Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(เรื่องของเรื่อง)ที่เหมือนจะดราม่า เคล็ดลับการแต่งนิยายเนี่ยนะ!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เผลอแว๊บไปอ่านมา ช่วงหลังเลยไม่ค่อยแวะเวียนเข้าบอร์ด

จริงๆเอ่อ ที่น้องเขาแนะนำไปเขาคงจะหมายถึงแนะนำมือใหม่ล่ะมั้ง

ก่อนจะตั้งกระทู้นี้คิดอยู่หลายตลบเหมือนกัน (กลัวจะโดนด่า) ไหนๆก็เอางั้นลองวัดใจบอกเคล็บแบบ

ที่คิดว่าไม่นั่งเทียนแล้วกัน 

1. ชื่อเรื่อง ตั้งให้สะดุด ไม่ยาวไปไม่สั้นไป แต่แฝงด้วยความหมายตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง

เช่น รสรักพิศวาส แค่อ่านชื่อเรื่อง มันก็อย่างว่าทั้งเรื่องอะไรประมาณนี้

2.ตัวละครเป็นใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ชำแหละมาให้ละเอียด เพราะเคยมากับตัว 

เขียนนิยายที่ซ้ำปนกันไปมาจนแยกแยะไม่ออก คนอ่านก็พลอยงงไปด้วย

ใช้จินตนาการปลุกปั้นตัวละครเหมือนมีชีวิต ทำยังไง? อธิบาย นางเอกชื่อ ส้มหวาน เกลียดนั่น


ชอบนี่ ชอบกินน้ำร้อน ไม่กินน้ำแข็ง อะไรประมาณนี้มันจะทำให้เราจับจุดของตัวละครไม่ให้ไกลออก

ปากอ่าว

3.ผูกปม นิยายจะสนุกหรือไม่สนุก ขึ้นอยู่กับการผูกปมในบทนำของไรเตอร์ว่ามีจุดอะไร ที่ทำให้นักอ่าน

ได้ลุ้น ได้ติดตามหรือเปล่า

4.ปม ภาคสอง หลังจากปมแรกๆทำท่าจะคลี่คลาย ทำไงดี?หน้านิยายยังไม่พอส่งต้นฉบับ ก็ผูกปมต่อไป

สอดตัวละครขึ้นมาใหม่ แต่อย่าลืมว่าตัวละครนั้นๆมีอะไรเกี่ยวข้องก่อนหน้านั้นหรือไม่

ไม่ใช่จู่ๆมาก็ยิงนั่น นี่ แล้วก็หายไปจากหน้านิยาย แบบนี้อารมณ์คงค้างกันระนาว

5.บทสรุป นักเขียนใช่ว่าจะแต่งเอาสนุกอย่างเดียว สังเกตนักเขียนชื่อดังหลายท่าน มักจะมีคติเตือนใจ

ให้ข้อคิดดีๆ อย่างเช่น รสรักพิศวาส(ถนัดแนวนี้รึไง ^^) จะจบแบบไหนดี ดราม่าไหม แฮปปี้ไหม

จบแบบเรียกน้ำตา?แล้วอะไรล่ะคือความสูญเสีย 

6.เรื่องความมั่นใจ อยากฝากนักเขียนหน้าใหม่หลายๆท่านว่า อย่าพกความมั่นใจมาให้มากนัก

โดยเฉพาะเรื่องคำผิดถูก ที่ควรจะตรวจทานให้ถี่ถ้วนเสียก่อน

โดยเฉพาะคำทับศัพท์ที่มักเขียนผิดกันอยู่เสมอ และกับนักเขียนที่ได้ตีพิมพ์บางท่าน

(ไม่ทราบว่าผ่านการตรวจอักษรมาได้ยังไง) เพราะคำทับศัพท์เราควรยึดหลักตาม

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

สุดท้ายขอฝากนักเขียนหน้าใหม่ๆ ที่นึกบทบรรยายไม่ออกแล้วก็อีโมติคอนเกลื่อนหน้ากระดาษแบบนั้น

