Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วิธีการทดสอบหาแม่มดและพ่อมดในสมัยยุคกลาง!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

การลงโทษหรือล่าแม่มดมีมานานแล้ว แต่ที่โด่งดังมากๆ คือ การล่าแม่มดซึ่งเกิดขึ้นในช่วงยุคกลางในประเทศทั้งแถบยุโรปและอเมริกา โดยกินเวลายาวนานตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 15 ถึงศตวรรษที่ 17 ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องตายไปเป็นจำนวนมาก เราได้รวบรวมเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับการตัดสินว่าใครเป็นแม่มดในยุค นั้น ซึ่งออกจะไร้ซึ่งเหตุผล และถ้าเอามาใช้ในทุกวันนี้ พวกเราทุกคนคงต้องเป็นแม่มดกันหมดอย่างแน่นอน


เริ่มจากการหาผู้ที่เข้าข่ายว่าอาจจะเป็นแม่มด วิธีการตรวจสอบ คือ


- ดูจากรอยตำหนิบนร่างกาย เช่น ถ้ามีไฝ ปาน หรือตำหนิอื่นๆ บนผิวหนังที่ติดตัวมาแต่เกิด ก็จะถือว่าเป็น “รอยตำหนิของปีศาจ” (diabolical mark) แต่บางคนถึงไม่มีรอยพวกนี้ ผู้สำรวจก็อาจจะบอกว่า มีรอยตำหนิที่มองไม่เห็นอยู่ (invisible mark) และถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดอยู่ดี



- มีผมสีแดง คนผมแดงในยุคนั้นจะโชคร้ายมาก เพราะผมสีแดงเป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นข้ารับใช้ของปีศาจ และเป็นแม่มด



- ถูกกล่าวหาโดยแม่มดคนอื่น กรณีนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก เพราะถ้าโดนจับในข้อหาเป็นแม่มดแล้วยอมบอกชื่อแม่มดคนอื่นๆ อีก โทษที่ได้รับก็จะเบาลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ถูกประหาร เบาลงที่ว่าหมายความว่า แทนที่จะถูกเผาทั้งเป็น ก็อาจจะถูกรัดคอจนตายก่อนแล้วค่อยเผา ทรมานน้อยลงอีกนิดหน่อย



- ถ้ามีคนในครอบครัวถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ผู้หญิงคนอื่นๆ ในครอบครัวก็อาจจะต้องสงสัยว่าเป็นแม่มดไปด้วย อาจจะโดนเผาทั้งเป็นยกครัวได้



- พูดไม่ดีเกี่ยวกับศาสนา หรือแสดงความไม่นับถือ อะไรก็ตามเป็นการลบหลู่ศาสนา ถึงจะแอบๆ พูดกันเองแต่สมัยนั้นชาวบ้านส่วนใหญ่พร้อมจะเอาเรื่องของคนที่น่าสงสัยไป ฟ้องโบสถ์อยู่แล้ว เกิดมีคนได้ยินขึ้นมาแล้วเอาไปฟ้องทางโบสถ์ จะถือว่าเป็นพวกบูชาปีศาจ เป็นแม่มด และถูกจับเผาทั้งเป็นอีกเช่นกัน



- ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นด้วยเวทมนต์ ซึ่งเวทมนต์ที่ว่านี้ก็ไม่มีวิธีพิสูจน์ได้อยู่ดี แต่จะดูเอาจากว่า เกิดสิ่งผิดปกติขึ้นกับผู้คนหรือธรรมชาติที่อยู่รอบๆ ตัวของผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่ เช่น ถ้าอยู่ดีๆ วันหนึ่งเพื่อนข้างบ้่านเกิดผื่นขึ้น หรือพายุลูกเห็บตกในหมู่บ้าน หรือว่าวัวตายยกคอก ก็สรุปได้แล้วว่า มีการใช้เวทมนต์แน่ๆ ก็ต้องควานหาเหยื่อมารับผิดเป็นแม่มด แล้วนำไปเผาทั้งเป็น



- มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ต่างจากคนอื่น เช่น หน้่าตาน่าเกลียดเกินไป สวยเกินไป (สวยเกินก็โดนอีก) จมูกใหญ่ไป ฟันยื่นเกินไป แก่เกินไป อะไรก็ได้ที่ต่างจากคนอื่น ก็อาจจะทำให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นแม่มดได้



- คนที่มีความสามารถด้านการแพทย์ การรักษา หรือมีความรู้ด้่านสมุนไพร มักถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ถึงแม้จะใช้ความสามารถนี้ในการช่วยเหลือสังคม แต่ก็จะถูกหาว่าใช้เวทมนต์อยู่ดี


