ว่ากันว่า คณะเภสัชกร เป็นคณะที่ ...... จริง หรือ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
21 ความคิดเห็น
ไม่อยากให้คิดอย่างนั้นนะคะ  :)
เพราะบางคน เค้าอยากจะเป็น "เภสัชกร" จริงๆค่ะ
ถ้าคิดว่าจะเข้าคณะนี้ เพื่อเหตุผลเช่นนั้น
ขอให้เลิกคิดเถอะค่ะ เห็นใจทางคณะ และเพื่อนๆที่เค้าอยากเป็นจริงๆบ้าง
บางคนที่สอบไม่ติด ต้องเสียโอกาสตรงนี้ไปนะคะ :D
ถ้าจะสอบหมอจริงๆก็ขอให้โชคดีนะคะ :)
รู้สึกจะเคยได้ยินแต่คณะเภสัชศาสตร์นะ คณะเภสัชกรไม่เคยเห็นอ่ะ ^^
ก็อาจจะใช่นะ เพราะหลายคนหลุดหมอ หลุดทันตะ ก็มาเรียนเภสัช
แล้วก็ซิ่ว ติดบ้างไม่ติดบ้าง สถิติซิ่วสูง
แต่คนที่อยากเรียนเภสัชอยู่แล้วจริงๆก็มี และมีเยอะมาก
แล้วแพทย์ ทันตะ เภสัช ก็ทำงานต่างกัน "มาก" นะ มันแทนกันไม่ได้หรอก
แล้วมันก็ไม่ได้อยู่ที่ตัว "คณะ" ด้วย ที่ทำให้ค่าสถิติเป็นแบบนี้
มันอยู่ที่ตัวคน
ปล. อยากเรียนแพทย์ ก็ขอให้สอบติด สู้ๆนะ
แต่เราว่าไม่ควรใส่ "" เลย เหมือนจะมาดูถูกคณะคนอื่น
ทั้งๆที่...... ตัวเองจะได้เรียนอะไรก็ยังไม่รู้เลย
เราอยากเป็นเภสัชนะ เป็นคณะเดียวจริงๆ ที่อยากเข้า
แล้วเราก็บอกตรงๆ ว่าค่อนข้างกลัว พวกเรียนเก่งๆ หัวกะทิที่อยากสอบหมอสอบทันตะ
แน่นอนว่าพอเค้าสอบไม่ได้ ก็จะดรอปลงมาที่เภสัช
ซึ่งเราก็มีโอกาสถูกเตะกระเด็นออกไปมากขึ้นด้วย เหมือนที่คห. 1 บอกแหละ
อย่าแย่งที่เด็ก(อยากเรียน)ตาดำๆแบบเราเลย 55
ไม่เสมอไปหรอกค่ะ เราเรียนเภสัช เพราะเราชอบวิชาแนวเคมี ชีวะ แต่เราไม่อยากเป็นหมอ เราไม่ได้สอบหมอ จะพูดให้ถูกคือเราสอบแค่ 7 วิชา แต่ไม่ได้สอบความถนัดแพทย์ คะแนน 7 วิชาเราเยอะกว่าพวกที่ได้หมอจุฬาบางคนซะอีก แต่เราก็ไม่ได้เลือกที่จะเรียนหมอ คนที่เรียนหมอหลายคนมองเราแบบดูถูกนะ คิดว่าเราโง่กว่า(อันนี้เรารู้สึกได้อ่ะ) เพราะคิดว่าสอบหมอไม่ได้เลยมาเรียนเภสัช แต่อยากบอกว่าไม่ทุกคนนะ จริงอยู่ที่มีคนที่ไม่ได้หมอแล้วมาเรียนรอซิ่ว แต่ก็มีคนที่เรียนคณะนี้เพราะตั้งใจจะเรียน เพราะไม่อยากเป็นหมออีกตั้งเยอะแยะ ไม่อยากพูดให้แตกแยกนะ เพราะเพื่อนสนิทของเราทุกคนก็เรียนหมอ แต่ทั้งหมอทั้งเภสัชเป็นวิชาชีพที่สำคัญทั้งคู่ค่ะ ถ้าไม่มีหมอเราก็ไม่มีคนคอยรักษาโรค ถ้าขาดเภสัชเราจะเอายาจากไหนมารักษาคนไข้ 2 อาชีพนี้ต้องพึ่งพิงกันค่ะ เภสัชคิดค้นยาใหม่ๆมาให้หมอใช้รักษา ถึงเภสัชรักษาโรคไม่ได้ แต่เภสัชเก่งเรื่องยามากกว่าหมอค่ะ วิชาชีพแนวๆเดียวกัน เน้นรักษาโรคและคนไข้เหมือนกัน แต่ประเภทของงานต่างกันอย่างสิ้นเชิงนะคะ คิดดูดีๆก่อนว่าอยากจะเป็นหมอ อุทิศเวลาทั้งหมดของตัวเองเพื่อมวลมนุษยชาติ หรืออยากเป็นเภสัช ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ยา แนะนำการใช้ยา และคิดค้นตัวยาใหม่ๆ
เรื่องจริงครับ ตอนนี้เพื่อนผมที่ติดเภสัช ลาออกแล้วคนนึง เพื่อเตรียมสอบหมอ ส่วนอีกหลายๆคนก็รอสมัคร กสพท ตอนนี้ก็เรียนไปเรื่อยๆ
