Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

10 อันดับสถานที่ที่น่ากลัวที่สุด

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
10.เมืองร้างพริเพียต ในยูเครน 
เมืองร้างพริเพียต

          เมืองร้างพริเพียต ในยูเครน ได้รับการประกาศเป็นเมืองในปี ค.ศ. 1979 และมีประชาชนราว 49,360 คน แต่แล้วในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1986 โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลซึ่งอยู่ภายในเมืองได้เกิดระเบิดขึ้นหลังการทดลองผิดพลาด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย และได้รับกัมมันตรังสีกว่า 200 คน อพยพอีกนับแสนในตอนนั้น ก่อนที่เมืองพริเพียตจะกลายเป็นเมืองร้างมาจนถึงทุกวันนี้

           อย่างไรก็ดี ปัจจุบันกลุ่มบริษัททัวร์หัวใสได้จัดทัวร์พานักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมเมืองพริเพียตอันโด่งดังแห่งนี้ โดยบรรยากาศในเมืองเต็มไปด้วยความเศร้าและหลอน ขณะที่เรื่องหลอน ๆ ของผู้คนที่พบเจอกับวิญญาณก็มีออกมาให้ได้ยินกันอยู่เนือง ๆ

เมืองร้างพริเพียต



9.ปราสาทเอดินบะระ 

ปราสาทเอดินบะระ

          ปราสาทเอดินบะระ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่หลอนที่สุดในสกอตแลนด์ ใครโชคดีอาจจะได้เจอแจ็กพอต ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณคนเป่าปี่ นักตีกลองไร้หัว ผีนักโทษฝรั่งเศส และผีนักโทษนายพลสมัยสงครามปฏิวัติอเมริกา หรือแม้แต่วิญญาณสุนัขที่วนเวียนอยู่บริเวณหลุมฝังซากของมันเอง นี่ยังไม่รวมเงาดำมืดที่ระบุไม่ได้ว่าคืออะไรด้วย ขณะที่นักท่องเที่ยวอีกหลายคนก็รู้สึกว่ามีใครสักคนมาดึงเสื้อแต่มองไม่เห็นตัวตนของเขา ว่าแต่คุณ ๆ อยากเจอแจ็กพอตแบบนี้กันบ้างไหมล่ะ

8.สุสานใต้ดินในกรุงปารีส 

สุสานใต้ดินในกรุงปารีส

          สุสานใต้ดินในกรุงปารีส เป็นอุโมงค์ใต้ดินที่กลายเป็นที่ฝังศพของผู้คนมากกว่า 6 ล้านศพ หลังจากมหานครปารีสเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อนับร้อยปีก่อน และทางการอยากจะให้มีพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยมากขึ้น และเมื่อย้ายสุสานลงมาใต้ดินไว้เก็บศพผู้คนเรื่อยมา ในที่สุดสุสานใต้ดินก็มีสภาพอย่างที่เห็น คือมีโครงกระดูกเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ซึ่งแน่นอนว่า ที่ไหนเต็มไปด้วยคนตาย ที่นั่นก็จะมีเรื่องหลอนออกมาให้ได้ยินอยู่เรื่อย ๆ 

           อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะเป็นสุสานใต้ดิน แต่ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 สุสานแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้ผู้คนไปชมอย่างมากมาย จนถึงวันนี้ถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์สุดหลอนก็ลองไปเยือนกันดู

         7.ป่าอาโอกิกาฮาระ 

ป่าอาโอกิกาฮาระ

          ป่าอาโอกิกาฮาระ เป็นผืนป่าพื้นที่ราว 35 ตารางกิโลเมตรที่ทอดตัวอยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากมองเผิน ๆ แล้วก็เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ผืนหนึ่ง แต่ใครเลยจะเชื่อว่าป่าแห่งนี้มีผู้มาฆ่าตัวตายเฉลี่ยปีละ 100 คน 

           ปรากฏการณ์ฆ่าตัวตายนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักเขียนเซโช มัตสึโมโต ได้เขียนนิยายเรื่อง คุโรอิ ไคจู ขึ้นมา และใช้ป่าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตัวละคร 2 ตัวมาฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นมาก็มีคนแห่มาฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้อยู่บ่อย ๆ จนต้องมีการติดป้ายเตือนใจประเภท "ชีวิตมีค่า โปรดคิดอีกครั้ง" หรือ "คิดถึงครอบครัวก่อนจะทำอะไรลงไป" เลยทีเดียว


