เตรียมอุดมกับม.ปลายธรรมดา ต่างกันยังไง

[บีบีบีบี]

เตรียมอุดมกับม.ปลายธรรมดา ต่างกันยังไงทำไมถึงมีแต่คนอยากเข้า

Comments

[kwan]

เตรียมอุดมกับม.ปลายธรรมดา มันก็ไม่ได้ต่างกันหรอก แต่ถ้าได้เข้าไป จะรุ้จักชีวิตใหม่ที่แปลกใหม่
สังคมใหม่ที่เราจะได้เรียนรุ้ แต่มันก้แล้วแต่คนว่าอยากเข้าไปทำไมอะนะ
ในม.ปลาย ก้มีเตรียมกับมหิดล ที่พ่อแม่ คนทั่วไป อยากให้ลูกๆเข้าไปเรียน คงเป็นเพราะความไว้วางใจและมั่นใจในโรงเรียน

จริงๆโรงเรียนอื่นก็ดีเหมือนกัน สุดท้ายแล้วก็ขึ้นกับตัวเรา

[ยุคของค่านิยม]

ค่านิยมครับ เรียนที่ไหนก็เหมือนกันหมด มันก็ต้องตั้งใจเรียนกันทั้งนั้น
ไม่ใช่ว่าเข้าเตรียมแล้วจะเป็นเทพ ปีกงอกบินได้ เตรียมกับที่อื่นก็เด็กไทยด้วยกันเองทั้งนั้น

ลองนึกเปรียบเทียบกับสินค้าบางยี่ห้อ เอาเด่นๆเลยอย่างเช่น iPhone
ทำไมวัยรุ่นต้อง iPhone ซื้อ smartphoneธรรมดากันไม่เป็นหรอ
ทำไมยก iPhone. ขึ้นแล้วมีแต่คนมองเพราะคำว่า iPhone มันเป็นชื่อ marketing
ก็เหมือนกับชื่อรร.เตรียมไง ทำไมคนถึงอยากเข้า เพราะถ้าสอบเข้าได้ คนรอบข้างนี่เชิดชูเลย พ่อแม่ด้วย
ซะนั้น มันคือค่านิยม มันคือชื่อที่ทำการ marketing. มาอย่างดี

ถึงจะเข้าเตรียมได้ บางคนยังไงก็ต้องเสียเงินลงเรียนพิเศษอยู่ดี
อยู่รร.ธรรมดา บางคนก็ต้องเสียเงินไปกับการเรียนพิเศษอยู่ดี
ซะนั้นอยู่ที่ไหนมันก็เหมือนกัน ยังไงเดี๋ยวก็ไปเจอกันตอนเข้ามหาลัยอยู่ดี
บางคนขวนขวายอยากเข้ารร.ดังก็ปล่อยเขาไป ถือว่าเป็นความอยากของเขา
อยู่อย่างพอดี เป็นตัวของตัวเอง ไม่หลงจามกระแสง่ายเป็นดีที่สุด

[อยากบอก]

โรงเรียนเตรียมฯเดิมชื่อ "โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" มีพระเกี้ยวเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียน ชุดนักเรียนไม่มีปักชื่อตนเองและชื่อโรงเรียน ติดแต่พระเกี้ยวอย่างเดียวเท่านั้น (น่าจะเป็นโรงเรียนเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีการปักอะไรเลยที่เสื้อ) อาจเป็นเพราะอย่างนี้แหล่ะจึงทำให้ใครเห็นความต่างกับโรงเรียนอื่น จึงอยากเข้าเรียน เมื่อมีคนอยากเข้าก็ต้องสอบ คนสมัครมามากก็เลยสอบเข้ายากขึ้น คนที่สอบติดจึงเป็นคนเรียนเก่ง เมื่อมีการสอบแข่งขันกับโรงเรียนอื่น เช่น สอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือสมัยก่อนมีการสอบวัดผลการเรียนโดยสอบพร้อมกันและใช้ข้อสอบเดียวกันกับทุกโรงเรียนทั่วประเทศซึ่งใช้สอบชั้นปีสุดท้ายและเทอมสุดท้าย ผลมักมีชื่อโรงเรียนนี้ติดอันดับ 1ประจำ  ประกอบกับผู้บริหารโรงเรียนรักษาคุณภาพตลอด สมัยก่อนโรงเรียนเตรียมฯมีคู่แข่งแย่งเยอะ เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบคู่แข่งตลอดกาล ยังมี วัดสุทธิ สตรีวิทย์ เทพศิรินทร์ วัดมกุฎ เป็นต้น แต่เนื่องจากว่าโรงเรียนเตรียมฯมีแต่ชั้นมอปลาย ประกอบกับโรงเรียนคู่แข่งซึ่งล้วนมีมอต้น และทุกวันนี้ทางกระทรวงศึกษาบังคับให้โรงเรียนที่มีมอต้นต้องรับนักเรียนในพื้นที่ด้วย ผลทำให้เด็กมอต้นที่เรียนเก่งเหล่านี้มาสอบเข้าโรงเรียนเตรียมฯเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่คนเก่งในเมืองกรุงที่เข้าเรียนที่นี่ แต่มีเด็กเก่งระดับต้นของแต่ละจังหวัดที่ฐานะไม่ลำบากนักก็เข้ามาสอบเรียนที่นี่จำนวนมาก มีบ่อยครั้งที่คนสอบเข้าโรงเรียนเตรียมฯสายวิทย์ได้ที่หนึ่งกลับเป็นเด็กต่างจังหวัด เช่นรุ่น TU73 เป็นคนนครศรีฯ ทุกปีโรงเรียนมีโควต้ารับนักเรียนต่างจังหวัดจำนวนมากโดยไม่ต้องสอบแข่งขันกับคนทั่วไป เช่น สายวิทย์รับ 1000 คน จากสอบแข่ง 750 คน อีก 250 คนรับจากโควต้าหรือความสามารถอื่นๆ ผลงานรุ่นพี่ปีที่แล้ว TU72 สอบติดแพทย์ 508 คน ทันตะ 49 คน นี่คือคำตอบว่าทำไมคนถึงอยากมาเข้าเรียนที่นี่ ส่วนเรื่องด้านสังคม ให้คนอื่นตอบ ขี้เกียจพิมพ์ต่อ

