Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทรงอภิบาลชาวไทย หนึ่งเดียวในโลก ทรงโปรดทั่วหล้า ชาวประชาล้นฟ้า เทิดทูนกษัตริย์ไทย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ทรงอภิบาลชาวไทย หนึ่งเดียวในโลก ทรงโปรดทั่วหล้า ชาวประชาล้นฟ้า เทิดทูนกษัตริย์ไทย

-รักษ์ดินแดน

แสดงความคิดเห็น

33 ความคิดเห็น

originalkeng 12 ก.ค. 56 เวลา 14:30 น. 2

“ความเจริญของประเทศชาติ เป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่งเกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำของคน

ทั้งชาติ ถือได้ว่าทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำประโยชน์ให้แก่ชาติ ตามความถนัดและความสามารถ

และเกื้อกูลกันและกัน ไม่มีผู้ใดจะอยู่ได้และทำงานให้แก่ประเทศชาติได้โดยลำพังตนเอง”

พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๑๓

0
originalkeng 15 ก.ค. 56 เวลา 11:53 น. 3

บรรพบุรุษของไทยปกบ้านป้องเมืองมาได้ด้วยความยึดมั่นในสถาบันการปกครองซึ่ง มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์ ประมุขจึงทำให้เราได้มีประเทศไทยมาจนถึงทุกวันนี้ และเราจักทำให้อนาคตจะต้องมีประเทศไทยต่อไป พระองค์ทรงเป็นพระบิดาการพัฒนาทุกแขนงเพื่อให้ประเทศชาติได้มีความมั่นคง ถาวรอย่างแท้จริง หยาดเหงื่อพ่อไหลรินรดแผ่นดินไทยทั่วหล้า หยาดเหงื่อซับน้ำตาชาวประชาทั้งแผ่นดิน หยาดเหงื่อที่ไหลรินล้วนแต่สิ้นพระเมตตา ราดรดทั่วพาราชาวประชาได้ร่มเย็น

0
originalkeng 7 ส.ค. 56 เวลา 09:12 น. 4

ความรักชาติ - ความมั่นคง - ความสามัคคี
คนไทย รักษาชาติ รักษาแผ่นดิน เป็นปึกแผ่นมั่นคงมาได้ ด้วยสติปัญญาความสามารถ และด้วยคุณความดี อิสรภาพ เสรีภาพ ความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญ ทุกอย่างที่มีอยู่บัดนี้ เราทั้งหลายในปัจจุบัน จึงต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบอย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความดี พร้อมทั้งจิตใจที่เป็นไทยไว้ให้มั่นคงตลอดไป (พระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.2521

0
originalkeng 13 ส.ค. 56 เวลา 14:39 น. 5
ในหลวงของปวงชนชาวไทยทรงเป็นพระ มหากษัตริย์นักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน โลก ขอให้พระองค์ทรงหายจากอาการพระชวรเร็วๆวันเพื่อเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ตลอดไป พระองค์ทรงเสียสละเพื่อชาติของเราอย่างยิ่ง พระองค์ทรงทำงานตรากตรำเพื่อประชาชนของท่านอยู่อย่างมีความสุข พระองค์ทรงให้พระราชดำริที่สำคัญให้คนไทยได้คิด ได้ทบทวน ได้ทำตามอยู่เสมอ ตราบถึงตอนนี้ คนไทยก็ยังรักพ่อหลวงของเรา
0
originalkeng 20 ส.ค. 56 เวลา 13:56 น. 6

จากความแห้งแล้งกลับกลายมาชุ่มชื้น 
จากผืนทรายกลับกลายเป็นดินดี 
ด้วยพระบารมีของทั้ง ๒ พระองค์ 
พระองค์ทรงเป็นผู้นำตามแนวพระราชดำริ 
ให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคคลบาทด้วยเศรษฐกิจพอเพียง

0
originalkeng 21 ส.ค. 56 เวลา 14:25 น. 7

พระราชินีคู่พระบารมีในหลวงของปวงชนชาวไทย

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

ทรง พระราชสมภพ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕ ที่บ้านพลเอกเจ้าพระยาวงศานุประพันธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) ผู้เป็นบิดาของหม่อมหลวงบัว ณ บ้านเลขที่ 1808 ถนนพระราหก ตำบลวังใหม่ อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร ขณะนั้น เป็นระยะที่ประเทศเพิ่งเปลี่ยนแปลง การปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตย ก่อนหน้านั้นพระบิดาของพระองค์ ทรงดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก มียศเป็นพันเอกหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร

0
originalkeng 23 ส.ค. 56 เวลา 15:55 น. 8
โครงการในพระบรมราชานุเคราะห์

หมาย ถึง โครงการที่พระองค์ได้พระราชทานข้อเสนอแนะและแนวทางพระราชดำริให้เอกชนไป ดำเนินการ ด้วยกำลังเงิน กำลังปัญญา และกำลังแรงงาน พร้อมทั้งการติดตามผลงานให้ต่อเนื่องโดยภาคเอกชน เช่น โครงการพัฒนาหมู่บ้านสหกรณ์เนินดินแดง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ซึ่งสโมสรโรตารีแห่งประเทศไทยเป็นผู้จัดและดำเนินงานตามพระราชดำริ โครงการพจนานุกรม โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เป็นต้น