- มีคนกล่าวหาว่าเรามีพฤติกรรมต่างๆ แบบแม่มด หรือแค่ฝันเห็นว่าทำพฤติกรรมของแม่มด ก็อาจจะโดนเอาตัวไปตรวจสอบได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานอย่างอื่นเลย มีคนถูกกล่าวหาด้วยเหตุผลนี้เยอะอีกเช่นกัน ส่วนมากเกิดจากที่ไปมีความขัดแย้งส่วนตัวกับคนอื่น หรือไม่ก็อยู่เฉยๆ แต่มีคนอยากได้ทรัพย์สินของเรา ก็จะใช้คำอ้างนี้ไปฟ้องกับทางโบสถ์ และผู้ถูกกล่าวหาก็จะถูกนำตัวไปสอบสวน ถึงถ้าไปถึงขั้นนั้นแล้ว ส่วนมากก็จะถูกสรุปว่าเป็นแม่มดอยู่ดี



หลังจากที่ได้ผู้ต้องสงสัยมาแล้ว ก็ถึงขั้นตอนทดสอบเพื่อยืนยัน ซึ่งถ้ามาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงก็ต้องโดนยัดเยียดข้อหาแม่มดให้อยู่ดี ขั้นตอนการทดสอบเองก็มีหลากหลายวิธีมาก เช่นตามนี้



- ถ้าผู้ต้องสงสัยมีรอยตำหนิบนร่างกายแล้ว เชื่อกันว่า รอยตำหนิของปีศาจเหล่านี้ ถ้าถูกแทงด้วยเข็มจะไม่มีเลืิอดออก และไม่รู้สึกเจ็บปวด ดังนั้น ผู้ทดสอบส่วนใหญ่จะใช้เข็มปลายทู่ หรือใช้เทคนิคต่างๆ เช่นใช้เข็มแทงเข้าไปถึงแค่ชั้นผิวหนังกำพร้า ซึ่งแน่นอน ว่าไม่มีเลือดออก และไม่เจ็บด้วย ทำให้ผู้ที่ถูกทดสอบถึงผลออกมายังไงก็ต้องเป็นแม่มดแน่ๆ



- ทดสอบความศรัทธาต่อพระเจ้า ด้วยการให้ผู้ต้องสงสัยอ่านคัมภีร์บทสวดของพระเจ้า (Lord’s Prayer)  โดยต้องห้ามอ่านผิดแม้แต่นิดเดียว (รวมถึงห้ามพูดตะกุกตะกัก ขัดๆ หรือติดอ่าง) ซึ่งในสถานการณ์กดดันแบบนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็จะตื่นเต้น ตกใจ อ่านผิดกันทั้งนั้น รวมถึงคนที่พูดติดอ่างอยู่แล้วก็ไม่มีข้อยกเว้น



- ในกรณีที่มีคนในหมู่บ้านเกิดอาการชัก หรือเหมือนถูกผีเข้า ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นแม่มดจะต้องทดสอบด้วยการสัมผัสที่ตัวของผู้มีอาการ ถ้าอาการนั้นหายไปทันที แสดงว่าผู้ต้องสงสัยนั้นเป็นแม่มดเ พราะเชื่อกันว่าแม่มดจะดูดเอาเวทมนต์ออกไปถ้าได้สัมผัสกับตัวเหยื่อ วิธีทดสอบนี้ทำให้มีคนบริสุทธิ์ถูกเผาทั้งเป็นเยอะเช่นกัน เนื่องมากจากส่วนใหญ่คนที่เป็นเหยื่อก็คือคนที่มีเหตุต้องการให้ผู้ถูกกล่าว หาโดนลงโทษอยู่แล้ว จึงใช้การแสดง แกล้งทำเป็นว่าถูกเวทมนต์ดำนั่นเอง



- ถ้าใช้วิธีต่างๆ แล้ว ผู้ถูกกล่าวหายังไม่ยอมรับว่าเป็นแม่มด ผู้ทดสอบก็จะใช้วิธีที่โหดขึ้นอีก เช่น ใช้การทรมานแบบต่างๆ เพื่อให้ผู้ต้องสงสัยยอมรับ ถ้าผู้ถูกทรมานไม่ยอมรับ ก็จะโดนทรมานจนตาย แต่ถูกทรมานมากๆ เข้าจนทนไม่ไหวต้องจำยอมรับผิด ก็จะถูกนำไปเผาทั้งเป็น นอกจากนั้น ถ้าระหว่างการทรมานผู้ต้องสงสัยไม่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ก็จะถือว่าเป็นแม่มดทันที



- อีกวิธีการที่โด่งดังมาก คือการจับคนที่สงสัยว่าเป็นแม่มดไปถ่วงน้ำ โดยใช้เชือกมัดแขนขา จากนั้นก็โยนลงในน้ำ เชื่อกันว่า น้ำเป็นสิ่งบริสุทธิ์ ถ้าอยู่ข้างพระเจ้าก็จะจมน้ำลงไป แต่ถ้าเป็นแม่มดก็จะโดนน้ำดันลอยกลับขึ้นมา ถ้าใครลอยขึ้นมาก็คือเป็นแม่มด และจะโดนจับไปลงโทษ แต่ถ้าใครจมน้ำตายก็จะถูกประกาศว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ก็คงจะไม่ทันแล้ว



