(ว่าด้วยกระแสคู่กรรมกำลังมา) มาเล่าเรื่องปู่ย่าตายายสมัยสงครามโลกกันเถอะ!
ตั้งกระทู้ใหม่
เห็นว่าคู่กรรมใกล้จะออกแล้ว เราเลยมาเล่าเรื่องฉบับปู่ย่าตายายของเรากันบ้างดีกว่า ^^
เริ่มด้วยเรานะคะ เราไม่เคยอ่านคู่กรรมหรอกค่ะ แต่พอไปนั่งอ่านเรื่องย่อ เรารู้สึกว่าทำไมคล้ายกับทวดของเราจัง
ตอนสงครามโลก ทวดของเราเป็นนายช่างญี่ปุ่นเกี่ยวกับทางรถไฟ (โกโบริเป็นเกี่ยวกับทางเรือใช่มั้ย 555)ค่ะ ตอนแรกเขาโดนส่งไปที่ไซบีเรีย (ไม่แน่ใจว่าทำไมเหมือนกันนะ เห็นว่าจะทำรางรถไฟอะไรสักอย่างคือเราฟังปู่เราเล่ามาอีกทีค่ะ) ไซบีเรียอากาศหนาวมาก เห็นบอกว่าทวดหนาวจนเลือดออกหู (มันเกี่ยวมั้ยเนี่ย) ก็เลยขอย้ายที่ประจำการไปที่ประเทศอื่นค่ะ เขาก็เลยถูกส่งตัวมาที่ประเทศใจกลางในเอเชียอาคเนย์นามว่าประเทศไทยนั่นแหละค่ะ
เอ่อ...นั่นแหละค่ะ
แล้วคนอื่นล่ะคะ วีรกรรมปู่ย่าตายายในช่วงสงครามโลกเป็นยังไงบ้าง เอามาเล่าสู่กันฟังได้ค่ะ
PS. Blitzkrieg เรียกผมว่า...ผู้ก่อการร้าย! http://writer.dek-d.com/Trish/writer/view.php?id=703751
10 ความคิดเห็น
กระแสนี้มาแรงจริงๆ เมื่อเพิ่งได้ยินเพื่อนเล่าเรื่องปู่ย่าตาทวดอยู่ แอบได้ยินมา แต่ไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่ รู้แค่ว่าท่านเป็นคนจีนแต่ดันทำเนียนว่าเป็นคนญี่ปุ่น ทำอีท่าไหนไม่รู้ด้วยนะ 555 แต่ถ้าถามว่าที่บ้านเราเป็นยังไงก็คงตอบได้แค่ 'ไม่รู้' ไม่มีใครเล่าให้ฟัง T^T
ก่อนที่ตาจะเสีย ตาเคยเล่าให้ฟังว่า หลังสงครามโลก ได้มีทหารญี่ปุ่นนำเอาพวกอุปกรณ์ เช่น อาวุธ ดาบ หมวก(แบบโกโบริ) ผ้าอะไรสักอย่าง (คิดว่าน่าจะเป็นผ้าปูพื้นสนามนะ เพราะเห็นแม่บอกว่ามันหนามาก และหนักเป็นกิโล) มาแลกกับเสบียงเพื่อความอยู่รอด
บางคนก็มีครอบครัวอยู่แถวนั้น บางคนไปไหนต่อไม่ได้ก็ฆ่าตัวตาย
ป.ล.เสียดายที่ตอนนี้ ของที่แลกมา ก็กระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆ ถ้ามีของพวกนี้เก็บไว้บ้างคงจะเป็นแรร์ไอเทม
PS. Tu me manques tout seconde de mon respire
แต่เอามาเล่าสู่กันฟังคงไม่เสียหายเนอะ :)
เราเป็นคนภาคเหนือค่ะ ตอนช่วงที่ทหารญี่ปุ่นเดินทัพผ่านไทย ยายของเรามีอายุประมาณ 17 - 18 ปี กำลังเป็นสาวสะพรั่ง ซึ่งคนแถวบ้านเราสมัยนั้นเนี่ย อายุสัก 14 - 15 ก็แต่งงานมีลูกมีเต้าแล้ว
แต่ยายยังโสดนะ
เรามารู้เรื่องนี้ตอนที่ออกไปดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านช่วงสงกรานต์ค่ะ
(คือธรรมเนียมของเราเนี่ย เวลาถึงวันรดน้ำดำหัว เด็กๆ แต่ละบ้านจะต้องออกไปรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านทุกคน ไม่ว่าจะเป็นญาติกันหรือไม่ก็ตาม)
ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่หลายท่าน เวลาถามไ่ถ่รู้ว่าเราเป็นลูกใครหลานใคร ก็จะชอบแซวแนวว่า ยายตอนเป็นสาวๆ สวยมาก เคยมีทหารญี่ปุ่นมาจีบ แต่ยายกลับไปลงเอยกับตาขี้เหล้า ( ซึ่งหมายถึงตาของเราเอง ท่านดื่มเหล้าจัดมาก )
เราก็เลยไปถามยายว่าจริงหรือเปล่า
ยายบอกว่าจริง ทหารคนนั้น ชาวบ้านเรียกกันว่า "เมียงเก๊ะ" ( อันนี้เราว่าน่าจะเป็นการเรียกชื่อตามสำเนียงพูดของชาวบ้าน ถ้าเป็นชื่อญี่ปุ่นจริงๆ ของเขา เราว่าคงจะเป็นมิคาเกะ... หรือมิคาเงะ ล่ะมั้ง... ) แต่สุดท้ายยายก็เลือกที่จะไม่ไปอยู่กับเขา
เราถามยายว่าทำไม ยายก็บอกแค่ว่าเราคงอยู่ด้วยกันไม่ได้ พูดคนละภาษา คิดคนละแบบ
ฟังดูแล้วมันก็น่าเศร้านะ...
