Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คร่าวๆกับ เอกประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ผู้เขียนมิตรสหายปี56)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีครับน้องๆ (ขออนุญาตเรียกน้องนะครัส) พี่ทราบว่าน้องกำลังสับสนงงงวยกับชีวิตแอดมิชชั่นอันลำเค็ญและชี้ชะตาชีวิตตนในภายภาคหน้าอยู่ ณ เวลานี้ และเข้าใจว่าหลายคนคงมีปัญหาชีวิตว่า "ตูจะเข้าคณะอัลไลดี" "ตูจะติดมั้ยวะ" และสุดท้าย"ตูจาสำรองอะไรไว้ใน 1234"เรื่องแบบนั้นพี่ตอบไม่ได้ครับ(เอ่า แล้วเอ็งพูดเพื่อ..) ก็อยากให้รู้ว่าเราเข้าใจ 555ฮาๆครับ อันนั้นคงได้แค่ชอบที่สุดและรองลงมาคงเป็นคณะที่"พอรับได้"หรือ"มีใจให้กันอยู่บ้าง"ตามลำดับไป ถ้าไม่แน่ใจจริงก็สรรหาคณะโครงการพิเศษเอาไว้เสียบๆกันเหนียว แหม่ะ... เดี๋ยวจะยาวยืดออกจากฝั่งเป็นเรือเล็ก เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า
ปล.พี่จะขอเขียนแบบเป็นหัวข้อเลยแล้วกันนะครับ เพื่อน้องๆจะได้เลือกอ่านแบบสบายๆ

เอกประวัติศาสตร์เหมาะสมกับคนแบบไหน?


ครับ เมื่อเห็นคำถามแล้วบางคนอาจพูดว่า พี่จะบอกไปทำไม? แล้วไงล่ะ จำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอ? พี่ขอตอบว่า จำเป็นครับ จำเป็นในระดับหนึ่ง เพราะมันคือสังคมที่น้องจะต้องปรับตัว(หรืออาจจะไม่ต้องปรับ) หรือต้องประสบพบเจอกับเพื่อนๆพี่ๆไปอีก4ปี แต่ถ้าเพื่อนมีนิสัยเหมือนกันก็โอเคไป 

เอกประวัติเป็นเอกที่มีความคิดหลากหลายมากทั้งอาจารย์ เพื่อนๆ และตัววิชาด้วย เพราะอย่าลืมว่า น้องๆ"ต้อง"เรียนประวัติศาสตร์เกือบทั้งมุมโลก(แต่มีให้เลือกตามชอบไปได้) แต่ที่สำคัญคือ ประวัติศาสตร์"ไทย"ที่หนีไม่พ้น แน่นอนครับ พี่เกริ่นมาถึงขนาดนี้ รับรองว่า จะไม่พ้นการเมืองเรื่องปวดหัวเป็นแน่ ใช่ครับ เพราะประวัติศาสตร์ครอบคุลมทั้งหมดและเมื่อมนุษย์รวมตัวเป็นรัฐก็ขาดการเมืองไม่ได้(เอ็งวิชาการทำไม= =) โทษๆ ต่อครับๆ คือพี่จะบอกว่า เอกประวัติเป็นดั่ง"แหล่งซ่องสุม"อาจารย์(หรือปรมาจารย์)ที่มีหลากหลายความคิด(และความติส) หลากหลายแนวแต่"อยู่ร่วมกันได้" นอกจากนั้นยังมีเพื่อนๆพี่ๆในเอกเอง ซึ่งมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป(มาก) ซึ่งน้องจะต้องรับมันให้ได้ ตามตีมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้เสรีภาพในการคิด พูด และแนวคิดประชาธิปไตย(ถึงจะไม่จริงขนาดนั้น-ฮา) และเอกนี้ก็ตอกย้ำถึงแนวคิดนั้น เพราะน้องจะเจอคนที่เป็นไทยเฉย ไทยคลั่ง ไทยแดง ไทยนกหวีด ไทยนอกรีต ไทยสวย ไทยหล่อ ไทยสะดุดหิน(เอ๊ะยังไง) และการเรียนที่นี่ก็เน้นการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมีเหตุผลเป็นหลัก(ตั้งคำถามมันทุกเรื่อง) 

!!!ฉะนั้น การเปิดรับแนวคิด"ได้ทุกแนว"เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเอกนี้!!! 