6.ภูเขาแห่งกางเขน ในลิทัวเนีย 

ภูเขาแห่งกางเขน
          ภูเขาแห่งกางเขน ในลิทัวเนีย สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ลึกลับมากในเรื่องความเป็นมา ไม่มีใครรู้ว่าคนสมัยก่อนปักไม้กางเขนไว้ทำไมมากมายเช่นนี้ แต่คาดว่าน่าจะเริ่มทำกันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1830 เรื่อยมาจนปัจจุบันมีไม้กางเขนมากมายจนไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน คาดว่าน่าจะมีจำนวนราว 100,000 เป็นอย่างต่ำ และในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นสถานที่แห่งการอธิษฐานและมีการปักไม้กางเขนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น บรรยากาศกลับดูวังเวงน่ากลัวพิลึก ยิ่งเมื่อไม่รู้ที่มาที่ไปแล้ว ใครจะกล้าอยู่ในบริเวณนี้คนเดียวตอนพลบค่ำล่ะเนอะ
5.หอคอยลอนดอน แห่งอังกฤษ 

หอคอยลอนดอน แห่งอังกฤษ

           หอคอยลอนดอน แห่งอังกฤษ เป็นสถานที่ที่ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี ซึ่งตลอดช่วงเกือบพันปีนี้ ที่ตั้งของหอคอยลอนดอนได้ถูกใช้เป็นทั้งป้อมปราการ พระราชวัง เรือนจำ และลานประหาร ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีคนจำนวนมากเสียชีวิตอยู่ในที่แห่งนี้ และปัจจุบันดวงวิญญาณบางดวงก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิมไม่จากไปไหน ทำให้มีเรื่องเล่าสุดหลอนออกมาให้ได้ยินเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการพบเห็นแอนน์ โบลีน พระสนมในพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดหัว ปัจจุบันเธอยังคงวนเวียนอยู่ที่นี่ และปรากฏตัวให้ใครหลายคนเห็นในสภาพเดินถือหัวไปมา

4.
เกาะฮาชิมะ 
เกาะฮาชิมะ

          เกาะฮาชิมะ จังหวัดนางาซากิของญี่ปุ่น จริง ๆ เกาะแห่งนี้ไม่มีเรื่องเล่าอะไรมากไปกว่าเหมืองถ่านหินเก่าและสถานที่คุมขังนักโทษสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างไว้นับ 40 ปีแล้ว แต่แม้จะไม่มีประวัติความเป็นมายาวนานว่าเคยมีคนตายอยู่บนเกาะนี้นับพันนับหมื่นชีวิต แต่หากดูจากสภาพความรกร้างบนเกาะ ตึกเก่าที่สุดแสนจะทรุดโทรมแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากจะไปนอนค้างอ้างแรมที่นั่นแน่ ๆ ส่วนเรื่องความ-นดูเหมือนจะพอมีมาให้ได้ยินอยู่บ้าง เมื่อกองถ่ายภาพยนตร์ Battle Royale ได้เจอกับบุคคลปริศนาที่ไม่ใช่ทีมงานโผล่เข้ามาติดในฉาก และที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือนักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่นได้ถูกผีสิงจนต้องหยุดพักกองไปหลายวันเลยทีเดียว

3.เกาะตุ๊กตา เม็กซิโก

เกาะตุ๊กตา

          เกาะแห่งนี้มีเรื่องเล่าว่า เคยเป็นที่เสียชีวิตของเด็กหญิงรายหนึ่ง เธอจมน้ำตายขณะวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ ต่อมาในปี ค.ศ. 1950 ชายคนหนึ่งนามว่า ดอน จูเลียน ซันทานา บาร์เรรา ได้ใช้เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้เป็นบ้าน แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเด็กหญิงอยู่ทุกคืน ทั้งเรียกเขาจากในน้ำ ทั้งร้องเพลง เขากลัวมากจึงเริ่มนำตุ๊กตามาไว้บนเกาะ โดยแขวนมันไว้ตามต้นไม้ทุกต้น และทุกซอกทุกมุมของเกาะเพราะเชื่อว่ามันคงจะทำให้วิญญาณของหนูน้อยไม่เหงาและสงบลง 

             กระทั่งในปี ค.ศ. 2001 ดอน จูเลียน ก็เสียชีวิตลง โดยมีผู้พบศพเข้าคว่ำหน้าจมน้ำอยู่ในจุดเดียวกับที่เด็กหญิงจมน้ำ หลังจากนั้นมา ก็มีคนในพื้นที่เปิดเผยว่าพบตุ๊กตาบนเกาะแห่งนี้หันศีรษะได้ ลืมตาเองได้ และใครที่ริอ่านจะไปลองของต้องระวังอย่าได้คิดนำตุ๊กตาบนเกาะติดไม้ติดมือกลับบ้านเลยเชียว