0
originalkeng 27 ส.ค. 56 เวลา 13:44 น. 9

ความหมายของสถาบันพระมหากษัตริย์

ความหมายของ พระมหากษัตริย์ตามรูปศัพท์ หมายถึง นักรบผู้ยิ่งใหญ่ถ้า จะถือตามความหมายที่ใช้กันอยู่ทั่วไปและความเข้าใจตามธรรมดาแล้วพระมหา กษัตริย์ก็คือ พระเจ้าแผ่นดิน ในภาษาสันสกฤตคำว่า กษัตริย หมายถึงผู้ป้องกันหรือนักรบมีคำเรียกพระมหากษัตริย์หลายคำเช่น พระราชา หรือราชัน หมายถึง ผู้ชุบน้อมจิตใจของผู้อื่นไว้ด้วยธรรม จักรพรรดิ หมายถึง ผู้ปกครองที่ปวงชนพึงใจและเป็นผู้มีคุณธรรมสูง และใกล้เคียงกับคำว่า ธรรมราชา หมายถึง ผู้รักษาและปฏิบัติธรรมทั้งเป็นต้นเหตุแห่งความยุติธรรมทั้งปวง คำว่าพระเจ้าอยู่หัว หมายถึง พระผู้เป็นผู้นำ หรือประมุขของประเทศ และคำว่า พระเจ้าแผ่นดินหมายถึงพระมหากษัตริย์ทรงเป็นเจ้าของแผ่นดินไม่ว่าจะเลือกใช้คำใด คำว่า ราชา” “กษัตริย์” “จักรพรรดิโดยความหมายแล้วน่าจะใช้เหมือนๆกัน อย่างไรก็ดีในสังคมไทยเรียกพระมหากษัตริย์ว่า ในหลวง” “พ่อหลวง”“พ่อของแผ่นดินความหมายก็คือเป็นผู้ปกครองที่เปรียบเหมือนพ่ออยู่เหนือเกล้าเหนือชีวิตซึ่งชนชาวไทยมีความจงรักภักดีชั่วกาลนาน

0
originalkeng 29 ส.ค. 56 เวลา 14:07 น. 10

การ ปลูกฝังของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงสอนตลอดเวลาว่า ถ้าไม่มีประชาชนก็ไม่มีพวกเรา เราเกิดมาได้เป็นเจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดินคนเขาเคารพนับถือท่านสอนอย่างนี้เสมอ ข้าพเจ้าก็ทุ่มสุดตัวที่จะทำ สำหรับประเทศไทยอะไรที่ดีกับไทยก็ทำ อยากให้ทุกท่านคิดเหมือนกันว่าอะไรดีที่สุดสำหรับแผ่นดินแม่เราก็ควรทำถ้า ไม่มีแผ่นดินไทยไทยล่มสลายจะไม่มีใครมีความสุขได้เลย

พระ ดำรัสดังกล่าวของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี คงพอจะเตือนสติคนไทยได้บ้างว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงเหนื่อยหนักมาตลอดพระชนม์ ชีพแล้วถึงเวลาที่ยังที่ประชาชนอย่างพวกเราจะช่วยแบ่งเบาพระราชภาระอันหนัก อึ้งด้วยการรู้รักสามัคคีกันเพื่อแผ่นดินไทย

0
originalkeng 30 ส.ค. 56 เวลา 14:55 น. 11

“…เราไม่เป็นประเทศร่ำรวย เรามีพอสมควร พออยู่ได้ แต่ไม่เป็นประเทศที่ก้าวหน้าอย่างมาก เราไม่อยากจะเป็นประเทศก้าวหน้าอย่างมาก เพราะถ้าเราเป็นประเทศก้าวหน้าอย่างมากก็จะมีแต่ถอยกลับ ประเทศเหล่านั้นที่เป็นประเทศอุตสาหกรรมก้าวหน้า จะมีแต่ถอยหลังและถอยหลังอย่างน่ากลัว แต่ถ้าเรามีการบริหารแบบเรียกว่าแบบคนจน แบบที่ไม่ติดกับตำรามากเกินไป ทำอย่างมีสามัคคีนี่แหละคือเมตตากัน จะอยู่ได้ตลอดไป…”

พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๔

0
originalkeng 30 ส.ค. 56 เวลา 14:56 น. 12

“…ตามปกติคนเราชอบดู สถานการณ์ในทางดี ที่เขาเรียกว่าเล็งผลเลิศ ก็เห็นว่าประเทศไทย เรานี่ก้าวหน้าดี การเงินการอุตสาหกรรมการค้าดี มีกำไร อีกทางหนึ่งก็ต้องบอกว่าเรากำลังเสื่อมลงไปส่วนใหญ่ ทฤษฎีว่า ถ้ามีเงินเท่านั้นๆ มีการกู้เท่านั้นๆ หมายความว่าเศรษฐกิจก้าวหน้า แล้วก็ประเทศก็เจริญมีหวังว่าจะเป็นมหาอำนาจ ขอโทษเลยต้องเตือนเขาว่า จริงตัวเลขดี แต่ว่าถ้าเราไม่ระมัดระวังในความต้องการพื้นฐานของประชาชนนั้นไม่มีทาง…”

พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๖

0
originalkeng 4 ก.ย. 56 เวลา 15:24 น. 13

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” พระราชทานพระราชดำรัสหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ครั้งแรกในงานพระราชทานปริญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันพุธที่ 18 กรกฎาคม 2517 ไว้ความตอนหนึ่งว่า

“…การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตาม ลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐาน คือความพอมี พอกิน พอใช้ ของประชาชนเป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะทางเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับ ต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญ ยกฐานะทางเศรษฐกิจขึ้นได้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศ และของประชาชน โดยสอดคล้องด้วย จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่างๆได้ ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวในที่สุด…”

และในวันถัดมาวันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม 2517 ในการพระราชทานปริญญาบัตร ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราโชวาทซ้ำว่าด้วยแนวทางการพัฒนา อย่างพอเพียงความตอนหนึ่งว่า …

“…ในการพัฒนาประเทศ นั้นจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น เริ่มด้วยการสร้างพื้นฐาน คือความมีกินมีใช้ของประชาชนก่อน ด้วยวิธีการที่ประหยัดระมัดระวัง แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อพื้นฐานเกิดขึ้นมั่นคงพอควรแล้ว จึงค่อยสร้างความเจริญขั้นที่สูงขึ้นไปตามลำดับ

…การ ถือหลักที่จะส่งเสริมความเจริญ ให้ค่อยเป็นไปตามลำดับด้วยความรอบคอบระมัดระวังและประหยัดนั้น ก็เพื่อป้องกันความผิดพลาดล้มเหลว และเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จได้แน่นอนบริบูรณ์…

0
originalkeng 26 ก.ย. 56 เวลา 14:52 น. 14
“ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวง ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิตร่างกาย
ชีวิตร่างกายดำรงอยู่ได้ เพราะอวัยวะใหญ่น้อยทำงานเป็นปรกติพร้อมกันอย่างไร
ชาติบ้านเมืองก็ดำรงอยู่ได้เพราะสถาบันต่าง ๆ ตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมมูลอย่างนั้น”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ
และอาสาสมัครพลเรือนในพิธีตรวจพลสวนสนาม ในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก ๘ มิถุนายน ๒๕๑๔
รูปภาพ : “ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวง ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิตร่างกาย 
ชีวิตร่างกายดำรงอยู่ได้ เพราะอวัยวะใหญ่น้อยทำงานเป็นปรกติพร้อมกันอย่างไร 
ชาติบ้านเมืองก็ดำรงอยู่ได้เพราะสถาบันต่าง ๆ ตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมมูลอย่างนั้น”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ 
และอาสาสมัครพลเรือนในพิธีตรวจพลสวนสนาม ในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก ๘ มิถุนายน ๒๕๑๔
0
originalkeng 27 ก.ย. 56 เวลา 10:11 น. 15
"...คุณสมบัติ พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับทุกคน นั้น ที่สำคัญได้แก่ความรู้จักผิดชอบชั่วดี ความละอายชั่วกลัวบาป ความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งในความคิดและการกระทำ ความไม่เห็น แก่ตัว ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นความ ไม่มักง่ายหยาบคาย กับอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ เป็นพิเศษ คือความขยันหมั่นเพียรด้านความซื่อสัตย์สุจริต...”

ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ณ สวนอัมพร
วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๒๒.
รูปภาพ : "...คุณสมบัติพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับทุกคน นั้น ที่สำคัญได้แก่ความรู้จักผิดชอบชั่วดี ความละอายชั่วกลัวบาป ความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งในความคิดและการกระทำ ความไม่เห็น แก่ตัว ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นความ ไม่มักง่ายหยาบคาย กับอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ เป็นพิเศษ คือความขยันหมั่นเพียรด้านความซื่อสัตย์สุจริต...”

ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ณ สวนอัมพร
วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๒๒.
0
originalkeng 11 ต.ค. 56 เวลา 10:07 น. 16
บอกความประทับใจในพระราชกรณียกิจ“๙ในดวงใจ”

เมื่อครั้งเป็นเด็ก จำได้ว่า ในหลวงได้เสด็จที่นาประดู่ ปัตตานี วันนั้นยายเราได้ไปรอรับเสด็จด้วย ขณะที่ในหลวงเสด็จผ่านที่ยายนั่ง ยายได้ก้มลงกราบ เพื่อนบ้านของยาย ได้กราบทูลในหลวงเป็นภาษาใต้ว่า “คนแก่คน นี้ ชื่อแม่ชีชุม ตอนนี้แกอายุ 80 กว่าแล้ว ตาแกแลไม่ค่อยเห็นแล้ว แต่แกยังใส่เข็มเห็นเลย แกต้องเย็บต้องถักเชือกด้ายทุกวัน ทำเป็นสายสิญจน์ เอาไปถวายวัดหลายๆ วัด ให้มากที่สุด”

