ลาดกระบังมีสิทธิ์อะไรที่จะมาเก็บเงินค่าสมัครสอบ? พี่ลาเต้ช่วยเข้ามาด้วย

ยกเลิกรับตรงอะดีแล้ว สงสารคนจน คนไม่มีตังค์ คนบ้านไกลบ้างงมั้ยยย?

เข้ารอบโควต้าสิน้อง จะได้ไม่ต้องเสียแบบพี่

เก็บอยู่หรอ ไม่เก็บหนิ

ก็ถูกนะ . . . แต่ว่า จะไม่สอบก็ไม่ได้สินะ ส่วนตัวก็อยากเข้าวิศวะ ลาดกระบังอยู่ละ

ทำใจหาเงินไปสมัครสอบ

ถ้าเลิกรับตรงนี่ สงสารคนเรียน ปวช บ้างไหมค่ะ คิดหน่อยนะ เด็ก ปวช เค้าแอดมินชั่นไม่ได้นะค่ะ

ยกเลิกการสอบตรง เด็กทุกคนก็จะไปรวมตัวกันตอนแอด แล้วเปอร์เซ็นต์การสอบติดก็น้อยลงสิคะ

คห6.มันจะน้อยลงยังไงคับ ในเมื่อ จำนวนรับเท่าเดิม คุณบ้าหรอ

เราว่ามันก็มีค่าใช้จ่ายอยู่ดีแหละ ต้องหาคนคอยคิดคะแนนสอบของแต่ละคน จริงอยู่ที่ใช้คอมคำนวนได้ แต่ก็ต้องใช้คนในการควบคุม และถ้าคนไม่มีเงินที่จะสมัคร ก็รอ รอบแอด สิครับ ความเท่าเทียบมันไม่มีตั้งแต่ เอา เกรด มาคิดคะแนนแล้วครับ ^^

เขาบังคับสมัครหรอ ??

เขาจะโอนที่นั่งจากรับตรงไปเพิ่มในแอดไงครับ

ศิลปากร โบราณคดี ก็เก็บคะ 700 ใช้คะแนน Gat pnjofh;p

มีค่าเท่าเดิมคับ เพราะจำนวนที่นั่งก็เท่าเดิม จะสอบกี่รอบโอกาสไม่ต่าง

เด็กช่างสมัครสอบGAT-PATได้ แต่O-NETไม่แน่ใจ เด็กช่างมีสอบV-NETอยู่ละด้วยแอบเหนื่อยนะครับ

มันไม่เกี่ยวกะสอบตรงไม่สอบตรงปะวะ มันเกี่ยวที่เก็บเงินเพิ่มเฉยๆ
มั่วกันไปไกล

ถ้ายกเลิกรับตรง แล้วเราพลาดรอบแอดมินชชันจะทำไง เลิกรับตรงก้เท่ากับลดเส้นทางในการศึกษาต่อชัดๆ เด็กจนก้ทำงานพิเศษเก็บเงินสิ เดี๋ยวนี้วุฒิม.3 ทำงานได้มีเยอะแยะไป ทำไมไม่ทำงานละ จะได้มีเงินไปจ่ายค่าสมัครสอบ

ปวช สอบโอเน็ต get pat ได้หมด ตอนนี้เราปี3 เราก็เรียน ปวช. มา สอบเหมือน ม.6 ทุกอย่าง แอดมิชชั่นเหมือน ม.6 ด้วย แต่ไม่ติด ฮ่าๆๆๆ คือความรู้เราไม่ได้เรียนมาเหมือนพวก ม.6 จะไปแข่งกับเค้าได้ยังไง นอกจากจะขยัน 90 เท่าตัว เพราะ3ปีที่เราเรียน ปวช มา ไม่ได้เรียนเหมือนพวก ม6 จงทำใจซะนะจ๊ะ แต่เราก็ผ่านมันมาได้นะ ม6ว่าลำบากและ เราว่าพวกเรียน ปวช อยากจะแอดมิชชั่นเข้ามหาลัยเตรียมตัวหนักกว่า 555+ จากใจ

