Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สัมภาษณ์พิเศษ: “เนย ประมาณนั้นแหละ”จากคนธรรมดากลายมาเป็นบุคคลสาธารณะในยุคโซเชียลมีเดีย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เรามีโอกาสได้สนทนากับ “เนย ประมาณนั้นแหละ” เธอเป็นคนดัง ถูกพูดถึงเป็นชื่อแรกๆ เวลาที่พูดถึงผู้หญิงสวยๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต น้อง “เนย ประมาณนั้นแหละ” จริงๆ คือบุคคลธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้เป็น celeb ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมาก่อน แต่ปัจจุบัน Facebook ของเธอมีคนมาตาม Subscribe ถึงสี่แสนกว่าคน สิ่งที่เธอพูดคุยบนFacebook ส่วนตัว เผลอๆ อาจจะมากกว่าที่แบรนด์หนึ่งๆ ทุ่มงบประมาณเพื่อสื่อสารกับผู้คนบนโลกไซเบอร์เสียอีก

Editorial note: บทความนี้คือบทความพิเศษที่เราเรียกว่า Guest Post จาก Kittipat M ซึ่ง เป็นนามปากกาของนักทำกลยุทธ์ด้านดิจิตอลของเอเยนซี่โฆษณาแห่งหนึ่ง ชอบศึกษา ความเป็นไปและปรากฏการณ์ของโลกสังคมออนไลน์ โดยส่งมาให้กองบรรณาธิการ thumbsup อัพโหลดขึ้นให้ชาว thumbsup อ่านโดยเฉพาะ สิ่งที่ Kittipat M เขียน ไม่สะท้อนแนวคิดของกองบรรณาธิการ thumbsup เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวของ Kittipat M

บทความนี้เป็นการสัมภาษณ์แบบ exclusive โดยถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของผู้เขียน ซึ่งมี thumbsup เป็นผู้เผยแพร่เดียวที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ หากต้องการนำบทความไปใช้กรุณาให้เกียรติด้วยการอ้างอิงชื่อผู้เขียนและลิงก์ กลับมายังบทความต้นฉบับ

หลังจากได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้จบ หวังว่าจะมีคนเข้าใจเธอมากขึ้น ที่ผ่านมีคนมากมายที่รับรู้ตัวเธอทั้งในด้านดีและไม่ดี ทั้งจากเรื่องจริงและเรื่องที่ถูกปรุงแต่ง เรื่องราวของเธอได้ถูกปรุงแต่งโดยจินตนาการของใครอีกหลายคนที่สื่อสารกันในโลกไซเบอร์อันยุ่งเหยิงนี้ เธออาจะเป็นเจ้าหญิงผู้เลอโฉมหรือผู้ร้ายในสายตาของใคร เธอเป็นใคร แล้ววันดีคืนดีกลายมาเป็นบุคคลสาธารณะได้อย่างไร ลองติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ดูครับ

Kittipat M : อยากให้น้อง “เนย ประมาณนั้นแหละ” แนะนำตัวเองสักนิดนึงก่อน
เนย : ชื่อเนยค่ะ ตอนเด็กๆ โตที่เมืองไทยแล้วย้ายไปเรียนต่อที่เนเธอร์แลนด์ เพราะคุณพ่อคุณแม่ทำงานที่นั่น อยู่ที่นั่นประมาณหกปี ก็เรียนทางด้านดีไซน์ไปด้วย แล้วก็ย้ายกลับมาทำงานที่เมืองไทย เนยโตมากับโซเชียล ช่วงที่อยู่ที่โน่นก็ติดแชท ติดการเขียนไดอารี่ เพราะตอนนั้นก็ติดต่อเพื่อนที่เมืองไทยไม่ได้เลย ก็เห็นว่ามีไดอารี่ออนไลน์ เราก็เข้าไปเขียนที่ yenta4 พูดถึงเรื่องราวประจำวันตอนอยู่ที่โน่น ก็เริ่มมีเพื่อนออนไลน์ตั้งแต่ตอนนั้น พอมา Hi5 Facebook ก็ติด Facebook มาก เพราะคิดถึงเมืองไทย

