Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ใครเคยเป็นบ้าง ชอบทำแต่ทำไม่ได้

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือตอนนี้อยู่ในช่วงที่กำลังต้องตัดสินใจแล้วว่าจะเรียนคณะอะไร
ลองทำแบบทดสอบจิตวิทยาหลายๆอัน ตามเว็บ
ได้ผลคำตอบตรงกันคือ เป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความคิดสร้างสรรค์
เหมาะกับคณะถาปัต นักออกแบบ นักเเขียนคอลัมน์ บลาๆ

ซึ่งส่วนตัวเองก็ชอบวาดรูป แต่ถามว่าสวยมั๊ย ก็คงไม่ถึงขนาดนั้น
เคยเข้าคอร์สเรียนเกี่ยวกับพวกออกแบบมาสองที่
ที่แรก เรียน ออกแบบภายใน ขั้นพื้นฐาน เพราะรู้สึกชอบพวกนี้
แต่ผลคือ คอร์สเรียน 10 ครั้ง ไปเรียนแค่ 7 ครั้ง อีก 3 ครั้ง โดด
เพราะ รู้สึกไปไม่ปลื้มครูสอนเท่าไหร่ ไม่เอาใจใส่ ดูถูกเด็ก
( ไปเรียนตอน ม.4 เขาบอกเขาไม่อยากสอน อยากสอนแต่คนที่กำลังจะสอบเข้ามหาลัย)
เอ้า! แล้วดันติดป้ายว่า สำหรับผู้ที่สนใจด้วย ไรวะ (ขอบ่น)

ที่ที่สอง เรียนสถาปัต ที่นี่ค่อนข้างดีถึงดีมาก
พี่ีที่สอนถือว่าโอเคเลยทีเดียว
เรียนมาถึงจุดหนึ่ง (สองคอร์สละ) รู้สึกว่าตัวเองไปไม่รอด ตามไม่ทันเพื่อน
ถึงจะพยายามวาดอย่างหนัก แต่ก็ทำไม่ได้ซักที
ทั้งๆที่คนอื่นไปถึงไหนแล้ว
พี่ที่สอนยังด่าว่าในบรรดาทั้งหมด เราทำงานได้ทุเรศที่สุด
ใช้คำนี้เลยจริงๆ รู้สึกว่าทำไม่ได้ พยายามแล้วพยายามอีกแต่ก็
ล้ม .. นั่งวาดไปก็ขยำกระดาษทิ้ง โดนด่าทุกครั้งที่เข้าเรียนจนท้อมาก
เรียนไปรู้สึกไม่แฮปปี้ จิตใจไม่อยู่กะเนื้อหาที่เรียนเท่าไหร่

จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะเรียนอะไรดี
ชอบงานแฮนเมด ประดิษฐ์ประดอย ออกแบบโฟโต้ชอป
ทำสร้อยข้อมือขายอยู่ตอนนี้ ถึงจะไม่ได้กำไรเท่าไหร่ แต่ก็ชอบอยู่

เขียนซะยาว ไม่รู้จะมีใครอ่านรึเปล่า
ใครมีคำแนะนำเกี่ยวกับคณะไหนที่เหมาะกับคนสไตล์เรา ช่วยให้คำปรึกษาที
ขอบคุณล่วงหน้าขอรับ

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

Nookky :D Lufy 18 เม.ย. 57 เวลา 23:51 น. 1

เราก็ชอบวาดรูปค่ะ แต่ไม่ได้เรียนทางสายวาดรูปเหมือนกัน 
ก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของงานอดิเรกไป :D 

คุณอาจจะเหมาะกับทางสายอาร์ตจริงๆ 
ศิลปศาสตร์ ล่ะคะ สนใจมั้ย  หรือไม่ก็พวกออกแบบผลิตภัณฑ์ ><

0
ญญญญ 19 เม.ย. 57 เวลา 11:23 น. 2

รองลงมาชอบอะไรบ้างคะ?
ถ้าชอบพวกคอม ออกแบบในคอมละชอบไหม
เราว่าลองดูพวกนิเทศอะไรพวกนี้ไหม ถ้าชอบภาษา เขียนหนังสือด้วยก็ลองอักษรดูคะ
อักษรมีพวกละครเวที ปรัชญา และอีกเยอะ ICT ศิลปากรก็ได้แบบพวกนิเทศเลย ถ่ายรูป คอม บลาๆ

