Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

10 ทะเลสาปสุด "มหัศจรรย์" **ถ้าซ้ำขออภัยด้วยนะคะ**

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

แม้ว่าในโลกนี้จะมี ทะเลสาปที่สวยงามมากมาย แต่ทะเลสาปที่ผู้เขียนนำมาให้ชมกันในวันนี้ การันตีได้ว่าเป็นทะเลสาปที่ทั้ง “สวยงามและไม่ธรรมดา” แทบทั้งสิ้น… 

มาดูกันว่า 10 ทะเลสาปสุด “มหัศจรรย์” บนโลกใบนี้ จะอยู่ ณ ที่ใดบ้าง 


1.ทะเลสาปห้าสี (Five-Flower Lake) – ที่อุทยานจิ่วจ้ายโกว เมืองเฉินตู ประเทศจีน 



ทะเลสาปห้าสี หรือทะเลสาปกระจก อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารสวรรค์จิ่วจ้ายโกว (หุบเขาชาวธิเบตเก้าหมู่บ้าน) ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน อุทยานดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) และเป็นเขตสงวนชีวมณฑล หรือ World Biosphere Reserve เมื่อปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) 

สีสันที่สวยงามของน้ำในทะเลสาปห้าสี เกิดจากแคลเซียม คาร์บอเนต และบรรดาพืชน้ำชนิดต่างๆ ที่เจริญเติบโตอยู่ในทะเลสาป ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความสวยงาม ทำให้น้ำเป็นสีฟ้าและสีเขียวเท่านั้น หากยังทำให้น้ำใสแจ๋วราวกับกระจก นักท่องเที่ยวจึงสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ใต้น้ำได้อย่างชัดเจน และยังมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเบื้องหน้าสะท้อนลงบนผิวน้ำจนปรากฏเป็น ภาพที่สวยตะลึง! 




2.ทะเลสาปสปอท เลค (Spotted Lake) – ประเทศแคนาดา 



ทะเลสาปที่เต็มไปด้วยด่างดวงแห่งนี้ อยู่ใกล้ถนนไฮเวย์ในเมืองโอซอยออส รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา แม้ จะมีชื่อว่า “สปอท เลค” ตามลักษณะทางกายภาพที่เห็น แต่ทะเลสาปขนาด 38 เอเคอร์ (96 ไร่) แห่งนี้ ยังคงถูกคนบางกลุ่มเรียกตามภาษาพื้นเมืองว่า “Klikuk” 

“สปอท เลค” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาปที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ อาทิ แมกนีเซียม ซัลเฟต, แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต ในปริมาณเข้มข้นมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีแร่ธาตุอื่นๆ อีก 8 ชนิด ทั้งยังมีธาตุโลหะล้ำค่าอย่าง เงิน และ ไททาเนียม เจือปนอยู่ในปริมาณเล็กน้อย 

กล่าวกันว่า โคลนและน้ำในทะเลสาปแห่งนี้มีคุณสมบัติในด้านการรักษาโรค อีกทั้งแร่ธาตุต่างๆ จากทะเลสาปแห่งนี้ก็เคยถูกนำมาใช้ผลิตเป็นลูกกระสุนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มาแล้ว แต่น่าเสียดายที่ทะเลสาปแห่งนี้อยู่ในที่ดินของเอกชน (ทางการพยายามติดต่อขอซื้อมาเป็นเวลากว่า 20 ปี เพื่อขึ้นทะเบียนให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ แต่ยังไม่สำเร็จ) นักท่องเที่ยวและผู้ที่จะมาชม “สปอท เลค” จึงทำได้แค่มองจากราวรั้วกั้นริมถนนเท่านั้น 






3.ทะเลสาปบนปล่องภูเขาไฟเคลิมูตู บนเกาะฟลอเรส ประเทศอินโดนีเซีย 



(กลาง) ทะเลสาปสีเขียว (มุมบนขวา) ทะเลสาปสีแดง 

ภูเขาไฟ “เคลิมูตู” ตั้งอยู่บนเกาะฟลอเรส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะซุนดาน้อย ในประเทศอินโดนีเซีย 

บริเวณปากปล่องภูเขาไฟดังกล่าวเป็นที่ตั้งของ ทะเลสาป 3 สี ได้แก่ ทะเลสาป Tiwu Ata Mbupu ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกและมีสีน้ำเงิน ส่วนทะเลสาปที่อยู่เคียงคู่กันทางทิศตะวันออก คือ ทะเลสาป Tiwu Nuwa Muri Koo Fai ซึ่งมีสีเขียว และทะเลสาป Tiwu Ata Polo ที่มีสีแดง ทะเลสาปสีน้ำเงิน 





4.ทะเล (สาป) เดือด Boiling Lake ประเทศโดมินิกา (Commonwealth of Dominica) 



ทะเลสาปสีน้ำเงิน-เทาที่กำลังเดือด ปุดๆ ดังที่เห็นในภาพนี้มีชื่อว่า “Boiling Lake” ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานแห่งชาติ “Morne Trois Pitons National Park” ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศโดมินิกา (คนละประเทศกับโดมินิกัน) 

