Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องราวฮีโร่ในชีวิตจริงของIRON MAN(Robert Downey Jr.) หัวใจเฮียหล่อมาก!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

วันนี้มีเรื่องดีๆอยากนำมาฝากชาวDek-Dครับ

แรงบันดาลใจที่2 : "ชีวิตนี้พี่ขอหัวใจหล่อกว่าหน้าตาบ้างนะน้อง!!"

เจ้าของแรงบันดาลใจ : โรเบิร์ต ดาวน์นี่ จูเนียร์ [นักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดังเจ้าของบทบาทฮีโร่สุดเฟี้ยวแห่งยุค "ไอรอน แมน"]

อัพเดท เรื่องหนัง ทันใจ!! คลิก Like!!! : 

https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans

เรื่องเล่าจากผู้หญิงคนหนึ่ง (ยาวแต่คุ้มที่จะอ่าน)

นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในช่วงต้นยุค 90 ณ งานปาร์ตี้ในสวนของ ACLU (American Civil Liberties Union) ที่แคลิฟอร์เนีย ฉันต้องไปงานนี้กับคุณยายอายุ 80 ของฉัน เมื่อ Robert Downey Jr. มาถึงงานในชุดสูทสีครีมสุดเท่พร้อมกับแฟนสาว ฉันชี้ให้คุณยายดู แต่ท่านยักไหล่ไม่สนใจเพราะไม่ได้รู้จักชื่นชอบดารารุ่นหลังๆ สักเท่าไหร่นัก

ช่วงบ่ายถึงคิวของ Ron Kovic (อดีตทหารผ่านศึกเวียดนามที่ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างจนต้องนั่งเก้าอี้รถเข็นคนพิการไปตลอดชีวิต ซึ่ง ผกก.Oliver Stone นำเรื่องของเขาไปสร้างเป็นหนัง Born on the Fourth of July [1989]) ขึ้นรับรางวัลเกียรติคุณพร้อมกล่าวสุนทรพจน์

ฉันกับคุณยายได้นั่งแถวหน้าสุดเพราะคุณแม่ของฉันเป็นประธานของงาน เมื่อ Ron Kovic ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์จนจบ ฉันกับยายก็ลุกขึ้นเตรียมกลับบ้าน แต่คุณยายเกิดสะดุดล้ม คางไปกระแทกกับขอบทางลาดขึ้นเวทีที่เตรียมไว้สำหรับรถเข็นของ Kovic เข้าอย่างจัง

ผลก็คือท่านคางแหกเลือดทะลักออกมา ฉันและคนที่พบเห็นต่างพากันตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก แต่แล้วก็มีบางคนก้าวเข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้ทันควัน นั่นก็คือ Robert Downey Jr. นั่นเอง

เขารีบจัดแจงสั่งให้บางคนโทรเรียกรถพยาบาล ให้อีกคนหาน้ำมาสักแก้ว ให้อีกคนหาผ้ามาสักผืน เขาถอดสูทลินินสีครีมสุดเท่ของเขาแล้วพับแขนเสื้อของตนขึ้นอย่างทะมัดทะแมง ซึ่งทีแรกฉันคิดว่าเขาคงจะถอดสูทเก็บไว้ให้พ้นๆ เพราะกลัวเปลื้อนเลือด แต่ผิดคาด เขาเอามันมาซับเลือดให้คุณยายจนสูทลินินสีครีมกลายเป็นสีแดงเลือดหมูจากเลือดคุณยาย

เขาปลอบท่านว่าอย่ากังวลนะครับ ทุกอย่างจะต้องโอเค เขารู้ว่าจะต้องกล่อมคุณยายยังไงที่จะทำให้ท่านคลายกังวล เขารู้ว่าจะตีสนิทกับคุณยายยังไงให้รู้สึกว่าเป็นกันเอง เขาจับน่องของคุณยายและผิวปากแซวพร้อมเอ่ยปากชมว่าขาของท่านสวยมากเลยนะเนี่ย

แต่คุณยายดันบอกแก่เขาไปว่า "หลานสาวของฉันบอกว่าคุณโด่งดัง แต่ฉันไม่เคยได้ยินชื่อของคุณมาก่อน" (ซะงั้น)

เขาอยู่กับท่านจนกระทั่งรถพยาบาลมาถึงและก็ยังเดินกุมมือท่านไปส่งที่รถแล้วบอกท่านว่าคุณยายทำหัวใจเขาสลายที่รีบกลับจากงานปาร์ตี้เร็วแบบนี้ พร้อมกับโบกมือลา "อย่าลืมโทรมานะ ซิลเวีย เดี๋ยวเราไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน" เขาบอกเธอแบบนี้ทั้งๆ ที่เพิ่งจะรู้จักกันเมื่อกี้นี้เอง

เชื่อหรือไม่ว่าฉันรีบขึ้นรถพยาบาลไปโดยไม่ได้พูดอะไรกับเขาสักคำ เพราะเขินเกินกว่าจะกล่าวขอบคุณเขา แม้แต่ตอนที่เขาต้องติดคุกในอีกไม่กี่ปีต่อมา (จากข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด) ฉันก็ยังไม่กล้าพอที่จะเขียนจดหมายไปขอบคุณเรื่องราวในวันนั้น

