ฝันหมอสลาย สอบไม่ติดกสพท. เรามีทางแก้
ตั้งกระทู้ใหม่
ในที่สุด คะแนน7วิชาสามัญที่รอคอยก็ประกาศออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินของเพื่อนๆที่สอบไม่ติด เราก็เปนคนหนึ่งที่ชวด(เลข เคมี ==) เราว่าสอบของ สทศ ก็ไช่ว่าจะเป็นธรรมหากว่าจะเอามาวัดคนสอบหมอนะ ทางคณะกรรมการควรจะรู้ได้แล้วว่า ระบบ'เซ็ต' (เลข) เขาเลิกใช้ไปตั้งกะมะโว้นู่นน แล้ววว จะเอามาสอบทำ.....อะไร
สำหรับคนที่ชวดแต่ยังอยากเปนหมอนะครับ เรามีทางเลือกดีๆมาเสนอ คือการเรียนหมอต่างประเทศนั่นเองง
ระบบของการเรียนหมอในต่างประเทศสำหรับนักเรียนที่ไม่ไช่สัญชาติเขามีอยู่3ขั้นครับ
1. Foundation เรียนปรับพื้นฐานครับ ประมาน 8เดือน เนื้อหาเหมือน ม.ปลายบ้านเรา ถ้าหากว่าเรียนจบออกมามีคะแนนตามเกณฑ์ที่มหาลัยกำหนด ก้ไปขั้นที่2 ต่อได้เยยย
2. Bachelor of science(undergraduate) เนื่องจากประเทศที่มีหมอระดับป.ตรี นอกจากไทยแล้วก้แทบจะนับหัวได้เลย ส่วนใหญ่ก้เปน ป.โท หมดละ ผมจึงแนะนำให้เข้าคณะที่เกี่ยวกับหมอเช่น ชีวการแพทย์(biomedical science), เทคนิคการแพทย์(medical science), หรือ เภสัช(pharmacy) ระยะเวลาคือ 3ปี เพราะฉะนั้น เราจะได้ ป. ตรี ในเวลา4 ปีเหมือนของไทยเป๊ะ
หากว่าเรียนจนหนำใจแล้วคิดว่าแพทย์อาจจะไม่ไช่ทางของเรา คณะเหล่านี้ก้มีเส้นทางอื่นๆให้เลือกมากมาย แต่หากว่ายังคงยืนยันว่า หมอ แน่นอนก้สมัครไปขั้นที่3กันเลยย
3. Doctor of medicine and surgery แพทย์เมืองนอกเขาเปนหลักสูตร 3 ปี ได้ทั้งหมอสามัญและหมอศัลย์ควบกันเลย การเข้าก้แค่ยื่นคะแนน ไม่ต้องผ่าน สทศ หรือองค์กรชุดดำอะไรให้ยุ่งยาก
รวมเฉลี่ยทั้งหมดแล้วก้ 7 ปี นานกว่าหมอไทยแค่ปีเดึยว แถมหากว่าจะต้องซิ่วปีนี้เพราะไม่ติดหมอแล้วด้วย สู้ไปตามทางนี้จะเปนการเอาเวลาชีวิตที่แสนสั้นของเรามาใช้ให้เปนประโยชน์มากกว่าการนั่งเกาพุงรอสอบปีหน้าเปนไหนๆ
หากเพื่อนๆกำลังกังวลว่าจะเข้าได้ไหมหากว่าฟุดฟิตอังกิดไม่เก่ง ไม่ต้องห่วงครับ การเรียนปรับพื้นฐานจะสอนอังกฤษให้เราตลอดจนวิชาที่จำเปน ขอแค่พอฟุดฟิตให้เข้าไปได้ก่อนแค่นั้นพอ
ส่วนปัญหาหลักก็คงรู้ๆกันอยู่ $$$ เงินนั่นเอง เพราะไปเรียนนอก7ปีคงแพงมิไช่น้อย แต่หากว่าเพื่อนๆพอมีเงินอยู่ ผมแนะนำให้ลุยเลยครับ มันคุ้มค่าแน่นอน(หากเรียนจบอ่านะ) เพราะว่าหมอในอนาคตจะขาดแคลนแล้วยิ่งเป็นหมอที่ฟุดฟิดอังกฤษได้เนี่ย ไม่ว่าจะทำงานใน ปิยราชมหาการุณย์ บำรุงราษฏร หรือแม้กระทั่งในต่างประเทศ(จะเข้าเปนหมอกลุ่มอาเซียนก้ได้นะ) โอกาสในการงานมันสูงกว่า เงินเดือนดีกว่า แถมยังไม่มีข้อผูกมัดแบบหมอไทยอีกด้วย ใครที่มุ่งมั่นจะเปนหมอจริงๆไม่ควรพลาดครับ
10 ความคิดเห็น
อ่านแล้วสงสัยอ่าค่ะ
ถ้าหากจบ ชีวการแพทย์(biomedical science), เทคนิคการแพทย์(medical science), หรือ เภสัช(pharmacy) อยู่ไทยจะไปต่อหมอที่นู่นได้ไหมอ่า
ต้องไปดูด้วยนะว่า คณะแพทยศาสตร์ ต่างประเทศที่จะไปเรียนนั้น ทางแพทยสภาไทยรองรับหรือเปล่า เพราะมันจะไปเกี่ยวเนื่องตอนสอบใบประกอบวิชาชีพในไทยอ่ะ
ขั้นตอนที่ 1 สอบ basic science (ที่เรียนมา ชั้น pre clinic ทั้งหมด) จะสอบหลังจบ ปี 3
ขั้นตอนที่ 2 สอบ ชั้น Clinic สอบหลังจบปี 5
ขั้นตอนที่ 3 สอบ หลังจบปี 6
จขกท. จะขอตอบข้อข้องใจเองจร้าาา
คห1) หาก รปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้องอยู่แล้วในไทยก้ไปสมัครหมอ ป โท ต่างประเทศได้เลยจ้าา แต่อาจจะมีการสอบหรือสัมภาษณ์เพิ่มเติมนะ แล้วแต่มหาลัย ขั้นตอนก้เหมือนจบเศรษฐศาสตร์ไทยแล้วไปต่อบัญชีหรือบริหารเมืองนอกแบบนั้นแหละ
