แอดมิชชั่นคันมือ ตอนที่ 5 : เห็นด้วยหรือไม่ ? กับการสอบ U-NET
ตั้งกระทู้ใหม่
น้องๆ ชาวเด็กดี คิดเห็นกันยังไง มาโต้วาทีกันได้เลย..
เห็นด้วยหรือไม่ ? กับการสอบ U-NET
เห็นด้วย
ไม่เห็นด้วย
U-NET จะให้เกิดความยุติธรรม เด็กที่กำลังจะจบมหาวิทยาลัยและเริ่มต้นวัยทำงานทุกคน เริ่มต้นแข่งขันกันใหม่อย่างเท่ากัน โดยไม่มีคำว่าเกรดหรือสถาบันที่จบมาเกี่ยวข้อง
ที่ผ่านมาข้อสอบของ สทศ.ยังไม่มีคุณภาพ แล้วจะเชื่อมั่นในข้อสอบ U-NET ได้อย่างไร ? อีกอย่างการทำงานต้องอาศัยความสามารถหลายด้าน ไม่ใช่แค่วัดกันที่คะแนนจากข้อสอบ
277 ความคิดเห็น
ขอโทษนะคะ U-NET คืออะไร
ไม่ทราบจริงๆ ตกข่าวค่ะ
คุณความเห็นที่2 ลองเข้าไปอ่านกระทู้นี้ดูนะคะ แล้วมาแชร์กันว่าเห็นด้วยหรือไม่ จัดสอบByสทศค่ะ
http://www.dek-d.com/board/view/3191927/
ถึงจะยังเป็นนักเรียน แต่รู้สึกว่าไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่
สอบเยอะไปแล้ว!!! ยังไงที่ทำงานก็ยังมีการสอบของที่ทำงานเอง ไม่ว่าทางรัฐหรือเอกชน
แต่ที่ว่า วัดกันที่เกรด หรือมหาลัย อันนี้ไม่ชัวร์แฮะ
เพราะการสอบแบบฝนแบบนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตในการทำงานดีขึ้นสักเท่าไหร่หรอกนะคะ
ไม่เห็นด้วยเพราะสทศ ไม่ออกมาบอกเหตุผลที่แน่ชัดว่าสอบ "เพื่ออะไร" ข้อสอบคัดกรองคนเข้าทำงานหน่วยรัฐก็มีอยู่แล้ว หน่วยเอกชนเขาก็มีวิธีของเขา
สรุปข้อสอบยูเน็ตมีมาเพื่ออะไร ยังงงในจุดประสงค์นัก -_-
ถ้ายังบอกว่าเพื่อทดสอบก่อนเข้าทำงานเราก็จะยังคงไม่เห็นด้วยเหมือนเดิม เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
และอย่างที่พี่ลาเต้เขียน การทำงานต้องอาศัยทักษะหลายด้าน(ซึ่งจะได้มาจากการเรียนและการลงมือจริง ไม่ใช่การสอบ)
และเราเชื่อว่าบริษัทคงไม่มานั่งดูคะแนนพวกนี้หรอก ยังไงเขาก็ดูมหาลัยจบกับเกรดเป็นหลักอยู่ดี เชื่อเลย สมมติเราจบมนุษยศาสตร์เอกญี่ปุ่น ดูจากวิชาที่สอบแล้วมันไม่เกี่ยวกับสายงานเราเลยซักนิด บริษัทเขาคงไม่พิจารณาที่คะแนนยูเน็ตหรอก
และที่สำคัญ ถ้าให้คัดคนเข้าทำงานโดยไม่ดูมหาลัย ไม่ดูเกรด อย่างนี้เรียนมหาลัยทำไม ลาออกมานั่งเรียนติวยูเน็ตดีกว่าไหม??
แล้วถ้าคนไม่เก่งล่ะ?? จะให้เขาสอบไปเรื่อยๆจนกว่าจำได้คะแนนดีเรอะ?
สรุป เปลืองเงินโดยใช่เหตุ มันไม่ได้ช่วยให้เด็กมีที่ยืนขึ้นเลย
ไม่เห็นด้วยกับ สทศ.
เห็นด้วยกับ ขหท1
การทำงาน ต้องใช้ทั้งความรู้ เเละความสามารถ
ถ้าคุณรับสมัครพนักงานโดยใช้ U-NET เป็นเกณฑ์นั้น
คุณก็จะเสี่ยงได้พนักงานที่มี IQ สูงเเต่ EQ ต่ำ คือ มีความรู้ดี เเต่ไม่สามารถนำมาปฏิบัติใช้กับการทำงาน หรือชีวิตประจำวันได้...
ยังจะอยากรับไหมคะ? ทุกวันนี้การสมัครงานเขาก็มีเกณฑ์การวัดขแงเขาอยู่เเล้ว ทำไมต้องไปวัดให้เขาอีกอ่ะ ไม่เข้าใจ??
สทศยังคิดว่าข้อสอบตัวเองมีคุณภาพ อีกหรอคะ????
ออกข้อสอบอะไรมาเคยเช็คตัวเองมั้ยคะว่าตัวเองออกอะไรไปบ้าง
และการที่วัดU-NETแบบนี้อย่าอ้างเรื่องเกรด เรื่องสถาบันอะไรเลยค่ะ ถ้าอ้างแบบนั้นคุณลองไปเปลี่ยนค่านิยมของคนที่คิดว่าม.เอกชน ราม ราชภัฏไม่ดีดีกว่ามั้ยคะ??? อันนี้ยังดูมีประโยชน์ได้สาระกว่าการออกข้อสอบแบบนี้เลย
ยิ่งตอนตอบคำถามตอนข้อสอบมีอารมณ์ทางเพศ คุณป้า ไม่สิ น่าจะเรียกว่า มนุษย์ป้า ผอ สทศ ตอบว่าข้อสอบอิงความรู้ไม่อิงไปใช้ในชีวิตจริง
ถามจริงเหอะค่ะคุณป้าเอาอะไรมาคิดคะ??แสดงความคิดแต่เรื่องลามกของสถาบันมาก!! วิชาเพศศึกษาสอนให้คนเอาความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง แต่คุณป้ากลับเอาความรู้มาใช้ในการออกข้อสอบน่าเกลียดมากและหยาบโลนกว่าการดูภาพยนตร์ลามกอีก
สอบU-NETไร้มาตรฐานมาก สทศคะเคยGETตรงจุดนี้มั้ย?? หรือเป็นพวกมีความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด? ลาออกจากการเป็นสทศเหอะค่ะถ้าจะปฏิบัติงานได้ ทุเรศ ขนาดนี้
สอบภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สถาบันอื่นๆมีสอบหมดแล้วค่ะเป็นสากลกว่าเยอะ
แต่ทุเรศคือการสอบคุณธรรมจริยธรรมค่ะสอบไปทำไมคะ? จะให้มานั่งท่องพระไตรปิฎกในการสอบหรอคะ??? คุณธรรมในตัวทุกคนมีหมดนั่นแหละค่ะ ยิ่งวัดแบบนี้คนออกข้อสอบนั่นแหละค่ะไร้คุณธรรม
ไม่เห็นด้วยครับถ้าอย่างงี้พวกฉลาดเรียนแต่ทำงานไม่เป็นก้ได้เปรียบสิครับพวกที่หัวไม่ค่อยดีแต่มีฝีมือก้คงจะอดพิสูจฝีมือกับบรษัทดีๆใหญ่ๆเพราะพวกหัวดีคะแนนสูงก้คงจะได้รับเลือกก่อนอยู่แล้ว
อีกอย่างน่ะครับบริษัทอ่ะผมว่าเขาไม่ได้เอาคนคะแนนสอบสูงๆหรอกครับเขาเอาคนทำงานเป้น แค่คะแนนจะวัดอะไรได้ครับ
การสอบต่างๆๆ ก็เป็นการวัดผลทางการศึกษานับว่าเป็นสีงที่ดี แต่บางอย่างอาจจะไม่จำเป็นมาก เพราะในมหาวิทยาลัยก็มีการเรียนการสอนการสอบที่เข้มข้นและประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว ผมคิดว่านำเงินไปปรับปรุงการศึกษาให้ดีและหาทางออกให้กับเด็กอีกมากมายที่เขาไม่มีโอกาสได้เรียน ยังมีเด็กอีกมากมายที่รอระบบการศึกษาที่ดีและมีประสิทธิภาพในที่ห่างไกล ในตอนนี้ก็บอกอยู่แล้วว่า การศึกษาไทย ยังสู้ประเทศอื่นไม่ได้ เพราะเน้นเด็กเก่งมากกว่าการนำความรู้ไปใช้ในชีวิต เห็นใจเด็กบ้าง
ปากก็บอกไม่อยากให้มีรร. พิเศษ แต่ไอระบบนี้นี่แหละจะทำให้กระทั่งนักศึกษามหาลัยก็ต้องไปนั่งติวข้างนอก
ข้อสอบคุณมีมาตรฐานมากกกกเลย ที่ออกข้อสิอบยากขึ้นเรื่อยๆด้วยเหตุผลว่า'มีคนทำได้คะแนนดีเยอะ' 'คนเขาเริ่มทำได้กัน' สรุปคุณจะวัดความสามารถคนสอบหรือความสามารถคนแต่งโจทย์
ไม่เห็นด้วยกะu-netโดยเฉพาะสทศ. เป็นผู้ออก เข็ดกับข้อสอบที่ผ่านๆมาแล้วปล. เรียนไปเพื่อทำงานนะครับ ไม่ใช่เพื่อนั่งท่องตำราที่ไม่ได้ใช้ได้จริง
ถ้าจะให้เราสนับสนุน ต้องเปลี่ยนจากจัดสอบ U-NET เป็นจัดสอบ O-NET แบบสอบกี่ครั้งก็ได้สิ ชิชะ
เริ่มที่ สทศ. เลยใครสอบไม่ผ่านออกจากงานไป
ยังงี้ดิแฟร์ดี สอบแบบปีต่อปีจะได้กระตือรือร้นไง
แล้วจะได้รู้ด้วยว่าข้อสอบมันเป็นไงจะได้แก้ไขถูกจุดสักที
หลายคนบอกว่า สทศ.ชี้แจงไม่ชัดเจน คือตอนนี้เป็นแค่หลักกว้างๆ ทำไมไม่รอให้เขาขี้แจงหมดก่อนถจะตัดสินใจเลือก ?
หลายคนบอกว่าเวลารับเข้าทำงานต้องใช้หลายด้าน ถูกครับ เวลาเราเข้าทำงานที่ทำงานคงไม่ใช่แค่ดูเฉพาะคะแนน U-net เท่านั้น เหมือนกับเข้ามหาลัยที่ต้องใช้หลายคะแนน หนึ่งในนั้นคือ เกรดของเรา
ส่วนเรื่องมาตราฐานของสทศ.ผมแนะนำกลับไปดูมาตรฐานของโรงเรียนตัวเองก่อนว่าสอนตามหลักสูตรบ้างไหม? ที่สำคัญหากคุณเปิดใจรับฟังเหตุผลของสทศ.จะพบว่า คนออกข้อสอบไม่ใช่คนเดียว ไม่ใช่แค่ผอ.สทศ. แต่มีผู้มีคุณวุฒิ วัยวุฒิที่เหมาะสม เรื่องนี้คิดง่ายครับ ทำไมเราทำข้อสอบไม่ได้ทั้งๆที่คนอื่นหรือโรงเรียนอื่นทำได้ มันขึ้นอยู่ที่ตัวเรา โรงเรียน หรือข้อสอบกันแน่ ??
ส่วนเรื่องข้อสอบที่แต่ละมหาลัยจัดสอบเองเมื่อจบ ถามว่ามาตราฐานมันเท่ากันหรือเปล่า ถามคนรับทำงาน หากมีจบจากมหาวิยาลัยชื่อดังแต่คะแนนสอบก่อนจบ(หมายถึงทางมหาลัยจัดสอบเอง)ได้ไม่เยอะแต่ไม่น่าเกลียด แต่กับมหาวิทยาลัยชื่อไม่ดังกับคะแนนสอบก่อนจบ(มหาลัยจัดสอบเอง) ที้ทำงานจะเลือกใคร และนี้คือตัวมาทำให้เกิดมาตราฐานกลาง ว่าใครคุณภาพกว่าใคร ส่วนเรื่องเข้าทำงานดูแค่ iq อย่างเดียวเหรอ คงไม่ใช่หรอกครับ เช่นการสอบสายราชการ เราต้องสภาค ก. ภาค ข. ภาค ค. ก่อน แต่ผมคิดว่า การสอบ U-net มาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการคำนวณเกณฑ์เข้าทำงาน
ส่วนเรื่องข้อสอบคุณธรรม จริยธรรม คุณเปิดใจให้กว้างาิ๊ครับ เวลามหาลัยคุณธรรม จริยธรรมเขาสอนแต่เรื่องพระไตรปิฎกเหรอครับ ?? มีอีกมากมายที่เขาสอน
แต่เรื่องที่ผมกังขาของการสอบ U-net คือ คนที่เรียนใกล้จะจบมักมีสิ่งที่ต้อวคิดหนักคือการทำวิจัย ฝึกงาน หากมีเรื่ิงการสอบเข้ามาเกี่ยวจ้องอาจจะหนักไป แต่ยังไงผมก็ยังไม่ตัดสินใจ(หรือแค่เหมือนจะเห็นด้วย) ว่าจะยังไง
ปล.กระผมเป็นนิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครอง เอกการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รหัสนิสิต 55 ผมเป็นนิสิตจริงๆนะครับ
ไอคนที่เห็นด้วย คงเป็นลูกของ สทศ สินะครับ
จะให้ ถ้าข้อสอบ U-net เหมือนกันทั้งหมด แต่ คณะในประเทศไทยมีเท่าไหร่แล้ว สาขาย่อยอีก... เราว่ามันไม่แฟร์ เหมือน มี ลิง ปลา นก ม้า ช้าง แต่ข้อสอบกลับ สั่งให้ปีนต้นไม้... มันแฟร์หรอ?
แต่ละคณะ เขามีจัดสอบ Exit Exam ซึ่งเป็นความรู้ของแต่ละวิชาชีพ หลังจากการนำเสนอธีสิสอยู่แล้ว ไหนจะการสอบใบประกอบวิชาชีพอีกที่ต้องสอบ
บางคณะ แค่ทำธีสิสอย่างเดียว ยังเสียทั้งเงิน ทั้งเวลา จนเอาไปทำอย่างอื่นแทบไม่ได้แล้ว ยังต้องมาเสียค่าสมัครสอบยูเนต อ่านหนังสือ ติวสอบยูเนตอีก เราว่ามันไม่โอเคกับนิสิต นักศึกษาที่ผ่านความกดดันของธีสิสพวกนั้นมาทั้งเทอม ทั้งปีหรอกนะ
แล้วที่บอกว่าเพื่อให้ทุกคนเริ่มต้นใหม่ที่ศูนย์เหมือนกัน เพื่อไม่ให้วัดกันที่เกรด ที่ชื่อมหาวิทยาลัย งั้นถามหน่อย ตอนสมัครงานคือจะไม่ยื่นใบเกรดให้เขาดู บอกว่าเพื่อความเท่าเทียมของบัณฑิตทุกคน ให้ดูแต่ใบผลสอบคัแนนยูเนตเท่านั้นเพื่อความยุติธรรม งั้นเหรอคะ????