PS. Es lebe das heilige Deutschland!
ตาผม(ซึ่งเสียไปแล้ว)เคยเล่าให้แม่ฟังว่า...
สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จะว่าโหดร้ายก็โหดร้าย จะว่าสนุกก็สนุก มันโหดร้ายตรงที่ทุกคนต่างทำสงครามและมีความทุกข์ แต่มันสนุกตรงทุกคนจุดฟืนไว้ตามป่า ทหารฝรั่งก็โง๊โง่เห็นไฟตรงไหน มันทิ้งระเบิดจากเครื่องบินตรงนั้น... แถมถ้ามันเห็นไฟตรงไหนมันก็เดินไปตรงนั้น พวกตาก็รุมประทันด้วยบาทาอย่างรวดเร็ว ตาพูดงี้เลยเรอะ ฮาาา
PS. อลิซาเบธเฟ้ย ไม่ใช่ อลิซาเบะ...
ยายผมเล่าว่าหลบระเบิดที่บังเกอร์ลูกเดียว ตอนทหารพันธมิตรทิ้งระเบิด (ทำไมมันทิ้งบ้านนอกหว่า ไม่ทิ้งจุดยุทธศาสตร์เรอะ)
PS. สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
ยายผมเล่าว่า ตอนสงครามนั้นนะ นั้นแหละๆ "โกโบริคือไผว่ะ บักหลานเอ้ย" แหงะ เค้าว่างั้นแหละ 555+
PS. ความมืด....มีอะไรอยู่ข้างในนั้นหรอ...ลึกลับใช่ไหม...น่าค้นหาใช่ไหม...มาสิ...อย่ากลัว....ความมืดไม่เคยทำร้ายใคร....
ยายผมก็หลบระเบิดลูกเดียว สำหรับครอบครัวผมสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่มีอะไรดี ไม่มีวีรกรรมอะไรเลย จนกระทั้งหนังเรื่อง saving private ryan ออกมา...เพราะมันสนุกดี
PS. Do you know what "War" and "Law" have in common? It's not about who's right. It's about who's the winner.
ยายเราจำเรื่องสมัยสงครามโลกไม่ได้T_T เคยพยายามถามตั้งหลายครั้ง(ท่านก็อายุ 86 แล้วนี่นะ)
น่าเสียดายจัง... แต่ยายเคยหลุดๆ ออกมาประมาณว่าเครื่องบินบินเต็มท้องฟ้าไปหมด แล้วยายก็บอกว่าจำไม่ได้ๆ ไปถามคนอื่นไป๊!(ซะงั้น)
PS. มาช่วยกันลดโลกร้อนกันเถอะ!!!
เคยขอให้ปู่เล่าแฮะ แต่ครานั้นคุยทางโทรศัพท์ฟังยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย
ปู่บอกปู่เหนื่อยเท่านี้ละแต่ถ้าคู่กรรม (ปู่ กะ ย่า) อันนี้ได้ฟังปู่บ่นมาเยอะเหมือนกัน 555
PS. you can touch you can play if you say i'm always yours
ยายผมบอกว่า  ตอนนั้นแถวที่ยายอยู่ไม่มีบังเกอร์เลยต้องไปหลบในวัด  เวลามีเครื่องบินของฝรั่งบินผ่านมาเขาก็จะเอาทุกคนไปนั่งไหว้ขอให้มันไม่ทิ้งระเบิดลงมา
แต่แหม  มันก็ไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์อะไรอ่ะนะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?