Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยางฟังเรื่องราวความรักที่คนไปเรียนต่างประเทศที่มีหนุ่มฝรั่งมาจีบช่วยเล่าให้ฟังหน่อยมันน่ารักดีถ้าเห็นด้วยก็มาเล่าให้กันเยอะๆนะค่ะ

ตั้งกระทู้ใหม่
มาเล่ากันเยอะๆนะค่ะจะรอฟัง

แสดงความคิดเห็น

>

45 ความคิดเห็น

sunmile 26 เม.ย. 56 เวลา 22:55 น. 4

อ่าา ของเราไปจีบเค้าเองอะ เล่าได้ป๊ะ!! :D

คือตอนนั้นเราไปนิวแล้วแบบเพื่อนร่วมห้องหล่อมาก ล่ำสุดๆ -..- กล้ามเป็นมัด น่าฟัด(ตายละ หญิงไทย ==) เราก็นั่งอยู่ข้างๆเค้าอะ เค้าก็ชวนเราคุยแล้วก็คอยแกล้งตลอด เค้าไม่เชื่อว่าเราอายุ 17 เค้านึกว่าเด็กไทยอย่างเราอายุ 13 ... เอิ่ม =_= แล้วทีนี้เราก็คุยกันทุกๆครั้ง เค้าก็ชอบแกล้งมาสะกิดไหล่เราบ้าง หลอกเราว่าเพื่อนเค้าชื่อซาร่า บอกว่าเพื่อนเค้าอายุ 30 บ้างไรเงี้ย 55555
จนเราเริ่มแอบกรี๊ดในความกวนตีนของเค้าเบาๆ 555 หลังจากนั้นเค้าก็บอกให้เราฟอลโล่วอินสตราแกรมไป เราบอกว่าไม่มีให้เค้าแอ๊ดเฟซเรามา

รอร๊อรอ นานมากเค้าก็ยังไม่แอ๊ดมาเราเลยไปค้นแล้วแอ๊ดไปเองซะเลยแต่ก็ไม่ได้คุยกันนะค้า เราเข้าไปส่องปรากฏว่าเค้ามีแฟนแล้วงะ T T เฟลลล
จากนั้นเวลาเจอกันเค้าก็จะทักเราตลอดเลยแถมยังจำชื่อเราได้ด้วยแล้วเค้าก็จะมาถามตลอดว่าเพลงหัวไหล่เข่าภาษาไทยร้องยังไงแล้วก็พยายามเต้นด้วย 55555 จากนั้นเค้าก็ชอบถามคำถามเกี่ยกวับประเทศไทยเสมอเลย เวลาเราไม่เข้าใจที่เค้าพูดเค้าก็จะพยายามอธิบายไม่ก็เขียนเป็นคำเขียนมาให้เราด้วย น่ารักมาก 555555

จากนั้นๆ เวลาเราเรียนคาบไหนตรงกับเขาเขาก็ชอบมาแซว แล้วมีวันนึงเค้ามาแซวจะขอเบอร์เราด้วย >///< แหม อยากจะให้ใจจะขาด 555555 ต่อมามีอยู่วันนึงมีซ้อมหนีไฟ พวกเราก็เลยโดนอพยพออกจากห้องเรียน ตอนนั้นเป็นช่วงเราใกล้กลับไทยแล้วเราก็เลยมาถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนๆ จนเขาเห็นเลยเดินมาถามว่าไม่ถ่ายกับเขาบ้างเหรอ แค่นั้นแหละคะ กรี๊ดดดดดดดดดดด(ในใจ)แทบจะลงไปแดดิ้น ผลสุดท้ายก็ได้ถ่ายมา -..- ฟินนน

เพื่อนเราก็รู้ว่าเราชอบเค้านะ เพื่อนก็เลยแบบว่าแอบช่วยประมาณว่าคาบนี้มีเรียนกับคนนี้นะตลอด จนวันสุดท้ายวันที่ต้องกลับไทย เราก็เดินไปลาครูกับเพื่อนที่ห้องเรียนเขาก็หันมาโบกมือลาด้วยนะ ลากันตั้งหลายรอบ จนเพื่อนเราให้การ์ดใบนึงมาอะ เราเปิดอ่านแล้วน้ำตาร่วงเลยคือเพื่อนเราไปขอให้คนนั้นช่วยเซ็นมาให้ด้วยอะ แถมลงท้ายว่า xoxo ให้ด้วย เอิ๊กกกกกก เขิน >////<

จริงๆที่เล่ามานี่ไม่เกี่ยวกับมีฝรั่งมาจีบเลยนะ 5555 งั้นเพิ่มเติมหน่อยละกัน
ตอนนั้นเราเดินๆอยู่มีพวกฝรั่งมาขอถ่ายรูปอะ เค้าบอกว่าเราน่ารัก อุอิ -.- แล้วมีครั้งนึงที่เรากำลังเดินอยู่แล้วมีเด็กเกรด 10 กลุ่มนึงตะโกนมาว่า 'Hey!Cutie I like u!!' แล้วมีครั้งนึงเราต้องเดินเอาของไปให้คนแถวๆนั้นอะ เด็กเกรด 10 คนนั้นก็โดนเพื่อนแบบแซวลั่นเลย 55555 เกรียนดีเนอะ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 26 เมษายน 2556 / 23:08

