Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แนะนําเบสิคการเรียนศิลป์-ญี่ปุ่น สําหรับน้องที่เพิ่งขึ้นม.4 (หรือใครเรียนแล้วแต่รู้สึกว่าตัวเองไม่เข้าใจ ก็เข้ามาดูได้นะ)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ครับ สําหรับน้องที่กําลังคิดว่าจะเรียนศิลป์-ญี่ปุ่นนะครับ...

สําหรับน้องที่คิดว่าเรียนยากมั้ย ไหวมั้ย พี่ขอตอบตรงๆนะครับว่า "มันยากสําหรับคนขี้เกียจ" ครับ น้องลองคิดดูนะครับ ทั้งหัดเขียนตัวอักษร ทั้งไวยากรณ์ ถ้าน้องไม่แบ่งเวลาให้มัน น้องจะจําได้มั้ยล่ะครับ...

พี่อยากให้น้องทุกคนเรียนญี่ปุ่นให้สนุก ซึ่งการเรียนให้สนุกนอกจากครูจะฮา บรรยากาศจะดีแ้ล้ว เราก็ต้องมีความเข้าใจในการเรียนด้วยระดับหนึ่ง ถ้าน้องไม่รู้เรื่องอะไรเลย แปลไม่ออกเลย มันก็เหมือนน้องเข้าไปนั่งเซ็งอย่างเดียว เพื่อนเขารู้เรื่องแต่เราเอ๋อ

น้องที่คิดว่าภาษาจีนใช้ประโยชน์ได้มากกว่า เงินเดือนเยอะ ญี่ปุ่นเรียนไปทําอะไรล่ะ?? ก็เปลี่ยนความคิดได้แล้วครับ เงินเดือนของคนที่จบเอกญี่ปุ่นไม่ใช่เล่นๆนะครับ 30000-40000 อัพ เป็นล่าม เป็นนักแปล แถมประเทศไทยเราก็ค้าขายกับญี่ปุ่นตลอดเรื่อยๆนะครับ ต้องการบุคลากรที่มีความรู้ด้านนี้อยู่แล้ว

เบสิคนะครับ ในการเรียนญี่ปุ่นตอนแรกๆำพี่คิดว่า ส่วนใหญ่จะให้เริ่มจากตัวอักษร แล้วไปการใช้คําช่วยหรือไวยากรณ์ง่ายๆใช่มั้ยครับ 

1. เมื่อได้รับชีทตัวอักษร ฮิรางานะ+คาตาคานะ ให้น้องหาเวลาว่างๆนั่งคัดตัวอักษรในเศษกระดาษบ่อยๆ คัดๆๆไป อะ อิ  อุ เอะ โอะ คะ คิ คุ เคะ โคะ พี่แนะนําให้จําฮิรางานะก่อน เพราะฮิรางานะจะได้ใช้เยอะกว่าแน่นอน คาตาคานะไว้เขียนคําทับศัพท์ / ชื่อคน ไว้จําฮิราแล้วค่อยจําคาตาต่อ "ยํ้า" ต้องคัดนะครับ ถ้าน้องจําตัวอักษรไม่ได้ น้องก็อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ครับ ซึ่งจะต่อยอดไปสู่้การ"เอ๋อ"ครับ บางคนอาจจะเหนื่อย ไม่เคยต้องมาทุ่มเวลาคัดแบบนี้ คัดเถอะครับ แลกกับการที่เราอ่านออก เขียนได้ มันคุ้มมากกับการเสียเวลาของน้องๆ

2. ตั้งใจเรียนในห้องเรียนให้เต็มที่ เวลาครูสอนไวยากรณ์หรือ Pattern ใหม่ๆ น้องควรจดไวยากรณ์นั้นๆใส่ในสมุดจดทุกครั้ง เวลาน้องต้องเขียนประโยค พอเปิดสมุดดู Pattern ของไวยากรณ์ น้องจะได้ไม่สับสน และเขียนได้ถูกต้อง

3. จําคําศัพท์บ่อยๆ ในแต่ละบทจะมีคําศัพท์ใหม่ๆมาเรื่อยๆ น้องควรหาเวลาว่างๆจํา เวลาเรียนแล้วต้องเขียนประโยคหรือแปล น้องจะได้ไม่นั่งกุมขมับ น้องลองนึกดูสิ ถ้าตอนทําข้อสอบ น้องสามารถเขียนตอบโจทย์ได้ มีไอเดียดีๆจะใส่ลงไป แต่น้องกลับจําคําศัพท์ที่ตัวเองอยากจะนํามาใช้ไม่ได้ มันน่าเจ็บใจแึค่ไหน

4. ถามเำพื่อน/คุณครู เวลาไม่เข้าใจอะไรอย่าปล่อยให้มันค้างคาไว้ ไปถามพวกเขาเหล่านั้นซะ

