[ถาม] การส่งเรื่องสั้นให้นิตยสารค่ะ
สวัสดีค่ะทุกคน :)
พอดีช่วงนี้ลี่ยังไม่มีงานประจำทำ (เพิ่งเรียนจบ) เลยสนใจอยากหางานพิเศษทำด้วยการส่งเรื่องสั้นให้นิตยสารค่ะ แต่ปัญหา คือ ไม่เคยส่ง และไม่ค่อยรู้รายละเอียดรวมถึงนิตยาสารที่รับพวกเรื่องสั้นว่ามีที่ไหนบ้าง ที่รู้มาก็มี I like, ขวัญเรือน, สกุลไทย แต่ก็ไม่ทราบว่าจะส่งได้อย่างไรและแนวทางของเรื่องที่นิตยสารต้องการเป็นแบบใดบ้าง
จึงอยากรบกวนสอบถามผู้หรือและผู้มีประสบการณ์ค่ะ ว่า
1. มีนิตยสารใดบ้างเปิดรับพิจารณาเรื่องสั้น
2. แต่ละที่ใช้เวลาพิจารณาประมาณกี่เดือน
3. หากท่านใดทราบรายละเอียดการส่งให้แต่ละที่ รบกวนแบ่งปันให้กันบ้างนะคะ
4. ท่านที่มีประสบการณ์ในการส่งเรื่องสั้นให้นิตสารต่างๆ รบกวนช่วยแบ่งปันหน่อยนะคะ
5. การเขียนเรื่องสั้นให้แต่ละที่จะได้รับค่าตอบแทนประมาณเท่าไหร่คะ
5. เป็นงานที่ทำแล้วคุ้มหรือไม่คะ
ปล. โดยส่วนตัวเป็นคนที่เขียนนิยายอยู่แล้วค่ะ (เรื่องยาว) มีผลงานผ่านการพิจารณาแล้ว แต่ก็เพียงแค่ 1 เรื่องเท่านั้น เรื่องที่ 2 กำลังอยู่ในขั้นพิจารณา และปัจจุบันเขียนเรื่องที่ 3 อยู่ค่ะ ไม่รู้ว่าความสามารถเพียงน้อยนิดนี้ จะสามารถเขียนเรื่องสั้นให้ได้รับการพิจารณาจากเหล่านิตยสารต่างๆ หรือไม่ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะคะ :)
21 ความคิดเห็น
ที่รู้ก็มีของขายหัวเราะกับ I Like ค่ะ
ขายหัวเราะ
ผู้ส่งผลงานขอรับรองว่า ภาพการ์ตูน ข้อเขียน เรื่องสั้นและบทความที่ส่งมาด้วยกันนี้ผู้ส่งผลงานเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นโดยมิได้ลอกเลียน ดัด แปลงงานของผู้อื่น และหากภายหลังบริษัทตรวจพบว่า ภาพการ์ตูน ข้อเขียน เรื่องสั้นและบทความที่กล่าวข้างต้นนี้เข้าข่ายลอกเลียน ดัดแปลง งานของผู้อื่น ผู้ส่งผลงานยินยอมให้บริษัทมีสิทธิยกเลิกการให้ค่าตอบแทน และพันธะต่างๆที่ทางบริษัทจะต้องรับผิดชอบ ต่อผู้ส่งผลงานทั้งหมด และให้ผู้ส่งผลงานทุกคน
ส่งสำเนาบัตรประชาชน ( ส่งเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทางบริษัทจะเก็บไว้เป็นหลักฐานสมาชิก )
การส่งผลงานให้แบ่งเป็น 3 วิธี
1.ส่งมาทางไปรษณีย์ตามที่อยู่
บริษัทบันลือกรุ๊ป
955 ซ.สุทธิพร ถ.ประชาสงเคราะห์
