หมอ มศว หรือ วิศวะ จุฬา ดีกว่า? ช่วยออกความเห็นทีครับ

[ลังเล]

อาจจะยาวนิดนึงนะครับ ผมขอคำปรึกษาและระบายไปพร้อมกันเลย ^^

เมื่อวานไปสัมภาษณ์ หมอ มศว บางคนที่รู้จักก็บอกว่าติดวิศวะแล้วลังเล ผมก็เช่นกัน
หลายอย่างสำหรับผมเหมาะกับการเรียนวิศวะที่จุฬา มากกว่า หมอที่มศว บ้านผมอยู่แถวสามย่าน ผมถนัดฟิสิกส์ ไม่ชอบชีวะ และผมแพ้ยุง = = (อาจจะดูไร้สาระ แต่เรื่องใหญ่มาก)

แต่ทางบ้านบอกให้เรียนหมอแหละดีแล้ว จบมามีงานทำ รายได้แน่นอน จบมาจะได้เลี้ยงครอบครัวได้ วิศวะปีๆนึงจบเยอะ หางานยาก

สิ่งที่ทำให้ผมลังเลคือ

หมอเวลาต่อเฉพาะทาง ใช่ว่าจะไม่ดูสถาบันที่จบมาเลย ถ้าเกรดผมไม่ดีมาก กับคนที่เกรดพอๆกับผมแต่มาจาก si cu ra ย่อมมีโอกาสมากกว่า โดยเฉพาะเฉพาะทางที่รับน้อย ยิ่งบางอย่างต้องมีการเส้นช่วยด้วย ซึ่งผมไม่มี
พอทำงานจริงๆ ผมคงไม่มีเวลาดูแลครอบครัวด้วยซ้ำ เพราะหมองานหนัก ตอนใช้ทุนก็อาจจะต้องไปอยู่ที่ไกลๆไม่ได้กลับบ้านมาดูแลพ่อแม่

วิศวะจบมาอาจจะหางานยากก็จริงเพราะคนจบเยอะ แต่ก็มีบางบริษัทที่ดูมหาลัยที่จบ เพิ่มโอกาสได้เยอะ ผมถนัดฟิสิกส์ด้วย เกรดก็คงไม่มีปัญหามากนัก

ใจจริงผมเอนเอียงไปทางวิศวะมากกว่า ด้วยความถนัด และพ่อแม่เองก็อายุค่อนข้างมากแล้ว และผมเป็นลูกคนเดียว และเป็นเด็กซิ่วอีกด้วย ผมไม่อยากไปไกลมาก อยากดูแลอยู่ใกล้ๆ หมอกว่าจะจบจริงๆก็เกือบสิบปี ตอนนั้นจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้

หมอก็เป็นความฝันมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ก็หนุน เป็นอาชีพที่มีเกียรติมากในสายตาผม แต่ด้วยเหตุผลอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้คิดว่าสิ่งที่ชอบอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเราเอง

ผมควรจะเลือกอะไรดี ระหว่าง หมอ อาชีพที่ใฝ่ฝัน ครอบครัวสนับสนุน  กับ วิศวะ อาชีพที่เหมาะกับความถนัดและการดูแลครอบครัว

อาจจะเป็นเหมือนกันที่คนอื่น แต่ผมตัดสินใจไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะครับ แล้วก็ขอบคุณที่อ่านจนจบ ^^

Comments

[วิศวะ ฬก้ดี]

ถ้างั้นก้เรียนวิศวะดีกว่าเรียนที่ถนัดถ้าชอบฟิสิก วิศวะก้หางานดีๆได้

[meddeci ne]

เราว่าจขกท เลือกวิศวะไปเหอะ เดี๋ยวเรียนมศว เรียนไปเรียนมาก็จะบ่นโน่นบ่นนี่ เราว่าแค่คิดแง่ลบต่อสถาบันมันก็แย่แล้วอ่ะ พอเจออะไรหนักๆเข้า เดี๋ยวก็จะมาคิดอีกทีว่าไม่น่าเลือกเล๊ยที่นี่ น่าจะไปเรียนที่อื่นดีกว่า ถ้าเลือกวิศวะฬ สถาบันดีเครดิตดีจบ!

