hall อย่างสงบ หลุมศพของ Ed Gein กลายเป็นตำนานที่ใครหลายๆคนต้องการเก็บไว้ในครอบครอง(อาจจะด้วยความคลั่งไคล้ หรือต้องการนำไปขายทอดตลอดนักสะสมของแปลก) จวบจนมีการขโมยหลุมฝังศพของฆาตกรชื่อก้องโลกรายนี้ขึ้นในปี 2000 ในอีกหลายเดือนต่อมา มิถุนายน ปี 2001 หลุมศพของ Ed Gein ถูกค้นพบ และนำกลับมายังรัฐวิสคอนซินอันเป็นบ้านเกิดของเขาอีกครั้ง หลุมศพของ Ed Gein ผู้ได้รับฉายาว่า “ต้นตำนานแห่ง Leatherface” ถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ Wautoma, Wiscousin, United States of America ตราบปัจจุบัน 

อนึ่ง นอกจากเรื่องราวของ Ed Gein หรือ Edward Theodore Gein จะถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการหนังสยองขวัญชื่อก้องโลกอย่าง Psycho ในปี 1960, The Texas Chain Saw Massacre ฉบับ Original ในปี 1974 และ The Silence of the Lambs (อำมหิตไม่เงียบ)ในปี 1991 แล้ว ยังปรากฏมีการสร้างหนังเกี่ยวกับอัตชีวประวัติของ Ed Gein ในแง่มุมแบบที่เป็นตัวตนของเขาจริงๆด้วย หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า Ed Gein Based on a True Story หรือ In the Light of the Moon ในปี ค.ศ. 2000 ผลงานการกำกับของ Chuck Parello เขียนบทหนังโดย Stephen Johnston และได้ Steve Railsback รับบทเด่นแสดงเป็น Ed Gein

0
ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:43 น. 3

 เลื่อยไฟฟ้า........ราชันศาสตราวุธสังหารยอดนิยมในหนังสยองขวัญ

“เลื่อยไฟฟ้า” หรือ “เลื่อยโซ่ยนต์” ถือเป็นอาวุธสังหารอันเป็นที่นิยมและสามารถพบเห็นได้ในหนังสยองขวัญหลายๆเรื่อง ด้วยพลานุภาพการทำลายล้างสูง เสียงเครื่องยนต์จากตัวเลื่อยซึ่งทำลายโสตประสาทการรับรู้ของเหยื่อให้อยู่ในสภาพ “ช็อค” และ “ขวัญกระเจิง” บวกด้วยรูปทรงอันงดงาม น่าเกรงขาม เหล่านี้เองล้วนทำให้อาวุธชนิดนี้กลายเป็นที่หลงใหลของทั้ง “ผู้ล่า” และ “ผู้ถูกล่า” มาเป็นระยะเวลายาวนาน มาสิ มาร่วมย้อนอดีตกัน กับเลื่อยไฟฟ้า อาวุธที่ได้ชื่อว่าเป็น “ราชันศาสตราวุธสังหาร”


0
ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:44 น. 4

 ครั้งหนึ่งเราเคยเห็น Leatherface ควงเลื่อยไฟฟ้ามหาประลัย หลอก ล่อ และล่าเหยื่ออย่างอำมหิตใน The Texas Chain Saw Massacre ปี 1974 และหลังจากนั้นอีกอย่างน้อย 5 ครั้งในปี ค.ศ. 1986, 1990, 1994, 2003 และ 2006



0
ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:44 น. 5

 ในหนังเรื่อง Evil Dead ทั้งภาคแรกและภาค 2 (1981, 1987) เราได้เห็นพระเอกในหนังเรื่องนี้ใช้เลื่อยไฟฟ้าเพื่อป้องกันตัว ออกสู้กับเหล่าปีศาจ ณ บ้านร้างกลางป่าอย่างห้าวหาญ



0
ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:45 น. 6

 ในหนังเรื่อง Bagman (หน้าถุง) ปี 2004 เราได้เห็นฝันร้ายที่กลายเป็นจริงของสาว(น้อย)นางหนึ่ง กับหน้าถุง และเลื่อยไฟฟ้าในมือ



0
ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:46 น. 7

 ในหนังเรื่อง Hostel ทั้งสามภาค(2005, 2007, 2011) เราได้เห็นเหล่า “หมาล่าเนื้อ” ใช้เลื่อยไฟฟ้าเพื่อสร้างความหฤหรรษ์สู่งานปาร์ตี้ให้เริงรื่นชุ่มฉ่ำไปด้วยละอองโลหิตแดงฉาน



0
ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:49 น. 10

 ปี 2009 กับ Grotesque หนังญี่ปุ่นสุดวิปริตที่ถูก UK สั่งแบนตลอดกาล แบนแบบไม่ให้ผุดไม่ให้เกิด ชายวัยกลางคนไร้นาม กับเลื่อยไฟฟ้า…..เพื่อพิสูจน์รักแท้



0
ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:50 น. 11

 ปี 2009 (อีกเรื่อง) กับ Rumah Dara หนังโหดใต้ตมเลือดจากประเทศอินโดนีเซีย ในมุมมองใหม่ เลื่อยไฟฟ้ามหาประลัย กับสาวสวยกระโปรงบาน และรองเท้าส้นสูง



0
ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:55 น. 12

 ในปี 2009 กับ Dead Snow หนังสยองขวัญแนวบ้าดีเดือด / ตลก ที่ใช้เลื่อยไฟฟ้าสู้กับเหล่าผีดิบ เลือดที่ไหลหลั่งกลายหิมะสีขาวโพน 



0
ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:56 น. 13

 และสุดท้ายกับ REC 3 ภาคต่อหนังสยองขวัญสุดแรง กับเจ้าสาวสุดสวยพร้อมเลื่อยไฟฟ้าคู่ใจในปี 2012



0
ดอกไม้เปลวสะพรั่งกลิ่นกลีบวิญญาณ 25 พ.ค. 55 เวลา 12:56 น. 14

 เธอ
ก็แค่กลุ่ม
ผู้หลงทางยามราตรี
ใต้ชายคา ณ เรือนตุ๊กตา
กลุ่มครอบครัววิปลาสสะแหยะยิ้ม
เริงร่า เบิกบาน กับแขกแปลกหน้าผู้มาเยือน
ทุกย่างก้าว เป็นไปอย่างประณีต 
รอเพียงเวลา ดินเนอร์
ใต้แสงเทียน
ในมื้อนี้.....



0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น