เวลาปิ๊งพล็อตที่อยากแต่งนี่..ท่านจะเริ่มเขียนทันทีเลย หรือทิ้งไว้ให้ตกตะกอนก่อนอ่ะคะ?
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนเราแต่งนิยายเรื่องแรกกับเรื่องที่สอง มันเริ่มจากปิ๊งพล็อตขึ้นมาในหัว
จากนั้นก็เขียนเรื่องย่อทั้งหมดคร่าวๆเอาไว้แล้วก็เริ่มแต่งแบบรวดเร็วมาก - - คือคิดอะไรได้ตอนนั้นก็จับยัดใส่เรื่องหมด
ผลคือ...แต่งไปได้เกินครึ่งก็เบื่อแล้วอ่ะ ไม่ใช่เพราะตันหรือมันออกทะเล แต่รู้สึกว่าความคิดหลายอย่างยังไม่ตกตะกอน เหมือนอยากใส่อะไรก็จับยัดใส่
ทำให้นิยายมันไม่สื่ออะไรเท่าที่ควร (คืออยากให้นิยายตัวเองอย่างน้อยได้ให้อะไรกับคนอ่านบ้างนอกจากความสนุก?ว่างั้น- -)
เลยอยากถามท่านๆว่า เวลาท่านปิ๊งไอเดียพล็อตเรื่องนึงขึ้นมาได้ ท่านวางโครงเรื่อง เขียนเรื่องย่อ อะไรเลยรึเปล่า
หรือท่านค่อยๆรอให้เวลาผ่านไป หาไอเดียเรื่อยๆ รอความคิดหลายอย่างในหัวสะสม จนตกตะกอนว่าเนื้อเรื่องควรจะเป็นไง กว่าจะเขียนเรื่องหนึ่ง (แล้วรอนานมั้ย?)
PS. And The Winner Is
20 ความคิดเห็น
โดยส่วนตัวผมจะตกตะกอนก่อนเสมอครับ
PS. บัลลังก์นี้มิเคยปรารถนา บัลลังก์นี้มิเคยคิดลุ่มหลง บัลลังก์นี้มิเคยคิดชื่นชม บัลลังก์นี้มิเคยสมสุขทรวง / ไม่มีใครปฏิเสธกรรมที่เรียกว่า "การกระทำ" ได้หรอก
จดไว้กันลืม แต่ยังไม่เขียนครับ รอให้มันตกผลึก/ตกตะกอนก่อน
PS. ไม่ว่าใครต่างก็มีความลับ... เมื่อมีความลับย่อมมีจุดอ่อน...
ถ้าเมื่อก่อนเขียนเลยทันทีค่ะ แต่ตอนนี้เปิดพร้อมกัน 4 เรื่อง เราเริ่มไม่ไหวหละ ก็เลยจะเอาไปลงคร่าวๆใน word ก่อนค่ะ แล้วเราก็จะรู้สึกได้เลยว่า พล็อตเรายังมีข้อเสียอีกเยอะเลย ดีนะที่ยังไม่เปิด ไม่งั้นมีหวังแต่งไม่จบ -.-
ps.ตอบนอกประเด็นขออภัย ==
PS. am alone
บางทีก็เอามาเขียน , วางแผนการดำเนินเรื่องว่าเอาแบบไหนดี ตัวละครเป็นไงแล้วค่อยลงมือปฏิบัติ
(ใช้เวลานานหน่อย แต่เพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนออกรบ~!)
ผมจะจำไง้แม่นๆ ครับ แล้วเวลาผ่านไปก็ลองต่อโน่นต่อนี่ดู
แล้วจึงเขียนเมื่อมีพล็อตครบถ้วนครับ
แต่ที่จริงแล้วนิยายที่ผมเขีนหลายๆ อย่างมันมาตอนลงมือเขียนครับ ทั้งพล็อตย่อยที่ดีกว่าที่คิดไว้และอีกลายๆอย่าง
ดังคำที่มีนักเขียนท่านหนึ่งว่าไว้
"เราไม่มีทางรู้ว่าหนังสือที่เราเขียนจะมีรูปร่างเป็นอย่างไรจนกว่ามันจะถึงตอนจบ"
แต่งทันทีค่ะ
บางทีไอเดียมา มันก็เหมือนสายฟ้าฟาด ไม่ได้แต่งจะกระสับกระส่าย
ไม่ลงมือตอนนี้ก็เสียดาย กลัวว่าไฟจะมอดก่อน
(เี่ราเชื่อในความคิดแรกของตัวเองค่ะ รู้สึกสิ่งที่ผุดมาเป็นครั้งแรกมันสมบูรณ์ที่สุดแล้ว
พอไปแก้ไปเปลี่ยนมัน ก็เหมือนลูกชิ้นเติมแป้ง ไม่ได้อรรถรสสดใหม่)
รอตกตะกอนก่อนค่ะ
//ตกตะกอนจนขุ่น
PS. ...สิ่งที่อยู่ข้างบนประกอบจากสิ่งที่อยู่ข้างล่าง สิ่งที่อยู่ข้างล่างแตกสลายมาจากสิ่งที่อยู่ข้างบน...
