Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

การศึกษาไทยกับการศึกษาที่อเมริกาแตกต่างกันยังไง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
มีหลายคนมักตั้งคำถามว่า ทำไมเด็กนอกเรียนไม่เห็นหนักเท่าไทย ทำไมเค้าถึงฉลาดกว่าเรา ? ตอนบ่ายเค้าเล่นกีฬา เล่นดนตรี ตอนเช้าเค้าก็ไปเรียน เค้าเรียนกันยังไง เวลาเรียนจะพอหรอ ? ระบบการเข้ามหาวิทยาลัยเป็นยังไง ทำไมอเมริกาถึงมีระบบการศึกษาดีเป็นอันดับ 1 ของโลก ? วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ระบบการศึกษาของเค้าต่างจากเรามาก การศึกษาในระดับม.ปลายของไทยนั้น ใช้วิธีโดยการเลือกแผนกการเรียนเช่น วิทย์ -คณิต, ศิลป์ - คำนวณ, ศิลป์ - ภาษา เป็นต้น ต่างจากอเมริกาที่เค้าไม่มีแผนกให้เราเลือก แต่เราเลือกลงจากวิชาที่เราต้องการจะเรียน โดยแต่ละวิชามีระดับความยากง่ายตั้งแต่เบสิคไปจนถึระดับสูง ทั้งยังมีสาขาย่อยที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการจะเรียนด้านไหน
วิชาคณิตศาสตร์มีให้เลือกตั้งแต่เลข บวก ลบ คูณ หาร ไปจนถึง แคลคูลัส วิชาทางด้านภาษาได้แก่ ภาษาอังกฤษเบสิคจนถึงระดับสูง, ภาษาสเปน, ภาษาฝรั่งเศส เป็นต้น วิทยาศาสตร์ได้แก่ ชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ เหมือนกับไทย ต่างกันแค่เค้ามีให้เลือกเรียนตั้งแต่เบสิคชีวะไปจนถึงเรียนอนาโตมีเลย สังคมก็เช่นกัน มี 4 สาขาใหญ่ ๆ ได้แก่ รัฐศาสตร์, ประวัติศาสตร์อเมริกัน, เศรษฐศาสตร์, สังคมศาสตร์
วิชาทางด้านสายศิลป์ ดนตรีก็มีให้เลือกหลายสาขา เช่น Jazz band, Choir, Symphonic band, Marching band, วิชาเต้นโคฟเวอร์เพลง, ศิลปะก็มีให้เลือกหลายระดับตามความอาร์ทของแต่ละคน นอกจากนี้ยังมีวิชาอื่น ๆ เช่น วิชาการแก้ไขปัญหาภาวะเรือนกระจก, วิชาภาวะการเป็นผู้นำ, วิชาทำอาหาร, วิชางานประดิษฐ์ เป็นต้น นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของวิชาทั้งหมด ซึ่งจำนวนวิชาที่สามารถลงได้ในระดับมัธยมปลายมีทั้งหมดประมาณ 100 วิชา !!
นี่คือความแตกต่างระหว่างระบบการศึกษาไทยกับระบบการศึกษาของอเมริกัน ถ้าถามว่าแล้วเวลาเรียนจะพอหรอเรียนแค่ครึ่งวันเองนะ ? พอแน่นอนเพราะว่าวิชาที่เลือกจะเรียนซ้ำ ๆ อยู่ทุกวันใน 1 ปีการศึกษา ทำให้มีเวลาที่จะเจาะลึกในวิชานั้น ๆ มาก ตอนบ่ายก็ให้เด็กผ่อนคลายโดยมีกิจกรรมต่างกันในแต่ละฤดูเช่น ในในฤดูใบไม้ร่วงได้แก่ เชียร์ลีดเดอร์, อเมริกันฟุตบอล, มาร์ชชิงแบนด์ , กอล์ฟ, ฟุตบอล ในหน้าหน้าวก็จะเปลี่ยนไปเล่น บาสเก็ตบอล, โบวลิ่ง, ว่ายน้ำ พอหมดหน้าหนาวก็มีรักบี้ มาให้เล่นอีก