ลองหาอิมเมจสวยๆ ตามเว็บต่างๆ แล้วลองนึกภาพจินตนาการ

อย่างเช่นภูดาว   เราเห็นอะไรในภาพ ก่อนจะบรรยาย เราต้องมองให้ออก

เห็นดวงอาทิตย์ ต้นไม้ใหญ่ ทะเลหมอก ภูเขา ....เราเห็นแค่นี้ในภาพจะบรรยายยังไงล่ะ ก็สุดแท้ความ

บรรเจิดของนักเขียนเอง

เช่น ในยามเช้าของทุกวัน ท่ามกลางทะเลหมอกหนาทึบที่ปกคลุมแผ่อาณาบริเวณครอบคลุมภูเขาแฝดสองลูกที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า พร้อมกับเผยแสงสีทองปนส้มทอดระยาวทะลุผ่านช่องว่างของต้นไม้ใหญ่ ส่งผ่านไออุ่นให้แก่ทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้.....


ด้วยความเคารพ สุดท้ายนี้ไม่อาจเอื้อมเป็นนักเขียนที่เก่งกาจ

แต่ถ้าหากขาดเหลืออะไร แนะนำทริคเพิ่มเติมได้นะ(ดักทางดราม่า55)


PS.  คนบางคนเกิดมาเพื่อถูกรัก แต่ใครบางคนเกิดมาเพื่อที่จะรัก

แสดงความคิดเห็น

>

23 ความคิดเห็น

ซ่อนนาม 6 เม.ย. 56 เวลา 22:13 น. 1

...กระทู้นั้นถึงจะเป็นคำแนะนำถึงมือใหม่ มันก็ยังผิดอยู่ดี


ส่วนกระทู้นี้... ก็เป็นแนวทางหนึ่งนะ จะว่าผิดก็ผิดได้ จะว่าถูกก็ถูกได้
ขึ้นกับมุมมองของผู้เขียนว่าจะเลือกแนวทางไหน และมีสไตล์แบบใด

ทว่ากว่าครึ่ง เราไม่ได้ยึดหลักแบบที่ท่านว่ามาในบทความนี้


PS.  ถ้าถูกผิดคือขาวกับดำ แล้วสีอื่นจะให้อยู่ในหมวดไหน ดังนั้นโลกนี้มีแค่ถูกผิดจริงหรือ ?
0
Prisma Dominatus 6 เม.ย. 56 เวลา 22:19 น. 2

ผมจำได้แค่ว่า...กระทู้นั้น ผมเข้าไปฮาอย่างเดียว
แหม...ก็หลายท่านจัดหนัก ทั้งหนักเนื้อหา หนักภาษา หนักใจ
แต่ก็เพียงพอแล้วเลยเล่นอะไรเบา ๆ

ในกระบวนการเขียนนั้น ผมว่า แรกเริ่มมือใหม่ยากมากครับ ผมมีข้อแนะนำข้อเดียว

1. อึด สุด สุด (sud sud - อ่านได้ 2 แบบ)
เพราะเขียนรอบแรก 90% มันจะไม่สนุก มันจะโดนด่า โดนติ โดนยำแหลก
อย่ายอมแพ้...กัดฟันปรับปรุง ต่อให้ไม่สนคำวิจารณ์เลย รอบสองมันก็จะดีขึ้น
สัก 5 รอบ งานจะสวยแล้วครับ ขอแค่ ไม่ยอมแพ้


PS.  Do you know what "War" and "Law" have in common? It's not about who's right. It's about who's the winner.
0
sweetpeaz 6 เม.ย. 56 เวลา 22:23 น. 3
ฮ่าฮ่าฮ่า รอบนี้ ก็เข้ามาฮาอีกรอบ เดี๋ยวยาว พอดีหลงเข้ามา เจอเนื้อหาเกี่ยวข้องกับกระทู้ก่อน ( เป็นหนึ่งคนที่ตอบ )