Kittipat M : เป็นลูกครึ่งหรือเปล่า
เนย : ไทยแท้ค่ะ

Kittipat M : น้องเนยเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างตั้งแต่ตอนที่ Facebook เปิดฟีเจอร์ Subscribe (ฟีเจอร์ที่อนุญาตให้ติดตามบุคคลที่สนใจโดยไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อน) ใหม่ๆ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2011 คิดว่าอะไรที่ทำให้คนมาติดตามเรามากๆ ตอนนั้นได้ไปทำอะไรหรือเปล่า
เนย : ก่อนหน้านั้นก็มีคนมาขอเป็นเพื่อนเยอะอยู่แล้ว คิดว่าเพราะมีคนตามมาดูรูปของเรา ตอนนั้นมีเพื่อนประมาณสี่พันคน พอเห็นว่าช่วงนั้นมีฟีเจอร์ subscribe เราก็เปิดด้วย แต่ที่ตามมาเยอะจริงๆ คือมีอยู่ครั้งหนึ่งที่คลิปที่เราถ่ายเล่นแนวเซ็กซี่ๆ เกิดหลุดออกไป แค่สองชั่วโมงเท่านั้นก็ลบเพราะมีคนเตือนมาว่าคิดดีแล้วเหรอ โตขึ้นแล้วจะไม่สนุกอย่างนี้นะ เราก็เห็นด้วย แต่ก็ไม่ทัน ก็มีคนก็อปปี้ไปลงที่อื่น แล้วก็มีคนติดตามมาเรื่อยๆ แล้วคนก็เริ่มหาว่าใครคือเนย ประมาณนั้นแหละ

Kittipat M : แล้วแฟนคลับช่วงแรกๆ ที่มา subscribe มายังไง
เนย : ตอนแรกมีประมาณสองสามหมื่นคน แล้วมานหนึ่งมีคนทักว่าจะถึงแสนไหม เนยก็เลยตั้ง status เล่นๆ ไปว่า ถ้าถึงแสนจะเลี้ยงลูกชิ้น ก็ตลกมากไม่รู้คนมาจากไหน ขึ้นเร็วกว่าปรกติมากเลย และก็น่าจะเพราะมีกระแสดราม่าที่เกี่ยวกับตัวเนยด้วย ก็เลยมีคนเห็นเยอะ ตอนนั้นก็มีคนมาบอกว่าเห็นเนยอยู่ตรงแถบขวาที่ทาง Facebook recommend ตลอด ก็น่าจะเป็นเพราะเรื่องเหล่านี้ล่ะมั้ง

Kittipat M : คิดว่าอะไรที่ทำให้คนมาติดตามเรามากๆ
เนย : อันดับแรกคือรูป (แนวเซ็กซี่) แต่ที่จริงก็ไม่ได้ถ่ายเพื่อที่จะทำให้เพื่อนมากขึ้นหรือว่ามีคนมาติดตาม ไม่ได้อยากดังหรืออะไร แต่เพราะเนยเป็นแบบนี้มานานอยู่แล้ว อันดับสองก็คือ status ที่เราตั้ง เพราะเนยก็เป็นคนฮาๆ ตลกๆ อะไรที่ทำให้เราหัวเราะเราก็จะโพสต์ลงไป ก็มีคนติด คอยติดตาม

Kittipat M : น้องเนยมีดราม่าพอสมควรบนอินเทอร์เน็ต อยากขอฟังสาเหตุที่คนเริ่มไม่ชอบเรา
เนย : ตอนนั้นที่เนยชอบลงคลิปเล่นๆ ลงบน Facebook แล้วมีคนไม่ชอบเรา ก็มาว่าเรา ด้วยความที่เนยเป็นคนตรงๆ อยู่แล้ว ก็เลยทำคลิปวีดีโอโต้ตอบไปใน Facebook สิ่งที่เนยพูดไปก็ตรงไปตรงมา เราก็พูดแรงแต่ไม่หยาบ ก็ไม่คิดว่าจะมีคนก็อปปี้วีดีโอนั้นไปลง youtube แล้วเขียน description แรงๆ ทำทีเป็นว่าเป็นเนยที่เอาไปลงเอง ทั้งๆ ที่เนยไม่ได้เป็นคนเขียน แล้วก็ไม่เคยเสนอตัวเองในรูปแบบคำพูดแบบนั้น สรุปก็มีคนไม่ชอบ มาด่าเต็มเลยว่ามั่นใจมากนักเหรอ มี dislike แดงเป็นแถบ แล้วก็คำหยาบคายตามมาเต็มเลย หลังจากนั้นเนยก็พยายามที่จะไม่พูดอะไรมากอีก

