สังคมไทยกับยาเสพติด
สังคมไทยกับยาเสพติด
ยาเสพติดในสังคมไทยมีมาตั้งแต่ช้านาน ปัจจุบันปัญหายาเสพติดก็กำลังแพร่ระบาดและขยายไปทั่วประเทศมากขึ้น และก่อให้เกิดปัญหาสังคมขึ้นมามากมาย ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ บั่นทอนความเจริญของประเทศชาติ การที่เราให้ความสนใจในเรื่องความเป็นมาของยาเสพติดนั้นเป็นสิ่งที่ดีเพราะถ้าเรามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากเราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแก้ ปัญหาได้ แม้จะช่วยไม่ได้มากก็ตาม
โดยส่วนมากผู้ติดยามักเริ่มจากด้วยความอยากรู้ความอยากลอง และความคึกคะนองเป็นส่วนใหญ่อีกทั้งสภาพแวดล้อม สังคม และค่านิยมในกลุ่มเป็นแรงผลักดันอีกชั้นหนึ่งประกอบกับหาซื้อได้ง่าย ทำให้จำนวนผู้ติดยาเพิ่มมากขึ้นถึงแม้จะถูกบรรจุลงในวาระแห่งชาติก็ตาม แต่ก็ยังมีข่าวออกมาให้เห็นกันอยู่ตามหน้าหนังสือตลอด ซึ่งล้วนก่อความเสียหายให้กับประเทศชาติทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการปล้นชิงหรืออาชญากรรม ล้วนนำมาซึ่งความสูญเสีย กลุ่มเยาวชนจะติดยาเสพติดมากกว่ากลุ่มคนกลุ่มอื่น และที่น่าเป็นห่วงมากก็คือมันกำลังแพร่ระบาดสู่เด็กนักเรียนช่วงวัย9ขวบ และ10ขวบ สาเหตุอาจเป็นเพราะเกิดจากถูกเพื่อนชักจูงให้ลองเสพ อยากรู้ อยากลอง ถูกล่อลวง และสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งคือการขาดความอบอุ่นในครอบครัว พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ปัญหาพ่อแม่หย่าร้างกัน ผู้ใหญ่ไม่ได้สนใจดูแลหรือเป็นที่พึ่งของเด็กได้ เด็กเกิดความว้าเหว่ไม่รู้จะปรึกษาใคร เลยหันไปหายาเสพติด หรือเป็นเป้าล่อให้กับผู้ไม่ปรารถนาดีอย่างพอดี
ปัจจุบันยาเสพติดได้มีการเปลี่ยนรูปแบบในการแพร่ขยายไปมากจากเดิมเคยพบเป็นเฮโรอีนซึ่งเราก็ได้ยินกันบ่อยๆ ก็กลายเป็นยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี ที่เราได้ยินข่าวแทบจะทุกวัน ตัวยาพวกนี้ออกฤทธิ์ต่อสมองโดยเข้าไปปรับหรือเปลี่ยนแปลงสารเคมีบางตัว ทำให้มีฤทธิ์ที่ทำให้ผู้เสพรู้สึกคึกคัก มีพลัง หรือรู้สึกเพลิดเพลินค่อนข้างมาก หลายคนชอบใจติดใจในความสนุกสนานที่ได้รับจากฤทธิ์ของยา กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายเสียแล้ว
วิธีการป้องกันและการแก้ไขปัญหายาเสพติด
เริ่มจากตนเอง ไม่ทดลองเสพยาเสพติดทุกชนิด ถ้ามีปัญหาหรือไม่สบายใจ อย่าเก็บไว้คนเดียว ไม่หาทางออกในทางทิ่ผิดหรือเป็นโทษ ควรปรึกษาพ่อ แม่ ครู ผู้ใหญ่หรือญาติๆของเรา ควรใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง เล่นกีฬา หรือทำงานอดิเรกต่าง ๆ
ต่อมาคือครอบครัว คนในครอบครับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่จะช่วยไม่ให้เด็กหลงผิดหรือตกเป็นทาสของยาเสพติด ควรสอดส่องดูแลเด็กและบุคคลในครอบครัวอย่าให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อบรมสั่งสอนให้รู้ถึงโทษภัยของยาเสพติด ดูแลเรื่องการคบเพื่อน คอยส่งเสริมให้เขารู้จักการใช้เวลาในทางที่เป็นประโยชน์ เช่น การทำงานบ้าน เล่นกีฬา ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหันเหไปสนใจในยาเสพติด สิ่งสำคัญก็คือ ทุกคนในครอบครัวควรให้ความรักความเข้าใจ ให้ความอบอุ่น มีเวลาว่างให้กันหรืออยู่ด้วยกันบ่อยๆ และสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
และสุดท้ายคือชุมชนหรือคนในสังคม นี้ก็เป็นกลุ่มๆหนึ่งที่สามรถช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ ถ้าหากพบผู้ติดยาเสพติดควรช่วยเหลือแนะนำให้เข้ารับการบำบัดรักษาโดยเร็ว เมื่อรู้ว่าใครผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายยาเสพติด ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ศุลกากร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ หรือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อดำเนินการกวาดล้างและปราบปรามมิให้ยาเสพติดกระจายไปสู่ชุมชน