ในหลวงให้หมอมาดูตาของยาย แล้วให้พายายไปโรงพยาบาลรักษาเป็นคนไข้ของท่าน ยายจึงได้มีโอกาสทำสายสิญจน์ถวายวัดในตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ได้เป็นจำนวนมาก จนอายุ 94 ปี ยายก็จากไปอย่างสงบ วันที่ยายจากไป พวกเราต่างรู้ซึ้งว่า ยายเทิดในหลวงไว้เหนือหัว เพราะพบรูปในหลวงเป็นภาพขาวดำ อยู่บนหัวนอนยาย…



โดยคุณ: หลานแม่ชีชุม วัดช้างไห้ปัตตานี

http://www.chaoprayanews.com/2012/11/01/2-บอกความประทับใจในพระรา/
รูปภาพ : บอกความประทับใจในพระราชกรณียกิจ“๙ในดวงใจ”

เมื่อครั้งเป็นเด็ก จำได้ว่า ในหลวงได้เสด็จที่นาประดู่ ปัตตานี วันนั้นยายเราได้ไปรอรับเสด็จด้วย ขณะที่ในหลวงเสด็จผ่านที่ยายนั่ง ยายได้ก้มลงกราบ เพื่อนบ้านของยาย ได้กราบทูลในหลวงเป็นภาษาใต้ว่า “คนแก่คนนี้ ชื่อแม่ชีชุม ตอนนี้แกอายุ 80 กว่าแล้ว ตาแกแลไม่ค่อยเห็นแล้ว แต่แกยังใส่เข็มเห็นเลย แกต้องเย็บต้องถักเชือกด้ายทุกวัน ทำเป็นสายสิญจน์ เอาไปถวายวัดหลายๆ วัด ให้มากที่สุด”

ในหลวงให้หมอมาดูตาของยาย แล้วให้พายายไปโรงพยาบาลรักษาเป็นคนไข้ของท่าน ยายจึงได้มีโอกาสทำสายสิญจน์ถวายวัดในตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ได้เป็นจำนวนมาก จนอายุ 94 ปี ยายก็จากไปอย่างสงบ วันที่ยายจากไป พวกเราต่างรู้ซึ้งว่า ยายเทิดในหลวงไว้เหนือหัว เพราะพบรูปในหลวงเป็นภาพขาวดำ อยู่บนหัวนอนยาย…



โดยคุณ: หลานแม่ชีชุม วัดช้างไห้ปัตตานี

http://www.chaoprayanews.com/2012/11/01/2-%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2/
0
originalkeng 18 ต.ค. 56 เวลา 10:09 น. 17
"วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2511 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินเป็นการส่วนพระองค์ ณ วัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง จังหวัดตราด ณ ที่นั้น มีราษฎรมาเฝ้า ฯ รับเสด็จเป็นจำนวนมาก

On October 18,1968. Their Majesties, the King and Queen proceeded to Phai Lom Monastery, Muang District, Trat Province, where Teir Majesties presided over the ceremony of the presentation of Kathin gifts. Thousands of people came to greet Their Majesties. กับ IamYing Benchamat

เครดิต : Information Division of OHM
รูปภาพ : "วันนี้ในอดีต"

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2511 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินเป็นการส่วนพระองค์ ณ วัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง จังหวัดตราด ณ ที่นั้น มีราษฎรมาเฝ้า ฯ รับเสด็จเป็นจำนวนมาก 

On October 18,1968. Their Majesties, the King and Queen proceeded to Phai Lom Monastery, Muang District, Trat Province, where Teir Majesties presided over the ceremony of the presentation of Kathin gifts. Thousands of people came to greet Their Majesties.  กับ IamYing Benchamat

เครดิต : Information Division of OHM
0
originalkeng 25 ต.ค. 56 เวลา 10:10 น. 18
ในหลวงของแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ...

♥ทรงเป็นเจ้าฟ้าที่ยืนข้างล่าง แล้วแบกไพร่ฟ้าเอาไว้บนไหล่♥
พระผู้ทรงเป็นพลังของแผ่นดิน พระมหากรุณาธิคุณเปี่ยมล้นหัวใจคนไทยทุกคน ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน....
รูปภาพ : ในหลวงของแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ...

ทรงเป็นเจ้าฟ้าที่ยืนข้างล่าง แล้วแบกไพร่ฟ้าเอาไว้บนไหล่
พระผู้ทรงเป็นพลังของแผ่นดิน พระมหากรุณาธิคุณเปี่ยมล้นหัวใจคนไทยทุกคน ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน....
0
originalkeng 29 ต.ค. 56 เวลา 13:52 น. 19
"...สังคม และบ้านเมืองใด ให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วน ล้วนพอเหมาะกันทุกๆด้าน สังคมและบ้านเมืองนั้น ก็จะมีพลเมืองที่มีคุณภาพ ซึ่งสามารถธำรงรักษาความเจริญมั่นคงของประเทศชาติไว้ และพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปได้โดยตลอด ผู้มีหน้าที่จัดการศึกษา ทุกๆคนจึงต้องถือว่า ตัวของท่านมีความรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองอยู่อย่างเต็มที่ในอันที่จะต้อง ปฏิบัติหน้าที่ให้เที่ยงตรง ถูกต้อง สมบูรณ์โดยเต็มกำลัง จะประมาทหรือละเลยมิได้..."



พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
(พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนที่ได้รับพระราชทานรางวัลฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย วันจันทร์ 27 ก.ค.2524)


ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
รูปภาพ : "...สังคมและบ้านเมืองใด ให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วน ล้วนพอเหมาะกันทุกๆด้าน สังคมและบ้านเมืองนั้น ก็จะมีพลเมืองที่มีคุณภาพ ซึ่งสามารถธำรงรักษาความเจริญมั่นคงของประเทศชาติไว้ และพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปได้โดยตลอด ผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาทุกๆคนจึงต้องถือว่า ตัวของท่านมีความรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองอยู่อย่างเต็มที่ในอันที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เที่ยงตรง ถูกต้อง สมบูรณ์โดยเต็มกำลัง จะประมาทหรือละเลยมิได้..."



พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
(พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนที่ได้รับพระราชทานรางวัลฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย วันจันทร์ 27 ก.ค.2524)


ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
0
originalkeng 12 พ.ย. 56 เวลา 14:25 น. 20

โดย ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา

วัน ที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล เป็นวันสำคัญของชาติบ้านเมืองและเป็นวันที่ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราช อิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าจะต้องไปเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อถวายความจงรักภักดีและชื่นชมยินดีกับผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราช อิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าในวันนั้น

 

หลัง จากพระราชทานเครื่องราช อิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าเสร็จแล้ว ก็เสด็จฯ มายังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามเพื่อถวายราชสักการะ พวกเราก็มักจะไปยืนเข้าเฝ้าฯ หน้าพระอุโบสถอีกครั้งหนึ่ง

 

ใน ปีนี้ หลังจากเสด็จฯ ออกจากพระอุโบสถและเสด็จฯ ไปถวายราชสักการะที่ปราสาทพระเทพบิดร ระหว่างเสด็จฯ ผ่านแถวของพวกเรา ก็ทรงหยุดชะงักนิดหนึ่ง แล้วทรงหันมารับสั่งกับผมว่า ? โครงการวัดมงคลเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันบ้างหรือเปล่า สมัยก่อนนี้พวกเราสนุกกันมากนะ? แน่ นอนพระเจ้าอยู่หัวหยุดรับสั่งด้วยก็สร้างความมหาปีติเกิดขึ้นในหัวใจ อย่างเป็นที่สุด แต่ฟังพระราชกระแสถึงเรื่องอดีตเก่า ๆ ก็รู้สึกซึ้งในจิตใจบอกไม่ถูก และหวนตระหวัดไปเห็นภาพเก่า ๆ เมื่อได้มีโอกาสเข้าถวายงานในฐานะเลขาธิการ กปร. ตั้งแต่ปี 2524 เป็นต้นมา เป็นระยะห้วงชีวิตที่มีความสุข และสนุกที่สุดที่เคยมีมา

0
originalkeng 12 พ.ย. 56 เวลา 14:26 น. 21

ในหลวง พัฒนาใน ยุคนั้นจะประทับอยู่ในนครหลวง เพียงไม่ถึงครึ่งปี นอกนั้นก็เสด็จประพาสไปในภูมิภาคต่าง ๆ ครบทั้ง 4 ภาคเป็นประจำพวกเราก็ต้องย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ในต่างจังหวัดชั่วคราว ระยะแรก ๆ ยังไม่มีบ้านพัก กปร. ก็นอนโรงแรมบ้าง ขออาศัยบ้านพักหน่วยราชการบ้าง โดยเฉพาะกรมชลประทาน สมบุกสมบัน ชีวิตมีเรื่องตื่นเต้นอยู่ตลอด เสด็จฯ ออกเยี่ยมเยียนราษฎรและโครงการต่าง ๆ เกือบวันเว้นวัน เสด็จฯ ออกยามบ่าย และเสด็จฯ กลับที่ประทับยามดึกแก่ ๆ ทุกวัน เสด็จฯ แปรพระราชฐานที่หัวหินก็เจออากาศร้อน เสด็จฯ ใต้เจอฝนแน่นอน อีสานร้อนสลับหนาว และภาคเหนือก็หนาวเหน็บ และโดยเฉพาะภาคเหนือถนนหนทางทุรกันดาร นั่ง ฮ. เกือบทุกครั้ง ทุกพระองค์มิได้ทรงปริพระโอษฐ์บ่นอะไรเลยแม้แต่น้อย ผมกลับสังเกตเห็นว่า ทุกพระองค์ทรงมีความสุขยามที่ได้ทรงงานขจัดทุกข์ของประชาชนและแก้ไขปัญหาของ แผ่นดิน

 

