ถามๆ//ชื่อสถาบันมีผลต่อการสมัครงานหรือไม่
ตั้งกระทู้ใหม่
แล้วถ้าไม่มีผล เวลาสมัครงานเค้าดูจากอะไรบ้างจึงจะรับเราเข้าทำงาน
124 ความคิดเห็น
"มีค่ะ"
คิดว่ามีส่วนนะครับ
อันนี้ไม่ไม่รู้จริงๆนะ แต่ผมไม่แคร์เรื่องสถาบัน 55555
โคตรเบื่อแบบนี้เลย เราเรียนกายภาพเอกชน ไม่รู้จบมาชะตาชีวิตจะเป็นยังไง
มีแน่นอน
แต่บางที่ไม่สนใจเรื่องสถาบัน แต่สถาบันก็เป็นอันดับแรกที่ช่วยคัดกรองได้ เพราะสังคมในมหาลัยที่จบมา คุณภาพของมหาลัยที่จบมาจะช่วยวัดได้
ไม่อยากให้มีผลหรอก การทำงานมันขึ้นอยู่คุณภาพและความสามารถของแต่ละบุคคลมากกว่าชื่อเสียงอีก ไม่งั้นมหาลัยบ้านนอกจะมีไว้เพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่เพื่อให้นักศึกษาได้รับความรู้แต่ละวิชาชีพอย่างทั่วถึง คนจบมหาลัยดังก็ใช่ว่าจะจบมาแล้วเป็นบุคคลที่มีคุณภาพเสมอไปนะคะ #คหสต.ไม่อยากให้เกิดการดูถูกสถาบันคะ
ถ้าตอบตามความเป็นจริง มีแน่นอนครับ พวกที่มักจะพูดกันว่าเรียนที่ไหนๆก็เหมือนกันอันนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ครับ เพราะในความเป็นจริงของสังคมไทย สถาบันมีผลต่ออนาคตจริงๆครับสำหรับการสมัครงานทั้งในข้าราชการ และเอกชนครับ เพราะรุ่นพี่คือสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ความสามารถครับ
แต่ถ้าถามว่าคำตอบคือ จุฬา หมดซะทุกคณะหรือเปล่า ผมคงตอบว่าไม่ใช่ครับ
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของคณะด้วยครับ ยกตัวอย่างเช่น คณะนิติศาสตร์ ก็ต้องธรรมศาสตร์ครับ^ ^
ถ้าวิศวะ ก็ต้องวิศวะ จุฬาครับ^ ^
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าดูถูกว่ามหาลัยเอกชนจบมาไม่มีที่ไหนรับนะครับ เพราะ นิติ ราม ก็ใช่ย่อย ผู้พิพากษา ก็นิติรามกันเยอะครับ
แต่ถ้าจะให้มองในแง่ของเอกชนหลายๆที่ ยกตัวอย่างเช้น scg ปตท ซีเมนต์ พวกนี้วิศวะจุฬาจะอยู่กันเยอะครับ ส่วนวิศวะที่ที่แปลกๆจะไม่ค่อยได้งานแบบนี้กันเท่าไหร่ คิดดูนะ วิศวะจบกันตั้งกี่คนแล้วในแต่ละปี งานก็ใช้ว่าจะรอบรับได้หมด
ในงานข้าราชการนี่ยิ่งแล้วใหญ่ โดยเฉพาะข้าราชการกระทรวง พวกจุฬา ธรรมศาสตร์ จะเยอะมากๆครับ ถึงแม้หลายๆคนดีจะบอกว่าตอนสอบจบ ม.ไหน ก็สอบได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลังสอบได้ ความก้าวหน้าในชีวิต จะขึ้นอยู่กับรุ่นพี่เป็นสำคัญครับ (ตามความเป็นจริงของสังคมข้าราชการกระทรวงในไทย)
มันคือความเป็นจริงครับ ไม่ใช่ว่าผมดูถูกบางสถาบันนะครับ แต่ในความเป็นจริงของสังคมไทย แบบนี้มันมีมาตั้งเนิ่นนานมากๆแล้วครับ เค้าเรียกกันว่าระบบอุปถัมป์ อย่าว่าแต่ตอนสมัครงานเลย ตอนทำงานนี่ยิ่งแล้วใหญ่ครับ เส้นกันน่าดู แต่ถ้าได้มหาลัยดีๆ ชีวิตก็จะง่ายไปอีกระดับหนึ่งครับ^^
ผมเริ่มเบื่อกับการศึกษาในไทย จะแบ่งแยกอะไรนักหนา ทำงานต่างประเทศก็ได้ ปีหน้าก็เปิดอาเซียน ถ้ามีเวลาก็ฝึกภาษาให้เก่ง ไม่ต้องสนใจเรื่องมหาลัยแล้วเพราะต่างประเทศเค้าดูจาก คะแนนสอบทางภาษาทั้งนั้น
อ้างอิงจากปู่ผมนะคับสายวิศวกร
-รับแต่ผู้มีประสบการณ์ เพราะเด็กจบใหม่ส่วนมากไม่เป็นงาน
รับงานราชการไม่มีผล
แต่ถ้างานพวกเอกชล อะมีผล
การทำงานอ่ะ ส่วนใหญ่จะกันสิทธิ์คนอื่น เพื่อที่จะให้ญาติๆหรือคนรู้จักเข้าทำงาน คิดดูว่า คนอื่นๆที่มีคุณภาพไม่ได้ทำ แต่เอาลูกหลานตัวเองที่ไม่ค่อยมีความรู้มาทำงานอ่ะ โธ่วววววว มันไม่ยุติธรรมนะ
หัวเฉียวป่ะ?