เลิกจัดอันดับโรงเรียน มหาวิทยาลัยจากคะแนนสอบก่อนเถอะค่ะ
อีกอย่าง แต่ละวิชาชีพเขาก็ประยุกต์ใช้ความรู้ในแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน อย่างการสื่อสาร คณะนึงเน้นพูดเยอะๆ ให้เข้าใจมากๆ อีกคณะนึงต้องใช้ตัวเลข สถิติ อีกคณะนึงต้องใช้แผนภาพ แบบจำลอง เพื่อให้พูดน้อยๆ เข้าใจง่าย ในเวลาที่จำกัด ฯลฯ
แนะนำ สทศ.ค่ะ ถ้าจะจัดสอบ เลือกจัดสอบจากภาคปฏิบัติไปเลยไหมคะ
ในฐานะที่เคยเห็นการสมัครสอบเข้าทำงาน ในหลาย ๆ ที่
จะใช้ข้อสอบเฉพาะของ บริษัท สมมุติว่าบริษัท A ก็แล้วกัน
บริษัท A เป็นบริษัท คอมพิวเตอร์ ข้อสอบ สมัครเข้าทำงานก็เป็นไอที
แน่นอนว่าหากคุณทำข้อสอบได้ ร้อยละ 85 ขึ้น คุณก็เข้าทำงานได้ แต่ไม่ใช่ข้อสอบอย่างเดียว มีการสอบ ต่อหน้ากรรมการด้วย ทัศนคติ จิตวิทยาการทำงาน
มาพิจารณา U - net ที่ว่ากันดีกว่า
มาในทำนองที่ว่า ให้ เด็กมหาวิทยาลัย เหมือนคอมพิวเตอร์ ทุุกคนที่จบออกมา ต้องมีคุณสมบัติ หรือ สเป็กค์ ตามที่ เขา กำหนดมาตรฐาน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยไม่มาสนใจสถาบัน หรือ คะแนนจากมหาวิทยาลัยที่จบออกมา มันคือความยุติธรรม แต่ยุติธรรมหมดหรือไม่ คำถามเดียวกับ แก็ท แพท เลยล่ะ แล้วก้อเรียนพิเศษ เหอะ ๆ อยู่มหาลัยก็เรียนพิเศษ เรียนพิเศษเพื่อสอบ บ้าเรียน บ้าท่องตำรา บลา ๆ
ใช้ข้อสอบ ทำให้ทุกคนได้มาตรฐานตามที่กำหนด
ใช้ข้อสอบ... ใช้ความรู้ข้อเท็จจริงที่ตายตัวนี่นะ
เชื่อผมนะ ถ้าไปถาม ร็อกกี้ เฟลเล่อร์ เขาต้องพูดแบบนี้แน่
บ้าหรือเปล่า
ความฉลาดกับจินตนาการวัดกันที่ข้อสอบได้ที่ไหน แต่ถ้าวัดความอดทนถึกกับการอ่านหนังสือ ความรู้ข้อมูลหรือความขยันก็ไม่แน่ เพราะในไทย ทำข้อสอบสำหรับคนขยันโดยเฉพาะ ถ้าได้ 100 เต็ม คนนี้ก็ขยันมาก รู้มาก แต่ข้อสอบ สำหรับความฉลาดนั้น ไม่มีเลย ความฉลาดกับความขยันต้องคู่กัน แต่ความฉลาดสำคัญกว่า
เพราะเน้นแต่ความขยัน คนกลุ่มหนึ่งเลยเข้ารับราชการเยอะ ไม่ต้องคิดละ ทำตามคำสั่งอย่างเดียว ไม่ยุ่งยาก
แต่คนต่างชาติไม่คิดแบบนี้นะ
การวัดความคิด ไม่ได้ตายตัวอยู่ที่ตัวเลข หรือคณิตศาสตร์
การวัดจินตนาการความสร้างสรรค์ก็ไม่ได้อยู่ที่ศิลปะเสมอไป
ว๊าย ตายแล้ว มีอาจารย์ศิลป์ที่โด่งดังมาก ๆ คนหนึ่งของโลก เคยพูดว่า ( ภาพวาดเขาตั้ง หลายล้านเหรียญแน่ะ )
เขาให้ผมมาวาดภาพนะ ไม่ได้ให้มาตอบหลักการทฎษฎี ศิลปะ
เผยเบื้องหลังว่า เขาไม่รู้จักหลักการศิลปะเลย เขาไม่ต้องมาพะวงเรื่องการใส่จิตวิญญาณอย่างนั้นแบบนี้ เขาทำตามความรู้สึก และเรียนรู้จากประสบการณ์ด้วยตนเอง พรสวรรค์ + พรแสวง เท่ากัน
ถ้าเอาข้อสอบ U net ไปสอบ อาจารย์คนนี้ แน่นอน เขาตกแน่ เพราะเขาใช้คอมพิวเตอร์ ไม่เก่งคุณธรรม ไม่เก่งการเทคโนโลยี
แต่เผอิญว่า ในราชอาณาจักรที่เจริญแล้ว
เขาพิจารณากันที่ ผลงานฝีมือในการทำงานภาคปฎิบัติมากกว่า
เพราะเขาไม่ต้องการสารานุกรมเดินได้
ผลก็คือ ในการไปสอบที่บริษัทแห่งหนึ่ง คะแนน ภาคหลักการ + ภาคข้อมูล ท่านแย่มาก
แต่ดูเหมือนพระเจ้าท่านดลใจกรรมการคนหนึ่ง
ไหน ขอให้คุณลองวาดภาพให้ผมดูหน่อยหากผมประทับใจคุณเข้าทำงานได้
กรรมการอึ้ง คุณทำได้ไง ทั้งที่คุณไม่รู้พวกหลักการ ทฤษฎีอะไรเลย
อาจารย์คนนี้ตอบว่า " คุณให้ผมมาวาดภาพ ผมก็วาดภาพ ไม่เห็นต้องมีกฎหลักอะไรเลย "
ประสบการณ์ เกิดก่อนความรู้ มีประสบการณ์ก่อน แล้วเราก็สรุปความรู้ฉบับตนเอง ได้เอง เพราะความรู้เกิดจากประสบการณ์
ความรู้ ประสบการณ์ ความสามารถ จินตนาการ ของไทย
จินตนาการ ความสามารถ ความรู้ ประสบการณ์ ของอเมริกา หรืออังกฤษ
ไม่เห็นด้วย
IQ ตามเรฟบน EQ หากดีจริง ต่างชาติต้องทำก่อนแล้วดิ เราไม่ได้เห่อนอกนะ
หากกระทรวงคิดว่ามันเจ๋งจริง ก็บอกหน่อยมีประเทศไหนทำบ้าง
สมมุติว่าบอกได้ อ่ะ ๆ เห็นไหม เศรษฐกิจเขาจึงดี ได้คนมีความสามารถความขยัน บลา ๆ แต่รู้ไหมท่านกระทรวงศึกษางี่เง่าที่รัก เขาเน้นพัฒนาระบบการศึกษา โรงเรียนให้ทั่วถึงมีความเท่าเทียมกันในระดับสูงสุดสำคัญเป็นอันดับแรก ถึงไม่ต้องสอบแย่งที่เรียนกัน เศรษฐกิจดี การศึกษาดี เรียนพิเศษเสริมในห้องมีน้อยมาก ไม่มีพวกเรียนสอบแกท แพท บลา ๆ ปิดเทอมเฮฮา แต่ในไทยเรียนพิเศษจนป่วย สงสารเด็กปฐม 4 เรียนพิเศษ ของ ป.5 - 6 เตรียมสอบเข้า ม.1
การแข่งขันทำให้เกิดการพัฒนา แต่ถ้าทำไม่ดี จะทำให้เกิดการเอาเปรียบกันขึ้น เกิดคนอีกหลายชนชั้น
เพราะการแข่งขันคือการยกระดับชนชั้นตนให้สูงเหนือผู้อื่น ยิ่งสูงยิ่งหนาว
เพราะไม่แก้ไขเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องให้ดีก่อน
เห็นว่าดีเลยเอามาทำบ้างโดย ไม่ปรับปรุงระบบของตัวเองให้ดีก่อน
กระทรวงงี่เง่า สิ้นดี ...
เยอะไปนะ
ไหนจะ gat pat
7วิชาสามัญ
o-net
เยอะไปปปปปปปปปปปปปปปปปปป
ที่ผ่านมายังสอบไม่พออีกหรอ ทุกอย่างๆก็สอบ กดดัน น.ร. นิสิต
ข้อสอบวัดคุณภาพไม่ได้หรอก เด็กที่มีงานทำคือเด็กที่จบมาแล้วมีคุณภาพ ไม่ใช่เอาข้อสอบมาวัดคุณภาพกัน สอบแต่ละเทอมก็แทบแย่ละ ยังมาเจอแบบนี้อีกเป็นใครก็ไม่เอาไม่เหมือนกัน (เครียดตาย!!!!)
ไม่เห็นด้วย สอบไป มาตรฐานมันก็ต่ำลงทุกปี ที่สำคัญมาตรฐานมันอยู่ตรงไหน ข้อสอบสอบเหมือนกันทั่วประเทศ แต่คณะและสาขาที่เรียนมันมีกี่แขนง ความรู้มันจะเหมือนกันมั้ยคร้าบบบบบบบบบ
สอบเพื่อใช้ทำงานเรอะ เอาจริงนะ ถ้าสอบ U NET ได้ แล้วทำงานกับต่างชาติได้โดยไม่ต้องสอบ TOEFL/IELTS/TOEIC อีก ก็น่าสน แต่ความจริงมันไม่ไม่ใช่ไง -*- - U NET นี่แม่งโคตรไม่จำเป็น
พัฒนาด้านการศึกษาบ้านเราให้ได้ก่อนดีกว่าครับ
สอบเยอะ>เปลืองกระดาษ/ค่าไฟ>โลกร้อน
คุณคิดว่าการสอบ u-net จะวัดมาตรฐานคนที่เข้าทำงานได้จริงๆหรอ อันที่จริงฉันเห็นด้วยนะถ้ามีการจัดสอบu-netแล้วระบุคะแนนเอาไว้ เพื่อประกอบการพิจารณาเข้าทำงาน แต่ก็ต้องคิดอยู่ที่ดุลพินิจของผู้รับเข้าทำงานแต่ละคนสิคะ แค่ให้เค้าเห็นคะแนน เค้าจะเชื่อถือในมาตรฐานของคะแนนหรือไม่นั้นก็ควรจะแล้วแต่เค้า แต่ที่บอกว่าสทศประสานงานกับองค์กรต่างๆให้ใช้u-netเป็นการพิจารณาละก้อ แบบนั้นมันเป็นการประสานงานแบบไหนกัน แจ้งข้อมูล หรือบังคับว่าต้องรับพิจารณาu-netที่สทศสร้างขึ้น ถ้าเป็นการบังคับฉันก็ว่าไม่เหมาะนะ คุณจะเอาข้อสอบที่ไม่รับการยอมรับมาตรฐานจากผู้สอบมาใช้อนาคตคนในการเข้าทำงานแบบนี้เหรอ
แล้วก็เรื่องที่อนาคตมีแนวโน้มจะทำข้อสอบวัดทักษะการทำงาน กับข้อสอบวัดคุณธรรมด้วย ฉันว่าถ้าเป็นข้อสอบ 2 ตัวนั้น ยกเลิกไปเถะค่ะ ทักษะการทำงานก็คือการลงมือทำ คุณคิดว่าข้อสอบที่ให้เด็กมานั่งฝนๆๆลงไปมันวัดฝีมือกันได้หรอค่ะ คนเรียนมาเหมือนกัน มาถามวิธีปฏิบัติ เด็กส่วนใหญ่ก็ต้องตอบได้เหมือนกันอยู่แล้วล่ะค่ะ หรือคุณว่าไม่จริง
ยิ่งเรื่องสอบวัดคุณธรรมยิ่งไปกันใหญ่ อันนี้ฉันก็ว่าบางทีอาจจะวัดได้ก็ได้มั้ง ถ้าเอานักจิตวิทยามาออกข้อสอบ ไม่ใช่อ.สังคม อ.สอนศาสนา เพราะก็เหมือนกับข้อสอบวัดวิชาชีพนั่นแหละ ถามา ใครก็รู้คำตอบที่ถูกต้อง อะไรยืนยันล่ะคะว่าคนที่สอบข้อสอบคุณธรรมได้คะแนนสูง จะปฏิบัติตัวเยี่ยงคนมีคุณธรรมในการดำเนินชีวิตจริงๆ แต่อย่างที่ตอนต้นบอกไว้ว่าถ้าเอานักจิตวิทยามาออกก็ไม่แน่ เพราะไม่งั้นเค้าก็คงไม่มีข้อสอบวัดจริยธรรมหมอ พยาบาล ตอนที่สอบเข้ากันหรอกมั้งคะ คิดว่าคงกรองได้ระดับหนึ่งแต่ไม่ใช่ 100 เปอเซนแน่นอน ไม่งั้นหมอ พยาบาล ที่ไร้จรรยาบรรณคงไม่มีอยู่ในสังคมหรอก
เป็นความเห็นส่วนตัว คนเด็กคนหนึ่งที่กำลังจะเป็นนักศึกษา
หวังว่าสทศ และผู็มีอำนาจจะฟังเสียงของพวกเราผู้ได้รับผลกระทบทุกคนทั้งฝั่งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แล้วพิจารณาบ้างนะคะ ^^
คหสต นะ
ที่บอกให้สอบ U-NET แสดงว่าทาง สทศ คิดว่ามหาลัยไม่มีคุณภาพที่จะคัดให้เด็กจบอย่างมีคุณภาพแล้วใช่มั้ยคะ เลยต้องเอาการจัดสอบของคุณที่เด็กด่ากันทุกปีๆๆๆ มาเป็นตัวตัดสินชีวิตของเด็กที่เรียนแทบเป็นแทบตายหรอคะ แล้วที่บอกว่าสอบตามคณะอ่ะ ในหนึ่งคณะสาขาก็โครตเยอะแล้วจะวัดยังไง (ถึงอาจจะมีแยกสอบตามสาขา แต่ว่าแต่ละที่ก็เรียนไม่เหมือนกันแล้ว)
แล้วก็อย่างที่ คห อื่นๆว่ามา คะแนนมันทำให้คนทำงานเป็นหรือป่าวคะ ไม่เคยได้ยินหรอ เด็กเรียนเก่งอย่างเดียวแต่ทำงานไม่เป็นเลยเนี่ยบริษัทคงอยากเอาไปทำอ่ะ (ไม่ได้เจตนาว่าคนเรียนเก่งนะ แต่ว่า ถ้ามีการสอบก็หมายความว่าต้องท่องตำราเพื่อให้ทำคะแนนได้ดีขึ้น แทนที่จะเอาเวลาไปหาประสบการณ์ จริงปะ )
แล้วก็นะ ก่อนจะพัฒนา ป ตรี เอาเวลาไปพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ได้ดีกว่าก่อนมั้ย
แต่ถ้ายังคิดจะจัด U-NET ก็เอาเวลามาทำให้คนเชื่อใจในการจัดสอบของ สทศ ก่อนเถอะ คนด่ากันทุกปีตั้งแต่เด็กยันผู้ปกครองเนี่ย น่าจะรู้ได้แล้วนะ ว่าข้อสอบของคุณมัน @#%$^# มาก
ผมยุมอหก
ผมว่ารอดูประกาศอีกทีดีกว่าครับว่าข้อสอบออกยังไง
ส่วนเรื่องคุณภาพข้อสอบ สทศ เริ่มปรับปรุงดีกว่าปีก่อนๆมากเลยนะครับ ให้ไม่ยากจนเกินไปไม่งั้นทางแพทย์หรือกสพทไม่ให้สทศออกข้อสอบให้หรอกครับ
ส่วน unet นี้ผมก้อเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
เห็นด้วย คือ มาตรฐานการสอบมหาลัยทุกมหาลัยไม่เหมือนกันบางทีส่วนนี้อาจจะวัดได้ดีก็ได้ เพราะสังเกตจบมาได้เกรดเท่ากันคนละมหาลัยแต่ความสามารถไม่เท่ากัน
ที่ไม่เห็นด้วย คือ วัดด้วยคะแนนสอบเฉยๆคงไม่ได้หรอก ต้องมีอย่างอื่นด้วยถ้าจะใช้จิงๆควรใช้เปอร์เซนต์คะแนนการคัดเลือกเข้าทำงานควรไม่มากเกินไป
อยากให้ทุกคนอย่าใช้อารมณ์การตัดสินมากเกินไปครับ
ทางสทศเองก็คงพยายามอดทน พัฒนา และปรับปรุงตัวเค้าเองให้ดีขึ้น
ไม่งั้นคงไม่ทนใหัคนด่า วิจารณ์แง่ลบมาจนถึงทุกวันนี้หรอกครับ
ถ้าความคิดเห็นนี้ทำให้ใครไม่พอใจต้องขอโทษด้วยครับ
เราจะทำงานที่ร้านหนังสือ SE-ED กับเซเว่นต้องสอบด้วยมั้ยคะ
ถ้าสมมติมีการจัดการสอบ U-NET จริงๆ
เราว่าผลการสอบที่ออกมาจากการสอบ U-NET
ไม่ได้สามารถเป็นตัวชี้วัดอะไรได้เลย
เพราะแต่ละคณะ เรียนไม่เหมือนกัน อะไรคือตัวชี้วัดร่วมที่แท้จริง นอกจากคะแนนที่สูง-ต่ำ แล้วก็เอามาเปรียบเทียบกัน แล้วก็ทำให้สภาพจิตใจของเด็กหรือเยาวชนย่ำแย่ เหมือนที่มง.ลายหลายๆคนเจอในการสอบ GAT PAT O-NET
"เราว่านะ เยาวชนทุกคนอ่ะ พยายามที่จะทำความเข้าใจกับ สทศ.นะ แต่ทำไม สทศ. ถึงไม่เคยทำความเข้าใจถึงเยาวชนอย่างพวกเรากันบ้างอ่ะ เยาวชนก็เหนื่อยเป็นดิ๊ "
คิดว่าประสบการณ์การทำงานมีค่ามากกว่าข้อสอบที่ออกมาเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้ใหญ่หัวอนุรักษ์
ที่ผ่านมา กว่าเราจะเข้ามหาลัยที่ตัวเองอยากเข้า เราก็ต้องสอบ วัดประเมิณผลจากส่วนกลางก่อนซึ่ง แต่ก่อนมี O-net A-net ปัจจุบัน มีแค่ O-net และเพื่ม Gat Pat 7วิชาสามัญ เข้ามาหากมองเป็นช่องทางหารายได้ พวกติวเตอร์ต่างๆ ก็จะเปิดคอร์สติวกันมากมาย และทาง สทศ.ก็ยังเก็บค่าสอบอีก ทำให้มีรายได้เข้าไปเยอะมากในแต่ละปี
และตอนนี้ จะมีการเพื่ม U-net เข้ามาอีก เหมือนกับแต่ก่อน สทศ.ไม่สามารถหาเงินกับพวกเด็กมหาลัยได้ เหมือนเสียโอกาสช่องทางทำเงินมหาศาล
และก็ใช้คำอ้างต่างๆมากมาย ว่ามันจะช่วยผลักดันให้มีความเท่าเทียมกัน ในเรื่องมหาลัย เรื่องเกรด ในการเข้ารับสมัครงานต่างๆ ตามห้าง ร้าน บริษัท ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ห้างร้านต่างๆ ก่อนจะรับใครซักคนเข้าทำงาน เค้าคงไม่ดูแค่ชื่อสถาบัน และเกรดที่จบเพียงอย่างเดียว หากแต่เค้าก็ต้องดู ทัศนคติ อุปนิสัย ของคนหล่านั้นด้วย ไม่อย่างนั้นเค้าจะมี การสัมภาษณ์มาเพื่ออะไร
แล้วคุณคิดหรอว่าข้อสอบคุณสามารถครอบคลุมทุกคณะ วิชาเอกแต่ละสถาบันนั้นๆได้ และข้อสอบจะมีประสิทธิภาพในการวัดจริงหรอ ?