[รักมาแตร์และเตรียมฯ]

มาแตร์ก็ไม่มีปักอะไรที่เสื้อนะคะ แอบเคือง ไม่ใช่แค่เตรียมรร.เดียว แต่ไม่เป็นไรเราเป็นศิษย์เก่าทั้ง2ที่ #md72 #tu62

[เตรียมฯ]

ต่างกันมาก! เลยแหละค่ะ

ในอีกแง่หนึ่งมันฝึกชีวิตเราด้วย
เราเอง เมื่อก่อนทำอะไรไม่เป็นเลย ซ้อนมอไซก็ไม่เป็น นั่งรถเมล์ไม่เป็น นั่งรถไฟฟ้าไม่เป็น เพราะพ่อแม่คอยตามรับส่งตลอดเวลา เหมือนผู้หญิงอ่อนต่อโลกที่งอมืองอเท้าทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง

ตอนนี้เป็นแล้วค่ะ ตั้งแต่ติดเตรียมฯ เราทำเป็นทุกอย่างเลยค่ะ

ถามว่าทำไมคนถึงอยากเข้าเยอะ

เพราะเป็นโรงเรียนเก่าแก่ เชื่อถือได้ มีชื่อเสียงมานาน บุคลากรและสังคมถือว่าใช้ได้

ส่วนหนึ่งมาจากค่านิยมที่คิดว่าโรงเรียนเตรียมฯ ดีที่สุดในประเทศไทย

ถามว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในไทยจริงหรือ เรากล้ารับประกันเลยว่าใช่ค่ะ

แต่ถามว่าเด็กทุกคนในนี้เก่งกว่าเด็กโรงเรียนอื่นหรือ ตรงนี้เราขอบอกเลยว่าไม่มีทาง!

เด็กเก่งๆ มีตั้งเยอะที่ไม่ได้อยู่ในเตรียมฯ

แต่เตรียมฯ มีข้อได้เปรียบกว่าโรงเรียนอื่นตรง ชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ บุคลากร สังคม สถานที่ สภาพแวดล้อม บลาๆ แค่นั้นเอง

ยกตัวอย่างสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ต่าง

1. เตรียมฯ มีสอนวิชา "สารนิเทศ" ซึ่งเป็นวิชาเดียวในประเทศไทย โรงเรียนอื่นไม่มีนะจ้ะ เตรียมฯ เท่านั้นที่มีสอนวิชานี้

2. การเดินทาง เตรียมฯ สอนชีวิต ทำให้วัยรุ่นก้าวสู่วัยผู้ใหญ่อย่างแท้จริงด้วยสภาพแวดล้อมที่บังคับ (ใจกลางเมือง)

และอีกมากมายที่ต่าง

ถ้ามันเหมือนโรงเรียนอื่นๆ จริงล่ะก็ เด็กๆ จะมาสอบเข้าเยอะแยะถึงเพียงนี้เชียวหรือ...

[เจ้าฟอฝ้าย]

คนอยากสอบเข้าเตรียมเยอะ ทำให้ข้อสอบยาก
เมื่อข้อสอบยาก คนที่เข้าไปได้ก็ต้องเก่ง เพราะรับแค่พัน คนสมัครเป็นหมื่น
แล้วเจ้าพันกว่าคนที่ฟ่าฝันเข้ามาได้นี้ก็ต้องพบว่า ข้อสอบเข้ามันแค่น้ำจิ้ม
ที่ยากจริงๆ คือข้อสอบในโรงเรียนต่างหาก แล้วข้อสอบยากๆ นี่แหละที่เคี่ยวเข็ญให้เด็กเตรียมเก่ง
เราอยู่ม.4 แต่หนังสือที่ต้องอ่านสำหรับสอบกลางภาคคือหนังสือ PAT 1 ค่ะ
(ข้อสอบมันจะประมาณนั้น แล้วพอขึ้นม.5 ม.6 มันก็จะยากกว่า)
พอเราเจอข้อสอบยากๆ จนชิน มันเลยทำให้เวลาไปสอบข้อสอบกลาง เลยดูง่ายขึ้น
(แต่ก็ไม่ใช่ว่าเด็กเตรียมเก่งทุกคนนะคะ เพียงแต่คนเก่งๆ มีเยอะเท่านั้นเอง)
เผื่อใครต้องการหลักฐาน นี่คือห้องคิงเตรียมค่ะ


