Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องลึกลับเกี่ยวกับตู้เย็น ( เรื่องเล่าเก่าแก่ )

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
- ตู้เย็นเก่าเก่า -



ตระกูลผม สืบเชื้อสายมาจากตระกูลเก่าแก่
ผมเกิดที่อังกฤษ และในบ้านก็มีตู้เย็นรุ่นเก่่า
คุณตาบอกผมทุกคนในบ้านไว้ก่อนจะตายไป
ให้เสียบปลั้กตู้เย็นไว้ตลอด ห้ามเอาของมาแช่
ครับ ทุกคนเชื่อและก็เสียบปลั้กตู้เย็นไว้แบบนั้น

ในคืนคริสมาสต์ ผมได้ยินเสียงหัวเราะจากห้องครั
หิมะตกลงมาหนักมากจนผมนอนไม่หลับ ต้องแอบ
ย่องลงมาดู สิ่งที่อยู่ตรงหน้าผม คือ กลุ่มซานตาครอส
มีอยู่ 5 คน ที่บ้านผมคือจุดพักเหนื่อย ตู้เย็นเก่าเก่า
ก็คือประตูมิติใ้ห้เหล่าซานต้า ออกมาชงอะไรกิน
ก่อนจะบินไปรอบโลกเพื่อแจกของขวัญ ว่าแล้ว




ทำไมคุณย่าซื้อแอปเปิ้ลเขียวมาเป็นเข่ง เข่ง
เพราะมีกวางจมูกแดง กำลังเคี้่ยวแอปเปิ้ล กรอบๆ
ผมกำลังจะย่องกลับไปนอน แต่ไม่ทันและครับ
ลุงซานต้าเรียกผมไปเตรียมโกโก้ร้อน กินกันเก่งมาก
ผมก็เพิ่งรู้ว่า ซานต้ามีหลายคน เพราะต้องช่วยกัน
เหนื่อยจัง ไม่น่าลงมาแอบดูเลย ไปเช็ดขี้กวางก่อน





จบ

แสดงความคิดเห็น

>

11 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ท่านพริก 15 ก.พ. 57 เวลา 22:53 น. 8

บ้านคุณเป็นตู้เย็นเหรอคะ
ของบ้านเรา เป็นตู้เสื้อผ้าเก่าๆที่ถูกวางลืมไว้ในห้องเก็บของ
ปกติมันมักจะถูกล็อกปิดตายไว้เสมอ มีเพียงวันที่ 31 ตุลาคมเท่านั้นที่กุญแจดอกนั้นจะถูกปลดออก และทุกๆวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี บ้านเราจะมีกฏว่าห้ามออกจากห้องนอนตั้งแต่พระอาทิตย์ตก

เหตุการณืมันเกิดขึ้นตอนเราอายุ 13
วันนั้นน่าจะเป็นเวลาตอนตีห้ากว่าๆ อีกไม่กี่นาทีอาทิตย์ก็กำลังจะขึ้น เราตื่นเร็วกว่าปกติของทุกวัน มันคงเป็นเพราะเมื่อวานเราเข้านอนเร็ว
แล้วเราก็ได้ยินเสียงแว่วๆ เหมือนเสียงคนเดิน และคนพูดคุยดังมาจากด้านนอก
ถึงจะมีคำสั่งห้ามออกนอกห้องในคืนนี้ก็ตาม แต่เราก็คิดว่าคงจะไม่เป็นอะไร ก็ในเมื่อมีคนอยู่ข้างนอกอยู่แล้วนี่นา เราจึงตัดสินใจเดินออกไปตามหาเสียงนั้นดู
เมื่อตั้งใจฟังดีๆ เราก็พบว่าเสียงนั้นดังมาจากทางห้องเก็บของ เราจึงเดินไปดู
ยิ่งเดินใกล้ห้องเก็บของ เสียงพูดคุย เเละเสียงเดินก็ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น
เราค่อยๆเดินด้วยฝีเท้าที่เบาที่สุด จนในที่สุด ก็มาหยุดที่หน้าห้องเก็บของ
มีแสงไฟสีส้มเล็ดลอดออกมาจากช่องใต้ประตู เมื่อเราเงี่ยหูฟัง ก็จะได้ยินเสียงเดิน เสียงพูดคุย เราจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปดูด้านใน เพราะคิดว่าพ่อ แม่ ต้องแอบจัดงานเลี้ยงโดยไม่ชวนเราแน่ๆ

แต่ทว่า!!! ข้างในกลับไม่มีอะไร มีเพียงความเงียบ และความว่างเปล่า ไม่มีแสงไฟสีส้มดังที่เราเห็นจากด้านนอก ในห้องมืดสนิท ทุกสิ่งทุกอย่างนิ่งสงบเหมือนที่มันเคยเป็น จะมีที่แตกต่างก็คงจะมีเพียงประตูตู้เสื้อผ้าที่ถูกเปิดกว้างอยู่