เด็กไทยหลายคนมักจะพูดว่าอย่างภาคภูมิใจว่า เราเก่งเลขกว่าฝรั่งเยอะ ที่หลายคนคิดเช่นนั้นเนื่องจากเด็กฝรั่งส่วนใหญ่มักเรียนเลขถึงแค่พีชคณิตขั้นสูง แก้สมการเป็น เรียนตรีโกณพื้นฐานก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากในระดับมหาวิทยาลัย พวกเค้าเหล่านั้นไม่ได้ใช้จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเรียน ในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่ง มีความจำเป็นที่จะต้องเรียนวิชาขั้นสูงเช่น แคลคูลัสเพราะว่า คนกลุ่มนี้เมื่อเรียนแคลคูลัสจบแล้ว สามารถเอาวิชานี้ไปยื่นต่อมหาวิทยาลัยเพื่อขอเก็บหน่วยกิตได้เลยโดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเรียนซ้ำใหม่ในมหาวิทยาลัย คนที่อยากจะเข้าหมอ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเรียนฟิสิกส์ หมอคงไม่มานั่งคำนวณอัตราเร่งการเดินของคนไข้หรอก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เพียงพอที่จะสรุปได้ว่า ระบบการศึกษาไทยนั้นจัดวิชาหนักเกินความจำเป็นให้เด็กเรียน หากจะเปรียบก็คงเหมือนเป็ดที่มีปีก ว่ายน้ำเป็น แต่ก็บินไม่ได้เหมือนนกและว่ายน้ำไม่เก่งเหมือนปลา จะเห็นได้ว่าเด็กที่นี่การเรียนคือความสุขของพวกเค้า ทุกวันที่ไปโรงเรียนคือความสุข ตื่นเช้าขึ้นมาเรียนในสิ่งที่ใจรัก พอภาคบ่ายทำกิจกรรมในสิ่งที่อยากจะทำ ไม่เหมือนไทยที่ต้องนั่งเรียนตั้งแต่ 8 โมงยัน 4 โมงเย็น พอตอนค่ำ ๆ ก็ต้องมานั่งเรียนพิเศษ บางทีเรียนถึง 3 ทุ่ม เนื่องจากกลัวว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ เรียนไปซักพักก็โดดเรียนบ้าง หลับบ้าง ร่างกายคนเรามันรับไม่ไหวหรอก อย่าว่าแต่เด็กอายุ 15 เลย ผู้ใหญ่บางคนเห็นยังเหนื่อยแทน
นอกจากนี้การเก็บเกรด GPA เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย ทุกคนมีมาตรฐานเดียวกัน คือ ส่งงานให้ครบ สอบให้ผ่าน เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ต่างจากที่ไทยที่คะแนน GPA นั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของคะแนนสอบแอดมิชชั่น ซึ่งในแต่ละโรงเรียนล้วนแต่ให้คะแนนไม่เท่ากัน โรงเรียน A นั้นให้ GPA มาก โรงเรียน B นั้นให้ GPA น้อย ทั้ง ๆ ที่ความรู้ความสามารถใน 2 โรงเรียนนั้นก็เท่ากัน ไม่มีอะไรที่เป็นมาตรฐานแน่นอน ทำให้การคัดเลือกเด็กเข้ามหาวิทยาลัยนั้นไม่ได้มาตรฐาน