แขวงดินแดง เขตดินแดง
กรุงเทพฯ 10400
2.แฟกซ์มาที่ 02-6419955 ต่อ 313
3.สำหรับสมาชิกเว็บจะสามารถส่งผ่านหน้าเว็บได้เลย
(เลื่อนลงไปด้านล่างจะมีช่องให้กรอกข้อมูลและส่งผลงานครับ)
โดยให้ระบุชื่อที่ใช้ในการสมัครสมาชิก เบอร์โทรศัพท์และอีเมลล์ ที่ติดต่อได้ให้ชัดเจน มาในตัวผลงานแต่ละชิ้น
ผู้ส่งผลงานท่านใดที่ไม่ได้ส่งสำเนาบัตรประชาชนเข้ามาเพื่อยืนยันสิทธิ์ หรือส่งไฟล์ไม่ตรงตามกติกา
ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการ “ไม่พิจารณาผลงาน”
ผลงานแบ่งตามประเภทดังนี้
1. เรื่องสั้น 1 เรื่อง ค่าตอบแทน 2,000 บาท
ความยาว 4 หน้ากระดาษ A4 ขึ้นไป
ขนาดตัวอักษร 14 pt
เขียนได้ทุกแนวไม่จำกัด
2. ไอเดียการ์ตูนเรื่องสั้น ค่าตอบแทน 700 บาท
เขียนบรรยายเรื่องให้เข้าใจว่าใครทำอะไรกับใครที่ไหน ความยาวเรื่องไม่จำกัด
3. ไอเดียแซว ค่าตอบแทน 600 บาท
วาดหรือเขียนอธิบายมุขที่แซวให้เข้าใจว่าใครทำอะไรกับใครที่ไหน เพื่อให้นักเขียนมาวาด
เป็นภาพ 4 ช่องต่อ 1 หน้า จำนวน 2 หน้า
4. ไอเดียการ์ตูน ค่าตอบแทน 150 บาท
เขียนอธิบายหรือวาดมาเป็นแบบและเขียนมุขพร้อมข้อความ
จะเป็นแบบ 3 ช่อง, ครึ่งหน้า หรือ เต็มหน้าก็ได้ครับแล้วแต่การนำเสนอ
5. กลอนหักมุมมัดยิ้ม ค่าตอบแทน 150 บาท
กลอน 1 บท 4 บรรทัด หรือมากกว่านั้น
6. ขำขัน ค่าตอบแทน 200 บาท
เขียนเรื่องความยาวได้ตั้งแต่ 3 บรรทัด ขึ้นไป
ส่วนนี้ของ I Like
กติกา
1. ความยาวของเรื่องประมาณ 10 - 11 หน้ากระดาษ A4
2. ขนาดตัวอักษร 14 ฟ้อนท์แนะนำว่า Angsananew
3. ส่งงานทางไปรษณีย์ เท่านั้น
4. ต้องเก็บไฟล์งานไว้
5. สามารถส่งได้ไม่จำกัดเรื่อง
**** รางวัล 1200 บาท
ข้อมูลสำคัญ
1. นามปากกา
2. ชื่อนามสกุล
3. วันเกิด
4. คติประจำใจ
5. แรงบันดาลใจในการเขียน ไม่เกิน 1 บรรทัด
6. ระดับการศึกษา , สถานศึกษา
7. ที่อยู่
8. เบอร์โทร.บ้านและเบอร์มือถือ
9. อีเมล (ถ้ามี)
สถานที่ส่งผลงาน
105/159 บ้านบัวทอง ซ.20/4 ถ.กาญจนาภิเษก
ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110
(วงเล็บหน้าซองว่า เรื่องสั้นวัยรุ่นขนาดกลาง)
รู้แค่นี้แหละค่ะ
PS. การจะเป็นนักเขียนที่ดี ต้องยอมรับคำวิจารณ์ที่ไม่ดีได้
