เจอลูกแบบนี้ทำไงดี...
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กผู้หญิงอายุ14แล้ว ผมเจอกับเค้าก็อายุ 8 ขวบ เค้าโตมาอยู่กับยายจนยายเสียอายุ13 ค่อยมาอยู่จริงจังกับผมและแม่เค้า ยายเค้าใจดีปล่อยอิสระตลอด
ตอนนี้อารมณ์ขึ้นลงบ่อยมาก แม่เป็นคนดุพอประมาณ ส่วนผมใจดีง่ายๆ เมื่อก่อนลูกสาวเป็นคนร่าเริง แต่ตอนนี้ค่อนข้างจะขรึมๆ ไม่ค่อยตลกเหมือนเมื่อก่อน แต่พออยู่กับเด็กหรือคนอื่นก็จะพูดตลกยิ้มแย้มแต่พอผมกับแม่เค้ามาก็จะขรึม อีก ตอนนี้เค้าเริ่มมีแฟนแล้วคับผมรู้แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่พอจะถามเค้าก็เงียบไม่คุยเลยไม่รู้ว่ากลัวแม่เค้ารู้หรือป่าว เมื่อก่อนตอนอายุ13เราก็คุยหัวเราะกันตามปกตินะคับแต่พอ14เริ่มมีแฟนการพูดการจาก็เปลี่ยนไป เห็นในเฟสคุยกัน ขอจับมือ กอด หอมแก้ม คือผมเห็นเฟสแล้วก็รู้สึกไม่ดีก็เลยเตือนสติเค้าไปเค้าก็เงียบคือประมาณว่าหูทวนลมอ่ะ (เค้าไม่เคยรู้นะว่าผมเข้าไปอ่านเฟสเค้าประจำแต่ผมแค่ติดตามไม่ได้ไปยุ่งเรื่องส่วนตัวมาก)พอพูดจบ เค้าก็แค่พยักหน้ารับฟังแต่ไม่พูดอะไร ตกเย็นมาเฟสที่ผมเข้าไปอ่านเค้าก็ลบทิ้ง...
ไม่รู้ว่าผมทำให้ไก่ตื่นหรือป่าว หรือว่าทำถูกแล้วที่เตือนเค้าไป แล้วหลังจากนั้นมาเค้าก็พูดกับผมน้อยลงคือผมคิดว่าผมไปยุ่งเรื่องส่วนตัวเค้ามากไปหรือป่าว แต่ผมแค่เป็นห่วงกลัวว่าแฟนเค้าจะขออะไรไปอีกหรือป่าวน่ะสิคับ ยิ่งตอนนี้ผมไมรู้การเคลื่อนไหวเค้าแล้วซะด้วยเพราะเค้าคุยเสร็จเค้าก็ลบๆๆๆ ออกทันที ที่เค้าไม่เล่าเรื่องแฟนให้ฟังเพราะว่ากลัวผมไปเล่าให้แม่เค้าฟังหรือป่าว... หรือว่าเค้าแค่คบกันเล่นๆ คือเครียดอ่ะคับคำถามไรซึ่งคำตอบ หรือว่าผมคาดคั้นคำถามมากเกินไป
พ่อ : ความรักเป็นไงบ้าง....
ลูก : ก็งั้นๆ
พ่อ : คนที่กำลังคบอยู่นี่ชื่ออ่ะไร
ลูก :เบียร์
พ่อ :เป็นคนยังไงดีไหม....
ลูก :.ก็ดี
พ่อ :เป็นแฟนกันยัง
ลูก :.ยัง.....ทั้งที่ในเฟสหวานน้ำตาลเรียกพี่
พ่อ : จริงจังไหม...
ลูก : หึ
พ่อ : เป็นคนที่ไหนอ่ะ...
ลูก : ไม่รู้ทั้งๆที่รู้
พ่อ : แล้วเค้าอยู่กับใคร....