ปล.เราเป็นคนนึงที่เคยเรียนศิลปะแบบนี้เหมือนกัน เราเข้าใจดีเพราะเราก็โดนด่าแบบ *-มีความคิดสร้างสรรค์บ้างปะวะ* คำนี้เลยทีเดียว เรียนกับรุ่นพี่ที่ศิลปากรเลย นึกแล้วก็ขำแม่งโหดสรัด5555555

0
llZeaLll 20 เม.ย. 57 เวลา 10:48 น. 3

เป็นเหมือนกันค่ะ เคยทำพวกแบบทดสอบแล้วก็ได้แต่คณะสถาปัตย์ ส่วนตัวก็ชอบดูพวกบ้าน ทรงบ้าน ห้อง เฟอร์นิเจอร์ แล้วก็ชอบวาดรูปในระดับนึงอยู่แล้วด้วยเลยไปลงดรอวอิ้งดู ปรากฏว่า...
ซึ้งค่ะ คอร์สเดียวจบค่ะ ม้วนพับความฝันเอาไว้เลยค่ะ 5555

บางอย่างเราก็เก็บไว้เป็นเรื่องที่ชอบ เป็นงานอดิเรกแล้วกันเนอะ TwT


ส่วนตัวเราคิดว่าเลือกอาชีพที่เราถนัดและพอจะชอบอยู่บ้างดีกว่าอ้ะ อาชีพที่แม้ว่าวันนั้นสภาพอารมณ์เราจะห่วยแตกจนถึงขีดสุดเราก็ยังทำหน้าที่ของเราต่อไปได้ อาชีพที่พอวันนึงเรารู้ว่าเราไม่ได้ชอบแต่เราก็ยังคงอยู่กับมันได้ อะไรแบบนี้..

จขกท.ก็ลองดูน้าว่าตัวเองถนัดอะไร ^^

ถ้าให้แนะนำจากที่จขกท.พูดมาก็คงเป็นพวก อินทีเรียร์ กราฟฟิกดีไซน์ นิเทศศิลป์อะไรแบบนั้นล่ะมั้งที่อยู่ในขอบข่ายความสนใจ แต่ถ้าจขกท.ลองสังเกตความถนัดของตัวเองจริงๆจังๆอีกที สายอาชีพที่เลือกก็อาจจะแหวกไปจากแนวนี้เลยก็ได้

อย่างเราตอนนี้ก็คนละเรื่องกับสถาปัตย์เลยนะ 5555

0
littlewolf 20 เม.ย. 57 เวลา 12:49 น. 4

ฝีมือนั้นฝึกได้ค่ะ ปัญหาตอนนี้คือมันมีระยะเวลาฝึกที่จำกัดขีดความสามารถอยู่ เพราะคนเรานั้นจะให้อยู่ดีๆวาดสวยแบบไมเคิลแองเจลโล่ได้นั้นถ้าไม่มีพรสวรรค์ติดมาก็คงจะต้องใช้ความเพียรอย่างต่อเนื่อง ฝนทั่งให้เป็นเข็มกันเลยทีเดียว

ศิลปินในยุคเก่าๆอาจจะเริ่มจากการกอปปี้ธรรมชาติ วาดให้เหมือนไว้ก่อนจัดว่าสวย และจัดไว้ในระบบการศึกษาโรงเรียนศิลปะ วิธีคิดแบบตะวันตกที่ส่งผลต่อการคัดศิลปินที่จะเรียนศิลปะนั้นจึงต้องมีฝีมือในระดับหนึ่ง ในต่างประเทศนั้นไม่เป็นแบบนี้ค่ะ วาดได้ห่วยมาก แบบเด็กมัธยมต้นก็เรียนปริญญาตรีคณะศิลปะที่อเมริกาได้ อันนี้พิสูจน์มากับตา อย่าพึ่งท้อนะคะ สิ่งที่จะเลี้ยงจิตวิญญาณศิลปินได้ยาวนานนั้นคือการมีความคิดสร้างสรรค์ หากไม่มีแล้วทำอะไรหรือกอปปี้ภาพเหมือนอย่างไรก็น่าเบื่อค่ะ