เอาเวลามานั่งคิดหาข้อสอบ ออกข้อสอบ มาพัฒนาของเดิมที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นกว่าเดิมไม่ดีกว่าหรอ ดีกว่าหาสิ่งใหม่ๆเข้ามา แต่ทำให้แย่ลง
คำว่าประสบการณ์ในรั่วมหาลัย ความรู้ ความเชี่ยวชาญในแต่ละวิชาเอก หากมีข้อสอบแบบนี้เข้ามา เหมือนของพวกนี้จะเสียเปล่าไปเลย เพราะ คุณจะเรียนยังไงก็ได้ ก่อนจบเข้าคอร์สติวเข้มวิชา U-net ติวให้ได้คะแนนสูงๆ แล้วคุณจะได้เข้าทำงาน
*ไม่บังคับสอบ แต่จะประสานงานไปยังองค์กร บริษัทต่าง เพื่อขอให้ใช้ผลการทดสอบ U-net เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน *พูดดูดีนะ
เป็นความคิดเห็นบางส่วนที่อยากแจ้งและตั้งคำถามเพื่อรอคำตอบ เพราะยิ่งสร้างสิ่งใหม่ๆเข้ามา แต่ของเก่าที่มีอยู่มันไม่ดี มันแย่ มันไม่พัฒนา มันก็เหมือนสร้างมาเพื่อจะฉุดของทุกอย่างลงไป
สร้างตึกใหม่บนฐานเก่า หากฐานเก่าไม่ดี ยิ่งสร้างไปเรื่อยๆ ก็มีแต่จะทำให้ตึกนั้นทรุดลงไป และก็พังในที่สุดอย่างแรงงงงงงงงงงงงงงง
ทำไมไม่สอบความเป็นคนเลยละ สทศ -.-
สอบเยอะไม่ช่วยให้เก่งขึ้นหรอกนะ !!
บอกอยากให้เด็กคิดเป็นออกข้อสอบ
แบบท่องจำมาให้เด็กทำ พูดอีกอย่าง
ทำอีกอย่าง งบไม่พอกิน รึเปล่าครับ
คือจะให้เกิดมาเพื่อสอบหรอไง สทศ.คิดอะไรอยู่
รอดพ้นจาก O-NET มาได้ยังต้องมาเจออีกเหรอ อย่าเอาการสอบมาใช้ตัดสินอะไรอีกเลยรำคาญ
ถ้าเกิดสอบไปแล้วคะแนนไม่ดี แล้วมันไม่ติดตัวไปจนตายเลยเหรอ ไปทำงานที่ไหน ไปสมัครงานที่ไหนก็ต้องดูผลสอบนี้นะเหรอ ทั้งที่จริงคนเราสามารถพัฒนาตนเองได้ไม่ใช่เหรอ ช่น ตอนจบมาใหม่ๆยังไม่มีประสบการณ์ แต่พอทำงานไปได้ซะระยะประสบการณ์มันก็จะเพิ่มขึ้น ไม่จำเป็นหรอก-ข้อสอบ U-NET เนี่ย
อย่าเอาข้อสอบห่วยมาทำร้ายชีวิตคนอื่นอีกเลย
ข้อสอบของคุณมันก็แค่กากบาท ทั้งๆที่การแก้ปัญหามันมีทางออกได้หลายทาง แต่ข้อสอบคุณก็บอกว่า
"จงเลือกคำตอบที่ถูกต้อง"
บางทีคำตอบที่ถูกต้องของคุณ แต่อาจจะไม่ถูกต้องสำหรับฉันก็ได้ เราอาจจะมีทางออกที่ดีกว่าที่คุณเลือกมาให้ก็ได้ หรือบางที่คำตอบที่ผิดก็ไม่ได้แย่เสมอไป เพราะการทำงานหากเราลองทำหรือทำอะไรผิดไปก็ถือเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่งเช่นกัน
กุเกลียดสทศ.
ถ้าเรามีความสามารถจริงแล้วเรื่องแค่นี้จะกลัวทำไม จริงมั้ย?
ถ้าสมมุติว่าคนมีความสามมารถ แต่เรียนไม่เก่ง แล้วเค้าจะไปทำงานได้ยังไง ? คนที่สมองดีแค่ขีเกียดกลับได้เข้าทำงาน แค่นี้ยังไม่เยอะใช่ไหมปัญหาเนี่ย ==
ตอนหนูจะเรียนจบให้หนูเครียดกับการสอบเอาใบประกอบวิชาชีพครู กับการสอบบรรจุก็พอแล้วล่ะค่ะ
เหตุผลส่วนตัวที่ไม่เห็นด้วยอย่างแรง บอกเลยที่ไม่ชอบไม่ได้กลัวสอบไม่ได้
1.ปัจจุบันในสาขาอาชีพต่างๆที่จำเป็นต้องมีการสอบ เช่น แพทย์ เภสัช ทันตะ ก็มีการสอบใบประกอบโรคศิลป์ ครูก็มีการสอบของครุสภาเป็นรอบๆต่างๆ การต้องสอบU-net ดูจะเป็นการสอบซ้ำซ้อนและสิ้นเปลื้องโดยใช่เหตุ
2.จริงอยู่ที่เรียนคนละที่ เกรดวัดไม่ได้ ปัจจุบันการรับสมัครงานต่างๆก็ไม่ได้ดูแค่เกรด เขาดูประสบการณ์ ดูสถาบัน ดูการสัมภาษณ์อีก
3.บอกตรงๆว่าไม่ไว้ใจสทศ.ในการออกข้อสอบ ส่วนตัวยังกังขากับมาตราฐานของข้อสอบ
4.เดี๋ยวก็มีการกวดวิชาเพื่อการสอบu-net ซึ่งจะทำให้การวัดผลไม่มีประโยชน์เลย เพราะคนจะกวดวิชา จำรูปแบบการตอบไปตอบให้ได้คะแนนสูงๆ ไม่ได้ใช้คุณธรรมไปตอบ
5.เป็นการสิ้นเปลืองงบโดยใช่เหตุ แทนที่จะเอางบมาจัดสอบการสอบเพิ่ม เอาเงินไปพัฒนาการศึกษาในปัจจุบัน หรืออย่างน้อยเอาไปซื้อคอมให้โรงเรียนที่ขาดแคลนยังจะดีเสียกว่า
6.เด็กที่กำลังจะจบก็มีหลายแบบ เช่น คนที่ลงซัมเมอร์เก็บหลายๆวิชาจนปีสุดท้ายว่างเอาเวลามาอ่านสอบ U-net คนที่ต้องทำthesisจบจนไม่มีเวลา คนที่ติดFจบช้าก็มีปัญหาว่าเขาควรจะสอบปีไหนถ้าสอบปีถัดไปก็จะเกิดความวุ่นวายพอสมควรในการมานั่งจัดระบบ คนที่เรียนราม มศธ.ควบไปด้วยเขาต้องสอบU-net 2รอบรึเปล่าเพราะเขามี2ปริญญา2สถาบัน และถ้าจบรามปี58 จบวิทยา60 เขาต้องสอบปีไหน สอบกี่ครั้ง ไม่มีความชัดเจน
เอาแค่ปัญหาที่เห็นชัดๆ ยังไม่สอบยังวุ่นวายขนาดนี้เลย สทศ.คุณแน่มาก นอกจากรัฐบาลแล้วก็มีแค่คุณนี่แหละที่สามารถสร้างปรากฏการณ์แบบนี้ในประเทศไทย
สอบแค่นี้ยังเยอะไม่พออีกหรอ จะเอาความคิดเห็น ความรู้ขององค์กรแค่องค์กรเดียวมาตัดสินคน ไม่ใช่แค่นั้นยังเอามาตัดสินว่าคนนี้จะได้งานหรือไม่ได้งาน คนเราสมอง ความถนัด มันก็ต่างกัน เรียนระดับอุดมศึกษามันก็ไปคนละเส้นทางแล้วนะคะ ทำไมต่างประเทศเขาประสบความสำเร็จมากกว่าเราล่ะคะ เรียนก็ไม่เยอะเท่าเรา ไม่เครียดเท่าเด็กไทย คนที่เรียนแย่ในประเทศไทยพอไปพัฒนาความรู้ที่ต่างประเทศแล้วเขาได้ดิบได้ดีล่ะคะ ถ้าคุณคิดว่า U-NET จะทำให้คนมีคุณภาพขึ้น ก็โปรดคิดอย่างอื่นเถอะค่ะ อย่างเช่นว่าจะปรับปรุงการศึกษาใหม่ไม่ให้รั้งท้าย AEC อย่างไร แก้ปัญหาไม่ตรงจุดแล้วมันจะมีประโยชน์มั๊ยคะ?
ก่อนที่จะมาวัดคนอื่น
วัดตัวคุณเองก่อนดีกว่าไหม?
ออกข้อสอบแต่ล่ะอย่าง แต่ละปี ออกมาเพื่ออะไร
พอมีคนทำได้ ก็เปลี่ยนแนวไปซะดื้อๆ แล้วมาบอกการศึกษาไร้คุณภาพ ใครผิดกัน?
ก่อนที่คุณจะมาออกข้อสอบอย่างนี้ ควรถามความคิดเห็นของคนที่จะสอบก่อน ไม่ใช่เอะอะก็จะสอบๆ แล้วยังมีหน้ากลับมาถามอีกว่าทำไมไม่มีแรงจูงใจในการสอบ
ลองกลับไปทบทวนดู ทุกคอมเม้นต์ก็อธิบายชัดเจนดีอยู่แล้ว ว่าควรทำอย่างไรต่อไป ไม่เช่นนั้น สทศ อาจโดนตราหน้า ว่า
"ไร้คุณภาพ"
ก่อนอื่น สทศ. ควรออกข้อสอบกลางให้ตรงกับหลักสูตรแกนกลางก่อนดีมั้ยคะ
ข้อสอบบางทีก็ออกลึกเกิน คนออกข้อสอบบางคนก็อีโก้สูง ไม่ยอมปรับปรุง
คนออกข้อสอบแต่ละคนก็มาจากต่างสถาบัน ทางที่ดีให้เขาดูหลักสูตรแกนกลางเป็นหลักในการออกข้อสอบดีมั้ยคะ
แต่ละสถาบันก็มีหลักสูตรที่แตกต่างกันไป แต่ก็จะยังคงอิงจากหลักสูตรแกนกลางอยู่
ดังนั้น เพื่อให้ข้อสอบมีความยุติธรรมขึ้น ก็ควรดูหลักสูตรแกนกลางเป็นหลัก
ไม่ใช่สักแต่ว่าคนออกท่านนี้จบมาจากสถาบันนี้ เรียนมาแบบนี้ ต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น
ดังนั้น ต้องแก้ไขที่ตัวบุคลากรก่อน และคนออกข้อสอบไม่ควรอีโก้สูง ต้องรู้จักปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง ข้อผิดพลาดอยู่เสมอ เพราะทุกคนย่อมต้องเคยทำผิดพลาด
7 วิชาสามัญ ก็สอบให้ละ
GAT-PAT ก็สอบให้ละ
ต้องการอะไรอีกไม่ทราบคะสทศ.
กว่าจะเข้ามหาลัยก็เครียดพอละ
ก่อนจบยังมี U-NET
จะให้เครียดตลอดหลักสูตรการศึกษา หรือยังไงคะ?
ข้อสอบมีคุณภาพมากกกกกกกก
ใช้ในการดำเนินชีวิตได้มากกกกกกกก
การศึกษาไทยเจริญขึ้นมากกกกกกกกกกกกก
ทุกที่เขาก็มีการสอบวัดระดับกันอยู่แล้ว
อย่าไปเพิ่มอะไรให้มันวุ่นวายเลยค่ะ
แค่นี้พวกเรานักเรียนนักศึกษาก็รู้สึกแย่กับ
"สทศ" มากแล้วค่ะ.
