เพลงประกอบภาพยนตร์ระดับตำนานในยุค 90
How Do I Live – Trisha Yearwood Ost. Con Air (1997)
เป็นเพลงคัฟเวอร์ของ LeAnn Rimes ในปีเดียวกัน ก่อนที่จะคัฟเวอร์โดยนักร้องคันทรี่ชื่อดัง Trisha Yearwood แล้วประสบความสำเร็จกว่า แม้ว่าจะติดชาร์ตสูงสุดอันดับที่ 23 ใน Billboard ซึ่งต้นฉบับติดชาร์ตสูงสุดอันดับ 2 ใน Billboard แต่เวอชั่นของ Trisha เป็นจดจำมากกว่า
Con Air เป็นภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่น-ระทึกขวัญ ทำรายได้ไปทั่วโลกแค่ 224 ล้านเหรียญ ได้เสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 รางวัล ทั้งมิกซ์เสียง และเพลงประกอบภาพยนตร์ แต่ไททานิคคว้าสองรางวัลดังกล่าวไปครอง ยิ่งไปกว่านั้นกลับคว้ารางวัลราสซี่ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดแย่
She – Elvis Costello Ost. Notting Hill (1999)
เป็นเพลงดังระดับตำนานของภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังติดหูเป็นที่น่าจดจำจนถึงทุกวันนี้ หากรู้ไม่ใช่ว่าเป็นเพลงคัฟเวอร์ของ Charles Aznavour ในปี 1974 นอกจากเพลงนี้แล้ว ยังมีเพลงดังอย่างเพลง When You Say Nothing at All ของ Ronan Keating
Notting Hill เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ นำแสดงโดย จูเลีย โรเบิร์ต ทำรายได้ไปทั่วโลก 363 ล้านเหรียญทั่วโลก กวาดรางวัลไปหลายสถาบัน และได้รับเสนอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 3 สาขา ทั้งภาพยนตร์เพลง/ตลก นักแสดงนำชายประเภทเพลง/ตลก และนักแสดงนำหญิงประเภทเพลง/ตลก
Before I Fall in Love –
นี่เป็นอีกเพลงหนึ่งที่น่าจดจำเช่นกัน ซึ่งได้ Coco Lee นักร้องสาวชาวฮ่องกง มาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้
Runaway Bride เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ นำแสดงโดย ริชาร์ด เกียร์ และ จูเลีย โรเบิร์ต เป็นการประชันคู่อีกครั้ง หลังจากเคยเล่นหนังร่วมกันจากเรื่อง Pretty Woman ในปี 1990 ทำรายได้ไปทั่วโลก 309 ล้านเหรียญ
(I Can’t Help) Falling in Love with You – UB40 Ost. Sliver (1993)
นั้นเป็นเพลงที่เคยได้ยินบ่อยตามโฆษณาต่างๆ เพลงนี้ร้องโดย UB40 เจ้าของเพลง Red Red Wine ที่โด่งดังในยุค 80 ติดชาร์ตอันดับ 1 ใน Billborad
Sliver เป็นภาพยนตร์แนวอีโรติก-ระทึกขวัญ เรื่องราวเกี่ยวกับ บรรณาธิการสาวมาอาศัยที่อาพาธเมนต์แห่งหนึ่ง ไปๆมาๆมีผู้หญิงที่อาศัยที่นั้นหลายคนต้องตาย ทำรายได้ไปทั่วโลกแค่เพียง 116 ล้านเหรียญ
I Will Always Love You – Whitney Houston Ost. The Bodyguard (1992)
เป็นเพลงคัฟเวอร์ของ Dolly Parton ในปี 1974 ซึ่งเวอชั่นของวิทนี่ย์ประสบความสำเร็จกว่า ติดชาร์ตอันดับ 1 ใน Billboard 14 สัปดาห์ กวาดรางวัลเพลงยอดเยี่ยมไปหลายสถาบัน รวมทั้งรางวัลแกรมมี่ นอกจากนี้ยังเพลงดังของเธออย่าง I Have Nothing, I’m Every Woman จนทำให้อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ มียอดขายสูงสุดตลอดกาล
The Bodyguard เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-ดราม่า-แอ๊คชั่น-ระทึกขวัญ นำแสดงโดย เควิน คอสเนอร์ และ วิทนี่ย์ ฮุสตัน เรื่องราวเกี่ยวกับบอดี้การ์ดต้องมาคุมครองนักแสดงชื่อดัง เพื่อป้องกันการลอบสังหาร ทำรายได้ไปทั่วโลก 410 ล้านเหรียญ
