Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ภาพยนตร์ระดับตำนานในยุค 80

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

Chariots of Fire (1981)

            ภาพยนตร์ของอังกฤษแนวดราม่า สร้างจากเรื่องจริงของนักกรีฑาชาวอังกฤษที่แข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1924 ที่กรุงปารีส แม้ว่าการวิ่งไม่ได้ทำเพื่อเหรียญรางวัลหรือชัยชนะ แต่เป็นการวิ่งเพื่อนำเกรียติยศมาสู่พระเจ้าที่เขาเคารพศรัทธา คว้ารางวัลออสการ์ 4 รางวัลทั้งภาพยนตร์ บทภาพยนตร์ดั้งเดิม ออกแบบเครื่องแต่งกาย และดนตรีประกอบภาพยนตร์

The Terminator (1984)

            ภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่น-ไซไฟ จุดเริ่มปฐมบทของคนเหล็ก อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ประสบความสำเร็จด้วยดี เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก แม้จะเป็นแค่หนังทุนต่ำ ก่อนจะประสบความสำเร็จกับภาคสองในปี 1991 ทำรายได้ 500 ล้านเหรียญทั่วโลก และคว้ารางวัลออสการ์ 4 รางวัล


Indiana Jones and the Raiders of the Lost Ark (1981)

            ภาพยนตร์แนวแฟนตาซี-ผจญภัย ผลงานการกำกับชิ้นโบว์แดงของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก นำแสดงโดย แฮริสัน ฟอร์ด รับบทเป็น อินเดียน่า โจนส์ นักผจญภัยต้องการเอาสมบัติออกจากถ้ำ นำไปสู่การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ กวาดรายได้ไปทั่วโลก 384 ล้านเหรียญ คว้ารางวัลออสการ์ 5 รางวัล ทั้งรางวัลเทคนิคพิเศษ บันทึกเสียง ลำดับภาพ กำกับศิลป์ และตัดต่อเสียง แล้วมีการสร้างภาคต่อในช่วงยุค 80 Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) และ Indiana Jones and the Last Crusade (1989) ซึ่งเป็นประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน

Gandhi (1982)

            ภาพยนตร์แนวชีวประวัติ-ดราม่า สร้างจากเรื่องจริงของมหาตามะ คานธี นักเคลื่อนไหวเพื่อปลดปล่อยอินเดียให้หลุดพ้นจากเมืองของอังกฤษจนประสบความสำเร็จ แม้ต้องยอมแลกกับชีวิต คว้ารางวัลออสการ์ 8 รางวัล ทั้งภาพยนตร์ ผู้กำกับ นักแสดงนำชาย ถ่ายภาพ ออกแบบเครื่องแต่งกาย ลำดับภาพ บทภาพยนตร์ดั้งเดิม และกำกับศิลป์

Ghostbuters (1984)

            ภาพยนตร์แนวตลก เรื่องราววุ่นๆของบริษัทกำจัดผีที่ต้องปราบผีตามลูกค้าแจ้งโทรศัพท์กับสโลแกนฮิต “Who you gonna call?” จนเป็นปรากฏการณ์ ทำรายได้ 291 ล้านเหรียญไปทั่วโลก และเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สาขา ทั้งรางวัลเทคนิคพิเศษ และเพลงประกอบภาพยนตร์ “Ghostbuters” ร้องโดย Ray Parker, Jr. ก่อนจะทำภาคสองในปี 1989

Rain Man (1988)

            ภาพยนตร์แนวดราม่า นำแสดงโดย ดัสติน ออฟแมน และ ทอม ครูซ เรื่องราวเกี่ยวกับชาร์ลี (ทอม ครูซ) ทราบข่าวการจากไปของพ่อ โดยที่เขาได้สมบัติแค่รถคันเดียว แล้วลักพาตัวเรย์มอนด์ (ดัสติน ออฟแมน) ผู้เป็นพี่ชายป่วยเป็นโรคออทิสติก จนไปสู่เรื่องวุ่นวายมาพร้อมกับมิตรภาพ กวาดรายได้ไปทั่วโลก 354 ล้านเหรียญ และคว้ารางวัลออสการ์ 4 รางวัล ทั้งภาพยนตร์ บทภาพยนตร์ดั้งเดิม ผู้กำกับ และนักแสดงนำชาย (ดัสติน ออฟแมน) แม้นักวิจารณ์ชมว่า ดัสติน ออฟแมน แสดงเป็นผู้ป่วยออทิสติกได้เนียนมาก นอกจากนี้ทำให้คนทั่วโลกรู้จักออทิสติกมากขึ้น

