ถ้าอยากจะเรียนศัลยแพทย์ตต้องมีความพร้อมยังไงบ้างค่ะ
ตั้งกระทู้ใหม่
mildko
19 เม.ย. 56 เวลา 19:09 น.
725
views
20 ความคิดเห็น
เรียนคณะแพทย์ค่ะ แล้วก็เรียนต่อทางด้านเฉพาะทาง
เรียน แพทย์ ก่อน 6 ปี ทำเกรดดีๆ ใช้ทุนพร้อมเรียนgenศัลย์(มันทำงั้นได้มีสองกรณี คือ เส้นใหญ่ ญาติสนิท บิดา มารดาเป็น staff กะ พวกเกียรตินิยมอันดับ1 ใช้ทุนพร้อมเรียนต่อที่คณะอะ) แล้วต่อเฉพาะทางของศัลย์อีกที
แต่ถ้าไม่เมพมากๆ หรือ มีเส้น ส่วนใหญ่ ก็ใช้ทุน แล้วก็ค่อย freetrain อะ แล้วก็ล่องลอยไปตามยัตถากรรม(สะกดถูกป่าววะ)
ฟังพ่อมาอีกทีนะ แต่สำคัญสุด สอบ หมอ ให้ติดก่อน อันนี้สำคัญที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดด
เส้นใหญ่อยากเข้าอะไรก็เข้าได้
ไม่ครับ skin ไม่ได้ อันนั้น ระดับเส้นนี่ไม่ใช่ใหญ่ เรียกว่า ก๊วยจั๊บ เลย(กล่าวถึงมิได้ ผิด กม.อะ ) ขนาดเกียรตินิยม อันดับ 1 ฬ ยังไม่ได้เทรนด์เลย 555+
มันมีอยู่เส้นนึงที่พูดไม่ได้แต่ใหญ่จิง
บอกตรงๆนะ เลือกเฉพาะทางตอนยัง ม.4 เนี่ย ให้ตรงกับที่ต้องการจริงๆเนี่ยากกกกก
ลองสอบหมอให้ได้ก่อน (ตรงนี้ก็ยากแล้ว) แล้วเรียนผ่านไปถึงปี 4 จะรู้ว่าชีวิตหมอมันไม่ได้สวยหรูอย่างที่ฝันไว้ ยัิ่งขึ้น extern (ปี 6) แล้วจะรู้ว่าศัลยกรรมนี่อย่างนรก ไม่ได้นอนทั้งคืน ยืนช่วยผ่าตัดจนแทบไม่รู้สึกถึงขาแล้ว
อีกอย่างคือที่ผมเห็นๆมา หมอศัลยกรรมผู้หญิงนี่ไม่ใช่ไม่มี แต่มีน้อยมาก เพราะชีวิตหนักเกินอยู่เวรผ่าข้ามคืน จะไปเที่ยวไปทำอะไรเวลาแทบไม่มี
แต่ให้ความรู้หน่อยละกัน ถ้าอยากเรียนก็พอเรียนครบ 6 ปี ปกติจะต้องใช้ทุน 3 ปี แต่สามารถ fix ward ได้ คือทำงานเป็น intern แค่ปีเดียว แล้วหลังจากนั้นก็เฉพาะทางได้เลย และอีกอย่างตอนนี้ศัลยกรรมเป็นสาขาขาดแคลน (ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยล่ะ) เข้าได้ไม่ยากเท่าไหร่หรอก แต่จะหนักตรงที่เฉพาะทางอื่นๆเรียน 3 ปี แต่ศัลย์เรียน 4 ปี ถ้าน้องคิดว่าทนเรียนหมอรวบ 10 ปี++ ได้ก็โอเคนะ
เส้นที่ผิด กม. -0-  ยังไงอ่า (แต่พอเดาๆออก)
คืองั้นอยากถามอ่ะค่ะ ว่าต่อเฉพาะทางเนี่ย ถ้าไม่จบเกรดดีๆหรือเกียรตินิยม ก็ต้องเส้นใหญ่ เท่านั้นหรอค่ะ แบบถ้าเกรดดีเฉยๆแต่ไม่มาก มีสิทธิ์มั้ยอ่า