0
originalkeng 12 พ.ย. 56 เวลา 14:26 น. 22

ระหว่างเสด็จฯ ได้ทรงพระเมตตาสอนพวกเราในทุกอย่างได้เรียนรู้อย่างมากมายจากพระองค์ท่าน และรู้จักทำงานให้แก่แผ่นดินอย่างแท้จริง

 

บาง ทีก็นำเสด็จฯ พระองค์หลงทางก็บ่อย ทั้ง ๆ ที่มีแผนที่ มีเครื่องไม้เครื่องมือพอสมควร แต่ดูว่าพระองค์ทรงรู้จักแผ่นดินของพระองค์และคนของพระองค์ทุกกระเบียดนิ้ว

 

มี ครั้งหนึ่งที่ภาคใต้ ทรงเปลี่ยนจุดโดยกระทันหัน สร้างความโกลาหลให้แก่พวกเราเป็นอย่างมาก วันนั้นเสด็จฯ พรุแฆแฆ ย่ำค่ำแล้ว มีรับสั่งว่าจะไปทอดพระเนตรอีกจุดหนึ่ง ต้องเปลี่ยนแผนกันกลางป่ากลางสวน จนมีโอกาสได้พบลุงวาเด็ง ก็วันนั้นเอง สนุกสนานที่สุด

 

ตอน เมื่อเสด็จฯ กาฬสินธุ์ ขณะลงจาก ฮ. ก็รับสั่งว่าเดี๋ยวจะไปดูที่ลำพะยัง จะไปก่อนก็ไม่ทัน พวกเราซึ่งถือเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งนั้น ทั้งช่างชลประทาน ทหารแผนที่ มีทั้งชั้นพิเศษ พันเอก ดอกเตอร์ รีบวางแผนอย่างรวดเร็ว พอขบวนเคลื่อนก็ยังไม่ประมาทอุ้มชาวบ้านที่เดินอยู่ข้างๆ ทาง นุ่งผ้าขาวม้าอยู่ผืนเดียวเอาขึ้นรถไปด้วย เพราะถามแล้วเขาตอบมาว่า รู้จักที่ที่จะไปก็นำเสด็จฯ ไปเรื่อย ถามชาวบ้านคนนั้นไป เอาไฟฉายส่องแผนที่ไป ลุยป่าไปเรื่อยจนถนนไม่มี ก็แล่นกระโดกกระดากไปตามท้องลำธารบนหินก้อนโต ๆ เลยได้รับพระราชทานนามว่า ทางดิสโก้ ขย้อนโขยกไปตลอดทาง สุดท้ายไปเจอคันนายาว ไปไม่รอด ขบวนไปนิ่งสนิทอยู่กลางทุ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ลงจากพระที่นั่ง ทรงดุพวกเรามาแต่ไกลว่า จะไปไหน หลงทางตั้งแต่แยกแรกแล้ว ไม่ใช่ ไม่ใช่ ทางนี้อยู่ใกล้นิดเดียว เผอิญเป็นเวลาค่ำคืนจึงไม่เห็นหน้าพวกเรา ซึ่งเคยบานเป็นตะโก้ บัดนี้เหลือที่เขาเรียกว่า ? หน้าเหลือสองนิ้ว? เท่า นั้น ขาออกมาแทนที่จะนำเสด็จฯ กลับต้องขับรถพวกเราตามเสด็จฯ โดยทรงนำทางตลอด ประเดี๋ยวเดียวก็ถึงดังที่รับสั่ง ก็เป็นเรื่องครื้นเครงสนุกสนานสำหรับพวกเราอีกครั้งไม่ทรงกริ้วอะไร

0
originalkeng 12 พ.ย. 56 เวลา 14:30 น. 23

วัน นั้นเอง ชาวบ้านเอาข้าวรวงเล็กๆ มาถวายให้ทอดพระเนตร รวงหนึ่งมีข้าวแค่ 3-4 เมล็ด เพราะแห้งแล้งมากชาวบ้านเอามือขุดดินโรยเมล็ดข้าวลงไป แล้วรอน้ำค้างมาให้ความชื้น ก็เป็นที่มาของพระราชกระแสรับสั่งว่า “เกษตรน้ำค้าง” และน่าปราบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่งว่า บัดนี้ในบริเวณดังกล่าวได้แปรสภาพจากเกษตรน้ำค้างเป็นเกษตรชลประทานที่อุดม สมบูรณ์ เปลี่ยนสภาพไปอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ตาม เสด็จฯ ทางเหนือใช้ ฮ. เป็นหลัก ลงจาก ฮ. แล้วบางที่ต้องเดินเป็นระยะไกล ๆ ข้ามเนินเขาลงหุบห้วย ผ่านไปในนาข้าว บางทีฝนตก กว่าจะถึงยอดเนินก็ทรุดตัวลงนั่งหอบแฮก ๆ กันทุกคน แต่พระองค์กลับประทับผืนกางแผนที่เหลียวจะสั่งงานใครก็ลงไปทรุดนั่งป้อแป้ กันหมด เลยรับสั่งว่า ไม่เห็นจะสู้คนอายุ 60 ได้สักคน พวกเราก็ถวายยิ้มแหย ๆ แห้ง ๆ ไป ตามระเบียบ ก็ต้องยอมรับว่าสู้พระองค์ไม่ได้เลยจริง ๆ