ให้แนะนำ ก็ แต่งไปตาม "ฟิลลิ่ง" อะ เขียนคู่มือเคล็ดลับนา ๆ ไป น้อยคน ที่จะอ่านแล้วนำไปใช้จริงได้หมด
เรื่องภาษามันก็ต้องพัฒนาด้วยการอ่านแล้วก็อ่านแล้วก็อ่าน ศึกษาไป แต่งไป แล้วก็ค่อย ๆ แก้ไปทีละนิดทีละหน่อย

เราเอง ก็ยังไปไม่ถึงจุดที่เรียกว่า "ประสบความสำเร็จแล้ว" จึงแนะนำได้เพียงเท่านี้ เพราะกำลังอยู่ในช่วง W.I.P

Working in Progress ~ สำหรับนักเขียน สิ่งที่ขาดไม่ได้ คิดว่า หนึ่ง คือ ใจที่รักในการเขียน ตามด้วย ความอดทน


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 6 เมษายน 2556 / 22:29

PS.  Love Chronicle : The Memoir & Divergence in Time ☆ ฝากด้วยนะฮับ : http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=912566
0
black.rainbow 6 เม.ย. 56 เวลา 22:24 น. 4

ผมว่าเคล็ดลับควรจะนำเสนอสุดๆ สำหรับการแต่งนิยายน่าจะเป็น

ทำยังไงไม่ให้จิตหลุดระหว่างเขียนนิยาย ไม่คันไม้คันมือ เล่นเกม เปิดเฟชบุ๊ค ท่องเวบ ตอบกระทู้บอร์ด

0
A-M@ZE 6 เม.ย. 56 เวลา 22:29 น. 5

คำแนะนำท่านดีฮะ 

แต่อยากขอคำแนะนำเวลาที่แต่งนิยายแล้วรู้สึกเบื่อจนแรงใจที่จะแต่งตอนต้นหายไปฮะ   


PS.  
0
iSnow 6 เม.ย. 56 เวลา 22:37 น. 6

อืมม... เคล็ดลับ??

ขอแชร์

1. อ่านรู้เรื่อง ตามทัน
2. ตัวละครน้อย
3. ช่วงแรกสนุก (...ช่วงหลังสนุกด้วยจะเทพมาก)
4. เข้าถึงอารมณ์ (ดราม่า)
5. พล็อตสมเหตุผล
6. มี irony
7. คำนึงถึงกลุ่มเป้าหมาย ถ้าคิดจะแต่งให้คนกลุ่มนี้อ่าน ก็ทำให้ถูกใจนิดนึง
8. นักเขียนพร้อมฝ่าฟันอุปสรรค

0
นอท์นา 6 เม.ย. 56 เวลา 22:38 น. 7

#1

จริงๆแล้วทริคการเขียนมันมีมากมายก่ายกอง

อย่างที่ท่านซ่อนว่า มันขึ้นอยู่กับสไตล์การเขียน มันไม่สามารถจำเพาะเจาะจงลงไปได้

ว่าอันนี้นะ ถูกต้องนะ สิ่งสำคัญคือนักเขียนต้องมีความใฝ่รู้ และรักที่จะเขียน 

และพัฒนางานเขียนให้ดียิ่งๆขึ้นไป



PS.  คนบางคนเกิดมาเพื่อถูกรัก แต่ใครบางคนเกิดมาเพื่อที่จะรัก
0
sweetpeaz 6 เม.ย. 56 เวลา 22:38 น. 8
@ 5 :: พูดยากนะคะ เพราะเราเองก็เป็นบ่อยมาก แต่ต่างคนก็ต่างมีวิธีรับมือและแก้ปัญหาของตัวเอง เพราะฉะนั้น อันนี้ คุณต้องไปหาคำตอบของคุณเองแล้วล่ะค่ะ หาอย่างอื่นทำ ฟังเพลงกระตุ้น ( ถ้าแต่งแฟนตาซี ก็แว่บไปฟังเพลง Anime หนัก ๆ ไรแบบนี้ ) หรือหานิยายอื่นอ่าน หนัง ซีรี่ย์ anime ดู ~ แต่สุดท้าย ! ก็ต้องเอาชนะตัวเองฮับ !