E.T. the Extra – Terrestrial (1982)

            ภาพยนตร์แนวไซไฟ ผลงานการกำกับชิ้นโบว์แดงอีกเรื่อง สตีเว่น สปีลเบิร์ก เรื่องราวเกี่ยวมนุษย์ต่างดาวหลงทางมาที่โลกนำไปสู่มิตรภาพกับเด็กในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง กับฉากในตำนานปั่นจักรยานลอยฟ้า และเป็นผลงานแจ้งเกิดของ ดูรว์ แดรี่มอว์ ตั้งแต่สมัยวัยเด็ก กวาดรายได้ 792 ล้านเหรียญทั่วโลก และคว้า 4 รางวัลออสการ์ ทั้งดนตรีประกอบ เทคนิคพิเศษ ตัดต่อเสียง และบันทึกเสียง

Beverly Hills Cop (1984)

            ภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่น-คอมเมดี้ นำแสดงโดย เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่ ที่ทำให้กำลังดำเนินเรื่องทั้งมันส์ทั้งฮา กวาดรายได้ 316 ล้านเหรียญทั่วโลก เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และเข้าชิงลูกโลกทองคำ 2 รางวัล ทั้งภาพยนตร์แนวเพลง/ตลก และนักแสดงนำชายแนวเพลง/ตลก แต่ได้รางวัลแกรมมี่สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อีกทั้งดนตรีประกอบภาพยนตร์ในตำนาน Axel F จนมีการคัฟเวอร์โดย Crazy Frog ในปี 2005

Flashdance (1983)

            ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-ดราม่า เรื่องราวเกี่ยวผู้หญิงที่ต่อสู้ฝ่าฟันให้เป็นนักเต้นมีระดับ แต่สภาพเศรษฐกิจบังคับ ทำให้เธอต้องเป็นช่างโลหะภาคกลางวัน และนักเต้นตอนกลางคืน กว่าจะประสบความสำเร็จเป็นนักเต้นอันทรงเกรียติ โดยมีแฟนหนุ่มค่อยผลักดัน ฉากที่น่าจดจำโดยเฉพาะเต้นดึงเชือกน้ำพุ่งราดตัวตรงเก้าอี้ และเต้นต่อหน้าคณะกรรมการไปกับเพลง Flashdance……What a Feeling ซึ่งกลายเป็นเพลงดังในตำนาน จนได้รางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง

Amadeus (1984)

            ภาพยนตร์แนวเพลง-ดราม่า สร้างจากชีวิตจริงของโมสาร์ท นักดนตรีหนุ่มน้อยที่ไม่เคารพความนับถือต่อพระเจ้า จนสร้างความอิจฉาริษยาของ แอนโตนิโอ ซาเลียรี่ นักประพันธ์ในราชสำนักคิดอยากจะกำจัดทุกวิถีทาง ทว่า ซาเลียรี่ เป็นผู้ดับอัจฉริยะแห่งโลกทางดนตรีผู้นี้จริงหรือ? แต่ความลึบลับและเสียงเพลง ยังคงอยู่ตลอดกาล คว้ารางวัลออสการ์ 8 รางวัล ทั้งนักแสดงนำชาย บทภาพยนตร์ดัดแปลง กำกับศิลป์ ออกแบบเครื่องแต่งกาย แต่งหน้า ผสมเสียง ผู้กำกับ และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

Platoon (1986)

            ภาพยนตร์แนวสงคราม เรื่องราวเกี่ยวกับทหารอเมริกาในสงครามเวียดนามที่แตกคอกันเอง สะท้อนถึงความอัปยศและจิตใจของตัวละครบางคน แล้วเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกของ จอหน์นี่ เด็ป เล่นเป็นทหารล่ามประจำกอง ทำรายได้ 138 ล้านเหรียญทั่วโลก คว้ารางวัลออสการ์ 4 รางวัล ทั้งบันทึกเสียง ลำดับภาพ ผู้กำกับ และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

