Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

กระเทยที่ได้เปลี่ยนชื่อจากนายเป็นนางสาวคนแรกของไทย!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่




โฉมหน้าของสาวประเภทสองที่ได้เปลี่ยนคำนำหน้าจากนายเป็นนางสาวเป็นคนแรกของไทย
ต่อจากนี้ไปคงดูยากแล้วล่ะว่าชายหรือหญิง







''จิ๋ม-ซาร่า'' กะเทยไทยคนแรกที่แปลงเพศจากประเทศนิวซีแลนด์ จนได้รับการรับรองให้ใช้คำนำหน้าว่า"นางสาว"อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งหลังจากเธอแต่งงานจดทะเบียนสมรสแล้วก็ได้ใช้คำนำหน้าว่า"นาง"





กะเทยกรี๊ด สนช.อินเตอร์ เตรียมเสนอกฎหมายชายแปลงเพศแล้วให้ใช้คำนำหน้า "นางสาว" ได้ บอกต่างประเทศก็ทำกัน อ้างก่อนหน้านี้ให้สิทธิหญิงแท้เลือกใช้นาง -น.ส.ได้ ขณะที่กลุ่มสีม่วงหนุน แต่ให้ดีควรให้สิทธิเกย์ทุกคน และควรเป็นนายสาวมากกว่า เพราะกันการหลอกลวงแต่งงานกับชายแท้ จนเกิดปัญหาสังคมตามมา

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีและสถาบันครอบครัวแห่งชาติ โดยมีกรรมการเข้าร่วม อาทิ นพ.พลเดช ปิ่นประทีป รมช.การพัฒนาสังคมฯ นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และนางจุรี วิจิตรวาทการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นต้น

นางจุรี กล่าวว่า ในเร็วๆ นี้ ตนในฐานะที่เป็นสมาชิก สนช.เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับคำนำหน้านาม เพื่อให้สิทธิกับผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว มีทางเลือกใช้คำนำหน้าว่า นางสาว ได้ เพราะคนแปลงเพศน่าเห็นใจจะให้ใช้คำนำหน้า นาย อย่างเดิมก็มีความลำบากทุกข์ร้อนในการดำรงชีวิต อีกทั้งในระดับสากลก็ให้สิทธิกับคนเหล่านี้ในการเลือกใช้คำนำหน้าเป็น นางสาว ได้ เมื่อยอมรับการแปลงเพศก็ให้สิทธิได้เปลี่ยนคำนำหน้า โดยขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นฝ่ายร่วมสนับสนุนในการเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้มีการผ่านกฎหมายอนุญาตให้สิทธิสตรีเลือกคำนำหน้าว่าจะใช้นางหรือนางสาวได้ หากจะให้เกิดประโยชน์เป็นธรรมโดยทั่วกัน ก็ต้องให้สิทธิผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงด้วย


นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พูดถึงการแก้กฎหมายที่เลือกปฏิบัติต่อสตรี โดยนายสุวิทย์ ขันธาโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ กล่าวว่า จากการที่เสนอขอแก้ไขกฎหมายที่เลือกปฏิบัติต่อสตรี ส่วนใหญ่ผ่านการพิจารณาวาระ 3 ของ สนช.แล้ว ส่วนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 277 และ 286 เรื่องการข่มขืนกระทำชำเรา มาตรา 305 เรื่องการทำแท้ง พระราชกฤษฎีกาให้ใช้คำนำหน้าสตรี พ.ศ. 2460 พ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัว พ.ศ. 2478 ให้มีการตรวจสอบสถานะของคู่สมรสก่อนการจดทะเบียนสมรส และระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2535 ข้อ 18 ให้ข้าราชการชายลาเพื่อดูแลภรรยาที่คลอดบุตรได้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรับทราบ เพื่อพิจารณาดำเนินการการบังคับใช้ตามกฎหมายแล้ว

ขณะที่ นพ.พลเดช กล่าวว่า สค.ได้จ้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จัดทำหลักสูตรและคู่มืออบรมพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเผยแพร่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสตรีที่มีการปรับแก้ใหม่ให้ประชาชนทราบ โดยกฎหมายที่ สค.เสนอทั้งหมดจะป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัว โดยจะคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรง และให้ผู้กระทำความผิดมีโอกาสกลับตัวและยับยั้งการทำผิดซ้ำ โดยไม่ต้องใช้มาตรการทางอาญาในการลงโทษ จึงช่วยรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวไว้ได้