คราวนี้ละครับ เหงาแน่ถ้าใครมีเพื่อนปี1
มันคือความจริงล่ะนะ ถามว่ามีคนชอบจริงๆมั้ย ก็มี แต่ก็จะลักษณะเดียวกันกับคณะอื่นๆนั่นแหละ ที่เค้าเข้าเพราะหลุดคณะที่ดีกว่าในสายนั้นๆมา
เรื่องแบบนี้มันก็มีทุกคณะแหละ อย่าคิดว่ามีแค่ เภสัช วิทยา เทคนิคการแพทย์ เล้ย ทุกคณะเจอแบบนี้แหละ ยกเว้นคณะที่เป็นที่สุดของสาย เช่น แพทย์ ทันตะ วิศวะ นิติ อักษร พวกนี้มีแต่คนจะซิ่วเข้า ไม่ค่อยซิ่วออก การซิ่วออกเป็นเพราะไม่ชอบและเรียนไม่ไหว แต่ไม่ใช่เหตุผลที่หลุดมา
แล้วแต่ความคิดของแต่ละคนนะคะ
จริงอยู่ที่ว่าบางคนก็เรียนคณะนี้เพื่อซิ่วหมอหรือทันตะ แต่บางคนก็อยากเรียนด้วยใจจริง
เราก็เรียนเภสัชนะ เรียนเพราะอยากเรียน ไม่อยากให้คิดว่าเรียนเพราะจะซิ่วหมอหรืออะไรอย่างนั้น
แต่ค่านิยมและความคิดของคนมันเปลี่ยนกันยาก ก็ไม่ได้ว่าอะไร ใครเขาจะพูดยังไงคิดยังไงก็คิดไป เรารู้ตัวเราก็พอแล้วค่ะ
PS. การที่มีเธออยู่ มันทำให้วันคืนที่ผ่านพ้นไปเรื่อยเปื่อย กลับกลายเป็นวันคืนที่มีความหมายขึ้นมา ขอบคุณมากๆ นะ
แหม หลายๆคนเค้าก็อยากเรียนด้วยตัวของเขาแหละน่า
ผมมีแฟนอยู่เภสัช ด้วยความสัตย์จริง ผมว่าเภสัชเนี่ยเรียนยากกว่าหมอนะ
เรียนแต่กับสิ่งที่มันมองไม่เห็น มโนเอา โครงสร้างยา ฯลฯ ละยามันมีกี่ตัวละนั่น
ผมละนับถือในความอึดของคนที่เรียนคณะนี้ (เอ๊ะ หรือว่าเพราะผมไม่ชอบเคมีเอง)
เห็นด้วยกับความเห็นที่ 9 เป็นอย่างสูง
ผมเองก้เรียนเภสัช ต้องใช้ความอึดจริงๆ เก่งอย่างเดียวไม่รอด
แต่ก็ภูิมิใจนะ เพราะเราคือผู้รอบรู้เรื่องยาจริงๆ
เขียวมะกอก จงเจริญ
ศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับยา และจบออกมาประกอบอาชีพที่เรียกว่า เภสัชกร
จะว่าไปมันก็เรื่องจริง เพราะคณะเภสัชก็ซิ่วออกกันเยอะ และก็คนซิ่วเข้าก็เยอะ พอๆกันละ
แต่ไม่ใช่คนเรียนเภสัชจะไม่ติดหมอ ทันตะ เสมอไป บางคนติดทั้งหมอ ทันตะ แต่ไม่เอาก็มีเยอะแยะไป ตั้
        ทั้งนี้แต่ละวิชาชีพย่อมมีจุดเด่นของตนเอง เภสัชก็เช่นเดียวกันย่อมมีบางอย่างที่วิชาชีพอื่นทำไม่ได้ เภสัชเนี่ยเรียนหกปี ปล้วก็ยากพอกับหมอและทันตะเลยทีเดียว  แต่ถือว่าคุ้มมากเพราะคณะนี้ได้เรียนหลากหลายเลยทีเดียว ถ้าคุณมาเรียนแล้วจะภูมิใจมากๆ
        ปล จขกท ก็คงเป็นคนหนึ่งที่อยากเรียนหมอรึป่าว  แต่แนะนำให้อ่านหนังสือเยอะๆหน่อยนะ เพราะเรียกชื่อคณะยังเป็น เภสัชกร เลย ตั้งใจอ่านมากๆแล้วจะสมหวัง โชคดีล่ะ
คณะเภสัชศาสตร์ค่ะ ไม่ใช่คณะเภสัชกร
ขอโทษมากๆๆ คร้าบบบบบ ที่ ข้อความในกระทู้อาจจะ ไม่เข้า หูใครไปหน่อย แต่ด้วยความที่ผมคาใจกะเลยตั้งขึ้นมาคร้าบ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะแรง!!!! เกินไป แต่ที่ขอยืนยัน นอนยัน เลยแบบหัวขาดเลย ว่า
ไม่ได้ดูถูกเภสัชกรเลยแม้แต่น้อย
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นคร้าบบ
จะว่าจริงก็จริง...