ผมมีทางออกครับ หากสทศ.ไม่ยอม
บอกว่าให้คนจบปริญญาตรีสอบใช่ไหมครับ
เราก็ไม่ต้องจบปริญญาตรีสิครับ
ไปจบปริญญาโทไม่ก็เอกเลยครับ ' w '
#ข้ามเม้นนี้ไป
ไม่เห็นด้วยค่ะ สทศ คุณคิดว่าจะวัดความสามารถของคนได้ด้วยกระดาษเท่านั้นเหรอคะ บางคนอาจจะไม่ฉลาด แต่เขาอาจมีความสามารถด้านอื่นที่ทดแทนกันได้ คนเก่งไม่จำเป็นจะต้องประสบความสำเร็จในชีวิตเสมอไปหรอกนะคะ เช่น พูดเก่ง ปรับตัวง่าย มีความอดทน มีความรับผิดชอบ มีความตั้งใจทำงาน เป็นต้น การทำงานมันไม่ง่ายขนาดที่จะวัดได้จากการทำข้อสอบหรอกนะคะ
คุณบอกว่าเด็กไทยเรียนแต่ในตำรา แล้วคุณทำอย่างนี้ จะไม่ให้เด็กเป็นอย่างนี้ได้ยังไงล่ะคะ เดียวก็อาจจะมีสถาบันติวสอบ U-NET อีก ดิฉันคิดว่า น่าจะเพิ่มการฝึกงานมากขึ้นไม่ดีกว่าเหรอคะ ได้ลองทำงานจริง เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งน่าจะทำให้เมื่อจบไปแล้ว ได้มีความพร้อมที่จะทำงาน
คือ แค่พวก O-NET GAT PAT นี่หัวเด็กนักเรียนก็จะระเบิดอยู่แล้ว ยังจะมาสอบอีกหรอ?
เพราะอย่างนี้ไงการศึกษาไทยถึงไม่เจริญไปไหน คงอยู่กับที่หรือไม่ก็ต่ำลงไปเรื่อยๆ อีกหน่อยคงจะเป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่มประเทศอาเซียนก็ได้
สอบเยอะเกินไปก็ไม่ได้ทำให้ไอคิวคุณสูงเท่าไอสไตน์หรอกนะ
เรื่องข้อสอบ เป็นเรื่องที่วัดมาตรฐานไม่ได้ ก็อย่างที่หลายเม้นบอกไป โดยเฉพาะ Critical Thinking เนี่ย มันวัดกันที่ช้อยส์หรือข้อเขียนไม่ได้ มันต้องวัดกันที่การลงมือทำ หลายๆส่วนก็ไว้ใจไม่ได้ ขืนออกมาแบบโอเน็ตได้ซวยกันหมด
สุดท้ายอยากฝากถึง สทศ ครับ
หรือข้อสอบผิดๆที่มีทุกปี ขอที เลิกเหอะ
ก่อนจะทำ U-NET ไปเเก้ข้อผิดพลาดในO-NETก่อนเถอะ
ออกข้าสอบมาชุดเดียว แล้วถ้าข้อสอบเกิดโน้มไปทางสายไหน สาขาไหนมากกว่า ก็เสียเปรียบกันแล้วดิ
แล้วถ้าบอกว่า "ก็ทำให้มันได้มาตรฐานสิ!" ไม่โน้มไปทางใดทางเดียว
ถามก่อน "ทำได้แน่ๆใช่มั้ย?"
จบ.
สอบ วิชาอะไรก้ไม่รุ อย่างผม เรียน ศิลปะการออกแบบ สาขาการถ่ายภาพ เสียเปรียนเห็น ๆ ผมไม่ได้เน้น ที่วิชาการเท่าไหร
จะตายของผมคือการถ่ายรูป ซึงเป็นการปฏิบัติ ที่ใช้ทำงาน ไม่ได้เกี่ยบกับข้อสอบที่จัดสอบเลย
ไอคนที่เห็นด้วยนี้จบมหาลัยแล้วชะ
สอบเพื่ออะไร ? ข้อสอบที่ใช้พิจารณาจากไหนใครเป็นคนออกข้อสอบ เราเป็นคนนึงที่เรียนศึกษาศาสตร์คือเมื่อจบออกไปเราต้องไปสอบเพื่อบรรจุครู แล้วจะให้สอบอีกทำไม? คือถ้าจะบอกว่าออกข้อสอบให้ตรงกับสาขาวิชาชีพคือคณะนึงก็มีหลายสาขาแล้วจะออกข้อสอบยังไง ?
คหสต ที่คิดว่าคนส่วนใหญ่ก็คิด ขอบคุณค่ะ
เอิ่มมมมมม ต้องเลือก 4 อันดับทำงานป่ะ???
การสอบมันไม่ใช่ทุกคำตอบของการใช้ชีวิต
เมื่อสอบจบออกมามันไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าคุณจะทำงาน ณ บริษัทแห่งนั้นได้หรือไม่ มันไม่ได้บอกว่าคุณจะอยู่กับอาชีพนั้นได้หรือไม่
สิ่งที่จะบ่งบอกว่าคุณ"ทำงานเป็น"หรือ"ใช้ชีวิต"หลังรั้วมหาลัยได้มันจำเป็นต้องมาจากการได้ทำงานในสายอาชีพที่เราได้เลือกตั้งแต่ตอนเข้ารั้วมหาลัย สายอาชีพที่เราเรียนมา 4 ปี เพื่อจบและไปทำงาน!
"ทฤษฎี"มันก็เป็นแค่กรอบ จำกัดนิยามต่างๆ ให้ได้เห็นภาพรวมๆที่แสนแคบ
แต่ในขณะหนึ่ง"การปฏิบัติ"จริงๆนั้นมันจะสร้างประสบการณ์เรียนรู้จริงๆ ที่จะสอนให้เราทำงานเป็น มีไหวพริบ มีความคิดในด้านอาชีพของเราโดยตรง
เรียนเพื่อให้มีความรู้พื้นฐานในการทำงาน
ไม่ได้เรียนเพื่อสอบ รู้ดีไปหมดทุกอย่าง แต่เป็นเพียงความรู้ที่ตื้นๆ แล้วทำงาน ใช้ชีวิตไม่เป็น
พูดได้แค่ว่า ไม่-เห็น-ด้วย-อย่างแรง อ่านความรู้สึกเพิ่มเติม จากคอมเม้นต์อื่น..
ที่จะเอาไปใช้ในตอนทำงานจริง
พ่อของผมบอกว่าพวก o-net สอบไม่ช่วยทำงานได้จริง
GAT/PAT อะไรมันนี่ไม่มีมาตรฐานเลย
เขายอมรับทั่วโลก หรือพวกช่าง/วิศวกร เขาใช้ใบเซอร์ รับรองส่วนใหญ่มันมีวิธีที่เป็นสากลอยู่ เช่น toeic toefl ภาษาอังกฤษที่
ใบCertificate คือใบรับรองความสามารถทางด้านงานของบุคคลากรในวงการไอทีว่ามีความรู้ความสามารถในด้านนั้นจริงๆ ยอมรับทั่วโลก
คนทำ Audit หากมี ใบCertificate ก็จะได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่าคนทำที่ไม่มี
ไม่เห็นด้วยแบบสุดติ่งกระดิ่งแมว!
การสมัครเข้าทำงานในแต่ล่ะที่เขาก็มีวิธีคัดเลือกของเขาเองอยู่แล้ว
สทศ. จะมาตั้งเป็นมาตราฐานเดียวเพื่ออะไร
เพราะที่ทำงานแต่ละที่มีความต้องการคนที่แตกต่างกัน
ข้อสอบO-net Gat Pat ไม่ได้ทำให้สทศ เห็นเลยหรือว่า
ข้อสอบมีปัญหา ยังจะจัดสอบเพิ่มขึ้นมาอีก
สุดท้ายคนที่ได้คะแนนเยอะ คือ ' คนที่ท่องเก่งกว่า '
วัดกับการทำงานได้ตรงไหน เวลาไปทำงานจริงๆ
พี่ที่ไปแต่ละคนกลับมาเล่าประสบการณ์ก็มีแต่บอกว่า
ใครที่เก่งแค่ท่องไปไม่รอดในโลกการทำงาน
ข้อสอบที่จัดให้สอบวัดอะไรได้ ก็แค่กาสี่ห้าตัวเลือก
วัดจริยธรรม? ตลกแค่กาให้ถูกเยอะๆคุณก็ดูเป็นคนมีจริยธรรมทั้งที่นิสัยจริงไม่ใช่น่ะหรอ
'ไม่มีคำว่าเกรดและสถาบันมาเกี่ยวข้อง'
เราเข้าใจบางที่ทำงานดูสถาบันเลือกรับคนที่มาจากสถาบันชั้นนำก่อนแต่ไม่ใช่ทุกที่!
ไม่วัดจากเกรดแล้วที่เรียนมาตลอดสี่ปีเพื่ออะไร ขนาดเกรดยังทำออกมาได้ไม่ดี ก็น่าคิดว่ารู้ว่าจะทำข้อสอบของสทศ.ได้ไหม
เพราะออกมาแต่ละที...ก็รู้กันอยู่
เกรดเป็นตัววัดความรับผิดชอบในเรื่องเรียนในความคิดเรา มันใช้วัดคนได้ในระดับหนึ่ง
สุดท้ายจะมีที่ทำงานหรือไม่ต่อให้สอบ U-net ได้เต็ม ยังไงก็แพ้เด็กเส้นอยู่ดี ถ้าจะให้พูดอ่ะ
-ที่เรียนตั้งสี่ปี.. มันไม่มีความหมายอะไรเลยหรอ?!
มันไม่ได้พิสูจน์ถึงความตั้งใจและความสามารถเลยหรอคะ?!
ไม่เห็นด้วยอย่างแรงงงงงงงง
คิดได้ไงอ่ะ -0- คือ ทำไมไม่เอาต่างชาติเป็นตัวอย่างอ่ะ เขาไม่ได้วัดกันที่ข้อสอบเลย บางคนเขาหัวดี แล้วความรับผิดชอบละ บางคนมั่วยังได้เยอะกว่าคนตั้งใจมาสอบจริงๆเลย คุณทำเผื่ออะไร คิดได้ไง ข้อสอบเอามาวัดเกรด แล้วที่ตั้งใจเรียนมาก็ไม่มีค่าสิน่ะ ทำไปได้
เพื่ออะไร ในการจัดสอบ U net
คนที่จะรับเข้าทำงาน เขามีวิธีการรับเข้าทำงานของเขาอยู่เเล้ว อาชีพเเต่ละอาชีพก็ทำงานต่างกันอยู่เเล้ว เเล้วเขารับอัตราการเข้าทำงานกี่คนล่ะ รับที เป็นร้อยเป็นพันไหม มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นไง เข้าใจพวกเราด้วย ไม่ใช่จะเเก้ไขที่ปลายเหตุ ดูต้นเหตุดิ
ก่อนอื่นผมขอท้าวความเรื่องการดูมหาลัยเป็นเรื่องสำคัญในการรับเข้าทำงานนะครับ
มหาลัยเป็นการ screening เด็กให้กับองค์กรได้ในระดับนึงครับ ถามว่าทำไมเด็กเหล่านี้ถึงสอบได้มหาลัยรัฐที่ดังๆได้ แล้วทำไมบางคนถึงไม่ได้ เราต้องยอมรับในระดับนึงว่าคนที่ได้ขยันกว่า เพราะในมหาลัยรัฐชื่อดัง (หมายถึงภาคปกตินะครับ) มีคละกันทั้งคน กทม คน ตจว ทั้งคนรวยและคนจน ดังนั้นเราจะสรุปว่าเค้าเลือกจากสถาบัน ฐานะ ก็ไม่ถูกนัก ในท้ายที่สุดมหาลัยที่ดีกว่า ก็ช่วยบอกได้ในระดับนึงว่าเด็กในมหาลัยดัง ก็ขยันกว่า
ต่อมาก็ว่ากันถึงนิสัยคนไทยนะครับ โดยปกติในใบสมัครหนะ เค้าจะให้กรอกความสามารถทางด้านภาษา กับความสามารถพิเศษอื่นๆ โดยปกติเค้าก็จะใช้ระดับคร่าวๆครับ ดีมาก ดี พอใช้ไม่ดี ประมาณนี้ ถามว่าคนที่สอบ toefl ได้เต็มเค้าต้องกรอกว่าตัวเองดีมากถูกมั้ยครับ ส่วนคนธรรมดาแค่พออ่านออกเขียนได้ พูดได้นิดหน่อย แค่พอใช้ผมว่าน่าเกลียดแล้ว แต่คนไทยชอบกรอกดีหรือดีมากกัน แล้วอย่างนี้บริษัทเค้าจะทำไงหละครับ
ในท้ายที่สุด บริษัทใหญ่ๆหลายๆแห่ง ก็จะใช้เกณฑ์วัดคร่าวๆ 2 อย่างครับ คือข้อสอบของตัวเอง และชื่อชั้นของมหาลัย (ผมยังไม่ได้พูดถึงมาตรฐานการเรียนการสอนของแต่ละมหาลัยนะครับ) การมีข้อสอบกลางจะช่วยให้องค์กรสามารถประหยัดทรัพยากรไปได้ประมาณนึง และเป็นการ screen เด็กได้ดีขึ้นกว่าแค่ชื่อเสียงของมหาลัยด้วยครับ แต่อย่างที่ว่าหละครับ ตัวข้อสอบต้องได้รับการยอมรับ จากทุกองค์กรด้วยความเต็มใจ (ลองดูตัวอย่างของ toefl toeic สิครับ ใครทำได้สูงๆ องค์กรเค้าก็เต็มใจรับเข้าทำงานทั้งนั้น)
ในที่สุดข้อสอบกลางก็เป็นเพียงบันไดขั้นแรก องค์กรเค้าไม่ได้ดูจากคนที่ได้คะแนนสูงสุดเข้าก่อน เหมือนเกรดเฉลี่ยนั่นแหละครับ อันนี้ผมพอมีประสบการณ์การันตีได้ พอถึงเวลาถ้าเกรดเฉลี่ยถึงระดับนึง (เกิน 3.00) เค้าก็จะมองเป็นเหมือนส่วนเสริมแต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก กลับมาเน้นที่สัมภาษณ์มากกว่า หลายๆคนได้งานโดยตัดหน้าคนเกรดดีๆ ก็มีเยอะครับ ฉะนั้นอย่าไปซีเรียสกับการสอบมากมายแค่เอาให้ถึงเกณฑ์แค่นั้น บริษัทเค้าก็แฮปปี้แล้วครับ (อยากบอกว่าเด็กไทยจบใหม่ ความสามารถต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็นเยอะเหมือนกันนะครับ)
ประเทศไทย ใช้งบประมาณในการศึกษาเป็นอันดับ 2 ของโลก
แต่มีประสืิทธิภาพในการศุึกษาเป็นอันดับที่ 88 ของโลก
ยังจะเผางบอีกเหรอคะ
จะได้ไม่เป็นภาระ
ของลูกหลานในอนาคต
ข้อสอบU-netมีไหมอะ
การทำงานไม่ใได้ใช้แค่ความรุ้ที่เรียนมาอย่างเดียว eq ทักษะการบริหา การปรับตัวทำงานร่วมกับผุ้อื่น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก้เป็นเรื่องสำคัญ เปลอๆมากกว่าที่เรียนมาซะอีก ความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านต่างหากที่สำคัญ ทำไมคนที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศเช่นสตีฟจ็อป บิลเกต ยังไม่จบมหาลัยด้วยซ้ำ
ไม่ทราบว่ากระทรวงศึกษาไทยว่างงานเหรอคะ เอาเวลาไปปรับปรุงระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานให้มันดีมีประสิทธิภาพมมากกว้านี้จะดีมั้ย
หรือต้องการโกงกินจากงบจัดสอบ onet anetไม่พอคะ
บางทีมันก็วัดกันไม่ได้น้ะ วัดความสามารถในการทำงานกันจะดีกว่า อยากได้คนที่มีคุณภาพ สทศ.ช่วยทำให้ตัวเองมีคุณภาพก่อนได้ไหม? ช่วยคิดด้วย อย่างนี้มันจะทำให้เด็กว่างงานเยอะนา สมองน้ะมีไหม?