เอกประวัติ เรียนอะไร?

นั่นน่ะสิเรียนอะไร... เย้ยยย พูดเล่นๆ 555 ชื่อเอกบอกอยู่แล้วครับว่าเรียนประวัติศาสตร์แน่นอน เอ้า แค่นี้เองเหรอ อะ เดี๋ยวพี่เกริ่นวิชาบางวิชาให้ ประวัติศาสตร์ไทย(หวังว่าคุณคงจะรู้จักสมศักดิ์ เจียมนะ...ฮา) ญี่ปุ่น จีน อินเดีย ยุโรป อเมริกา(วิชานี้จารย์เชาวฤทธิ์สุดหล่อ กรี๊ดกันมากทั้งในและนอกเอก) ประวัติศาสตร์อนาคต(เฮ้ย!?มีเหรอ เออครับมี) ประวัติศาสตร์ความรุนแรง ประวัติศาสตร์ครอบครัว  ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ประวัติศาสตร์การท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์SEA(เอเชียตะวันออกเฉียงใต้)  และอีกมากหลาย แต่อย่างไร น้องๆก็ต้องเรียนวิชาTUควบคู่ไปด้วย เมื่อรวมกันแล้ว วิชาเอกผสมวิชาของมหาวิทยาลัย มันจึงมิใช่น้อย...นะเค้อะนะครัสนะครุสแหม่

เรียนเอกนี้แล้วจะกลายเป็นคนโบราณมั้ย?

น้องๆอาจงงว่า"เอ็งจะขึ้นหัวข้อใหญ่ทำไมเรื่องแค่นี้" เห้ย นี่ปัญหาระดับชาติเลยนะน้องงงง เพราะเวลาเราพูดกับใครว่า อยู่เอกประวัติ เพื่อนๆจะเตรียมนึกภาพ เด็กเนิร์ดแว่นหนาเตอะ ถือตำราเล่มใหญ่ๆ ฟันจอบๆ ไม่มีทางสู้ ใส่กางเกงเอวสูงทันที... และต้องคิดอะไรแบบโบราณๆ

ผิด! เรียนเอกประวัติศาสตร์น้องจะไม่มีคำว่า"โบราณ"อีกต่อไป นอกจากความชอบในการเรียนเอกนี้ หรือสิ่งของ(ประมาณว่า โทรศัพท์3310ยังคงใช้ไรแบบนั้น) เพราะน้องจะเป็นคน"ทันสมัย"มากกกกกก จนบางครั้งอาจอยู่ยาก(อุ๊ปส์) น้องจะทันสังคมทุกฝีก้าว เป็นคนนิยมการถกเถียง การใช้เหตุผล แบบอารยประเทศ(จริงๆนี่ก็คืออีกส่วนหนึ่งของตีมหลักของเอกประวัติ) อีกอย่าง พวกพี่ๆก็ไม่ใช่คนโบราณ บางทีอาจเบื่อของโบราณไปเลยด้วยซ้ำ(เพราะอยู่กับมันบ่อยมากเกิน ฮา)

ปล.ไม่โบราณในที่นี้คือ ไม่โบราณในทางจิตใจ แต่อาจจะทางวัตถุ ประมาณว่า"ของที่ใช้อาจจะโบราณ แต่ใจเราทันสมัยเว๊ยยยย" 

สังคมคณะเป็นยังไง

น้อง ถ้านี่ไม่ใช่บอร์ดหรือคณะสุดท้ายที่น้องจะหารีวิว พี่แนะนำน้องว่า หาข้อมูลเรื่องสังคมคณะเป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะพี่จะขอบอกว่า มีเพื่อนพี่หลายคนที่มาเอกนี้ และหลายคนที่ต้อง"ซิ่ว"จากมหาลัยอื่นไปที่ใหม่ เพราะเข้ากับสังคมคณะนั้นไม่ได้ ไม่ใช่เพราะความอดทน แต่เราต้อง"อยู่และใช้ชีวิต"ไปอีก4ปี บางครั้งมีผลต่อการเข้าสมัครงานหรืออนาคตด้วย 