1
งิงิงิ 27 เม.ย. 56 เวลา 22:14 น. 9

หุหุ ตอนนั้นเราไปแลกเปลี่ยน เราไปจีบเค้าก่อนนะ คือแบบตรงสเปคมากมายเลยเดินเข้าไปขอเฟส(กะขอเบอละแต่คิดว่ามากปายยย)คือเราต้องศึกษาโปรไฟให้ดีก่อนจะได้ไม่แห้ว ส่องเฟซ+ถามเพื่อน เอาละยังไม่มีแฟนชัวลุยได้เลย! หลังจากเกิดอีเว้นท์พิเศษจนเริ่มสนิทกันแล้วก้เปนแฟนไปแบบเนียนๆ >/////<

0
kyuwife 28 เม.ย. 56 เวลา 10:43 น. 10
ไม่ได้จีบตรงๆหรอกนะแต่เขาเรียกว่า love at first sign 555555555

ก็เออ เทอม2เนอะ คาบบ่ายมีวิชาhospitalityพวกทำอาหารอะไรพวกนี้อ่ะ แล้วทีนี้เรานั่งตรงข้ามกับเขาพอดี  




เรากับเขาชอบนั่งเท้าคางไงเวลาเบื่อๆอ่ะหันไปเจอกันพอดี แว๊กกก ใช่เลยยย โดนใจฉันเลยยย
พอมาหลังๆเราจำได้ว่าเราเคยเจอเขาในฝันด้วย เขาเป็นเจ้าชายเราเป็นเจ้าหญิงไปเจอกันในสวนดอกไม้ 555 [หวานซะ] เราก็เลยชอบแอบมองเขาบ่อยๆอ่ะ แต่มองไปทีไรถ้าไม่เห็นฟุบหลับกับโต๊ะก็นะคุยๆๆๆๆ ไม่คุยก็หันมาจอเราพอดีแล้วพอหันมาเจอกันเท่านั้นแหละ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันจนเราต้องยอมแพ้ด้วยความเขิน 

อยู่มาวันนึง ทำอาหารเสร็จกันละแต่ไม่มใครยอมล้าง เห็นเขาล้างอยู่คนเดียวก็เลยไปช่วยพอเช็ดมีดเท่านั้นแหละบาดมือ #ทีหลังมารู้ว่าแผลเป็นรูปหัวใจ 555  พอเห็นเราเลือดออกเท่านั้นแหละเขาจูงแขนเราไปในห้องเรียนอ่ะ [เราอยู่ครัว] แล้วก็เอาทิชช่งทิชชู่มาซับเลือดให้ทำทุกอย่างให้หมด #แล้วพวกคนที่แอบอู้งานมานั่งในห้องกันเห็นหมด แล้วก็ให้เรานั่งบนเก้าอี้แล้วเค้าก็จับมือเรา [เหมือนจะขอแต่งงาน555 #หนูเป็นนักมโน] แล้วก็บลาๆๆๆๆๆ[ปฐมพยาบาล] แล้วติดพาสเตอร์ให้ เจ็บจี๊ดๆ 'อ้าวช์'[เจ็บนะเฟ้ย] เขาถามว่าเจ็บอ่อ แล้วก็ติดให้เบาๆ แต่แบบแน่นมากสำหรับเราอ่ะ 555เราก็เลยอ่าๆ thanks BD [ไม่ขอเอ่ยนาม 555] he's like 'no problem' 

แล้วทุกวันที่เราเจอกันในห้องเรียนเราก็แบบสนิทมากยิ่งขึ้นๆๆๆๆ ไปมองตากันคุยกันเล่าเรื่องตลก เหมือนเพื่อนสนิท แต่จริงๆใครจะรู้ว่าความสัมพันธ์ของเรามันมากกว่านั้น 555 
แต่เราพยายามให้อิสระเค้ามากๆนะ #ไม่อยากยึดติดใน เห็นบางคู่ในรรอ่ะ ควงกันไปนู่นควงกันไปนี่ติดกันทุกฝีก้าวยิ่งกว่าแฝดสยาม- -' แบบรักกันมากอิจฉานะ แต่ผชนี่หน้าตาแบบเอ้อปล่อยกูไปเหอะ ไรเงี้ย 555  
เราก็เลยไม่ได้ผูกมัดอะไรตอนเช้าก็เจอกันไปเอาของที่ล็อคเกอร์ของกันและกัน,hold hand? 555, ตอนเที่ยงงี้ตามจริงคนรักกันเขาต้องมากินข้าวด้วยกันนะ 555 แต่เราบอกเขาไปว่ายังไงก็ตามแต่นายไปกินข้าวกับเพื่อนนายเหมือนเดิมนั่นแหละดีแล้ว เค้าก็จะไปกินกับเพื่อนเค้าเหมือนกัน,นอยด์อยู่นะที่ไม่ได้เดินกลับบ้านด้วยกันน่ะ 555 เข้าขึ้นรถschool busเพราะว่าบ้านไกลนิดนึง เราเดิน 555 วันเสาร์อาทิตย์ก็hang outนิดหน่อยแค่นี้แหละ ชีวิตคู่ของวัยรุ่นจะเอาอะไรมากมาย ขอแบบเรียบง่ายๆก็พอ 555