Kittipat M : เพราะขายความเซ็กซี่ด้วยใช่ไหม
เนย : เราไม่ได้ขาย แต่เขาคิดแบบนั้นเอง เนยเป็นตัวของตัวเองในการโพสต์แบบนี้อยู่แล้ว สนุกของเราคนเดียว เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ตอนยังไม่มีใครตาม พอมันโซเชียลมากขึ้น คนก็เข้ามาเอง

Kittipat M : เหตุการณ์ดราม่าครั้งนั้นสอนอะไรเราบ้างเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์
เนย : คงจะไม่ออกสื่อเวลาที่อยากจะเฉพาะกับใครคนใดคนหนึ่ง ก็มีคนที่เข้าใจเราและก็ไม่เข้าใจเรา คนที่ไม่ชอบก็จะมีปฏิกิริยาเยอะ ก็จะพยายามไม่ใช้วิดีโอมาออกอากาศเรื่องทำนองแบบนี้อีกแล้ว เพราะเรารู้ว่าตอนนี้มันไม่ใช่พื้นที่ส่วนบุคคลแล้ว ไม่ใช่เหมือนแต่ก่อนที่เล่นกับเพื่อนเท่านั้น แต่ก็เรียนรู้อีกว่าเพื่อนๆ นี่แหละที่นำไปแชร์กระจายต่อไป ก็ในเมื่อเรา public แล้วก็คงไม่พยายามแรงๆ อีก

Kittipat M : เพราะว่าเราเป็นคนดังของสังคมออนไลน์ด้วยหรือเปล่า
เนย : อันนี้ยังไม่ได้คิดว่าเราเป็นคนของสังคมหรืออะไร ไม่ได้คิดว่าเราจะสำคัญอะไรขนาดนั้น

Kittipat M : หลังจากที่คนเข้ามาตามเยอะๆ แล้ว เราโพสต์ภาพตามสไตล์เดิมของเราเหมือนก่อนหน้านี้หรือเปล่า
เนย : อาจจะสุภาพกว่าเดิมด้วย หยาบคายน้อยลง เรียบร้อยกว่าเดิม แต่เนยคิดว่าเนยว่าไม่ได้คุยกับคนทั่วโลกหรือคนทั้งประเทศไทย เราก็เป็นตัวของตัวเองเหมือนเดิม เพียงแต่เบาลงหน่อย เรามีเพื่อนสนิทบนโซเชียล ก็ใช้ภาษากูแบบที่เราคุยกับเพื่อน บางทีก็สงสัยว่าเวลาโพสต์ไปมีคนมาบอกว่าทำไมพูดหยาบคายจัง

Kittipat M : เคยโดนด่าที่เจ็บมากที่สุด คำว่าอะไร
เนย : ก็คงไม่มีที่สุด เพราะเนยโดนมาเยอะเหมือนกัน โดนจนชิน โดนทุกคำที่มีในประเทศไทย

Kittipat M : ด้วยความที่เราโพสต์ภาพแนวเซ็กซี่ มีผู้ชายที่เข้ามามีทักหยาบๆ คายๆ หรือพูดไม่ดีบ้างไหม
เนย : ช่วงแรกๆ ก็เจอแนวหื่นกามเยอะ ช่วงแรกๆ ใครทำอย่างนั้นก็ด่ากลับไปเหมือนกัน แต่พอทำอย่างนั้นก็ไม่จบ เพราะมันเหมือนว่าเขาได้ดัง ได้คุยกับเนย แต่ช่วงหลังๆ ก็ลบแล้วบล็อคไปเลย ก็เตือนไปถ้ามาทำอย่างนั้น ก็จะไม่มีโอกาสเห็นหน้าฉันอีก

Kittipat M : อยากให้เล่าตัวตนของเนยจริงๆ กับตัวตนของเนยบน Facebook ว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
เนย : ตัวจริงเป็นคนตลกเฮฮา แต่กับคนที่ไม่รู้จะเงียบๆ แต่ถ้าสนิทก็ร่ายยาวเลย ส่วนใน Facebook ก็เหมือนชีวิตเลย พูดอย่างไรก็อย่างนั้น แต่อย่างที่บอก หลังๆ นี่ก็เลยสุภาพมากขึ้นบน Facebook