จะว่าไม่จริงก็ไม่จริง..
เภสัชมีทั้งซิ่วเข้า และ ก็ ซิ่วออก
เพราะมีทั้งคนอยากเรียนจริงๆ อยากเป็นเภสัช เลยจริงๆก็มี
มีคนที่เรียนเภสัช เพราะรอซิ่ว ไป แพทย์/ ทันตะ จริงๆเลยก็มี
มีคนที่มาเรียนเภสัช เพราะ รอซิ่วไป แพทย์ / ทันตะ ...แต่สุดท้าย ขอเรียนเภสัช ต่อไป ก็มี,,,
เนื่องจากเภสัช อยุ่ใน กลุ่ม 3 คณะต้นๆ ที่นักเรียนมอ 6 เลือก เป็นคณะที่มันพูดและได้ยินบ่อย
เรียนไรละ จะเรียนไรดี "" แพทย์ ทันตะ เภสัช "" มักจะอยู่ในตัวเลือกแรกๆ ของเด็ก เลยก็ได้
ไม่ติด แพทย์ ทันตะ ทำไงดี"" เลือก เภสัช ไว้ก่อนแม่ เด๋วปีหน้าซิ่วเอาใหม่ "" เด็กๆที่มาเรียน
เภสัช มอพี่ก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน แต่บางคน เรียนไปเรียนมา อ้าว เฮ้ย  จริงๆแล้วเราชอบเภสัชนี่
หว่า เรียนต่อก็มี ,,บางคนก็แบบซิ่วออกจากเภสัช ไปคณะสายวิศวะ เลย ประมาณว่าชอบคำนวนไรงี้
  สรุปแล้ว..นานาจิตตัง แต่คนที่เค้าอยากจะเป็น ''เภสัชกร '' จริงๆหน่ะ มีเยอะ
ความโดดเด่นของแต่ละวิชาชีพต่างกัน ของเภสัชจะเน้นเรื่องยาเป็นหลัก ทั้ง ผลิต ประกันคุณภาพ
วิเคราะห์  รักษา บำบัด การบริหารทางเภสัชกรรม กฏหมายยา  สมุนไพรหรื่องพืช
เภสัชเคมี,,,ซึ่งเราเรียนกันเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ต้องอึดและถึก แลปก็ค่อนข้างโหด
ในการสอบ การจำชื่อยา Side effect drug interaction ของมัน การคำนวนจลศาสตร์ยาไรงี้ ..
ถึงแม้บางหน้าที่จบไปจริงๆ อาจจะมีบางอา่ชีพทำแทนเีรา่ก็ตาม แต่เราก็ต้องเรียน เพราะ ในความ
เป็นจริงแล้ว ทุกๆอาชีพในสายการแพทย์ จะพึ่งพากันหมด ไม่มีใคร One man show ค่ะ ทุกคนต้อง
พึงพากัน เพื่อประโยชน์ ของ '' ผู้ป่วย ''  :)))    และการเรียนของเภสัช บางวิชาต้องใช้
จินตนาการเข้าช่วย มโนภาพเอาเอง อย่างที่ความเห็นที่ 9 บอก มันคือเรื่องจริงๆ
จะเปลี่ยนตน.โครงสร้างตรงไหนดีให้มีฤทธิ์ น้อยลง ตรงไหนฤทธิ์หายไป
มันมีกี่ไครอลละ ถ้าอยู่ในระนาบแสงอันนี้จะได้ยามีคุณสมบัติไงน่ะ
หรือ บิดซ้าย บิดขวา หมุดโครงสร้างยากันจะอ๊วววก อะ ....