Dirty Dancing (1987)

            ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-ดราม่า กับเพลงสุดประทับใจ (I’ve Had) The Time of My Life ในฉากเต้นตอนท้ายในเรื่อง จนคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ แกรมมี่ และออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และเป็นงานการแสดงชิ้นโบว์แดงของ แพทริก สเวซี นักแสดงผู้ล่วงลับ เจ้าของเพลง She’s Like the Wind ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ในเรื่องนี้ด้วย

Top Gun (1986)

            ภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่น-ดราม่า ซึ่งแอบสะท้อนมุมมืดเกี่ยวกับเกย์ที่เป็นนักบินที่ชอบพอๆกันกับ มา เวอริน ที่ทอม ครูซ รับบทจนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทำรายได้ 353 ล้านเหรียญทั่วโลก และคว้ารางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในเพลง Take My Breath Way

The Last Emperor – 1987

            ภาพยนตร์แนวชีวประวัติของจักรพรรดิผู่อี๋ จักรพรรดิองค์สุดท้ายในจีน ตั้งแต่สิ้นสมัยการปกครองของสูสีไทเฮาขึ้นครองราชย์ ช่วงชีวิตวัยเด็ดต้องอาศัยในพระราชวังต้องห้าม ช่วงที่ปกครองแมนจูกัวจนถึงบันปลายชีวิตในฐานะสามัญชนหลังเปลี่ยนการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งการถ่ายทำใช้พระราชวังต้องห้ามเป็นสถานที่การถ่ายทำ หลังจากจีนอนุญาต ใช้นักแสดงตัวประกอบ 19,000 คน เรื่องนี้ได้เสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ 9 สาขา แล้วได้ทั้งหมด รวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

Driving Miss Daisy (1989)

            ภาพยนตร์แนวดราม่า-คอมเมดี้  เรื่องราวเกี่ยวกับดัสซี่ กับคนขับรถผิวสีที่เธอกลียด เพราะสีผิว นำไปสู่เรื่องวุ่นๆจนกลายเป็นมิตรภาพตามมา ทำรายได้ 149 ล้านเหรียญทั่วโลก คว้ารางวัลออสการ์ 4 รางวัล ทั้งบทภาพยนตร์ดัดแปลง แต่งหน้า นักแสดงนำหญิง และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

Ordinary People (1980)

             ภาพยนตร์แนวดราม่า สะท้อนช่องระหว่างวัยของครอบครัว คว้ารางวัลออสการ์ 4 รางวัล ทั้งนักแสดงสมทบชาย บทภาพยนตร์ดัดแปลง ผู้กำกับ และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

Working Girl (1988)

            ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ สะท้อนเรื่องราวมนุษย์เงินเดือนของผู้หญิง คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ 4 รางวัล และรางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในเพลง Let the River Run

The Killing Fields (1984)

            ภาพยนตร์แนวดราม่า สะท้อนเรื่องราวความโหดร้ายในการล่าเผ่าพันธุ์สมัยยุคเขมรแดง คว้ารางวัลออสการ์ 3 สาขา ทั้งลำดับภาพ ถ่ายภาพ และนักแสดงสมทบชาย โดย ดร.เฮียง เอส งอร์ หมอชาวเขมรเชื้อจีน ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เขมรแดง รับบทเป็น ดิธ ปราน ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้นด้วย ปัจจุบัน ดร.เฮียง เอส งอร์ เสียชีวิต เพราะฆ่าชิงทรัพย์ที่ L.A ในปี 1996

Back to the Future (1985)

            ภาพยนตร์แนวไซไฟ-ผจญภัย-คอมเมดี้ ชื่อภาษาไทยเรียกว่า เจาะเวลาหาอดีต เรื่องราวเกี่ยวกับมาร์ตี้ แม็กฟลาย วัยรุ่นที่บังเอิญย้อนเวลากลับจากปี 1985 ไปในปี 1955 เขาได้พบกับพ่อแม่ของเขาเมื่อครั้งยังเรียนอยู่ในระดับไฮสคูล และบังเอิญทำให้แม่ของเขาหลงชื่นชอบตัวมาร์ตี้ เขาต้องแก้ไขความผิดพลาดที่จะทำลายประวัติศาสตร์ที่เป็นต้นเหตุโดยทำให้พ่อแม่ของเขากลับมารักกัน ขณะเดียวกันเขาก็ต้องหาวิธีกลับไปในปี 1985 ให้ได้ ทำรายได้ 381 ล้านเหรียญทั่วโลก และเสนอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 4 สาขา ก่อนจะสร้างภาคต่อในเวลาต่อมา