“Boiling Lake” เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากทะเลสาป Frying Pan Lake ของประเทศนิวซีแลนด์) มีความกว้างราว 60 เมตร ลึก 59 เมตร อุณหภูมิริมทะเลสาปอยู่ที่ประมาณ 82 – 91.5 องศาเซลเซียส แต่ยังไม่สามารถวัดอุณหภูมิใจกลางทะเลสาปที่กำลังเดือดปุดๆ ได้ 

อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำภายในทะเลสาปแห่งนี้มีลักษณะขึ้น-ลงตลอดเวลา โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ที่ผ่านมา น้ำในทะเลสาปแห่งนี้ได้แห้งเหือดหายไป และเพิ่งกลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยที่ยังคงอยู่ในสภาพกำลังเดือดปุดๆ เหมือนเดิม 



การเดินทางมาชมความงามของทะเลสาปแห่งนี้ สามารถทำได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น คือ “การเดินเท้า” ผ่านบ่อกำมะถัน และไต่เขาที่มีลักษณะลาดชัน เป็นระยะทางทั้งสิ้น 13 ก.ม. 



5.ทะเลสาป ลากูน่า โคโลราด้า (Laguna Colorada) หรือเรด ลากูน ประเทศโบลิเวีย 



ทะเลสาปสีแดง หรือ “ลากูน่า โคโลราด้า” เป็นทะเลสาปน้ำเค็มและตื้น ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโบลิเวีย ภายในอุทยานแห่งชาติ Eduardo Avaroa Andean Fauna ใกล้กับพรมแดนของประเทศชิลี 

ทะเลสาปแห่งนี้ประกอบด้วยสันดอนบอแรกซ์สีขาวสว่างที่เกิดขึ้นเองตาม ธรรมชาติ ตัดกับสีแดงของน้ำในทะเลสาปที่เกิดจากตะกอนและสีของสาหร่าย อันเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของนกฟลามิงโก้หลายสายพันธุ์ 



6.ทะเลสาปพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes) ประเทศโครเอเชีย 



ทะเลสาปพลิทวิเซ่ เป็นส่วนหนึ่งในอุทยานแห่งชาติทะเลสาปพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) ประกอบด้วยทะเลสาปมากถึง 16 แห่งที่ลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และถูกกั้นออกจากกันโดยเขื่อนธรรมชาติซึ่งเกิดจากคราบหินปูนที่ทับถมพอกพูน ขึ้นเป็นชั้นหนา อันเป็นที่อยู่อาศัยของมอส สาหร่าย และแบคทีเรีย 

ในแต่ละปี มอส สาหร่าย และแบคทีเรีย เหล่านี้จะแพร่ขยายเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขื่อนกั้นทะเลสาปมีความสูงเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยปีละ 1 ซ.ม. นอกจากความสวยงามแล้ว ทะเลสาปแห่งนี้ยังแวดล้อมไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ จึงเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด อาทิ หมีสีน้ำตาล นกอินทรี และนกชนิดอื่นๆ อีกราว 140 สายพันธุ์ องค์การ UNESCO จึงประกาศขึ้นทะเบียนอุทยานแห่งชาติทะเลสาปพลิทวิเซ่ ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1979 (พ.ศ. 2522) 




7.ทะเลสาปติติกากา (Lake Titicaca) ประเทศโบลิเวียและเปรู 



ทะเลสาปติติกากา ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของประเทศโบลิเวียและเปรู ถือเป็นทะเลสาปที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่าทะเลสาปใดๆ ในโลก (เหนือระดับน้ำทะเล 12,500 ฟุต) และยังได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ (เมื่อพิจารณาตามปริมาณน้ำ) อีกด้วย 

แม้ว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่มากมายในทะเล สาปแห่งนี้ จะมาจากน้ำฝน ธารน้ำแข็งที่ละลาย แม่น้ำสายหลัก 5 สาย และลำธารขนาดเล็กอีก 20 แห่ง แต่ช่องทางในระบายน้ำออกจากทะเลสาปแห่งนี้มีเพียงทางเดียวคือ การไหลออกทางแม่น้ำริโอ เดอซากัวเดโร แต่ก็ไหลออกได้เพียง 10 % ของปริมาณน้ำทั้งหมดที่ไหลเข้ามาในทะเลสาปเท่านั้น 

ส่วนกระแสน้ำไหลเข้าอีก 90 % ที่เหลือจะถูกจัดการให้อยู่ในภาวะที่สมดุลโดยธรรมชาติ ซึ่งก็คือการทำให้น้ำ “ระเหย” ออก โดยอาศัยกระแสลมที่พัดแรงและแสงแดดจัดเป็นตัวช่วย 




