ม.4 วิทย์คณิต - ศิลป์คำนวณ - ศิลป์ภาษา เเตกต่างกันมากเเค่ไหน ?
[จขกท.กำลังจะเลือกเข้าเรียนต่อ ม.4 ค่ะ]
เลยอยากทราบถึงความเเตกต่างว่าการเรียนในสาย วิทย์-คณิต , ศิลป์-คำนวณ เเละศิลป์-ภาษา มีความเเตกต่างกันมากเเค่ไหน ความยากง่ายในการเรียน เเละหนทางในการประกอบอาชีพในภายภาคหน้าค่ะ
โดยส่วนตัว จขกท. อยากเรียนสายศิลป์คำนวณ เพราะถนัดในวิชาภาษาอังกฤษ เเต่ค่อนข้างจะอ่อนทางด้านคณิตศาสตร์(คิดว่าหากได้เรียนคงจะพอไปได้บ้าง) ซึ่งถ้าให้ไปในสายวิทย์ก็คงจะไม่ไหว เเม้เกรดวิทย์อยู่ในเกณฑ์ดี (เเต่วิทย์คณิตต้องเรียนทั้ง ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เเค่นึกก็กลัวเกรดหล่นวูบเเล้ว TT) ส่วนศิลป์ภาษาก็ดูเหมือนจะมีคนชอบพูดว่าเลือกเข้าคณะได้น้อยเลยยิ่งทำให้เราไขว้เขวเอามากๆ จึงทำให้ตัดสินใจเลือกสายศิลป์คำนวณไปเลย
เลยอยากจะทราบว่าเเต่ละสายการเรียนเป็นอย่างไรบ้าง เพราะไม่ค่อยอยากจะเชื่อหูคนที่ไม่รู้เเล้วเอามาพูดให้เราไขว้เขว เเละก็อยากเอาไว้ประกอบการตัดสินใจจ้า
[ขอบคุณล่วงหน้านะคะ พูดซะยาวเลย >< ]
PS. มองโลกในเเง่ดี มีความฝัน เเละปั้นให้เป็นจริง
7 ความคิดเห็น
สายวิทย์-คณิต: เรียนยากแต่สามารถเลือกคณะเข้ามหาลัยได้ทุกคณะ
สายศิลป์-คำนวณ: เรียนปานกลางสำหรับคนที่ถนัดทั้งสองอย่าง เข้าได้บางคณะ
สายศิลป์-ภาษา: สำหรับคนที่ชอบภาษาจริงๆถึงจะไปรอด เข้าได้บางคณะ
แต่สำหรับเรา เราคิดว่าถ้าไม่วิทย์คณิตก็ศิลป์ภาษาไปเลย ไม่ต้องมาก้ำกึ่งเรียนแบบศิลป์คำนวณ มันเป็นตัวเลือกสุดท้ายสำหรับเราเลยล่ะ
ส่วนวิทย์คณิต ไม่เอาแน่ๆเพราะหัวไม่ไปทางนั้นเลยสักนิด เราเลยเลือกที่จะเรียนศิลป์ภาษา
เราคิดว่าถ้าไม่ได้อยากเป็นหมอวิศวะอะไรพวกนี้่อย่าไปเรียนเลย เพราะถ้าเราไม่ชอบจริงๆไม่เข้าใจจริงๆมันจะทำให้เราไม่อยากเรียน แต่ถ้าเราเลือกเรียนที่เราชอบมันจะทำให้เราอยากเรียน
ตอนนี้เราก็เครียดเรื่องสอบอยู่ จะสอบห้องgiftedก็คือศิลป์ภาษาอ่ะ ปวดหัวมาก กลัวสอบไม่ได้ -_-
ถ้าให้พี่แนะนำ(พี่แนะนำน้องแบบนี้เกือบทุกคน)ถ้าน้องไม่ได้อยากเป็นนักบัญชีกับนักเศรษฐศาสร์ตัดศิลป์คำนวณออกไปเถอะคะ
โอเคมันเรียนง่ายกว่าสายวิทย์
แ่ต่ถามหน่อย จะมาสอบแอดมินชั่นคณะอะไร(ถ้านอกจาก2คณะบน) นิติศาสตร์เหรอ รัฐศาสตร์เหรอ เฮอะๆ มันก็ถูกคะที่ "มีสิทธิ์สอบ" แต่โอกาสในการสอบติดนั้นมันน้อยเพราะส่วนใหญ่พวกเด็กวิทย์หัวใจศิลป์จะคว้าไปกินมากกว่า(เพราะศิลป์คำนวณกับวิทย์ ถ้าจะยื่นคณะศิลป์ใช้แบบเดียวกันเลย ซึ่งศิลป์คำนวณก็จะมาบ่นทีหลังว่าพวกเด็กวิทย์แมร่งแย่งที่) เพราะงั้นถ้าน้องไม่อยากเสียใจอันดับแรกถ้าน้องไม่ได้อยากเรียนเกี่ยวกับด้านที่พี่บอก(หรือสาขาใกล้เคียง)ก็ทิ้งตัวเลือกศิลป์คำนวณไปเต๊อะ เรียนไปเปล่าๆมาก
ต่อไปมาที่วิทย์ สำหรับน้องที่ทางบ้านไซโคแล้วเราก็ไม่ได้เกลียดอะไรกับวิชาวิทย์ อยากเรียนก็เรียนไปเถอะจ้า เพราะเราจะสบายมากกกกเวลาสอบO-net(ยกเว้นอังกฤษกับเคมี เชื่อว่าทุกศิลป์ก็นอนตายเหมือนกัน) ความรู้ในการใช้ชีวิตประจำวันเราก็จะแน่นขึ้น เรียนที่มาที่ไปทุกอย่างเลยจริงๆเกี่ยวกับวิทย์ แต่ถ้าน้องไม่ชอบ ...