ถ้าเรื่องของเราถูกตีพิมพ์ เขาจะเรียกเราไปบริษัทพร้อมให้ค่าตอบแทน หรือ ส่งหนังสือเล่มนั้นกับค่าตอบแทนทางไปรษณีย์อ่ะครับ
เท่าที่เคยส่งก็ I-Like ขายหัวเราะ ขวัญเรือน รายละเอียดตาม @1 ไปเลยค่ะ แต่ขอแนะนำเพิ่มเติมว่า หากอยากส่งที่ไหน แอบแวบไปร้านหนังสือ ซื้อของที่นั่นมา รายละเอียดจะอยู่ในเล่มเลยค่ะ ลองๆ พลิกดู
ขอเพิ่มเติมนิดหน่อยค่ะ I-Like เน้นแนวรักวัยรุ่นใสๆ ตอนที่ส่งไป เวลาพิจารณายาวนานมาก เผลอๆ นานกว่าผลการพิจารณานิยายเรื่องยาวซะอีก เรียกว่าส่งจนลืมไปเลย เพราะคิวทางนั้นคงยาวมาก และถ้าไม่ผ่านก็จะไม่มีเมลล์ใดๆ ตอบกลับมาทั้งนั้น แต่ถ้าผ่านบ.ก. จะโทรมาแจ้งและขอไฟล์ข้อมูล รวมทั้งแจ้งช่วงเวลาที่จะได้ตีพิมพ์กลับมาทางเมลล์
ส่วนขายหัวเราะ ได้ทุกแนวค่ะ โดยเฉพาะถ้าหักมุมในตอนท้ายจะเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น เวลาพิจารณาตอนที่ส่งไปประมาณหนึ่งเดือน ผ่านหรือไม่ผ่านหากส่งไปรษรณีบัตรไป ทางนั้นจะตอบกลับมา (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องส่งสำเนาบัตรประชาชนแนบไปในครั้งแรก ไม่เช่นนั้น ทางนั้นจะไม่พิจารณาให้ แต่เมื่อมีสำเนาอยู่กับทางนั้นแล้ว ครั้งต่อไป ส่งทางหน้าเว็บได้เลยค่ะ)
ส่วนขวัญเรือนเวลาพิจารณาคือสองเดือน กลอน 200 บทกวี 1000 เรื่องสั้น 1500 เล่าประสบการณ์ประทับใจ 1200
ส่วนเรื่องสั้นที่อื่นเห็นมีคู่สร้างคู่สม ในคอลัมน์ ถวิลหาอดีต ค่าเรื่อง 2000
ถ้าถามว่าทำแล้วคุ้มไหม ต้องขอถามกลับก่อนค่ะว่าอดทนจนกว่างานจะผ่านและค่าต้นฉบับจะออกได้ไหม เพราะเอาเข้าจริงผลการพิจารณากว่าจะออก ใช้เวลานานไม่ต่างจากนิยายเรื่องยาวเลย
ถ้ามีเวลาว่างจะลองเขียนแล้วส่งไปก็ไม่เสียหายอะไร เพราะระยะเวลาในการเขียนไม่นานเท่านิยายเรื่องยาวนัก แต่มันก็ไม่ใช่งานที่จะทำแล้วได้เงินในทันที ต้องทำใจในการรอค่ะ
PS. เมื่อชีวิตมีเป้าหมายเดียว ไม่ว่าเราจะเดินหลงทางไปไกลขนาดไหน สุดท้ายเราก็จะเดินกลับไปยังเส้นทางนั้นได้แค่เส้นทางเดียว
เคยส่ง ไอน้ำ (เครือเดียวกับไอไลค์) ส่งเรื่องไปทางไหน...จำไม่ได้แล้ว นานพอสมควร แล้วเขาจะประกาศชื่อเรื่องสั้นที่จะได้ตีพิมพ์ในเว็บ ตีพิมพ์ฉบับไหน ๆ ๆ เขาจะบอก...
เรื่องสั้นของเราผ่าน เราก็รอร๊อรอไอน้ำเล่มที่เรื่องของเราจะได้ลง ปรากฎว่า... ไอน้ำเลิกผลิตซะงั้น!
