Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ไม่มีค่า [ระบาย] เพื่อนไม่คบ เงียบพูดไม่เก่ง..โลกนี้อยู่คนเดียว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ก็คนคนนึง ไม่สำคัญ เพื่อนไม่คบ ไม่มีความสามารถอะไร เพื่อนไม่อยากอยู่ด้วย ไม่อยากคบด้วย แค่ไอ่ใบ้ที่ใครๆก็เรียก งานก็ไม่ช่วย แถมยังเงียบ เพื่อนล้อว่านิดหน่อยก็ร้อง ร้องเป็นอย่างเดียว ทำอะไรไม่เป็น ถ้าเกิดมาแล้วเป็นแบบนี้จะเกิดมาทำไม
มาโรงเรียนวันนึง ก็เหมือนไม่มา โลกนี้ก็้เหมือนอยู่คนเดียว จะเกิดมาทำไม
เรามันเด็กคนนึงที่ทำอะไรไม่เป็น คุณหนู ไม่มีหัวคิด ไม่มีความคิด เงียบ เฉยชา จะทำอะไรก็ไม่มีใครเอา เพราะไม่ช่วยงาน ..ไม่อยากเกิดมาเลยคั่บ ถ้ามันเป็นอย่างนี้ ตั้งแต่ประถมแล้ว อยู่คนเดียวมา 9 ปีแล้วมั้ง เดี๋ยวม.4 ก็คงเหมือนเดิม

แสดงความคิดเห็น

69 ความคิดเห็น

星空。(Fews) 3 ธ.ค. 56 เวลา 16:24 น. 1

คิดอย่างนั้นเพื่ออะไรคะ? คิดไปก็เครียดเปล่าๆ เมื่อก่อนเราก็เป็นเหมือนกัน ถ้าคุณคิดว่าไม่อยากเกิดมาเนี่ย แล้วคุณทำไมไม่ต้องไปรร.เลยล่ะคะ? เมื่อคุณก็คิดว่าอยู่คนเดียวอยู่แล้วนี่? ถึงไปรร.ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นคุณคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ? คุณไม่ได้อยู่คนเดียวซะหน่อย คุณยังมีคุณพ่อคุณแม่ที่คอยยืนข้างๆคุณอยู่นะ คุณน่ะยังมีอนาคตนะคะ ลองเปลี่ยนแปลงตัวเองดูสิ อาจจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นก็ได้ แล้วก็ต้องพูดดีกับเพื่อนๆเข้าไว้ เรามีเรื่องพูดแค่นี้แหละ..ถ้าไม่พอใจก็ขอโทษค่ะ