คณะศิลปศาสตร์มีกำลังพลอยู่900คน แน่นอนเราจะมีเพื่อนอกเอกและในเอก พี่ขอพูดเฉพาะสังคมของเอกละกัน พี่ไม่สามารถ"เหมารวม"ทุกๆชั้นปีได้ว่าดีหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับปีของน้องๆเองด้วย สำหรับความเห็นส่วนตัวของพี่ ถ้าให้3คำสำหรับเอก คือ "เกรียน เวิ่น ติส" ที่นี่เรามีทั้งเด็กเรียน เด็กเกรียน เด็กมึน เด็กเที่ยว เด็กโข่ง เด็กโปก(ฺฮา) อย่างที่ทราบ(หรือไม่ทราบ) ธรรมศาสตร์ไม่เน้นการมีระบบรับน้องแบบโซตัส(แต่บางคณะก็ยังคงมี ไม่enlightเลออ -3-) ย้ำว่าเอกนี้ เป็นเอกที่เรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทุกด้านอย่างที่บอก เรารู้ข้อดีข้อเสีย สิ่งที่เกิดขึ้นและผ่านมา เรารู้ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ที่จะให้มันคงอยู่ ด้วยเหตุนี้ เอกนี้จึงไม่มีการ"แบ่งชนชั้น"หรือ"ไม่มีการว๊าก"มีแค่การเรียกสรรพนามพี่ๆน้องๆน่ารักๆ(ไม่งั้นจะให้ตูเรียกไรแวะ) สำหรับตัวบุคคล พี่บางคนเป็นหนอนหนังสือแทบหาตัวไม่เจอ(ฮา) แต่บางคนก็ชอบเทคแคร์ แต่โดยรวมคือ เป็นมิตรที่ดี อย่าไปซีเรียส การช่วยกันเรียนยังคงเป็นสิ่งที่พี่ยังพบเจอในเอก ไม่หวงคะแนนแข่งกันเหยียบย่ำขึ้นไปสู่แสงสุดท้าย(จะเวิ่นทำไม ฮา) แต่ตัวเทพก็มีอยู่ ดั่งว่าเทพมาแต่กำเนิด

เรียนและสอบยากมั้ย

เรื่องเรียน ขอตอบว่า "ก็ไม่รู้สินะ"(ฮา) ถามว่าทำไม เพราะแล้วแต่คนครับ บางคนยาก เพราะไม่ได้ชอบ (แต่ไม่ได้หมายความว่าคะแนนจะน้อยกว่าคนที่ชอบนะ) บางคนชอบก็ว่าง่าย(แต่คะแนนอาจน้อยกว่าเพราะไม่สนใจเรียน) ความ"ขยัน"เป็นตัวชี้วัดมนุษย์ทุกผู้อยู่แล้วครับน้อง อย่าห่วงๆ และบางอย่างขึ้นอยู่กับวิชาที่เรียน เช่น พี่ชอบประวัติศาสตร์ยุโรป เลยได้A แต่ไม่ค่อยถนัดหรือชอบประวัติศาสตร์สมัยใหม่เลยC+(อันนี้เรื่องจริงสดๆร้อนๆ)เพราะพี่จะขยันอย่างนึงและไม่ขยันอย่างนึง ถึงจะมีความชอบในประวัติศาสตร์อยู่แล้วแต่ต้นก็ตาม(ใครมันจะชอบทุกเรื่องละแหม่เน๊าะ)