นอกจากนี้การประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ความรู้ เรื่องพิษภัยของยาเสพย์ติดคงจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่ช่วยสร้างความเข้าใจที่ ถูกต้องแก่เยาวชนได้การจัดค่ายอบรมเรื่องยาเสพย์ติด การจัดรายการประจำทางสื่อวิทยุโทรทัศน์และคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ นิตยสารและสิ่งพิมพ์ต่างๆตลอดจนการให้ความรู้ ทางสื่ออื่นๆ น่าจะเป็นวิถีทางที่เร่งเร้าจิตสำนึกของคนไทยให้ช่วยกันขจัดปัญหายาเสพย์ติด
หลักในการหลีกเลี่ยงและป้องกันการติดสิ่งเสพติด
1. เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ครู และคนอื่นๆ ที่น่านับถือและหวังดี (จริงๆ)
2. เมื่อมีปัญหาควรปรึกษาครอบครัว ครู หรือผู้ใหญ่ที่น่านับถือ ไม่ควรเก็บปัญหานั้นไว้หรือหาทางลืมปัญหาโดยใช้สิ่งเสพย์ติดช่วยหรือ ใช้เพื่อเป็นการประชด
3. หลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากผู้ติดสิ่งเสพย์ติด หรือผู้จำหน่ายสิ่งเสพย์ติด
4. ถ้าพบคนกำลังเสพสิ่งเสพย์ติด หรือจำหน่ายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่
5. ศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษของสิ่งเสพย์ติด เพื่อจะได้ป้องกันตัวและผู้ใกล้ชิดให้ห่างจากสิ่งเสพย์ติด
6. ต้องไม่ให้ความร่วมมือเข้าไปเกี่ยวข้องกับเพื่อนที่ติดสิ่งเสพย์ติด เช่นไม่ให้ยืมเงิน
7. ไม่หลงเชื่อคำชักชวนโฆษณา หรือคำแนะนำใดๆ หรือแสดงความเก่งกล้าเกี่ยวกับการเสพสิ่งเสพย์ติด
8. ไม่ใช้ยาอันตรายทุกชนิดโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ และควรใช้ยาที่แพทย์แนะนำให้ตามขนาดที่แพทย์สั่งไว้เท่านั้น
9. หากสงสัยว่าตนเองจะติดสิ่งเสพย์ติดต้องรีบแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบ
10. ยึดมั่นในหลักธรรมของศาสนา หรือคำสอนของศาสนาทุกศาสนา เพราะทุกศาสนามีจุดมุ่งหมายให้บุคคลประพฤติแต่สิ่งดีงามและละเว้นความชั่ว
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
สุขบัญญัติแห่งชาติ.10ประการห่างไกลยาเสพติด.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก: http://www.nmt.ac.th/product/web/1/d2.html ( วันที่สืบค้น : 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555 )
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2556 / 22:40
PS. จาก ลูกชิ้นเน่า 55
20 ความคิดเห็น
ขอบคุณสำหรับข้อมูลความรู้นะคร๊าบ :)
ยาเสพติดเป็นภัยสังคม ควรลีกเลี่ยงเป็นดีที่สุด
ยาเสพติดทำให้คนจิตใจทรามขนาดนี้ ยังไปยุ่งกับมันอีกเหรอ ??
เราบอกตัวเอง ท่องไว้ๆ เดี๋ยวก็จบ ม.3 (ร.ร.เรามีถึงแค่ ม.3) เราขอระบายไว้ตรงนี้เลยแล้วกัน บางทีก็อดไม่ได้
PS. ถ้าเปรียบน้ำตาเป็นเหมือนฝน...หลังฟ้าหม่นย่อมมีหวังเสมอ
ขอบคุณค่าสำหรับข้อมูลดีๆ ช่วยกันร่วมมือกันแก้ปัญหายาเสพติด สังคมไทยจะได้น่าอยู่
PS.
ยาเสพติดนี่น่ากลัวเนอะ....
PS. ด้ายแดง
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ
แม่-ตาย
คนที่คิดไปลองยาเสพติดนี่ คงแย่มากเลยอ่ะ
อย่าไปลองเลย มันไม่ดีๆ
PS. รักBIGBANG "I'm V.I.P"
ยาเสพติดมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะครับ
แต่ก่อน รร เราไม่มีนะ แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีบ้างแล้ว รู้สึกไม่ดีเลย TT
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะค้าบบ
ถึงเราจะทำให้ยาเสพติดหายไปหมดไม่ได้ ก้อขอให้มีน้อยที่สุดดีกว่า
ข้อมูลดี ขอบใจมากๆนะสำหรับสาระที่นำมาให้
ปัญหาของสังคมไทยที่ไม่ว่ายุคไหนก็ไม่เคยหมดซักที ทั้งๆที่ทุกคนรู้แต่ก็ยังจะลอง
เราไม่รู้ว่าลองแล้วมันดูเท่หรอ ทำไมคนถึงอยากลองกัน
ขอบคุณสำหรับสาระดีๆนะ
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆน้า
ขอบคุณบทความดีๆนะคะ
ยา้เสพติด ยังไงๆก็ไม่มีประโยชน์จริงๆ ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ค่ะ
PS. ^__________________^
ขอบคุนสำหรับความรู้มั๊กมากน่ะค่ะ
ขอบคุณคราฟฟฟ
ยาเสพติดไม่ได้เป็นภัยต่อสังคม/ที่เป็นภัยต่อสังคมคือข้าราชการ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?