ภายในตู้เสื้อผ้าที่ปกติมักจะถูกปิดล็อกอยู่เสมอ มันมีเพียงแต่ความว่างเปล่า เราจึงตัดสินใจที่จะกลับห้องไปนอนต่อ แต่ในนาทีที่เราหันหลังกลับ ด้านหลังเรากลับเต็มไปด้วยผู้คนที่ใบหน้าซีดเซียว ตัวพวกเขาโปรงแสงยืนอยู่

ทุกคนจ้องมาที่จุดเดียวกันคือที่เรา เรายืนตัวเกร็ง ไม่กล้าแม่แต่ที่จะกรีดร้องออกมา และในจังหวะนั้นเอง เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มโผล่ขึ้นมาเหนือเส้นขอบฟ้า อยู่ๆผู้คนที่เคยยืนนิ่งเฉย เขาก็กรีดร้องออกมา แล้ววิ่งผ่านตัวเราเข้าไปในตู้เสื้อผ้า แม้แต่ตัวเราเองก็ถูกดันเข้าไปในนั้นด้วย

เมื่อคนสุดท้ายก้าวเข้ามาประตูตู้เสื้อผ้าก็ปิด และล็อกด้วยตัวมันเองโดยอัตโนมัติ ผู้คนเดินผ่านเราไปมาเหมือนเราไม่มีตัวตน

ตอนนั้นเองที่เราสังเกตว่า รอบกายเรากลายเป็นสีขาวดำ ตรงหน้าที่ควรจะเป็นประตูตู้หายไป กลายเป็นเพียงทุกหญ้าที่ว่างเปล่า มีผู้คนตัวขาวซีดเดินไปมาอย่างไร้ความรู้สึก

เมื่อนั้นแหละ เราจึงได้รู้ว่าประตูตู้เสื้อผ้าเก่าที่บ้านเราเป็นทางผ่านของเเดนคนตาย ไปสู่แดนคนเป็น ดังนั้นตู้เสื้อผ้าเก่าๆใบนั้นจึงถูกล็อกอยู่ตลอด มีเพียงวันเดียวเท่านั้นที่มันจะเปิดออกคือวันฮาโลวีน วันที่คนตายจะได้กลับมาเยี่ยมเยียนคนเป็น

ที่บ้านเรามีกฏห้ามออกนอกห้องจนกว่าจะเช้า ก็เพื่อกันเหตุการณืที่เรากำลังเผชิญอยู่ การมรติดในโลกคนตาย

เราก็จำไม่ค่อยได้แล้วล่ะ ว่าเราเอาชีวิตรอดจากทุ่งหญ้านั้นมาได้เช่นไร เราจำได้เพียงแต่ว่าเราเดินไปเดินมาอยู่ในทุ่งนั้น ไม่ดื่มไม่กินอะไร เพราะเราจำได้ว่าหากเรากิน หรือดื่มสิ่งที่อยู่ในโลกแห่งความตาย เราจะไม่มีวันกลับออกมาได้อีก

เราติดอยู่ในนั้นจนกระทั่งประตูตู้เปิดออกมาอีกครั้ง แต่บ้านเราก็ไม่มีแล้ว ทุกคนหายไปหมด บ้านที่ควรจะเป็นบ้านกลับกลายเป็นอาคารสูงสีขาว รอบๆบ้านเต็มไปด้วยรถรูปร่างประหลาดที่ไม่ได้วิ่งด้วยไอน้ำเหมือนแต่ก่อน พวกรถม้าหายไปหมด บ้านอิฐที่เคยมีก็แตกต่างไปจากเดิม ทั้งๆที่นี่น่าจะเป็นเป็นปี 1798 แท้ๆ (ปีที่เราหายไปคือ 1797 เมื่อประตูตู้จะเปิดทุกๆ 1 ปี ดังนั้นปีที่เรากลับมาน่าจะเป็นปี 1798)

ตอนนี้เราก็เดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อตามหาว่าครอบครัวเราย้ายไปที่ไหน นี่ก็ผ่านมา 10 ปีแล้วนับตั้งแต่วันนั้นที่เราตามหาครอบครัวเราอยู่ หวังว่าคงได้พบกันสักวัน หวังว่าเขาคงจะรู้ว่าเรากลับออกมาจากแดนแห่งความตายได้แล้ว

ว่าแต่ ตู้ใบนั้นไปอยู่ในอาคารสูงๆนั่นได้อย่างไรกันนะ?

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น