Arthur (1981)

            ภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ เรื่องราวเกี่ยวเศรษฐีเพลย์บอย อาเทอร์ ที่เป็นคนไม่เอาไหน แล้วตกหลุมรักกับสาวธรรมดาฐานะยากจน คว้ารางวัลออสการ์ 2 รางวัล ทั้งนักแสดงสมทบชาย และเพลงประกอบภาพยนตร์ ในเพลง Arthur Theme (Best That You Can Do) ก่อนจะมารีเมคใหม่ในปี 2011

A Nightmare on Elm Street (1984)

            ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ เรื่องราวเกี่ยวกับเฟรดดี้ ฆาตกรรมโรคจิต โดนชาวบ้านจับไปเผาจนเสียโฉม จนมีความคิดแก้แค้นในภาพลักษณ์ผีมีนิ้วเป็นของมีคม ตามมาหลอกหลอนหญิงสาวในหมู่บ้านจนไหลตายตอนเวลานอน แล้วมีกลายสร้างภาคต่อหลายภาค และมีการรีเมคใหม่ในปี 2011

An Officer and a Gentle Man (1982)

            ภาพยนตร์แนวดราม่า นำแสดงโดย ริชาร์ด เกียร์ เรื่องราวเกี่ยวนักเรียนทหารเรือพบรักกับสาวโรงงาน การดำเนินเรื่องคล้ายละครน้ำเน่า คว้ารางวัลออสการ์ 2 รางวัล ทั้งสาขานักแสดงสมทบชาย และเพลงประกอบภาพยนตร์ ในเพลง Up Where We Belong

The Karate Kid 2 (1986)

            หลังจากประสบความสำเร็จในภาคแรก ทั้งเสียงวิจารณ์ และเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชาย โดย พัต โมริตะ จนมีการสร้างภาคต่อ แล้วประสบความสำเร็จกว่าภาคแรก ด้วยรายได้ 115 ล้านเหรียญเฉพาะในอเมริกา และเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ในเพลง Glory of Love

Out of Africa (1985)

            ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-ดราม่า นำแสดงโดย เมอริล สตรีพ เรื่องราวเกี่ยวกับชาวเดนมาร์กใช้ชีวิตทำไร่กาแฟที่เคนยาเป็นเวลาหลายปี คว้ารางวัลออสการ์ 7 สาขา ทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ดัดแปลง กำกับภาพ ดนตรีประกอบ กำกับศิลป์ และตัดต่อเสียง

Teems of Endearment (1983)

            ภาพยนตร์แนวดราม่า เรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่ และลูกสาว จากความขัดแย้งเป็นอารมณ์ที่แสนลึกซึ้ง กับความสัมพันธ์ตลอด 30 ปี ทั้งสุขและเศร้า รวมทั้งเพื่อนข้างบ้านจอมเจ้าชู้มาป่วนชีวิตแม่อีกด้วย คว้ารางวัลออสการ์ 4 สาขา ทั้งภาพยนตร์ นักแสดงนำหญิง นักแสดงสมทบชาย ผู้กำกับ และบทภาพยนตร์ดัดแปลง

Footloose (1984)

            ภาพยนตร์แนวเพลง-ดราม่า กับเพลงจำนวนชวนเต้น “Footloose” ของ Kenny Loggins ฮิตจนติดชาร์ตอันดับ 1 ใน Billborad แล้วได้รับเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ และลูกโลกทองคำ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เรื่องนี้ได้มีการรีเมคใหม่ในปี 2011

The Little Mermaid (1989)

            ภาพยนตร์การ์ตูนแอมเมนิชั่น ได้หยิบเอานิทานของดีสนีย์มาทำเป็นภาพยนตร์ จนประสบความสำเร็จด้วยรายได้ 211 ล้านเหรียญทั่วโลก หลังจากดีสนีย์ประสบปัญหาขาดทุนในช่วงยุค 70-80 เป็นเวลานาน แล้วคว้ารางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเพลง Part of Your World