เราทุกคนมีสิ่งที่อยากจะเอ่ยแต่ก็ไม่ได้เอ่ย เรามีช่วงเวลาที่อยากจะย้อนกลับไปทำสิ่งที่แตกต่างจากเดิม ซึ่งสำหรับฉันแล้วมันต้องใช้เวลาอีกหลายปีต่อมา กว่าจะได้แก้ตัวในสิ่งที่ยังคาใจนี้

สิบห้าปีหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น สิบปีหลังจากที่คุณยายของฉันเสียไป และห้าปีหลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ ฉันเห็นเขาในร้านอาหารแห่งหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ

ฉันเติบโตมาในแอลเอ ที่ซึ่งมีคนดังอาศัยอยู่ยั้วเยี้ย เลยเป็นเรื่องธรรมดามากที่จะเจอะดาราตามที่ต่างๆ และฉันถูกเลี้ยงมาให้เคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่เข้าไปกวนใจเขาในขณะทานข้าว แต่วันนี้ฉันตัดสินใจแน่วแน่ว่ากวนเป็นกวนวะงานนี้ ไม่องไม่อายมันแล้ว ฉันเดินดิ่งไปที่โต๊ะของเขาทันที

"คือ...ฉันไม่แน่ใจว่าคุณจะยังจำได้ไหม..." แล้วฉันก็เล่าเรื่องราวในครั้งนั้นไป 

เขาจำได้

"ฉันแค่อยากจะขอบคุณ และอยากจะบอกคุณว่ามันเป็นการแสดงความมีน้ำใจที่น่าประทับใจที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอมา"

เขายืนขึ้นยิ้มและคว้ามือทั้งสองข้างของฉันไปกุมไว้ พร้อมกับมองเข้ามาในตาของฉัน "คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า วันนี้ผมอยากจะได้ยินคำๆ นี้มากแค่ไหน"

Credit : Nanatakara's Blog

- เรื่องเล่าจากความทรงจำครั้งอดีตของ Dana Reinhardt เด็กสาวในเหตุการณ์วันนั้นซึ่งปัจจุบันกลายเป็นนักเขียนมีชื่อเสียงไปแล้ว

ปล.สุดท้ายขอฝากหนังตัวอย่างทีเซอร์ "หนังซอมบี้-ไซไฟ" ผลงานเรื่องใหม่ของผมไว้ด้วยนะคร้าบ คาดว่าจะมาในช่วงเดือนสิงหาคมครับ

ติดตามผลงานรีวิวอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ 

ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม 

ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!

และสุดท้าย อย่าลืมช่วยกันโหวตกระทู้นี้นะคร้าบ


https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans

https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent

ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 9 พฤษภาคม 2556 / 11:55

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

tarmaxy 9 พ.ค. 56 เวลา 12:42 น. 2
รู้หรือไม่ เชน แบล๊ค ผู้กำกับ Iron Man 3 
คือผู้มีพระคุณของ Robert Downey Jr.
รู้สึกว่า ตอนที่RDJติดคุกและพ้นผิดออกมา เขาตกอับไม่มีใครจ้าง 
แต่แล้ว...............................เชน แบล็ค เขาเลือกที่จะเสนอ RDJ ให้เข้าแคสหนังต่างๆ 
สำหรับRDJนั้น เชน แบล๊ค จึงเป็นผู้มีพระคุณสำหรับRDJถ้าไม่ได้เค้าในตอนนั้นคงไม่มีRDJในตอนนี้ ซึ่งการโคจรมาพบกันในIron Man 3 [ไออ้อน แมน 3] คือการพบกันอีกครั้งระหว่าง เชน แบล็ค และ Robert Downey Jr. 

ปล.1 หนังเรื่องนี้มันมาก คอนเฟิร์ม

ปล.2 เฮียแกใจหล่อมาก 

ปล.3 ผู้กำกับคนละคนจากภาค1และ2 (ผู้กำกับภาค1และ2คือคนที่แสดงเป็นHappy บอดี้การ์ดของโทนี่ สตาร์ก)



0
PiZZaPeaCH Columnist 9 พ.ค. 56 เวลา 13:20 น. 3

พี่ที่รู้จักกัน ทำร้านอาหารไทยในแอลเอ ก็เจอเค้าบ่อย

พี่บอกว่า RDJ น่ารักมาก ตอนแรกพี่นึกชื่อไม่ออก จำได้แค่หน้าคุ้นๆ แต่ร้านนี้มีดาราไปเยอะ พี่เค้าก็คิดแค่ว่าน่าจะเป็นดาราที่ยังไม่ดังมากเพราะสุภาพ และติดดิน มีมารยาท 

พอมานึกออกทีหลังนี่แทบกรี๊ด 555 

พี่บอกว่าเค้ามุขเยอะดีด้วย อิจฉา อยากเจอบ้าง 


PS.  ความฝันยิ่งไกล กำลังใจยิ่งไม่สิ้นสุด
0
แตงเขี้ยว 4 ม.ค. 58 เวลา 21:48 น. 7

เหมาะกับบทโฮล์มส์ที่สุดเลยคนนี้น่ะ (ก็แสดงด้วยนี่)
คนดี,ชอบช่วยเหลือ,แต่...ช่างเหอะ เราจะไม่พูด
เขาว่ากันว่า...ถ้ารักใครแล้วก็จะสามารถลืมเรื่องไม่ดีของเขาไปได้
นั่นแหละ...ความรู้สึกของเราที่มีผู้ชายหน้าหล่อหัวใจหล่อคนนี้
รักคุณ..Robert Downey Jr.
รักเลย

0