นรกมีจริง...
เพราะมันยากมว๊ากกกก!! คนเก่งก็เยอะ โคตรกดดันเลยล่ะคะน้องเอ๋ย T^T พี่รึก็เรียนเพราะที่บ้านไซโคจนต้องมานั่งแกร่วแบบเนี้ยอ่ะ
แถมใครไม่เรียนพิเศษนะ แทบจะดับอนาถ(สำหรับข้อสอบบางโรงเรียนออกยากเกินคำบรรยาย) เพราะงั้นช่วงเวลาปิดเทอมของหนู หนูจะได้ใช้เวลาอยู่กับซอยเรียนพิเศษเกือบทั้งวัน ไม่เหมือนพวกศิลป์คะ เพราะศิลป์เรียนแค่อังกฤษ สังคม ภาษาไทย คณิตเพิ่ม คณิตพื้น เฮอะๆๆ อย่าคิดว่าศิลป์เรียนอย่างเดียว วิทย์ก็เรียน เอาของที่ศิลป์เรียนทั้งหมด+ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ความถนัดแพทย์ ความถนัดวิศวะ(2อย่างหลังนี่แล้วแต่คน) โคตรจะเยอะอ่ะคะน้องเอ๋ย (แต่ไม่ต้องเรียนหมดก็ได้นะ ถ้าวิชาไหนอ่านเองได้ อย่างพี่ก็ตะลุยสังคมกับภาษาไทยเองอ่ะ) เวลาปิดเทอมหายไปจริงๆ
น้องอย่าคิดว่าตัวเองเก่งอังกฤษแล้วต้องอยู่ศิลป์คำนวณคะ เพราะทุกสายต้องแม่นอังกฤษหมด จริงอยู่ที่ว่าสายวิทย์มักไม่ได้เรียนอังกฤษเสริมเหมือนสายอื่น แต่โดยรวมออกมาสายวิทย์มักจะกวาดคะแนนอังกฤษมากกว่าสายศิลป์ซะอีก เพราะการแข่งขันสายวิทย์มันสูงมาก ดังนั้นคนจึงต้องพยายามแก่งแย่งกันเพื่อให้ได้คะแนนมากกว่าสายศิลป์ที่บางทีเพื่อนก็อ่อนด้อย เราก็ปานกลางกลายเป็นว่าเรามองว่าเราเก่งซะงั้น ที่จริงถ้ามาเทียบสายวิทย์นี่ ห่างชั้นกันก็หลายคนคะ
อังกฤษพัฒนาได้เสมอ ขึ้นอยู่กับตัวเราไม่ใช่วิชาเสริมคะ ต้องหมั่นทำโจทย์ ส่วนใหญ่พวกเด็กศิลป์จะแพ้วิทย์ตรงที่เขาขยันทำโจทย์ท่องศัพท์อ่านแกรมม่ามากกว่าสายศิลป์เนี่ยแหล่ะ
ต่อไป ศิลป์ภาษา ถ้าน้องไม่ได้มีใจรักในวิทย์เลยตั้งแต่แรก และไม่ได้อยากเป็นนักบัญชี เศรษฐศาสตร์ (หรือสาขาอะไรก็แล้วแต่ที่ใกล้เคียง) ก็มามองศิลป์ภาษาก็ได้คะ อย่ามองว่า จบมาแล้วแล้วตูจะแอ๊ดเขาคณะไรล่ะเนี่ย อังษรเหรอ...
ไม่ใช่คะ!