PS.  Love Chronicle : The Memoir & Divergence in Time ☆ ฝากด้วยนะฮับ : http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=912566
0
timmy 6 เม.ย. 56 เวลา 22:42 น. 9

@4 มันไม่ง่ายจริงๆนะท่าน เพราะเวลาเปิดบอร์ดนี้ทีไรเป็นต้องเข้าไปส่องสักบอร์ดสองบอร์ด สุดท้ายยาวเป็นชม.ทุกที...


PS.  เกิดมาต้องมีดับ ใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้นค่า! แต่นิยายตูยังคิดพล๊อตไม่ได้เล้ย!
0
นอท์นา 6 เม.ย. 56 เวลา 23:05 น. 10

และแล้วกระทู้นี้ก็ดักทาง(ห้ามดราม่าได้สำเร็จ)????สงสัยต้องแนะนำน้องๆ

ที่เขามาใหม่ ระวังอกอีแป้นจะแตกตาย เพราะเว็บบอร์ดนักเขียนเด็กดี ฮาาาาา


PS.  คนบางคนเกิดมาเพื่อถูกรัก แต่ใครบางคนเกิดมาเพื่อที่จะรัก
0
❥deciMo.spirIt< 6 เม.ย. 56 เวลา 23:15 น. 12

ถึง คห.5 ประสบพบเจอปัญหาแบบนั้นเหมือนกันเลยเจ้าค่ะ ;w; 
ไม่มีอะไรจะแนะนำ แค่มาส่องดูเฉยๆ จะถูกดักตบโทษฐานตัวเกะกะบอร์ดมั้ยเนี่ย ฮาาาาา~


PS.  การไล่ตามความฝันของตัวเองและทำในสิ่งที่รัก บางที....มันก็เป็นชนวนที่ทำให้เรา...ต้องแตกหักและต้องฝืนทนกับคนที่รักก็ได้...
0
รวิญาดา 6 เม.ย. 56 เวลา 23:24 น. 14

บอกได้เพียงว่า อยากเขียนจงเขียน �

เพราะคิดมากมักจะพาลเขียนไม่ออก�

มัวแต่ลังเลว่าตรูจะเขียนแล้ว ดีไหม สนุกไหม ไม่ได้เริ่มก็หมดกำลังใจแล้ว ไม่มีใครเขียนแล้วออกมาดีตั้งแต่ครั้งแรกหรอก มันต้องผ่านการแก้ไขทั้งนั้น ต้องกล้าให้คนอ่าน ให้เขาวิจารณ์ แล้วกล้าที่จะปรับปรุงแก้ไข �

ทฤษฎีมากก็เขียนไม่ได้ดี�

บางทฤษฎี ปฏิบัติได้ยากหากไม่เข้าใจ พูดได้ รู้มาก แต่ใช่จะทำได้ตามนั้น เหมือนที่เขาว่า ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด

รู้แนวที่จะเขียน ไม่ใช่ยำเละแล้วหาแก่นสารไม่ได้ (เราสนุกคนอ่านไม่สนุกด้วยนะ)�

คาแรกเตอร์สำคัญมาก ต้องรู้จักตัวละครของตัวเอง เหมือนเรารู้จักนิสัยของเราเอง (อันนี้สำคัญ ข้าพเจ้าก็ทำได้ไม่ค่อยดีนัก ยังฝึกฝนอยู่ทุกวัน)�

พลอตกับการดำเนินเรื่อง ต้องคิดให้เบ็ดเสร็จไม่ใช่ไปตายเอาดาบหน้า (บางทีพลอตไม่ต้องผูกปมมากมายจนตามแกะไม่ไหว หรือลืมคลายปมตอนจบ)

คำถูกคำผิด แก้ไขตรวจทานได้ในตอนรีไรต์ และสนพ.มีพิสูจน์อักษรมากรองขั้นสุดท้ายให้อยู่แล้ว�

(งานที่อัพในเว็ปบางคนไม่ได้แก้ไขตรงนี้ เขียนสดอัพสดก็มี ตัวอย่างข้าพเจ้าเป็นต้น คำผิดบาน)

นี่เป็นวิธีการทำงานของข้าพเจ้า ซึ่งอาจไม่ใช่แบบที่ใครหลายๆ คนทำกัน

มาเขียนตอบกระทู้เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ ไม่ใช่ต้องการสอนใคร (อย่าดราม่านะ เค้านอยด์)

อยากบอกว่า ทำในสิ่งที่รัก รักในสิ่งที่ทำ มีความสุขก็พอ อย่าหวังอะไรเกินตัว�\"\"
















PS.  อยากเขียนจงเขียน เพราะเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
0
นอท์นา 6 เม.ย. 56 เวลา 23:34 น. 15

@14กรี้ดดดดดดคุณรวิมาตอบคอมเม้นเองเลยยยย


PS.  คนบางคนเกิดมาเพื่อถูกรัก แต่ใครบางคนเกิดมาเพื่อที่จะรัก
0
iSnow 6 เม.ย. 56 เวลา 23:35 น. 16

@14 พูดถึงทฤษฎี...

เราเชื่อว่าทฤษฎี มีคู่กับการปฏิบัติจะดีค่ะ

แต่ปัญหาตอนนี้คือ ทุกคนมีแต่ทฤษฎี น้อยคนที่จะพิสูจน์ได้ว่าทฤษฎีที่พูดมาจริง อาจจะมีทฤษฎีผิดๆปนมาเยอะ แถมยังยากรากเลือด ที่จะพิสูจน์ว่าทฤษฎีการเขียนแบบไหน ถึงจะดีจริงๆ = =


0
รวิญาดา 6 เม.ย. 56 เวลา 23:46 น. 17

@ 15 เจ้าของกระทู้ 

แวะมาส่องดูบอร์ดแล้วเจอก็เลยมาตอบสักหน่อยค่ะ (กรี๊ดจนตกใจเลย 555)

@ 16. รู้ทฤษฎี แต่ไม่เข้าใจ ก็เอาไปปฏิบัติไม่ได้ค่ะ บางอย่างต้องเข้าใจก่อนถึงจะทำได้ ส่วนจะทำได้ดีหรือเปล่านั้น ต้องอยู่ที่การสั่งสมประสบการณ์ ลองผิดลองถูกค่ะ ^_^


PS.  อยากเขียนจงเขียน เพราะเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
0
นอท์นา 7 เม.ย. 56 เวลา 00:01 น. 18

น้ำในชามก๋วยเตี๋ยวว่าจืดยิ่งกว่าน้ำล้างตีนฉันใด

แต่อาจแซ่บซ่านถูกใจรสปากใครฉันนั้น

                            หยาบหน่อยนะ แต่คิดว่าทุกคนน่าเข้าใจความหมาย


PS.  คนบางคนเกิดมาเพื่อถูกรัก แต่ใครบางคนเกิดมาเพื่อที่จะรัก
0
timmy 7 เม.ย. 56 เวลา 07:57 น. 19

@11 ถ้าเช่นนั้นไปตัดสัญญาณเนตเลยเถิด ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้มันก็ไม่คุ้มนะท่าน555


PS.  เกิดมาต้องมีดับ ใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้นค่า! แต่นิยายตูยังคิดพล๊อตไม่ได้เล้ย!
0