It Much Have Been Love – Roxette Ost. Pretty Woman (1990)
เป็นเพลงหนึ่งที่น่าจดจำอีกเช่นกัน ซึ่งได้คู่ดูโอป๊อปร๊อคจากสวีเดน “Roxette” มาร้องเพลงนี้ จนกลายเป็นเพลงดังติดชาร์ตสูงสุดอันดับ 1 ใน Billboard
Pretty Woman เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ชื่อภาษาไทย “ผู้หญิงบานฉ่ำ” นักแสดงโดย ริชาร์ด เกียร์ และเป็นผลงานแจ้งเกิดของ จูเลีย โรเบิร์ต จนประสบความสำเร็จไปทั่วโลก ทำรายได้ไปทั่วโลก 463 ล้านเหรียญ และจูเลียคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิง ประเภทเพลง/ตลกไปครอง
Unchained Melody – The Righteous Brother Ost. Ghost (1990)
เป็นเพลงดังของพวกเขาในปี 1965 ก่อนจะมาใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์จนประสบความสำเร็จอีกครั้ง
Ghost เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-ดราม่า ทำรายได้ไปทั่ว 505 ล้านเหรียญ คว้ารางวัลออสการ์ 2 รางวัล ทั้งบทภาพยนตร์ดั้งเดิม และนักแสดงสมทบหญิง หลังจากเข้าชิง 5 สาขา รวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
Sooner or Later – Madonna Ost. Tracy (1990)
นี่เป็นการร้องเพลงภาพยนตร์อีกครั้งของมาดอนน่า หลังจากประสบความสำเร็จจากเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Who’s That Girl ซึ่งตัวเธอก็แสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
Tracy เป็นภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่นสไตส์ย้อนยุค ทำรายได้ไปทั่วโลก 162 ล้านเหรียญ คว้ารางวัลออสการ์ไป 3 รางวัล ทั้งกำกับศิลป์ แต่งหน้า และเพลงประกอบภาพยนตร์ (เพลงนี้แหละ)
Reflection – Christina Agvilera Ost. Mulan (1998)
เป็นผลงานเพลงแรกของเธอ ก่อนจะออกอัลบั้มเดี่ยวในปีถัดไป ซึ่งอยู่ในฉากมู่หลานครวญเพลงขณะเดินไปที่ศาลเจ้าบรรพบุรุษ
Mulan เป็นภาพยนตร์แอมเมนิชั่นชิ้นเอกอีกเรื่องของวอสต์ดิสนีย์ ทำรายได้ไปทั่วโลก 304 ล้านเหรียญ ได้รับเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ และออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอมเมนิชั่นยอดเยี่ยม
Beauty and the Beast – Celine Dion and Peabo Bryson Ost. Beauty and the Beast (1991)
เป็นการพบกันครั้งแรกของ Celine Dion นักร้องที่ชนะเลิศจากเวทียูโรวิชั่น และ Peabo Bryson นักร้องอาร์แอนด์บียุค 60-80 จนกลายเป็นเพลงในตำนาน แล้วคว้ารางวัลแกรมมี่ ลูกโลกทองคำ และออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
Beauty and the Beast หรือชื่อภาษาไทยว่า “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ทำรายได้ไปทั่วโลก 424 ล้านเหรียญ คว้า 2 รางวัลออสการ์ และ 3 รางวัลลูกโลกทองคำ
A Whole New World – Peabo Bryson and
นี่เป็นเพลงต่อยอดความสำเร็จจาก Beauty and the Beast ในปีก่อน กลายเป็นเพลงฮิตระดับตำนานของวอสต์ดิสนีย์ แล้วคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ และออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งเวอชั่นไทยร้องโดย ธงไชย แมคอินไตย และ เสาวลักษณ์ ลีละบุตร
Aladdin หรือชื่อภาษาไทยว่า “อลาลินกับตะเกียงวิเศษ” ทำรายได้ไปทั่วโลก 504 ล้านเหรียญ คว้ารางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำ 2 รางวัล ซึ่งได้ในสาขาเดียวกัน ทั้งเพลงประกอบภาพยนตร์ และดนตรีประกอบภาพยนตร์