2.หมู่บ้านพลัคลีย์ อังกฤษ

หมู่บ้านพลัคลีย์

          หมู่บ้านนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่-นที่สุดในอังกฤษ โดยมีการยอมรับอย่างเป็นทางการจากกินเนสส์บุ๊ก เมื่อปี ค.ศ. 1989 หลังจากที่มีรายงานการพบวิญญาณ 12-16 ดวง ในหมู่บ้านนี้ โดยหนึ่งในวิญญาณที่มีผู้พบเห็นมากที่สุด คือ วิญญาณผู้ชายที่เฝ้ากรีดร้องวนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน ชาวบ้านเชื่อว่าในสมัยก่อนเขาทำงานก่อสร้างบ้านแต่พลัดตกลงมาเสียชีวิต และอีกดวงคือวิญญาณผู้ชายที่ถูกฆ่าตายด้วยการปักดาบผ่านร่างตรึงไว้กับต้นไม้ ซึ่งแม้ว่าต้นไม้จะถูกตัดไปนานแล้ว แต่ปัจจุบันผู้ที่ผ่านไปพื้นที่ดังกล่าวก็จะได้พบเห็นฉากการต่อสู้และฆ่ากันตายฉายซ้ำบนพื้นที่เดิมครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากนี้ยังมีการพบเห็นผีครูใหญ่ที่เคยผูกคอตาย เดินวนเวียนอยู่ในหมู่บ้านอยู่หลายครั้ง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
..
.
.
.
..
.

และอันดับ 1 ได้แก่

.
.
.
.

บอร์ดนักเขียนเด็กดี แห่งประเทศไทยนี่เอง

ว่างๆ อย่าลืมแวะเข้ามากันด้วยน๊ะครับ

เครดิต


http://hilight.kapook.com/view/92985

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

>

18 ความคิดเห็น

blaze 17 เม.ย. 57 เวลา 19:06 น. 1

ไหนว่าอัจริยะไงครับ แค่เรียงลำดับยังผิดเลย
อันดับ10 คือบ้านบอร์ลีย์  ต่างหาก
แล้วค่อยไล่ขึ้นมา
จขกท ควรรีบไปเช็คสมองได้แล้วนะครับ
ผมเป็นห่วง


บ้านบอร์ลีย์
         บ้านบอร์ลีย์ เป็นแมนชั่นสไตล์วิคตอเรียในมณฑลเอสเส็กซ์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านที่หลอนที่สุดในอังกฤษ สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1862 เพื่อให้เป็นที่พักสำหรับนักบวช แต่นับตั้งแต่สร้างเสร็จก็มีการพบเห็นวิญญาณอยู่เรื่อยมา และมีเรื่องเล่าว่า มีนักบวชรายหนึ่งตกหลุมรักแม่ชีในโบสถ์ที่อยู่ใกล้ ๆ จึงวางแผนที่จะหนีตามกันไป แต่บาทหลวงจับได้ก่อน นักบวชรายนี้จึงผูกคอตายอยู่บริเวณบ้านบอร์ลีย์ ส่วนแม่ชีที่สมรู้ร่วมคิดนั้นถูกฝังทั้งเป็น จากนั้นทั้งคู่จึงเป็นผีหลอกหลอนคนที่ย่างกรายเข้าไปบริเวณนี้อยู่เป็นประจำ

0
Lerlensine 17 เม.ย. 57 เวลา 19:20 น. 4

หืมมม ... วันนี้มาแปลก กินยาเขย่าขวดไหม ?? (ฮา) ... สถานที่ที่น่ากลัวที่สุด .. บอร์ดนักเขียนเหรอ ?? ไม่มั้ง ! แต่น่าจะเป็นบ้าน จขกท . มากกว่า อุ๊ปส์ !!!

0
Sirisobhakya 17 เม.ย. 57 เวลา 19:29 น. 6
เอาล่ะครับ หลังจากอธิบายเรื่อง Large Eddy Simulation กันไปเมื่อวานแล้ว วันนี้เราจะมาวันต่อถึงไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่นกันนะครับ