The Shining (1980)

            ภาพยนตร์แนวสยองขวัญระดับตำนาน เรื่องราวเกี่ยวชีวิตธรรมดาของครอบครัวหนึ่งที่ต้องมาประสบปัญหาชีวิต และเรื่องประหลาดในโรงแรม จนมีการฆ่ากันตาย โดยเฉพาะผู้พ่อมีอาการทางจิต (ทั้งครอบครัวก็โรคจิตพอๆกันแหละ) เรื่องนี้เป็นยอมรับจากคนดูทั้งโลกถึงความสยองขวัญตั้งแต่ต้นจนจบ

Child’s Play (1988)

            ภาพยนตร์แนวสยองขวัญระดับตำนาน ชื่อภาษาไทย แค้นฝังหุ่น เรื่องราวเกี่ยวตุ๊กตาผีสิง ชัคกี้ ตามหลอกหลอนจนนำไปสู่ความตาย เรื่องนี้กลายเป็นฝันร้ายสำหรับเด็กแทบไม่อยากเล่นตุ๊กตาตาโต ปากเหวอ เช่นเดียวกับละครเรื่อง ตุ๊กตา ทางช่อง 7 ออกอากาศในช่วงปีเดียวกัน แล้วมีการสร้างภาคต่อหลายๆภาค

Fatal Attraction (1987)

            ภาพยนตร์แนวอีโรติก-ระทึกขวัญ เรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มที่มีครอบครัวแล้ว ไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นแค่คืนเดียว จนนำไปสู่เรื่องหายนะแทบไม่มีวันลืม กวาดรายได้ 320 ล้านเหรียญทั่วโลก และเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ 6 รางวัล รวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เรื่องนี้กลายเป็นฝันร้ายสำหรับผู้ชายเจ้าชู้ทุกคน ถ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น อาจจะเจอเรื่องหายนะเหมือนหนังนี้ได้

Fame (1980)

            ภาพยนตร์แนวเพลง เรื่องราวเกี่ยวกับเหล่านักเรียนมัธยมปลายรักการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ จนได้ความรับความนิยม และคว้ารางวัลออสการ์ 2 รางวัล ทั้งดนตรีประกอบภาพยนตร์ และเพลงประกอบภาพยนตร์ ก่อนจะรีเมคใหม่ในปี 2009



Rambo: First Blood Part 2 (1985)

            ภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่นต่อจากภาคแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม  นำแสดงโดย สตีเว่น สตอลโรล ทำรายได้ไปทั่วโลก 300 ล้านเหรียญ ซึ่งประสบความสำเร็จกว่าภาคแรก แต่คว้ารางวัลราสซี่ อวอร์ด ไปหลายรางวัล รวมทั้งภาพยนตร์ยอดแย่ และนักแสดงนำชายยอดแย่

Batman (1989)

            ภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่น ซึ่งไมเคิล เคตัน รับบทเป็นแบทแมน จนประสบความสำเร็จ กวาดรายได้ไปทั่วโลก 411 ล้านเหรียญ คว้ารางวัลออสการ์ สาขากำกับศิลป์ยอดเยี่ยม แล้วมีการสร้างภาคต่อในช่วงยุค 90

Good Morning Vietnam (1987)

            ภาพยนตร์แนวสงคราม-ตลก นำแสดงโดย โรบิน วิลเลี่ยม รับบทเป็นดีเจจากอเมริกาต้องมาจัดรายการวิทยุที่เวียดนามนำเสนอแปลกแหวกแนวในช่วงสงครามเวียดนาม แล้วได้นักแสดงไทยอย่าง จินตหรา สุขพัฒน์ มารับบทชาวเวียดนาม เป็นผลงานการแสดงหนังระดับฮอลีวู้ดเรื่องแรกและเรื่องเดียว ที่แปลกกว่านั้นมี บอย โกสิยพงศ์ แสดงเป็นตัวประกอบตรงฉากห้องเรียนในชั่วโมงภาษาอังกฤษในโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่ ถ่ายทำที่ประเทศไทยเกือบทั้งหมด ทำรายได้ 123 ล้านเหรียญเฉพาะในอเมริกา คว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายประเภทเพลง/ตลกยอดเยี่ยม และเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