สิ่งที่น้องต้องเจอในการเรียนคือ การเลคเชอร์ สังคังมั่กครับ ทั้ง2ความหมายเลย(ฮา) และการอ่านชีตประกอบ และหนังสือเพิ่มเติม แน่นอนว่าน้องต้องพยายามหาความรู้ใหม่ๆใส่ตัวตลอดเว บางครั้งมันไม่สนุก แต่บางครั้งก็ "สนุกโคตร"  น้องๆต้องลืมเรื่องประวัติศาสตร์ไทย หรือหนังสือสังคมฉบับกระทรวงศึกษาธิการตั้งแต่มัธยม ประถม หรือแม้แต่หนังสือกวดวิชาคอร์สประวัติศาสตร์จารย์ปิงไปให้หมดเพราะ"ใช้ไม่ได้"และมันไม่น่าเบื่ออย่างนั้นอีกต่อไป ประวัติศาสตร์ที่น้องเรียนระดับมหาลัยจะเป็นสิ่งใหม่ โลกใหม่ที่น่าสงสัยให้น้องเข้าไปค้นหา ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องเดิมก็ตาม(ถ้าน้องชอบมันนะ) สมมติ เมื่อเพื่อนกำลังยกเบียร์หนึ่งแก้วชน ความคิดของเพื่อนมันคือเบียร์ธรรมดา แต่สำหรับน้องๆ มันไม่ใช่อีกต่อไป เบียร์นั่นเริ่มคิดขึ้นในสมัยยุคหิน... การยกแก้วชนเป็นนัยยะสื่อถึงความเท่าเทียมบลาๆ...(อ่านประวัติศาสตร์โลกใน6แก้วดู) 

อ่ะๆ เรามาเรื่องการสอบบ้าง การสอบคือการ"แถ"(เอ่า พูดความจริงไม่ผิดนะ5555555) แต่แถส่งๆก็ใช่ว่าได้ดีนะน้อง(แต่ได้Dจริงๆ) การสอบของวิชาเอกมักจะเป็นการสอบFinal คือปลายภาคมากกว่า จะมีกลางภาคอยู่บ้าง ซึ่งข้อสอบที่ผ่านมา
น้องจะต้อง"เขียน"ลงไปในกระดาษ และเรื่องเล่าสมุด10หน้าจะเห็นเป็นประจักษ์ว่ามีอยู่จริง เช่น  คำถาม2ข้อ กระดาษ5หน้าทำนองนี้(แต่ถ้าชอบ มันเขียนสนุกจริงๆนะ) แน่นอนมันสนุกกว่าการกา เพราะมันไม่มีขอบเขต หรือ "กรอบ"ความคิดอีกต่อไปนอกจากโจทย์ที่ถาม เพราะพวกเค้า(เหล่าอาจารย์)จะไม่ล็อคคำตอบของน้องๆเพียง4หรือ5คำตอบ แบบ ก ข ค ง กระดาษคือโลกของน้องที่จะแสดงความรู้ความสามารถและความคิดของตัวเองลงไป 

ปล.แต่ก็มีข้อกาบ้างนะครับไม่ใช่ไม่มี


มาถึงคำถามสุดฮิต... ที่เหล่าโคตรตระกูลแต่บางบรรพจะต้องตั้งคำถาม(และมันก็ลามมาถึงตัวเราเอง= =)

จบไป...ทำอะไร 

นั่นน่ะสิทำอะไร... ถ้าถามโดยส่วนตัวซึ่งพี่อยากเป็นและอาจารย์แนะนำคือ "การเป็นอาจารย์"(แหงะ ทำราชการอีกละ เบื่อระบบราชการไทยโว้ยยย)ใช่ครับฟังแล้วน่าเบื่อโคตร(ฮา) อ่ะ ถ้าไม่ชอบวิชาการ พี่คงต้องตอบตรงแบบไม่ปกปิดว่า"ไม่รู้" ทำไมไม่รู้ล่ะ!? อย่างที่ทราบ ประเทศไทยเรามักให้ความสำคัญกับการศึกษาสายสังคมค่อนข้างน้อย(ซึ่งต่างกับต่างประเทศซึ่งให้ความสำคัญกับพวกนี้สูงมากกกกก ที่อังกฤษ การเป็นนักประวัติศาสตร์นี่เค้าเป็นตัวเบ้งเลยนะธอว์) และเพราะการเรียนเอกนี้ไปสามารถทำงานได้"หลายที่"มากยกเว้น สาขางานที่ต้องการบุคคลเฉพาะด้าน จากการสอบถามของพี่กับอาจารย์และรุ่นพี่ มีทั้งคนดูแลหอสมุด-หอจดหมายเหตุ นักโบราณคดี อาจารย์ เจ้าของร้านเค้ก(ไม่ได้เกี่ยวกับที่เรียนเล๊ยยย) ผู้เขียนบทสารคดี คนทำบริษัทรถ(ไม่ได้เกี่ยวอีก) และหลายคนตอบว่า"ไม่รู้" นอกจากนี้ยังไม่พบกับตนเองแต่ทราบว่า สามารถทำงานเกี่ยวกับเบื้องหลัง การข่าว หรือการสืบค้นคดีได้ด้วย แต่