เป็นความทรงจำที่...ยังคงเจ็บปวดอยู่ในหัวใจทุกครั้งที่นึกถึง... เหตุใดงานเขียนของเราจึงอาภัพเยี่ยงนี้น่อ... ตอนนี้จะส่งไปไอไลค์ก็ขัดเขิน เพราะอายุไม่เป็นวัยใสแล้วอ่าาาาาาาาาา
ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำตอบนะคะ วันนี้แวะไปร้านหนังสือได้ I Like กับ ขวัญเรือนมาค่ะ เดี๋ยวจะไปหาขายหัวเราะมาอ่านดู ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะคะ :)
ทำไมเขียนอะไรออกมายาว ๆ ศุภฤกษ์ รมยานนท นายพูดถึงใครน่ะ ไม่รู้จัก -- สดุดี ศรีไทย
แล้วถ้าเกิดจะส่ง นานาผีกุ๊กกู๊ ส่งยังไงคะ
จะส่งเหมือนกันค่ะเลยรออยู่ว่าจะส่งไปดีไหม
ถ้าผลงานผ่านพิจารณา ทางสำนักพิมพ์จะติดต่อมาค่ะ ถ้าส่งทางไปรษณย์ ให้เขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือช่องทางติดต่อไว้ให้เขาด้วยค่ะ แล้วเขาจะติดต่อกลับมาเพื่อขอหมายเลขบัญชีอีกที
ส่งทาง อีเมลได้มีไหมครับ
ที่ได้ค่าเขียน จะเป็นหนังสือคู่สร้างคู่สมคะ พี่เขียนส่งไปแค่อยากเล่าให้ฟัง แต่ได้ค่าตอบแทน ได้ลงสามครั้งแล้วค่า ครั้งแรกคอลัมภ์กว่าจะข้ามคืนวันอันโหดร้ายได้1500 บาท ครั้งที่สองประสบการณ์จากผู้อ่านได้3000บาท ครั้งที่สามร้อยภูติพันวิญญาญ 3000 บาท ครั้งที่สี่กำลังส่งไป กินเที่ยวทั่วไทยถ้าได้ลงจะได้4000บาทคะ คิดว่าเป็นค่าขนม แต่ต้องไม่ก๊อปใครนะ ต้องเป็นดเรื่องตัวเองล้วนๆ เป็นกำลังใจให้นักเขียนมือใหม่ทุกคนคะ
ส่งไปทางเมล์ได้เลยหรอคะ แล้วเราจะทราบผลได้อย่างไรคะ
ส่งทางไหนค่ะ คือกำลังส่งไปแตต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับเลย
ของคู่สร้างคู่สมค่ะ
อีเมลของบรรณาธิการส่งตรงๆก็มี ks@koosangkoosom.com
แล้วปกติคู่สร้างคู่สมจะพิจารณากี่เดือนคะ
ขอสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องหน่อยนะคะ เคยส่งเรื่องไปแล้วได้ลงในคอลัมน์ "เล่าสู่กันฟัง" แต่ทำไมถึงไม่ได้รับค่าเรื่องเลยคะ ได้รับเพียงหนังสือฉบับที่ลงเรื่องให้เท่านั้น
ลืมบอกไปค่ะว่า คอมเมนต์ด้านบน เรื่องที่ได้ลงเรื่อง "พระคุณย่า หมาบ้า กาลเวลาไม่หวลคืน" ได้ลงในคู่สร้างคู่สมค่ะ
สวัสดีครับ ผมกำลังมองหาเรื่องสั้น หรือไม่ก็นิยาย ความยาว 4 หน้า กระดาษ A4 ขึ้นไป ขนาดตัวอักษร 14 pt
เขียนได้ทุกแนวไม่จำกัด มาลงในนิตยสารแจกฟรี มีค่าตอบแทน
ส่งข้อมูล editor.idealmagazine@gmail.com
พูดจริงหรือเปล่าคะ555 #สนใจมาก
อยากถามว่า เคยมีไหมที่ส่งเรื่องสั้นแล้วไม่ได้รับค่าตอบแทน..หรือเค้าจะเลือกเฉพาะบางคอลัมภ์ (กรณีหนังคู่สร้างคู่สม)
นิตยสารคู่สร้างคู่สม ได้ค่าเขียนเฉพาะบางคลอลัมเท่านั้น เช่น ถวิลหาอดีต เฝ้าหน้าจอ ร้อยภูตพันวิญญาณ สามคลอลัมนี้ได้แน่นอนครับ เพราะเคยได้มาแล้วครับ
เค้าจะส่งธนานัติมาให้อย่างเดียวค่ะ หนังสือต้องไปหาซื้อเอง