พูดถึงเรื่องคะแนนจิตพิสัย คะแนนจิตพิสัยคุณมีอะไรเป็นตัววัดว่าคุณควรจะได้คะแนนมากหรือน้อย คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนบางคนประจบครูเก่ง ๆก็ได้คะแนนจิตพิสัยมาก ในขณะที่คนอีกกลุ่มเกเรแต่ได้คะแนนดีกลับมีจิตพิสัยต่ำ มันแฟร์กับพวกเค้าเหล่านั้นแล้วหรอ จะบอกว่าจิตพิสัยมีไว้เพื่อตัดคะแนนเด็กเวลาเด็กเข้าห้องเรียนสาย ส่งงานไม่ตรงเวลา ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก การที่เด็กจะเข้าห้องเรียนสาย ผมว่ามันเป็นเรื่องของฝ่ายระเบียบวินัย เด็กที่นี่หากเข้าห้องเรียนสายจะมีมาตรการลงโทษตามลำดับขั้นตอนไป ซึ่งจะมีตั้งแต่ตักเตือน เรียกผู้ปกครอง เป็นต้น ส่วนเรื่องส่งงานไม่ตรงเวลาคุณสามารถที่จะตัดคะแนนในส่วนของผลงานได้เลย ไม่ใช่มาตัดในส่วนของจิตพิสัย ถ้าจะบอกว่าเพื่อช่วยเด็กที่ได้เกรดน้อย อย่างนี้มันก็มี 2 มาตรฐาน มันก็ไม่แฟร์กับเด็กที่ได้คะแนนมาก เหมือนคะแนนเปล่าฟรี ๆ ถ้าอยากจะช่วยจริง ๆ ทำไมไม่ชี้ข้อบกพร่องของงานเก่าที่ส่ง แล้วให้เด็กไปแก้งานมาส่งใหม่ไม่ดีกว่าหรอ ถ้าอย่างนั้นจิตพิสัยคือคะแนนส่วนไหนหละ ? อีกทั้งครูที่นี่ยังไม่สั่งงานพร่ำเพรื่อ เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ มานั่งให้เด็กวาดรูป แทนที่จะมีเวลาให้เด็กไปอ่านหนังสือ ทบทวนเนื้อหาที่เรียน อีกทั้งในแต่ละงานยังมีคะแนนความสวยงามและคะแนนลายมือให้มันแฟร์แล้วหรอ อะไรเป็นตัววัดว่าสวยไม่สวย ? อะไรเป็นตัววัดว่าลายมือดีหรือแย่ ? เด็กชาย A วาดรูปเก่งแต่มีความรู้ไม่เท่ากับเด็กชาย B ซึ่งวาดรูปไม่เก่งแต่มีความรู้ในวิชานั้นมาก คะแนนออกมาปรากฎว่าเด็กชาย A มีคะแนนสูงกว่าเด็กชาย B !!! มันคือสิ่งที่เห็นได้ทั่ว ๆ ไปในระบบการเรียนการสอนของไทย ซึ่งเป็นเรื่องปกติมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีแฟ้มสะสมผลงานของครู ครูบางคนสั่งงานเด็กเพื่อที่ตนเองจะได้มีผลงาน แทนที่จะเอาเวลาส่วนนี้ไปสอนเนื้อหาให้เด็กมีความรู้มากยิ่งขึ้น ผมคิดว่ามันไม่แฟร์กับเด็กเช่นกัน
เวลาเด็กที่นี่มีข้อสงสัยการยกมือเป็นสิ่งที่ธรรมดามาก ๆ แตกต่างจากที่ไทย คุณยกมือถามครู ครูบางคนไม่อยากจะตอบเด็กด้วยซ้ำโดยให้เหตุผลว่า พูดไปแล้ว !!! ผมก็รู้ว่าครูพูดไปแล้วแต่ผมไม่เข้าใจนี่ถามใหม่ไม่ได้หรอ ? หรือบางคนไม่กล้าถามเพราะกลัวถูกเพื่อนมองว่าโง่ แค่นี้ก็ไม่รู้ จะถามทำไมเสียเวลาขัดจังหวะการเรียนหมด บางคนกลัวสายตาจากคนรอบข้างเวลาถาม ทำให้เค้าไม่กล้าที่จะยกมือถามในสิ่งที่เค้าสงสัย ? ซึ่งมันเป็นค่านิยมที่ผิด ที่พูดมาทั้งหมดไมได้แปลว่าครูดี ๆ ไม่มีในเมืองไทย ครูหลายนั้นก็มีที่ดีมากเช่นกัน นี่เป็นเพียงแค่ครูส่วนหนึ่งเท่านั้น