Dead Poets Society (1989)

            ภาพยนตร์แนวดราม่า เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนเตรียมชายล้วนที่เข้มงวด และมีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ในปี 1959 โดยเล่าเรื่องราวของอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนเปลี่ยนแปลงแนวทางชีวิตที่ตอบสนองความต้องการของสังคม มากกว่าความต้องการของตัวเอง ผ่านการสอนวรรณกรรม และกวี กวาดรายได้ 235 ล้านเหรียญทั่วโลก คว้ารางวัลออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ดังเดิมยอดเยี่ยม หลังจากเข้าชิง 4 สาขา ทั้งภาพยนตร์ นักแสดงนำชาย และผู้กำกับ


Moonstuck (1987)

            ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ นำแสดงโดย นิโคลัส เคจ และนักร้องร๊อคแอนด์โรลในยุค 70 เชอ กวาดรางวัลออสการ์ 3 สาขา ทั้งนักแสดงนำหญิง สมทบหญิง และบทภาพยนตร์ดังเดิม



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2556 / 17:50
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2556 / 17:58
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2556 / 18:00
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2556 / 18:52

PS.  ชีวิตก็คือชีวิต คนที่เห็นค่าชีวิตถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ หากคนมองข้ามชีวิตถือว่าหลงลืมตัวตน ชีวิตต้องเลยตามเลย

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

weerapol 20 ก.พ. 56 เวลา 18:59 น. 1

มีต่อนะ 


Cocoon (1985)

            ภาพยนตร์แนวไซไฟ เรื่องราวเกี่ยวกับ

Lethal Weapon 2 (1989)

            หลังจากประสบความสำเร็จในภาคแรก จึงมีการสร้างภาคต่อที่ทั้งมันส์ทั้งฮา กับนักแสดงคู่หู่ เมล กิ๊บสัน และ แดนนี่ โกลเวอร์ ทำรายได้ 227 ล้านเหรียญทั่วโลก และเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาตัดต่อเสียง แล้วมีการสร้างต่อภาค 3 ในปี 1992 ซึ่งประสบความสำเร็จกว่าด้วยรายได้ 321 ล้านเหรียญทั่วโลก


The Woman in Red (1984)

            ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ เรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มหลงรักสาวชุดแดงจนถอนตัวไม่ขึ้น กับบทเพลงในตำนาน I Just call to Say I Love You ของ สตีฟ วันเดอร์ จนกลายเป็นฮิตติดชาร์ตอันดับ 1 ใน Billborad แล้วรางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจากเว็บวิเกียพีเดียและพันทิป



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2556 / 19:04

PS.  ชีวิตก็คือชีวิต คนที่เห็นค่าชีวิตถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ หากคนมองข้ามชีวิตถือว่าหลงลืมตัวตน ชีวิตต้องเลยตามเลย
0
PiZZaPeaCH Columnist 22 ก.พ. 56 เวลา 17:11 น. 2

เกิดไม่ทันเลยซักเรื่อง 555

ดีที่ได้ดูในเคเบิ้ลทีวี ดูไป 90% ของลิสต์นี้แล้ว

ชอบ Back to the Future มากค่ะ ชอบไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ สุดๆ ดูทุกเรื่อง

เรื่องที่ได้ดูแต่ดูไม่จบคือตุ๊กตาผีชัคกี้ค่ะ

ขนาดดูผ่านๆ ไม่กี่นาที แต่ทำให้เกลียดตุ๊กตาคน และตุ๊กตาที่ขยับตาได้ (โดยเฉพาะตุ๊กตาเด็กทารก ตุ๊กตาบลายธ์ และเฟอร์บี้) ไม่ชอบมากๆ ขึ้นสมองจนโตเลย  555 ที่บ้านมีแต่ตุ๊กตาสัตว์ตัวนุ่มๆ เท่านั้น เวลาเดินห้างแล้วเจอร้านขายบลายธ์กะเฟอร์บี้ยังต้องหันหน้าหนีเลย กลัวมันสบตา


PS.  ความฝันยิ่งไกล กำลังใจยิ่งไม่สิ้นสุด
0