0
RungRing123 3 ธ.ค. 56 เวลา 16:58 น. 2

นี่ๆ แต่ก่อนเราก็เป็นเหมือนเทอนะ ตอนม.1-3 น่ะ เราไม่มีเพื่อน ทุกๆวัน พูดไรหน่อยเราก็โดนด่า เพื่อนๆ ครูๆ เกลียดเราทั้งโรงเรียน เพียงเพราะเรามีแม่ที่พูดอะไรก็แหลมไปหมด จนครูที่ รร เราทุกท่าน นึกว่าแม่เราด่า จนพาลมาด่าเราด้วย
และเล่าสู่กันฟังกับเพื่อนครูจนเขาเกลียดเราหมดทุกคน มีตอนนึง วันรับเกรด ครูประจำชั้นเราบอกแม่ไปว่า เราไม่ส่งงานประวัติซักชิ้น แม่เราว่า เอ๊า แล้วทำไมคุณครูไม่เตือนลูกชั้นล่ะคะ ครูเปนครูประจำชั้นหนิ ครูประจำชั้นบอกว่า ไม่มีเวลาค่ะ แม่เราว่า เอ๊า แล้วสละเวลาให้หน่อยไม่ได้เหรอคะ ครูเงียบ (แม่เราเป็นครูเหมือนกัน แต่คนล่ะ รร ) ตอนที่เรากำลังไปยื่นคำร้องขอแก้ 0 ที่ห้องวิชาการ ครูประจำชั้นเรา เอาเรื่องของแม่เราไปเล่าอย่างสนุกปากโดยที่ไม่รู้เลยว่า เราอยู่ด้านหลังเขา และได้ยินเตม 2 หู !! จนกระทั่งมีครูคนนึงสะกิดเขา เขาหันมาตกใจ แล้วยิ้มให้ แล้วก็รีบเดินไป เร็วมาก หลังจากนั้น ขอให้เพื่อนช่วยสอนการบ้านก็เก็บตัง หรือเลี้ยงข้าวให้ ขอยืมอะไรเพื่อนนิดหน่อยเพื่อนก็โกหกว่าไม่มี ไม่พามา ทั้งๆที่เราเห็นๆอยู่ เราเคยคิดแบบเทอเด้ะๆ เวลาเราสอบนะ คะแนนออกมา แต่ล่ะวิชาไม่เคยได้ เกรด 3 หรือ เกรด 4 เลย นอกจากวิชาพละ กับดนตรี โดนครูเบียนมาตลอด จนตอนนี้ ม.4 แล้ว เราได้ย้าย รร ใหม่ มีเพื่อนที่ดีกว่า ครูที่ดีกว่า และหลายอย่าง จนเทียบ รร เก่าไม่ได้ ก่อนเราจบมาอ่ะ เราติด 0 วิชาไทยทั้งๆที่เราไม่น่าติดเรา เหตุเพราะ ครูภาษาไทยไม่ชอบเรา เลยบอกแม่ไปว่า เราไม่ส่งสมุด !! ทั้งๆที่แม่เราก็ส่งเองกับมือ !! แล้วพ่อกับแม่เราเลยถามครูว่าทำไมไม่คิดให้ดี แล้วพ่อพา ผอ รร เรามาคุย (ผอ เป็นเพื่อนกับพ่อเรา) ในห้องภาษาไทย พอถึงวันที่เราไปสอบแก้ แม่งพอไม่มีพ่อ ด่าพ่อแม่เรากระฉูด หนำซ้ำ ด่าเรา ประจานครอบครัวเราในทางที่ผิด เกินจริง แบบเสียๆหายๆไม่มีไรดี ตอนนั้นเขาด่าเราที่ห้องสมุด คนเยอะ มาก ทุกคนหันมามองเราเหมือนอย่างกับว่ า -กับครอบครัว-นี่เ-้ยเนอะ !! ตอนนั้นเราอายมาก ใครถามมันว่าทำไมเรื่องมันยังไง มันก็เล่าเข้าข้างตัวเองหมด !! ครอบครัวเราไม่เหลือเลย !! ตอนนั้นเราเหลือคะแนนอีก 5 คะแนน (ไม่มีคะแนนสมุดที่ส่งไปตั้งแต่ยังไม่ออกเกรด) มันให้เราทำข้อสอบ เราทำถูกไป 14 ข้อแล้ว ตามความเป็นจริง ถ้าทำคะแนนมากกว่า คะแนนที่เราขาดก็ผ่าน แต่!!! มันบอกว่า ที่จริงชั้นก็อยากจะให้นะ แต่พ่อเทอพูดไม่ให้เกียจชั้น ถ้าเเมื่อวานไม่มี ผอ นะ ป่านนี้ ชั้นฟ้องศาลไปตั้งนานแล้ว !! ตะคอกใส่เราด้วยคำพูดเ-้ยๆนี่ แล้วพูดอีกว่า ชั้นไม่ยอมหรอกนะ ต้องให้พ่อเทอมาขอโทดก่อน ชั้นถึงจะให้ผ่าน (ดูมัน) เราไปตามพ่อ เราร้องไห้ด้วย เพราะเราอ่อนไหวง่าย เราบอกพ่อว่า ครูใช้ให้ไปขอโทดก่อน ถึงจะผ่าน พ่อโมโห พร้อมถามว่า มันอยู่ไหน !! เราตกใจที่พ่อโมโหมาก มากอย่างที่เราไม่เคยเห็น เราพูดกับพ่อไปว่า อย่าไปด่าเค้านะพ่อ ลูกกลัว พ่อว่า พ่อไม่ด่า พ่อก็จะไปขอโทดมันนี่ไง มันอยู่ไหน !! เราเดินนำไป ทุกคนเริ่มมองเรากับพ่อ เราพาไปในห้องทำงานมัน (ห้องที่เราสอบแก้น่ะแหละ) มันไม่อยู่ เราเลยพาพ่อขึ้นไปที่ห้องที่มันนัดเดกสอบแก้ มันก็ไม่อยู่ เราถามเพื่อนเราว่า ครูอยู่ไหน (เพื่อนก็ติด 0 ของมัน) มันบอกว่า ไปไหนไม่รู้ พ่อเราเลยไปพบ ผอ ผอ ว่าเดี๋ยวจัดการให้ หลังจากนั้นเราก็ผ่านเพราะ ผอ จัดการให้ สาม สี่ เดือนหลังจากที่เราย้าย รร แล้ว มันก็ลาออก (หรือถูกไล่ออกก็ไม่รู้นะ) ร้องไห้หน้าเสาธง (สมน้ำหน้า) เรารู้สึกดีมากที่มีครูเ-้ยๆนี่ออกไปได้สักที รร ที่เราเข้าน่ะก็ดังเป็นอันดับต้นๆของจังหวัด อยู่ห้องอีพีศิลป์ภาษา เราอยากจะกลับไปเดินเฉิดฉายที่ รร เก่า ให้มันอิจฉาเล่น ผลเกรดที่เราได้ตอนนั้น  1.94 เอง ตอนที่เราไปสมัครเข้า รร ใหม่ กรรมการนักเรียนก็ถามเราว่า น้องคับ ไปสมัคร รร อื่นเถอะคับ เพราะเขาดูถูกที่เราคะแนนน้อย อย่างกับว่า เกรดแค่นี้ สอบติดอีพีเร้ออ (เหอะ โทดค่ะ เข้าได้แล้ว ^*^) ปัจจุบันเราเกรดดีกว่า รร เดิมมาก ตอนนั้นเราอยากฆ่าตัวตาย กดดัน ไม่พูดไม่คุย เหมือนเทอทุกอย่างเลยนะ เพราะงั้น ชีวิตม.4 ฟ้าหหลังฝนแน่นอนจ่ะ เป็นกำลังใจให้นะสู้ๆ
\(^*^)/

0
cakekirah 3 ธ.ค. 56 เวลา 17:05 น. 3

ถ้าอยากมีเพื่อนก็ต้องลองพูดคุยกับเพื่อนดูบ้างนะคะ เราเองอยู่รร.ก็คุยไม่เก่งค่ะ จะจ้อมากๆเวลาอยู่กับเพื่อนสนิทเท่านั้นแหละค่ะ ยังไงแอดมาปรึกษาเราได้นะจ๊ะ
ปีหน้าขึ้นม.4ก็รุ่นเดียวกันอ่ะแหละ ^-^

0
ซากุระ ไอโกะ 3 ธ.ค. 56 เวลา 17:15 น. 4

โห สุดยอดอ่ะ สู้ๆ นะ ^^ พี่มีชีวิตเหมือนรุ่นพี่หนูเลย แต่ตอนนี้เค้าไปอยู่รร ดาวรุ่งแล้วล่ะ ตอนมอปลาย ดีใจด้วยค่ะ ชื่ออะไรหรอคะ

0
AoNat1 3 ธ.ค. 56 เวลา 20:20 น. 6

เชื่อเถอะ เปิดเทอมวันแรกของม.4 ทำตัวเป็นมิตรเข้าไว้ถ้าให้ดีเกาะพวกผู้หญิงไว้เลยถ้าคิดว่าตัวเองอ่อนแออยู่กับพวกผู้ชายไม่ได้ 5555555 (ไม่ได้ด่านะ) หากลุ่มเพื่อนใหญ่ๆซักกลุ่มเหมือนกลุ่มเราเวลามีงานกลุ่มได้แบ่งๆได้ อย่าทำตัวงมๆพูดแต่เรื่องเกมส์เรื่องไร้สาระ เอาใจช่วยนะ

0
coconut THree 3 ธ.ค. 56 เวลา 21:07 น. 7

ถึงจะไม่ค่อยพูด เงียบ แต่ถ้าช่วยงานเพื่อนอะไรอย่างงี้เพื่อนอาจจะมากขึ้นก็ได้นะ

 