การต่อเฉพาะทางจขกท พูดตอนนี้ันยังเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน จริงป่ะ ยังไม่เคยเข้าไปเรียนเลย ถาพลักษณ์ที่เราเห็นกับความเป็นจริงมันอาจไม่ใช่สิ่งเดียวกัน พอเรียนๆไปเราจะหาลู่ทางได้เองแหละ

การต่อเฉพาะทางสถาบันมีผลน้อยมากๆ สิ่งที่เขาดูคือเกรด การสัมภาษณ์ บุคลิกภาพ

หลายคนที่เรียนวิศวะฬ ซิ่วมาแพทย์มศวก็เยอะนะ ส่วนคนที่ติดมศวและก็วิศวะฬ แล้วเลือกวิศวะฬ ก็เยอะมากๆเหมือนกัน

อยากให้จขกท ลองคิดง่ายๆนะ แพทย์มศวตอนนี้รุ่น 29 ผลิตบัณทิตแพทย์มาแล้ว23รุ่น ก็ผลิตแพทย์มาได้เยอะพอสมควรอาจไม่มากเท่ากับที่อื่น แต่คนที่จบมานี่เขาไม่ต่อเฉพาะทางหรอ ????หรือเป็นแค่GPธรรมดา ......ลองไปคิดดู

[nam]

วิศวะ จุฬา เรียนตามที่ชอบ หางานง่าย

[ซัน]

เลือกที่ที่สะดวกใกล้บ้าน แล้วก็ที่ชอบนะครับ

ได้เลือกคณะที่ชอบที่ฝันจริงๆ พอไปเรียนจะมีความสุขมาก เจออะไรยากๆก็ไม่ท้อ ลุยได้หมดเพราะใจรักมันชอบเรียนไปแล้ว

ในที่นี้สนับสนุนให้เลือก วิศวะ ฬ ตามที่ชอบครับ :)

[ลุงบ้านนอก]

ถ้าไม่ดูว่าถนัดวิชาใด เกี่ยงสถาบันหรือไม่ ลุงบ้านนอกคนนี้ขอแนะนำหมอครับ เพื่อนลุงเล่าว่าหลานคนหนึ่งจบ มศว.เกียรตินิยม ขดใช้ทุน2ปีก็ได้เรียนต่อเฉพาะทางที่ศิริราชแต่ที่จุฬาก็ประกาศรับด้วย จริงๆการเรียนเฉพาะทางไม่จำเป็นต้องเรียนโรงเรียนแพทย์ก็ได้ สามารถเรียนต่อโรงบาลขนาดใหญ่ก็ได้ พ่อแม่แก่แล้วความรู้สึกของคนแก่ก็หวังว่าถ้าพ่อแม่รู้สึกเป็นอะไรที่สงสัย บางครั้งก็เหมือนไร้สาระระแวงไปดอง ก็ถามหมอที่เป็นลูกตนเองมันคล่องถนัดกว่า ที่จะลากสังขารไปหาหมอบ่อยๆ ตามประสบการณ์ลุงในฐานะที่เป็นวิดวะกรด้วย ใกล้60แล้ว รู้จักวิดวะกรจุฬารุ่นเก่าๆ บอกได้เลยว่ามีไม่กี่เปอร์เซนต์ที่ชีวิตรำ่รวยประสบสำเร็จจริงๆ ไปเปิดรับเหมาก็เจ็งได้ รับจ้างก็โดนเจ้าของด่าเก่งก็เบื่อ เปลี่ยนงานบ่อยๆยิ่งแก่ยิ่งแย่หางานยากขึ้น ต้องอยู่ราชการหรือรัดสาหะกิจซึ่งจะมั่นคงแต่เงินน้อย ตอนลุงยังหนุ่มอยู่ กฟผ.มีเพื่อนจบวิดวะจุฬาตกงานมามุดขอนอนด้วย ตอนเย็นก็ชวนกันเป็นกลุ่มไปซื้ออาหารมาทำกินกันเอง สิ้นปีได้โบนัสซื้อทีวีขาวดำได้เครื่องหนึ่ง ปีถัดมาซื้อตู้เย็นได้หลังหนึง ไม่อยากไปจีบสาวเพราะไม่ปัญญาเลี้ยง นี่คือชีวิตจริงของลุง ลุงจึงสั่งห้ามลูกลุงเรียนวิดวะ ตอนนี้สอบติดหมอแล้วครับ