Kittipat M : มีคนตามขนาดนี้ ทำไม่ถึงไม่เปิด Fan Page ไปเลย
เนย : เนยไม่ได้คิดว่าจะต้องมีแฟนคลับ ไม่ได้คิดว่าเราสำคัญขนาดนั้น แล้วก็ไม่ได้อยากสำคัญตัวเองด้วย

Kittipat M : มีคนติดต่อให้โพสต์ลง Facebook เพื่อการโฆษณาบ้างไหม
เนย : ก็ตอนนี้มีคนต่องานแบบนี้มามากขึ้น เขาก็มองว่าเป็นช่องทางที่พูดคุยกับคนเป็นแสนได้ แต่ก็คิดว่าไม่ใช่งานที่เกิดจากฝีมือควาสามารถเราจริงๆ

Kittipat M : คิดอย่างไรกับการมีคนมาขอให้โพสต์โฆษณาบน Facebook หลังจากที่ดังแล้ว
เนย : ไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่รับทุกอัน ไม่ได้มอง Facebook เป็นช่องทางธุรกิจมากไปนัก เราไม่ค่อยรับ ไม่ชอบ เป็นอะไรที่ไม่เป็นตัวเอง ส่วนใหญ่จะดูรายละเอียดก่อน ต้องดูอะไรที่ไม่ไร้สาระมากไปด้วย ไม่ให้มันรก Facebook เดือนไหนถ้าคิดว่าไม่รับก็ไม่รับแล้ว ถ้าอยากได้ก็รอเดือนหน้าแล้วกัน เนยมองว่าเราเหมือนหนังสือที่เอ็นเตอร์เทนคน เหมือนขายหัวเราะ เราชอบที่อัพ status ให้คนมาเอ็นจอยกับเรา การโฆษณามันเป็นอะไรที่เปลืองพื้นที่ ก็จะมองเหมือนที่เราไปตามเพจๆ นึงแล้วก็เจออะไรไม่รู้รก มีแต่โฆษณา มันไม่ใช่ตัวเราจริงๆ

Kittipat M : มองเห็นเป็นช่องทางทำรายได้เป็นจริงเป็นจัง?
เนย : ไม่เลย ไม่ได้อยากทำตัวให้ดังเพื่อดึงคนเยอะๆ มาแล้วโฆษณา เราไม่ได้อยากกระชากเรตติ้ง เราเป็นอย่างนี้ เราแค่ชอบที่จะอัพ status

Kittipat M : มีคนที่ชอบและไม่ชอบเนย คนที่เขาชอบเนย เขาชอบน้องเนยที่ตรงไหน
เนย : เคยตั้งบน Facebook ถามเหมือนกัน ก็มีคนตอบว่าตอนแรกติดตาม Facebook เธอเพราะรูปเธอนะ แต่หลังๆ มาเราชอบ status เธอแล้ว เราขาดไม่ได้ ต้องเข้ามาอ่านทุกวัน อ่านแล้วมันยิ้มได้ แล้วก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราอยากปิด Facebook มากเพราะมีแต่คนด่า ก็มีคนๆ หนึ่งเข้ามาบอกว่าอย่าปิดเลย ชีวิตเนยมีความสุขกับเมื่อเทียบกับตัวเขาแล้ว การอ่าน status ของเนยทำให้เหมือนว่าเขาไม่อยู่คนเดียว ทำให้เขายิ้มได้ ก็ทำให้รู้ว่ามีคนรักเราอยู่นะ

Kittipat M : รู้สึกอย่างไรกับการที่เราเล่น Facebook แล้วมีอิทธิพลต่อชีวิตคนอื่น เหมือนตัวอย่างที่เพิ่งพูดถึง
เนย : ก็อาจเพราะเราชอบเอ็นเตอร์เทนคนอื่น ทำให้มีคนอยากมาอ่านของเรา มาเอ็นจอย เนยก็ทำได้แค่นี้