0
pondnoy 3 ธ.ค. 56 เวลา 21:37 น. 8

555+ เหมือนกับเราเลย เงียบ พูดไม่เก่ง พอไปโรงเรียนมีแต่คนคิดว่าเราหยิ่งซะงั้น -0-''

แต่ถ้าคุณลองมองในโลกที่แง่ดี ทำงานร่วมกับคนอื่นความสัมพันจะดีขึ้นมาบ้าง สู้ๆ

0
Kamon ^^ 3 ธ.ค. 56 เวลา 22:20 น. 9

เราก็เป็นแบบนั้นนะ -w-; เงียบๆ ชอบเอาแต่นั่งวาดรูป

แต่เราว่าอย่าไปดูถูกแบบนั้นเลย คนเงียบๆเค้าก็มีจิตใจเหมือนกัน=w=;

ลองทักทายดูก่อนน่าจะดีกว่านะ เหนื่อยจุง

0
Lastorder 3 ธ.ค. 56 เวลา 23:05 น. 12

ผมก็เป็นนะ แต่ต้องทนอยู่ ผมรู้ตัวว่ามันปัญหาในการมีปฏิสมัพันธ์กับคนอื่นตั้งแต่ผมยังอนุบาลด้วยซ้ำและร้องขอให้พ่อแม่ช่วยอยู่ตลอด แต่ก็ไร้ผลครับ จนตอนนี้ผมสิ้วป.ตรีมา2ที่แล้ว

เอาละผมเล่าของผมมั้ง

สาเหตุจริงๆที่เป็นปัญหาคือคนอยากจะมาคุยกับผมมันไม่มีเลย เพราะคุยกันแล้วไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ(ผมเองแหละ)

ด้วยสภาพการนี้ผมถูกโดดเดียวมาตั้งแต่เด็ก ถึงจะฉลาดจนเป็นที่กล่าวข่านกันในโรงเรียนแต่ผลการเรียนผมก็ไม่ได้ดีเลย(มีแค่วิทยศาสตร์ สังคม การงานอาชีพฯ คอมพิวเตอร์และคณิตที่ได้เกรด4ไม่เคยพลาดส่วนศิลปะ พระพุทธ ได้1ตลอด) ถึงขั้นเป็นเด็กเนิร์ดอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะล้มป่วยลงด้วยโรคในสมอง (ไม่ขอระบุนะ) จนตอนนี้ผมเสียทักษะทางคณิตศาสตร์ไปแบบไม่ทราบสาเหตุ แต่วิชา ชีวะ เคมี ฟิสิกส์(น่าแปลกเพราะมันคือคณิต) คอมพิวเตอร์ ยังได้เกรด4ไม่เคยพลาด แต่คณิตได้1ได้2เพราะคำนวณพลาด สอบติด กสพท. แต่ตรวจสุขภาพไม่ผ่าน แต่เข้าไปเรียนแล้วเพิ่งแจ้ง เลยต้องออกกลางคัน
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สิ้วออก เพราะปัญหาเรื่องเพื่อนและการเข้าสังคม ตอนนี้ผมอยู่ วิทย์คอมใน ศูนย์การเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งปัญหาไม่แตกต่างกันครับ ถึงเทอมนี้จะกวาดAไป3ตัวB+1ตัวB1ตัวC+1ตัวจาก6วิชาและเป็นว่าที่เกียรตินิยมอยู่และได้ทุนเรียนดีจากมหาลัยเสริมด้วย(ในคณะมีได้แค่3คน ผมเป็นลำดับที่1) แต่ก็ไม่มีใครแม้แต่อาจาร์ยหรือรุ่นพี่กล้ายุ้งกับผมเลย และไม่มีใครอยากเดือนร้อนช่วยผมในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งงานกลุ่ม ผมทำทุกอย่างทั้งพิมพ์รายงาน หาข้อมูล พรีเซ็น ถึงทำออกมาแล้ว อ. จะอึ้ง(หรือไม่ก็ไม่ทราบ) แต่ก็เป็นคำชมที่ผมยังรู้สึกว่า "ทำผ่านๆ สำหรับตัวปัญหาแบบนี้" ยิ่งโปเจ็ค ก็ลุยเดียวอีก แต่วิชานี้ได้ C+ ซึ่งผมก็พอเดาได้คงเป็นเพราะงานโปรเจ็คนี้แน่ ซึ่งผมคงไม่มีวันรู้เพราะอ.ก็ไม่ยอมบอก


ถามว่าทรมานมั้ย ก็โทรมานสุดๆ เหนื่อยโครตๆโดยเฉพาะตอนมีงานกลุ่ม  แต่ผมไม่ปริปากบ่นเพราะ ความผิดนี้มันเป็นที่เราคนอื่นไม่ผิดและไม่รู้อะไรกับเราด้วย  ซึ่งใจจริง ถ้าผมมีแฟนหรือดีที่สุดเลยคือแฟนที่ยอมทนเข้าใจผมได้ แค่สักคนหนึ่ง สักคนหนึ่งในชีวิตที่ไม่เคยรู้จักกับความสนุกของการไปเป็นเพื่อนฝูง มีผู้หญิงมีแฟน   ผมก็ได้แต่เฝ้าขอภวานาไปวันๆ  อยู่แบบนี้แหละครับ ผมจนปัญญาจะเข้าหาคนอื่นแล้ว  คุณทำใจซะเถอะครับ  ผมรู้ว่าคุณก็โง่ไม่ได้เก่งอะไร  แต่ถ้าคุณลองทำด้วยตัวคนเดียว ทุกๆอย่าง แบบผม แล้วคุณก็จะรู้เองครับ  เพราะเกลียดมากกับคนที่มาบ่นแบบนี้ใส่เพื่อสร้างปัญหาให้คนอื่นโดยที่ตัวเองก็ยังไม่ได้ลงมือทำด้วยตัวคนเดียวเนี้ย


สำหรับของผม ผมขอแค่ ใครสักคน ช่วยมาหยุดวงจรอุบาทว์นี่ เข้ามาชวนคุย เสนอตัวเข้ามาวุ่นวาย จนผมขอน้อมรับความเดือนร้อนอย่างเต็มใจของคุณ เพื่อที่ผมได้ศึกษาและก้ไขปัญหาตัวเองอย่างถูกจุด  ซึ่ง ไม่มีวัน ไม่มีวันที่ผมจะเจอคนแบบนี้อยู่แล้ว ผมตอนนี้แค่ทนรอวันตาย ถ้าทำงานแล้วยังมีปัญหาแบบเดิมผมก็คิดว่าพอกันทีเหมือนกัน ผมก็หมดความอดทนเป็นนะ ฟ้าหลังฝนอะไรแบบนั้น ไม่เคยเกิดขึ้นกับผมเลยตั้งแต่อนุบาลยันป.ตรีสิ้ว2ครั้งด้วย