ว่ากันว่า ...
เด็กเตรียมฯ สายวิทย์ ส่วนใหญ่ต้องการเรียนแพทย์เน้นที่ จุฬาฯ ก่อน
แล้วค่อยไปที่ ศิริราช และที่ รามาฯ จะเป็นอันดับ 3
แต่ถ้าพลาดไปก็จะไปติดที่ คณะเภสัช
พวกที่ไม่อยากเรียนแพทย์ ก็จะไปสอบเข้าวิศวะ เน้น จุฬาฯ
จะมีเพียงส่วนน้อยที่หันไปเรียนบัญชี เศรษฐศาสตร์
และบางส่วนจะได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ 

ที่เอามาให้ดูไม่ใช่เห็นว่านักเรียน ร.ร.เตรียมอุดมศึกษานั้นเลอเลิศเหนือใคร
แต่ต้องยอมรับว่าเก่งจริง ๆ  น.ร. ห้องคิง 50 คน ติดแพทย์ 48 คน ติดทันตะ 1 คน วิศวะ 1 คน

(ความรู้เพิ่มเติม โรงเรียนที่ออกข้อสอบยากประมาณเตรียมมีประมาณ 7 โรงเรียนในกทม.ค่ะ
ซึ่งหมายความว่าจริงๆ แล้วยังมีโรงเรียนคุณภาพอื่นๆ อีกมากมายนั่นเอง)

จบเรื่องการเคี่ยวกรำของข้อสอบเตรียม (ที่แม้จะโหดร้าย แต่ก็เป็นประโยชน์ตอนเข้ามหาลัยมาก
แต่ถ้าใครเข้ามาเรียนแล้วขี้เกียจก็ไม่มีการพัฒนาอะไรหรอกค่ะ)
การเรียนที่นี่สนุกค่ะ เพราะมีอะไรแปลกๆ ให้เรียนเยอะ วิชาสารสนเทศเงี้ย เรียนหุ่นยนต์เงี้ย
เรียนเขียนโปรแกรม บัญชี มันแปลกใหม่ดีค่ะ แถมกิจกรรมในโรงเีรียนนี้เยอะมาก
เราว่าจริงๆ แล้วกิจกรรมที่นี่มันเด่นกว่าเรื่องเรียนอีกนะ -*- เยอะแยะมหาศาลค่ะ
สายสัมพันธ์รุ่นพีุ่รุ่นน้องก็แน่นแฟ้นกันดี เป็นโรงเรียนในประเทศไทยมั้งที่มีรับน้องอ่ะ
แถมมันตั้งอยู่ในกลางเมือง อะไรๆ ก็สะดวกค่ะ หาทางกลับบ้านง่าย
ที่เราเซ็งอย่างเดียวของโีรงเรียนเตรียมคือ ความรู้ที่สอนในห้องบางทีมันไม่พอต่อการสอบอ่ะ T^T
ดังนั้นเราเลยเหมือนได้ฝึกสกิลการ self-study ของตัวเอง อ่านหนังสือหัวแบะเลย ฮือๆๆ
(หรือบางคนก็ใช้วิธีเรียนพิเศษเอา) แล้วก็ ความคิดของอาจารย์เตรียมจะค่อนข้างอนุรักษ์นิดนึง
อาจารย์ส่วนใหญ่เค้าจะมาแนวขี้บ่นขี้ใจน้อยอ่ะ 555

[หญิง]

รร เราก็มีรับน้องนะคะ แต่มีแค่รับน้องของรร และของห้อง เช่น พี่5/5 รับน้อง4/5 แต่จะมีรับน้องสายด้วยในกรณีที่ทั้งห้องพี่-ห้องน้องมีสองสายการเรียนในห้องเดียว อย่างของเราปีที่แล้ว เราอยู่ม.5 ห้อง20(ภาษาญี่ปุ่น-ฝรั่งเศส) เราจะไม่มีพี่สาย เพราะรุ่นนั้นฝรั่งเศสยังอยู่ห้องเดียวกันกับจีน แต่พี่ห้องของเราคือม.6 ห้อง20 (ญี่ปุ่น) และน้องห้องของเรา ค่อม.4 ห้อง17 (ภาษาญี่ปุ่น-ฝรั่งเศส) โดยเราจะเป็นทั้งพี่ห้องและพี่สายของเด็กฝรั่งเศสม.4 นั่นเอง

[หญิง]

หมายถึงไม่มีการเล่นพี่สายฝรั่งเศสระหว่างม.6กับม.5 รุ่นเรา แต่ถึงกระนั้นเราพี่น้องศิลป์ฝรั่งเศสก็รู้จักและคุยกันได้แทบทุกเรื่องค่ะ