ต้อง เสีย ตังค์ อีกป่ะ ??
สำหรับผมนะครับ ไม่เห็นด้วยครับ ก็อย่างที่เห็นในวิชาที่ต้องสอบจะมี 4 วิชาด้วยกัน แต่ก็จะมีอยู่วิชานึงคือ "การคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา และ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ" ผมคิดว่าคนเรามันมีทางแก้ปัญหาไม่เหมือนกันหรอกครับต่อให้มีวิจารณญาณอย่างไรก็ตาม เพราะว่าคนเราสามารถคิดวิธีแก้ปัญหาได้เป็นล้านวิธี ถ้าเกิดผมคิดว่าวิธีการแก้ปัญหาในวิธีของผมแล้มันดันไม่ตรงกับวิธีคิดของคนออกข้อสอบ อย่างงี้ผมก็ได้ 0 หน่ะสิครับ - -
ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
คือถ้า สทศ. ว่างมากก็เอาเวลาไปปรับปรุง o-net gat pat ให้ไม่มีปัญหาและได้มาตรฐานก่อนดีกว่ามั้ยคะ. แค่ o-net gat pat ยังเอาไม่รอดเลย จะมาจัดสอบ u-net
ปล.การทำงานวัดที่การปฏิบัติงานนะคะ ไม่ใช่วัดที่ข้อสอบคะแนนสอบ
ยังจะตามมารังควานไปถึงไหนอิสถาบันเวรตะไล
กะอีแค่ o-net ข้อสอบ เวลาทำยังอ่านแล้วเอือมกับคนออกเลย ... ถามหน่อยว่าความคิด ที่คุณเอามาออกเนี่ย มันใช้ได้จริงหรอ สิ่งที่พวกคุณคิดพวกคุณออก มันเป็นเพียงสิ่งที่มีแค่ในตำราป่ะ ? แล้ว-ตำราเนี่ยตั้งแต่ชาติไหน ยิ่งนาน ยิ่งต่ำลง ! หัดมองโลกความเป้นจริงสักหน่อย เลิกมโนกันเอง .... ถามเด็กที่เป็นคนทำในอนาคตซะบ้าง ไม่ใช่ว่าคุณว่าง ก็สักแต่ว่าผลานงบเล่นๆ เผลอๆมันจะกินงบกันเอง แต่เอา U-net มาอ้างซะด้วยซ้ำ ... โตๆกันแล้ว หัดมีจิตสำนึกของสาธารณะบ้างเถอะ ... เลิกดักดานซักทีเถอะ โตๆกันแล้ว ...... อย่ามาวัดกันที่ตัวเลข วัดกัันที่ฝีมือสิ !
คือสมมติคนที่หางานใหม่ เค้าก็ต้องมานั่งสอบยู เน็ต ทั้งๆที่เรียนจบมาเป็นสิบปี?? คือที่ทำงานอ่ะ หนูว่าใครๆก็ต้องหาคนเป็นประสบการณ์ ไม่ใช่มานั่งฝึกเด็กใหม่ ไม่งั้นเค้าจะให้มีการฝึกงานในปีสุดท้ายทำไม เรื่องนั่งท่องจำแล้วมาสอบมันคงไม่มีแล้ว การสื่อสารถามว่างานไหนล่ะที่คุณเอาเป็นเกณท์ว่าต้องสอบอ่ะ แบบแม่บ้าน ต้องไปนั่งสอบยูเน็ตได้ไหม แคชเชียร์? สมัยก่อนแคชเชียร์บางที่รับปริญญาตรี แบบในอิมแพค ตอนนี้ลดเหลือม.6 แล้วแต่ละคณะ เช่นนิเทศน์ บริหาร วิศวะ แพทย์ จะให้มันสื่อสารไปในทิศทางเดียวกันได้ไหมอ่ะค่ะ ข้อสอบอ่ะ เพราะการเรียนก็ต่างกัน มัธยมคุณทำได้ เพราะมีแค่1.สามัญ 2อาชีพ ส่วนใหญ่ก็จะสามัญที่สอบ ทำให้ยังพอแบ่งข้อสอบได้ แต่เมื่อเรียนมหาลัย คุณจะแบ่งมันเป็นคณะ?? แล้วก็แต่ละสถาบันสอนไม่เหมือนกัน อันนี้บอกว่าเคยซิ่วมา จากเอกชนมาหาเอกชน เอกชนเหมือนกันสอนไม่เหมือนกัน ที่แรกก็อินเตอร์ คำว่าอินเตอร์คือเจอแต่อังกฤษ อังกฤษ เราได้เปรียบ แต่ไทย เราไม่ได้ใช้มันเเต็บรูปแบบเหมือนมัธยมมาสี่ห้าปีอ่ะ เพราะมหาลัยเค้าคงไม่เน้นไทยเยอะเหมือนเด็กหรอกค่ะ มาที่ใหม่ภาคไทย ก็แค่เจอหนังสือเป็นภาษาไทย อาจจะได้เปรียบตรงสื่อสารภาษาไทย แต่อังกฤษก็สู้อินเตอร์ไม่ได้ แล้วบริษัทจะใช้คะแนนยังไงอ่ะคะ ที่สำคัญบริษัทมีข้อสอบของพวกเขาเอง ถ้าที่ไหนใช้ภาษา มันมีข้อสอบอื่นรองรับอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล ถ้าคุณสร้างข้อสอบที่ทั่วโลกให้การยอมรับได้ นั่นแหละที่ควรสร้าง หรือถ้าต่างชาติมาทำงานในไทย เค้าก็ต้องสอบภาษาไทย? หรือไม่ต้อง ถ้าไม่ต้องนี่ก็คือคุณติดปีกให้พวกต่างชาติมาทำงานในไทย ส่วนคนไทยต้องนั่งสอบ เคยไปสมัครงาน เจอข้อสอบมาแล้วคืออังกฤษ เค้าไม่ได้ถามอะไรมากหรอกค่ะ เหมือนทดสอบว่าเรามีความสามารถอะไรบ้าง เท่านั้นเอง
คือแบบ เป็นอะไรที่ ไร้สาระมาก สทศ คงว่างมาก ถึงได้มีเวลามาทดสอบอะไรงี่เง้า เอาเวลาไปแก้ไข ตรวจสอบข้อสอบต่างๆ ไม่ให้ผิดพลาดจนเกิดปัญหาดีกว่านะ หรือไม่ก็ไปพัฒนาบุคลากร ไปจัดทดสอบบุคลากรดีกว่ามั๊ย ที่ทำให้ผลการทดสอบระดับชาติของเด็กไทยตกต่ำ ครองแชมป์ประเทศที่เด็กสติปัญญาต่ำสุดใน AEC อย่ามาจัดสอบเลยย แค่กว่าจะหางานได้ก็ยากละ อย่ามาเพิ่มภาระให้อีกเลยย ขอร้องล่ะ หยุดเถอะ!!!
จะให้สอบเยอะไปไหนวะคับ
แค่อันเก่าก็เยอะเกินแล้ว
แล้วไอที่สอบมาเนี่ย มาตรฐานแม่ม ยังไม่มีเรย
แล้วในพวก O-net อ่ะ สีผ้าปูโต๊ะ เมิงออกมาทำไมวะคับ
แล้วจะมีการฝึกงานเพื่อ?
อย่างน้อยการฝึกงานมันก็มีมาตราฐานของแต่ละองค์กรนิครับ
ถึงจบสาขาเดียวกันแต่ทักษะของแต่ละมหาลัย สทศ จะรู้ได้ยังไงว่า"ข้อสอบ" มีมาตราฐานพอที่จะชี้วัดคุณภาพ ของ นศ.จบไปแต่ละคน ขนาด ม.6 แต่ละสถาบันบางที่ ยังไม่เอาคะแนน จากสทศ มาพิจารณาเป็น-ส่วนในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเลย
ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
ถ้าผมเรียนนิเทศ เเต่ได้ไปทำงานเป็นพนักงานบริษัทล่ะ มันก็ไม่แฟร์กับคนทำงานดิ บ้างที สิ่งที่เราเรียนมา อาจไม่ได้ใช้กับงานที่เราทำอยู่ก็ได้นิ มีออกเยอะเรียนอย่างหนึ่งได้ทำงานอีกอย่างหนึ่ง ถ้ามีสอบ U net รับรอง คนตกงานเพียบ
แค่ O-NET กูยังเปื่อยเลย มาเจอ U-NET กูจะไม่เน่าเลยหรอ
อกอย่างแต่ละคณะเขาเรียนต่างกันนิน่า แล้วจะสอบข้อเเดียวกันได้ไง
เอะอะๆ ก็สอบ มันเหนื่อยอ่ะ!!!
แค่เรียนมัธยมปลายก็ต้องเจอกับ O-net GAT PAT จนเอียนหน้า สทศ. จะแย่อยู่แล้ว
พอถึงเวลาที่หนูขึ้นมหาลัยเนี่ย...ก็ปล่อยหนูไปเถอะค่ะ ขอร้อง -__-'
ส.ท.ศ. ผมว่าคัดเลือกสอบกันก่อนเถอะใครโง่ก็เอาออกไป
หนักหน้าไหม สทศ.
สถาบันเสื่อมโทรมลดศักยภาพ
ฮั๊วด๋ออออ!!!!
สรุปแล้วทั้งชีวิตเด็กไทยจะมีแต่ การสอบ และทั้งชีวิตจะ ขึ้นอยู่กับการสอบ อย่างเดียวเลยหรอ
ไม่เห็นด้วยอย่างมากค่ะ มหาลัยเรียนเจาะไปตามสาย จะให้มาสอบข้อสอบเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่อง แต่ละมหาลัย แต่ละคณะก็เรียนไม่เหมือนกัน ถ้าแน่จริงทำข้อสอบเฉพาะมหาลัยนี้ คณะนี้เลยสิ ทำไหวป่ะคะ !!!!
ต้องสอบป้ะ???
จะสอบ U-net แก้ไข O-net ให้ดีก่อนนะคะ
เอาแรง!!เลยได้ปะ -คุ๊...คู้ว..คว..!!! ลำบากอีกละทำของเดิมๆให้ดีเหอะ -หน้าคุ๊...คว!!
ไม่สน
ไม่สอบ
ชีวิตหนูไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อสอบ !!!!!!
เรียนเก่งมาก เกรด 4 ทุกวิชา สอบ U-NET ผ่าน !!! แต่ทำงานออกมาแย่ ถึงแย่มาก !!! แล้วจะมีประโยชน์อะไร !!! ไม่พูดอะไรมาก ในฐานะคนทำงาน มันแย่มากค่ะ !!! จบมาเป็น 4-5 ปีละ จะหางานใหม่ ที่ไหนจะรับ !!!
ไม่เหนด้วยค่ะ เพราะ ประเทศไทยนี้มีแต่การสอบๆๆ
การสอบมันไม่ได้วัดคุณภาพของเด็กเสมอไปหรอกนะคะ
เด็กที่เรียนทุกววันนี้มีแต่การสอบๆๆ สอบโน่นนี่นั่นเต็มไปหมด
บางที สทศ.ก็น่าจะจัดสอบให้คนในองค์กรบ้างนะคะ ว่าผ่านตามมาตรฐานหรือไม่
โลกมันอยู่ยากขึ้นเนาะ !
ทุกวันนี้นักเรียนนักศึกษาจมปลักอยู่กับการสอบ ..
ถามหน่อยแต่ละสถาบันหลักสูตรมันเหมือนกันป่ะ
อย่าปิดกั้นบุคคลที่หัวช้าเลยค่ะ สำหรับเราทุกวันนี้สอบไล่ก็แย่แล้ว - -*
ที่อนาคตการศึกษาไทยไม่ก้าวหน้าสักที เพราะ ผู้ใหญ่คิดแต่ว่าจะวัดคนที่คะแนนสอบกันอย่างเดียว ปลูกฝังเด็กแค่ว่าคุณทำคะแนนได้ดีอนาคตคุณก็ดี ทีนี้เด็กไทยเรียนไปเพื่ออะไรคะ ตอนม.ปลายก็เรียนเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย มีใครคิดถึงว่าชั้นอยากได้ความรู้จังเลยตอนเรียนนี่นับว่ามีน้อยมาห เด็กไทยทุกคนเอาแต่เรียนๆๆๆ เรียนในห้องไม่พอยังต้องไปเรียนพิเศษเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทีนี้คุณอยากขะสอบ u-net อีกเพื่อปลูกฝังให้เด็กไทยยึดติดกับคะแนนสอบมากขึ้น เหอๆๆ แล้ววิชาที่คุณจัดสอบมันเป็นวิชาที่สถานที่ทำงานแต่ละที่เค้ามีวิธีวัดของเค้าอยู่แล้ว ภาษาอังกฤษตอนนี้เค้าก็ดูกันที่คะแนน Toefl toeic อะไรพวกนร้กันอยู่ปล้วมั๊ย และชั้นมั่นใจด้วขว่าข้อสอบประเมิณผลของเค้ามีประสิทธิภาพมากกว่าคุณและเป็นข้อสอบที่ได้รับการยอมรับอยู่แล้วด้วย ทีนี้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารมันวัดแค่การทำข้อสอบไม่ได้หรอกนะคะไม่งั้นเค้าจะมีการสัมภาษณ์งาน การทดลองงานอะไรพวกนี้ทำไม แต่ละที่ทำงานเค้าก็มีวิธีประเมินผลอยู่แล้วโดยสังเกตทั้งความสามารถในการทำงาน งานทำงานร่วมกับผู้อื่น การสื่อสาร แล้วข้อสอบของคุณมีประโยชน์อะไรมากกว่าที่เค้าทำกันอยู่ในปัจจุบันคะเค้าถึงต้องมาใช้ข้อสอบของคุณเป็นหลักเกณในการวัด สุดท้ายฝากถึงสทศนะคะ อย่าประเมิณคุณค่าของคนที่ผลคะแนน แต่คุณดูคุณค่าของคนที่ผลงานที่เค้าทำดีกว่านะคะ อย่าฝึกเด็กไทยให้ยึดติดกับคะแนนมากไปกง่านี้เลย อย่าทำลายชีวิตของเด็กด้วยข้อสอบที่ไม่รู้ว่าจะได้คุณภาพหรือเปล่าของคุณ
เอาให้ครบ 26 Net เลยนะจ๊ะ
ก่อนจะเข้าโลงตอนตายต้องสอบ Z Net ด้วย
ประเทศนี้เรียนเพื่อไปสอบจริงๆ ..
ขอเหตุผลคนที่โหวตเห็นด้วย อยากทราบทัศนะคติ
รัฐบาลเอ๋ย ตรงไหนควรแก้ไม่แก้ ไปแก้อันที่มันดีอยู่แล้ว ที่จริงมันก็ไม่ได้ดีอยู่แล้ว ตอนนี้มันแย่กว่าเดิม
เรื่องที่สอบมันไม่ได้ตรงกับสายที่เรียนมาเลยสักนิด ไม่ทราบว่าจะให้สอบเพื่อ????