5. เมื่อเรียนไปเรื่อยๆจนถึงระดับที่สูงขึ้น น้องจะได้เรียนเรื่องการผันคําต่างๆแล้ว อาจจะเป็นรูปพจนานุกรมเป็นต้น น้องควรจะจําการผันต่างๆให้แม่น เพราะหลังจากจบบทหัดผันปุ๊บ พี่รับประกัน น้องจะได้ผันไปอีกนานนน เพราะรูปประโยคใหม่ๆจะให้น้องผันคําศัพท์ให้ตรงกับไวยากรณ์อีกเยอะเลย 

6. จําคําช่วยให้แม่น คําช่วยนี้ไว้ทําอะไร ใส่ตรงไหน ควรจําให้ดี ประโยคของเราจะได้ถูกต้องไม่เพี้ยน ข้อสอบในตอนแรกๆมักจะมีให้เติมคําช่วยในโจทย์่บ่อยๆอีกด้วย

7. ส่วนที่น่าปวดหัวที่สุดคือ "คันจิ" เหมือนกับตอนที่น้องคัดฮิรา+คาตาแหละครับ คัดคันจิไว้ด้วยเมื่อมีคันจิในบทใหม่ๆ อาจารย์หลายท่านน่าจะให้สอบเขียนคันจิ น้องจําได้ถาวรเพราะน้องคัดมันมาดีกว่าน้องจําไม่ได้ แล้วจดโพยเข้าห้อง สุดท้ายทิ้งมันไป เทคนิคการจําคันจิคือเวลาคัด ให้น้องจําลําดับเส้นหรือไม่ก็จํารูปร่างคร่าวๆของคันจิครับ คันจิหลายตัวเลยที่มีรูปร่างเหมือนความหมายของมันเอง

8. อย่ามองข้ามการสนทนา ลองฟังเทปสนทนา หรือดูอนิเมะที่ตัวเองชอบในเสียงญี่ปุ่นแบบซับไทย ทําแบบนี้บ่อยๆ สําเนียงเราจะดีกว่าเพื่อน

9. สําหรับคนที่อยากจะทํางานกับภาษาญี่ปุ่นในอนาคต เช่น ล่าม อะไรแบบนี้ พี่อยากจะบอกว่า ทุกๆปีจะมีการสอบ Jlpt หรือสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นนะ มีระดับ N5-N1 (N5 ง่ายสุด) น้องควรไปสอบนะ เสียค่าสมัครสอบ  600 แต่คุ้มกับการที่น้องได้รู้ระดับตัวเอง และได้ใบประกาศว่าเราผ่านมาเก็บไว้เป็นเกียรติยศด้วย (ถ้าผ่านนะ 555+) ไม่ต้องกังวลว่ามีเด็กแบบเราไปสอบมั้ย เด็กมัธยมไปสอบกันเยอะแยะ และไม่จําเป็นต้องไล่เรียงจาก N5 ด้วย ถ้าน้องคิดว่าเก่งจริง น้องอาจเริ่มจาก N4 ไปเลยก็ได้ แล้วมันเกี่ยวกับอาชีพล่ามหรือนักแปลยังไง???? เกี่ยวมากครับ บริษัทที่รับล่ามญี่ปุ่นเข้าทํางาน มักจะต้องการล่ามที่มีผลสอบวัดระดับ N2 ขึ้นไป (จริงๆN3 ก็ได้นะ แต่เงินเดือนจะน้อยกว่าเขานิดหน่อย) 

พี่ว่าคงครบแล้วนะ =.,="" (มือหงิก) สุดท้ายฝากบอกว่า น้องจะเลือกเอกภาษาที่สามอะไรก็ช่าง น้องควรรักมันและสนใจมันด้วย เพราะน้องต้องอยู่กับมันไปอีก 3 ปี ถ้าน้องไม่ชอบมัน สามปีของน้องก็จะเป็นช่วงเวลาที่น้องไม่ปลื้มเท่าไหร่ เพราะต้องอยู่กับวิชาที่เราเบื่อตลอดสามปี แต่ถ้าน้องรักมันสนุดกัยมัน สามปีของน้องจะแฮปปี้ขึ้นมาทันที ใครถามว่าเรียนสายอะไร เราก็ตอบได้เต็มคําว่า "ศิลป์-ญี่ปุ่นครับ/ค่าาา" ไม่มีการอายอะไรทั้งสิ้น ก็ชั้นเก่งนิหน่าาา 55555+ 

ก็จบแล้วนะครับ ใครมีข้อติติงอะไรหรือผมผิดพลาดประการใดก็แก้ไขได้ครับ เพื่อน้องๆที่คิดจะเรียนสายศิลป์-ญี่ปุ่นเขาจะได้รู้ข้อมูลเต็มที่อย่างถูกต้อง :) 

แสดงความคิดเห็น