การสอบ GAT-PAT ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ผมได้ยินจากเพื่อนว่าเค้ามีโพย ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเป็นแค่ข่าวลือ นี่คือการสอบระดับชาติ แต่กลับพบว่านักเรียนมีโพยข้อสอบ ? ลองคิดดูเล่น ๆ ว่าข้อสอบนั้นจะรั่วจากไหนถ้าคนออกข้อสอบไมได้เอาเฉลยไปบอกลูกบอกหลาน ? สาเหตุก็เพราะว่าผู้ใหญ่เองนั่นแหละที่เป็นปัญหาของระบบการศึกษา การศึกษาถึงได้ไม่มีประสิทธิภาพ ผู้ใหญ่ในสังคมไม่เป็นแม่แบบที่ดีแล้วจะให้เด็กเอาตัวอย่างดี ๆ จากไหน ? ผมได้เล่าเรื่องนี้ให้กับเพื่อน ๆ ฟังว่า เนี่ยถ้าเกิดมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเอ็งจะจำโพยปะ เพื่อนผมบอกเลยว่าไม่ ผมก็ไม่อยากจะเชื่อหรอก แต่คนที่นี่เค้ามีความซื่อสัตย์สูงมาก เด็กที่นี่ไม่มีลอกกันแม้กระทั่งครูคุมสอบไม่อยู่ในห้อง เพราะบทลงโทษเค้าร้ายแรงมาก ๆ ตั้งแต่ทำข้อสอบมาบอกได้เลยว่าไม่มีจริง ๆ ในขณะที่ไทยทำไม่ได้ ก็หันซ้ายหันขวาเป็นเรื่องปกติมาก ๆ เพราะการที่เราทำเรื่องเหล่านี้ให้เคยชินมันจึงปกติ ในขณะที่เค้านั้นไม่ค่อยจะมีการทุจริตการสอบมากเท่าไรมันจึงเป็นเรื่องร้ายแรง
ถ้าถามผมว่าหากเป็นผมผมจะจำโพยไม้ ผมบอกเลยว่าจำแน่นอน และผมก็มั่นใจว่าเด็กที่จะแอดมิชชั่น 70 เปอร์เซนต์ก็จะตอบว่าจำชัวร์ ๆ ถ้าหากคุณเป็นพ่อเป็นแม่คน ลูกกำลังจะสอบแอดมิชชั่นในวันพรุ่งนี้ ลูกคุณแทบไม่มีอะไรในหัวเลย แต่ปรากฎว่าคุณมีโพยข้อสอบ คุณจะเอาโพยให้ลูกคุณไหม ? ถามจริง ๆ จะมีซักกี่คนที่ไม่ทำ !! เรื่องคอรัปชั่นในปัจจุบันกำลังเป็นประเด็นร้อนในสังคมไทย หลายคนมักจะพูดว่าเกลียดนักการเมืองโกง ๆ แต่เราลืมหันมาย้อนมองตัวเองว่า เราเองนั้นก็คอรัปชั่นด้วยเช่นกัน เพราะเรามองเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย จนกระทั่งมันเป็นเรื่องปกติของสังคมไทยไปโดยปริยาย
วิธีการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของคนที่นี่จะสอบโดยใช้ข้อสอบ ACT และ SAT เป็นตัววัด ซึ่งข้อสอบ GAT – PAT ของเรานั้นเทียบไม่ได้เลย เด็กที่นี่เลือกมหาวิทยาลัยจากคะแนน ACT – SAT ที่ได้แล้วค่อยเลือกคณะ ทำให้เด็กที่นี่มีอิสระในการเรียน อยากจะเรียนอะไรก็ได้ อยากจะเป็นอะไรก็ได้เป็น