ภาษาญี่ปุ่นนั้นเป็นภาษาแบบที่เรียกว่า Synthetic Language กล่าวคือมี Morpheme per word สูง หรือพูดง่ายๆคือเป็นภาษาที่ซับซ้อน ซึ่งภาษาที่ซับซ้อนแบบนี้มักจะอยู่ในเขตละติจูดที่สูง เช่นภาษารัสเซีย ฟินแลนด์ ฮังการี มีข้อสันนิษฐานว่าความซับซ้อนนี้เกิดจาก DNA ที่ถูกอากาศเย็นทำให้เกิดการเรียงตัวแบบใหม่ โดยเอนไซม์ Lipase และ Amylase ช่วยในการเรียงสับเปลี่ยนแบบ nCr ซึ่งจะมีค่าเทียบเท่ากับ 2 ยกกำลัง 16 หรือเหมือนกับคอมพิวเตอร์แบบ 16bit

ซึ่งกลุ่มภาษา Synthetic Language นี้มักจะมีการผสมคำและการออกเสียงที่ผิดแผกไปเพื่อแสดงความหมายของคำนั้นๆ เช่นในภาษาญี่ปุ่น รากคำว่า tat- (ยืน) ก็จะถูก Conjugate เป็นสระต่างๆเช่น tat-a (รูปปฏิเสธ) tat-i (รูปคำนาม/สุภาพ) tat-u (รูปปกติหรือรูปพจนานุกรม) tat-e (รูปความเป็นไปได้/คำสั่ง) และ tat-o (รูป Volative) ซึ่งจะไปคล้ายกับภาษาละตินเช่น vol-at vol-are หรือ vol-cano ที่มีทั้งแบบ Plinian และแบบ Stromboli ที่จะพ่นหินร้อนและลาวาออกมาเกิดเป็น Pyroclastic Flow เช่น Lahar ในประเทศเขตร้อนต่างๆ ซึ่งมีการศึกษามาแล้วว่ามีความสัมพันธ์กับดีเอ็นเอและส่งผลไปถึงความซับซ้อนของภาษาในแนวโน้ม (Trend) ที่ค่อนข้างแสดงผลชัดเจน

ความสัมพันธ์ระหว่างความซับซ้อนของภาษาและสภาพแวดล้อมนี้สามารถสรุปได้โดยใช้ Bessel Function และการแปลงลาปลาซแบบย้อนกลับให้อยู่ในรูปโดเมนความถี่ (Frequency Domain) แล้วทำการอินทิเกรตเทียบกับ s ค่าที่ได้สามารถนำเอาไปใส่ใน Oscilloscope แบบ Cathod Ray Tube (CRT) ทำให้ได้ผลลัพธ์และรูปกราฟ sin และ cosin ของ Bessel และ Error Function ออกมาได้ และหากจะหาความสัมพันธ์โดยตรงก็ให้หาอนุพันธ์ของฟังก์ชั่นนั้นออกมาครับ

0
Mystic Irie 17 เม.ย. 57 เวลา 19:33 น. 9

อัจฉริยะเขาตั้งใจจะดัดแปลงบทความดั้งเดิมเพื่อใส่เว็บบอร์ดเด็กดีไปอันดับหนึ่งสินะ

0
Mystic Irie 17 เม.ย. 57 เวลา 19:41 น. 11

บอร์ดนักเขียนของเว็บเด็กดีนี่ไม่น่ากลัวนะ สนุกดี ยิ่งวันดีคืนดีก็มีเกรียนแวะเข้ามาให้ตบเกรียนบ่อยๆ ล่าสุดก็โม้ว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะแน่ะ

(ดูดิ น่าขำจะตาย เกรียนพวกนี้มันทำไปได้)

0
Sirisobhakya 17 เม.ย. 57 เวลา 19:41 น. 12
อีกแนวคิดหนึ่งก็บอกว่าภาษาแบบ Synthetic (ตรงข้ามกับภาษา Analytic เช่นภาษาไทยและตระกูลภาษาไต หรือภาษาจีน) มีจุดกำเนิดมาจากการเพี้ยนเสียง กร่อนเสียง ซึ่งสามารถแยกได้โดยการใช้ Spectromicrography ซึ่งพบว่าเสียงพูดในการ Conjugate Verb เพี้ยนไป 1 เซมิโทน ซึ่งเทียบเท่ากับการขยับสไลด์ของ Bass Trombone แบบ Double Rotor ในคีย์ Bb/F/Gb/D ไปหนึ่งขั้น หรือกีตาร์แบบ Fender ไป 1 Fret ซึ่งจะทำให้เกิด Doppler Effeect หลักการเดียวกันนี้นำไปใช้กับเรดาร์และโซนาร์ รวมทั้งระบบนำร่องด้านการบินอื่นๆ เช่น VOR NDB GMT IBC

