จิตวิทยาสาขาไหนดีที่สุด ?
ตั้งกระทู้ใหม่
เอกงับ
30 มี.ค. 56 เวลา 19:18 น.
1,097
views
11 ความคิดเห็น
เรื่องนี้แล้วแต่ว่าชอบสาขาไหนครับ ดีทุกสาขาอยู่ที่ว่าเราถนัดทางไหน อยากเรียนทางไหนมากกว่า
เห็นด้วยจ้า ส่วนตัวแล้วว่าดีทุกสาขานะ แล้วแต่ชอบ ^^
เรื่อง การงานที่ไม่ทราบไม่เท่าไหร่
เอาที่ชอบจ้า
แต่เราลง จิตอุตสาหกรรม
ไม่มีอะไรดีสุดหรอกจ้า
อยู่ที่ชอบและงานที่อยากทำ
คงไม่เหมาะถ้าจะนำมาเปรียบเทียบกัน เดี๋ยวมีดราม่า เอ้ย ไม่ใช่
เจ้าของกระทู้ถามแบบนี้มันก็เหมือนกับถามว่า ลิควิด ปากกา ดินสอ ยางลบ อย่างไหนดีกว่ากัน
จริงๆ แล้ว จะบอกให้ทราบว่า สาขาต่างๆ ของจิตวิทยา มันมีลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละสาขา
คุณประโยชน์ของแต่ละสายก็ต่างไป
จิตคลินิก เน้นศึกษาพฤติกรรมอปกติ - ไปทำงานบำบัดคนไข้ (คนไม่ปกติ)
จิตอุตสาหกรรมและองค์การ เน้นศึกษาพฤติกรรมในที่ทำงาน - ไปทำงานพัฒนาศักยภาพคนปกติ
จิตวิทยาพัฒนาการ เน้น ศึกษาพฤติกรรมแต่ละช่วงวัย - ไปทำงานตามสถานพินิจวัยเด็ก/ชรา ฯลฯ
ความแตกต่างประมาณนี้
เพราะฉะนั้นคงต้องถามตัวเราเองแล้วหล่ะ เรา"ชอบ"ทำงานอย่างไหน
เนื้อหาไหนที่เราชอบที่สุด ก็ไปเรียนสายนั้นครับ แล้วจะรุ่งเอง
รุ่งไม่รุ่งอยุ่ที่ตัวเรานี่หละ ทำมันให้ดี พอเก่งๆ แล้วก็ไปสมัครทำงานที่ดังๆ เดี่ยวเงินก็มาเอง
สรุปคือ ไม่มีสาขาไหน"ดี"ไปกว่ากัน เพราะทุกสาขาต่างเอื้อความรู้
มาใช้ประโยชน์เช่นกันหมด แต่จุดประสงค์การนำไปใช้ต่างกัน แค่นั้นเอง
PS.
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นมากๆ ทำให้ความคิดเปลี่ยนเลยยย
เคยมีอาจารย์จากธรรมศาสตร์ตอบคำถามหัวข้อนี้ไว้แล้วด้วยครับ
ลองคลิกดูครับผม
(รับชมตั้งแต่ตอนนาทีที่ 1.34 เป็นต้นไปเลยคร้าบ)
PS.
มันแล้วแต่เราชอบหนะครับ
ลองศึกษาดูดีๆว่า แต่ละสาขามีวิชาต่างกันยังไง
แต่ถ้าดีที่สุดผมคิดว่าคงเป็น จิตวิทยาคลินิก
เพราะมีการสอบใบประกอบศิลป์ไรด้วยนี้แหละ
ทำให้มีความน่าเชื่อถือมากกว่าสาขาอื่นๆ
แต่ส่วนตัวผมจะเลือกแบบ สาขาที่มันเรียนของทุกสาขาอ่ะครับ
ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไรจำไม่ได้555 แต่มันเรียนหมดเลย
เราจะได้รู้ของแต่ละสาขา ชอบอันไหนก็ต่อโทต่อเอกอันนั้น
สรุป สาขาที่ ดี ในความสหมายของน้องคือไรหละ
เห็นถามว่าเอาที่เรียนแล้วรุ่งๆ รวยๆ
ถ้ารุ่ง + รวย อันนี้ยังไงก็ต้องจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การแน่นอน
เพราะว่าสายอาชีพ HR นั่นเอง ซึ่งสาขาอื่นของจิตวิทยาอื่นๆอาจเรียนมาไมตรงเท่าจิตอุต
ลองไปดูวิเคราะห์แนวโน้มรายได้อาชีพตามเว็ยบฝรั่งจะรุ้ว่าสายงานนี้มาแรงกว่าที่คิด
แล้วในไทย ทุกบริษัทต้องการพัฒนาคน หรือ put the right man to riht job อีกไม่นานก็บูม
แต่ถ้าสาขาที่ดี ก็คงคลินิกมั้ง เพราะดูเป็นการช่วยเหลือคน มากกว่า แล้วก็ต้องทุ่มเทมากกว่า เรียนแล้วยังต้องไปสอบใบประกบโรคให้ผ่านอีก ไม่งั้นทำงานไม่ได้
ส่วนสาขาอื่นไม่มีใบประกอบโรค ไม่ใช่ว่าดูไมใ่น่าเชื่อถือแบบ คห บนพูดนะ
Mr. Neil  พูดผิดนะ เพราะนักจิตวิทยาแต่ละสาขามันแตกต่างกัน ที่สาขาคลินิกต้องมีใบประกอบ
เพราะเป็นจรรยาบรรณในการเข้าไปรักษาคนป่วย แล้วยังต้องไปทำงานเทียบเท่าแพทย์ ถ้าไม่มีความสามารถก็ไปทำไม่ได้ เขาเลยจัดสอบใบประกอบขึ้นมา