เหนื่อยจริง อะไรจริงครับ แหมะ ==
สงสารลูกหลาน เดี๋ยวต่อไป มันได้สอบ A-Z net แน่ - -
ต่างชาติเรียนน้อยกว่า สอบน้อยกว่า ใช้งบน้อยกว่า
แต่ทำไมเจริญกว่า คิดเอาเองนะครับ ผู้ใหญ่
เพื่อเข้าอาเซียนหรอกคับ
เห็นๆกันอยู่แล้ว
W-net สอบทำงาน
M-net สอบแต่งงาน
R-net สอบเกษียณ
D-net สอบตาย
?#เอาให้ครบเลยปะ? - -*
วันๆไม่ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ ยังทำตัวกินตังคนอื่นเขาอีก
ผุ้ใหญ่ไทยคิดได้แค่กินตังรึไง
ยกตัวอย่างนะครับ ข้อสอบสังคม Onet ปีล่าสุด - "สะพานพระพุทธยอดฟ้าสร้างขึ้นเพื่ออะไร" ข้อสอบแบบนี้มันไม่ได้ตรงหลักสูตรอะไรเลย คนที่ไม่ได้อยู่กรุงเทพหรือปริมณฑลจะไปรู้เหรอครับ คือมันวัดอะไรไม่ได้เลย กับ ระดับมหาวิทยาลัย สทศ ถ้าจะจัดสอบ U-NET จริงๆ ก็ต้องทำข้อสอบเป็น 100 กว่าชุด เพราะมันมีหลายคณะ หลายสาขา แต่ผมว่าที่ สทศ จะทำจริงๆ คือ จัดสอบแค่ไม่กี่ชุดข้อสอบ เอากำไรมากกว่า เพราะฉนั้นช่วยกันหยุดการกระทำที่ไม่ได้ส่งผลดีอะไรเลยต่อประเทศไทย ครับ
"การศึกษาไทย ที่ยังย่ำแย่จนถึงปัจจุบัน ก็เพราะ สทศ นี่แหละครับ บีบให้คนไทยเรียนเพื่อสอบ ไม่ได้นำไปใช้จริง และบีบให้คนไทยต้องไปเสียเงินค่าเรียนพิเศษเพิ่ม เพื่อให้สอบข้อสอบที่ไม่ตรงหลักสูตรของ สทศ ได้"
ประเทศไทยทำไมบ้าการสอบขนาดนี้ ต่างประเทศเขาไม่เห็นสอบเยอะเหมือนเรา แต่เขานำเราไปกี่ก้าวแล้ว การสอบไม่ได้วัดได้ทั้งหมดหรอก พอจะสมัครงานบริษัทเขาก็จะมีการทดสอบผู้สมัครในวิธีของเขาอยู่แล้ว มาตราฐานกับความต้องการของแต่ละที่มันไม่เหมือนกัน หาเรื่องเสียเงิน เสียเวลาเปล่าๆ
รู้ข่าวแล้วเพลียค่ะ สอบตอน ม.ปลายยังพอรับได้นะคะ แต่เข้ามหา'ลัยแล้ว จะเรียนจบทั้งที จะหางานทั้งที อยากให้วัดความสามารถของคนเราที่ทักษะการทำงานของแต่ละบุคคลมากกว่าค่ะ ไม่ใช่คะแนนสอบ เพราะคะแนนสอบไม่สมควรนำมาใช้กำหนดชีวิตการงานใคร เก็บความหวังดีของคุณไว้เถอะคะ พับโครงการฝังใต้ดินลึกลงไปถึงแกนโลกก็จะดีมากค่ะ เพราะการที่คุณหวังดีช่วยเพิ่มมาตราฐานรับคนเข้าทำงานให้แก่บริษัทต่างๆเป็นการทำลายอนาคตของบุคลากรในประเทศคุณเอง พิจารณาดูนะค่ะ
ปล.อาจจะกล่าวเกินจริงไปหน่อยแต่ถ้าคิดดูดีๆมันก็อาจจะเป็นจริงได้ อย่าก้าวก่ายชีวิตการทำงานใครเลยนะคะ แค่ม.ปลายก็เกินพอแล้วค่ะ
ก่อนจบจากมาลัย มันต้องผ่านทุกวิชาที่จำเป็นในอาชีพนั้นๆอยู่แล้ว ถ้าไม่ผ่าน ก็ไม่จบ
แล้วจะมาจัดสอบซำ้เพื่ออะไร ไม่เข้าใจจริง หรือคะแนนน้อย ให้กลับไปเรียนใหม่ ต้องการอย่างนี้ หรือคะ
-ทำงานวิจัย
-ไปทดลองงาน
-ไปหาที่ทำงาน ฯลฯ
แต่กลับต้องมานั่งอ่านหนังสือสอบที่ไม่รู้ว่าจะออกข้อสอบอะไรบ้าง เพราะที่เรียน คณะแต่ละคณะ สาขาแต่ละสาคา ก็เรียนไม่เหมือนกัน
แล้วจะเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ในการทำข้อสอบ เกณฑ์ในการตั้งข้อสอบว่าต้องเป็นวิชาอะไรบ้าง ดิฉันว่าการที่คุณมานั่งคิดสิ่งเหล่านี่ คุณควรเอาเวลาไปทำข้อสอบให้ดีกว่านี่นะ เพราะแค่การที่ข้อสอบ o-net ที่ใช้ความคิดของคนออกข้อสอบเป็นเกณฑ์ก็แย่แล้ว
หรือไม่คนที่ออกข้อสอบลองมานั่งทำข้อสอบเองดูดีไหม เพราะการที่คุณจะออกข้อสอบก็หมายความว่าคนออกก็ต้องทำได้ ไม่ใช้สักแต่ว่าจะทำให้คนอื่นสอบนะ
พวก หัวดีเรียนเก่ง แต่ทำห่าไรไม่เป็นเลย ง่ายๆ ก็คือฉลาดอย่างเดียวมันก็ได้เปรีบพวกที่ ไม่เก่งแต่มีีความสามารถดิคับ -*-ไม่เห็นด้วยอย่างแรงเลย
ถ้าใช้ U-NET สอบเข้าไปทำงานใน สทศ. ก็ว่าไปอย่าง :D
เพื่อ!?!
บอกตรงๆนะ
ถ้าบริษัทใช้คะแนนนี้รับคนเข้าทำงานจริงๆ...
บริษัทเจ๊ง เพราะมีแต่คนเก่งทฤษฎีแต่ทำงานหยิบหย่งไม่เป็นท่า
หยุดเถอะ สทศ ก่อนที่จะโดนเด็กทั้งประเทศรุมถอนหงอก
อยากบอกเลยว่า คนที่คิดเรื่อง U-NET นี้ คุณลองทดสอบตัวเองหรือยัง ถ้าคุณผ่าน โอเคผมยอมรับส่วนหนึ่ง แต่อีกด้านคือการปฏิบัติและความเอาใจใส่ในการทำงานนะครับ ซึ่งข้อนี้ก็สำคัญไม่น้อยเลยนะครับ ทั้งขี้เกียจ การพูด การบริการแย่มีพอควรเลย
ตั้งใจอ่านแค่หนังสือ รอสอบ u-net มันอย่างเดียว. เกรด การฝึกงาน อย่าได้แคร์ เอาพอจบๆ แบบนั้นใช่ไหมค่ะ สทศ เพราะยังไงก็มีค่าเป็นศูนย์ ยังไงก็ต้องเริ่มต้นใหม่ที่ u- net พร้อมกันอยู่แล้วนิ เอาเลยค่ะ อนาคตของชาติที่คุณอยากได้ แบบนี้ใช่ไหมค่ะ.เพลียกัน สทศ ตั้งแต่ 7 วิชาสามัญ gat pat o-net ล่ะ ห่วยมากกกกก. ฉันยังจำได้อยู่เลย ปีที่ฉันสอบ มีอารมณ์ทางเพศต้องทำไง ตอนอ่านนี่ โคตรเพลีย เนี๊ยหรอค่ะ ความคิดของผู้ใหญ่ในประเทศ
ตั้งใจอ่านแค่หนังสือ รอสอบ u-net มันอย่างเดียว. เกรด การฝึกงาน อย่าได้แคร์ เอาพอจบๆ แบบนั้นใช่ไหมค่ะ สทศ เพราะยังไงก็มีค่าเป็นศูนย์ ยังไงก็ต้องเริ่มต้นใหม่ที่ u- net พร้อมกันอยู่แล้วนิ เอาเลยค่ะ อนาคตของชาติที่คุณอยากได้ แบบนี้ใช่ไหมค่ะ.เพลียกัน สทศ ตั้งแต่ 7 วิชาสามัญ gat pat o-net ล่ะ ห่วยมากกกกก. ฉันยังจำได้อยู่เลย ปีที่ฉันสอบ มีอารมณ์ทางเพศต้องทำไง ตอนอ่านนี่ โคตรเพลีย เนี๊ยหรอค่ะ ความคิดของผู้ใหญ่ในประเทศ
พอเถอะ แค่นี้เด็กยังแย่ไม่พอใช่ไหม สอบมาแล้วก้ใช่ว่าจะดี เราไม่เชื่อมั่นพวกคุณแล้ว
ลองมาเป็นคนสอบบ้างไหมล่ะ ??
คุณ สถาบันทำลายการศึกษาแห่งชาติ
ปล. จะให้สอบอะไรนักหนาฟระ
พอเถอะ แค่นี้เด็กยังแย่ไม่พอใช่ไหม สอบมาแล้วก้ใช่ว่าจะดี เราไม่เชื่อมั่นพวกคุณแล้ว
ลองมาเป็นคนสอบบ้างไหมล่ะ ??
คุณ สถาบันทำลายการศึกษาแห่งชาติ
ปล. จะให้สอบอะไรนักหนาฟระ
วิธีการคัดกรองคนเพื่อเข้าทำงานในแต่บริษัท
เขาก็มีวิธีของเขาอยู่แล้วหรือเปล่า
ทำไมจะต้องเอาข้อสอบไปทำอีก
แล้วพวกที่เก่งปฏิบัติจะไม่แย่หรอ
เรื่องบางเรื่องทฤษฎีจากที่เราสอบก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยมั้ง
วิธีการคัดกรองคนเพื่อเข้าทำงานในแต่บริษัท
เขาก็มีวิธีของเขาอยู่แล้วหรือเปล่า
ทำไมจะต้องเอาข้อสอบไปทำอีก
แล้วพวกที่เก่งปฏิบัติจะไม่แย่หรอ
เรื่องบางเรื่องทฤษฎีจากที่เราสอบก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยมั้ง
หยุดทำลายการศึกษาไทยสักทีเถอะ สทศ.
ปล.ลองให้พวกคุณมาสอบมานั่งสอบดูบ้างจัง
ดีแต่นั่งอยู่ในห้องแอร์สบายๆ กินเงินเดือนไปวันๆ
เมื่อไหร่สทศจะเลิกทำร้ายเด็กไทยสักที
ทำไมต้องให้ไปสอบข้อสอบที่ห่วยแตกไร้สาระ แต่ละคณะแต่ละเอกเรียนเหมือนกันที่ไหน จะเอาข้อสอบมาวัดได้ยังไง?
คิดได้ยังไงเนี่ยอยากรู้จริงๆ หยุดไร้สาระได้เเล้วสทศ
สทศลองไปสอบข้อสอบ O-net มัธยม ให้ผ่านก่อนดีไหมครับ แล้วค่อยมาออกข้อสอบ?
การสื่อสาร บางทีมันก็สื่อสารออกมาได้หลายรูปแบบไม่ใช่หรอครับ ไม่ใช่ว่าจะพูดประโยคนี้ ก็ต้องพูดเป้นแบบนี้แบบเดียวเท่านั้นถึงจะถูก
ขอบคุณสทศ. ที่ทำให้ผมรู้ว่า คุณธรรมกับจริยธรรม สามารถทดสอบได้ด้วยกระดาษและคำถาม ผมนึกว่าการวัดว่าใครมีคุณธรรมมันจะอยู่ที่การทำตัวซะอีก
ก่อนจะมาทดสอบคุณธรรมของใคร เลิกเผาผลาญงบอย่างไร้ประสิทธิภาพก่อนดีไหมครับ?
ปล. คุณต้องการอะไรจากสังคม?
อยากรู้ว่า สทศ จะเอาเกณฑ์อะไรมาวัด เพราะเด็กมหาลัยเรียนสาขาวิชาที่แตกต่างกัน
คุณจะเอาหน้าที่ชีวิตการงานทั้งชีวิตของคุณมาฝากไว้กับ U-net หรือคะ ปัญาชนกันแล้ว คิดหน่อยนะคะ การทำงานเค้าวัดกันที่ความสามารถ ไม่ใช่คะแนนสอบที่ไม่ได้มาตรฐาน มีข้อผิดพลาดตลอด คุณกล้าเอามาวัดอนาคตหรือคะ
สอบๆๆๆๆๆๆ อะไรนักหนา คิดว่าการสอบแล้วมันจะทำให้เด็กมีคุณภาพมากหรอฟ่ะ!!! คุณภาพและคุณค่าความเป็นคนของเด็กมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการสอบ วันๆว่างมากหรอมานั่งเปลี่ยนนี่เปลี่ยนโน่น ให้เด็กเครียดเล่นหรอ!!! เกลียดว่ะไิองค์กรแสวงหากำไรเข้ากระเป๋า -*-
สอบๆๆๆๆๆๆ อะไรนักหนา คิดว่าการสอบแล้วมันจะทำให้เด็กมีคุณภาพมากหรอฟ่ะ!!! คุณภาพและคุณค่าความเป็นคนของเด็กมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการสอบ วันๆว่างมากหรอมานั่งเปลี่ยนนี่เปลี่ยนโน่น ให้เด็กเครียดเล่นหรอ!!! เกลียดว่ะไิองค์กรแสวงหากำไรเข้ากระเป๋า -*-
สอบเพื่อ??
ให้ สทศ สอบเองก่อนสิคะ
คะแนน 300 เท่า gat pat
ถ้าได้มากกว่า 280 อยู่ผลาญเงินคนไทยต่อ
น้อยกว่า 250 หักเงินเดือน 50 เปอร์เซ็นต์
ได้น้อยกว่า 200 ไล่ออก
เอาไหมล่ะ อย่าใช่ข้ออ้างแย่ๆมาแถเอาเงินคนอื่นเค้า
จะมีข้อสอบตอนกูเกษียรอีกไหมเนี่ย ประมาณว่าแบบ สอบไม่ผ่านห้ามลาออกจากงานไรประมารนี้ บ้าเอ๊ยยย
คุณภาพของนักศึกษาที่จะไปทำงานมันไม่ได้วัดที่ว่ามีสมองในการสอบอย่างเดียวนะ มันวัดที่การทำงาน การปฏิบัติงานด้วย
ก่อนที่คุณจะมาวัดความรู้ในสมองของเด็กมหาลัยคุณวัดความรู้ของตัวคุณเองก่อนไหมว่ามีมากพอในการเป็น สทศ. หรือป่าว?
ในยุคสมัยของพวกคุณยังไม่มีสอบทำไมพวกคุณถึงก้าวมาตำแหน่งสูงๆได้ คุณลองไปคิดเอาเองนะ สทศ.
นี่ขนาดยังไม่รวมสิ่งที่เด็กมัธยมต้องสอบอีกนะ ทั้ง GAT PAT O-NET clearing house ไหนจะต้องอ่านหนังสือเพื่อสอบตรงเข้ามหาลัยอีก ไหนจะต้องสอบสัมภาษณ์อีก
เด็กไทยสอบจนเป็น บ้า ไปหลายรายแล้ว!!!!
