Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อิสลามกับการทำนายฝัน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ถาม ดิฉันอยากจะทราบเกี่ยวกับเรื่องการทำนายฝัน ดิฉันได้ยินว่าความฝันหลังรุ่งอรุณเป็นความฝันที่ไม่มีความหมายและ
   ส่วนใหญ่แล้วเป็นการล่อลวงของชัยฏอนซึ่งไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น จริงไหมคะ
   
   
   ตอบ เชค อะตียะฮ ซ็อกร์ อดีตประธานคณะกรรมวินิจฉัยปัญหาศาสนาของมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร มาตอบดังนี้ :-
   “ เกี่ยวกับเรื่องการทำนายฝันนั้น เรื่องนี้เป็นความเร้นลับที่อัลลอฮฺผู้ทรงรู้ถึงสิ่งเร้นลับทรงรู้แต่เพียงผู้เดียว
   ดังนั้น คำทำนายฝันที่ทำไว้เป็นลายลักษณ์อักษรหรือโดยวาจาจึงเป็นเรื่องเหตุผลของแต่ละคนและไม่สามารถ
   เชื่อถือได้ นั่นก็เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องพ้นญาณวิสัยที่มีอะไรบางอย่างเกี่ยวข้องกับวิญญาณและอยู่นอกขอบ
   เขตโลกของมนุษย์ ความฝันไม่มีกฎ การทำนายความฝันเป็นเพียงความเห็นที่ใครบางคนนำมาเขียนเป็นหนังสือโดย
   อ้างว่าตัวเองเป็นแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ในการทำนายฝันและแต่ละคนทำนายความฝันเรื่องเดียวกันแตกต่างกันไป
   อย่างไรก็ตาม มีความจริงบางอย่างต่อไปนี้ที่คุณควรจะต้องรู้ซึ่งทั้งหมดมาจากฮะดีษ(คำพูด)ของท่านศาสดามุฮัมมัด
   ฮะดีษแรก “ การเห็นมโนภาพมาจากอัลลอฮฺ (มันมาจากการดลบันดาลใจของพระเจ้า) ขณะที่ความฝันมาจากมารร้าย
   เมื่อใครคนหนึ่งในหมู่ท่านฝันร้าย ให้เขาถุย(โดยไม่ต้องมีน้ำลาย)ออกมาทางด้านซ้ายมือและอ่านกุรอานซูเราะฮฺ
   อันนาสและซูเราะฮฺ อัลฟะลัก และฝันนั้นจะไม่เป็นอันตรายต่อเขา”
   ฮะดีษที่สอง “ เมื่อชั่วโมงสุดท้ายใกล้มาถึงมุสลิมจะมองเห็นภาพที่แท้จริงได้จากมโนภาพและความซื่อสัตย์จะช่วยเขา
   ให้มองเห็นภาพที่แท้จริงได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น การได้เห็นภาพที่แท้จริงในมโนภาพก็ถือเป็น 45 ส่วนของการเป็นนบี
   การเห็นภาพมีสามประเภทด้วยกัน ประเภทแรกก็คือฝันดีที่เป็นข่าวดีจากอัลลอฮฺ ฝันร้ายซึ่งมาจากชัยฏอนที่จะรุกรานหัวใจด้วยความเศร้า
   ประเภทที่สามก็คือฝันที่เป็นผลของเรื่องที่คิดไว้ล่วงหน้า ดังนั้นถ้าใครในหมู่พวกท่านเห็นอะไรบางอย่างเป็นเรื่องเศร้าในฝัน
   เขาก็ควรจะนมาซสองร็อกอัตและไม่ต้องเล่าความฝันให้ใครได้รู้”
   ฮะดีษที่สาม : ท่านนบีมุฮัมมัด ได้กล่าวว่าใครที่เห็นท่านในฝัน เขาก็เห็นท่านจริงๆ เพราะชัยฏอนไม่สามารแปลงร่างเป็นนบีได้
   สรุปก็คือ การทำนายฝันมิใช่ความรู้จากการทดลองที่ถ่ายทอดให้คนจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่ง มันเป็นของขวัญจากพระเจ้า