นายคือคนที่... เล่นกีตาร์ที่พังแล้วได้เพราะที่สุดในโลก[มีวิดีโอด้วยนะแต่เค้าลบเฟสอ่ะถามก็ไม่ยอมบอก  - -''], เป็นผู้ชายที่คนดีที่สุด, เป็นผู้ชายที่น่ารักที่สุด, เป็นผู้ชายที่ทำกับข้าว,ล้างจาน,ซักผ้าได้เท่ที่สุดในโลก, เป็นผู้ชายที่ขยันที่สุด, เป็นผู้ชายที่ทำอะไรก็ดูดีไปหมด, เป็นผู้ชายที่สุมหัวนินทาชาวบ้านได้ฮาที่สุด[ถึงแม้ว่ามันจะแป้กก็เถอะ] เป็นผู้ชายที่รักการเรียนที่สุด <3 [อันสุดท้ายนี่ล้อเล่นนะ 555]

ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันนะ
BRANDON please look after me till the rest of my life, i'll take care of you even if i'm stop breathing


<span 48px;="" style="">NB 5555 https://www.youtube.com/watch?v=Zmh5YLyJTWc





แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 28 เมษายน 2556 / 10:52
0
MOJINEY 28 เม.ย. 56 เวลา 15:08 น. 11
อร๊าย !~
ฟิน คห 4 อ๊ะ 
อยากมีคนมาชมแบบ คห 4 ว่าน่ารักอ๊ะคงฟินน่าดู
อยากเห็น คห 4 จางงง >3<

PS.  ดีจ้า :'D ...ชื่อ...มันนี่ วู้้ วว ~
0
sunmile 28 เม.ย. 56 เวลา 16:52 น. 12

คห.11 ค้า 
คือคุณก็คงเข้าใจนะว่าสเป๊กฝรั่งมันเปนยังไง TwT 
อยู่ไทยนี่เพื่อนบอกว่าเหมือนเมียแคทคะ U_U  เฟล 5555555

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

--Homo sapien-- 28 เม.ย. 56 เวลา 19:21 น. 15

คห.13คะ...

กรี้ดดดดดดดดดดดด!!!!
บอกไปเลยค่ะ บอกไปเลย!
แต่เป็นแบบค่อยๆเลียบๆเคียงบอกไปตามโอกาสนะคะ
เรื่องราวเหมือนนิยายเลยค่ะ เพ้ออออ ^^

ปล. ส่วนตัวแล้ว เราคิดว่าคนเราถ้ารู้จักกันมาก่อนก็ควรทักทายบอกกล่าวกันนะคะ มันจะทำให้ทั้งคุณทั้งเค้าไม่รู้สึกอึดอัดใจน่ะค่ะ


PS.  กำลังอ่านค.ห.ของเราอยู่ละสิ
0
Final 28 เม.ย. 56 เวลา 19:21 น. 16

เม้นท์ 13
แนะนำให้ลุยโลดค่ะ 5555
คือ หยั่งงี้มันไม่มีกันบ่อยๆนะคะ นึกซะว่า โลกเหวี่ยงเรามาเจอกันละกัน ถ้าหลุดไปอีกอาจจะไม่เจอแล้วนะ
สมัยก่อนเราก็มีอ่ะ เหมือนชอบๆ ใช่ไม่ใช่ อะไรงี้ เล่นตัวไปเล่นตัวมา สุดท้ายก็ปิ๋วววว อด 55 ช้ำใจนิดๆมาถึงวันนี้
ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลัง ยังไงก็ลองดูค่ะ เป็นกำกลังใจให้ :)


PS.  [-Lullaby~-]
0
Ran 28 เม.ย. 56 เวลา 19:51 น. 17

ขอโทษนะคะที่ต้องลบกระทู้ไปก่อน พอดีอยากขอแค่คำปรึกษาค่ะ ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่อะไรมากมาย ขอบคุณนะคะสำหรับทุกคอมเม้นต์ จาก คห 13