แล้ว สาขา skin นี่ต่อยากมากเลยหรอค่ะ -0- ไม่เคยรู้มาก่อน ความจริงช่างโหดร้าย
ตอบ คห 7
คำถามแรก - ไม่ครับ เฉพาะทางเนี่ยมีให้เลือกหลากหลายมากมาย แล้วก็หลายอย่างก็ไม่ได้แข่งขันสูง สาขาขาดแคลนบางอย่างเช่น ศัลยกรรม สูติ หรือนิติเวช นี่แทบจะอ้าแขนรับด้วยซ้ำ (แต่ก็ขึ้นอยู่ด้วยว่าเฉพาะทางกับมหาลัยไหน) ไม่ต้องเกรดดีมากๆก็เรียนได้ สุดท้ายเขาก็ดูกันตอนสัมภาษณ์อีกที
คำถามที่ 2 - จริงครับ ยากมากกกก เท่าที่รู้คือถึงจะไม่เส้น 100% แต่ต่อให้เรียนเก่งยังไง ถ้าไม่มีเส้นซักนิดนี่เป็นไปไม่ได้เลย สาขาที่แย่งกันมากๆ ตอนนี้ก็จะ skin eye x-ray เนี่ยแหละครับ แต่สองอันแรกหนักสุด
สอบเข้าแพทย์ให้ได้ก่อนครับ เรียนให้จบ 6 ปีก่อนค่อยว่ากันอีกที ถึงตอนนั้นอาจจะเปลี่ยนใจไม่ชอบศัลย์แล้วก็ได้น่ะ อิอิ
เรียงลำดับความสำคัญนะฮ๊าฟ 
1.เส้น
2.ลูกหม้อ (ต่อเฉพาะทางสถาบันเดิมที่เคยเรียน)
3.เกรด
4.พฤติกรรมนะฮ๊าฟ
ข้างในเค้าเล่นเส้นกันจริงครับ
แต่เส้นมันสร้างกันได้ครับ เข้ามาแล้วจะเข้าใจเอง
แต่สกินไม่นับคือ เส้นต้องใหญ่มากจริงๆ แล้วก็ภาวนาให้ปีนั้นไม่มีเส้นใหญ่กว่าเรา = =
ตอนนี้คุณเรียนจบหรือยังคะๆๆ
เราก็ ม.4 นะ สนใจในศัลยแพทย์มากๆเลย อยากเป็นหมอศัลย์มากเลย แต่อย่างแรกก็ต้องเอนท์หมอให้ติดก่อย
พี่ ข้อความที่ 8 ค่ะ ถ้าเค้าถามเราว่า (สัมภาษณ์) ทำไปแล้วได้อะไร แล้วถ้าเราตอบว่าได้ตังค์และทำให้จุดด้อยบนร่างที่บุคคลนั้นไม่ต้องการให้มันดีขึ้น ตอบแบบนี้น่าจะผ่านมั้ยคะ ถ้าไม่ผ่านขอคำแนะนำหน่อยค่ะ
อืมอันนี้ก็ไม่ค่อยรู้นะค่ะ แต่เห็นพูดกันจังว่า เส้นสำคัญสุด เราก็สนใจศัลยแพทย์มากนะ แต่พอได้ยินแบบนี้ก็ผิดหวังสุดๆทำไมค่ะ คนที่จะเป็นหมอที่ดีได้ต้องเส้นอย่างเดียวเลยหรา ถ้าอย่างงั้นคนที่ไม่มีคุณภาพเลย แต่มีเส้นก็เป็นหมอได้เลยดิ โดยที่ผ่าคนไข้แบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย เท่ากับว่าชีวิตคนไข้แขวนอยู่บนเส้นด้ายอย่างนั้นอ่ะนะ อย่างนั้นคนเรียนดีแต่ไม่มีเส้นก็เสียโอกาศเลยดิ แต่ก็ว่าอะไรไม่ได้มันเป็นแก่นแท้ของโลก...