ศิลปะในยุคสมัยนี้มีความต้องการ concept อย่างชัดเจนโดยเฉพาะในศตวรรษที่ผ่านมา ยิ่งมีคอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นเครื่องมือการเลียนแบบและสร้างสรรค์ที่ต่างแขนงจากสมัยก่อน ดังนั้นศิลปินสมัยใหม่ สำหรับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ก็ยังมีโอกาสเรียนศิลปะประยุกต์และยังใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อยู่ แม้จะไม่สามารถวาดรูป สวย ตามฉบับการเรียนของตะวันตก แต่ก็นั่นแหละหลีกเลี่ยงไม่ได้หากเรียนที่เมืองไทย การแข่งขันในคณะศิลปะก็ยังคงคัดแบบเอาแค่ไม่กี่คนต่อสาขา ต่อปี ต่อมหาวิทยาลัย ทำเอาเด็กที่ผ่านเกณฑ์นั้นต้องเป็นสุดยอดที่วาดสวยมากกกกกกกกก ทั้งๆที่อาจมีคนมีความคิดสร้างสรรค์มากมายในประเทศ แต่เนื่องจากไม่เป้นหนึ่งในสิบของสาขานั้น การแข่งขันโหดและจำกัดโอกาสของศิลปินที่จะพัฒนาฝีมือหากได้เรียนจริงๆอีกมาก เป็นความจริงที่น่าเศร้า ประกอบกับการให้ค่าศิลปะในประเทศยังไม่สำคัญเท่าต่างประเทศ โอกาสของคนที่เรียนจบมาแล้วไม่มีงานทำก็สูง เสียสปิริตหลังเรียนจบไปไม่น้อย คนในสังคมไม่เสพเพราะเข้าไม่ถึงจำนวนมาก ประวัติศาสตร์สอนเพียงเล็กน้อย เสพสื่อที่ปิดกันความคิดสร้างสรรค์ ดูเพื่อความบันเทิง แต่ไม่มีโอกาสได้เรียนเรื่องสื่อที่แต่กแขนงมาจากการเรียนศิลปะประยุกต์ นำมาให้หลอกผู้บริโภค เรื่องความงาม บลาๆ

พูดมาซะยาว สิ่งสำคัญที่อยากให้น้องรู้ไว้ก็คือ หากรู้แล้วว่าปัญหา โอกาส ในประเทศนั้นมีน้อย คนที่เรียนศิลปะจริงๆในประเทศเราไม่เพียงแต่ต้องรักในอุดมการณ์นี้มาก แต่ต้องมีฝีมือ ไม่มีงานแต่ใจก็ยังอุทิศให้งานศิลป์ ซึ่งค่อนข้าง
ขัดแย้งกับการอยู่รอดในยุคที่สังคมไม่เห็นค่างานศิลปะ ระดับมหาวิทยาลัยคัดคนแบบอัจฉริยะ แต่พลักตกเหวเมื่อพลิตศิลปินออกมาจากรั้วเนื่องจากไม่มีงานให้ทำแบบในอุดมการณ์นี้จริงๆ การวาดรูปสวยๆแบบนั้น ไม่มีอยู่แล้วในระบบทุนนิยมค่ะ มีแต่งานประยุกต์ ศิลปินจึงไส้แห้ง ตกเหว ถูกทิ้ง แถมไม่มีใครเห็นค่า ปัญหานี้ยังอยู่ในประเทศและอีกนาน 