ขออภัย ท่านใครมาอ่านแล้วเห็นว่าผมฟิวขาด 

1
Sadboy nofriend 21 มิ.ย. 61 เวลา 21:18 น. 12-1

ผมเข้าใจในตัวคุณเลยครับ

ส่วนตัวผมนั้นจากเด็กที่เคยเกเร เพื่อนฝูงเยอะแยะ ไปไหนไปกัน จนติดมหาลัยสอบติดถาปัตย์ม.นึง เรียนไปสักพักทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เพื่อนๆก็เริ่มก็เริ่มติฉินนินทาเอาเราเอาแต่เรียน คนในคณะก็เกลียดเรา คนที่บ้านเช่าที่อยู่ๆกันก็แบนเรา ด้วยสาเหตุที่เราไม่รู้เหมือนกัน ทุกวันนี้ก็ทนทุกข์ทรมานมากครับ จากเด็กที่เพื่อนฝูงเยอะก็กลายเป็นคนที่อยู่คนเดียวบนโลก ชีวิตกลายเป็นขาวดำ ปล.ในตอนนี้ผมพิมคอมเม้นนี้ทุกคนในบ้านเช่าก็ไม่มีใครคุยกับผม ผมแอบมานั่งพิมอยู่ในมุมมืดเล็กๆที่ไร้คนสนใจ โลกไม่โหดร้ายแต่ผู้คนต้องต่างหากที่โหดร้าย จากชายที่ซึมเศร้าคนนึง

0
มินมิน 4 ธ.ค. 56 เวลา 00:01 น. 14

สู้ๆ ถึงจะพูดไม่ค่อยเก่ง แต่ยิ้มแย้ม ทักทายคนอื่นบ้าง ก็ได้นะ
ถึงจะไม่สนิท แต่มันก็คงจะดีกว่าเดิม แล้วก็อย่าเครียดกับเรื่องพวกนี้มากนะ
ชีวิตเรายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ อย่าให้มันเป็นปัญหาในการดำเนินชีวิตเลย
เราก็เป็น แต่จะทำไงได้ ^_^


0
BIGBANG โย่ว:) 4 ธ.ค. 56 เวลา 00:14 น. 15

อย่าคิดมากเลยจขกท.ค่อยๆเข้ากับเพื่อน ช่วยเพื่อนทำงานอะไรทำนองนี้อ่ะ
ก็เหมือนเราตอน ม.4 เราต้องย้ายโรงเรียนแล้วก็ห่างกับเพื่อนสนิทเลยทำให้เราเป็นคนเงียบมาก เราเป็นคนเข้ากับสังคมอื่นยาก เพื่อนก็ไม่ค่อยอยากคุยกับเราเท่าไหร่ เวลาเดินก็เดินหลังสุดเพื่อนคนอื่นเดินเป็นกลุ่มเป็นคู่กัน ส่วนเราเดินคนเดียว ไปก็เหมือนไม่ไป ไม่มีตัวตน จนทำให้เราท้อไม่อยากไปโรงเรียน  อยากอยู่โรงเรียนเดิมอยากอยู่กับเพื่อนเก่า แล้วก็เราพิจารณาตัวเองว่าควรทำยังไงให้เพื่อนเล่นกับเรา เราก็พยายามคุยนิดๆ บางทีก็เล่นมุกอะไรก็ไม่รู้ ผ่านไป2-3เดือนเพื่อนเริ่มคุยกับเราแล้ว แต่ก็เหมือนคนไม่สนิทคุยกัน เราก็พยายามต่อไปชวนเพื่อนไปนู้นไปนี้ ซื้อขนมให้เพื่อนๆบ้าง พอนานๆไปเพื่อนสนิทกับเราแล้ว(เย้ดีใจ) ปัจจุบันก็สนิททั้งห้อง โดนเพื่อนแกล้งบ้างตบหัว ดักขา สารพัดแกล้ง(ไม่ใช่แกล้งแบบศัตรูนะ) ก็สนุกกันไป เพื่อนบอกว่าเราตัวเล็กอยู่เหมือนเด็ก บ๊องๆ ต๊องๆ น่าแกล้ง
ยังไงจขกท.ก็สู้ๆ

0
---*Tipzz!!*--- 4 ธ.ค. 56 เวลา 00:57 น. 16
            จะขึ้นม.๔ ใช่มั้ย คิดซะว่าเริ่มใหม่ ลองดูซักตั้งซิ ไม่ใช่เพื่อใครเลยนะเพื่อตัวน้องเอง ลองปรับนิสัยหน่อย มั่นใจในตัวเองมากขึ้น ยิ้มให้เพื่อนก่อนบ้าง ตอนแรกๆน้องอาจจะกลัว แต่ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็ชิน เราน่าจะแสดงว่าเราเป็นมิตรให้เค้าเห็นก่อน เค้าถึงอยากคุยกับเรา มีงานก็ช่วยๆเพื่อนไป ถามว่าให้เราทำตรงไหนได้บ้างหรืออาสาไปเลย เราต้องพยายามนะ ผลตอบรับมันไม่ได้เห็นทันตาหรอก แต่มันจะดีขึ้น ค่อยๆ ดูไป ค่อยๆทบทวน พลาดตรงไหนก็ค่อยๆแก้ไขไป



       "เรามันเด็กคนนึงที่ทำอะไรไม่เป็น คุณหนู ไม่มีหัวคิด ไม่มีความคิด เงียบ เฉยชา จะทำอะไรก็ไม่มีใครเอา เพราะไม่ช่วยงาน" <<< เป็นแบบนี้ตลอดไปไม่ได้หรอก ยิ่งโตขึ้นน้องจะลำบาก และพี่คิดว่าน้องคงไม่อยากเป็นแบบนี้มั้ง มันไม่เท่เลย 