[วีรินทร์]

สนับสนุน หมอ มศว ค่ะ

เพราะ ให้พูดตรงๆ หมอเป็นอาชีพที่มั่นคงจิงๆค่ะ อาจไม่มีเวลา แต่เราก็ไม่เคยเห็นหมอคนไหน ปล่อยปะละเลยพ่อแม่ตัวเองนะค่ะ

วิศวะ หางานยากนะค่ะ ถ้าเกรดและสถาบันไม่ดีพอ  ฬ อาจจะได้เครดิตด้านชื่อเสียงดี แต่คุณจะมั่นใจได้ยังไงค่ะ ว่าเกรดคุณจะดีนะ เขาใช้การอิงกลุ่มนะค่ะ วิศวะ ฬ เทพๆทั้งนั้น คุณบอกว่าคุณเก่ง ฟิสิกส์ แต่เราคิดว่ามันไม่ได้เป็นตัวตัดสินนะค่ะว่าจะเรียนได้ดีนะ ที่ได้เรียนมาก็แค่ฟิสิกส์ ระดับ ม.ปลายเอง เข้าไปเจอโหดๆอีกเยอะ รุ่นพี่ที่ รร เราเก่งมาก เข้าไปก็แค่2ปลายๆ-3  มี3ปลายๆน้อยมาก
อยากบอกจิงๆว่าคณะวิศวะจุฬานะเครียด มีแต่เทพๆทั้งนั้น เราอาจจะเก่ง แต่ในหมู่คนที่เก่งกว่า เราอยู่ระดับไหนละค่ะ

ถ้าเรียนหมอ คุณจะจะบ เกรดอะไรก็คือหมอ จบที่ไหนก็คือหมอค่ะ ทำงานเหมือนกัน เงินเดือนเท่ากันทั้งประเทศ ไม่มีแบ่งแยก ถ้าเกรดไม่ดีอาจมีปัญหาเรื่องต่อเฉพาะทางจิง แต่ถ้าเป็นสาขาที่ขาดแคลนก็อาจจะได้นะค่ะ

จขกท บอกว่าหมอเคยเป็นความใฝ่ฝัน จขกทอย่าลืมความฝันนั้นสิค่ะ ตอนนี้ จขกท อาจจะคิดว่าตัวเองเรียนวิศวะน่าจะดีกว่า แต่ถ้าเกิดไม่ชอบวิศวะขึ้นมาก ยุ่งนะค่ะ เพราะ หมอก็ไม่ได้จะสอบติดกันได้ง่ายๆ อ่านกันหลายวิชาอยู่นะค่ะ แต่อย่างน้อยวิศวะ ก็ยังสามารถเก็บ แกท แพทไว้ได้นะค่ะ ยังมีโอกาสซิ่วนะค่ะ

ลองคิดดูดีๆนะค่ะ โอกาสมักจะไม่มีครั้งที่2หรอกค่ะ สู้ๆค่ะ
ปล เราเชียร์หมอ อาจจะเป็นเพราะ เราก็จะเรียนหมอปีนี้เหมือนกัน แต่เราเรียนด้วยใจรักที่อยากเรียนนะค่ะ ^^

[เห็นใจนะ]

วิศวะ มีหลายสาขามาก ถ้าจะรุ่ง ต้องได้เรียนสาขาที่ชอบ เพราะจะเหนื่อยหนักแค่ไหน ก็อดทนได้ เพราะมันชอบ

ส่วนแพทย์เป็นอาชีพ ที่ต้องเสียสละะไรหลายๆอย่าง อย่างแรกเรียนหนัก เรียนยาวนาน และทำงานก็คงหนักเช่นกัน แต่ก็อาจเลือกได้ เช่น เรียนเฉพาะทางที่ไม่ต้องรักษาอะไรหนักๆ แต่โดยรวมๆ น่าจะสงวนงบประมาณของชาติตรงนี้ไว้ สำหรับคนที่มีความพร้อม มีใจรัก และอดทน ถึกได้