รมช.การพัฒนาสังคมฯ กล่าวอีกว่า ส่วนการผลักดันให้สตรีมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะเริ่มรณรงค์ในเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยในวันที่ 24-25 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมเครือข่ายสตรีที่สนใจการเมืองประมาณ 1,000 คน เพื่อให้เรียนรู้ว่าจะลงเลือกตั้งต้องทำอย่างไร นอกจากนี้ สค.จะทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค ขอความร่วมมือในการส่งผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ให้มีรายชื่อผู้หญิงสลับอยู่กับผู้ชาย เพื่อให้มีโอกาสได้รับเลือกเข้าสู่สภา

ด้าน นายนที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่นางจุรี เตรียมเสนอให้มีกฎหมายรองรับให้เกย์ที่มีการผ่าตัดแปลงเพศ สามารถเลือกใช้คำนำหน้าชื่อว่า นางสาว แทนนายได้ว่า ไม่อยากให้ตีกรอบแนวคิดดังกล่าวแคบเพียงให้เกย์ที่มีการแปลงเพศแล้วใช้นางสาวนำหน้าชื่อได้เท่านั้น เพราะถือว่าเป็นการจำกัดสิทธิให้แก่กลุ่มคนเฉพาะกลุ่ม เพราะขณะนี้มีบุคคลที่เป็นเกย์อีกจำนวนมากที่ไม่กล้าผ่าตัดแปลงเพศ เนื่องจากกลัวและไม่ต้องการผ่าตัดแปลงเพศ แต่มีพฤติกรรมที่เป็นเกย์อย่างชัดเจน หากให้สิทธิใช้คำนำหน้าชื่อนางสาวเฉพาะเกย์ที่แปลงเพศแล้ว กลุ่มคนที่ไม่ต้องการแปลงเพศจะทำอย่างไร

นายนที กล่าวต่อว่า การให้สิทธิกลุ่มเกย์ที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว อาจนำไปสู่การหลอกลวงผู้ชายให้มาแต่งงานด้วยกับเกย์ได้ โดยเกย์ผู้นั้นอาจหลอกลวงผู้ชายว่าเป็นหญิงสาวแท้ๆ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอย่างแน่นอน และเมื่อเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นจะทำอย่างไร จะมีปัญหาสังคมตามขึ้นมาหรือไม่ เมื่อผู้ชายถูกหลอกให้แต่งงานกับเกย์ที่หลอกว่าเป็นหญิงแท้ ทั้งนี้ ตนเคยหารือกับสมาชิกกลุ่มเกย์การเมืองไทยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ซึ่งมีการเสนอกันว่าหากจะมีการให้เกย์ใช้คำนำหน้าชื่ออื่นแทนนายจริง ก็น่าจะใช้คำว่า นายสาว เพื่อให้บ่งบอกกับคนทั่วไปเลยว่า เป็นหญิงสาวที่ไม่ใช่สาวแท้ เพื่อไม่ให้เป็นการหลอกลวงผู้อื่น และเพื่อความเท่าเทียมกัน ผู้ชายก็ควรใช้คำนำหน้าชื่อว่า นายชาย กรณีที่ยังไม่ผ่านการสมรส และนาย กับชายที่ผ่านการสมรสแล้ว เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน

"ผมคิดว่าการจะเปลี่ยนชื่อนำหน้าเกย์ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ซึ่งมองว่าปัญหาสำหรับกลุ่มเกย์ในปัจจุบัน คือ การไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม โดยเฉพาะเรื่องหน้าที่การงานมากกว่า โดยบางหน่วยงานไม่ต้อนรับเกย์เข้าทำงานเพราะมองว่าเกย์เป็นตัวสร้างปัญหา ซึ่งหากจะแก้ไขกันจริงๆ ควรแก้ไขในเรื่องนี้มากกว่าที่จะไปคิดที่จะเปลี่ยนคำหน้าชื่อ" ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย กล่าว