       โลกส่วนตัวสูง โอเคเข้าใจ แต่ในบ้างเวลาเราก็ต้องอยากมีใครสักคนพูดคุยด้วย เข้าใจเรา แคร์เรา เคยได้ยิมไหมว่าถ้าอยากได้อะไรจากใคร ก็ต้องให้เค้าก่อน 
น้องมีค่าเสมอนะ มีค่าที่สุดในชีวิตของพ่อแม่ และน้องก็มีตัวตนไม่ได้ถูกมองข้าม อย่างน้อยก็เห็นได้จากการที่คนเข้ามาให้กำลังใจน้องในกระทู้นี้


        พี่อยากให้น้องใช้ชีวิตม.ปลาย(มหาลัยด้วย)ให้คุ้มค่า  มันสุขที่สุดแล้ว  มีกีฬาสี  มีปิดเทอม  เล่นอะไรสนุกๆเป็นเด็กๆก็ไม่มีใครว่า  ถึงแม้จะมีติวเยอะไปหมดก็เถอะ  ทุกวันนี้พี่เรียนจบแล้วยังคงนัดเจอ ไปเที่ยวกับเพื่อนสมัยม.ปลายบ่อยๆเลย พี่ว่ามันใจมากอ่ะ ยิ่งโตเราจะหาคนที่เค้าจริงใจก็ยากนะ ความเครียดก็จะรอบด้านมากขึ้น 
สู้ๆนะ ลองปรับตัวดู ชีวิตเราจะเป็นก็อยู่ที่เราด้วยนะ พยายามเข้า 
0
AkiYHH995 4 ธ.ค. 56 เวลา 03:44 น. 17

นี่ พี่ก็เงียบเหมือนกันนะ ยิ่งกับคนไม่สนิทเข้าขั้นเงียบมากเลยแหละ เป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก อยู่คนเดียวจะมีความสุข แบบไม่ต้องแคร์ใครมากให้อึดอัด แต่นั่นก็ส่วนนึง ออกไปเจอสังคมยังไงเราก็ต้องปรับนะคะ ยิ่งโตสังคมยิ่งกว้าง มีคนแย่ๆที่เราคาดไม่ถึงให้เงิบอีกเยอะ 555++ นี่แค่ในโรงเรียน อย่างมากเพื่อนบางคนอาจจะแค่นิสัยไม่ดี แต่มันคงไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอก เราต้องลองมองมุมกว้างๆนะ อย่าเอาแค่ความคิดเราเป็นจุดยืนอย่างเดียว ใครไม่ดีเราก็พยายามเลี่ยง เลี่ยงไม่ได้ก็พยายามให้กระทบกระทั่งกันมากที่สุด แล้วแต่วิธีของแต่ละคน เคยเจอมากับตัวเข้าใจว่าเวลาเจอไอ่คนที่เราไม่ชอบเนี่ย อึดอัด แล้วไงอ่ะ หนีปัญหาก็เท่านั้น มีคุณพ่อคุณแม่ก้ปรึกษาเค้านั่นแหละ ส่วนนิสัยส่วนตัวเราก้ต้องเข้าหาคนอื่นบ้างนะ ลองทักก่อน ยิ้มให้ พูดไม่เก่งก็หาเรื่องคุยบ้าง ไม่ต้องมากแค่พอให้เค้ารู้ว่าเออเราเต็มใจที่จะคุยด้วย คนไหนชอบอะไรคล้ายเราก้ติ่งเลยค่ะ555 เข้าไปติ่งด้วยกันแล้วจะเจอหนทางสู่การมีพวกพ้อง 55555 พอเริ่มเข้ากันได้สิ่งอื่นๆจะตามมาเอง กินข้าวด้วยกัน นั่งเรียนติดกัน ติวด้วยกัน นัดไปเที่ยวกัน เรียนพิเศษที่เดียวกัน เม้าส์มอยกัน เล่นกัน ไปเที่ยวบ้านเพื่อน พาเพื่อนมาเที่ยวบ้านเรา มีปัญหาปรึกษากัน มีความสุขดีใจให้กัน มีเพื่อนนี่มันสนุกมากเลยนะคะน้อง เราอยากให้ใครทำแบบไหนกับเรา เราก็ต้องทำแบบนั้นกับเค้านะคะ บางคนเฉยมาเราก็ไม่ต้องอะไร แต่พี่มั่นใจทั้งโรงเรียนมันจะมีแต่คนใจแคบไม่คบเราเลยเหรอเป็นไปไม่ได้ค่ะน้อง งานที่ต้องทำร่วมกันมันเป้นหน้าที่ ถ้าราไม่ทำก็ไม่แปลกที่เพื่อนจะไม่พอใจนะคะ เพราะเราไปกินแรงเค้า ทำไม่เป็นก็ให้เพื่อนสอน ถ้ามันไม่สอนก็หาทางฝึกเองหรือทำให้เป็น คนที่อยู่เฉยๆใครเค้าจะไปรู้ความคิดเราล่ะ มัวแต่มาบ่นแล้วมันไม่มีไรดีหรอกนะ เวลามีอะไรก็อย่าร้องไห้ขี้แย มีไรก็คุยกันดีๆชัดเจนอย่าให้ค้างคา โตแล้วนะ ต้องเข้มแข็งขึ้น ฮึบ! เพื่อนถามอะไรอย่าไปคิดว่าจะถูกไม่ถูกชอบไม่ชอบ ลองแสดงความเห็นเราก่อน อย่างน้อยเพื่อนเค้าจะได้เห็นว่าเออเราให้ความสำคัญ น้องนึกดูเวลาคนถามอะไรแล้วไม่ตอบมันเสียมารยาทนะ ช่วยได้เท่าไหนก็เท่าที่เราพยายามแล้วเต็มที่ ใครๆก็ชอบคนเก่งทั้งนั้น ถ้าช่วยแล้วเพื่อนมีปัญหาแสดงว่าตัวเพื่อนคนนั้นมีปัญหาเองแหละพี่ว่า ไม่อยากให้ใครว่าลูกคุณหนู อะไรที่พอหัดได้ก็ทำไปเลย ถ้าคนรอบข้างห่วงว่าเราไม่เคยทำก็บอกไปเลยถ้าทำไม่เป็นเพื่อนล้อนะครับ ผมต้องทำให้ได้ ทำได้แล้วเราจะภูมิใจ ไม่มีใครมาสบประมาทเราได้อีก น้องก็เข้าใจดีว่าการอยู่คนเดียวเป็นเวลานานๆมันทรมาณขนาดไหน ไม่อยากอยู่แบบนี้เราก็ต้องปฏิวัติตัวเองนะ(ถ้าเพื่อนโรงเรียนเก่ามีปัญหากับเราจริงๆ ย้ายโรงเรียนก็ได้ถ้าไม่ลำบากมากอ่ะนะ เอาที่เราคิดว่าถ้าทำดีที่สุดแล้วและเลือกสิ่งที่เราสบายใจ) พี่ว่าชีวิตเด็กกำลังจะขึ้นมอสี่คงไม่มีไรที่ยากมากหรอก ชีวิตคนเรามีค่านะ เกิดมาก็ใช้ชีวิตให้คุ้ม มีความสุขกับมัน วัยเรียนเป็นวัยสนุกสนาน ยังไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก ผ่านไปแล้วจะมานึกเสียดายไม่ได้นะ สู้ๆนะครับ พี่เป็นกำลังใจให้// จากคนที่เงียบเหมือนกัน ^^'