ถ้าเราไม่ได้รักการเป็นแพทย์ และการเรียนแพทย์ ตัดใจไปเอาสิ่งที่เราชอบจิงๆ อาจดีกว่า และเรื่อง รุ่ง เรื่องเงิน มันคงตามมาเอง

[จขกท]

ขอบคุณทุกความเห็นครับ ผมจะค่อยๆลองคิดดู ยังมีเวลาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

พอดีมีญาติที่ถูกปฏิเสธงานทั้งที่เกรดดีเพราะชื่อมหาวิทยาลัยที่จบมา เลยค่อนข้างฝังใจกับเรื่องนี้ ขอโทษนะครับ

[ตตตตตตต]

เรียนหมอเถอะน้อง กว่าจะฝ่าฟันคนทั้งประเทศมาได้ พ่อแม่ก็คงหวังพึ่งพายามแก่เฒ่า
ตอนนี้พี่ยังอยากกลับมาสอบหมอเลย เพราะเวลาพี่พาพ่อและแม่ไปโรงพยาบาลเวลาท่านเจ็บป่วยแล้วในหัวมันจะคิดว่าเราน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ถ้าเราเป็นหมอ เพราะตอนนี้พี่ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากพาไปโรงพยาบาลแล้วฟังอาการจากหมอเท่านั้น พี่ไม่ได้หวังว่าจะต้องเป็นคนรักษาเอง แต่พี่แค่อยากจะรู้และเข้าใจอาการเจ็บป่วยต่างๆ และวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ชีวิตเราก็มีเท่านี้แหละครับ สู้ต่อไป ช่วยได้มั้ยเนี่ย 555

จากใจวิศวกรหนุ่มสุดหล่อ

[เด็กซิ่ว]

อ่านแล้วจี๊ดดดมาก คนเก่งก็มีเรื่องเครียดเหมือนกัน
เราก็คล้ายๆนายนะ เป็นเด็กซิ่ว ติดวิศวะ แต่ไม่หมอ :(
ที่จขกท ห่วงพ่อแม่ เพราะพวกโรคที่มาตามอายุรึป่าว ลองคุยกับพวกท่านนะ
หมอน่าเรียนนะ แต่ต้องใช้เวลานาน พวกท่านส่งไหวรึป่าว ยังทำงานไหวรึป่าว ตรงนี้เราเข้าใจนะ เพราะตอนนี้ว่างก็ต้องมาช่วยงานท่านแล้ว ยังคิดอยู่เลยว่าโชคดีที่ติดมหาลัยใน กทม กลับบ้านทุกวันได้
ไม่ได้ขู่นะ แต่คิดให้ดีๆ ค่อยๆคิด ไม่ว่าอาชีพอะไรก็มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนทั้งนั้น บางคนว่า หมอดี วิศวะไม่ดี บางคนก็หมอไม่ดี วิศวะดี มันแล้วแต่สิ่งที่เจอ
หมอบางคนทำดีเสมอตัว ซวยไปพลาดโดนฟ้องร้องก็มี
วิศวะทำงานพลาด โดนเรียกค่าเสียหาย ไล่ออก ก็มี
ไม่ว่าจขกท จะเลือกอะไร ทำให้เต็มที่ และอย่าเสียใจภายหลัง :)

[MED]

คุณ จขกท

เรามีความเห็นใกล้เคียงกับ คุณลุงบ้านนอก คห.ที่ 5
ขอแสดงความคิดเห็นจากประสบการณ์ส่วนตัว และประสบการณ์ที่ได้พูดคุยกับหมอที่รู้จัก น่าจะเป็นประโยชน์กับ จขกท และผู้ที่สนใจ

ส่วนตัวจบวิศวะ ฬ เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว
ได้ทุนเรียนโท แล้วก็ได้ทุนไปเรียนเอก ต่อที่ต่างประเทศ เป็น ดอกเตอร์ กลับมาทำงานเมืองไทย
พี่น้องที่เป็นผู้ชายในบ้านจบ วิศวะ ฬ กันหมด มีโอกาสพูดคุยกับคนทำอาชีพแพทย์ค่อนข้างบ่อย
=========
เป็น "หมอ" ดีอย่างไร
=========
1. มีโอกาสช่วยคน โดยเฉพาะคนในครอบครัว ถ้าใครจะหาว่าเห็นแก่ตัว แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะมองตัวเอง และครอบครัวก่อน แต่แน่นอนถ้าเลือกเป็นหมอต้องเห็นคนไข้ทุกคนเป็นคนในครอบครัว