คุณจะคิดโครงการพัฒนาอะไรก็ช่วยคิดให้มัน สร้างสรรค์ด้วยนะ ไม่ใช่สักแต่ว่าจาคิดโน่นนี่ขึ้นมา
เพราะแค่ตอน นี้คุณก็ทำลายโอกาศทางการศึกษา โอกาศที่จะทำตามฝันของเด็กมัธยมไปมากพอแล้ว อย่าทำลายอนาคตในหน้าที่การงานของเด็กมหาลัยอีกด้วยการสอบ U-NET อีกเลย!!!
ปล.เด็ก ไทยไม่ได้โง่นะ รางวัลการันตีก็มีมากมาย แต่ทำไมโพลถึงออกมาว่าโง่หละ....ก็เพราะว่าการวัดผลทางการศึกษาของพวกคุณ คุณ คุณ ที่อ้างว่ามันดีไงหละ
อยากตาย...ผมจะต้องเรียนพิเศษอีกมากเเค่ไหน...;(
เด็กสายอาชีพบางคนไม่มีโอกาสที่จะสอบ gat pat หรือ o-net อะไรอย่างนี้เลย ซึ่งเนื้อหาเป็นอะไรที่สายอาชีพเสียเปรียบแร้ว ถ้าจะวัดข้อสอบจริงๆ ต้องยุติธรรมทุกฝ่ายนะค่ะ บางคนรู้อย่างโน้น บางคนไม่รู้อย่างนี้ แล้วข้อสอบมันจะช่วยอะไรค่ะ ทำอย่างกับว่าทุกคนจะเก่งทุกวิชาในข้อสอบหรือค่ะ?
เข้าใจเบื้องต้นว่า ผลสอบ U-net ใช้เพื่อพิจารณาเข้าทำงาน?
แล้วในการพิจารณา จะใช้ผล U-net ควบคู่กับ เกรด ด้วยหรือไม่?
นาย ก. เป็นคนเรียนดี แต่ผล U-net ไม่ดี(ถึงแม้จะเป็นไปได้ยาก)
ถ้าดูผล U-net แล้วเกรดที่ตั้งใจทำมา?
นาย ข. เป็นผลการเรียนไม่สวยนัก ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด แต่มาตั้งใจ ติวสอบ U-net แล้วผลก็ออกมาดี? หมายความเรียนให้ผ่านๆ แล้วค่อยมาเน้น U-net อย่างเดียว?
ปล.เหตุผลอาจไม่ดี แต่ที่เจ็บใจ คือ อะไรๆ ใหม่ๆ ทำไมมันต้องมาเกิดกับรุ่นตูเป็นรุ่นแรกตลอดเลย? T.T
เข้าใจเบื้องต้นว่า ผลสอบ U-net ใช้เพื่อพิจารณาเข้าทำงาน?
แล้วในการพิจารณา จะใช้ผล U-net ควบคู่กับ เกรด ด้วยหรือไม่?
นาย ก. เป็นคนเรียนดี แต่ผล U-net ไม่ดี(ถึงแม้จะเป็นไปได้ยาก)
ถ้าดูผล U-net แล้วเกรดที่ตั้งใจทำมา?
นาย ข. เป็นผลการเรียนไม่สวยนัก ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด แต่มาตั้งใจ ติวสอบ U-net แล้วผลก็ออกมาดี? หมายความเรียนให้ผ่านๆ แล้วค่อยมาเน้น U-net อย่างเดียว?
ปล.เหตุผลอาจไม่ดี แต่ที่เจ็บใจ คือ อะไรๆ ใหม่ๆ ทำไมมันต้องมาเกิดกับรุ่นตูเป็นรุ่นแรกตลอดเลย? T.T
ที่เจ็บใจ คือ อะไรๆ ใหม่ๆ ทำไมมันต้องมาเกิดกับรุ่นตูเป็นรุ่นแรกตลอดเลย? T.T
R.I.P. สทศ. กับความเสื่อมถอยทางการศึกษาอีกก้าวใหญ่ๆ
เอางี้ถ้าอยากให้สอบวัดผลอะไรนักหนาก็ สอบฟรีสิ สอบเยอะไปป่ะ ? เปลืองงบ !!!
สำหรับผมการทำงานมันก็คือส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตละในแต่ละวันที่ดำเนินชีวิตของผมมันมีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดมาก่อนผมต้องใช้การตัดสินใจเพื่อให้เหตุการณ์ที่ผมเจอออกมามีแนวโน้มไปในทางที่ดีและน่าพอใจซึ่งคะแนนสอบต่างๆมันไม่สามารถนำมาวัดอะไรได้หรอกเพราะการตัดสินใจนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละบุคคล บางคนอาจจะได้คะแนนสอบ100เต็ม แต่หากคุณได้ลองมาทำงานแล้วจะเจออีกหลายๆอย่างที่สำคัญกว่าคะแนนสอบ ทั้งเพื่อนร่วม อุปสรรคต่างๆอีกมากมาย และเพราะการสอบนี้เด็กส่วนใหญ่จึงต้องเรียนพิเศษสำหรับผมผมว่าเอาเวลาเรียนพิเศษไปทำงานลองหาประสบการณ์จากงานที่ตัวเองอยากจะทำไม่ดีกว่าหรือ??
ปล.อันนี้สำหรับความคิดของผมนะครับความรู้สำคัญก็จริงแต่ประสบการณ์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ปล.2อ่าไม่ได้จะบอกว่าเรียนพิเศษไม่ดีนะเพราะผมก็เรียน555แต่ก็หางานทำไปด้วยได้เจอคนมากหน้าหลายตานิสัยแต่ละคนไม่เหมือนกันคับผมเลยคิดว่าประสบการณ์ก็มีความสำคัญอิอิ
ปล.3 "ความคิดเห็นส่วนตัววววววววววววว"
เชื่อเหอะ!!!
เราค้านไปก็ไม่มีประโยชน์
มันไม่สนหรอก มันอยากได้ตังค์
(เสียดาย งบประมาณแผ่นดินที่จ่ายให้จริงๆ)
พวกเขาไม่รู้หรอกว่าการที่จัดสอบอย่างนี้ มันจะเป็นการ
ประจานประเทศตัวเองว่าห่วยแค่ไหน (ตัวอย่างเช่น คะแนน O-Net ที่สอบตกกันถล่มทลาย)ไม่ได้ว่าเด็กไทยโง่นะ แต่ข้อสอบมันได้มาตราฐานมาก.............(ประชด) เด็กอย่างตัวเราเอง มันสมองไม่ถึงกับคนออกข้อสอบของ สทศ. เลยทำไม่ได้
ปล.ถ้า สทศ.แว๊บมาอ่านกระทู้นี้ อยากบอก สทศ.ว่า เช็คตัวเองก่อนด้วยค่ะ แล้วค่อยมายุ่งกับชีวิตคนอื่น
บอกตรง ไค่หุย
ถ้าจะให้มาเรียนไปเพื่อสอบ เราขอไม่เรียนยังจะดีกว่า สอบได้คะแนนเยอะแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์รึไง
อยากเพิ่มการสอบจนตัวสั่นเนี่ย
หิวเงิน มากใช่มั้ย
แล้วอีกอย่างนึงคือคุณภาพการออกข้อสอบที่ห่วยแตกมากๆโดยเฉพาะเนื้อหาสายวิทย์เช่นที่พบใน pat ที่บางข้อกระ-กระสนจะพยายามประยุกต์ความรู้ชีววิทยตื้นๆเข้ากับเนื้อหาการแพทย์แบบผิดๆ สะท้อนให้เห็นว่าคนออกข้อสอบเองก็ยังไม่แตกฉานทางความรู้เลย บางข้อแค่โจทย์มันก็ผิดหมดแล้วไม่ต้องอ่านคำตอบต่อ
ทั้งหมดนี่ทำให้เกิดคำถามว่า คนที่ออกข้อสอบเพื่อวัดศักยภาพคนกลับ"ไร้ศักยภาพ"ทางความรู้ซะเอง มีดีแค่ความหิวเงินแบบนี้ จะสามารถทำอะไรให้ได้เรื่องจริงๆหรือ?
ที่จริงน่าจะการสอบวัดความรู้คนในสทศ. นะว่าสมองฝ่อกันหมดรึยัง วัดความรู้ให้รอบด้าน ถ้าได้ต่ำกว่า 70% ก็แสดงว่าสมควรถูกไล่ออก ถอนบำเน็จบำนาญให้หมด
เมื่อมีอารมณ์ทางเพศ ก็คงจะให้ไปแตะบอลอีกหล่ะสิ...
เนื้อหาในมหาลัยไม่ใช่เนื้อหาในมัธยมนะเว่ย มันแบ่งแยกออกมาเป็นคณะชัดเจน ไม่ใช่มัธยมที่เรียนครบ8กลุ่มสาระ เรียนรัฐศาสตร์จะให้ไปสอบสื่อสารมวลชน เรียนวิทยาศาสตร์จะให้ไปสอบนิติศาสตร์อย่างนี้หรอ แล้วในคณะมันก็แยกวิชาออกมาเป็น100วิชาจะให้สอบครบ100วิชามันก็ไม่ใช่ จะให้รวมมันก็จะเละเทะเอา
สทศ.มันเอานักเรียนนักศึกษาเป็นหนูทดลองของมัน เขมือบเงินเขาไปหมด หน่วยงานเอกชนอัปรีย์ ปฏิวัติเลยดีไหม
สทศ.มันเอานักเรียนนักศึกษาเป็นหนูทดลองของมัน เขมือบเงินเขาไปหมด หน่วยงานเอกชนอัปรีย์ ปฏิวัติเลยดีไหม
ถ้าจะให้ U-NET เป็นตัววัดแล้วคนเก่าๆจะใช่อะไรในการสมัครงานละ เวรเหอะ สทศ. -
พวกเขาควรจะพิจารณาตัวเองได้แล้ว...
ส่วนตัวคิดว่า
ในการทำงานแต่ละที่ แต่ละองค์กร แต่ละบริษัท หรือแม้แต่หน่วยงานราชการที่ต่างประเภทกัน ย่อมต้องการคุณสมบัติของคนในองค์กรที่ต่างกัน และแต่ละตำแหน่งก็ต้องการคนที่มีความสามารถ "เฉพาะด้าน" ในระดับที่แต่ละบริษัทพึงพอใจ ซึ่ง "ข้อสอบกลาง" ไม่น่าจะก่อให้เกิดประโยชน์อะไรในจุดนี้
และ "คุณธรรม จริยธรรม" สามารถวัดได้จริง แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าการสอบ เป็นปกติที่คนไทยมักหาข้อสอบเก่า แนวข้อสอบ หรืออะไรอื่นๆ มาศึกษา มาลองทำ ซึ่งแบบวัดคุณธรรม จริยธรรม "ที่ดี" ไม่ใช่อะไรที่สามารถออกใหม่ได้ทุกปี เมื่อผู้ที่จะสอบรู้แนวแล้ว คิดหรอว่าจะสามารถใช้วัดได้จริง? นี่ยังไม่ได้พูดถึงสาขาวิชาเฉพาะที่ตลอดเวลาเรียนจะได้เจอแบบทดสอบต่างๆ มากมาย ที่รู้อยู่แล้วว่าการตอบในข้อไหนหมายความว่าอะไร...
อืมม... ก็ไม่รู้สินะ
คือแบบ.. สอบ U-net เพิ่ม ก็ไม่ได้ช่วยให้ประเทศพัฒนาขึ้นมาหรอกนะ รู้สึกจะทำให้แย่ลงด้วยซ้ำ
แค่นี้ ประเทศเรายังดูโง่ไม่พอ ?
เอาเวลาว่างๆ แทนที่จะออกข้อสอบไม่ได้คุณภาพ สู้มานั่งช่วยกันคิดว่าจะทำยังไงให้การศึกษาไทยดีกว่านี้ ให้มีคนที่มี คุณภาพ มาทำงาน พัฒนาประเทศ ไม่ใช่ให้พวกเขา นั่งสอบ นั่งอ่าน นั่งมั่ว
เคยสังเกตประเทศรอบข้างบ้างไหม? ที่เขาเจริญๆ กันอ่ะ
เขาสอบเช้า สาย บ่าย เย็น หรือไงฟระ
อย่าเห็นแก่ตัว เอาเงินเข้ากระเป๋าอย่างเดียว คือแบบ..แค่ปัญหาทางการเมืองในประเทศ วุ่นวายคุณยังไม่พอใจ
อยากให้ประเทศล่มจมหรอห๊ะ ?
ตรูล่ะเซ็งงงงง
ปล. คหสต. เว้ย
เราว่าสิ่งที่ สทศ.ต้องการจะทำคือให้คุณภาพการศึกษาของทุกมหาลัยมันเท่ากันใช่มั้ย เหมือนที่มีการสอบo-netเพื่อวัดผลโรงเรียนว่าอันไหนดีไม่ดี มาตรฐานต่ำขนาดไหน
ซึ่งเรามีความคิดเห็นว่า ระบบU-netนี้ ไม่ต้องยกเลิกก็ได้ แต่ให้มีระบบสอบเฉพาะมหาลัยที่ปล่อยเกรด เข้าง่าย ลอกข้อสอบกันชิบหายวายวอด แบบเกรด3.98เกียรตินิยมทำงานเป็นง่อยกว่าเด็กมัธยม ก็พอ แล้วเวลาสอบก็สอบแยกคณะ-สาขาด้วย คนจะได้ไม่งง อย่างอักษรควรสอบอิ๊งทั้งหมดทุกสาขาวิชา ถ้าไม่ผ่านอิ๊งไม่จบ ส่วนคนเรียนครูก็อาจจะมีการฝึกงานตามโรงเรียนต่างๆสัก2-3โรง โรงละ2-3สัปดาห์ แล้วให้นักเรียน-บุคลากรในโรงเรียนประเมิน ถ้าต่ำกว่าเกณฑ์ไม่จบ คนเรียนบัญชี ก็จัดไปเลยครับข้อสอบบัญชี การลงบัญชีเป็นยังไง บลาๆ ข้อสอบก็พลิกแพลงได้ทุกปีอีกด้วย
คนอ่านก็อย่าโลกสวยนะครับ บริษัทจริงๆเค้าไม่ค่อยรับคนที่จบมหาลัยแบบนี้ทำงานหรอก เห็นใบสมัครงานก็แทบจะเขวี้ยงลงลาวา(ถ้ามันมี) ไม่เปิดเอกสารดูด้วยซ้ำไป ส่วนมหาลัยชื่อดังดีๆส่วนมากก็จะโอเคเรื่องมาตรฐานอยู่แล้วละ แ(ต่ถ้ากลัวไม่เสมอภาคก็จัดสอบด้วยก็ได้ครับ)
***แต่ผมว่าการจัดสอบแบบนี้จะทำให้เปลืองงบประมาณประเทศชาติมากๆครับ เนื่องจากข้อสอบมีจำนวนมาก หลายคณะ-สาขาวิชาเกินไป เปลืองทรัพยากรอย่างหาที่สุดมิได้ ต้องดึงงบประมาณรัฐอีก แค่นี้งบกระทรวงศึกษาก็สูงที่สุดใรบรรดากระทรวงแล้วมั้งครับเนี่ย อะไรที่ทำแล้วดี ทำไปเถอะครับ ถ้าทำแล้วเลวลงก็ฟังความเห็นคนอื่นบ้างนะครับ
ลงชื่อคัดค้านทางนี้กันๆๆ
http://www.change.org/th/%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%8D%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C/%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%A8-%E0%B8%AA%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2-%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A-u-net
คือ แค่นี้ยังสอบกันไม่พออีกหรอ ?