ขณะที่นายตรีชฎา เพชรรัตน์ หรือ "น้องปอย" มิสทิฟฟานี่ ปี 2004 และยังคว้ารางวัล "มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ควีน" เวทีระดับโลกสาวประเภทสองปีเดียว บอกว่า เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะตอนที่ประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล ควีนนั้น นางงามสาวประเภทสองหลายๆ ประเทศใช้คำนำหน้าชื่อในพาสปอร์ตว่า มิส อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

"รู้สึกว่าเขามีความภูมิใจในคำนำหน้าว่า มิส อย่างมาก ทำอะไรก็ทำอย่างเชื่อมั่นในตัวเอง แต่การเปลี่ยนกฎหมายเรื่องคำนำหน้าชื่อ ก็อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ศึกษาเรื่องนี้กันให้เข้าใจก่อน ให้เป็นกฎเกณฑ์เลย เช่น ต้องแปลงเพศ 5 ปีขึ้นไป หรือต้องผ่านการทดสอบที่นักกฎหมายรองรับ ใครไม่ผ่านก็ไม่ได้ใช้คำว่านางสาว เพราะแสดงว่าไม่พร้อมจริง หรือต้องคุยกับนักจิตวิทยาเฉพาะทางแบบเดียวกับกฎของการแปลงเพศ ต่อไปสังคมจะได้ว่าเราไม่ได้ แล้วการเปลี่ยนแปลงก็จะเป็นสากลขึ้นด้วย" น้องปอย กล่าว

นายตรีชฎา ยังกล่าวอีกว่า แม้ไม่ได้ใช้คำหน้าชื่อว่านางสาว ก็ไม่ได้เดือดร้อนหรือมีปัญหาอะไรเลย นอกจากตอนเดินทางไปต่างประเทศ อย่างที่ประเทศอังกฤษ ตัวเองก็ถูกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกักตัวไว้ เพราะไม่เชื่อว่าเป็น "มิสเตอร์" นอกจากนี้เสียงค้านการใช้ คำว่า "นายสาว" แทน เพื่อป้องกันการหลอกลวงนั้น เห็นว่าการหลอกลวงเป็นเรื่องส่วนบุคคล ถ้าผู้ชายแต่งงานกับผู้ชายด้วยความรัก แต่เมื่อรู้ว่าไม่ใช่ผู้หญิง กลับยกกฎหมายมาอ้างแบบนี้ก็ไม่ยุติธรรมอยู่แล้ว


ที่มา คมชัดลึก


PS.  ชีวิตเริ่มมีค่า..ตั้งแต่ที่มิงเดินจากไป

แสดงความคิดเห็น

>

14 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

madamebean 10 ส.ค. 55 เวลา 21:38 น. 2

เค้าเป็นคนที่มีสองเพศในร่างเดียว คือมีทั้งอวัยวะเพศของชายด้วยแล้วก็หญิงด้วย
ไม่เชิงกระเทยนะเราว่า เค้าเป็นตั้งแต่เกิด เสียงก็เป็นผู้หญิง (ออกรายการบอกเก้าเล่าสิบ)
น่าสงสารตรงที่จะทำงานเค้าก็ไม่ให้ทำ เพียงเพราะแค่ในบัตรปชชเป็นนายเท่านั้นเอง
แต่้ก็ดีใจด้วยค่ะที่ได้เปลี่้ยนสมใจซะที 

0
sverige 10 ส.ค. 55 เวลา 21:40 น. 3

เราว่านะ แบบเดิมก็ดีแล้ว ปรกติก็ดูยากอยู่แล้ว แล้วยังมาเปลี่ยนอีก เฮ้อออ เปลี่ยนไปทุกวันสินะ โลกของเรา ต่อไปก็ยัง งงๆ

0
tim 10 ส.ค. 55 เวลา 21:54 น. 4

เราว่ามันเริ่มเกินไปแล้วนะ ไม่เห็นด้วย ไม่ได้รังเกียดเพศที่ 3
แต่รู้สึกว่าไม่แฟร์กับผู้หญิงแท้