จดไว้ก่อน แต่งไปทีละเรื่องเจ้าฮะ
พอปิ้งพล็อตก็รอมันตกตะกอน แล้วเอามาเพิ่มนู้นเพิ่มนี่ให้มันดีๆ
ถ้ารีบแต่งมันจะตันเสียก่อน แถมออกทะเลอีก
PS. ไม่มีอะไรที่เพียบพร้อมเสมอไป มีแต่เราเท่านั้นที่จะสร้างขึ้นมาด้วยมือตัวเอง!!
จดใส่สมุดก่อนแล้วค่อยเอายำรวมกันอีกทีเจ้าค่ะ...//ดูชุ่ยๆแฮะ...
PS. เกิดมาต้องมีดับ ใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้นค่า! แต่นิยายตูยังคิดพล๊อตไม่ได้เล้ย!
พิมพ์ร่างไปก่อน พอให้เรากลับมาอ่านแล้วนึกได้ ว่าอ๋อ มันเป็นแบบนี้ๆๆ นะ อะไรแบบนี้ แต่บอกตรงๆว่าพอผ่านไปสักพักแล้ว มาอ่านใหม่มันชักไม่อยากเขียน แต่อยากอ่านเรื่องที่เราเขียนมากกว่า ซึ่งก็ไม่รู้จะทำไงด้วย เพราะเราเป็นคนเขียนแต่ไม่รู้ตอนต่อไป แต่อยากอ่านตอนต่อไป จะต้องไปไปอุธรณ์กับใครได้ละนี่
แต่งทันทีเลยแต่ยังไม่เอาลง มันก็แล้วแต่อีกนั่นแหละว่าตอนนั้นจินตนาการมันพรวดพราดแค่ไหน บางเรื่องเห็นขึ้นมาเป็นฉากๆเหมือนหนังเลย ก็ต้องรีบเขียนทันที พอนานไปมันลืมส่วนที่มันยิบย่อย แต่บางเรื่องก็ โอ้โห เราคิดฉากเริ่มได้เจ๋งว่ะ แต่ไปต่อไม่ได้(เศร้า) เอิ่ม..ออกทะเลล่ะ
PS. HAVEN จิตวิปริต ช่วยมาเม้นหน่อยน้าา
ตกตะกอนก่อน มีภาพทั้งหมดในหัว จะเขียนง่ายขึ้นมากๆเลยค่ะ
ตกตะกอนก่อนค่ะ ^^
PS. Baekhyun - Exo-K :) <3
เป็นตะกอนในสมองงับ
เเล้วเเต่บางเลือดค่ะ บางทีเกิดคึก(?) เพราะคิดว่าพล็อตนี้ เฮ้ย! จริงวะ ประมาณนี้อะนะ
PS. We're one !!!! ><
หมิงเขียนเลยค่ะ ตามที่มันผุดขึ้นมาในหัว กลัวทิ้งไว้แล้วจะหายไปก่อน 555 แต่ก็แต่งทิ้งไว้แค่ในคอม รอหลายๆอย่างลงตัวค่อยเอาลงเวป ^__^
ส่วนใหญ่ชอบปิ๊งระหว่างเขียนเรื่องเก่าอยู่ และผมเป็นคนเขียนช้า และคิดว่าตัวเองไม่สามารถเขียนนิยายหลายๆ เรื่องพร้อมกันได้�ดังนั้นเรื่องใหม่ที่มาจึงจะค้างอยู่ในหัวอยู่นาน จนคิดนั้นนู้นนี้เติมไปเรื่อยๆ กว่าจะได้ลงมือเขียนก็คิดไปไกลแล้ว�ถามว่าถึงระดับตกตะกอนเลยไหม ก็ยังนะ แต่เป็นพล็อตโครงรวม ไคลแม็ก ฉากที่อยากเขียนมาก่อน มาเรื่อยๆ�พอเริ่มเขียนจริงๆ มันก็จะมีอะไรรองก้นในระดับหนึ่ง แต่ก็จะไม่คิดอะไรรัดกุมมากนัก ไม่งั้นจะแวะเที่ยวข้างทาง หรือหาความตื่นเต้นให้ตัวเองไม่ค่อยได้ ดังนั้นสิ่งที่มีอยู่ในหัวมีแค่ประมาณรองก้น แต่ไม่ถึงกับตกตะกอนทีเดียว ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเขียนนิยายเผื่อทางเลือก เผื่อพลิกเรื่องตลอด แต่โชคดีที่ไม่ใช่เป็นพวกออกทะเลเท่าไหร่ เพราะไม่ชอบเขียนฉากธรรมดาเช่น กิน เที่ยว เล่น นอน แต่จะตรงเข้าไปพวกเนื้อเรื่องเลย เลยเป็นคนออกทะเลยากอยู่