จะได้ปรึกษาได้ จะเข้าใจเมื่อตัวเอง หรือคนในครอบครัวป่วย เข้าโรงพยาบาล อาทิเช่น ถ้าวอดเด็ก พอทารกเข้า NICU (New Born ICU) พยาบาลจะซักประวัติว่า พ่อแม่จบการศึกษาอะไร เขาจะได้ให้หมอ Communicate ได้เหมาะสม
พอเจอเข้ากับตัว คุณหมอเห็นเราได้ Ph.D. เป็น Doctor ประกอบกับที่เราเป็นคนชอบซักถาม ถามมากด้วย ก็เลยคงคิดว่าเราเข้าใจศัพท์ทางแพทย์ ชื่อยา บ้าง ก็อธิบายอย่างละเอียด
พอถามมากก็ได้คำศัพท์ ผลตรวจเลือด อาการ ที่ฟังไม่รู้เรื่อง รู้สึกหงุดหงิดที่ไม่เข้าใจ ก็เลยพยายามสะกด และไปออกเสียให้แฟนฟัง ว่าที่หมอพูด หมายถึงอะไร เนื่องจากแฟนจบด้านเกี่ยวกับทางการแพทย์มา แล้วก็ไปถามหาต่อที่ Google อ่านรู้เรีองบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง

ช่วงนั้นรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเรียนมาหลายปีไม่สามารถทำความเข้าใจเรื่องใกล้ตัวเราที่สุดคือ ร่างกาย และการทำงานต่าง ๆ และยาที่จะไปมีส่วนกระทบได้เลยแม้แต่น้อย ก็จบวิศวะมานี่จะไปรู้เรื่องอะไร

ต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นสัปดาห์เพื่อรอคนในครอบครัวพักรักษาตัว วันหนึ่งนั่งดูทีวีในโรงพยาบาล เห็นการอธิบายถึงโรคต่าง ๆ ก็ทำให้คิดถึงสมัยอยู่ต่างประเทศ จะมีรายการทีวีเกี่ยวกับสุขภาพที่อธิบายออกมาให้เข้าใจได้ง่าย ๆ และพอดีวันนั้นมีรายการทีวี พูดถึงฝาแฝดที่ คนหนึ่งเรียนหมอ อีกคนเรียนวิศวะ ฬ แล้วก็ตัดสินใจไปเรียนหมอต่อ เขียนความเห็นนี้ก็เลยไปถามอากู๋มา พบว่าคืออาจารย์ พญ. ณัฐนุช ลิมปิสุข รองอ่านที่
www.readersdigestthailand.co.th/จุดพลิกผัน

พอเดินไปโรงอาหารในโรงพยาบาล ก็พบกับมุมความรู้สำหรับ CE (Continuing Education) สำหรับหมอ แล้วก็มีหนังสือสำหรับประชาชนด้วย ด้วยความเป็นคนชอบหนังสือ ก็เลยซื้อหนังสือด้านการแพทย์มา คิดว่าจะอ่านรู้เรื่อง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะซื้อซีดีอธิบายเรื่องโรคมาด้วย หลังจากนั้นมุมใหม่ในร้านหนังสือก็คือสุขภาพ ไม่ใช่เทคโนโลยีอีกต่อไป

ข้อดีหมอจุดแรก เป็นการจุดประกาย และสร้างข้อสงสัยว่าเราเรียนสิ่งที่ไกลตัวเหลือเกิน แม้จะสร้างความสะดวกสบาย แต่ก็เป็นการสร้างกิเลสให้เพิ่มขึ้น และทำให้หวนย้อนไปสมัยเด็ก ๆ ว่าก็เคยมีความคิดอยากเป็นหมอ ตอนเป็นเด็กไม่สบายไปหาหมอแล้วหาย ก็อยากเป็นหมอบ้างตามประสาเด็ก
แต่ชีวิตมาพลิก ตอนพบกับการทดลองวิทยาศาสตร์ที่ต้องผ่ากบ ฆ่ากบนั่นเอง เพื่อมาดูหัวใจเต้น การทดลองนั้นทำให้ความอยากเป็นหมอจางหายไป และเลือกวิศวะตามความนิยมในสมัยนั้น