นอกจากนี้เพื่อนพี่ได้ค้นเพิ่มเติมมาให้ อ้างอิง
เอกสารมัชฌิมนิเทศ ประจำปีการศึกษา 2556 ภาควิชาประวัติศาสตร์ (แน่ะ มีอ้างอิงที่มาด้วย) เมื่อจบเอกนี้แล้วสามารถประกอบอาชีพ หรือเข้าทำงานเป็น 

             นักการฑูต นักวิจัย นักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ ข้าราชการ นักแปลและ
             ประมวลข่าว นักหนังสือพิมพ์ ครูอาจารย์ ธุรกิจการท่องเที่ยว นอกจากนี้วิชา
             ประวัติศาสตร์ยังเป็นพื้นฐานที่เหมาะสมในการศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา
             ในสาขาต่างๆทั้งทางด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์


อาจารย์ท่านหนึ่งของเอกได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องอาชีพตามสายเรียนไว้ว่า"มันเป็นคำถามโลกแตกมากกกกกกก" ใช่ครับ ถ้าไม่เอาข้อมูลเก่า เรียนอะรไตอนนี้คนก็"ล้น" คณะสุดฮิต ยอดฮิต และใช่ว่าหลายคนจบไปจะทำงานตรงสาย (นี่กำลังโน้มน้าวให้เข้าเอกใช่มั้ย-ฮา)

แต่
เท่าที่ทราบมายังไม่มีใครตกงานหรือเรียนไปแล้วเคว้ง

หากจะถามต่อว่า มันก็ไม่เห็นได้"หลายที่"เท่าไหร่เลยนี่ อ่านข้อต่อไปครับว่า


น้องจะได้อะไรจากการเรียนเอกประวัติศาสตร์(ซึ่งคงเป็นสิ่งที่ตอบได้กับทุกมหาลัย)

คือ น้องจะได้หลักการคิด วิธีการเรียงลำดับเหตุการณ์ การจัดเรียงข้อมูล การหาหลักฐาน การการรู้จักถกเถียง ทุกเรื่องที่สำคัญจะยืนอยู่ด้วยเหตุผลสนับสนุน อันนี้คือสิ่งที่ได้รับในแบบกว้างๆ จึงเป็นเหตุของที่มาว่า ทำไมงานที่กล่าวไปจะเน้นการคิด การเรียบเรียงและ"การเขียน"

นอกจากนี้ น้องเป็นคนมีความคิดเป็นของตนเอง "เชื่อ"อย่างมีเหตุผล ชอบการถกเถียง มีความคิดที่แตกต่าง นอกกรอบ ชอบสงสัย ชอบหาความรู้ หนังสือจะไม่ใช่สิ่งที่น้องรังเกียจอีกต่อไป(รึเปล่าวะ55555) และน้องจะเป็นคนที่อยู่ร่วมได้กับทุกสังคม เพราะเข้าใจวิธีคิดและต้นกำเนิดแห่งแนวคิดนั้นเป็นอย่างดี
 

สิ่งอื่นๆที่ควรรู้เกี่ยวกับการเรียนเอก(หรือคณะ)นี้
1.ถ้าน้องเป็นคนชอบเดินทาง(ออกทริป) ไปดูสถานที่จริงจะดีมาก เพราะจะมีอาจารย์ท่านหนึ่งนิยมพานักศึกษาออกเที่ยว เอ้ย! ทริป บ่อยๆ น้องจะไม่เจอพงศาวดารเป็นตั้ง หรือโดน"บังคับ"ให้อ่านมัน แต่การเรียนทำให้น้องต้องไปอ่านเอง เนื่องจากจะมีรายงานที่ต้องทำประจำวิชา(แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น)

2.อาจารย์เอกนี้น่ารักมากกกกกก ไม่ใช่หน้าตานะครับ(แต่หน้าตาก็มี) 5555 เป็นกันเอง ไม่สนใจสิ่งที่คุณยึดถือ สิ่งที่คุณเป็น สิ่งที่คุณสวมใส่ สิ่งที่เค้าสนใจคือ"สมองคุณ"จงเอาตัวและใจมาเรียน!