0
ตึงโป๊ะ 4 ธ.ค. 56 เวลา 05:54 น. 18

ก่อนอื่นน้องต้องปรับทัศนคติต่อตนเองใหม่ก่อน ลองมองมุมกลับไม่ใช่เราไม่มีค่า แต่คนอื่นต่างหากที่ไม่มีค่าควรให้เราคบ(สุดโต่งไปป่ะเนี่ย)
น้องเป็นคนประหลาดนะ ในเมื่อรู้ว่าตัวเองบกพร่องตรงไหนกลับไม่แก้ตรงนั้นไปโทษชีวิตว่าไม่น่าเกิดมาเลย คือน้องไม่เคยที่จะทำชีวิตของตัวเองให้มีคุณค่าด้วยแหละ(แรงได้อีก)
เกิดเป็นคนไม่ใช่จะเกิดมาแค่เรียนไปวันๆ อยู่ไปวันๆ กินไปวันๆ แต่เราต้องรู้จักอุทิตตัวเองเพื่อผู้อื่นด้วย ถ้าเราไม่เสียสละ เมตตาต่อเพื่อนมนุษย์เล็กๆน้อยๆน้องก็ไม่มีวันที่จะได้มิตรภาพหรือความเมตตาตอบกลับมา
แล้วสุดท้ายนะ น้องเกิดมาจากระบอกไม้ไฝ่รึเปล่าเลยคิดว่าตัวเองไม่มีค่า อย่างน้อยๆ พ่อหรือแม่ของน้องที่เบ่งน้องออกมาก็ยังคิดว่าน้องมีค่าอยู่นะ 

0
punchpooh 4 ธ.ค. 56 เวลา 07:37 น. 19

อย่าคิดแบบนั้นสิ  เมื่อก่อนเราก็เงียบนะ แต่ตอนนี้พูดเปนต่อยหอยเลย เรื่องที่เราจะพูดหรือจะมีเพื่อนมั๊ยบางทีเราก็ควรปรับตัวนะแต่ก็ต้องคงความเป็นตัวเองด้วย
อย่าเอาแต่คงความเป็นตัวเอง หรือ เลียนแบบชาวบ้านเยอะไป แต่ยังไงก็ต้องรู้จักปรับตัวนะ เพื่อนนะหาไม่ยากแต่เพื่อนดีๆนะยากมาก ก็พยายามนะนิสัยเราอันไหนไม่ดีก็ปรับบ้างเปลี่ยนบ้าง  คนเรามีคุณค่าในตัวเองทุกคนนะค่ะ  สู้ๆค่ะ

0
สู้ๆ 4 ธ.ค. 56 เวลา 09:56 น. 21

ไม่ผิดหรอกที่เป็นคนเงียบๆ ไม่พูด เราเองก็เป็นเหมือนกัน แต่ควรปรับปรุงเรื่องช่วยงานเพื่อนนะ แล้วก็พยายามยิ้ม มีน้ำใจ ถ้ายังไงก็ลองมองหาเพื่อนสักคน ไว้เป็นเพื่อนสนิท เราไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีใครคบเลย เพราะห้องเราขนาดเด็กเนิ้ด เด็กเงียบ เขาก็ยังมีเพื่อน เรามีเพื่อนสนิทไม่เยอะหรอก แต่มันก็อุ่นใจดี มีความสุขในชีวิตแบบเรา อย่าไปคิดมากขนาดนั้น อยากให้สู้นะ มีเพื่อนๆในเด็กดีหลายคนเป็นกำลังใจให้อยู่นะ ^^

0
~ล่องลอย~ 4 ธ.ค. 56 เวลา 11:56 น. 22

เราก็เป็นคนไม่ค่อยพูดค่ะ ตอนม.ต้นไม่มีเพื่อนเลยเหมือนกัน เวลาแบ่งกลุ่มทำงานทีไร เป็นเศษของห้องทุกที อยากให้จขกท.ปรับตรงที่ว่าเพื่อนให้ช่วยงานก็ช่วยเค้าเท่าที่เราทำได้

ส่วนเรื่องเพื่อนบางทีมันก็แค่ยังไม่ถึงเวลา ตอนม.ต้นเราไม่มีเพื่อน ตอนนี้จะจบม.ปลายแล้ว มีแก๊งมีกลุ่มที่สนิทกันมากกก ^^ เพื่อนเราอีกคนตอนม.ต้นก็เป็นคล้ายๆกัน ย้ายออกไปตอนม.ปลาย ตอนนี้ก็มีความสุขกว่าเดิมมาก

เพื่อนเราอยู่ในโลกนี้แหละค่ะ แค่ยังหากันไม่เจอ เปิดใจกว้างๆ ปรับทัศนคติของเราเอง เราคิดว่าเราเป็นยังไงมันจะสะท้อนออกมาให้คนอื่นมองเราแบบนั้นค่ะ อย่าจำกัดกรอบตัวเอง

สู้ๆนะคะ เดี๋ยวก็ผ่านมันไปได้

0
BadASS 4 ธ.ค. 56 เวลา 12:30 น. 23

อย่าคิดว่าตัวเองเงียบสิคะ บางทีเราก็ต้องออกปากออกเสียงบ้าง 
คิดซะว่าคนบ้างคน พูดไม่ได้เขายังอยากจะพูดเเค่ไหน
แล้วเราเองพูดได้ทำไมถึงไม่พูด

