ว่าด้วยเรื่องคณะดุริยางคศิลป์ในม.มหิดล ><

ว่าด้วยเรื่องของมหิดล ดุริยางคศิลป์ :D
 
คือจขกท.เห็นว่ามีคนชอบเข้าใจเรื่องของดุริยางคศิลป์แบบผิดๆไปเยอะมาก
เลยอยากจะอธิบายให้ฟังเท่าที่รู้บ้างนะคะ J
ความจริงแล้ววิยาลัยดุริยางคศิลป์นี่เป็นยังไงน้อ ??
 
เริ่มแรกเลยคะ
วิทยาลัยดุริยางคศิลป์นี้ไม่ได้มีแต่เด็ก ป.ตรี ป.โท ป.เอก อย่างเดียวนะคะ
แต่ยังมีเด็ก ม.ปลายด้วยซึ่งเรียนอยู่ในโปรแกรม Pre – College
พวกเขาจะเรียกตัวเองสั้นๆว่าเด็กพรี ระยะเวลาเรียนก็เหมือนม.ปลายทั่วไปเลยจ้า
ก็คือ พอจบ ม.3 เสร็จปุ๊ปก็มาสอบเข้าต่อ ม.4 ที่นี่
จากนั้นก็เรียน ม.4 ม.5 ม.6 เหมือนที่อื่น
แต่ว่าที่ไม่ธรรมดาของการเรียนที่นี่จะเป็นแบบมหาวิทยาลัย
แล้วพอจบไปก็จะเป็นเหมือน ปวช.ที่ได้วุฒิทำงานแล้วด้วย
 
กิจวัตรประจำวัน
 
เริ่มจากการเข้าแถวตอนเช้าจะต้องมาเช็คชื่อกันตอน 8.20 และลงไปเข้าแถวตอน 8.30
การร้องเพลงตอนเช้าจะเป็นแบบประสานเสียงตั้งแต่เพลงชาติ เพลงสรรเสริญ
ไปจนถึงการร้องเพลงประสานเสียงตอนเช้า
พอจบการเข้าแถวเสร็จก็จะขึ้นห้องเรียนกัน เวลาเรียนจะเริ่มกันที่ 9 โมงเช้า
ตารางเรียนจะเป็นเหมือนของมหาวิทยาลัยคือเป็นคลาสๆไม่ได้เรียนติดกันแบบม.ปลาย
ถ้ามีก็เข้าเรียน ถ้าเป็นคาบว่างจะไปทำอะไรก็ทำ แต่ส่วนมากเด็กที่นี่จะชอบไปซ้อม
หรือไม่ก็ลงไปนั่งกินข้าวซะมากกว่า
 
ว่าด้วยตารางเรียน มีคนถามเยอะมากๆว่าเรียนยังไงเรียนแต่ดนตรีเหรอ??
ตารางเรียนของเด็กพรีคอลเลจ
ม.4 จะยังมีวิชา คณิต ภาษาไทย อังกฤษ สังคม ชีวะ ศิลปะ พวกนี้อยู่คะ
แต่จะเรียนควบคู่ไปกับวิชาดนตรีด้วย จะมีทั้งวิชาปฏิบัติ ทฤษฏี ทักษะการฟัง ประวัติดนตรีสากล ดนตรีไทย ฆ้องวงใหญ่
พอขึ้นมาม.5ก็ยังคงมีวิชาพวกนี้อยู่แต่แยกกันตรงที่
ดนตรีไทยก็เรียนส่วนของดนตรีไทย สากลก็ส่วนของสากล
ม.6 อันนี้ถือว่าเจ๋งสุดๆคือมีเรียนแต่วิชาดนตรีล้วนๆเลย
ตั้งแต่ ธุรกิจดนตรี ประพันธ์เพลง ทฤษฏี ทักษะการฟัง คอนดักท์ ประวัติดนตรี แต่ก็ยังมีคาบอังกฤษให้เรียนอยู่นะจ้า :D
 
ไม่มีเรียนกีฬากันบ้างเหรอ??
อยากจะบอกว่า มีค่า!! แต่ถ้าบอกแล้วพวกคุณจะอึ้ง 55555
ม.4 เรียนวิชาจักรยานในเทอม 2 ส่วนเทอมแรกชิลๆ
ม.5 มีวิชาว่ายน้ำกับแอโรบิค (ว่ายน้ำนี่ต้องไปเรียนที่สระเองนะค้า ก็อพยพกันไป)
ม.6 มีวิชาปิงปองกับโยคะ
เป็นไงล่า เก๋ใช่ม้า :) ฟังแล้วดูน่าอิจฉาพวกนักดนตรีเนอะ
พวกเขาออกกีฬาหนักมากไม่ได้เพราะต้องรักษามือของตัวเอง
จึงเลี่ยงกีฬาหนักๆพวกนี้ไป(ถึงแม้ว่าเวลาไปข้างนอกจะเล่นกันอยู่ดีก็นะ)
 
ดูอิสระกันจัง?
 