 

ภาพ ที่ประทับใจและจดจำไม่เคยลืมมี อีกภาพหนึ่ง คือ หลังจากที่ทรงพระประชวรในช่วงเวลาหนึ่งนั้น ก็เสด็จฯ ออกครั้งแรก จำได้แม่นยำว่าเป็นที่ชะอำ ที่เป็นสถานที่ตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายในวันนี้ ได้เสด็จฯ ออกทรงงานเป็นครั้งแรกหลังจากว่างเว้นมานาน หลังจากมีพระราชกระแสพระราชทานแนวทางหลัก ๆ แล้ว ได้หยุดขบวนประทับ เบื้องหน้าเป็นหุบเขาเรียกว่าหุบสบู่ เวลานั้นตะวันหลบแล้ว แต่ยังมีแสงเรืองรองอยู่ นกบินกลับรังเป็นฝูง ๆ ทรงฉายภาพวิวรอบ ๆ อากาศร่มลมพัดเย็นสบาย มีพระพิรุณโปรยมาบาง ๆ ชุ่มชื้นแต่ไม่เปียก วันนั้นทรงมีความสุขมาก รับสั่งขึ้นมาลอย ๆ ว่า ไม่ได้เสด็จฯ ออกมานานแล้ว และเห็นชัดเจนว่าทรงพระเกษมสำราญเหลือเกินที่มีโอกาสทำงานให้พสกนิกรของ พระองค์อีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้น จังหวะงานที่ทรงอยู่ก็เริ่มต้นอย่างทรงพลังอีกครั้งหนึ่ง โครงการพระราชดำริ โครงการแล้วโครงการเล่า ก็ได้จัดทำขึ้นมาทุกหัวระแหงของแผ่นดิน

0
originalkeng 9 ธ.ค. 56 เวลา 10:36 น. 25
การพัฒนาทรัพยากรน้ำ

ทรัพยากรน้ำ เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร พระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยพระราชทานแก่คณะผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริว่า “…หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตนั้นอยู่ที่น้ำ ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้…”

โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีทั้งการแก้ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาอุทกภัย รวมไปถึงการบำบัดน้ำเสีย โครงการพัฒนาแหล่งน้ำมีทั้งโครงการ ขนาดใหญ่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมได้ เช่น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี เขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จนถึงโครงการขนาดกลาง และเล็กจำพวก ฝาย และอ่างเก็บน้ำ จำนวนมาก

โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคำนึงถึงลักษณะของภูมิประเทศ สภาพแหล่งน้ำ ความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ ประชาชนที่ได้รับประโยชน์และผลกระทบจากโครงการ มาเป็นหลักในการพิจารณา พระองค์ได้ทรงวิจัยและริเริ่ม “โครงการฝนหลวง” เพื่อช่วยบรรเทาภัยแล้งสำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทาน

ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และน้ำเน่าเสียในคูคลอง ทรงมีพระราชดำริเรื่องแก้มลิง ควบคุมการระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน ลำคลองต่าง ๆ ลงสู่อ่าวไทยตามจังหวะการขึ้นลงของระดับน้ำทะเล ทั้งยังเป็นการใช้น้ำดีไล่น้ำเสียออกจากคลองได้อีกด้วย เครื่องกลเติมอากาศ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” ในการปรับปรุงคุณภาพน้ำโดยการเพิ่มออกซิเจน เป็นสิ่งประดิษฐ์หนึ่งของพระองค์ที่ได้รับสิทธิบัตรจาก กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพานิชย์ เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๖
0
originalkeng 11 ธ.ค. 56 เวลา 13:13 น. 26
"...ทุกคนในชาติมีหน้าที่ของตัว และถ้า แต่ละคนทำให้ได้อย่างเข้มแข็ง ซื่อสัตย์ สุจริต ประเทศชาติก็ย่อมต้องปลอดภัย และก้าวหน้าไปอย่างดี..."

ความตอนหนึ่ง ในพระราชดำรัส
พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ในโอกาสวันเฉลิมประชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิตาลัย
วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๓..
0
originalkeng 23 ธ.ค. 56 เวลา 09:39 น. 29
ชาติต้องมี จุดร่วม ศูนย์รวมใจ
แผ่นดินไทย ไม่สิ้นเสียง เพลงสรรเสริญ
น้ำตาริน กราบพระบาท ราชดำเนิน
ขอทรงพระเจริญ นิรันดร์ไป

จุดเทียนชัย จรัสแสง ทุกแห่งหน...
มวลมหา ประชาชน มงคลสมัย
ขอทรงมี เดชา พลานามัย
สุขพระราช หฤทัย ไกลกังวล

อภิชาติ ดำดี ๕ ธันวาคม ๒๕๕๖
0
originalkeng 25 ธ.ค. 56 เวลา 09:54 น. 30
ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดัง หวังวรหฤทัย ดุจถวายชัย ชโย...