เอาเวลามานั่งพัฒนาตัวเองดีกว่าไหม...ไปลองสอบบ้างดิ ออกข้อสอบมาเนี่ยอะไรกันนักหนา
คือ ชีวิตจะขึ้นอยู่กับเกรดหรือสอบอะไรพวกนี้หรอ คุณจะให้สอบโดยไม่มีด้านประสบการณ์เลยสินะ เดี๋ยวนี้เหมือนเรียนเพื่อสอบอ่ะ
ลองไปเช็คกันก่อนไหม แก้ปัญหาไม่ตรงจุด
สอบก็เสียเงิน แล้วถ้าพวกคนจนละ แล้วพวกคนไม่ได้ติวละ แล้วพวกคนสอบไม่ผ่านละ ต้องทำยังไง
จะฆ่าพวกเขาทางอ้อมหรอ....
ลงชื่อคัดค้านทางนี้กันๆๆ
http://www.change.org/th/%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%8D%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C/%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%A8-%E0%B8%AA%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2-%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A-u-net
เห็นด้วย2เปอร์คือสทศ.รวมพลมากดใช่ป่ะ #เผ่น
.
.
หลังจากที่ดูๆแล้ว ออกข้อสอบตามใจตัวเองมาก
อย่างโอเน็ตงี้ มันเหมือนกับถูกหมดทุกข้อ แล้วให้เราวิเคราะห์ ซึ่งใครจะคิดว่าอะไรถูกสุดก็แล้วแต่คนใช่ป่ะ ใครจะไปคิดเหมือน คนออกข้อสอบล่ะ
ข้อสอบถาม นักเรียนคิดว่า "นักเรียนคิดว่า" ซึ่งเราคิดกันคนละสไตล์ เพราะฉะนั้นทำไมเราถึงผิด ทำไมถึงไม่ถูก ในเมื่อเราคิดว่าแบบนี้แหละ ถูกสุด
ต่อไปจะถามถามว่า "ให้คิดว่าคนออกข้อสอบ ข้อไหนถูกสุด" (เดา) เลยดีกว่านะคะ แหม่!!!!!
ไม่เห็นด้วยโว้ยยยยยย
ถ้าสุดท้ายแล้วเสียงที่เราคัดค้านไม่มีความหมายเพราะคงไม่กระทบกระเทือน สทศ. อีกทั้งจะให้สอบโดยไม่บังคับ แต่จะไปประสานกับหน่วยงานต่างๆเพื่อให้ใช้คะแนนยูเน็ต เฮ้ออ..หนูล่ะเพลีย~
ดังนั้นขอให้เสียงนี้ส่งไปถึงหน่วยงานต่างๆ ช่วยเข้ามาอ่านสักนิดอย่างน้อยต้องรู้ว่าลูกหลานที่เป็นนักเรียนสอบเยอะแค่ไหน แล้วดูว่า
สุดท้ายแล้วข้อสอบวัดอะไรได้บ้าง
(ถึงตอนนี้ข้อสอบยังโดนตำหนิอย่างแรงจากเด็กที่สอบอยู่ทุกครั้ง)
สุดท้ายแล้วเด็กที่สอบๆทุกวันนี้ได้อะไร
(เสียเงินเรียนพิเศษอีกแค่ไหนกัน เกรดที่ได้มาไม่มีผล)
สุดท้ายแล้วจะส่งผลอย่างไร...
สทศ.อาจจะไม่คิดถึงตรงนี้ ได้แต่หวังว่าแต่หน่วยงานต่างๆ คงคิดได้ #เด็กแอด'57
แค่โอเนตก็จะตายอยู่เเลี้ว...คุณจะเอาอะไรกับกุอีก!!!!!
แค่โอเนตก็จะตายอยู่เเลี้ว...คุณจะเอาอะไรกับกุอีก!!!!!
ตกลงทุกวันนี้่เราเรียนเพื่อสอบ หรือเรียนเพื่ออนาคตของตัวเราเองและประเทศ???
สอบแบ่งชั้นทุกปีๆ โอเน็ต แกท แพท บลาๆ นี่ยังยูเน็ทอีกหรอคะ ประเทศอื่นเขาไม่เห็นต้องสอบเยอะแบบเราเลย ไม่ได้อยากเปรียบนะ แต่นี่เรื่องจริง!!!!!!!! สทศ.ควรดูคุรภาพการเรียนการสอน การเตรียม-ออกข้อสอบดีกว่ามั้ย นี่ขนาดประเทศนอกเรียนน้อยบ้าง ไม่สอบบ้าง แต่กลับทำคะแนนได้ดีขนาดนี้ มันควรดูที่อะไร ควรวัดที่คุณภาพอะไรคะ ไม่ใช่คุณภาพการเรียนการสอนหรอกหรอ หรือคุณภาพตัวเด็ก เลยต้องมาสอบอีก คนที่สอบด้อย แต่มีความสามารถไม่ตกงานแย่หรอคะ ถ้าเขารับดูแต่คนที่คะแนนสูงๆ แต่ไร้ความสามารถน่ะ ทุกวันนี้คนตกงานเป็นพันๆ ยังไม่พออีกหรอ เอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวกันทั้งนั้น เข้าฐานตัวเองหมด ประชาชนคนธรรมดาได้รับอะไรนอกจากผลกระทบเสียๆ ไม่มีอะไรดี โดนดูถูด ยิ่งสอบเหมือยิ่งประจานว่าประเทศด้อยแค่ไหน ดูอย่างผลสอบโอเน็ตที่ผ่านมาสิ ตกกันทั้งประเทศ หัวโบราณเกินไปหรือป่าว ที่คิดว่า ยิ่งเคร่ง เด็กมันยอมน่ะ สมัยใหม่แล้วค่ะ การสอบบ่อยไม่ได้ทำให้เด็กขยันขึ้น หรือทำข้อสอบได้ดีขึ้นหรอกนะ
ควรใส่ใจเด็กไทยให้ากกว่านี้นะคะ เด็กไทยตอนนี้ การที่จะให้ดีขึ้นคือใส่ใจ ทำให้พวกเขาไม่กดดัน ปล่อยตัวตามสบาย และพวกกเขาจะสนุกกับการเรียน การเรียนรู้ต่างๆ นาๆ ตอนนี้พวกคุณคิดยังไงถึงบังคับประเทศไทยไปในทิศทางนี้กันคะ ไม่เข้าใจ เราท้วงไป ไม่ได้ผล แต่ก็อยากให้รู้ถึงข้อติติงบ้าง มีเหตุผลหน่อยสิ พวกคุณนี่แย่จริงๆ ตรวจสอบพนักงานในสทศ.ด้วยนะ ใครมันเป็นคนคิด แล้วใครอกข้อสอบ!!
O net ที่สอบไรต่างๆนาๆ
นักเรียนไทยส่วนใหญ่โคตรทำได้ !!
นักเรียนไทยฉลาดมากกกค่ะ ปัจจุบันคะแนนโอเน็ตสู๊งสูง ^^
ยังให้สอบกันอีกเนอะ เอ้อ ดี มาสอบกันเองเลย
กรูคนนึงไม่เอาค่ะ จอบอ >_<
เรียนหนักทำเกรดมาตลอด สุดท้ายก็ไม่ใช้เกรด แล้วจะตั้งใจเรียนทำไม สู้ พอจบเราเวลาไปอ่านหนังสือเตรียมสอบ U-net หรือไง
หนูเพิ่งจะขึ้น ม.3 จะต้องเจอ O-NET นี้ทั้งชีวิตหนูมีแค่สอบหรอคะ เวลาว่างทำการบ้านค่ะ รร.ดีๆ ที่มหาลัยเลือกรับอยู่ในเมือง หนูอยู่บ้านนอกค่ะ ต้องนั่งรถไปเรียน ตื่นตั้งแต่ ตี4 ตี5 กว่าจะถึง รร. กว่าจะกลับมาถึงบ้านได้ทำการบ้านมันนานนะคะ คืออย่าเพิ่มการสอบเลยคะ หนูอยากมีชีวิตที่ดี มีความสุข ถึงปัจจุบัน พวกผู้ใหญ่เอาแต่กรอกหูว่าต้องเรียนนี่นะ เรียนนั้นนะ มันน่าเบื่อๆมากเลยนะคะ ถามตัวเองก็ตอบไม่ได้ว่าอยากเป็นอะไร นี้พวกคุณกลับมาเพิ่มการสอบ U-NET ที่ซึ่งถ้าพวกหนูทำไม่ได้ ก็ไม่ได้ทำงาน ตัดอนาคตและชีวิตหนูไปถึงไหนคะ บ้านหนูไม่ได้รวยพอที่จะวื้อที่นั่งไว้สำหรับทำงานหรอกนะคะ
ถ้าข้อสอบมันวัดคุณธรรม-จริยธรรมได้จริงๆอ่ะนะ
ก็ทำให้นักการเมืองสอบด้วยสิครับ
จะรอดูว่าคะแนนมันจะสักแค่ไหน
ป้าดดดโธ่
เรื่องง่ายๆผู้ใหญ่ก้อทำได้
ไม่รู้ว่า สทศ. จะจัดสอบ U-NET ทำไม? ในเมื่อของเก่าพวกคุณยังไม่เคยยอมรับผิดหรือแก้ข้อสอบเลย แก้ตัวไปเรื่อย โทษเด็กตลอด อะไรที่ควรจะออก คุณก็ไม่ออก คุณนำเนื้อหาของระดับชั้นไหนมามิทราบ ไม่เคยรู้เลยใช่หรือไม่ว่า ณ ตอนนี้แต่ละระดับชั้นเรียนเกี่ยวกับอะไร จนถึงตอนนี้ระบบการศึกษาในประเทศไทยพังหมดแล้ว สมใจพวกคุณแล้วหรือยัง
การที่พวกคุณได้ทำงานอยู่ในองค์กรนี้ มันไม่ได้หมายความว่าจะต้องคิดการสอบใหม่ขึ้นทุกปี ไม่ทราบว่าพวกคุณเข้าใจความหมายของคำว่า "การบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ" หรือยัง
เอาเวลาไปแก้ข้อสอบหรือหาทางพัฒนาชาติดีกว่าไหม
ไม่ทราบว่าจบการศึกษาระดับไหนกันมา
สอบหาพ่อง-ึงรึไง ให้สอบสอบเสร็จตรูก็ลืมแล้ว
ประสบการณ์สำคัญกว่าการสอบเอาคะแนนสูงๆที่อ่านหนังสือไปสอบเร็จแล้วก็ลืม-ัส
อยากสอบเอาความรู้ในหัวพิจารณาตัวเองก่อนเหอะ
-ึงกะจะให้เด็กสอบทั้งชีวิตเปลืองเงินเปลืองทองไปสอบ สู้เอาเงินไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่านี้ดีกว่า
มาบอกว่าไม่บังคับสอบแต่จะขอให้บริษัทร่วมมือ
แล้วถ้าบริษัทร่วมมือนะ ยุ่งยากแน่เราต้องสอบ ต่าง
ชาติที่มาจากอาเซียนก็ต้องสอบด้วยดิ
แล้วให้ครูผู้สอนทุกมหาลัยมาสอบด้วยสิ มาเป็น
เกณฑ์วัดคะแนน เพราะครูคือผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้
ถ่ายทอดไม่ดีก็คัดออกกันไป
สอบ U-Net มันทำให้เด็กคิดไม่เป็นความคิดถูกบีบให้อยู่ในกรอบเป็นก้อนหมดแล้ว ระดับมหาลัยโตแล้วให้เราได้คิดและทำอะไรเองบ้างได้แล้ว คนจะจบตรีจริงๆไม่ใช่แค่นอนแล้วตื่นมาห้องเรียนเหมือนมัธยม คนนั้นๆเขาก็มีฝีมือและความสามารถด้านที่เขาเรียนมาแล้วถึงจบได้ อย่าทำให้เด็กไทยสมองฝ่อกว่านี้เลยสงสารเด็กหน่อยสิ ไม่ได้กลัวการสอบนะแต่มันเปลืองเงินและเวลา
สอบ U-Net มันทำให้เด็กคิดไม่เป็นความคิดถูกบีบให้อยู่ในกรอบเป็นก้อนหมดแล้ว ระดับมหาลัยโตแล้วให้เราได้คิดและทำอะไรเองบ้างได้แล้ว คนจะจบตรีจริงๆไม่ใช่แค่นอนแล้วตื่นมาห้องเรียนเหมือนมัธยม คนนั้นๆเขาก็มีฝีมือและความสามารถด้านที่เขาเรียนมาแล้วถึงจบได้ อย่าทำให้เด็กไทยสมองฝ่อกว่านี้เลยสงสารเด็กหน่อยสิ ไม่ได้กลัวการสอบนะแต่มันเปลืองเงินและเวลา
สทศ คือสถาบันทำลายการศึกษาแห่งชาติชัดๆ
เบื่อมาก แล้วโอเน็ตที่สอบตอน ม.3 กับ ป.6 ตั้งแต่สอบมามันผ่านมากี่ปีแล้ว สอบไปแล้วได้เอาทำไรบ้าง --ได้เอาลงคอมสินะ ขอบคุณ
เปลืองงบประมาณป่ะ น่าจะเอาเวลาของเด็กนักเรียนที่ต้องมานั่งสอบข้อสอบห่วยแตกของคุณ แล้วงบประมาณมาพัฒนาหนังสือแบบเรียนดีกว่าป่ะ เพราะหนังสือแบบเรียนก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักเรียนต้องดิ้นรนหาที่เรียนพิเศษ เพื่อจะเอาความรู้ที่ได้(ที่ไม่มีในหนังสือเรียน) มาสอบข้อสอบ 5 root ของคุณ ทำหนังสือเรียนให้มันชี้จุดที่ควรจำ แล้วนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่ามั้ย
ความรู้สึกตอนนี้เหมือนอยู่ในหนังแฮรี่พอตเตอร์อ่ะ ที่มีอีป้าแก่ๆชอบสีชมพูจากกระทรวงเวทย์มนตร์มาออกกฏสารพัด แล้วให้สอบ พวรส. ซึ่ง อยากถามว่าเพื่อ ?
เวลาทำงานเอาข้อสอบไปทำเหรอคะ
เวลาพัฒนาประเทศเอาข้อสอบไปพัฒนาเหรอคะ
ค่าของคนอยู่ที่ผลการสอบเหรอคะ แทนที่มันอยู่ดูที่ผลของงาน
ความเก่งกาจทุกคนอ่ะมีได้ แต่คุณธรรม การทำงานเป็น ทำงานดี มันหาได้ง่ายที่ไหน
หรือว่าสำนักงานของคุณอยากได้คนเก่ง มาเสนอแนะว่าควรจัดสอบตรงนั้นตรงนั้นเพื่อวัดความรู้ อวดความรู้ของตัวเองว่ากูเก่ง กูเทพ กูจะทำอะไรก็ได้ เด็กจะเป็นไงช่างมันสิ ประเทศนี้มีกูเก่งคนเดียว ประสาทป่ะ
มันก็หลายๆด้านนะประเทศไทย ที่มันกำลังจะกลายเป็นประเทศที่กำลังพฒนา(ลง)
อยากรู้จังว่าผู้ใหญ่ทั้งหลายเค้าคิดอะไรกันอยู่ ?
#เสียงเล็กๆจากเด็กคนนึง ที่อยากให้ผู้ใหญ่พวกนั้นเข้าใจแล้วปรับปรุงแก้ไข
ไม่เห็นด้วย จบค่ะ !! เรื่อง สทศ พูดเป็นปีก็ไม่หมด
ไม่เห็นด้วย จบค่ะ !! เรื่อง สทศ พูดเป็นปีก็ไม่หมด
เหนื่อยกับสถาบันนี้
ถ้าต้องสอบก่อนเข้าทำงาน ไม่เรียนมหาลัยดีกว่ามั้ย??
อยู่บ้านติว U-net ไปเลยดิ
ไม่เห็นด้วย จบค่ะ !! เรื่อง สทศ พูดเป็นปีก็ไม่หมด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?