Kittipat M : status ที่เป็นที่ยอดนิยมของเรา
เนย : จำไม่ค่อยได้ โพสต์ทุกวัน เยอะมาก แต่อันที่เคยได้ไลค์เยอะที่สุดน่าจะประมาณหกพัน น่าจะเป็นเรื่องของกระแทกชีวิต ทำให้คนฮึดสู้ โพสต์แนวนี้แล้วคนจะชอบมากดไลค์

Kittipat M : ชอบโพสต์อะไรใน Facebook
เนย : ก็โพสต์ตามช่วงเวลาของชีวิตเลย เวลาอินเลิฟก็โพสต์อะไรกุ๊กกิ๊ก เรื่องที่ฮาๆ ขำๆ แล้วก็เรื่องทั่วไปเรื่องที่คนอื่นเจอทุกวันเหมือนกันหมด อย่างเรื่องงาน

Kittipat M : ทำไมถึงได้ไปออกปกนิตยสาร “ฮิกาซีน”
เนย : อันนี้เป็นเรื่องบังเอิญตอนไปทำงานพอดี แล้วก็ได้เจอกับทีมงาน ก็เลยชวนมาถ่าย ตอนหลังก็ได้เขียนคอลัมน์ในฮิกาซีนด้วยเลยชื่อคอลัมน์ว่า “น้องเนยสอนหญิง” อยู่เบื้องหลังก็เคยช่วยจัดเล่มให้ฮิกาซีนด้วย นอกจากนั้นก็ช่วยคิดรายการ youtube ของฮิกาซีนที่กำลังจะเปิดตัว

Kittipat M : แสดงว่าชอบทำงานเบื้องหลังมากกว่า
เนย : ก็ชอบทำงานที่เป็นฝีมือของตัวเอง ก็เคยโดนกระแสมาเยอะ อย่างตอนขายสบู่บน Facebook ก็มีกระแสมาบอกว่าเราเอาหน้าตามาขาย เราไม่ชอบให้ใครมาพูดแบบนี้ เราก็คิดอยากทำอะไรสักอย่างบ้างที่จะพิสูจน์ให้ดูว่าไม่ได้มาจากการใช้หน้าตาของตัวเอง อาจจะเป็น snack bar ซึ่งวันที่เปิดก็จะไม่โปรโมทใน Facebook เลย

Kittipat M : เรื่องสบู่ก็มีคนพูดถึง อยากให้เล่าที่มาที่ไปของการเป็นคนขายสบู่
เนย : ก็จริงๆ ไม่ได้คิดจะเอาอะไรมาขายออนไลน์อยู่แล้ว แต่วันหนึ่งก็มีคนมาถามว่าใช้อะไรหน้าใส เราก็บอกไป แต่มันไม่มีขายทั่วไป ถ้าอยากได้ก็จะสั่งมาให้ เริ่มจากเล็กๆ ตอนหลังก็มีคนมาขอสั่งเรื่อยๆ การเป็นช่องทางธุรกิจไปเอง มีลูกค้าประจำสั่งทุกเดือนก็มี

Kittipat M : เห็นมีไปเล่นมิวสิควีดีโอกับโจอี้ บอยด้วย
เนย : จริงๆก็มีคนมาชวนไปเล่นละคร เล่นอะไรเยอะนะ แต่ก็ต้องปฏิเสธบอกว่าไม่ได้จริงๆ เพราะหนูไม่เหมือนในรูปนะ ใครบอกมาก็ปัดไป ไม่รับงานทีวี ทางพี่โจอี้เขาติดต่อมาเล่น MV ถามมาหลายครั้งมาก ก็เลยยอมก็ได้แต่ขอออกแปบเดียว ก็คุยกันว่าเป็นซีนตัดต่อโฟโต้ช็อปรูปตัวเองไปแล้วกัน เขาก็ให้เลือกมุมที่เรามั่นใจมากที่สุด ใช้แต่งหน้าช่วย 55

Kittipat M : ยอมรับไหมว่าเราโฟโต้ช็อปรูปตัวเอง
เนย : ยอมรับ แต่ก็ออกคลิปให้เห็นหน้าสดๆ เรื่อยๆ แต่คนที่ไม่ชอบก็ยังไม่พอใจ ก็เลย ไม่อะไรมาก แล้วแต่เขาจะคิด