ส่วนสาขาที่มีแนวโน้มโดนยุบคือจิตวิทยาการปรึกษา
เพราะอีกหน่อยการแพทย์พัฒนา คนจะไม่ต้องมารับฟังมาคุยแล้ว
แค่ซื้อยาแก้หดหู่ไปกินก็หายแล้ว ไม่ต้องมาเข้าบำบัดก็ได้ ตอนนี้เขากำลังวิจัยกันอยุ่อะ
ขอแก้ความเข้าใจผิดของความเห็นก่อนหน้านี้หน่อยนะครับ ที่ว่าจิตวิทยาการปรึกษาน่าจะโดนยุบนี่น่าจะเป็นความเห็นที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงครับ ถ้าเราอยู่ในวงการแพทย์หรือสายพัฒนามนุษย์จริงๆจะพบว่าตอนนี้จิตวิทยาการปรึกษาเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก จำเป็นจนบุคลากรทางการแพทย์แทบทางสาขาวิชาจะต้องมาฝึกทักษะพื้นฐานไว้ทีเดียว เนื่องจากเราพบว่าโรคภัยไข้เจ็บมากมายมีผลมาจากจิตใจไม่ว่าจะรักษาทางกายเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึน แต่พอได้รับการเยียวยาทางจิตใจกลับพบว่าอาการดีขึ้นมาทันที จิตใจคนไม่ใช่เรื่องง่ายครับที่เราจะกินยาอะไรเข้าไปแล้วก็จะไปเปลี่ยนแปลงได้ ยาเป็นตัวช่วยให้การทำงานของระบบร่างกายกลับสู่ภาวะสมดุลย์ แต่ถ้าจิตใจไม่ได้รับการเยียวยา ร่างกายก็กลับมาแย่ได้อีกครับ ลองคิดตามความเป็นจริงนะครับว่าถ้าเราทะเลาะกับแม่ โกรธเพื่อน โดนแฟนทิ้ง ตกงาน จะมียาอะไรมาช่วยไม่ให้ทุกข์ใจได้ล่ะครับ
ส่วนคำตอยที่จะบอกเจ้าของกระทู้นี้คือ ถ้าน้องต้องการเรียนสาขาที่ทำให้มีงานและเงินดีๆ พี่บอกได้เลบว่ามันไม่ได้อยู่ที่สาขา งานและเงินจะเป็นผลพวงมาจากคุณภาพของตัวน้องเอง ถ้าเราเชี่ยวชาญในสาขานั้นๆจริง รักและเคารพในวิชาชีพของตนเอง น้องจะสร้างงานดีๆขึ้นมาได้และเงินมันจะเป็นผลพลอยได้มาเองครับ
แล้วจิตวิทยาชุมชน มก. เค้าเรียนไรกันอ่าครับ จบแล้วทำไรคับ ขอรุ่นพี่ๆช่วยชี้แนะด้วยนะครับบบ...
มาเสริม คห 8
สาขาที่ต่อไปที่นักวิชาการเก็งไว้ว่าอาจจะดับ คือ จิตวิทยาพัฒนาการ
เพราอะไร ?
สังเกตได้จากปัจจุบันเลย สังคมเปลี่ยนแปลง
ยุคดิจิตัลเติบโมากขึ้น เด็กโตเร็ว รับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาในีวิต
แต่ขณะที่คำราเรียนของจิตวิทยาสาขาดังกล่าวยังเป็นของ albert bandura ซึ่งเป็นนักจิตวิทยายุคเก่ามากกกกกกกกกกกกกกกกก สมัยยังไม่มีเน็ต  นั่นก็แปลว่าเขาไม่ได้ศึกษาเลยว่าแต่ละช่วงวัย มันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอนาคต
ยกตัวอย่างเช่น
ในตำราจิตพัฒนาการบอก วัยเด็กส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านตัวแบบ
แต่สมัยนี้ปี 2013 มันพัฒนาไปไกลแล้ว
เด็กไม่ได้เรียนรู้จากตวแบบ สมัยนี้เรียนรู้จาก kidzania ก็ได้
แบบสัมผัสปรนะสบกาณณ์จริง เห็นไหมว่าเขา(นักจิตวิทยาพีฒนาการ)ไม่ได้ศึกษาและมองอนาคต
แต่ยังใช้ตำราเก่าๆอยู่ (ลองไปเปิดหนังสือเรียนดูได้ ว่าบรรณานุกรมอ้างอิง ทั้งหมด เขาก็ยังใช้ของศตวรรษที่ 19 ซึ่งมันไม่ทันกาลสมัยนี้)
อีกอย่าง ณ ปัจจุบัน การแพทย์ดีขึ้น
ส่งผลให้ "คนชรา" ตายช้าลง ณ จุดนี้ก็จะไปแย้งกับจิตพัฒนาการในมสัยก่อนนั้นในยุค 19xx ที่ถือว่าการแพทย์ยังไม่ดีพอ คนเลยตายเร็ว เขาก็เขียนฟิกไว้ว่า 60 ก็ตาย แต่จริงๆ ขณะนี้มันไม่ใช่
มันต่างไปเยอะ
เพราะฉะนั้นสาขาที่มีแนวโน้มโดนยุบก่อนเพื่อน
คือ จิตวิทยาพัฒนาการ
(จริงๆ ตอนนี้มันก็เริ่มล้าหลังไปแล้ว )
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?