   ที่ประทานแก่คนที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ดังเช่นกรณีของนบียูซุฟ และความฝันมิใช่แหล่งที่มาของกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่น่าตกใจอะไร”
   เชค อะหมัด คุตตี ก็ให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า :-
   “ ความฝันมีสามประเภท ประเภทแรกถูกเรียกว่า มุบัชชิรอต ซึ่งเป็นฝันดีที่บ่งชี้ถึงข่าวดี ฝันประเภทนี้มาจากการดลใจจากมลาอิก๊ะฮฺ
   หรืออัลลอฮฺดลใจด้วยการให้คำแนะนำอะไรบางในจิตสำนึกของเรา เกี่ยวกับเรื่องความฝันประเภทนี้ ท่านนบีมุฮัมมัด ได้กล่าวว่า
   “ไม่มีสิ่งใดแห่งการเป็นนบีหลงเหลืออีกต่อไปแล้วตอนนี้ (กล่าวคือหลังจากการที่ท่านเรียกร้องเชิญชวนให้คนรู้ว่าท่านเป็นนบี)
   ยกเว้นการมองเห็นในมโนภาพที่ได้ถูกประทานแก่ผู้ศรัทธาที่ทรงคุณความดีและมันเป็นสามสิบส่วนของการเป็นนบี” ความฝันประเภทนี้
   ได้แก่ลางสังหรณ์หรือการรู้ล่วงหน้าก่อนว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ตัวอย่างเช่น ผู้ศรัทธาอาจจะได้เห็นภาพการตายอันยิ่งใหญ่ของเขา
   หรือเหตุการณ์บางอย่างจะเกิดขึ้นในอนาคตหรือได้รับการยืนยันบางอย่างจากสภาวะทางจิตใจของเขาเองหรือแม้แต่ได้รับการเตือน
   เกี่ยวกับการละทิ้งบางอย่างหรือต้องทำบางอย่าง สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในมโนภาพของท่านนบีมุฮัมมัด หรือนบีอื่นๆหรือการได้เห็นสัญลักษณ์
   ของอิสลามอย่างเช่นก๊ะอฺบ๊ะฮฺหรือมัสญิดของท่านนบี เป็นต้น
   ฝันประเภทที่สองเกิดขึ้นจากการกระซิบหรือการดลใจของชัยฏอนศัตรูที่อยู่กับเราตลอดกาล มันเห็นเราในลักษณะที่เราไม่เห็นมัน
   ถ้าเราไม่มีการคุ้มครองป้องกันที่ดีให้พ้นจากมันและการดลใจเช่นนั้น มันก็จะล่อเราให้ติดกับของมันทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว
   ฝันประเภทที่สามสามารถกล่าวได้ว่าเป็นฝันที่หาสาระไม่ได้ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากผลของการที่อาหารไม่ย่อยหรือการจินตนาการมากเกินไป
   หรือจากการพบเห็นอะไรบางอย่างในชีวิตที่อาจทำให้คนผู้นั้นเก็บไปฝัน
   คนที่ฝันดีควรจะนำความฝันของตนไปบอกเล่าให้คนอื่นบ้างโดยเพาะคนที่ซื่อสัตย์ไว้วางใจได้และคนที่เกรงกลัวพระเจ้า แต่ถ้าหากเขาฝันร้ายมีคำแนะนำมิให้เขาเล่าความฝันแก่ผู้ใด สำหรับคนที่ฝันร้ายนั้น มีข้อแนะนำให้เขาเปลี่ยนที่นอนเสียและวิงวอนขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺด้วยการกล่าวว่า“บิสมิลลาฮิลละซี ลายะดุรรุ มาอิสมิฮี ชัยอุน ฟิลอัรฎ์ วะลาฟีอัสสะมาอิ วะฮุว่ะ อัสสะมีอุล อะลี” (ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ด้วยพระนามของพระองค์ไม่มีสิ่งใดในโลกหรือในชั้นฟ้าสามารถทำร้ายใดๆได้ พระองค์ทรงได้ยินและทรงรอบรู้) ท่านศาสดามุฮัมมัด กล่าวว่าคนที่กล่าวคำวิงวอนเช่นนั้นจะได้รับการปกป้องให้พ้นจากอันตรายใดๆที่เป็นไปได้
    