ขอบอกเลยค่า :D
เพราะว่าพวกนี้เค้าเรียนกันเป็นแบบมหาวิทยาลัยแล้วเพราะฉะนั้น
ถึงทุกอย่างจะดูเหมือนอิสระแต่สิ่งที่ต้องตามมาก็คือความรับผิดชอบตัวเอง
คณะนี้ไม่มีรั้ว มีแท็กซี่จอดรอให้ มีวินมอเตอร์ไซค์เรียกไปไหนก็ได้
ถ้าคิดว่าอยากจะกลับบ้านกลับหอก็กลับได้เลยไม่มีใครว่า
แต่กฎที่นี่มีอยู่ว่า ห้ามขาดเรียนเกิน 3 ครั้ง สาย 3 ครั้งเท่ากับขาด 1 ครั้ง
ถ้าขาดเกิน 3 ครั้งก็เอา F ไปต้มกินได้เลยจ้า
เพราะฉะนั้นเด็กที่นี่จะต้องมีความรับผิดชอบกันมาก อาจไม่ได้ถูกตามเช็คบ่อยๆเหมือนกับเด็กม.ปลายข้างนอกแต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าถูกตามเช็คอาจจะดีซะกว่าเพราะอย่างน้อยก็มีคนคอยกระตุ้นเตือนสติเราอยู่เรื่อยๆ
 
ว่ากันว่าเรียนดนตรีนั้นสบายๆจริงเหรอ ?
 
แอ๊ดดดดดดด X คิดผิดมหันต์เลยจ้า
รู้มั๊ยว่าแค่ตารางเรียนก็กินขาด ม.ปลายข้างนอกไปแล้ว
เรียนยังไง ใช่ อาจจะเข้าเลทกว่า
เราเริ่มเรียนกัน 9 โมง (บางครั้ง 8 โมงก็มี) เราบอกไปแล้วว่าเรียนกันเป็นคลาส
เพราะฉะนั้นทุกคาบให้เลือกตามเวลาว่างของตัวเองหรืออาจารย์
บางทีเรามีเรียนรวมวงเลิกตอน 5 โมงบ้าง 2 ทุ่มบ้าง
หรือบางคนก็โหดหน่อย มาเลือกเรียนวันเสาร์อาทิตย์เพิ่มเติมด้วย
กิจกรรมที่นี่เยอะมาก เรื่องเวลาแล้วส่วนมากปกติก็กลับกันตอน 3 ทุ่ม
เคยมีครั้งนึงเราโดนคาบตั้งแต่ 8 โมงยัน 3 ทุ่มไม่พักเลย ตอนเที่ยงก็มีเรียน
ตอนนั้นแทบจะประสาทกินไปกับกิจกรรมเลยทีเดียวแต่ก็ผ่านมาแล้ว 5555
ยิ่งช่วงเวลาที่มีซ้อมคอนเสิร์ตด้วยนะ บางทีเลิก 4 ทุ่ม 5 ทุ่มก็มี
กลับบ้านตี 2 ตี 3 กันก็ยังเคยจ้า หรือไม่หนักหน่อยค้างคณะซะเลย!!
นอกจากงานในมหาวิทยาลัยแล้วก็ยังมีงานคอนเสิร์ตข้างนอกให้พวกเรา
ไปร่วมด้วยอยู่เสมออีก ทั้งออกทีวี งานใหญ่ๆรับเสด็จเจอกันหมดเลยจ้า
อีกอย่างพวกเราก็ต้องซ้อมงานของตัวเองด้วย คอนเสิร์ตด้วย บางคนรับงานข้างนอกอีก เอาเป็นว่าเป็นอะไรที่งานรัดตัวสุดๆเลย
ยิ่งทุกปีจะต้องมีคอนเสิร์ตของเด็กพรีที่จัดกันขึ้นมาเองชื่อว่า Pre – College Concert
เด็กพรีทำเองทุกอย่างทั้งหาทุน marketing light sound การแสดง costume
ขนาดนี้แล้วเรียกว่าชิลได้อีกรึเปล่าคะ ?? :D
ขนาดผิดเทอมแล้วยังคงต้องซ้อมดนตรีต่ออยู่เลย เฮ้อ~!
 