Kittipat M : คำถามสำคัญ ทำไมต้องประมาณนั้นแหละ
เนย : อันนี้ง่ายมาก ตอนสมัคร Facebook ตอนแรกเขาก็ให้เขียนชื่อจริงกับนามสกุล ก็คิดว่าทำไมต้องให้ใครมารู้ชื่อจริงเราด้วย ก็เลยใช้ชื่อ เนย สั้นๆ ส่วนนามสกุลก็ไม่บอกไง ก็ประมาณนั้นแหละ ตัวเราก็ชอบพูดคำว่าประมาณนั้นแหละๆ ด้วยก็เลยเอามาใช้เป็นชื่อเลย

Kittipat M : ชีวิตจริงเดินไปไหนมาไหนแล้วมีใครทักบ้างไหม
เนย : มี มีคนจำได้เยอะมาก ปกติก็เดินทางโดย BTS บ่อย ไปเดินจตุจักร ก็มีคนมาทักว่าใช่เนยหรือเปล่า ก็มาขอถ่ายรูป ตอนนี้ก็ใส่แว่นหมวกใส่แว่นดำบ้าง ไม่ได้เป็นเหมือนดารานะ แต่ไม่อยากให้คนมาเห็นหน้าจริงๆ ของเรา 55

Kittipat M : เรื่องที่ขำที่สุดตั้งแต่มีคนรู้จัก
เนย : มีอยู่ครั้งนึงที่สยาม ที่ร้านหนังสือ ตอนนั้นปกนิตยสารฮิกาซีนเป็นรูปเนย ก็มีผู้ชายสองคนเดินเข้ามาหยิบ เราก็อยู่ข้างหลังเขา เค้าก็ไม่เห็นเราแล้วก็พูดกันเองแบบว่า “หืม..นี่มันใช่อีเนย (เน้นเสียง) หรือเปล่าเนี่ย อีเนยไงๆ” อีกคนก็ตอบว่า “…อืมกูว่าใช่ อีเนยไง อีเนยๆ” พอได้ยินคำว่าอีเนยเยอะ เราก็เลยสะกิดพอเขาหันหลังมาก็บอกว่า “แล้วใช่หรือเปล่าคะ..” เค้าก็เหวอแล้วเดินไป เราก็ฮา
Kittipat M : มีโพสต์อะไรที่ไม่เปิดเผยให้คนภายนอกรู้บ้าง (ที่ไม่ได้ตั้งเป็นสเตตัส Public) เวลาโพสต์บน Wall
เนย : ก็มีหมวดทะเลาะกับแฟน ที่ไม่ให้คนรู้ 55 เพราะสมัยก่อนเราก็โพสต์ระบายอารมณ์ ที่เหลือก็เปิดเผยหมด

Kittipat M : อยู่ๆ วันหนึ่งหากต้องปิด Facebook ไป อยากจะบอกอะไรคนที่มาติดตามสี่แสนคนเป็นครั้งสุดท้าย
เนย : “อยากขอบใจที่เคยรักฉัน…ที่เคยร่วมทางกันมา” 55 ก็จะพยายามทำให้ทุกคนยิ้มต่อไปหัวเราะต่อไปแล้วกันไม่ว่าทางไหนก็ตาม ยังไงเราก็ขาดอินเทอร์เน็ตไม่ได้

Kittipat M : เห็นว่าสามารถพูดภาษา Dutch (เนเธอร์แลนด์) ได้ อยากพูดอะไรกับแฟนๆเป็นภาษา Dutch ครับ
เนย : ”aangenaam” กับ “Ik hoop dat jullie me leuk vindt”

Kittipat M : สองคำนี้ความหมายว่าอย่างไรครับ
เนย : ”ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” กับ “ฉันหวังว่าพวกคุณคงชอบฉันนะคะ” :)


ขอบคุณที่มา  http://thumbsup.in.th/2012/10/noey-pramannanlae-exclusive-interview/


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 14 ตุลาคม 2555 / 15:17
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 14 ตุลาคม 2555 / 15:24

แสดงความคิดเห็น

>

27 ความคิดเห็น

'ปาร์ค ดอบบี้หูกาง! 14 ต.ค. 55 เวลา 15:36 น. 1
เราว่า พี่เนย ตอบคำถามได้ดีมากอ่ะ (ถึงเราจะอ่านไม่หมด)

เป็นตัวของตัวเอง ไม่แอ็บแบ๊ว ใสซื่อ ..