จบไฮสคูลได้เรียนในสิ่งที่ชอบ ทำงานในสิ่งที่ใจรัก จึงไม่แปลกที่บ้านเมืองของเค้ามีความเจริญ เพราะเค้าใช้คนทำงานอย่างถูกต้อง ไม่ได้เอาคนที่อยากจะเป็นวิศวะมาเป็นหมอ หรือเอาคนที่อยากเป็นหมอมาเป็นวิศวะ ไม่มีค่านิยมว่าคนฉลาดต้องเรียนหมอเท่านั้น ไม่ใช่เลย !! อีกทั้งบ้านเราบังมีสถาบันทำลายการศึกษาไทย ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นสถาบันนี้ตัดสินใจโดยยึดตนเองเป็นที่ตั้ง อยากเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน อยากจะทำอะไรก็ทำโดยอ้างว่าเพื่อพัฒนาการศึกษาให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ ผมถามจริง ๆ ว่าคุณเปลี่ยนแปลงกี่รอบแล้วมันดีขึ้นบ้างรึเปล่า ? ผมคิดว่าระบบที่คุณเปลี่ยนมันยังไม่ได้ครึ่งของอเมริกาเลย มันไม่ได้ดีขึ้นเลย ซ้ำกับแย่ลงทุกวัน ๆ เด็กไทยสมัยนี้เหมือนหนูทดลองที่โดนทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันแฟร์กับเด็กแล้วรึเปล่า ?
เพราะสถาบันนี้มีอีโก้สูง จึงไม่กล้าที่จะยอมรับความจริงว่าสิ่งที่เค้าทำมันเป็นตัวทำลายระบบการศึกษา คนทั้งชาติเห็นแล้วว่าสิ่งที่พวกเค้าทำมันเป็นสิ่งที่ผิด ไม่ใช่แนวทางในการพัฒนาระบบการศึกษา มีแต่พวกเค้าเท่านั้นที่คิดว่าสิ่งที่ตนเองกำลังทำมันเป็นการทำเพื่อประเทศชาติเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่จะพูดว่าเห้ย !! เอ็งพูดแล้วเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างอะ สทศ เค้าจะรับรู้ไหม ? ถ้าเกิดคิดกันแบบนั้นก็คงไม่มีใครคิดที่จะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอะไร งั้นก็ก้มหน้ารับชะตากรรมกันต่อไปแล้วกัน บางคนก็อาจจะพูดว่า เห้ย !! พูดแบบนี้มันก็เหมือนด่าประเทศไทยอ้อม ๆ รึเปล่า เด็กนอกมันเป็ยก็แบบนี้แหละ พออยู่นอกก็ลืมตังว่าบ้านเกิดเป็นยังไง ? ผมก็จะบอกว่าแล้วมันเป็นยังไงหละ สิ่งที่ผมพูดมันเป็นเรื่องจริงรึเปล่า บางคนก็อาจจะพูดต่อไปว่า บางเรื่องเอ็งคิดได้แต่พูดไม่ได้ ? เพราะการที่คิดได้แต่พูดไม่ได้นี่แหละ จึงทำให้พวกเราย่ำอยู่กับที่ไม่มีการพัฒนา ไม่มีการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง ทำให้พวกเราอยู่แต่ในกรอบไม่กล้าคิดนอกกรอบ พวกคุณลืมไปรึเปล่าว่าเรามีประชาธิปไตยก็เพราะเด็กนอก เราไม่เป็นฝ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เพราะเด็กนอกเช่นกัน !! ตราบใดที่พวกคุณยังคงคิดแบบนั้น พวกเราเด็กไทยก็คงต้องก้มหน้ารับชะตากรรมต่อไป