2. ได้รับการนับถือ ตลอดชีวิต คุณจะถูกเรียกว่า "หมอ"
มีอาจารย์หมอ พูดให้ข้อคิดmujน่าสนใจไว้ว่า จบหมอไว้ก่อนแล้วอยากไปทำอะไรต่อ เปลี่ยนสายอาชีพใครเขาก็รับ
อาทิ อยากเป็นผู้พิพากษาสมทบ นักพากษ์กีฬา แม้แต่นางงาม  ก็เป็นได้ง่ายกว่าอาชีพอื่นตั้งเยอะ
แล้วคุณรู้ไหมสังคมไทย Discriminate อาชีพอื่นเช่นไร
- บางบัตรเครดิตชื่อดัง ให้ หมอ สมัคร และไม่ต้องเสียค่าบริการรายปี ไม่ต้องมีหลักฐานมากมาย เขียนไว้ในใบสมัครชัดเจน ว่าพิเศษเฉพาะอาชีพ หมอ เท่านั้น
- ซื้อรถยี่ห้อดังราคาหลายล้าน หมอ ไม่ต้องวางเงินดาวน์ จ่ายแต่ผ่อน หมอเท่านั้น อาชีพอื่นไม่ได้
เขาก็ไม่ได้ถามว่าคุณจบหมอมาจากสถาบันไหนนะ เป็น หมอ ก็พอ
- วิศวะ จบมาเยอะมาก แล้ว จุฬา ก็ไม่ได้ครองเมืองอีกต่อไปแล้ว แม้จะมีบ้างในบางบริษัท น้อยลงมาก ๆๆๆๆ เมื่อเทียบกับอดีต ที่บางบริษัทมีแต่สีชมพู ไม่มีอีกแล้ว

3. หมอ ได้เรียนรู้สิ่งที่จะติดตัวเราไปจนตาย ร่างกายของเราเองไงล่ะ ต่างจากวิศวะเป็นศาสตร์ที่เปลี่ยนเร็วมากโดยเฉพาะบางสาขา เรียนวันนี้ ปีหน้าล้าสมัยไปแล้ว แถมเรียนของนอกกายทั้งนั้น แต่ที่ดีคือเราได้ Logic

อันที่จริง วิชาที่ดีที่สุดน่าศึกษาคือ พระธรรม เป็นอันดับหนึ่ง แต่ถ้ายังติดอยู่ในโลก หมอ ก็เป็นอะไรที่ ส่วนตัวเชียร์ สุดใจ

4. หมอ เป็นอาชีพค่อนข้างอิสระ สามารถทำงานได้แม้อายุ 70 แต่วิศวะจะมีสักกี่คนที่บริษัทยังจ้าง หรือแม้แต่ทำธุรกิจเอง ประสบความสำเร็จ มีอยู่ไม่กี่เปอร์เซนต์

5. จขกท เข้าใจถูกต้องแล้ว เรียนหมอ ควรเรียนต่อเฉพาะทาง โรงพยาบาลใหญ่ ๆ ดัง ๆ รับเฉพาะหมอที่ผ่านเฉพาะทางมาทั้งนั้น

6. ที่สำคัญที่สุดคือ พ่อ แม่ ภูมิใจ และฝากผีฝากไข้ได้ แค่ข้อนี้ ก็จบไม่ต้องคิดต่อ ลุยแล้ว

แล้วอย่าลืมตอบแทนคุณประเทศ ไม่ว่าจะเรียนอะไรนะ อย่าโกงบ้านเมือง เราเก่งแล้วต้องเป็นคนดีด้วย

ถ้าให้ผมเลือก ขอเรียน หมอ
แม้จะไม่ชอบชีวะ ลองคิดดูใหม่ว่า การเข้าใจการทำงานของร่างกายเราเอง มันสนุกกว่าเข้าใจเครื่องจักร อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ไม่นานข้างหน้าก็จะล่าสมัย แถมบ้านเราซื้อของมาใช้ ผลิตเองน้อย จะไปทำวิจัยก็กินแกลบ ลองดูอาจารย์ชีวะ บางคนสมัยนี้สอนสนุกมาก เข้าใจง่าย แล้วจะชอบ