ตราบใดที่น้องรู้ว่าชอบคิด ไม่ว่าจะเรียนอะไร ก็ขอแนะนำให้เรียนที่ชอบ เพราะหากไม่ชอบ โอกาสตกเหวสูง เราต้องอยู่กับมันทั้งชีวิต โอยเฉพาะศิลปะนั้นต้องอาศัยใจและไฟศิลปิน ฝีมือนั้นฝึกได้ หลายคนพัฒนาหลังจากสอบเข้าไปได้แล้ว ปัญหาคือหลายร้อยคนเข้าไปในรั้วมหาลัยไม่ได้ เพราะเตรียมตัวไม่ทัน อย่าลืมนะคะ ศิลปะนั้นเรียนรู้ตลอดชีวิต ฝึกฝนตลอดชีวิต หากไม่ผลิตงานตลอดเวลานับว่าไม่ใช่ศิลปิน ถามตัวเองว่าอยู่จุดไหน อะไรที่พอคว้าได้ตามศักยภาพ อย่าพึ่งท้อเพียงพอข้อจำกัดเช่นต้องเรียนปีนี้ ต้องเข้าที่นี่ เพราะสุดท้ายแล้วศิลปิน คนที่ชอบคิดสร้างสรรค์จริงๆนั้น แม้ไม่ได้เรียนศิลปะโดยตรงก็จะยังคงวิ่งกลับมางานศิลปะอย่างแน่นอน จะงานอดิเรก หรือวิธีอื่นๆ

ความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนถูกตัดตอนทุกๆปี ในระบบการผลิตคนของประเทศ เราไม่ได้อยู่ในยุคที่ศิลปะรุ่งเรืองในประเทศ คนส่วนใหญ่จึงเข้าถึงงานสร้างสรรค์หรือความคิดสร้างสรรค์ได้ยาก แถมใครคิดได้ก็ถูกคัดจากระบบการสอบเข้า ปิดกั้น ให้เสพ ท่อง จำ ไม่ตั้งคำถาม ไม่พลิกแพลง จงยินดีกับพรสวรรค์ทางความคิด แม้ฝีมือจะไม่ดี งานศิลปะสมัยอียิปต์นั้นจุดกำเนินของงานศิลปะไม่ใช่ที่ความสวยงามแต่เป้นความคิดสร้างสรรค์จากการถ่ายทอดจินตนาการของศิลปิน เป็นกำลังใจให้นะคะ  เงื่อนไขเหล่านี้อย่าให้มันลบล้างความสามารถทางความคิดที่มี และอย่าท้อ  ชีวิตกับงานศิลปะนั้นอีกไกล หากไม่สามารถพีฒนาฝีมือได้ทันจริงๆ ถามตัวเองก่อนว่าพยายามถึงที่สุดหรือยัง รู้ลิมิตของตนเองแค่ไหน จะเสียใจหรือไม่ถ้าไม่พยายามมากกว่านี้ เพราะสุดท้ายแล้ว หากสุดความสามารถแล้วยังสอบไม่ได้ อย่าลืมนะคะว่ามีคนอีกหลายร้อยที่เข้าไม่ได้ ด้วยเงื่อนไขดังที่กล่าวมากเบื้องต้น โลกก็ยังไม่แตก เพราะศิลปินนั้นอยู่ได้ด้วยแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ เรียนอะไรก็จะยังคงใส่มันลงไปในชีวิต หลายคนก็เรียนเพื่อปากท้องแล้วทำงานศิลป์เป็นอดิเรก แต่หากเป็นหนึ่งในประเภทศิลปิน น้องจะเดินกลับเข้ามาหามันเองทุกๆครั้งที่มีโอกาส อย่าพึ่งหมดไฟก่อนก็แล้วกันคะ 

0
Cool74 20 เม.ย. 57 เวลา 14:11 น. 5

ผมว่าคุณมาทางสถาปัตหรือศิลปกรรมนี่แหละ

แค่นี้ก็เขี่ยคณะที่ไม่ใช่ออกไปได้เยอะแล้วครับ

ก็เหลือแต่เรื่องสาขา ซึ่งก็มีอยู่ไม่เยอะหรอกครับ

ค่อยๆคิดครับ ใจเย็นๆ อย่ารีบ เลือกที่เป็นธรรมชาติของเรามากที่สุดครับ

0
nenar 23 เม.ย. 57 เวลา 09:19 น. 6

เข้าใจความรู้สึกดีค่ะ...ขอแนะนำว่า ถ้าชอบอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ ถึงไม่เก่งก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็มีความสุข คือถ้าชอบอะไร ทำไปเรื่อยๆ คลุกคลีกับมันเดี๋ยวก็เก่งเอง(เราเชื่ออย่างนั้น)

0