credit: Facebook: Apisit Tangsinmonkong

แสดงความคิดเห็น

>

25 ความคิดเห็น

imoey.b 14 ต.ค. 55 เวลา 20:48 น. 3
ครูไทย... สั่งการบ้านวันนี้ส่งพรุ่งนี้ตอนเช้า ห้ามเลท เลทก็ตัดนู่นนี่ เเต่ครูตรวจการบ้านอีกทีข้ามวัน.
0
taniiji 14 ต.ค. 55 เวลา 21:32 น. 4

คนที่อยากจะเข้าหมอ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเรียนฟิสิกส์ หมอคงไม่มานั่งคำนวณอัตราเร่งการเดินของคนไข้หรอก

#เห็นด้วยคะ


PS.  
0
SPADEZII 14 ต.ค. 55 เวลา 21:36 น. 5
ใช่เลยยยยย(สิ่งที่เด็กไทยต้องการ)
อยากให้เปลี่ยนรูปแบบการศึกษาจัง!! มันล้าหลังไปแล้ววว
0
บิ๊ก[คุง] 14 ต.ค. 55 เวลา 22:19 น. 6

เห็นด้วยอย่างมาก
&nbsp เรียนในสิ่งที่ชอบ ทำงานในสิ่งที่ใจรัก#

ไม่ใช่ยัดๆ มา กุรับไม่ไหววว
(แม่งก่ให้ 0 ให้ ร กุ )

0
wmm :) 14 ต.ค. 55 เวลา 22:28 น. 7
รักกระทู้นี้แบบหมดใจ 
ฉันกำลังรอวันที่ผู้ใหญ่บ้าอำนาจของประเทศไทยจะสิ้นอายุขัยสักที -_-
#แรงไปไหม? #แต่จากใจจริง
เด็กสมัยนี้ถึงจะเติบโตมาในสภาพที่ผู้ใหญ่แย่แค่ไหน
แต่ก็สามารถแยกได้ว่าอะไรดีไม่ดี
บางทีความคิดเด็กอาจจะดีกว่าผู้ใหญ่บ้าอำนาจบางคนก็ได้

มันดีที่เรามีระบบที่ให้ความเคารพผู้ใหญ่
แต่ไม่ได้แปลว่าผู้ใหญ่ถูกเสมอไป 
การฟังเด็กบ้าง ยอมสละผลประโยชน์ของตัวเองบ้าง
มันไม่ได้ทำให้ใครมองคุณแย่ลง
หนำซ้ำอย่างน้อยๆ พวกเด็กๆ นี่แหละ
ที่จะยกย่องชื่นชมคุณ 
เปลี่ยนเถอะผู้ใหญ่ไทย


ฟังเด็กอย่างพวกเราบ้างเถอะนะ...
ปล.มันคือมุมมองฉัน (อาจจะแค่ฉันคนเดียว)

PS.  สิ่งที่สอนใน ร.ร. หรือ ม. ไม่ใช่การศึกษา แต่เป็นวิธีการศึกษาต่างหาก! :(
0
ดีดีีดี 14 ต.ค. 55 เวลา 22:36 น. 8

อืมๆๆ ใช่ เปลี่ยนสักทักทีเถอะ  เราเห็นด้วยอะ
เราชอบและคิดว่าเรียนชีวะกับเคมีได้ดี แต่คณิตกับฟิสิกส์มันดึงคะแนนเรา
ดิ่งวูบบบเลยT^T บอกตรงๆว่าอยากเรียนแต่ในสิ่งที่ตัวเองชอบ
และมุ่งไปทางนี้เลยโดยเฉพาะ   เหมือนที่เมกาหรือประเทศอื่นๆเค้าทำกัน
GAT-PAT มันทำร้ายเด็กมากนะ  คนเราไม่ได้เก่งทุกอย่างสักหน่อย มันทำออกมาไม่ได้ดีทั้งหมดหรอกนะ  คนที่บอกว่าทำได้อะ เค้าต้องแลกกับอะไรหลายๆอย่างในชีวิตวัยนี้เลยนะ เพื่อนเราที่มุ่งมั่นเรียนพิเศษทุกอย่าง อ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืน ถ้ามองในมุมผู้ใหญ่คงเห็นว่าเด็กคนนี้ทำดีแล้ว แต่เค้าเป็นเด็กนะ  เพื่อนเราคนนี้ไม่เคยดูหนังกับเพื่อน  เวลาทุกนาทีเธอทุ่มกับการเรียน ทั้งดารา เพลง เธอไม่รู้จักอะ facebookก็ไม่เล่น  แล้วถ้าเพื่อนเราไม่ได้อย่างที่หวังละ จะอะไรก็แล้วแต่ ตกจากที่สูงเราว่ามันเจ็บนะ  เรากลัวแทนอะว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะมีใครมารับผิดชอบมั้ย เบื่อการศึกษาไทย มีแต่คนเห็นแก่ตัว