ศิลป์ภาษาจัดเป็นอีกศิลป์หนึ่งที่น่าสนใจ (ถ้าน้องเลือกภาษาที่เหมาะกับความสามารถและความชอบของตนเองน้องจะรุ่งมาก) เพราะศิลป์ภาษาสามารถยื่นเข้าคณะได้หมดทุกคณะแหล่ะคะ (อาจจะยกเว้นวิทย์บางสาขาที่รับเด็กเรียนสายวิทย์ หรือสอบวิทย์เข้ามาเท่านั้น) โดยการยื่นคณะศิลป์ต่างๆจะใช้คะแนนภาษาที่ตัวเองเรียนในศิลป์นั้นมายื่น!! เพราะงั้นคนที่น้องแข่งจะไม่ใช่ เด็กวิทย์ระดับเทพที่อยากเบนเข็ม หรือเด็กศิลป์โคตรฟิต แต่เป็นเพื่อนๆเราด้วยกันเองเนี่ยแหล่ะคะ อัตราการแข่งขันมันจะน้อยลงมาเย๊อะ~!! และที่สำคัญสามารถเข้าคณะด้านภาษานั้นๆโดยตรง(ตามศิลป์ที่น้องๆต้องการต่อยอด) หรือด้านภาษาอังกฤษก็ได้(แต่ยากหน่อยนะ เพราะเด็กวิทย์-ศิลป์คำนวณก็จะเข้ามาแจมด้วย) หรือจะเบนไปทาง ท่องเที่ยว นิติ ปรัชญา จิตวิทยา รัฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ... คณะศิลป์ทั้งหลายรวมทั้งด้านภาษาที่น้องเรียนล้วนสามารถใช้คะแนนภาษายื่นได้ทั้งนั้น
หลังจากหมดปัญหาเรื่องแอด (ที่คุณผู้ปกครองที่เคารพรักทั้งหลายมักเอามาเป็นเหตุผลค้านไม่ให้เรียน) ก็มาที่เรื่องเรียน
พี่จะบอกว่าด้านภาษามันไม่ได้อาศัยความเก่ง มันอาศัยเจอจนชิน หรือบางทีอาจต้องพึ่งความชอบและความขยันด้วย เพราะงั้นถ้าน้องจะลงเพราะน้องไม่มีที่จะไปพี่แนะนำว่าอย่าดีกว่าคะ พี่ขอให้น้องเลือกด้วยว่าน้องชอบจริง และอยากเรียนด้านภาษานั้นๆจริงๆ น้องจะเรียนแล้วมีความสุขมากๆ เพราะงั้นมันไม่ได้มีแบบที่ว่า คนนั้นหัวดี คนนั้นท่องเก่ง คนนี้.. ไม่มีคะ ส่วนใหญ่อาศัยความชอบและความขยัน ไม่มีหัวดงหัวดีอะไรเลยคะ อาจต้องอาศัยประสบการณ์ด้วยซ้ำ
เกรดก็ได้ง่ายกว่าสายวิทย์(ที่มีตัวฉุดเกรดเยอะโคตะระเลย)
พี่เป็นเด็กวิทย์พี่ยังแนะนำน้องที่ไม่ได้อยากเรียนวิทย์ให้มาทางด้านภาษาแทนเลย (เพราะพี่ก็ว่าจะเบนเข็มไปทางด้านอักษร ด้านเอกภาษาเหมือนกันTAT)
ขอให้น้องคิดให้ดีนะคะ เพราะพี่พลาดมาแล้ว มันต้องเหนื่อยกว่าคนอื่นหลายเท่าตัวเลย T^T
PS. ความฝันกับความเป็นจริง มันไกลกันมากจนไม่อาจเชื่อมถึงกันได้
ลักษณะการเรียน
สายวิทย์
เรียนคณิต 5-6 คาบ วิทย์พื้นฐาน 2 คาบ ฟิสิกส์/เคมี/ชีววิทยา อีกประมาณ 10 คาบ อังกฤษ 3-5 คาบ
ศิลป์คำนวณ เรียนคณิตเหมือนสายวิทย์ อังกฤษประมาณ 8 คาบ แล้วก็มีภาษาไทย สังคมเพิ่มเติม และอาจมีภาษาที่สามเพิ่มอีก 1 ภาษา แต่ไม่หนักเท่าศิลป์ภาษา
ศิลป์ภาษา
เรียนคณิตพื้นฐาน 2-3 คาบ อังกฤษเท่าศิลป์คำนวณ ภาษาที่ 3 อีก 6-8 คาบแล้วแต่หลักสูตรของแต่ละโรงเรียน และอาจมีเรียนศิลปกรรมเพิ่มเติม
แนวทางการศึกษาต่อ