My Heart Will Go On – Celine Dion Ost. Titanic (1997)
เพลงระดับตำนานของ Celine Dion กับเมโลดี้ที่ทุกคนคุ้นหู แล้วคว้ารางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง โดยไม่ต้องมีข้อครหา แม้ว่าเพลงจะฮิตไปทั่วโลก แต่ยอดขายอัลบั้มยังไม่สามารถสู้กับเพลงประกอบภาพยนตร์ The Bodyguard ของ วิทนี่ย์ ฮุสตันได้
Titanic ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในช่วงนั้น ก่อน Avatar จะทำลายสถิติ ด้วยทุนสร้าง 200 เหรียญ เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน และนักแสดงนำอย่าง ลีโอนาโด ดีคาปริโอ และ เคท วินสเลต ทำรายได้ 2,185 ล้านเหรียญ คว้ารางวัลออสการ์ 11 สาขา รวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งไล่เลี่ยกันกับ Ben Hur (1959) คว้ารางวัลออสการ์ 11 สาขาเช่นเดียวกัน
When You Believe – Mariah Carey and Whitney Houston Ost. The Prince of
เป็นการร้องคู่ครั้งแรกของ มาราย แครี่ และ วิทนี่ย์ ฮุสตัน ประชันพลังเสียงจนกลายเป็นดังสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ติดชาร์ตสูงสุดอันดับที่ 15 ใน Billborad
The Prince of Egypt ภาพยนตร์แอมเมนิชั่นของค่าย ดรีมเวิร์ค ทำรายได้ไปทั่วโลก 218 ล้านเหรียญ คว้ารางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
You’ll be in My Heart – Phill Collins Ost. Tarzan (1999)
เป็นการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์อีกครั้งของ Phill Collins หลังจากร้องเพลงประกอบภาพยนตร์หลายๆเรื่องในช่วงยุค 80 เพลงนี้ได้รางวัลออสการ์ และลูกโลกทองคำ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
Tarzan ภาพยนตร์แอมเมนิชั่นชิ้นโบว์แดงอีกเรื่องของวอสต์ดิสนี่ย์ ทำรายได้ไปทั่วโลก 448 ล้านเหรียญ
Can You Feel the Love Tonight – Elton John Ost. The Lion King (1994)
เอลตัน จอหน์ ลองเชิงกับการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ในสไตส์ของเขา จนติดหูกลายเป็นเพลงในระดับตำนาน ชนะใจกรรมการคว้ารางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง
The Lion King ภาพยนตร์แอมเมนิชั่นระดับตำนานของวอสต์ดิสนี่ย์ ทำรายได้ไปทั่วโลก 951 ล้านเหรียญ คว้ารางวัลออสการ์ 2 สาขา ทั้งดนตรีประกอบภาพยนตร์ และเพลงประกอบภาพยนตร์ และรางวัลลูกโลกทองคำ 2 รางวัล สาขาภาพยนตร์เพลง/ตลกยอดเยี่ยม และดนตรีประกอบภาพยนตร์
Color of the Wind – Venessa Williams Ost. Pocahontas (1995)
เป็นการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องแรกของ วาเนสซ่า วิลเลียม นักร้องอาร์แอนด์บีชื่อดังยุค 80-90 กับเสียงเพลงคล้อยกับตัวละครเอกอย่าง Pocahontas จนลงตัว
Pocahontas ภาพยนตร์แอมเมนิชั่นชิ้นโบว์แดงอีกเรื่องของวอสต์ดิสนี่ย์ ทำรายได้ไปทั่วโลก 346 ล้านเหรียญ คว้ารางวัลออสการ์ 2 รางวัล ทั้งดนตรีประกอบภาพยนตร์ และเพลงประกอบภาพยนตร์
You must Love Me – Madonna Ost. Evita (1996)
เป็นการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ระดับชิ้นโบว์แดงของ มาดอนน่า กลายเป็นเพลงระดับตำนานของภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากเพลง Don’t Cry for Me Argentina จนชนะใจกรรมการ และคว้ารางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกเรื่องของเธอ