เรื่องที่ส่งไปนิตยสารคู่สร้างคู่สมเป็นเรื่องเล่าประทับใจ ชีวิตในวัยเด็ก ที่ไม่เกี่ยวกับคู่รักหรือความรักได้ไหมคะ หรืออย่างไร ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ
พฤติกรรมเด็กวัยรุ่นที่มีโอกาสเป็นแม่วัยใสที่ควรรู้....แม่วัยใส คือเด็กวัยรุ่นอายุน้อย ซึ่งแต่ละคนมีอายุประมาณ 12 ปี ก็พลาดพลั้งจนมีลูกจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายจนตั้งครรภ์ ใครก็ตามที่เรียกว่า “แม่วัยใส” จะสร้างปัญหาให้แก่ครอบครัวและตนเองอย่างมาก เพราะพวกเธอเพิ่งเป็นวัยแรกรุ่น ซึ่งหมายความว่า เป็นผู้ที่เพิ่งมีประจำเดือน และภาวะความเจริญเติบโตนั้น เพิ่งเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ จึงยังมีความเป็นเด็ก และไม่มีความพร้อมที่จะรับผิดชอบลูกที่เกิดมาได้ เพราะเธอยังอยู่ในวัยเรียน และยังต้องพึ่งพาพ่อ แม่ในเรื่องการอยู่ การกิน และไม่มีประสบการณ์ในการดำรงชีวิตด้วยตนเอง คือ ยังไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่เหมาะสมพอที่จะดำเนินชีวิตด้วยตัวเอง ดังนั้น เมื่อเธอพลาดพลั้งยอมมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายจนตั้งครรภ์ และคลอดลูกออกมา ภาระทั้งหมดจึงตกอยู่กับพ่อ แม่อย่างแน่นอน ซึ่งหากพ่อแม่มีอันจะกิน มีฐานะพอที่จะอุปการะเลี้ยงดูเด็กที่เกิดมาใหม่ ก็คงไม่เป็นไร???...แต่หากพ่อแม่ของแม่วัยใส เป็นคนที่มีฐานะยากจน ก็จะเกิดปัญหาใหญ่สำหรับครอบครัว คือ ครอบครัวไม่มีปัญญาหาเลี้ยงสมาชิกใหม่ จึงมีการหาวิธีการขอเงิน ขอสิ่งของบริจาค เช่น นมผงเด็ก เสื้อผ้าเด็กอ่อน เครื่องใช้สำหรับเด็กต่างๆ ขวดนม เป็นต้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของตนเอง จึงเป็นเหตุให้ผู้ใจบุญที่มักจะทำบุญด้วยการบริจาคเงิน และสิ่งของ โดยไม่ได้ศึกษาให้ดีว่า คนที่เราจะให้เหมาะสมพอที่จะได้รับความช่วยเหลือเหล่านี้หรือไม่ ? เพราะจะว่าไปแล้ว การที่เด็กคนหนึ่งจะเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้นั้น ต้องได้รับการอบรมสั่งสอน อบรมบ่มนิสัย จากคนในบ้าน และจะต้องได้รับประสบการณ์ชีวิตที่เหมาะสมด้วยการเรียนรู้ด้วยตนเองว่าอะไรควร อะไรไม่ควร อะไรคือการทำตัวให้ถูกต้อง คือ ต้องรู้จักปรับตัว และรู้ว่าการที่จะเป็นคนดีในสังคมได้นั้น จะต้องประพฤติตนอย่างไร และเลือกหนทางที่เหมาะสมประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นคนดี มิใช่ยอมเสียตัวง่ายๆ เพราะเพียงแค่อยากลอง หรือทำตัวให้มัวหมองเพราะอารมณ์ที่ควบคุมตนเองไม่อยู่ เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมของแม่วัยใส บอกให้รู้ว่า ภายในครอบครัวมีปัญหา เช่น พ่อแม่มีนิสัยไม่ดีบางอย่างให้ลูกหลานเลียนแบบพฤติกรรม ดังนั้น