0
LAPAG 28 เม.ย. 56 เวลา 22:13 น. 18

คือ ตัวเองไม่มีหรอก-.- เเต่เพื่อนอ่ะมีเพื่อนเราชื่อเจคJake (ชื่อผู้ญ มากเลยว่ะ555) เเล้วมันไปต่างประเทศบ่อยไปเรียนอ่ะตอนนี้อายุ15 เหตุการ์ณเกิดขึ้นเมื่อ4เดือนก่อน เจคมันไปอังกฤษ4เดือนไปเรียนhistoryไรของมันไม่รุ้ เเล้วมันมีพี่ชายอายุ17เรียนที่Eton มันก็นั่งรถไปรับ-ส่งพี่ชายทุกวันเเล้ววันเเรกที่เดินเข้าbuilding 1ปึ๊บ เท่านั้นเเหละเด็กเล็ก เด็กใหญ่มองตามเป้นขบวนเพราะอีตันเป็นรร ชายล้วนไง5555 มีเเต่คนคิดว่าเจคเป็นเเฟนกับเจมส์(ชื่อพี่ชาย ตัวจริงอย่างหล่อ>]] ก็มีเรื่องกับเจคที่ยิมเเห่งนึง ทะเลาะกันเรื่องซ้อมบาส ไม่รู้นิกไปพูดอะไรกวนต่อมทวารหนัก?!!!(ไม่ใช่เเหละ) โดนเจคต่อยเต็มเบ้าล้มฟุ้บไปกับพื้น เอ้อ!ลืมบอกไอนี่เป้นนักยูโดของโรงเรียนนักอิอิ?เจ้าตัวก็ตกใจคิดว่าเเค่สะบัดนิดหน่อยเท่านั้นเอง? เลยไปขอดทษพ่อเเม่นิกเค้า เเต่โชคดีผู้ปกครองเค้าไม่เอาเรื่องเพราะนี่มีเรื่องบ่อย?เหมือนหนังน้ำเน่าของไทยเลย วันต่อมานิกมาซะหมดสภาพนักเลงเเห่งอีตัน สภาพสะบักสะบอมอย่างกับไปรถเกาหลีเหนือมา มันอุตส่าห์มารอเจคตั้งเเต่เช้า พอเห็นเจคลงมาพร้อมกับพี่ก็ขอไปคุยด้วย เเล้วไปๆมาๆ2คนนี้ก็ถูกคอกันซ่าเหมือนกัน เกรียนเเละทะลึ่ง หื่นบ้ากาม พอๆกันเลย อีก1อาทิตย์ก่อนกลับไทยเพื่อนๆของเจมส์พากันมาจัดปาร์ตี้ก่อนที่เจคจะไปเบลเยี่ยมเเล้วกลับไทย เเน่นอนว่าหน่องนิกกี้ก็มา เจคเลยจัดเพลงร้องให้ฟังสักชุดไม่รู้อะไรให้โดนใจมันร้องเพลงM-Leg = ="เเล้วก็เต้นท่าเเปลกๆอีกตางหากเเล้วมันก้พูดว่า"F**king guys let do it" กังนัมเอย กินตับเอยรวมอยู่ที่บ้านเเห่งนี้เเห่งเดียว555 นิกก็เลยบอกเจคว่า'u r beautiful u should know it and u should know u r one and only' เเล้วมันก็*^&^%$#@!@#$%เเค่mouth to mouthเเบบดูดดื่มอ่ะ เเค่เจคน่าจะรู้ตัวว่ากำลังเอิ่ม .. เคลิ้มเลยผละตัวออกมาเเล้วยิ้มเเล้วก็บอกว่า'u r ma first love i love u like a lover not a friend'เเล้วก้เเลบลิ้นใส่?จากนั้นหลังจากเจคกลับมาไทยเราก็เห้น2คนนี้skypeหากันทั้งวี่ทั้งวันทุกวินาทีเลย- - กินข้าวอยู่มาเเหละhi my honey,miss so so much,i waited my princess for a long time and now i know she's in my heart เราก็บอกว่า"เจคจะเเดกไม่เเดก ไม่เเดกกุเเดก!!!!!งั่มๆๆๆๆ" เหมือนทุกอย่างจะราบรื่นมากเลยพ่อเเม่ทั้งสองฝ่ายก็รู้เเละเปิดใจด้วยอิจฉาง่ะ เจคก็โคตรน่ารัก เรียนเก่ง ฉลาดนิกก็โคตรหล่อเ้ย โคตรพ่อโคตรเเม่(เว่อร์เกิ้นนนน555)รวยทั้งสองตระกูล?
ปล. ตอนนี้เจคเรียนอยู่Year10 Aห้องเดียวกะเราเเหละเพื่อนสนิทกัน


PS.  ᏝᎪᎮᎪᏀ🍀
0
ฤดูร้อน'Days 28 เม.ย. 56 เวลา 23:31 น. 19

เรื่องของเรามีอยู่ว่า

ตอนนั้น (ปีที่แล้ว) เราไปเรียนที่อังกฤษไปเรียนภาษา โรงเรียนที่เราเรียนเป็นโรงเรียนเล็กๆ ใน ZONE 5 เราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับ Beginning เรียนไปเรื่อยก็อัพเลเวลตัวเองไป จนขึ้นไปอยู่ระดับ อินเตอร์มิเดียด ตอนนั้นเราเริ่มพูดภาษาอังกฤษได้เยอะและคร่องแคร่วแล้ว เพื่อนเริ่มเยอะ เรื่องเริ่มตรงที่ว่า ที่โรงเรียนจะมีการไปเข้าร้านอาหารกันทุกๆ วันศุกร์หลังคราสเรียนสุดท้ายจบ ร้านที่เข้าเป็นสไตล์ Pub&Restaurant อาจารย์ที่โรงเรียนจะไปด้วยเพื่อให้นักเรียนได้นั่งพูดคุยกันจะได้พัฒนาภาษาอังกฤษได้พูดคุยกันมากขึ้น วันนั้นเองที่เราได้คุยกับตานั่นอย่างจริงจังครั้งแรก (ก่อนหน้านี้ก็เห็นในห้องเรียนมาบ้างแล้วบางครั้ง แต่ไม่ได้คุยกันเยอะ แค่เหมือนเห็นหน้ากัน เป็นเพื่อนร่วมห้องกันแค่นั้น) เขาเป็นคนเข้ามาคุยก่อน เรานั่งอยู่กับพี่อีกคนซึ่งเป็นคนไทย ขอให้เขาไปเป็นเพื่อนกลัวคนไม่คุยด้วย ฮาาาาาา ต่อๆ พอตานั้นเข้ามาในพับก็สั่งเบียร์ตามเหมือนคนอื่นๆ เพื่อนของเราก็เดินมาคุยกับเราเป็นพักๆ แล้วก็เดินไปคุยกับคนอื่น พอตานั่นเห็นเราว่างก็เลยเดินมาคุย ถามโน้นนี่เกี่ยวกับประเทศไทย ประเทศเป็นยังไง คนเป็นยังไง รายละเอียดต่างๆ คุยเรื่องทั่วๆ ไป พอสามทุ่มก็ต้องกลับละ เพราะมันดึก ปกติไม่กลับบ้านดึก เหตุการณ์วันนั้นก็เป็นอันจบไป