เพราะฉันั้นเราต้องมีความพยายามมากๆ อะ (( อันนี้เหมือนพูดนอกประเด็นๆ555)))
ทุกคณะมีความยาก และ ความง่าย ในตัวของมัน
ใครอยากเรียนแพทย์ อยากเรียนทันตะ ไรงี้ พี่ก็ขออวยพรให้สอบได้ ซิ่วไปให้ได้
เพราะ ทุกคณะในสายแพทย์ ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์หมดค่ะ  เราจะได้เป็นอีก 1 แรงในการ
ช่วยเหลือผู้ป่วยค่ะ :))
เภสัชกร ...หมอ ยา ...ผู้เชี่ยวชาญเรื่องยา ...
แต่ในชีวิตการทำงานจริง ...หมอคน แทบจะไม่ฟังความคิดเห็นจากวิชาชีพอื่นเลยครับ
เวลาทำงาน อยากให้ทำงานแบบร่วมมือแบบสหวิชาชีพจริง ๆ ร่วมกันวินิจฉัย(ส่วนนี้ แพทย์ หรือ ทันตแพทย์ น่าจะเก่งกว่า) วางแผนการรักษาด้วยกัน แพทย์เน้นไปหัตถการ ผ่าตัดต่าง ๆ ส่วนเรื่องการใช้ยาต้อง comsult กับเภสัชกร ไม่ใช่แบบหมอเขียนชื่อยามา แล้วให้เภสัชจ่ายฝ่ายเดียว
...แต แบบนี้ กว่าจะเกิดขึ้นในเมืองไทยคงอีกนาน
บ่นอะไรเนี่ย งงเหมือนกัน
ถามว่เตรียมแพทย์มั้ย ? ตอบได้เลยว่าไม่ใช่ เราเรียนกันคนละศาสตร์เลยครับ แตกต่างอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจุดมุ่งหมายจะคล้ายกันก็ตาม
ซิ่วออกเยอะ ซิ่วเข้าก็เยอะค่ะ
แต่คนที่อยากเรียนจริงๆก็เยอะเหมือนกัน เรานี่แหละคนนึง
จริงๆไม่อยากให้มองคณะเราอย่างนั้นเลยนะ มันไม่ได้เป็นที่ตัวคณะหรือโดยรวมเลย มันเป็นที่ตัวบุคคลอะ
PS. ^^อีกไม่นานก็จะถึงวันนั้นของเรา...
จบเภสัชแล้ว ไปต่อหมอใหม่ ก็มีครับ  เยอะแยะด้วย
แต่ว่านายแพทย์เภสัชกร คนนั้นจะสุดยอดมากเลย รุ้ทั้ง กระบวนการการรักษา ที่ซับซ้อน และเลือกใช้ยาได้อย่างเหมาะสมเพราะหมอคนนั้นจะเป็นทั้งคุณหมอที่เข้าใจกระบวนการรักษา และวินิจฉัย  และเข้าใจว่าจะใช้ยาอะไรมา  และรุ้อีกว่ายาอะไร ควรไม่ควรให้ด้วยกัน ตีกันหรือไม่  อื้ม 
จะบอกว่ามองว่าเตรียมแพทย์ก็ไม่อยากให้มองแบบนั้นนะ  ถึงแม้ว่าเภสัชปีต้นๆ จะซิ่วไปหมอ ก็มีเยอะแยะ
หรือจบเภสัชแล้วไปต่อหมออย่างที่กล่าวมาข้างต้น 
แต่จริงๆ แล้วศาสตร์ทางเภสัช เนี่ย กว้าง มาก และ หลากหลายมากกว่าที่คิดไว้เยอะจริงๆ ครับ
จะมีสักกี่คนที่อยากเรียนแพทย์ ทันตแพทย์ด้วยจิตวิญญาณจริงๆ ไม่ใช่เพราะค่าตอบแทนที่พวกหมอๆทั้งหลายเรียกร้องหรอกเหรอถึงได้อยากเป็นเพราะ เงิน เราทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเห็นแพทย์มาตรวจคนไข้ช่วงเช้า 10.30 น. ทั้งๆที่ไม่ได้ round ward เพราะกลัวเสียเปรียบกัน ส่วนทันตแพทย์ มาเกือบ 10 โมง มาทำแต่คนไข้นัดวันละ 3 คน ถ้าคนไข้นัดไม่มาก็ไม่คิดมาช่วยทำคนไข้อื่นๆ จริงๆตอนเรียนก็เรียนทุนหลวง แต่จบมาทำงานดันโกงหลวงซ่ะไม่รู้จรรยาบรรณไปอยู่ที่ไหน  รัฐบาลควรไตร่ตรองดูใหม่กับการให้ค่าตอบแทน(คนขยันก็มี แต่พวกกาฝากนี่ซิทำไมถึงกล้าเรียกตัวเองว่าหมอ)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?