ผู้ใจบุญทั้งหลายจึงต้องเริ่มใคร่ครวญให้ดีก่อนจะตัดสินใจทำบุญว่า ณ จุดๆ นั้น ที่ขอความช่วยเหลือมา เราสมควรจะให้ความช่วยเหลือตามนั้นมั้ย โดยวิเคราะห์จากเหตุผลของการขอ ว่าการขอความช่วยเหลือที่เป็นเงิน เป็นสิ่งนั้น... ขอมากไปหรือไม่ สมเหตุสมผลหรือไม่ ใครเป็นแม่งาน ส่งผ่านใคร มีสถานที่ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อง่ายหรือไม่ มีบุคคลชื่อเสียงเรียงนามตามที่ระบุ หรืออ้างอิงมาหรือเปล่า สามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าเป็นภาวะยากลำบากที่ต้องได้รับความช่วยเหลือตามนั้นจริงๆ ฯลฯ เพราะหากเราเสียรู้ ก็แปลว่าทรัพย์สินเงินทองที่เราจ่ายไป ไปตกอยู่กับคนไม่ดีที่อยากได้ของฟรี ไม่ต้องซื้อต้องหาเอง และมักจะเป็นมิจฉาชีพ ต้มตุ๋นหลอกลวงผู้คนเพราะอาศัยจิตใจที่อ่อนโยน มีเมตตาของคนใจบุญเป็นหลักในการทำมาหากิน จึงพยายามทำตัวให้น่าสงสารเข้าไว้ก่อน จนซึ้งถึงใจผู้คนจนอยากให้ ก็ลองนึกดูแล้วกันว่าถ้ามีขบวนการมิจฉาชีพลักษณะนี้อยู่ ณ ที่ใด มันก็คงได้กินได้ใช้อะไรฟรีๆ จากการช่วยเหลือที่หลั่งไหลมาให้จนไม่ต้องทำมากินเอง วันๆ แค่ตั้งกล่องขอรับบริจาค ภายใน 1 สัปดาห์ก็จะมีคนหย่อนเงิน หย่อนสิ่งของเครื่องใช้ให้ แล้วมารับเอาไปอย่างละมุนละม่อม และกลายเป็นความเคยตัวซึ่งความเดือดร้อนที่ตามมาของสังคมก็คือ พวกนี้จะพยายามคิดค้นวิธีเอาเปรียบคนในสังคมในเรื่องอื่นต่อไปเรื่อยๆ นั่นเอง .....เอาล่ะ ถึงเวลาแล้วที่ผู้เขียนจะยกตัวอย่างพฤติกรรมวัยรุ่นที่เข้าข่ายเป็นแม่วัยใส ซึ่งพบด้วยตัวผู้เขียนเองให้อ่าน 1 เรื่อง คือ เมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ผู้เขียนไปเดินช็อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ และกำลังข้ามสะพานลอยจากฝั่งน้อมจิตต์ มายังเดอะมอลล์ ระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้น ก็มีกลุ่มเด็กหญิงวัยรุ่นหน้าตาดูแล้วไม่เกินวัยมัธยมต้น เดินเร่งฝีเท้าตามหลังมา เด็กในกลุ่มคนหนึ่งพูดเสียงดังลั่นขึ้นมาว่า “เฮ้ยๆๆ -รู้เปล่าวะเมื่อคืนกูโดนผู้ชายฉุดว่ะ เฮ้ยแต่-มีคนมาช่วย...เ-้ยเอ๋ยเกือบเสร็จแล้วกู...กูต้องกระเด็นวิ่งหนีเลยว่ะ” แล้วเธอก็หัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ เป็นไงล่ะคะ เรื่องที่เล่านี้ ถ้าเป็นคุณเจอกับตัวเอง จะรู้สึกอย่างไร เหมาะสมมั้ยที่เด็กแบบนี้จะเป็นทรัพยากรที่ดีขงสังคมได้ และถ้าเขามีพ่อแม่ที่ชอบขอการสงเคราะห์ต่างๆ นานา คุณคิดว่าสมควรให้การช่วยเหลือมั้ยคะ แต่ถ้าเป็นผู้เขียนเอล่ะก้อ .....ซักบาทเดียวก็ไม่ได้หวังค่ะ คือ “ไม่มีสิทธิจะได้อะไรเลยจากฉัน” เข้าใจนะคะ.....///กิ่งหลิว 60 ///20 กุมภาพันธ์ 2560
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?