ก็อย่าสมัครในเมื่อเรา ไม่เห็นด้วยกับมหาวิทยาลัยนี้ ไปในๆที่ที่เราพึงพอใจดีไหม

เด็ก ปวช มีวีเน็ต ที่ต้องสอบ ก็ยังที่บอกค่ะ สอบได้ แต่เรียนมาไม่เหมือนกัน เด็กปวช ส่วนใหญ่ สอบตรงจะดีกว่า เพราะมันมีการสอบความถนัดในด้านวิชา จะให้ไปสอบพวกเคมีชีวะ ที่ไม่ได้เรียนมาก็ใช่เรื่อง เคยสอบมาก็น่าจะเข้าใจนะค่ะ เด็กสายสามัฦญส่วนใหญ่ไม่เคยรู้อะไรพวกนี้

จริงมันก็พูดยากนะ แต่ถ้าไม่เก็บตังค่าสมัคร ก็จะมีคนมาสมัครเล่นๆโดยที่ไม่ได้อยากเข้า และก็จะเกิดการกันที่ เพราะถ้าสมัครฟรีก็เหมือนไม่เสียอะไรเลย

ถามพ่อแม่ก่อนดีกว่ามัยว่าเต็มใจหรือมีกำลังพอจะจ่ายเงินหลายๆที่หรือเปล่า ในจะค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าไปเรียนกวดว่าชา ทุกอย่างเหตุการณ์มันปังคับให้ต้องจ่าย ถึงแม้เป็นหนี้ก้อนโตก็ต้องกู้ เพื่อลูก..แล้วที่บางคนคอมเม้นมาว่าแล้วจะไปสมัครสอบทำมัย แสดงว่าคุณมีจิตใจที่แหย่มากกกกกก

แล้วเขาจะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านหนังสือ? ถึงแม้ว่าการยกเลิกระบบตรงจะไม่ใช่วิธีที่สุดแต่บางทีเราก็ควรให้โอกาสคนอื่นบ้างนะ

จริงๆ เก็บเงินหรือไม่เก็บมันขึ้นกับความตั้งใจแล้ว ว่าต้องเราการไปสอบที่นั่นแน่หรือป่าว ถ้าไม่อยากไปสอบก็ไม่เสียเงิน ส่วนความเห็นอื่นๆ การที่คุณมาพูดว่ารับตรงหรือแอดมิชชั่น ไม่ถูกประสงค์การตอบคำถามของเจ้าของกระทู้เลยค่ะ

55555555+  ให้คนจนทำงานเก็บเงินไปสอบ  ^_^  ถ้าจะพูดกันประเด็นนี้น่ะนะ....งั้นคนรวยก็มาทำงานด้วยกันสิ...

พ่อคูณยังอยู๋ไหม

มันอาจจะเป็นค่าประมวลของเค้าก็ได้นี่ครับ .
หรือจะให้เด็กทุกคนมายืนเรียงแถวกันคิดคะแนนกันเองล่ะ แล้วก็ไปต่อแถวกันหน้ามหาลัยเค้าคอยให้เค้านับเอาว่าจำนวนรับเค้าได้ถึงคนไหน เอาแบบนั้นป่ะ

ค.ห 1 ใช้อะไรคิด ใครบังคับให้สมัคร

รับตรง มันเเล้วเเต่ใครจะสมัครไม่มีใครบังคับคุณให้เสียเงินเลย ถ้าคุณมัวเเต่บอกว่าไม่มีเงิน มันคงไม่ใช่เเล้วละ คนเราถ้ามีความพยายามอะไร มันก็ไม่มีคำว่าอุปสรรคหรอก คำว่ารับตรงนี้ ส่วนไหญ่เด็กที่เข้าได้ จะเข้าด้วยความสามารถ ไม่ใช่ "เงิน" เพราะเงินไม่สามารถซื้อได้ หากไม่มีสอบรับตรง เด็ก นร ทุกคน คงหัวระเบิดเพื่อแอดมิชชั่น เพื่อจะเรียนพิเศษหนักเพิ่มขึ้น เเถมเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น สรุปเเล้ว คนจน ก็ไม่โอกาสอยุ่ดี ถ้าคุณไม่พยายาม !!!