0
biogeeva 4 ธ.ค. 56 เวลา 13:26 น. 24

จะ ม.4 แล้วลองเปลี่ยนตัวใหม่ดูนะค่ะ เพื่อนอ่ะลองคบๆกันไปดู
ชีวิตเรามีค่าค่ะ
ถ้าไม่มีเพื่อนเราเป็นเพื่อนไห้เทอได้นะ

0
แวะมา 4 ธ.ค. 56 เวลา 13:42 น. 25

เราเปลี่ยนตัวเองนะพี่ว่า ถ้าตอนนี้ยังอึดอัด
แต่พอขึ้นมอ4 เราเชื่อว่าถ้าเปลี่ยนสังคมแล้ว น้องจะกล้ามากขึ้น
พยายามชวนเพื่อนคุยก่อนบ้าง ยิ้มเยอะๆนะ ^^
ขนาดเรายังดูถูกตัวเรา จะไม่ให้คนอื่นมาดูถูกได้ยังไง
ต้องเริ่มที่ตัวเองนะคะ สู้ๆ ^^

0
Sandy Non 4 ธ.ค. 56 เวลา 14:25 น. 26

อย่าคิดแบบนั้นสิ ลองเปลี่ยนนิสัยเราดู ลองที่จะกล้าคุยกับคนอื่น ตอนแรกเทอก็จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยาก ที่จะต้องไปคุยกับคนที่เราไม่สนิทด้วย แต่เชื่อเราสิ ถ้าเทอขยันพูดคุยกับคนอื่น เทอก็จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ง่ายและกลายเป็นเรื่องที่เทอจะต้องดีใจที่ตัวเองคิดถูกที่ได้เริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้ ^^

0
$oulvy_memo 4 ธ.ค. 56 เวลา 15:10 น. 27
- เราก็เป็นคนเงียบนะโลกส่วนตัวสูงด้วย เพราะเราพูดเสียงเบาเลยทำให้ไม่มีใครสนใจ คนที่เรียนห้องเดียวกะเราก็ชอบบ่นว่าทำไมชอบอยู่คนเดียว ก็แหม เราอยู่ด้วยคุยด้วยแล้วไม่ได้ยินกัน เลยปลงดีกว่า
- ส่วนเรื่องงานกลุุ่ม เวลาทำงานส่วนมากเราจะทำคนเดียวตลอดก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องงาน
- เราเป็นคนไม่เข้าหาคนอื่นด้วยเลยมีเพื่อนน้อยแล้วก็เพื่อนห้องอื่นๆอ่ะก็แอนตี้เราเพราะเราเป็นพวกหน้าหมั่นไส้ ในตอนแรกเราก็มีเพื่อนสนิทนะแต่มันเป็นคนเสแสร้งอ่ะเลยเลิกคบไปเลยไม่อยากจะยุ่งกะคนแบบนี้ละ
- เราเป็นลูกคุณหนูเหมือนจขกทด้วยก็เลยทำอะไรไม่เป็นในบางเรื่อง แต่เราก็พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว

ถ้าจขกทไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคบหาด้วยก็มาเป็นเพื่อนกะเราก็ได้ แต่เราอยู่ม.6 นะ 

0
คนเคยๆ 4 ธ.ค. 56 เวลา 15:36 น. 29

การที่คุณคิดแบบนี้ ก็เหมือนยิ่งทำร้ายตัวเองไปเรื่อยๆ ทุกวัน ... เพราะการคิดแง่ลบทั้งกับตัวเองและคนรอบข้างก็เหมือนคุณกำลังส่งแม่เหล็กชิ้นใหญ่ที่จะคอยดูดเรื่องแย่ๆ เข้ามาหาคุณอยู่ตลอดเวลา ลองเปลี่ยนทัศนดติดูนะ คิดในแง่+ ดูบ้างสิ เริ่มง่ายๆ เลยนะ ก็ลองคิดประมาณว่า "ฉันมีเพื่อนที่ดี ฉันเป็นคนที่น่าคบ ใครๆ ก็ดีกับฉัน" ถ้าคิดได้อย่างนี้แล้ว แม่เหล็กที่เคยแต่ดูดเรื่องแย่ๆ จะเปลี่ยนขั้วมาดูดเรื่องดีๆ เข้าหาตัวเอง เธออาจจะคิดว่า ไม่จริงหรอก แต่ถ้าเธอไม่ลองทำดูสักตั้ง เธอจะรู้ผลลัพธ์ได้ยังไง วิธีคิดแง่ดีกะตัวเองไม่เสียสตางค์ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนด้วย ลองดูก็ไม่เสียหายนะ
เมื่อก่อนตอนประถม ฉันก็เป็นคนพูดน้อยเหมือนกัน มีเพื่อนสนิทอยู่แค่ 1 คน แต่เพื่อนคนนี้ไม่รักฉันหรอก พอเจอเพื่อนใหม่ก็ทิ้งฉันไปเลย ตอนนั้นฉันโกรธมาก แต่ตอนนี้ไม่โกรธเขาแล้วล่ะ ก็ทำไงได้ ก็เมื่อมาลองมองดูตัวเอง พบว่าเป็นเพราะตัวเราเอง ใครๆก็อยากอยู่กับคนที่สดใสร่าเริง สนุกสนานด้วยกันทั้งนั้น พอเริ่มจะจบป.6 ฉันเปลี่ยนตัวเองใหม่ คิดแง่บวกกับตัวเอง พูดให้มากขึ้น งานกลุ่มจากที่เมื่อก่อนต้องไปขออยู่กลุ่มที่เค้าต้องการเศษ ตอนนี้มีแต่คนมาขออยู่ด้วย ลองทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างสุดความสามารถ ถ้าเขาไม่ยื่นงานมาให้ ก็ไปถามเขาสิว่าให้ช่วยอะไรมั้ย ..ถ้าเขาไม่ไว้ใจเราก็ขอลองทำงานที่คิดว่าเราจะทำได้ดีดูสิ ทำออกมาให้เขาเห็นแล้วร้องว้าวไปเลย
ตอนนี้ฉันมีเพื่อนที่ดี 5 คน สนิทกันมาตั้งแต่ ม.1 เพื่อนๆในห้องรักฉัน รักเพื่อนของฉัน เกรดฉันก็ได้เกรดสวยๆ งานกลุ่มก็ได้เป็นหัวหน้าแล้ว คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้ ลองดูนะ แล้ววันๆนึงที่มีแต่เรื่องน่าเบื่อ จะสวยงามขึ้น น่าอยู่ขึ้นเป็นกองเลย