3.น้องจะมีวิชาโทที่ต้องเลือกเรียนคือ โทภาษากับวารสาร(จริงๆเลือกได้มากกว่านั้นอาจเป็นรัฐศาสตร์ สังคมวิทยาหรือบลาๆ แต่ส่วนใหญ่เวลามักทับซ้อนหรืองานหนักเกินไป)ซึ่งน้องอาจจะได้ตัวช่วยภาษาในเวลาจบไป(เอกนี้ชอบเรียนสเปนกัน)หรือาจได้ตัวถ่วงน้ำหนักเกรดมาแทน(ฮา) และโทอีกประเภทโทเสรีคือน้องสามารถเลือกเรียนวิชา"ใดก็ได้"ที่น้องมีเวลาว่างแล้วอยากเรียน(หรือไม่มีอะไรจะเรียนแต่ไม่อยากให้เกรดตก)จำนวนไม่เกิน4คณะ แต่มันจะไม่ต่อเนื่องคือเรียนอันนั้นทีอันนี้ที เรียกว่า"โทจับฉ่าย"ก็ว่าได้ แต่จะเป็นตัวช่วยเกรดได้ง่ายกว่า

4.น้องจะต้องเจอตัวEGคือวิชาภาษาอังกฤษเสริมเพิ่ม(อารมณ์คณิตเพิ่มเติมสมัยมัธยม)ใครถนัดก็โอเค ใครไม่ถนัดก็...ไปให้รอดละกันนะนู๋ววว(พี่ก็กระท่อนกระแท่นคื่อกั๋นละเน้ออ)

5.น้องจะได้เรียนที่รังสิต ซึ่งร้อนเควี่ยๆ แห้งแล้ง มีทั้งยุง และควันไฟ เมื่อเข้าเขตเชียงราก นั่นคือโลกของ"ชาวมธ" ซึ่งเอาหนุ่มหล่อ สาวสวยมารวมกันไว้ที่นี่(แล้วทำไมเราไปจีบคน ม อื่นนะ - -)

6.ที่นี่น้องจะเจอแต่เรื่อง"การเมือง"เป็นส่วนใหญ่ ดังที่ข่าวชอบออก เข้าใจและยอมรับ วิพากย์วิจารณ์หรือมองผ่าน แล้วแต่ที่เราจะเลือก ที่นี่มีคนแหวกแนว แหวกกรอบความคิดของสังคมไทย พยายาม"ค้นหาคำตอบ"ให้กับตนเองอยู่เสมอ ไม่มีสิ่งที่ผิดหรือถูก สนุกกับมัน เพราะที่นี่คือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ(วิชา)การเมือง 

ปล.เอกประวัติสามารถเข้าได้แบบแอดตรง คือ แอดมิชชั่น ศิลปศาสตร์เอกประวัติโดยตรงกับเข้าโดยเอกรวม คือเข้ามาที่คณะศิลปศาสตร์และเรียนไปก่อน และเข้าเอกทีหลัง(ก็กระจายความเสี่ยงกันปายยย) ส่วนพี่เข้าแอดมิชชั่นตรงนะฮ๊าฟฟฟฟฟฟ

สวดท้วย(สุดท้าย)นี้ก็ขอให้น้องๆแอดมิชชั่นเข้าในที่ๆตนเองชอบและต้องการให้ได้นะครับ เพราะการที่เราไม่ได้ชอบอะไรแล้ว ไปอยู่ในที่ที่ไม่ชอบ มันก็คงไม่ใช่ และบางครั้งก็เป็นการกันไม่ให้คนที่ชอบจริงๆให้เข้ามาอยู่ในที่ที่เค้าต้องการด้วย แล้วเจอกันเด้อ^^