ไม่แปลกใจที่การศึกษาไทย..........
เรียนเภสัช เขามีสภาเภสัช มีการสอบใบประกอบ เรื่องชื่อเสียงมีผลน้อยมาก เนื่องจากไม่ว่าจะจบมอ ไหนก็ต้องสอบใบประกอบ เเต่ชื่อเสียงก็มีผลบ้าง เเต่ไม่เยอะหรอก
เราเรียนกายภาพบำบัดเอกชน ไม่รุ้ว่าตอนจบจะมีผลมั้ย กังวลเหมือนกัน
แต่สมมุติถ้าไม่ดูมหาลัย ดูจากการสอบ การสัมภาษณ์ การทำงาน ส่วนใหญ่พวกมหาลัยดังๆก็นำอยู่แล้วอะค่ะ
เภสัช ไม่น่ามี นอกจากงานเอกชนนะ
ม.ราม ไม่ใช่ มหาวิทยาลัยเอกชนนะครับ
อีกแง่นึง ถ้าคุณเป็นหัวหน้าส่วนงาน แล้วต้องการรับคนเข้าทำงาน
คนสมัครเกรดเท่ากัน ฝึกงานมาพอๆกัน
แต่คนนึงจบที่เดียวกะคุณ อีกคนไม่ใช่
คุณจะเลือกใคร????
สัจธรรมครับ
มีผลแน่นอนครับ
แล้วก็ไม่ได้มีแค่่ไทยอย่างที่เข้าใจกันครับ
ยกตัวอย่าง
ประเทศญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยโตเกียว อันดับ 1 ของประเทศ
ประเทศเกาหลี SKY 3มหาวิทยาลัยชื่อดัง(Top3ประเทศ) มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล(S) มหาวิทยาลัยเกาหลี(K) มหาวิทยาลัยยอนเซ(Y)
S เป็นที่1 ส่วนKและYก็สลับกันขึ้นลง
คนในประเทศถือว่าพวกนี้การันตีอนาคตได้เลยครับ
จากประสบการณ์ที่ได้ร่วมเป็นกรรมการสอบสัมภาษณ์ คัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน ให้กับบริษัท ซึ่งบริษัทของเราเป็น บริษัทขนาดกลาง แต่เป็นบริษัทลูกของเครือบริษัทระดับต้นๆ ของประเทศ ที่บริษัทจะรับทุกสถาบัน สำหรับเด็กจบใหม่นั้นเนื่องจากไม่มีประสบการณ์ จะคัดเลือกเบื้องต้นจะให้ความสำคัญดังนี้ 1. สถาบันที่จบ 2. เกรดที่จบ แล้วเรียกมาสัมภาษณ์ หากทำงานมีประสบการณ์แล้วจะดูจากประสบการณ์ด้วย เกณฑ์ที่สำคัญต่อการคัดเลือกจริงๆ อยู่ที่ตอนสัมภาษณ์นี่แหละ หากตอบคำถามได้ดี แสดงว่ามีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับงานที่ทำ เรื่องสถาบันและเกรดจะเป็นเรื่องรองลงไปทันที เกรดน้อยสถาบันไม่ดังอาจได้งานก็ได้ แต่จากที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ผู้ที่ตอบคำถามได้ดี จะจบมาจากสถาบันดัง เกรดดีเกือบทั้งหมดครับ เป็นเช่นนั้นจริงๆ ทำให้เข้าใจว่าบริษัทใหญ่ๆ ทำไมถึงคัดคนจากชื่อสถาบันก่อน เพราะไม่อยากเสียเวลากับผู้สมัครที่มาจากสถาบันไม่ดัง แต่ถ้าเป็นผู้มีประสบการณ์และเก่งในเรื่องที่เขาต้องการ เขาก็รับทุกสถาบันครับ
คิดว่า "ไม่" เพราะพวก เภสัช แพทย์ ทันตะ ครู พยาบาล ยังไงก็มีงานรองรับไม่ต้องดิ้นหาที่ทำงาน แต่ถ้าจะทำงานเอกชนอันนี้เราก็ไม่แน่ใจ
แต่ถ้าเป็นอย่างอื่น พวก นิเทศน์ อักษร บริหาร ฯลฯ พวกนี้ตอบแบบตรงๆเลยว่า ยังไงชื่อสถาบันก็ "มีผล" ถึงใครๆจะบอกว่าไม่เกี่ยวไม่มีผลหรอก แต่ให้ลองเอาเข้าจริง ก็คัดมหาลัยดีอันดับต้นๆประเทศไว้อันดับต้นๆอยู่แล้ว ความสามารถ เกรด เอาไว้ทีหลังแล้วกัน ตอบแบบมองโลกตามความจริง
เภสัชภาครัฐก็มีครับ คอนเฟิร์ม