คห2) ใบประกอบโรคศิลป์ไม่ไช่ปัญหาเลยจ้าา เพราะทั้งโลกเขามีใบประกอบวิชาชีพสากลอยู่ที่จะเอามาใช้ที่ไหนก้ได้ เจ๋งกว่าใบประกอบโรคศิลป์ไทยเยอะ แถมหากไทยเข้าอาเซียน แนวโน้มที่ไทยจะต้องหันมาใช้ใงประกอบวิชาชีพแพทย์สากลนั้นมีสูงมาก คนที่จะลำบากจริงๆน่าจะเปนคนที่เรียนหมอไทยมากกว่านะ
(ปล. หมอใน รพ ดังๆบางคนไม่มีใบประกอบโรคศิลป์เสียด้วยซ้ำ มีแต่ใบสากล บาง รพ พวกบำรุงราษฏร เขารับแต่ใบสากลด้วยนะ ถ้าจำไม่ผิด)
ขนาดของอเมริกาเอง เค้ายังต้องสอบ USMLE เลยครับ ต้องผ่านก่อนถึงจะมีสิทธิเข้าทำงานในประเทศเค้า
ตอนนี้นะ ค่อนข้างแน่ใจว่า แพทย์ที่จะทำงานในไทยต้องสอบใบประกอบวิชาชีพของไทยผ่าน
ลองเข้าไปอ่านนะ http://www.baanjomyut.com/library/law/172.html พรบ. วิชาชีพเวชกรรม
มาตรา 4 เขียนว่า
มาตรา 43 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 26 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอนนี้ของไทยนะ เห็นมีแค่เปลี่ยนกฎเกณฑ์ใช้ข้อสอบใบประกอบวิชาชีพเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเริ่มใช้ปีนี้ปีแรกและอีกสองปีข้างหน้าจะปรับเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
ไม่งั้นแพทยสภาจะปรับให้ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษทำไม ถ้าใบสากลอะไรนั้นมันใช้ได้จริง
ที่ปรับเป็นภาษาอังกฤษเนี่ยก็จะรองรับ AEC เพราะแพทย์เป็นหนึ่งในอาชีพที่จะมีการเคลื่อนย้ายได้
ครับ!
แต่จะว่าไปจิงๆนะ การสอบเข้ามาคณะแพทยศาสตร์เนี่ยเป็นการสอบที่เบาที่สุดในชีวิตแพทย์แล้วล่ะ
แพทย์ประเทศไทยแม้จะดูไม่เท่าแพทย์ของประเทศพัฒนาแล้ว แต่ก็ไม่ใช่สอบเข้าง่ายๆนะ ถูกมั้ย????
ก็ตั้งใจและพยายามกันหน่อยละ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2556 / 00:10
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2556 / 00:21
ใบประกอบ สากล  สามรถใช้ได้ทั่วโลกครับ คือประมาณ U- smle นั้นเเหละมันสามารถใช้ได้ทั่วโลกจริง
เเต่โรงพยาบาลในไทยนะครับเค้าก็ไม่ใช่จะรับเเต่ใบประกอบสากลนะครับ  จหกท ลองคิดดู ว่าเค้าจะรับทำไมในเมื่อ คนไทยพูดภาษาไทย ไม่ใช่อังกฤษนะครับ จริงอยู่ว่าโรงพยาบาลที่จหกท กล่าวมา ค่ารักษาเเพงเเละเป็นอินเตอร์ เเต่หมอในประเทศไทยก็ไม่ใช่ว่าจะโง่อังกฤษนะครับ ส่วนใหญ่ขึ้นปีสูงๆก็อ่าน text เป็นอังกฤษหมดอยู่เเล้ว ดังนั้น การที่เค้าจะรับใบสากล เท่ากับรับต่างชาติถูกไหม มีคนไทยสักกี่คนที่จะจบ เเถมโรคที่เรียนจากต่างประเทศ กับโรคที่ไทยก็เเตกต่างกันอีก ยกเว้น สาขาเฉพาะทางนะครับ เเล้วไม่จริงเลยที่โรงพยาบาล ที่ จหกท กล่าวมาจะรับเเต่สากล เพราะในนั้นเเพทย์ รามา ศิริราช  เยอะมากครับเกือบ 80 % เลย
กระทู้นี้ให้ข้อมูลที่ผิดพลาดมากๆ น้องๆที่มาอ่านคงต้องตรวจสอบมากๆ...ส่วนตัวไม่สนับสนุนการเรียนแพทย์เมืองนอกครับหากคิดทำงานในไทย โอกาสเสียเวลาและเสียเงินเปล่ากว่า 10  ปีสูงมาก..
สำหรับบาง รพ เอกชนเช่น บำรุงราษฎร์ จะจ้างแพทย์จบตปทนี้
มาทำงานประสานงานกับคนไข้ต่างชาติ แต่ออกตรวจไม่ได้ ที่เราเห็นบางครั้งเดินไปเดินมาใส่เสื้อกาวน์นั่น เอาไว้ให้ดูเรียบร้อยเท่านั้น
จะเรียนอะไรคิดยาวๆถึงเรื่องการทำงานด้วยว่าจะทำได้ไหม ไม่ใช่ว่าไปเรียนแล้วทำงานได้เลย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?