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม(จริงๆก็หมดเปลือกแล้วนะ- -)
Facebook Yotsawee siriphonthanyakorn รบกวนส่งข้อความทางแชทเฟสมาบอกก่อนด้วยนะครัฟ^^

 













แสดงความคิดเห็น

>

34 ความคิดเห็น

nadcracker 23 เม.ย. 57 เวลา 08:44 น. 4

กำลังสนใจเอกนี้อยู่เลย ><
พอได้มาอ่านแล้วอยากเรียนเข้าไปใหญ่ ขอบคุณพี่ๆมากค่า :)

0
ShopperKimpy 23 เม.ย. 57 เวลา 11:18 น. 5

อยากเข้าคณะนี้จังเลยครับ พี่ๆในคณะต้องใจดีและน่ารักทุกคนแน่ๆ 

เสียดายจังผมคงไม่มีสิทธิสอบแล้ว T-T

0
まるも君! 23 เม.ย. 57 เวลา 12:40 น. 7

ขอบคุณนะคะ สนใจเอกนี้อยู่แต่กลัวตรงเรียนหนักเนี่ยแหล่ะค่ะ เพราะคิดว่ายังไงเอกประวัติคงต้องอ่านหนังสือหนักๆ อัพเดทความรู้ตลอด สนใจนะคะ แต่คืออยากเรียนญี่ปุ่นด้วยอ่ะค่ะกลัวไม่ไหวจัง...

ดันมาชอบเอกที่อ่านเยอะทั้งคู่เลย ชีวิตหนอชีวิต T_T

ขอบคุณสำหรับข้อมูลประกอบการตัดสินใจนะคะ

0
refairnight 23 เม.ย. 57 เวลา 12:55 น. 8

ได้เจอแน่ครับ(ถ้าแกไม่โดนอุ้มหรืออะไรก่อนนะครับ ฮา) เพราะอาจารย์สอนHS232 ประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่(2475-ปัจจุบัน) ได้เรียนตอนปี2เทอม2ครับ เพราะเราต้องเรียน HS230 HS231 ก่อน คือตั้งแต่ยุคโบราณมาถึงรัตนโกสินตร์ตอนต้น แต่ถ้าเคร่งวิชาก็ไปนั่ง"Sit in"ฟังแกสอนปีอื่นๆได้โดยที่เรายังไม่ได้เรียนครับ(สนุกมาก)

0
refairnight 23 เม.ย. 57 เวลา 13:33 น. 9

อันนี้ก็แล้วแต่น้องจะเลือกนะ555 แต่พี่เพิ่มเติมไว้ให้พิจารณาแล้วกัน เพราะพี่เองก็มีเพื่อนที่เรียนวิชาโทเป็นภาษาญี่ปุ่นเหมือนกัน ยังมีจีน ยอรมัน และสเปนด้วย เพราะคณะศิลปศาสตร์ส่วนใหญ่โทจะเลือกภาษาอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่เพื่อนพี่พบไม่ใช่เรื่องการอ่านเยอะ แต่เป็นเรื่องตามไม่ทันมากกว่า ถ้าน้องมีความรู้เรื่องภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ก็คิดว่าโอละคร่าบบ แต่ในทางกลับกัน ถ้าน้องเรียนญี่ปุ่น โทประวัติ ก็สามารถทำได้น้า

0
Soulmate&#039;Js 23 เม.ย. 57 เวลา 23:32 น. 13

มีอยู่ 19,1XX คะ ไม่รู้รอบสองคะแนนจะขึ้นมาไหม กลัวคะแนนเหวี่ยงขึ้นด้วย
หนูอยากไปเป็นรุ่นน้องพี่นะคะ T______________T

0
refairnight 24 เม.ย. 57 เวลา 20:56 น. 18

กำลังจะเขียนเพิ่มลงไปเลยครับ555 งั้นขออนุญาตให้เฟสผมไปแล้วกันนะครับน้อง Yotsawee siripholthanyakorn

0