ถึงจะเด็กเส้น แต่สอบเข้าคณะแพทย์แล้วเรียนจนจบได้นี่ก็เก่งนะคะ บางคนเป็นเด็กเส้นแต่ได้เกรดสูงมากก็มี เส้นก็ไม่ได้สำคัญที่สุดหรอกค่ะ ลองไปเมืองนอกดิ คุณจะมาจากไหนเขาไม่สนหรอกนะ เขาจะดูที่เกรดของคุณและความเป็นผู้นำ(มั้ง) อย่างเช่นที่Norway Sweden แต่ถ้าคุณเรียนที่เมืองไทยคุณก็ต้องทำใจเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
ตอนนี้อยู่ม.2คะเรียนก้พอได้อยากเรียนศัลยแพทย์อยากเรียนที่มหิดลคะแต่สงสัยว่าจะเลือกสาขาการเรียนหลังจบ6ปีหรือเปล่าคะหรือเลือกได้เลย
ขอตอบตรงๆนะพี่เรียนหมออยู่ เลิกมโน เเล้วสอบหมอให้ติดก่อน ขนาดใช้ทุนอยู่บางคนยังไม่รู้เลยว่าชอบอะไรอยากเรียนต่ออะไรเลย
อันดับแรก..สอบให้ติดคณะแพทย์ให้ได้ก่อน......
อันดับสอง...ถ้าติด หมอแล้ว เกรดปี 1 ถึง ปี 6 เกรด 6 ปี ไม่น่าจะเฉลี่ยต่ำกว่า 3.00 (อันนี้ ไม่มีในกติกา)
อันดับสาม....สอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษให้ได้อย่างต่ำ 75 เต็ม100 สอบตอนเรียนหมอปี 5 เก็บคะแนนไว้ใช้ยื่นสมัครเรียน เป็นหมอศัลย์
อันดับสี่....ถามตัวเองว่า ยังไม่เข็ดการใช้ชีวิตจาก เด็ก ก้าวข้ามช่วงวัยรุ่น เป็นผู้ใหญ่ที่สวมเสื่อกาว ทำหน้าที่สำคัญ ดูแลคนไข้..... เพราะถ้า สามารถได้รับคัดเลือกให้เรียนต่อเป็น หมอศัลย์ ต้องเรียนอีก 4 ปี
นึกให้ดี จบม.6 อายุ 17-18 ปี เรียนหมอ 6 ปี ชีวิตที่เรียนหมอ อย่าได้คิดว่า จะได้ออกเฮฮาสังสรรกับเพื่อน ๆ ได้เที่ยวใช้ชีวิตวัยรุ่น....การนอนตี 1 เป็นเรื่องปกติทุกวัน ปิดเทอมมีแค่ปี 1 จากนั้นไม่มีอีกเลย มีแต่ปิดบล๊อก แค่ 2-3 วัน เรื่องสอบ ทุก ๆ 2 อาทิตย์ อย่าตกเด็ดขาด....ตกบล๊อกใดบล๊อคใดบล๊อคหนึ่ง มันจะเป็น หายนะ ของบล๊อคต่อไป ..นึกถึงดินพอกหางหมู หนักมาก ๆ...บางคน พังล้มเลิกยอมแพ้... คนที่ชนะก้อจะจบ 6 ปี...นักสู้ไม่ท้อถอย อาจจะจบ 7 ปี 8ปี.... และช่วงเวลาเพิ่มอีก 4 ปี ที่เรียนต่อหมอศัลย์ หมายถึงการสูญเสียโอกาสเรื่องรายได้ถึง 4 ปี ประมาณอย่างคร่าว ๆ ก้อราว ๆ 2.5 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นแพทย์บรรจุในสังกัด กระทรวงหมอ...ก้อสูญเสียไม่เยอะเท่านี้.....แต่ถ้าเป็นแพทย์บรรจุของทบวงมหาลัย....ก้อเสียรายได้ประมาณนี่แหลาะ....
จบ 6ปีมา ใช้ทุนด้วยเรียนเฉพาะทางด้วยไม่ได้หรอคะ
ตอนี้ได้เรียนรึยังครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?