แหม่ที่เสียตังค่าดูหนัง ค่ากินโน้นนี่ยังไม่เห็นเป็นไรเลยแค่นี้เก็บตังเอาเองไม่ได้หรอค่ะ

เงินแค่ 500 บาท กับอนาคตทั้งชีวิตของเรา เราต้องทำงานได้เงินมากกว่านี้อยุ่แล้ว การศึกษาก็คือการลงทุนอย่างหนึ่ง กำไรที่น้องจะได้ในอนาคตมันมีมากกว่านี้เยอะนะ น้องลองคิดดูนะครับ

แอดมิดชั่นมันใช้คะแนนทุกวิชา ยังมีเกรดอีก o-netอีก แต่รับตรงจะสอบแค่วิชาที่ต้องนำไปใช้ต่อ รับตรงดีกว่าเยอะ

ต่างสิครับ แอดใช้เกรด โอเน็ต สอบทุกวิชา รับตรงสอบเฉพาะวิชาที่กำหนด

ถ้ามหาลัยไม่เก็บค่าสมัครสอบ
เขาจะเอาตังที่ไหนข้างบุคลากรมาจัดลำดับคะแนนละครับ
คนเราก็ยังมีปากมีท้องที่ต้องเลี้ยง ไหนจะคนในครอบครัวอีก

ใจเขาใจเราหน่อยย

ไม่อยากสมัครรอบนี้ก็รอแอดกลางไปจบ ไม่มีใครบังคับให้น้องสมัคร ถ้า500ยังไม่อยากจ่ายก็ไม่ต้องจ่าย การศึกษาคือการลงทุน และใช่.. การลงทุนมีความเสี่ยง ทุกคนก็ต้องมีเสียค่าโน่นค่านี่กันทั้งนั้นแหละ อย่าไปคิดมาก ครั้งเดียวในชีวิต เสีย500นี้อาจจะไม่ต้องเสียค่าGAT PATรอบ2เลยก็ได้ใครจะไปรู้

ไอโฟน 20K+มีปัญญาซื้อ แต่ค่าสมัครสอบ อนาคตของตัวเอง500บาท มาทำบ่น และถ้าไม่มีจิงๆ ผมว่าสามารถขอความอนุเคราะกับทางสถาบันได้อยู่แล้ว ไม่ต้องมาคิดว่าจนหรือรวย ไม่มีจริงๆผมว่าติดต่อสถาบันยังไงเค้าก็ต้องช่วย

จริงค่ะ เพราะการศึกษาคือการลงทุน
ขนาดเก็บตังยังมีคนมาสมัครเล่นๆเยอะแยะเลยค่ะ - -
แล้วถ้าสมัครฟรี เป็นใครก็สมัครกันทั้งนั้นแหละ ลองยื่นเล่นๆก็ได้
อาจจะอยากเป็นหมอ แต่แบบลองยื่นอักษรหน่อยก็ได้ คะแนนถึง กั๊กที่อีก
เอาเข้าไป

ไม่พูดถึงความเท่าเทียม หรือ เรื่องสอบตรงนะ

การเก็บเงินค่าสมัคร 500 บาท มันก็คือ ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียม ก็คือ ค่าบริการ เป็นเงินที่ผู้ใช้บริการจะต้องจ่าย
พูดง่ายๆ คือ ค่าบริการที่มหาวิทยาลัยดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับการสมัครของเรา
ไม่ว่าจะเป็นการคัดแยกเอกสารการสมัคร การตรวจดูรายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัคร การวิเคราะห์ผลคะแนนเพื่อคัดเลือกเข้าศึกษา (ไม่แน่ใจว่าลาดกระบัง มีสอบสัมภาษณ์ร่วมด้วยหรือเปล่า ถ้ามีก็มีเรื่องของค่าสอบสัมภาษณ์ สถานที่ต่างๆ นานา ร่วมด้วย) ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น
และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เป็นการคัดกรองผู้สมัครเบื้องต้นด้วย ถ้าเกิดไม่เสียค่าสมัคร ก็จะมีพวกสมัครเล่นๆ แล้วไม่เอา ทำให้เสียเวลาและเสียโอกาสคนอื่น

