วัยผู้ใหญ่ ....
วัยผู้ใหญ่
พัฒนาการทางร่างกาย
บุคคลในวัยผู้ใหญ่ตอนต้นมีการพัฒนาทางร่างกายอย่างเต็มที่ทั้งเพศหญิงและเพศชาย ร่างกายสมบูรณ์ มีการพัฒนาความสูงมาจากวัยรุ่นและจะมีความสูงที่สุดในวัยผู้ใหญ่ตอนต้นนี้ รวมทั้งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อไขมัน มีการพัฒนาอย่างเต็มที่เช่นกัน ในวัยนี้ร่างกายจะมีพลัง คล่องแคล่วว่องไว การรับรู้ต่าง ๆ จะมีความสมบูรณ์เต็มที่ จนกระทั่งเข้าสู่วัยกลางคนความสามารถต่าง ๆ เหล่านี้จะลดลง
พัฒนาการด้านอารมณ์
วัยผู้ใหญ่จะมีการควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น มีความมั่นคงทางจิตใจดีกว่าวัยรุ่น คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น รู้สึกยอมรับผู้อื่นได้ดีขึ้น มีพัฒนาการด้านอารมณ์รัก (Love) ได้ในหลายรูปแบบ การเก็บกด (Impulsiveness) น้อยลง แต่จะใช้การตอบสนองด้วยเหตุผลทั้งกับตนเองและผู้อื่นมากขึ้น (ทิพย์ภา เชษฐ์เชาวลิต, 2541)
พัฒนาการด้านสังคม
วัยนี้จะให้ความสำคัญกับกลุ่มเพื่อนร่วมวัยลดลง จำนวนสมาชิกในกลุ่มเพื่อนจะลดลง แต่สัมพันธภาพในเพื่อนที่ใกล้ชิดหรือเพื่อนรักยังคงอยู่และจะมีความผูกพันกันมากกว่าความผูกพันในลักษณะของคู่รักและพบว่ามักเป็นในเพื่อนเพศเดียวกัน (Papalia and Olds, 1995) การสัมพันธ์กับบุคคลในครอบครัวจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นวัยที่เริ่มใช้ชีวิตครอบครัวกับคู่ของตนเอง และเกิดการปรับตัวกับบทบาทใหม่
วัยผู้ใหญ่มีพัฒนาการทางความคิดสติปัญญาอยู่ในระดับ Formal operations ซึ่งเป็นขั้นสูงที่สุดของพัฒนาการ มีความสามารถทางสติปัญญาสมบูรณ์ที่สุดคือคุณภาพของความคิดจะเป็นระบบ
ผู้ใหญ่จะมีความคิดเปิดกว้าง ยืดหยุ่นมากขึ้น และรู้จักจดจำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ ทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี
ปัญหาที่พบในวัยนี้คือปัญหาสุขภาพ เนื่องมาจากลักษณะการดำรงชีวิต (The Lifestyle)
ประกอบกับในวัยนี้มีการปรับบทบาทใหม่อย่างมาก ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเป็นปัญหาที่เกิดจากการไม่สามารถปรับเข้าสู่บทบาทใหม่
ความต้องการสารอาหารของวัยผู้ใหญ่
ในวัยผู้ใหญ่ถึงแม้ร่างกายจะไม่มีการเจริญเติบโตแล้ว แต่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารต่างๆ เพื่อเสริมสร้างเซลล์ต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานปกติ จึงต้อได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อร่างกาย ดังต่อไปนี้
v พลังงาน ขึ้นอยู่กับการประกอบกิจกรรม วัยผู้ใหญ่ควรได้รับวันละ 2,000-2,800 แคลอรี
v โปรตีน ควรได้รับวันละ 0.88 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
v เกลือแร่ ได้แก่
- แคลเซียม ควรได้รับวันละ 800 มิลลิกรัม
- เหล็ก
- ไอโอดีน ควรได้รับวันละ 150 ไมโครกรัม
- วิตามินเอ ควรได้รับวันละ 600-700
- วิตามินบี1 ควรได้รับวันละ 1.0-1.4 มิลลิกรัม
- วิตามินบี2 ควรได้รับวันละ 1.2-1.7 มิลลิกรัม
- วิตามินซี ควรได้รับวันละ 60 มิลลิกรัม
- น้ำ เป็นส่วนประกอบของเซลล์ ควบคุมการทำงานในร่างกาย ทำให้เกิดสมดุลที่ดีควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว
โรคและยารักษาโรค
เบาหวาน การรักษาโรค
จุดประสงค์ของการรักษาโรคเบาหวาน ไม่เพียงแต่ควบคุมน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติเท่านั้น แต่ยังต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆด้วยโดยการรักษาจะใช้ยา ซึ่งอาจจะเป็นยากิน และยาฉีด(อินซูลิน) ร่วมกัน
โรคความดันโลหิตสูง
ผู้ป่วยควรจะดูแลสุขภาพของตนเองร่วมกับรักษาด้วยยา
3 ความคิดเห็น
ข้อมูลแน่นดีมากค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ มีประโยช์นมากเลย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?