0
nat2fast 15 ต.ค. 55 เวลา 00:17 น. 11
อย่างว่า
ขนาดห้องผม(ม.6)เป็นห้องTopที่สุดในโรงเรียน  
90%ของคนในห้อง
เรียนไปยังไม่ค่อยมีเป้าหมายที่แน่นอนเลย
เรียนๆไป ทำเกรดๆ แค่นั้น! ไม่ได้คิดอะไรมากมาย
 
|
จะให้ไปคิดอะไรล่ะ 
เช้ามาโรงเรียน
เย็นเลิกเรียน
กลางคืนทำการบ้าน
แล้วก็นอน
เวลากิจกรรมน้อยสุดๆ
แค่ประชุมกีฬาสี
ต้องหาเวลากันเป็นเดือนๆ
เสาร์-อาทิตย์ก็ทำโครงงาน การบ้าน
ทั้งปี!!!

(ยกเว้นเด็กสายศิลป์ 
โครตอิจฉามันเลย!!)


0
H.O.T.D. l Conan [ 64 ] 16 ต.ค. 55 เวลา 14:13 น. 12

ใครก็ได้เอากระทู้ไปให้ ระบบการศึกษาของไทยสิ = =!!!!


PS.  ชอบสิ่งใดก็ทำสิ่งนั้นถ้าโลกนี้มีแต่สีแดงก็จงปลดปล่อยสิ่งที่อยากทำมากที่สุดถึงจะเป็นการฆ่าคนก็ตาม หึ...หึ.....หึ
0
ggift 16 ต.ค. 55 เวลา 16:11 น. 13

ชอบกระทู้นี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกก
เจ้าของกระทู้เขียนใด้ดีมากกกกก
ถ้าเลือกใด้เด็กคงอยากไปเรียนที่USAกันหมด เเต่ที่ไปก็มีเเต่ลูกคนรวยลูกคนจนก็ต้องจมปรักอยู่กับระบบการศึกษาที่มันย่ำแย่ เราชอบที่เค้าเลือกคนทำงานที่รักงานนั้นจริงๆถามหน่อยเถอะคะเเนนดีเเต่งานนี้มันไม่ใด้รักทำไปก็ชิบหาย จะเอาไปทำไมเราไม่เชื้อหรอกว่าผู้ใหญ่เค้าจะไม่รับรู้กระทู้เเบบนี้มีตั้งเยอะเเยะมันอยู่ที่ว่าเค้าเข้ามาดูเเล้วจะเอาไปพัฒนาหรือเปล่า

0
FilmFeem 16 ต.ค. 55 เวลา 19:26 น. 15
ใช่ !!! ทำไมต้องให้เรียนในวิชาที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์ เรียนสิ่งที่ชอบเลยสิ   
0
coffeemild 18 ต.ค. 55 เวลา 20:30 น. 16
บอกได้คำเดียว มันโดนมากเลย อยากให้ครูได้มาอ่าน

PS.  ไม่อยากเจอเพื่อนนิสัยไม่ดี ที่ห้องเรียน เกลียดมัน
0
234 18 ต.ค. 55 เวลา 23:27 น. 17

พูดถูกทุกประเด็น

เราอยากเป็นสัตวแพทย์ เราไปสอบเข้าม.4 เข้าสายวิทย์คณิต

เราสอบไม่ติด เลยย้ายไปอยู่ศิลป์-คำนวณ เราร้องไห้ไปสามวันเจ็ดวัน

เราระบายให้พี่เราฟัง แล้วเพื่อนพี่เราพูดขึ้นว่า

น้องคะ ถ้าน้องรู้ว่าเรียนไม่ไหว ก็อย่าเรียนเลย (พูดประมาณว่าถ้าโง่ก็อย่าเรียน)