   ฝันประเภทแรกนั้น ผู้ศรัทธาทุกคนควรจะขัดเกลาตนเองให้ไปถึงขั้นนั้นและจะต้องป้องกันตนเองให้พ้นจากความฝันประเภทที่สอง ทางที่ดีที่สุด    ที่จะป้องกันการดลใจและการกระซิบของชัยฏอนก็คือการขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ การระลึกถึงอัลลอฮฺอยู่ตลอดเวลา มีความคิดที่ดีใช้ชีวิตและ  ประพฤติตนอย่างถูกต้อง มีข้อแนะนำว่าก่อนเข้านอนให้ชำระร่างกายเหมือนกับการเตรียมตัวนมาซ หลังจากนั้นให้อ่านซูเราะฮฺ อัล-ฟาติฮะฮฺ,อัล-อิคลาศ, อัล-ฟะลักและอัน-นาส รวมทั้งอายะฮฺกุรซีย์ด้วย

แสดงความคิดเห็น

>

13 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

binti Abd-HaD 12 ส.ค. 55 เวลา 15:01 น. 2

เราก็เรียน ทำนายฝันอยู่ด้วยแหละ  แต่ยังไม่ถึงไหนเลย


PS.  แค่เราเป็นคนดี คิดดี ทำดี ต่อให้อยู่ในช่วงที่มืดมนที่สุดของชีวิต เราก็จะพบแสงสว่างและทางออก อิงชาอัลเลาะฮ์
1
อารีนี 5 ธ.ค. 61 เวลา 09:44 น. 2-1

เราฝันถึงเต่า พี่เราเล่นเต่าอยู่ เต่าออกจากกระดองมาวิ่งได้

0
Nuramera.piyanar 30 มิ.ย. 58 เวลา 06:45 น. 3

ฝันว่าคนตายแล้วฝันว่าคนตายแล้วฟื้น ใครแปลความหมายเป็นบ้าง
ฝันว่าตนเองได้เดินอยู่แล้วผ่านทางโค้งก็เกิดอุบัติเหตุรถค่ำต่อหน้าต่อตาแล้วตนเองก็รีบวิ่งไปช่วย ไปยืนบนรถกะบะของมูลนิธิช่วยคนเจ็บแล้วก็ได้ไปขอเค้าขอช่วยเค้าก็ให้ทำหน้าที่ส่งอุปกรณ์การแพทย์ให้เค้า หลังจากเสร็จการช่วยแล้วตนเองก็ได้เดินกลับบ้านแล้วไปเจอเค้ากำลังบรรทุกศพพ่อเลี้ยงกับแม่แท้ๆบนหลังรถกะบะเค้ากำลังบรรทุกไปไหนก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆไม่มีอะไรปิดศพแม่กับพ่อเลี้ยงเลย แม่แท้ๆกับพ่อเลี้ยงเสียชีวิต...ตัวนี้เขียวซีดๆ พอเค้าเห็นก็ได้รีบวิ่งไปกอดแม่แล้วก็เขย่าตัวของแม่แล้วก็อ้อนวอนต่ออัลลอฮฺแล้วขอกับอัลลอฮฺว่าให้แม่ฟื้นขึ้นมา ความรู้สึกตอนนั้นว่าแม่จะตายแล้วอ่อ แม่ยังไม่ได้ทำความดีที่จะกลับไปหาพระองค์เลย อยู่ดีๆแม่ก็ฟื้นขึ้นมา แล้วแม่ร้องโอ้ยๆแล้วก็บ่นบอกว่าเจ็บหัวหรือเจ็บอะไรสักอย่างนี่แหล้ะค่ะ ความหมายของมันแปลว่าอะไรค่ะ ใครรู้บ้าง ไม่สบายใจเอาซะเลย
ปล.ที่เล่ามห้ตั้งแต่แรกเผื่อเรื่องมันอาจจะโยงกันก็ได้
#ญาซาเกาลอฮฺฮุค็อยร็อนค่ะ
เศร้าจัง

0