0
รุ่นพี่เยอะแยะ 4 ธ.ค. 56 เวลา 16:37 น. 30

พี่เป็นกำลังใจให้นะ ตอนม.ต้นก็เป็นแบบน้องนี่แหละ สักวันจะเป็นวันของเรานะน้อง น้องอย่าดูถูกตัวเองเลยนะ ทุกคนเกิดมามีดีคนละแบบ พี่ก้อเคยดูถูกตัวเอง น้องลองค้นหาตัวเองว่าตัวเองชอบอะไรถนัดอะไร แล้วถ้าเจอแล้วเดินหน้าอย่างเดียว อย่าหันหลังกลับ อย่าสนใจพวกปากไม่ดี คิดซะว่าเป็นคำพูดทดสอบความแข็งแกร่งทางใจก็ได้ 55 พี่เจอมาเยอะแล้วน้อง ทุกรูปแบบ เกือบจะตบกันก็มี แต่ที่พี่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะมีพ่อกับแม่พี่เป็นกำลังใจให้ไงล่ะ สู้สู้ๆนะคะคนเก่งสู้สู้

0
กาเลียโน่ 4 ธ.ค. 56 เวลา 19:24 น. 32

เหมือนเราเลย...แต่เรายังดีกว่านะเพราะว่าเรายังมีเพื่อนสนิทด้วยกันอยู่ตั้งหลายคน(นั่งหลังห้องหมด)ถึงพวกเราจะไม่มีใครคบกันเท่าไหร่(เพราะนิสัยประหลาด)แต่พวกเราทุกคนเป็นมิตรกับทุกคนเสมอ(ยกเว้นเพื่อนเราคนหนึ่งล่ะกัน-_-ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูแทบกับทุกคน)

ยังไงก็สู้ๆนะ!!พยายามเป็นมิตรกับคนอื่นนั้นแหละดีแล้ว^_^

0
melon12 4 ธ.ค. 56 เวลา 19:38 น. 34
เมื่อก่อนเราก้อคิดแบบนี้นะ คิดแบบจขกทเลย...
เราเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่มีเพื่อนสนิทเลยด้วยซ้ำตอนนั้นน่ะ
พอกลับมาจากรร.ก้อจะร้องไห้อยู่เสมอ วันไหนที่เพื่อนไม่สนใจ ไม่เห็นเราเป็นเพื่อน ไม่ต้องการเราแล้ว...เหมือนกับเราถูกแบนออกจากกลุ่มเลย
เราเป็นคนที่รักเพื่อนมากๆนะ แต่ทำไมเพื่อนไม่รักเราก้อไม่รู้ 
มีอยู่ครั้งนึงเราเคยสนิทกับเพื่อนคนนึงมาสักประมาณ 2 ปีกว่าๆ เรารักมันมากเพราะมันเป็นเพื่อนสนิทคนแรกของเรา เวลาไปไหนเราก้อจะไปกับมันอยู่เสมอ มีอะไรก้อจะบอกมันหมด อยู่มาวันนึงมันไม่พูดกับเราเลย แล้วมันก้อไปสนิทกับเพื่อนคนอื่น มันทำเหมือนกับว่าเราไม่เคยเป็นเพื่อนมัน...เราเสียใจมาก เราแอบร้องไห้อยู่เสมอ ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงต้องทิ้งเราไปด้วย มันเหมือนทำให้เรามีชีวิตที่สดใสขึ้นแล้วก้อทำไมให้มันเป็นสีเทาเหมือนเดิม 
จนกระทั้งถึงตอนนี้เรายังไม่เคยคุยกับมันเลยสักครั้ง เรามีเพื่อนใหม่แล้ว มันก้อมีเพื่อนใหม่ ต่างคนต่างอยู่กันไป ตอนนี้เราก้อเข้ากับเพื่อนทุกคนได้แล้วเพราะเราเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ไม่มัวแต่คิดถึงเรื่องที่มันทำให้เราแย่ลง แค่เราเข้าไปลองพูดกับเพื่อนคนใหม่ๆก้อมีเพื่อนแล้ว ถึงจะไม่ใช่เพื่อนสนิทแต่มันก้อทำให้เรายิ้มได้ ^^
0
pingpong 4 ธ.ค. 56 เวลา 20:59 น. 37

ตอนนี้เราก็ไม่มีเพื่อนเหมือนกันเพราะเพิ่งย้ายโรงเรียนที่อินเดียหน้ำซ้ำพูดกันคนล่ะภาษา เราป็นคนเงียบแบบไม่รู้จักแล้วก็ไม่ค่อยพูด เวลาหาห้องเรียนก็ยากคนส่วนใหญ่ยังเห็นแก่ตัวถามว่าห้องอยู่ไหนก็บอกไม่รู้คือไม่ใช้ปัญหาของมันไง แต่เราก็เจอคนดีๆนะถึงมันจะไม่ค่อยเยอะก็เถอะ ก็ สู้ๆนะ เราก็ไม่มีเพื่อนเหมือน
กันตอนนี้555 เวลาพักเที่ยงอ่ะเราไม่มีเพื่อนนั่งกินเราก็หน้าด้านนั่งลงกับมันนั้นแล่ะก็ทำท่าคุยกับมันไป ตอนนนี้เราก็มีเพื่อนขึ้นมาบ้างแล้ว สู้ๆนะ ที่เล่ามาก็หวังว่าเธอจะเอาไปปรับใช้ได้ไม่มากก็น้อยนะ
เป็นกำลังใจให้ :)เศร้าจัง

0
jib-john 4 ธ.ค. 56 เวลา 21:03 น. 38

สู้ๆ ทุกคนมีคุณค่าในตัวเองเสมอ หาคนที่เห็นคุณค่าในตัวเรา เชื่อสิ มันต้องมีเยี่ยม

0