เรดาร์แตกต่างจาก Spectromicrography อื่นๆตรงที่ใช้คลื่นในย่านไมโครเวฟ ซึ่งมีความถี่ของคลื่นในหน่วยกิกะเฮิร์ตซ์ ความถี่คลื่นในระดับนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เรียกว่า Sponnification ในกรดไขมันกรีเซอรอล มันจะแตกตัวออกเป็นสามส่วนเท่าๆกันที่เรียกว่า Triglyceride ซึ่งสามส่วนนี้สามารถนำไปผ่านกระบวนการ Hydrolysis ได้เป็นเชื้อเพลิงที่สามารถให้พลังงานพอๆกับน้ำมันดีเซล ที่สามารถป้องกันการน็อกในเครื่องยนต์แบบ Overhead Valve และยังรักษาทั้งบ่าวาล์วและเพลาราวลิ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในรถสมัยเก่าที่ไม่มีระบบ Variable Valve Timing และระบบควบคุมเชื้อเพลิงอัตโนมัติแบบอื่นๆ ส่วนรถยนต์สมัยใหม่นั้นมีการนำเอาอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้ร่วมกับระบบกันสะเทือนแบบ Multi-Link และ Double Wishbone ทำให้มุม Camber และมุม Toe ของล้อคงที่ในขณะที่รถแล่นข้ามสิ่งกีดขวาง อย่างไรก็ตามระบบกันสะเทือนแบบอิสระนี้ก็ยังจำเป็นต้องพึ่งพาระบบเรดาร์และ Oscilloscope รวมทั้งตัวรับแรงสะเทือนแบบน้ำมัน-อากาศ (Oligo-pneumatic Shock Absorber) ซึ่งสามารถดูดซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี

ระบบกันสะเทือนอีกแบบที่นิยมใช้กันคือ Torsion Bar ซึ่งใช้คุณสมบัติความยืดหยุ่นของโลหะในการดูดซับแรงกระแทก Torsion หรือแรงบิดจะถูกส่งตรงมาจากเพลาขับและชุดเกียร์ ในกรณีเกียร์แบบคลัตช์คู่ (Double-Clutch Transmission หรือ DCT) อาจมีการสึกหรอของคลัตช์มากกว่าปกติ ในทางด้านค่าใช้จ่ายแล้วเกียร์อัตโนมัติแบบ Torque Converter หรือเกียร์อัตโนมัติแบบเปลี่ยนอัตราทดได้ต่อเนื่อง (CVT) จะใช้งานได้นานกว่าและมีค่าบำรุงรักษาน้อยกว่า ซึ่งอัตราการเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่ายต่ออายุของรถนี้มีความสอดคล้องและคล้ายคลึงกับกับอัตราการเพี้ยนเสียงของภาษาแบบ Synthetic ครับ
0
เป็นคนสวย 17 เม.ย. 57 เวลา 20:12 น. 14
บอกตรงๆเลยนะเพิ่งลงมาจากยานแม่หลังจากไปดาวนาเม็กมา
เดินไปเดินมาไปเจอชินปาจิ เขาบอกว่าให้มากระทู้ แล้วจะสะพรึง
 เดินไปเดินมาไปเจอโคนัน เขาบอกว่าให้มากระทู้ แล้วจะสะพรึง
 เดินไปเดินมาไปเจอโอนิซึกะ เขาบอกว่าให้มากระทู้ แล้วจะสะพรึง
 เดินไปเดินมาไปเจอโอคุมุระ ริน เขาบอกว่าให้มากระทู้ แล้วจะสะพรึง
และอีกหลายคนบอกว่ามากระทู้นี้แล้วจะสะพรึง เราเลยไปขอร้องให้แบทแมนพามาที่บ้าน //มั่ว และเราก็เข้ามากระทู้นี้
บอกตรงๆ  สะพรึง(สะพรึงกับความอัจฉริยะของจขกท. เหอะๆๆๆๆๆ) ขอบคุณค่ะ -..-
ปล.เนื่องจากมีความไร้สาระสูงมาก จงขออภัยใน ณ ที่นี้
0
ChilD 17 เม.ย. 57 เวลา 20:59 น. 16

ทำไมไม่จบ//เฮ้อ ถ้ามาตั้งอีกปล่อยเม้นท์เป็น 0 กันเถอะนะคะ อย่าสนใจเลย ปล่อยให้แห้งตายไปเถอะ

0
เคย์เซย์ (Makoto-sang) 18 เม.ย. 57 เวลา 02:59 น. 17

ดูเหมือนจะสนุกกับการเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นนะเนี่ย พออวยตัวเองไม่ได้ก็เกรียนใส่คนอื่นซะเลย เผื่อว่าจะชนะ 

แม่ง...เด็กว่ะ แย่กว่าเด็กออทิสติกบางคนซะอีก 

0