ที่มา everyday-readers.com



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 15 ตุลาคม 2555 / 10:33
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 15 ตุลาคม 2555 / 10:37
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 15 ตุลาคม 2555 / 10:37
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 15 ตุลาคม 2555 / 10:37

แสดงความคิดเห็น

>

21 ความคิดเห็น

พรีม 24 เม.ย. 58 เวลา 15:12 น. 1-1

ถ้าเกิดในยุคนั้นคงไม่ลอด เพราะทุกวิธีมันมีแต่ตายกับตาย
เศร้าจัง

0
PinkGirl 15 ต.ค. 55 เวลา 11:05 น. 2

น่าสงสาร 
ทำไมคนยุคนั้นถึงเกลียดเเม่มดอ่ะ


PS.  ศุกร์กันเถอะเรา เสาร์ไปทำไม อาทิตย์เเล้วไง จันทร์ อังคาร เร็วไปรึเปล่า..
0
หว้าาา 15 ต.ค. 55 เวลา 11:15 น. 4

แม่มดมีจริงหรือเปล่าอ่ะ
ทำไมต้องใช้วิธีโหดขนาดนั้นเพื่อหาแม่มด หรือว่าแม่มดมีจริงๆ
เรานึกว่ามีแต่ในนิทาน

0
ซินดี้ ไม่ชอบกินข้าวจนปวดท้อง 15 ต.ค. 55 เวลา 12:03 น. 6

- มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ต่างจากคนอื่น เช่น หน้่าตาน่าเกลียดเกินไป สวยเกินไป (สวยเกินก็โดนอีก) จมูกใหญ่ไป ฟันยื่นเกินไป แก่เกินไป อะไรก็ได้ที่ต่างจากคนอื่น ก็อาจจะทำให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นแม่มดได้


ข้อเนี่ย   แก่เกินไป
อืมถ้าอายุ 80 ยังไม่แก่ ก็ botox และ

PS.  เป็น 1 คน 1 ชีวิต ใน 1 หน เป็น 1 คนที่ต้องการ 1 ความรัก 1 ความรักจาก 1 ใจ ที่ร้อยทัก เป็น 1 ใจของ คนรัก จาก1 คน
0
บะหมี่ใส่ไข่_กุ๊งกิ้ง~ก๊องแก๊ง~ 15 ต.ค. 55 เวลา 15:55 น. 7
อ่อม...แม่มดไปทําอะไรให้พวกคุณเหรอฮะ..?

นี่ถ้าเกิดโรคระบาดจะตายยกหมู่บ้านแล้วมีคนคิดค้นยาสมุนไพรมาได้ทําให้หายจากโรคได้เนี่ย สุดท้ายก็ต้องโดนหาว่าเป็นแม่มดใช่ม่ะ?

PS.  ฉันมันผู้หญิงที่ไม่คู่ควร...ไม่เจียมตัวเอง...และไม่ดีพอสําหรับเธอ...
0
คิด 15 ต.ค. 55 เวลา 17:18 น. 8

แม่มด หรือพ่อมดในยุคนั้น ก็คือ หมอ หรือนักปราชญ์ เป็นส่วนใหญ่
ทางคณะผู้มีอำนาจ อยากจะปกครองประชาชนไว้เพียงผู้เดียว และให้ประชาชนหลับหูหลับตานับถือทางคณะ การที่ใครคนหนึ่งสามารถทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในคณะผู้มีอำนาจนั้นๆ ย่อมจะต้องโดนกำจัด โดยเอาไปอ้างนู่น อ้างนี่ต่างๆ นานา

ศาสนา และความเชื่อ คือกฎหมายในสมัยนั้น

และนี่คืออดีตของมนุษย์เรา น่าจะเป็นทุกประเทศแหละ แต่ร้ายแรงต่างกัน และเรียกชื่อต่างกัน

ดังนั้นวิทยาศาสตร์จึงเน้นในเรื่องที่ว่า ต้องพิสูจน์ได้ และกระบวนการต่างๆ เพื่อให้เราเข้าใจธรรมชาติโดยไม่หลงงมงาย และไม่แน่ว่าศาสนาที่เรานับถืออยู่ตอนนี้ จะถูกบิดเบือนมากจากคณะผู้มีอำนาจในอดีตด้วยรึเปล่า ????