เรียนศิลป์-คำนวณก็ดีแล้ว เป็นอย่างอื่นดีกว่า&nbsp อย่ามาเป็นหมอสัตว์เลย

แบบเราเจ็บใจคำพูดพี่เขามาก

ที่เจ็บใจยิ่งกว่านั้น คนที่เรียนสายวิทย์มา สอบคณะเข้าของสายศิลป์ หมดเลย

จะหาว่าเราเห็นแก่ตัวก็ได้นะ แบบในเมื่อคุณเรียนสายวิทย์มา&nbsp คุณก็ควรที่จะเข้าคณะพวกสายวิทย์สิ

มาแย่งที่ของสายอื่นๆได้ยังไง ในเมื่อสายอื่นๆเขาก็ไม่สามารถแย่งพวกสายวิทย์ได้

และก็ไม่สมควรเรียนสายวิทย์ ให้เปลืองสมอง

เพราะยังไงสายอื่นๆเขาก็ต้องมาแย่งกันเองอยู่แล้ว

และไม่สมควรที่จะแย่งที่ของคนที่เขาอยากเรียนสายวิทย์กัน&nbsp 

คนเขาอยากเป็นหมอ เป็นเภสัท เป็นพยาบาล เป็นสัตวแพทย์ บลาๆ เขาไม่ได้เป็น

อย่ามองว่าคนที่เขาเข้าสายวิทย์ไม่ได้ ว่าโง่นะคะ เขาอาจจะเรียนเพราะใจรัก

แต่ไม่เหมือนใครบางคน ไม่ใจรัก หวังเพราะเงินทอง ในอนาคต แต่บริการผู้อื่นไม่ดี

ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเรียน

คุณควรเตรียมตัวมาอย่างยิ่ง ในการเลือกที่จะเข้าสายไหน ไม่ใช่ว่า

เรียนเพราะมีทางเลือกมากกว่า เพราะนั้นคุณคิดผิด

***the end ***

0
`(จอมหนวด.?) 21 ต.ค. 55 เวลา 17:42 น. 20
‎" Students are human beings, they're not clones that have to look the same every inch. You have to separate discipline from personal rights. You should spend the valuable time enforcing real life discipline that will effect the society such as being on time, I've heard Thai people are awful at it right? Instead of wasting your time invading children's personal rights by forcing them to cut their hair into styles that YOU think look cute or suitable in your opinion, but that doesn't mean it's right. Just because you're an adult doesn't mean everything you think is right. "

" เด็กนักเรียนเป็นมนุษย์ ไม่ใช่โคลนนิ่งที่ต้องเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว คุณต้องรู้จักแยกแยะระเบียบวินัยกับสิทธิส่วนบุคคลให้ออก คุณควรใช้เวลาอันมีค่าไปสอนระเบียบวินัยของจริงที่จะส่งผลกระทบต่อสังคมรอบข้างให้กับเด็กๆ เช่นสอนให้เด็กตรงต่อเวลา ฉันเคยได้ยินมาว่าคนไทยแย่มากในเรื่องนี้ใช่ไหม แทนที่จะเสียเวลาไปยุ่งกับสิทธิส่วนตัวของเด็กเช่นการบังคับเด็กให้ไว้ผมในทรงที่คุณชอบ เพียงเพราะคุณคิดว่ามันดูน่ารักหรือเหมาะสม แต่นั่นมันก็แค่มุมมองของคุณซึ่งไม่ได้หมายความว่ามันถูกต้อง แค่เพราะว่าคุณเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้แปลว่าทุกอย่างที่คุณคิดมันจะถูกเสมอไป "

นี่เป็นคำพูดของฝรั่งคนนึงค่ะ เค้าเป็นศาสตราจารย์มั้งคะไม่แน่ใจ
จำไม่ได้ว่าเอามาจากเว็บไหน ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้ให้เครดิต :)

PS.  It is never too late to be what you might have been.:)
0