PS.  ชอบแสดงความคิดเห็นตรงๆค่ะ {{อย่าว่ากันเลยนะ}}
0
kakaka 14 ต.ค. 55 เวลา 17:35 น. 5

ก็คงไม่มีที่สุด เพราะเนยโดนมาเยอะเหมือนกัน โดนจนชิน โดนทุกคำที่มีในประเทศไทย .

0
เนยน่ารัก 14 ต.ค. 55 เวลา 20:16 น. 7

เคยเจอบนรถไฟฟ้า เลยเลือกเข้าตู้เดียวกัน แล้วก็นั่งจ้องแต่หน้าเนย ประมาณนั้นแหละ 555
ตัวจริงเค้าก็น่ารักนะ เคยเห็นแต่รูปในเฟส เจอครั้งแรกก็จำได้ ขาวชมพู ขาเนียนผิวเนียนมากๆ

0
`อี.ที-อาบน้ำอุ่น 14 ต.ค. 55 เวลา 22:56 น. 9
พี่เนยน่ารักมาก ไม่เสียใจที่กดติดติดตามพี่เนย เคยดูในคลิปที่พี่ถ่ายลงเฟส ขนาดหน้าสดก็ยังดูดีอะ ตอบคำถามดีด้วย 
PS.  `Alien Earth`Alien Earth`Alien Earth`Alien Earth !
0
you 17 ต.ค. 55 เวลา 12:44 น. 13

พี่เราเคยเจอ เขาบอกน่ารักมากแต่ไม่เท่าในรูป แต่เด่นมาก พี่เราบอก นางฟ้ามาก 5555

0
吴芳 `smurf 17 ต.ค. 55 เวลา 12:49 น. 14

ทีแรกไม่ชอบนะ แบบนางดูแรงอ่ะ
แต่เริ่มเปิดใจชอบตั้งแต่ไปโผล่ mv สนั่น soy อ่ะ 55555

 โดนทุกคำที่มีในประเทศไทย . อ่านถึงตรงนี้แล้วฮาไงไม่รู้

0
N@ws 17 ต.ค. 55 เวลา 12:58 น. 15
เราชอบเนยอ่ะ สบู่เขาดีจริงๆ *0* (<< อินี่คนละเรื่อง 55)

PS.  ยอมรับความเป็นจริงซะเถอะ! // ฉันรักเธอ เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุด ..คนในกระจกเงา..
0
สะหนอง. 17 ต.ค. 55 เวลา 13:15 น. 16

พี่เนยน่ารักมากกกก ขอบอก ตอนนั้นเจอที่สยาม หน้าพี่เนยเหมือนในรูปนะ ขาวจริงๆ ฮามาก เห็นพี่แกเดินกับเพื่อน หัวเราได้สะใจหนูมากค่ะ พี่เนย 555555 น่ารักจริงๆ ไม่เฟคอ่ะ เราชอบผู้หญิงแบบนี้นะ ไลค์ (y)

0
supergirl 17 ต.ค. 55 เวลา 15:39 น. 18

เอาไปดูซะหน้าเปลือย เห็นคห.2,3แล้วเอือม -_______-;;;




แต่ก่อนเราก็ไม่ได้ชอบนะ เพราะว่าพี่เขาถ่ายรูปเห็นนมเยอะเกินไป 55555555
แต่ตอนนี้ก็ชอบมากกกกกกกกกนานแล้ะ เราติดตามเตตัสพี่เขาทุกวันเลย ฮาดี 


PS.  T H A I L A N D <3
0
แมวโฉดร้องแหง่วๆ 17 ต.ค. 55 เวลา 15:59 น. 19

โฟโตช็อปหรือเปล่าไม่รู้

แต่แค่หุ่นก็ชนะติ่งในเด็กดีหลายคนแล้วครับ เหอะๆ

เป็นผมผมเอา  เฟอร์เฟ็กขนาดนี้


PS.  บนท้องฝ้ามีดาวอยู่มากมาย บนพื้นดินมีก้อนหินอยู่ทุกหนแห่ง แต่ในใจฉันมีเพียงเธอ
0