. Evita เป็นภาพยนตร์แนวเพลง-ดราม่า เรื่องราวเกี่ยวกับสตรีหมายเลข 1 จากที่เคยเป็นโสเภณีข้ามถนนในช่วงยุค 50 ทำรายได้ไปทั่วโลก 141 ล้านเหรียญ คว้ารางวัลออสการ์ 1 รางวัล และลูกโลกทองคำ 3 รางวัล ทั้งภาพยนตร์แนวเพลง/ตลกยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงแนวเพลง/ตลก และเพลงประกอบภาพยนตร์ ซึ่งมาดอนน่าคว้าไปครอง และเป็นผลการแสดงดีที่สุดของเธอ
Streets of
ร๊อคเกอร์มาดเท่ชื่อดังในยุค 80 Bruce Springsteen กับการลองเชิงร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องแรก จนประสบความสำเร็จ ติดชาร์ตสูงสุดอันดับ 9 ใน Billboard คว้ารางวัลออสการ์ และรางวัลแกรมมี่ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง
Men in Black – Will Smith Ost. Men in Black (1997)
ช่วงนั้นวิท สมิธ เป็นทั้งนักแสดง และนักร้อง ถือโอกาสร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ จนได้รางวัลแกรมมี่ สาขาเพลงฮิพฮอพยอดเยี่ยม และเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
Men in Black ภาพยนตร์แนวไซไฟ-แอ๊คชั่น-คอมเมดี้ ทำรายได้ไปทั่วโลก 589 ล้านเหรียญ และคว้ารางวัลออสการ์ สาขาแต่งหน้ายอดเยี่ยม
I Say a Little Prayer (For You) – Diana King Ost. My Best Friends Wedding (1997)
Diana King เจ้าของเพลงในตำนาน L-L-Lies เป็นเพลงคัฟเวอร์ของ Dionne Wareick ในปี 1967 ซึ่งเคยมาคัฟเวอร์มาหลายเวอชั่นแล้ว
My Best Friends Wedding ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ นำแสดงโดย จูเลีย โรเบิร์ต และเป็นผลงานแจ้งเกิดของ คาเมรอน ดิแอซ ทำรายได้ไปทั่วโลก 299 ล้านเหรียญ เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 3 สาขา
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลขากเว็บวิกิพีเดีย และพันทิป
กระทู้แนะนำ ภาพยนตร์ระดับตำนานในยุค 80
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2687959
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2556 / 15:18
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2556 / 16:17
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2556 / 17:23
PS. ชีวิตก็คือชีวิต คนที่เห็นค่าชีวิตถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ หากคนมองข้ามชีวิตถือว่าหลงลืมตัวตน ชีวิตต้องเลยตามเลย
9 ความคิดเห็น
ชอบทุกเพลงเลยเหมือนกัน ชอบทุกเรื่องเลยด้วย
PS. ความฝันยิ่งไกล กำลังใจยิ่งไม่สิ้นสุด
ไททานิคมีแน่ๆ
PS. นิยายแฟนตาซีได้แรงบันดาลใจจากเกมออนไลน์ที่สนุกที่สุด!!! http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=733595
ติดหูทุกเพลงเลยยยยยย
ชอบมากๆโดยเฉพาะเพลงประกอบการ์ตูน ร้องได้ทุกเพลงเลย > <
PS. * [ preawztist ; =')
I'm proud to be the '90 kid !!!
I don't wanna miss a thing - AEROSMITH  OST. ARMAGEDDON (1998)
อย่าลืมเพลงนี้เชียววว
Lion king
Titanic
ชอบมากๆ อ่ะ
ส่วนเพลง When you say nothing at all ฟังตั้งแต่เด็กจนโต เพราะมากอ่ะ แปลไม่ออก แต่ซึ้ง 55
PS. Run 4 your love
ชอบมาๆเลยค่า ขอบคุณนะคะ >,<
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?