สายวิทย์ ได้หมดทุกสาขา เพราะสาขาวิชาของสายศิลป์เช่นอักษร ศิลปศาสตร์ ก็สามารถเลือกสอบเข้าแบบยื่นคณิตได้
ศิลป์คำนวณ/ศิลป์ภาษา ก็สามารถสอบเข้าได้หลายสาขายกเว้นสาขาที่ระบุมาว่าต้องจบสายวิทย์มา
ตอบ จขกท
ถ้าน้องชอบภาษาอังกฤษ แล้วอ่อนคำนวณ พี่แนะนำว่าเรียนศิลป์ภาษาดีกว่าครับ เพราะน้องจะได้เรียนในสิ่งที่น้องชอบ และจะมีความสุขมากกว่า เพราะเลข ม.ปลายก็ยากอยู่ครับ อาจจะเป็นวิชาฉุดเกรดได้เลยนะ และเอาจริงๆถ้าน้องชอบภาษามากกว่าวิทย์ ตอนเอนท์ก็คงไม่มีอะไรมานิมิตให้น้องอยากสอบเข้าแพทย์หรือวิศวหรอก จริงมั้ย เลือกที่ชอบดีกว่า เพราะคนที่มาค้านไม่ได้มาเรียนกับเรา จะส่งเสียเราเรียนรึก็เปล่า ไม่ต้องสนใจครับ เชียร์ศิลป์ภาษาครับ
ถ้าไม่ถนัด คณิตศาสตร์ หรือ คำนวณ แนะนำ สายสามัญ ศิลป์ภาษา สายอาชีพ สาขาภาษาต่างประเทศ ภาษาใช้ในการเรียนต่อ และ การทำงน และ ต้อนรับ AEC น้อง ชอบ ภาษา มากว่า เลือก เรียนในสิ่งที่ใช่ ทำใน สิ่งที่ชอบ  สู้  ๆ  นะครับ
เราเหมือนจขกทเด๊ะเลย ก็คือกลัวเรียนวิทย์เเล้วฉุดเกรด ก็เลยว่าจะเลือกศิลป์คำนวณแค่พอฟังพี่ๆบอกแล้ว ลังเลมากเลยทำไงดีTT คืออยากเข้าอักษรแต่คณะนี้ใช้คะแนนคณิตสูงด้วยเรียนศิลป์ภาษาไปจะไปสู้กับเค้าได้มั้ยน้ออ เครียดจังงง
เป็นเหมือนกันเลยคับ ตอนเเรกจะเข้า [ศิลป์ภาษา] แต่ก็จะมีคณะเลือกน้อยรึป่าวก็ไม่รู้ เเร้วเข้ามหาลัยก็ไม่รู้จะมีคณะอะไรเลือกได้บ้าง แต่ [ศิลป์คำนวณ] อ่ะ ผมอยากเรียนอยู่เเต่หัวไม่ไปเหมือนกับ
จขกท เลย เก่งภาษากับศิลป์ แร้วจะเข้ามหาลัยไหนอะคับ เรียนคณะอะไร คิดไว้ก่อนอ่ะคับ
ผมอยากเรียน [คณะมัณฑนศิลป์] ออกเเบบภายในอ่ะ คณะนี้ต้องสาย[ศิลป์คำนวณ] เเต่ที่ว่ามาอ่ะนะหัวไม่ไปทางคณิต เลยอยากรู้ว่า [ศิลป์ภาษา]น่ะ  คณะมัณฑนศิลป์ เข้ายากมัยอ่ะ
เอ่อขอเฟส จขกท ได้ป่ะมีอะไรจะถามเยอะอ่ะ
ถ้าให้เราเลือก เอาศิลป์ภาษาดีกว่า เพราะสำหรับเราถนัด ภาษาแต่อ่อน คณิตมากๆ ส่วนสายวิทย์-คณิตเราตัดออกเลยเราไม่ชอบถ้าเรียนไปอาจจะฉุดเกรดให้ตกเลย >< ศิลป์ภาษาไม่ใช่ว่าจะไม่ดีนะ เราสามารถรู้ภาษาอื่นๆได้ และถ้าเก่งๆ เกรดดีๆ อาจจะได้ทุนไปเรียนที่ต่างประเทศเลยนะ ^^ ส่วนศิลป์คำนวน มันจะสำหรับคนที่ชอบคณิตและปนภาษาอะ ให้ชอบคณิต ชอบคิดก็เรียนสายนี้ไปก็ได้ถ้าเห็นว่าเรียนสาย วิทย์-คณิต แล้วมันยากไปก็ยังมี ศิลป์คำนวนเป็นตัวเลือกอยู่นะ แต่เราเราจะเรียนศิลป์ภาษาแน่นอนเพราะส่วนตัวชอบภาษา -..-
อยากเรียนเกี่ยวกับชีววิทยาแต่ไม่ชอบคณิตเรียนสายไหนดีอ่ะค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?