หลังจากนั้นอาทิตย์ต่อมา กำลังจะเป็นอาทิตย์ที่สิ้นสุดฤดูร้อน เพื่อนในห้องคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชายก็มาชวนเราไปทะเลกับเขา (ไปเช้าเย็นกลับ) เราก็อ้ำอึ้งไม่กล้าไปแค่สองคน ทีนี้คิดไปคิดมาไงไม่รู้ แหกปากถามเพื่อนทุกคนว่าไปทะเลกันมั้ย อาทิตย์สุดท้ายของฤดูร้อนแล้ว นั่นหมายความว่าพ้นจากอาทิตย์นี้ไปแล้วน้ำทะเลจะเริ่มเย็น ทุกคนแหกปากตอบพร้อมกันว่า "ไป!!" และตานั่นก็ไปด้วยเช่นกัน เหตุการณ์เริ่มขึ้นตรงนี้ล่ะ เขาเล่าว่าเขาเริ่มปิ้งเราตอนไปทะเลด้วยกันนี่ล่ะ ตอนไปทะเลเหมือนโดนแกล้งอะ เป็นของเล่นของตานั่นเฉย โดนลากไปไกลๆ โดนจับโยนลงน้ำ โดนบอกให้กระโดดจากมือ เล่นอะไรแปลกๆ ="= อารมณ์เหมือนโดนแกล้ง เล่นไปเล่นมาเพื่อนคนที่ชวนมาคนแรก บอกว่าจะพาไปดูที่ๆ เขาเก็บเรือกันเลยเลิกเล่นน้ำ แล้วเดินไปตามทางทีนี้เราหนาวอะ ตานั่นก็เลยถามเราว่า "อิ๊บบี้เธอหนาวหรอ เอาเสื้อเรามั้ย?" เราก็บอก "ไม่เป็นไร เราทนได้อยู่" ตานั่นก็ว่า "อย่าเลย ทำไมดื้องี้ล่ะ เอาไปเถอะ" ว่าแล้วตานั่นก็หญิงเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตออกมาจากกระเป๋าแล้วเอามาคลุมไหล่ให้ (เป็นความทรงจำที่รู้สึกดีมาก พิมพ์ไปยิ้มไป) หลังจากนั้นเราก็คิด เออ ใส่ก็ได้วะ! ก็เลยใส่แล้วตานั่นตัวสูงแต่ก็ไม่ได้สูงมากนะ เสื้อที่ได้มาเลยตัวใหญ่มาก ยาวเกือบถึงหัวเข่า เราตัวเตี้ยด้วยละ สูงแค่ 150 เหตุการณ์วันนั้นเป็นจบไป

หลังจากนั้นเราเห็นตานี่มาที่โรงเรียนบ่อยขึ้น พอเลิกเรียนก็จะมายืนส่งเราที่ป้ายรถเมล์ ตอนนั้นเราซื่อบื้อมากคิดว่าเขาเบื่อเลยมายืนรอหาเพื่อนคุย เพราะเราไม่ได้คิดไร เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราเป็นพวกชอบเที่ยว ไม่ใช่เที่ยวกลางคืนนะ คิดว่ามาอังกฤษทั้งทีเอาให้คุ้ม พอไปเที่ยวไหน เราก็จะถามเพื่อนทุกคนในห้องว่าใครจะไปบ้าง และตานี่ก็จะไปด้วยกับเราทุกครั้ง ซึ่งตอนนั้นเราก็คิดกับเขาแค่เพื่อนเหมือนเดิมนั่นล่ะ แต่เราสองคนเริ่มสนิทกันมากขึ้น และ!...มีอยู่วันนึงไปที่พิพิธภัณฑ์แล้วเขาตั้งท่าจะออกค่าอาหารให้ลูกเดียว เราเลยบอก “ไม่ ไม่ ไม่ต้องออกให้เรา เดี๋ยวเราออกเอง” ตานั่นก็เลยพูดขึ้นมาเบาๆ “ทำไมล่ะ...ทำไม...ทำไมเราถึงจะออกให้คนที่เราชอบไม่ได้” ตอนนั้นเราก็เงียบ แต่ในใจก็คิดว่าก็คงชอบเราแบบเพื่อนล่ะ แต่สิ่งที่น่ารักที่สุดเลยคือ...ด้วยความที่เราเป็นคนฮาๆ ตลกๆ อาจารย์เลยชอบถามคำถามเราบ่อยๆ จนมีอยู่วันนึงเขาถามว่า “อิ๊บบี้ เธอชอบผู้ชายแบบไหน?” เราก็ตอบไปแบบมั่นใจมาก “ชอบคนที่มีกล้าม มีซิกแพค แบบนั้นอะโคตรโดน” หลังจากนั้นอาทิตย์นึง ตานั่นไม่ได้มาโรงเรียน แล้วพอมาอีกทีนึง เราอึ้งนิดๆ เราเห็นอะไรบางอย่างของตานั่นเปลี่ยนไป เสื้อที่ตานั่นใส่ดูแนบเนื้อมากขึ้น แขนนั่นก็มีกล้าม ดูล้ำขึ้นเว้ยเฮ้ย! ด้วยความที่เราชอบเห็นกล้ามแขนที่โผล่พ้นแขนเสื้อออกมา นิสัยเสียมาก เอานิ้วไปจิ้มกล้ามแขนตานั่นเฉยเลย ฮาาาาาาา ตานั่นก็มองเรา และเราก็ส่งยิ้มแฮะๆ ไปให้ มารู้ที่หลังว่าที่ไปเล่นกล้ามเนี่ยเพราะอยากจะให้เราหันไปชอบเขา หันไปสนใจเขา น่ารักอะดิ >,,,< ปลื้มมากๆ