0
เพลีย 10 ส.ค. 55 เวลา 22:12 น. 7

ตกใจก็นึกว่าที่ไทยเปลี่ยนได้แล้ว ที่แท้ไปเปลี่ยนต่างประเทศ หัวกระทู้ก็นะ - -

คืออยากจะเปลี่ยนเปลี่ยนไปเหอะ นาง นางสาว อะไรนั่นน่ะ แต่ควรมีแบบข้อกำกับ

อารมณ์ประมาณวงเล็บด้านหลัง นางสาว(2) อะไรประมาณนี้ จะได้รู้ไปว่าเออ นางสาวประเภทสองนะ

ชะนีว่าอยู่ยากละ ต่อไปชายไทยแท้ๆจะอยู่ยากกว่า

เจอคนเคยมีเหมือนตัวเองพรึ่บ เหอๆ

RIP

0
กกกก 10 ส.ค. 55 เวลา 23:39 น. 9

พูดตามตรงนะ สงสารผู้ชายจะแยกไม่ออกว่า ญ แท้ หรือ เทียมแต่งกับชายด้วยกันได้ไหง ? ผู้ชายเขาคงมีจุดประสงค์สูงสุดที่จะแต่งก็ผู้กับ ญ แต่เดียวนี้สาวประเภท2สวยกว่าหญิงแท้เยอะเขาคงแยกไม่ออก .. สงสารผู้ชายจริงๆ คิดหนัก

*ปล. ไม่อคติกับสาวประเภท 2 ชอบมาก ><' ตรงๆดี มีแบบนี้คงแฟร์ๆ ในหมู่พวกเขา

0
TaMatooM 11 ส.ค. 55 เวลา 00:20 น. 10
ช่วยเสพข่าว อย่างมีสติ น่ะค่ะ
เค้าเป็นผู้ป่วย มีอวัยวะเพศ 2 อย่างในคนเดียวกัน

และจากที่เราอ่านข่าวมา เค้าสามารถที่จะใช้อวัยวะเพศหญิงได้ดีกว่า
หมอเจ้าของไข้เลยพา ไปยืนยัน เพื่อเปลี่ยนคำนำหน้านาม ใหม่
จากเดิมที่ใช้นายมาตลอด ไม่ได้เป็น กระเทย
0
เสือ 14 ส.ค. 55 เวลา 10:34 น. 13

พี่คนนี้เค้าเป็นสองเพศน่ะครับไม่ใช่กระเทย คนสองเพศคือคนที่เกิดมาแล้วมีอวัยวะเพศหญิงและมีอวัยวะเพศชายด้วย มั่วจังเลย

0
Fonsangsawat 28 ก.ค. 61 เวลา 01:54 น. 14

ในความเป็นจิงนะคะ ที่เค้าอยากให้นางสาวกันหลังจากที่แปลงเพศไปคะเนื่องจากเค้าไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆอย่างกับผู้ชายได้ และเค้าไม่ได้ได้เปลี่ยนประวัติในอดีต แต่เปลี่ยนเป็นนางสาวเพื่อการใช้ชีวิตในอนาคต ไม่ได้หวังเพื่อหลอกลวง เพื่อต้องการความเท่าเทียมกับผู้ชายหรือผู้หญิง ที่ไม่ต้อง อยู่ภายใต้เส้นความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง และมีขั้นตอนๆต่างๆเพื่อทำการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน มีการคัดเลือกคุณสมบัติต่างๆอย่างรอบคอบ เพราะบนโลกใบนี้มีแค่2 เพศ มีแค่ชายและหญิง ที่ทั่วโลกยอมรับ แต่ไม่เกี่ยวกับรสนิยมนะคะ รสนิยมเช่น เกย์หรือเลสเบี้ยน เป็นต้น อีกอย่าง ปล.ในปัจจุบันผู้ชายหลอกลวงกะเทย เพื่อแสร้งทำเป็นสามีกะเทย มีเยอะมาก เราควรจะคุ้มครองเค้าเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ใครอยากรู้รายระเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับ ที่ถูกลดสิทธิเกี่ยวกับเพศสอบถามเพิ่มเติมได้นะคร้า ลองเปิดใจรับฟังปัญหาจิงๆ และเค้าต้องการอะไรจากการให้สังคมยอมรับทางกฎหมาย ดิฉันก็เป็นคนนึงที่ ถูกกระทำ และเป็นสาวข้ามเพศ ขอบคุณมากนะคะ

0