ผมรู้สึกว่าตัวเองจะเก่งด้านหยิบเนื้อเรื่องเก่า หรือเนื้อเรื่องที่เราเขียนเพื่อพลิกเนื้อหานั้นมาต่อยอดจนจบได้ดีระดับหนึ่ง ดังนั้นต่อให้พล็อตผมไม่แน่น ก็สามารถจะไปถึงตอนจบได้อยู่ แต่อาจจะทำให้เรื่องยาวสักหน่อย เพราะการไม่มีพล็อตแบบละเอียดหยิบ จะทำให้ต้องหยิบเนื้อหาเก่าในตอนแรกๆ มาต่อยอดตอนจบ ก่อเป็นรูปร่างตอนจบที่ละเล็กละน้อย เลยทำให้เรื่องยาวกว่าที่ตั้งใจไว้ตลอด นิยายที่จบไปสองเรื่องครึ่ง( 2 เรื่อง กับอีก 1 ภาคของเรื่องสอง) ผมก็มีแค่พล็อตคร่าวๆ และด้นสดไป มีพักคิดพล็อตย่อยเป็นระยะ ก็เขียนจบได้โดยไม่ออกทะเลสักตอนครับ
PS. การพักผ่อนของนักเขียนการ์ตูน... ก็คือการเขียนการ์ตูน...
เก็บไว้เป็นส่วนผสมหลักครับ แต่ยังไม่รีบนำออกมาใช้
ปกติแล้วเวลาได้พล็อตใหม่ๆ สิ่งหนึ่งที่ผมมักจะคิดก็คือจะใช้ยังไงให้มันมีพลังที่สุด มีเหตุผลและดึงดูดที่สุด อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าฝืนหรือขัดแย้งในตัวเอง
ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วบางพล็อตคิดได้ก่อนพล็อตอื่น แต่ถึงเวลาใช้จริงก็เกือบจบภาคก็ยังมีครับ
ของแบบนี้ขึ้นกับจังหวะด้วย เวลาคิดก็อดใจสักหน่อยครับ ลองเอามาเจียระไนดูก่อน บางทีมันอาจมีคุณค่ากับตัวนิยายมากกว่าที่จะรีบเอามาลงครับ
PS. Ragnarok Fiction - The legend of descendant - เรื่องราวของตำนานรบตำนานรักบทใหม่ มีอา-มังกรน้อยปาฏิหาริย์ - (Master And The Little Dragon) - รักพี่จ๋าที่สุดในโลกเลย !!
ปกติเราจำแม่นอยู่แล้ว
บางทีปิ๊งขึ้นมาสี่ห้าเรื่องพร้อมกันก็เคยมีมาแล้ว
แต่ยังไม่แต่งเลยเพราะมันยังไม่ตกตะกอน
แต่ถ้าตอนนั้นว่างอยู่ไม่ได้แต่งนิยายเรื่องไหนค้างไว้ก็คงแต่งเลย
# มีครั้งนึงคิดตอนย่อยได้ อินจัดนอนไม่หลับทั้งคืน 555555555
รอให้ตกตะกอนครับ... อย่างน้อยๆ ก็ต้องเห็นในจินตนาการก่อนว่าจะดำเนินเรื่องอย่างไร มีตัวละครอื่นๆ มีเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้าง จุดไคล์แม็กหรือจุดคลี่คลาย บทจบ เพราะบางครั้งต้องใช้เวลาเรียบเรียงความต่อเนื่อง สมเหตุสมผล อยู่ในวิสัยที่ควรเป็น
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?