หากคิดว่าค่าสมัคร หรือ ค่าบริการ มันมากเกินกว่าที่เราจะยอมรับได้ ก็ไม่ต้องไปสมัคร ไปใช้บริการของมหาลัยนั้นๆ เพราะค่าธรรมเนียม มันเป็นความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย


ต้องเข้าใจว่าเดี๋ยวนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นธุรกิจไปหมด ไม่เว้นแม้แต่สถานศึกษา พี่เคยเจอค่าธรรมเนียมสมัครม.ที่จีน 400 หยวน ประมาณ 2000 บาท ก็แทบกระอักเหมือนกัน ไม่ได้สอบ ไม่ได้อะไรด้วย แค่ส่งเอกสารให้เขาคัดเลือก แต่พี่คิดว่ามันคุ้นถ้าเราได้เรียนจึงลองเสี่ยงดูเพื่ออนาคต ถ้าน้องคิดว่า 500 บาท มันคุ้มที่จะเสี่ยงเพื่ออนาคตก็ลองเสี่ยงดู แต่ถ้าคิดว่าไม่คุ้นก็อย่าสมัครเลย แล้วแต่ความพอใจของน้องเลย

อ่า ผมคิดว่า รับตรงจัดสอบเอง คือการเดินทางมาสอบที่สถาบันครับ
และการมาสอบตรงนั้น ไม่ได้มีแค่นักเรียนในกรุงเทพฯมาสอบเพียงอย่างเดียว
มีนักเรียนจากหลายๆที่ทั่วประเทศหลายๆพันคนจนอาจถึงหมื่น

และเงิน 500 อาจเป็นค่าใช้จ่ายในการประมวลผลข้อมูลอย่าง คห.19 ก็ได้ครับ
ทางสถาบันอาจจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาสอบ การกินอยู่
ความปลอดภัยในการเดินทาง เป็นการใช้ค่าสมัคร 500 บาท
เราอาจมองว่า 500 บาทแพง แต่ถ้าเรามองว่าชีวิตที่ต้องเดินทางมา ก็น่าคิดนะครับ
500 บาทที่ว่าอาจจะดึงคะแนนสอบจาก GAT PAT มาครับ

อีกอย่างนะครับผม
ถ้าตัดพวกโควต้าอื่นๆที่เอาไว้ยื่นสัมภาษณ์ออก
จะเหลือการสอบอยู่ 2 อย่างคือ รับตรง กับ แอดมิชชั่น
น่าคิดนะครับ ว่า..
ถือเป็นเรื่องดีรึเปล่าครับที่มีโอกาสสอบถึง 2 ครั้ง หรือให้เหลือแต่แอดมิชชั่นเลย
ติดคือติดไม่ติดก็คือไม่ติด ถ้าสถาบันไม่เก็บค่าสมัคร 500
ไม่แน่เราอาจเห็นปรากฎการยื่นคะแนน คนที่อยากเรียน
คนที่ลองยื่นเล่นๆ เพราะยังไงก็ฟรีใช่ไหมครับ ยื่นดูเล่นๆ
เผลอๆ รับสัก 100 ยื่นมาสักหมื่นคนทั่วประเทศ คะแนนเท่ากันสัก 1000 คน
เกิดอะไรแบบนี้ ยิ่งเป็นปัญหานะครับ ยิ่งต้องเรียกตัวมาสัมภาษณ์
นี่ลองคิดแค่ 1 สถาบันนะครับ ลองคิดว่าเปิดฟรีไม่เสียเงินสัก 10 มหาลัย
ถ้าเป็นผมก็ยื่นไปซะทุกอย่างเลยครับ ยังไงวันสอบก็ไม่มีตรงกัน
เพราะใช้คะแนน GAT/PAT..