0
ชัญญานุช 15 ต.ค. 55 เวลา 18:57 น. 9
เรามีไฝกับขี้แมลงวัน 
PS.  ผู้เป็นใหญ่เอ๋ย หน้ากากเลือดเนื้อผู้สร้าง จงสยายปีกออก ผู้ใช้นามของมนุษย์เอ๋ย ความเร่าร้อนและความฝันทั้งมวล จงแบ่งทะเล และตลบกลับ และจงมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ วิถีทำลายที่ 31 ชักกะโฮ
0
LeeTan 16 ต.ค. 55 เวลา 03:12 น. 10
อืม เราแค่ออกความเห็นนะ เราว่าคนในยุคนั้นงมงายนะ แต่เราไม่ได้ลบหลู่ บางทีอาจจะแค่ฉ้อโกง โรคระบาดและหวาดกลัว เลยต้องใส่ร้ายป้ายสีผู้บริสุทธิ์เพื่อมาเป็นแพะรับบาปแทนตัวเองก็ได้ เชื่อด้ว่าใครเป็นสาวชาวบ้านธรรมดา โชคร้ายสุดๆ พอมีโรคระบาด มีหมอมารักษา ก็หาว่าเป็นแม่มด งั้นก็ตายๆไปเถอะ=  = อย่าอยู่เลย แม้จะบำเพ็ญประโยชน์ก็ยังโดนกล่าวหาสินะ

PS.  อนุรักษ์ภาษาไทย งดใช้ภาษาวิบัติ!!!
0
fluk986 29 ต.ค. 55 เวลา 21:48 น. 12

เอิ่มมมมมม...&nbsp ใครมีไฝกับอุนจิเเมลงวันเต็มตัวบ้าง เรามีเต็มตัวเลยล่ะ ดีมากที่ไม่ได้เกิดตอนนั้นป่านนี้ตายไปละ

0
เมอร์ลิน 21 ก.พ. 56 เวลา 15:49 น. 13

ยุคนั้นนะใช่ยุคเดียวกับเจ้าชายอาร์เธอร์หรือป่าวถ้าใช่ละก้อจะมีคนรับใช้ของอาร์้เธอร์นะเป็นพ่อมดชื่อ เมอร์ลินอยู่เป็นพ่อมดที่เก่งที่สุดในโลกเลยล่ะเมอณืลินเกือบโดนสั่งประหารหลายรอบแต่เจ้าชายอาร์เธอร์ก้อช่วยไว้หลายครั้งอยู่

0
ปัณฑิตา 14 มี.ค. 56 เวลา 21:02 น. 14

บ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆกันทั้งยุคเลย เปนแม่มดแล้วมันผิดตรงไหนมิทราบ แล้วก้ไม่มีหลักทานวักกะหน่อย มากล่าวหากันอย่างนี้มันขี้โกงนิ

0
Candynymph 4 พ.ค. 59 เวลา 00:46 น. 17

ขอบอกเลยค่ะ คนสมัยนั้นโง่ ไม่มีหัวคิด ไม่รุ้คิดได้ไงว่าคนพวกนั้นเป็นเเม่มดใช้วิธีต่างๆทรมาน เเต่พ่อมดมันก็มีนิ ทำไมไม่เผา-ทั้งหมู่บ้าน จะได้ตายเหมือนกัน เเฟร์ดี จะรุ้ไงว่ามันทรมาน บางทีพวก ปีศาจอาจนิสัยดีกง่าอีก# เป็นคนชอบเเม่มดนะ5555ชอบเรื่องพวกนี้ ขอบอกเลยพวกนี้มีจริงค่ะ บางคนอาจเป็นเเม่มดกลับชาติมาเกิดเป็นคน

0
picchakorn_preaw 5 ก.ค. 61 เวลา 01:05 น. 18

555 ถ้าเจเค โลว์ลิ่ง เกิดยุคนั้นนะ ได้จบชีวิตคนแรกแน่ ข้อหาเพ้อฝันเกี่ยวกับเรื่องพ่อมด แม่มด

0
picchakorn_preaw 5 ก.ค. 61 เวลา 01:09 น. 19

เห้ยยยย ถ้าใครเกิดยุคนั้นละรู้ตัวว่าเป็นแม่มด มาเลยค่ะ หนีมาที่ Thailand แดนสยามเมืองยิ้ม ทำตัวดีๆ หน่อย รับรองอยู่ฟรีกินฟรีทั้งชาตินะเออ 55555

0
FT115 26 มิ.ย. 62 เวลา 20:00 น. 20

เอ้า แต่เวลาเราอยู่ในน้ำแล้วเราลอยอ่ะ

ไม่ว่าจะพยายามทำให้ตัวจมเท่าไรมันก็ยังลอยเฉยเลย

เหมือนมีอะไรมันดันตัวทำให้ลอยมันสบายมากเลยเหมือนเป็นหนึ่งกับสายน้ำ

แต่พอลุกออกจากน้ำรู้สึกหนักหัว

0