ตอนนี้เรากับตานั่นเป็นแฟนกันแล้ว และยังเป็นแฟนกันอยู่คบกันตั้งแต่ช่วงตุลาคม จนถึงตอนนี้...แต่เรากลับมาไทยได้สี่เดือนแล้ว ตอนนี้เป็นความสัมพันธ์แบบ Long-Distant&nbsp แต่ก็ยังรักกันดีอยู่และรักกันมาก พูดแล้วก็คิดถึงแฟนจัง...

จริงๆ แล้วเรื่องเล่ายาวนะ แต่เอาแค่นี้และกันเนอะ จบแล้วจ้า!


PS.  คนเรามักจะยึดติดอยู่กับอดีตและอนาคต ทั้งๆ ที่จริงแล้วเรากำลังอยู่กับปัจจุบัน
0
Rays 28 เม.ย. 56 เวลา 23:33 น. 20

อ่า ของเราไม่เชิงว่ามาจีบหรอกเนอะ แต่ก็เล่า ถือเป็นการรำลึกอดีตไปในตัว 55
เราเคยไปอเมริกานะ ที่เราไปเป็นไฮสคูลที่แทบไม่มีคนเอเชียเลยอ่ะ พอเราไปปุ๊บก็ได้เป็นเด็กใหม่+ยัยเอเชีย ไปในคราวเดียว - -* แต่พวกเขาก็ไม่ได้ล้ออะไรมากหรอกนะ ไม่ได้ถึงกับเหยียดสีผิวหรือเหยียดสัญชาติ ที่มีบ้างก็คือล้อสำเนียง แล้วคือนายคนนี้น่ะเขาเป็นนักบาสของโรงเรียน เขาสูงและตัวใหญ่กว่าเรามาก เวลาเรายืนคุยกับเขาก็เหมือนคุยกับภูเขาอ่ะ - -* แล้วแก๊งนักบาสของเขาก็จะเป็นพวกหนุ่มซ่าๆ อ่า ไปเรียนวันแรกๆเราก็โดนล้อจากกลุ่มนี้มากที่สุดละนะ เราก็เฉยอ่ะค่ะ เฉยเท่านั้นที่ครองโลก หึๆ แล้วทีนี้เพื่อนในกลุ่มเราน่ะชอบนักบาสคนนึงในกลุ่มของหนุ่มคนนี้ ชีก็อยากจะไปเฝ้าไปตามกรี๊ดอ่ะนะ ก็หาเรื่องไปนั่งใกล้ๆยิมบ้างละ ถ้ามีโอกาสก็ไปนั่งที่สเตทตอนนักบาสซ้อมบ้างละ บลาๆ เราเลยได้เจอหนุ่มคนนี้บ่อยตามไปด้วยเลย แต่ก็สังเกตว่าเขาไม่มีแฟนนะ (หรืออาจจะมีแต่ไม่เห็น หึหึ) เรื่องของเรื่องคือวันนึงเราโดนแกล้ง มีจอมแสบคนนึงเอาหนังสือเรียนกับนิยายของเราไปซ่อนแล้วให้เราไปทำความสะอาดห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านักกีฬาแทนมัน มันเป็นเวรอ่ะนะ ห้ามเราบอกใคร ห้ามบอกครูด้วย เราก็...ด้วยความที่ซื่อมาก ไม่สู้คนด้วย โดนแกล้งก็ยอม ไม่บอกใคร ทำๆไป ก็อาศัยทำตอนนักกีฬาเขาไปซ้อมกัน แต่ก็ต้องรอล็อกห้องตอนเลิกใช้ด้วยไง เราก็เลยนั่งรอ มันก็เย็นมากละแหละ เราโทรไปหาโฮสท์ว่าวันนี้ต้องกลับเย็นนะมีเวรที่โรงเรียน(โกหกโฮสท์ ไม่ดีนะ อย่าทำตาม 55) โฮสท์ก็บอกว่าถ้าจะกลับให้โทรหา เขาจะไปรับที่โรงเรียน(ปกติขึ้นรถประจำทางแล้วก็เดินอีกนิดหน่อยไป-กลับโรงเรียนทุกวัน) แล้วเราก็นั่งรอต่อไป พอทุกคนใช้ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็กลับบ้านกันหมด เราก็เดินไปเช็กห้องน้ำ ปิดไฟ แล้วก็ล็อกห้อง พอล็อกเสร็จก็หมุนตัวจะเดินออกไป เราก็ป๊ะเลย เจอพ่อหนุ่มคนที่ว่านี่ละมายืนหอบฮักๆอยู่ตรงหน้าแล้วก็มองเราแบบงงๆ เราโคตรช็อกอ่ะตอนนั้น ก็ถามว่าเขากลับมาทำอะไร เขาบอกว่าเขาลืมของไว้ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เราก็หลุดปากไปว่าไม่ทันแล้วฉันล็อกห้องไปแล้ว...