หอพัก!!
 
อันนี้คนเข้าใจผิดบ่อยมากคิดว่าเด็กดนตรีจะเหมือนเด็ก M-wit คือต้องอยู่หอหมด
ความจริงแล้วคือแล้วแต่สะดวกจ้า บางคนก็กลับบ้านเองก็มี
อยู่หอนอก หอในตามสบายไม่เคร่งค่า
แต่ส่วนมากก็จะโดนแบบว่า ห้ามซ้อมตอนเวลานี้ๆนะ อย่าเสียงดัง
เพราะพวกนี้มันรั่วมากกกกกและติสแตกสุดๆ ==
 
ชุดนักเรียน
ชุดเหมือนม.ปลายรัฐบาลธรรมดาทั่วไป แค่เป็นกระโปรงสีดำบวกกับเข็มขัดตราหิดลแล้วก็เข็มมหิดลจ้า
 
แล้วเรียนกันตรงไหน??
เราก็เรียนกันที่คณะดุริยางค์นั่นแหละจ้าเรียนอยู่ตึกเดียวกับพวกป.ตรีเลย
บางวิชาที่เรียนรวมกันก็มีนะเช่นพวกรวมวงแต่เห็นว่าตอนนี้เริ่มแยกกันแล้ว
ตึกเรียนเราก็มี ตึก A ตึกเก่า เป็นตึกเรียนเด็กพรีกับมีห้องซ้อม ห้องอาจารย์แล้วก็ห้องแสดงนิดหน่อย ข้างล่างเป็นโรงอาหาร
ตึก B เป็นอาคารหอแสดง
ตึก C เป็นห้องสมุดส่วนข้างล่างจะเป็นคล้ายๆห้องกิจการกับห้องเรียน Midi
ตึก D เป็นห้องซ้อมซะส่วนใหญ่มีห้องอาจารย์ปนมาด้วยบางส่วนและชั้นบนสุดเป็นห้องเรียนของพวกพี่ ป.ตรี
ยังมีเรือนศิลปิน ร้านอาหาร Music Square สวนพฤกษา ศาลาครูมีแขกอะไรอีกด้วยจ้า
 
สอบเข้ายังไงกันอะ ?
 
อันนี้เป็นประเด็นถกเถียงกันมากจริงๆ 55555
การสอบจะมีเป็นปฏิบัติ พวกทฤษฏีกับโสตทักษะรู้สึกว่าต้องใช้คะแนนจาก time
ลองไปติดต่อดูกันเองนะคะ พวกโสตทักษะก็จะเป็นการฟังและบันทึกโน้ตพวกนั้น
Sight singing ด้วย
ส่วนปฏิบัติก็ตามนั้นมาตามวันสอบแล้วก็เข้าห้องไปออดิชั่นได้เลยจ้า
ถ้าเป็นป.ตรีก็ต้องสอบวิชาแขนงด้วย
ก็จะมีแขนงหลักๆได้แก่
Perform, (คลาสสิก) Business , Music Technology , Education , Entertain , Jazz
ดนตรีไทย , Music Theater , Composition ประมาณนี้ค่า
นอกนั้นสาขาอื่นก็มีตอน ป.โท
 
ค่าเทอม!!!!!
ใครเห็นเป็นต้องตะลึง ตะลึง ตะลึงแน่ๆ จขกท.ขออุบอิบจำนวนจริงไว้ละกัน
ใบ้ให้ว่าพรีคอลเลจ 6X,XXX บาทส่วนป.ตรีแล้วแต่แขนงปี 56 นี้ประมาณ 9X,XXX บาทเลยจ้า ทำเอาแทบช๊อก =[]=


 
ในท้ายสุดแล้วขอจบไว้แค่นี้ก่อนละกัน 555 จบแบบอึ้งๆนิดนึง
ใครที่มีอะไรสงสัยหรือว่าอยากรู้เพิ่มเติมก็โพสต์ถามได้นะคะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะมีประโยชน์แก่ผู้ที่สอบเข้าบ้างเน้อออ :D





เครดิตรูปภาพ :: Salaya news