ลูก : ไม่รู้ทั้งๆที่รู้
พ่อ : พ่อว่าพ่อไม่ค่อยชอบการกระทำของมันเลยอ่ะ มันช่างขออ่ะไรมากไป แค่ขอจับมือมันก็มากพอแล้ว นี่ยังขอกอด ก็ได้กอดแล้ว ขอหอมแก้ม (อันนี้ผมเห้นแล้วเตือนก่อน) แล้วต่อไปมันจะขออะไรอีก เราเป็นผู้หญิงยังไงเราก็เสียหายนะ เราต้องรู้จักวางตัวด้วย พ่อเป็นห่วงลูกนะ
ลูก : นิ่งสนิท
แล้วความเงียบก็ครอบงำเพราะผมไม่กล้าที่จะถามอะไรต่อ บรรยาการมันเริ่มอึมครึม
อีกอย่างตอนนี้แม่เค้ากำลังท้องกับผมด้วย ไม่รู้ว่าเค้าจะกลัวเป็นหมาหัวเน่าด้วยหรือป่าว เค้าจะกังวลไหม เค้าเคยบอกว่าเบือแม่ขี้บ่นๆๆๆรำคาญ อ๋อแล้วลูกสาวเป็นคนค่อนข้างจะขี้เกียจด้วยนะ ทำอะไรก็ไม่ค่อยเก็บเข้าที่ ทำอะไรก็ไม่เรียบร้อย (น่าบ่นม๊ะ) ทำอย่างไรเค้าถึงจะเปิดใจรับผมเป็นที่ปรึกษาเค้าดีอ่ะคับคือจะทำอะไรให้ปรึกษากันก่อนงี้อ่ะคับ ไม่ใช่ทำกันเองหรือว่าผมเป็นแค่พ่อเลี้ยงคงพูดอะไรมากไม่ได้ ผมแค่อยากเป็นที่ระบายความรู้สึกของเค้าก็เท่านั้นเอง T...T สงสาร
14 ความคิดเห็น
ในฐานะวัยรุ่นคนนึงก็ตอบเลยค่ะว่าวัยรุ่นก็แบบนี้แหละ
ตามประสาวันกำลังต่อต้าน ทำให้รู้สึกว่าต้องต่อต้านโดยอัตโนมัติ ใครเตือนอะไรก็จะตั้งป้อมไว้ก่อน ไม่ชอบให้พ่อแม่มายุ่งเพราะรู้สึกว่าจะโดนด่า
ยิ่งเป็นพ่อเลี้ยง ไม่ใช่พ่อแท้ๆยิ่งทำให้เปิดใจได้ลำบากมากขึ้น ลองให้แม่เขามาช่วยพูดด้วยสิคะ
ผู้ใหญ่กับเด็ก ยังไงก็ยังมีช่องว่างระหว่างวัยอยู่ เราก็เคยมีปัญหาอย่างโน้นอย่างนี้กับแม่ มีปัญหาว่าเป็นเพื่อนกับคนในเน็ตแล้วแลกเฟสกัน ตอนนี้เลยยกรหัสเฟสให้แม่เปิดดูได้ตามใจชอยไปเลย(ฮา) จะได้ไม่มีปัญหาอีก
อายุ14นี่กำลังวัยรุ่นค่อนไปทางเด็ก ยังอารมณ์ร้อน ไม่ค่อยเปิดรับฟังใคร แต่พอโตๆขึ้นมาหน่อย สัก16-17แล้วก็จะเริ่มเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น จะรับฟังเหตุผลมากขึ้นค่ะ
ส่วนตัวก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเรื่องมีแฟนเท่าไหร่ สงสัยเพราะโดนแม่ฝังหัวมาตั้งแต่เด็กๆว่าไม่ต้องมีแฟน ไม่ต้องแต่งงาน จนตอนนี้เลยยังไม่เคยมีแฟน แต่การแสดงออกสื่อทางเฟสก็ทำให้ผญ.ดูเสียหายมากกว่าผช.จริงๆ เรื่องนี้ให้แม่ที่เป็นผญ.ด้วยกันพูดน่าจะดีกว่านะคะ
บางเรื่องให้ผช.พูดแล้วก็ดูหนักแน่นไม่เท่า ตอนนี้แนะนำว่าอย่าดุเขามากค่ะ แค่นี้เขาก็มีเรื่องปิดบังหลายอย่างแล้ว ยิ่งโดนว่าเขาก็จะยิฒงปิดบังมากกว่าเดิมขึ้นเรื่อย
มีอะไรตอนนี้ก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากัน เห็นเด็กบางคนเงียบๆ แต่ที่จริงแล้วก็อยากให้คนอื่นถามว่าทำไมตัวเองถึงเงียบก็มีนะคะ มันเป็นการเรียกร้องความสนใจโดยไม่รู้ตัว อาจจะเพราะแม่ของเขากำลังท้องอยู่ด้วยก็ได้
ยังไงก็พยายามเข้านะคะ
น่าอิจฉาที่มีพ่อแบบนี้นะคะ คือ..ช่วงวัยรุ่นฮอร์โมนในร่างกายจะเริ่มทำงานค่ะ ก็ส่งผลกระทบต่ออารมณ์บ้างไรบ้าง ผู้ปกครองควรจะทำความเข้าใจและมีเวลากับลูกมากขึ้นนะคะ คอยดูแลเค้า หาเวลาให้อยู่กับครอบครัวบ่อยๆ เพราะ สถาบันครอบครัวควรสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กค่ะ ลองกอดเค้าดูสิคะ :)