พูดจบเพิ่งคิดได้ว่าสายไป เขาจ้องแล้วถามว่าเราล็อกห้องได้ไงเราไม่ใช่เวรซะหน่อย อารมณ์เราตอนนั้นคือทั้งเขินทั้งกลัวทั้งอายปนๆกันไปเลย แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร ไม่พูดอะไรเลย สุดท้ายเขาก็เลิกถาม คงรำคาญละมั้ง แล้วเขาก็หมุนตัวเดินออกไป เราก็ถอนใจแบบโล่งอกอ่ะนะ หยิบโทรศัพท์มาโทรหาโฮสท์ ปรากฏว่าโฮสท์ไม่รับ กี่สายๆก็ไม่รับ เราเลยกัดฟัน เอาวะเดินก็เดิน ก็คว้ากระเป๋า ใส่หูฟัง คิดว่ารีบเดินเดี๋ยวก็ถึง เดินออกจากโรงเรียนได้นิดเดียวมีรถมาจอดเทียบข้างๆ ลดกระจกลงปุ๊บ คนขับก็คือหนุ่มคนนั้น เราคิดในใจว่า เอ่อ ฉันดีใจนะที่ได้เจอนายแต่ฉันก็กลัวนายอ่ะ - -* เขาถามว่าจะไปไหนยัยเอเชีย เราก็บอกจะกลับบ้านโฮสท์ เขาก็นิ่วหน้า ถามว่าแล้วทำไมไม่ขึ้นรถประจำทางล่ะ เราบอกว่า เอิ่ม เบิ่งตาดูเวลาหน่อยไหม รถไม่มีแล้วละ เขาก็ถามว่าโฮสท์ของเราคือใคร เราก็บอกชื่อโฮสท์ เขาก็อ๋อเลย พูดรัวมาว่า เขารู้จักโฮสท์เรา ขึ้นมาสิเดี๋ยวไปส่ง เอ๋อๆแบบเธอน่ะถ้าปล่อยให้เดินคนเดียวไม่ได้หรอก จับใจความได้ประมาณนี้อ่ะนะเพราะเขาพูดเร็วมาก เราก็อ่า ไปก็ได้ ทำหน้าแบบไม่ค่อยเต็มใจ (แต่ข้างในน่ะแบบว่าลอยเลย ดีใจมาก 55) นั่งรถไปเขาก็ถามว่าทำไมเธอไม่ค่อยพูดเลย ไม่ค่อยสู้คนด้วย ฉันเห็นว่าเธอโดนแกล้งบ่อยนะ เราก็ค้อนเขาแล้วบอกว่า ก็ที่แกล้งน่ะครึ่งนึงก็พวกเพื่อนกลุ่มนายทั้งนั้นนี่ ฮีก็เงียบไปเลย เถียงไม่ออกอ่ะดิ (หรืออาจฟังไม่รู้เรื่องก็ได้555) แล้วเขาก็บอกว่า วันนี้ฉันรู้ว่าเธอโดนแกล้ง ใช่ไหมล่ะ ฉันเดาเรื่องแล้วมันลงล็อกพอดี ฉันรู้แล้วว่าใครเป็นตัวการ เราก็อึ้ง+เงียบเลย สุดท้ายก็ถึงบ้านโฮสท์ เราก็เปิดประตูลงมาเจอโฮสท์แม่ทำหน้ากังวลมาก เขาก็ขอโทษที่ไม่ได้รับโทรศัพท์ บลาๆ เราก็ขอบคุณเขาที่มาส่งแล้วก็ยิ้มให้+โบกมือบ๊ายบาย พี่แกก็เก๊กตามเคยน่ะนะ ทำเป็นไม่สนใจ เหอๆ พอหลังจากวันนั้น เราไปโรงเรียนก็แทบไม่โดนกลุ่มของนายคนนั้นแกล้งหรือเรียกว่ายัยเอเชียอีกเลยนะ แล้วคนที่แกล้งเรา ที่ใช้ไปทำเวรอ่ะก็เอาของเรามาคืนพร้อมขอโทษขอโพยอย่างดีแต่หลบตาเราตลอดนะ เราก็งงๆ มันเป็นอะไรของมันแว๊? สรุปคือโลกเป็นมิตรกับเรามากขึ้น แล้วเรากับเพื่อนก็ได้ไปนั่งเฝ้านักบาสกลุ่มนี้อีกสองสามครั้ง เมื่อเห็นเขาเราก็ยิ้มให้ตลอดนะ ตานั่นก็แน่นอนว่าเก๊ก ทำเป็นไม่สนใจ เหอๆ แล้วพอถึงวันสุดท้ายที่ไปโรงเรียนเราก็ใช้ช่วงพักกลางวันที่คนอื่นอยู่ในโรงอาหารออกไปเดินทั่วโรงเรียน ถ่ายภาพมาทุกที่เลย เรื่อยมาถึงยิม เข้าไปแบบมั่นใจมากว่ายิมจะว่าง สรุปว่าเจอนักบาสอยู่กันครบเลย หลบออกไปไม่ทันแล้วด้วย เพื่อนก็สะกิดๆหนุ่มนักบาสของเรา...