พระองค์ผู้ทรงเจนจบในศาสตร์และศิลป์แห่งการเป็นพระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงทศพิธ ราชธรรม ทรงครองธรรมครองหัวใจทุกดวงของคนไทยอย่างถ่องแท้แล้วพระพุทธเจ้าข้า...

ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในแผ่นดิน...ดวงพระวิญญาณบูรพมหากษัตริยาธิราช เจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดอภิบาลรักษาองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงปลอดภัย ทรงพระสิริสวัสดิ์ มีพระพลานามัยที่ดีและแข็งแรง ทรงพระชนพรรษาที่ยืนยาว ทรงพระเกษมสำราญพระวรกายและพระทัย ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญพระพุทธเจ้าข้า กราบแทบพระบาท...
0
originalkeng 27 ธ.ค. 56 เวลา 09:31 น. 31
พ่อหลวงทรงสอนว่า....

"...พระพุทธศาสนา แสดงความจริงของชีวิต แสดงทางปฏิบัติที่จะให้บรรลุความสุขสูงสุดของชีวิต มีวิธีการสั่งสอนที่ยึดหลักเหตุและผลว่า ทุกสิ่งเกิดจากเหตุ ผู้ใดประกอบเหตุอย่างไร เพียงใด ก็ได้ผลอย่างนั้นเพียงนั้น..."

พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
พระราชทานแก่พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๓
0
originalkeng 8 พ.ค. 57 เวลา 11:22 น. 32
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทุ่มเทพระวรกายตรากตร่ำและมุ่งมั่น เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่พสกนิกร ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใด หรืออยู่ห่างไกลกันสักเพียงใด ก็มิทรงย่อท้อ เข้าไปช่วยเหลือราษฎรทั้งด้านสาธารณสุข การศึกษา สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การเกษตร การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมทั้งดิน น้ำ ป่าไม้ และพลังงาน หรือแม้กระทั่งการจราจร ทรงคิดค้นแนวทางแก้ไขได้อย่างแยบยล
0
originalkeng 16 พ.ค. 57 เวลา 14:09 น. 33

โครงการป่ารักน้ำแห่งแรก

 

          การ ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทรงเยี่ยมราษฎรตามต่างจังหวัดทุก ภูมิภาคของประเทศเป็นเวลายาวนาน ทำให้สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงทราบด้วยพระเนตรพระกรรณว่าป่าไม้ มากมายได้ถูกทำลายไปโดยฝีมือมนุษย์ สาเหตุของการตัดไม้ทำลายป่า เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์บ้าง เพราะความเห็นแก่ตัวบ้าง และความยากจนทำให้ต้องรับจ้างตัดไม้เลื่อยไม้ เผาถ่าน เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เป็นการดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอด เมื่อป่าหมดสภาพไป นอกจากทำให้เกิดภาวะฝนแล้ง ปลูกพืชพรรณธัญญาหารไม่ได้ผล สัตว์ป่าเมืองไทยที่เคยมีชุกชุมตามป่าเขาลำนำไพร ก็พลอยลดจำยวนลง บางชนิดสูญพันธุ์ไปก็มี

          สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงห่วงใยในปัญหาดังกล่าว ดังนั้นในขณะที่ทรงสร้างงานด้านศิลปาชีพเพื่อให้ราษฎรมีรายได้เสริม มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก็ทรงสร้างงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตลอดจนปลูกฝัง คุณธรรม เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาท้องถิ่นพร้อมกันไปด้วยดังจะเห็นว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรแหล่งน้ำ เรื่องดิน เพื่อพัฒนาที่ทำกินให้แก่ราษฎร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถก็สนองแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดตั้ง โครงการป่ารักน้ำแห่งแรกขึ้นที่บ้านถ้ำติ้ว อำเภอ ส่องดาว จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้พระราชทานเงินของมูลนิธิส่งเสริมสิลปาชีพและเงินของทรัพย์สินส่วนพระมหา กษัตริย์จำนวนหนึ่ง ตั้งเป็นกองทุนอาชีพสำหรับโครงการป่ารักน้ำ ทรงมอบหมายให้ท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์ ราชเลขานุการในพระองค์ และพันเอกเรวัต  บุญทับ (ปัจจุบันคือ พลเอกณพล  บุญ ทับ) ผู้บังคับการกรมทหาราบที่ ๒๓ เตรียมพื้นที่ ๑ ไร่ เพื่อทรงปลูกป่าเป็นตัวอย่างแก่ราษฎร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพราหมณ์มาทำพิธีบวงสรวงประกาศอัญเชิญเทพยดา อารักษ์ เจ้าป่า มาสถิตอยู่ ณ ป่าที่ทรงปลูก เพื่อรวมน้ำใจชาวบ้านและสร้างความศักดิ์สิทธิ์แก่โครงการ ทรงปลูกอย่างถูกวิธีเป็นตัวอย่าง แล้วทรงชวนราษฎรร่วมกันปลูกป่า
0