เอ่ม....ลองกอดแล้วคับหอมด้วยตอนเด็กอ่ะได้อยู่ แต่ตอนนี้มีสะบัดออกแล้วอ่ะเราก็น้ำตาซึมบ้างแต่ก็เข้าใจว่าอาจจะอายหรืออะไรบางอย่างอ่ะคับ มีแบบโอ๊ยไรพ่อ ไปทำงานเลยป่ะ ร้อนๆๆ แต่พออ่านในเฟส ผุ้ชาย ขอกอดหน่อยนะวันจันทร์ ตอนเย็นกลับมาอ่านเฟส 555ได้กอดแล้วดีใจจังเลย ลูกเราบอกได้กอดทีแรกก็ดีใจแระ555 เราก็แบบอื่ม..ลูกคิดไรอยู่หว่า....แต่ก็ไม่ได้บอกไรแค่มีคำเตือนสติในเฟสไปแบบกว้างๆแต่ไม่รู้เค้าจะเข้าใจป่าวลองอ่านดูนะคับ
ส่วนเรื่องจะบอกให้แม่เค้ารู้นี่คงยากคับ เพราะถ้าเค้ารุ้ว่ามีการกอด จับมือไรแบบนี้บ้านแตกกกก ชัวร์ ถึงขั้นออกจาก รร แน่... คือเรื่องนี้มีแต่ผมรู้เพียงผู้เดียวคือผมเข้าใจวัยรุ่นนะว่ามีความต้องการที่จะคบเพื่อนต่างเพศแต่อย่างว่าในสถานะพ่อเลี้ยงทำใจลำบากที่จะพูด และก็เป็นผมเองนี่แหละที่บอกเค้าว่าพ่อแม่อาจจะห้ามได้แค่ตัวแต่หัวใจคงห้ามยาก ถ้าอยากจะลองคบใครก็คบได้แต่ต้องดูให้ดีๆนะคือผมทำข้อตกลงกันน้อยไปใช่ป่าวคับ
ในฐานะวัยรุ่นคนนึงนะคะ ถ้าใครมาเตือนหรือพูดอะไรก็จะคิดไปเองก่อนแล้วว่าจะถูกห้ามถูกว่าอะไรทำนองนี้แน่ๆก็เลยต่อต้านไว้ก่อน ตอนนี้ก็คงต้องคอยดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆอ่ะค่ะ แล้วก็เปิดใจคุยกันให้เค้ารู้สึกว่าเป็นพ่อด้วยเป็นเพื่อนด้วย เวลามีอะไรก็จะมาปรึกษาเองอ่ะค่ะ
คุณลุงดูเป็นคุณพ่อที่ใจดีจังเลยคะ
แต่ยังไงก็สู้ๆพยายามเข้านะคะ
วัยรุ่นก็งี้แหละค่ะคุณพ่อ 5555+ แค่ไม่ต้องไปบ่นหรือจู้จี้กับเขาให้มาก แค่บอกว่า "มีอะไรไม่สบายใจคุยกับพ่อได้นะ" แต่อย่าไปกดดันและด่าเขานะคะ ส่วนตัวคิดว่าอายุ14มันเร็วเกินไปค่ะ ที่จะมีแฟน มีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อการเรียน เพราะสมัยนี้ไปกันเร็วจริงๆ
คุณพ่อลองบอกสิคะ. "พ่อหวงลูกนะ คบอ่ะ คบได้ พ่อไม่ว่าหรอก แต่มาทำกฏกัน 3.ข้อ
1.ห้ามกลับบ้านเกิน5โมงครึ่ง
2.ห้ามอยู่กันสองต่อสอง
3.ห้ามมีเพศสัมพันธุ์ (ในที่นี้รวมถึงการแตะเนื้อต้องตัวที่พอประมาณ เช่นจับมือ ก็พอ)
แล้วถามว่า "ลูกทำได้มั้ย ถ้าลูกสัญญาว่า ทำได้ พ่อจะไม่ยุ่มย่ามเรื่องแฟนหนูอีก"
แล้วคอยสังเกตพฤติกรรมต่อมาอีก1เดือนค่ะ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง แปลว่าสำเร็จจ้า
น้องก็คงจะรู้ดีนะ อายุ14 ยังมีอนาคตรออยู่ และน้องมี "ศักดิ์ศรีของผู้หญิง" ^^
ขอบคุณคับผม
ขอบคุณคับ
เคยพูดแล้วอ่าได้ความเงียบกลับมาในบัดดล555
แต่ก็พยักหน้าหงึกๆ
ทำใจ...แอสไพริน ฮะฮะฮะ
ปัญหาวัยรุ่น พูดยากแฮะ ช่วงนี้กำลังต่อต้ายเลย เขาไม่ฟังคำพูดของ พ่อแม่หรอก จะเชื่อแต่เพื่อน แฟน ถ้าไม่เจอปัญหาหนักๆเข้ากับตัวเองแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ เมื่อนั้นเขาจะคิดถึงเรา
เราก้จู้จี้มากไม่ได้ จับตาดูมากไม่ได้ บอกเขาว่า หากมีปัญหาอะไร อยากให้ลูกรู้ว่า ยังมีพ่อและแม่ค่อยช่วยและให้คำปรึกษาเสมอนะ
และยามที่เขากล้ามาปรึกษาปัญหา(แปลว่ารวบรวมความกล้ามาสุดๆแล้ว) เราอย่าสอนเขาในแนวเทศนา ตักเตือน ทำประมาณว่า ให้เขารุ้สึกมีความสุขที่มาบอกเรา ครั้งต่อไปเขาจะได้กล้ามาอีก
อย่างน้อย เราบอกเขาไม่ได้ แต่ได้รับรู้แล้วค่อยแก้ปัญหาอยู่เบื้องหลังก็ยังดีละน่า
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?