บอกชื่อเลยละกันว่าชื่อคอนเนอร์ ใช้สรรพนามแล้วมันยาว 55  คอนเนอร์เห็นเรากับกล้องในมือ เขาก็หันไปไล่ให้เพื่อนไปโรงอาหารก่อนเลยเดี๋ยวเขาตามไป เพื่อนเขาก็มีแซวเฮฮาเล็กน้อย เราเขินไปแล้วคร้าบบ ตามเคย 55 เสร็จแล้วเขาก็ถามว่าเราจะทำอะไร เราบอกว่าถ่ายรูปโรงเรียน วันนี้วันสุดท้ายที่อยู่โรงเรียนแล้ว พี่แกก็นิ่งไปแป๊บนึงแล้วก็ทำเป็นค้นกระเป๋า หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเรา แบบ พี่แกทำเร็วมากนะ เราไม่ตั้งตัว รูปที่ออกมาคือเราเบิกตากว้างเลย หน้าตกใจอ่ะนะ เขาดูแล้วก็หัวเราะก๊าก เราก็กระโดดตะกายเขา จะแย่งโทรศัพท์มาลบรูป เขาก็ล็อกโทรศัพท์แล้วก็ชูไว้ด้วยส่วนสูงนักบาส...สรุปคือเราแพ้ เราก็ค้อนเขา เขาบอกว่าเขาจะเอาไปลงเฟสแล้วแท็กเด็กในโรงเรียนทุกคนที่เขามีเฟส เราปร๊ีดแตกเลย วิ่งไปชกเขา (เจ็บมือ) แล้วก็ตะกายๆจะแย่งโทรศัพท์มาอีก เขาก็หลบเราด้วยท่านักบาสแล้วบอกว่า ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันทำอย่างงั้นเธอก็ต้องแอดเฟสฉัน เราก็นะ รีบบอกเลย ยอมๆๆๆ ทำอะไรก็ได้แค่อย่าแท็กรูปนั้นก็พอ เขาก็หัวเราะหนักกว่าเดิมอีก แล้วพี่แกก็ให้ชื่อเฟสมา แล้วก็หยิบของเดินส่ายออกจากยิมไป เราก็นะ มันหันหลังละ กดชัตเตอร์รูปซะเลย ฉวยโอกาส 55 ตอนนั้นก็ทำได้แค่นั้นละ พอวันสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องเราก็กอดโฮทส์ทั้งสองคน (เป็นคู่สามีภรรยาที่ไม่มีลูก) ก็ร้องไห้กัน เขาบังคับให้เราสัญญาว่าจะมาเยี่ยมเขาอีก เราก็ร้องให้เลย สัญญาเสร็จเขาก็ให้ของขวัญ (มาเปิดดูทีหลังคือเป็นไอพอด ในนั้นก็มีรูปทุกรูปกับวิดีโอทุกอันที่ถ่ายตอนอยู่ด้วยกัน ซึ้งมาก) แล้วก็หยิบกล่องเล็กๆ อีกใบขึ้นมา เขาบอกว่ามีคนฝากมาให้เรา เราก็รับมาแบบงงๆอ่ะนะ แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมันมาก มัวแต่ร้องไห้กัน พอกลับถึงไทยมาเปิดดูถึงได้เจอว่าเจ้าของกล่องคือคอนเนอร์ ใส่ของมาให้แบบเราเขินอ่ะ (ไม่บอกนะว่ามันคืออะไรบ้าง 55) แล้วหลังจากนั้นก็แอดเฟสพี่แกไปแล้วก็ได้คุยกัน ยิ่งคุยยิ่งสนิทและคุยบ่อยมากขึ้น บางทีก็เฟสไทม์เลยด้วย แล้วมีวันนึงเฟสไทม์กับเขาอยู่ดีๆ หน้าจอฝั่งเขาก็มืดไป เราก็ตกใจดิ ร้องเรียกเขา เขาก็ไม่ตอบ สักพักหน้าจอฝั่งเขาก็สว่างขึ้นมาอีกแต่ตัวเขาหายไป มีกระดาษเขียนข้อความมาวางเต็มหน้าจอแทน พี่แกบอกว่าเขาชอบเราตั้งแต่ตอนที่เราเดินสะดุดที่โรงอาหารวันนั้นแล้ว (นั่งนึกอยู่นานเลยว่าวันไหน) แล้วกระดาษก็เปลี่ยนไป แผ่นต่อมาเขียนว่า  'แต่ฉันไม่ได้บอกเธอ ฉันพูดไม่ออกจริงๆ' กระดาษเปลี่ยนอีกแผ่น เขียนว่า 'แต่ตอนนี้กล้าบอกแล้วแหละ อีกอย่างที่จะถามคือ..' กระดาษเปลี่ยนอีกแผ่น แผ่นนี้เขียนว่า '............'(เซ็นเซอร์นะ แต่ใจความก็คือขอเป็นแฟนนั่นละ) หึหึ เราช็อกค่ะ ช็อกคาไอโฟน แล้วเรื่องอะไรเราจะเซย์โนล่ะ จริงไหม 555  ทุกวันนี้ก็แฮปปี้ ดี >< พอดีกว่าเรา รู้สึกจะยาวไปนะ 55

0