8.ทะเลสาปเดดซี ในประเทศจอร์แดนและอิสราเอล 



เดดซี เป็นทะเลสาปที่อยู่ระหว่างประเทศจอร์แดนและอิสราเอล โดยอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในบรรดาทะเลทั้งหลาย สาเหตุที่เรียกว่าเดดซีเพราะทะเลสาปแห่งนี้ไม่มีทางออกสู่ทะเลแห่งอื่น เมื่อเวลาผ่านไปน้ำในทะเลสาประเหยขึ้น แต่เกลือยังตกค้างอยู่ในบริเวณเดิมทำให้น้ำในทะเลสาบเดดซีมีความเค็มมากกว่า น้ำทะเลปกติถึง 8.6 เท่า จึงไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ทำให้ถูกตั้งชื่อว่า “เดดซี” หรือทะเลสาปมรณะนั่นเอง 



กล่าวกันว่า เกลือและโคลนดำจากทะเลสาป เดดซี ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุ มีคุณประโยชน์อย่างยิ่งทั้งทางด้านการรักษาโรคและเสริมความงาม จึงมีผู้นำมาใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย 




9.ทะเลสาปพิตช์ (Pitch Lake) สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก 



ทะเลสาปแห่งนี้อยู่ในเมือง La Brea ของตรีนิแดด ถือเป็นแหล่งแอสฟัลท์ (ยางมะตอย) ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความมหัศจรรย์ของทะเลสาปแห่งนี้ เกือบ 2 หมื่นคน 

นอกจากทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตาแล้ว ทะเลสาปพิตช์ยังเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญของบริษัทผู้ส่งออกปูนซิเมนต์ และเป็นแหล่งของยางมะตอยที่นำมาใช้ในการราดผิวถนนทั้งในตรินิแดดและโตเบโก 



10.ทะเลสาปนากูรู (Nakuru Lake) ประเทศเคนยา 



ทะเลสาปนากูรู ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติทะเลสาปนากูรู ในเขตริฟท์ วัลเล่ย์ หรือเขตที่ราบสูงและหุบเขาใจกลางประเทศเคนย่า เนื่องจากน้ำในทะเลสาปแห่งนี้มีความ ลึกเพียงไม่กี่เมตร ทั้งยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุและสาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียว จึงเป็นแหล่งอาหารอันโอชะของฝูงนกฟลามิงโก้สีชมพูจำนวนมหาศาล 

นอกจากนกฟลามิงโก้แล้ว บริเวณโดยรอบทะเลสาปแห่งนี้ ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกชนิดต่างๆ อีกมากกว่า 400 สายพันธุ์ จึงถือเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก 




*********************************************************************

หมายเหตุ: ขอขอบพระคุณทุกท่านที่นำบทความต่างประเทศของ “บีเอสเอ็นนิวส์” ไปใช้แล้วกรุณาใส่เครดิตให้ 

เนื่องจากที่ผ่านมา มีผู้นำบทความต่างประเทศของ “บีเอสเอ็นนิวส์” ไปเผยแพร่ต่อ โดยมีเจตนาให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเป็นผลงานตัวเองบ่อยครั้ง (โดยเฉพาะบทความที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว หรือการจัดอันดับต่างๆ) 

ซึ่งนอกจากจะไม่ใส่เครดิตให้แล้ว ยังดัดแปลง แก้ไขสำนวน ในขณะที่บางส่วนเปลี่ยนรูป แต่หัวข้อและเนื้อหายังเป็นของเรา หรือลอกเนื้อหาเราแล้วใส่เครดิตต้นฉบับภาษาอังกฤษที่เราอ้างถึง ซึ่งบทความส่วนใหญ่เราได้ทำเอกลักษณ์เอาไว้ที่เนื้อหา และมักใส่เกร็ดความรู้ หรือรูปเพิ่มเติมจากต้นฉบับจึงตรวจสอบได้ไม่ยาก 

จึงขอร้องให้ท่านที่มีพฤติกรรมดังกล่าว แก้ไขให้ถูกต้องตามกฏ กติกา มารยาทอันดี หากในอนาคตยังพบว่ามีการกระทำดังกล่าว เราจะนำชื่อเว็บไซต์และภาพบทความของท่าน มาประกาศให้รู้โดยทั่วกันท้ายบทความในเรื่องนั้นๆ ของเรา ส่วนท่านที่ใส่เครดิตให้ เราจะทำลิงก์ไปที่เว็บไซต์ของท่านเพื่อเป็นการขอบคุณ (ในอนาคต)


ขอบคุณข้อมูลจาก



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 12 พฤษภาคม 2556 / 21:09

PS.  รักนายคนเดียว และจะรักตลอดไป แม้นายจะไม่รักเราเลยก็ตาม

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

ไอ่ถั่วงอก 14 พ.ค. 56 เวลา 21:50 น. 7

อยากไปแต่ไม่มีเงิน//มุกเก่าๆ หยิบมาใช้ต่อ(ฮา)


PS.  ผู้เบี่ยงเบนทางเพศไม่ได้ผิดอะไร แต่คนที่เกลียดพวกเขาทั้งที่ไม่รู้จักนั้นแหละผิด!
0