เชียร์ หมอ แต่ก็ขึ้นกับความชอบของคุณด้วย
เป็นกำลังใจให้ และเมื่อเลือกทางเดินแล้ว ขอให้ไปให้สุด เช่นเรียนให้จบในคณะที่เลือกให้ตรงเวลาด้วยคะแนนที่ดี แล้วอยากจะไปเรียนอะไรต่อ ทำงานอะไรต่อ ก็ว่ากันเป็น Step ต่อไป

ปล. ถ้าต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ก็โพส อีเมล์ไว้ เดี่ยวจะเขียนไปคุยด้วย

โชคดี

[2833]

ลองคิดง่ายๆนะ
ถ้าเป็นแพทย์จุฬา กับ วิศวะจุฬา เลือกอะไร

ถ้าเป็นแพทย์ มศว กับ วิศวะ มศว เลือกอะไร

พี่ว่าคุณได้คำตอบนะ

จริงๆ ที่อ่านได้ไม่กี่บรรทัดแล้วเข้าใจได้เลยคือ คุณไม่อยากไปอยู่ มศว ถ้าตัวเลือกคือ จุฬา เหมือนกัน คุณคงไม่ถาม
แต่หมอเรียนองครักษ์ปีเดียวเองนะ
ปี 2 ก็กลับมาเรียนในเมือง ขึ้นคลินิคค่อยไปที่อื่น

ถึงคุณเรียน จุฬา ศิริราช รามา คุณก็ต้องอยู่หอเหมือนกัน
ถ้าคุณเรียนศิริราช รามา คุณก็ต้องไปอยู่ศาลายา 1 ปีเหมือนกัน

พี่อยากให้คุณเลือก มศว นะ

[ติดหมอมศว]

หมอมศว.ดิ
ดีจะตายแม่เราจบหมอมหิดลยังเชียร์เลย
บอกให้นะพวกที่บอกให้เทอเอาวิศวะฬอะ คือพวกอยากรอรอบ2
คะแนนต่ำๆ เราอาจพูดดูแรงแต่จริงไหมละ
เอาหมอเหอะ เราก็เอาหมอ ดูดีมีอนาคต บ้านเราจบหมอมหิดลทั้งตระกูลเกียรตินิยมด้วย
เรายังเอาหมอมศว. เลย คิดเองละกันจขกท.
ถ้าเอาวิศวะโตขึ้นอย่าพูดนะว่าน่าจะเรียนหมอ ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง หุหุ

[Intania95]

น้องไปถามในพันทิพดีกว่าไหมครับมันจะได้มุมมองที่ดีกว่าเยอะ

[ว่าที่ นศพ.มศว]

ผมว่า เหมือนใจ จขกท. จะเอนมาทางวิดวะ มากกว่า  เลือกตามที่ใจชอบเถอะครับ  งานที่มั่นคงผมว่าไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตหรอก  ถ้าชอบวิดวะ และตั้งใจดีๆ เผลอๆได้เงินเดือนมากกว่าหมออีก

มีบางส่วนผมขอแก้ความเข้าใจนิดนึง  คือเกรดไม่ใช่ทุกอย่างหรอกครับ  โอเค สถาบันก็มีส่วน  มันก็ยังไม่ใช่ทุกอย่างอยู่ดี  ประวัติของเราต่างหาที่สำคัญมาก  ถ้าคุณเรียนเกรดได้ 3 ปลายๆ แต่ไม่เคยอะไรเลย  มันกะจะโชว์หราในประวัติของคุณเองครับ  ตรงนี้ต่างหากที่สำคัญ  เพราะผมเจอมาด้วยตัวเองเลย

ปล.ผมทิ้งเมลไว้นะ  มีรัยปรึกษาได้

[บีมมี่]

เห็นด้วยกับ คห 11 ลองถามใน pantip ดูดีกว่าครับน้อง ได้มุมมองหลายอย่าง

[ลองดู]

เชียร์ วิศวะ จุฬาครับ การที่จะเรียนอะไรขอให้เราชอบเป็นที่ตั้งก่อน ผมเชื่อว่าจิดใต้สึกของตัวเองมันจะบอกเราได้มากที่สุดนะ ที่บอกๆกันว่าวิศวะหานงานยาก ที่จริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณและก็ชื่อเสียงสถาบันก็มีส่วนค่อนข้างมาก อีกอย่าง วิศวะ จุฬาแล้ว ยังไงๆก็หางานได้อยู่แล้วครับ ผมว่าเรียนวิศวะมีโอกาสก้าวหน้าได้มากกว่าครับ สามารถไปเป็นนักบริหารก็ได้อีก ถ้าคุณเป็นหมอ ก็คงได้แค่อยู่ในห้องแคบๆแล้วรักษาคนไข้แค่นั้น(ลองมองกลับมุม) อย่าให้ใครมาไซโคว่าเรียนหมอ เพราะบางคนเค้าอาจจะมองอาชีพหมอแต่ไกลๆ เคยสัมผัสจริงๆหรือยังว่ามันเป็นยังไง ผมว่าจขกท.ตัดสินใจเองดีกว่าครับว่าจะเลือกอะไรดีที่สุด เพราะมันดีทั้งคู่แหละ

[ลุงดำ]

ลุงดำคิดว่าน่าจะเลือกที่ชอบที่ถนัดครับ

ฝันมาตั้งแต่เด็ก กับ ถนัดในปัจจุบัน ไม่เหมือนกัน

วิศวะ.... สมัยนี้หางานไม่ยากนะ บริษัทที่ลุงทำงาน ยังวิ่งหาเด็กวิศวะมาทำงานฝุ่นตลบทีเดียว
ฝ่ายบุคคลบอกว่า เด็กวิศวะมีทางเลือกเยอะมาก ๆ บริษัทเยอะ บริษัทใหญ่เยอะ ให้เงินเดือนเยอะ
เด็กหลายคนมาสอบสัมภาษณ์ไม่ผ่านก็เยอะ เกรดดี ๆ ใช่ว่าจะมีงานทำนะครับ ขอบอก....
วิศวะตกงานก็มี ต้องมาวิเคราะห์สาเหตุว่าตกงานเพราะอะไร

หมอ .... ไม่ต้องอธิบายมาก รู้กันทั้งโลก

[อยากได้หมอดีดี]

หลายคนพูดถึงแต่ว่าอาชีพหมอเป็นอาชีพที่มีเกียรติรายได้ดี แต่ในฐานะของคนที่เป็นผู้ป่วยและต้องไปหาหมอ เราอยากได้หมอที่สนใจดูแลคนไข้อย่างละเอียดและเอาใจใส่ หสายครั้งที่ใช้เวลารอหมอนานกว่าคุยกับหมอซะอีกนี่ขนาดเป็นรพ.เอกชนนะ เคยพาลูกไปหาหมอกระดูกหมอได้แต่วิเคราะห์อย่างฉาบฉวยแล้วให้ยามากิน ลูกบอกว่าหมอไม่เก่งเลยแม่ เพราะฉะนั้นเราอยากให้น้องๆที่จะเข้าเรียนหมอต้องเอาใจใส่ทุ่มเทคนไข้เป็นอย่างดี ขึ้นชื่อว่าหมอเป็นอาชีพที่ต้องทำงานหนักและทุ่มเทต่อคนไข้อย่างจริงใจ ตลอดเวลาถ้าไม่สามารถก็อย่าเรียนดีกว่า อ้อ!สามีเป็นวิศวกร อายุ30ต้นๆก็ได้เงินเดือนเป็นแสน ปัจจุบัน 40กว่าๆ ก็สองแสนกว่าแล้วค่ะ อาชีพอะไรก็ดีทั้งนั้นแต่เราต้องรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ต้องจริงใจต่ออาชีพแค่ไหนทำแล้วมีความสุขหรือฝืนใจหรือเปล่า

[QWERT]

หมอจบใหม่ ไปเอกชนก็ ประกันขั้นต่ำ สองแสน

[AAaa]

จบใหม่นี่คือจบ เฉพาะทางใหม่ๆป่าวคับ อายุ31-35 ถึงจะเงินเดือน 2-3 แสน