จขกท. จิงๆ อาจจะถามว่า การสอบ U-net จะช่วยลดปัญหา เรื่อง รุ่นพี่รุ่นน้องในการสมัครงานได้หรือ ป่าว ไช้มั้ย
มีคะไม่งั้นคนจะพยายามแทบตายเพื่อเข้ามหาลัยดังๆกันทำไม
ไม่ใช่จ้า เราแค่อยากทราบเพื่อไปเป็นองค์ประกอบในการแอดมิชชัน:)
ถามในนี้มีแต่แค่เด็กที่ไม่มีประสบการณ์การทำงาน คิดแบบเดียวกันคือ สถาบันดัง แต่เรื่อจริงแล้ว ดูจากประสบการณ์ทำงานด้วยต่างหาก อยากได้คำตอบแบบโลกความจริงเว็บpantip นะคะเพราะมีหลายๆวัยหลายรุ่น ผู้ใหญ่ประสบการณ์ทำงานเยอะ #คหสต
ใช่ๆ ไม่งั้นเค้าจะจัดอันดับมหาลัยกันไปเพื่ออะไร เค้าจัดเพื่อวัดคุณภาพของแต่ละมหาลัยค่ะ
ตอนสมัครเค้าก็ดูการตอบคำถามของเรา กับมหาลัย เกรดที่เราจบ แต่พอเข้าไปทำงานแล้ววัดด้วยผลงานล้วนๆ
จากที่ผมสำรวจมานะมันแล้วแต่คณะจริงๆ
นิติ-ธรรมศาสตร์
วิศวะ-จุฬา
สถาปัต-ลาดกระบัง
ศิลปกรรม คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ -ศิลปากร
อักษร-จุฬา
(จากที่เห็นการรับงานนะครับ)
อย่างพ่อผมทำงานสายสถาปัตเค้าเน้นเลยว่าอยากได้เด็กจากลาดกระบัง
//ผมเรียนสถาปัตจุฬา
และวิศวะจุฬานี่สุดๆครับ
ขออนุญาตเพิ่มเติมนะครับผม^ ^
ขอกล่าวในส่วนของความเป็นจริงในระบบอุปถัมป์หรือเรียกง่ายๆว่าเส้น ของระบบข้าราชการกระทรวงในประเทศไทยนะครับ ^^
เท่าที่ผมจำไม่ผิด(ถ้าผิดขออภัยด้วยนะครับ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เปิดสอนให้พลเรือนเข้าศึกษา เพื่อผลิตเข้ารับราชการเพื่อทำงานตามกระทรวงต่างๆ จุดเริ่มต้นของระบบเส้นสายมันเริ่มขึ้นก็ตรงนี้ครับ ก็ลองคิดเอาแล้วกันว่ารุ่นพี่มีเยอะขนาดไหนแล้ว จะสรุปก็ได้ว่ามหาลัยไหนที่เปิดมานานที่สุดก็จะได้เปรียบมากที่สุดเพราะพวกเยอะครับ แต่ ก็ต้องเช็คที่คณะอีกเช่นกันครับ^ ^ อย่างคณะรัฐศาสตร์ มธ และ จุฬา ต่างเปิดมาใกล้ๆกัน(บางคนบอกว่าจุฬามีมาเกิน 100 ปี อันนี้ไม่มั่นใจนะครับ อ้างอิงจาก คณะรัฐศาสตร์ ใน วิกิพีเดีย ครับ) สองมหาวิทยาลัยนี้ก็เลยกินกันไม่ลงครับผม
อีกนัยหนึ่ง ถ้ามองในแง่ของ ''ความสามารถ'' ผมมองว่าความสามารถ นายจ้างเค้าก็รู้แล้วว่าเด็กมหาวิทยาลัยไหนมีความสามารถ เพราะแค่ดูจากชื่อมหาวิทยาลัยเพราะมหาวิทยาลัยนี้เรียนยาก เด็กจบยาก บุคคลากรที่จบมาทำชื่อเสียงไว้เยอะ อีกทั้งคนอยากเข้าเยอะเลยทำให้คะแนนสูงไปด้วย เอาง่ายๆ ถ้าคุณเป็นนายจ้าง คุณต้องการแรงงานแค่ 1 คนทีรับตำแหน่งเป็นพนักงานบัญชีประจำบริษัท แล้วเจอเด็กสองคนมาสมัครงาน ระหว่าง....
เด็กบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย/ธรรมศาสตร์ กับ เด็กบัญชี ม.ต่างจังหวัด
คุณจะเลือกเด็กคนไหนครับ^ ^ (เลือกกันเองนะถ้าผมเลือกให้เดี๋ยวมันจะดราม่า)
แค่ยกตัวอย่างเฉยๆนะครับ ไม่ได้หมายความว่าบัญชีที่อื่นจะด้อยกว่า จุฬา/มธ ครับ^ ^
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว ก็ต้องเช็คอีกทีด้วยว่าคณะในมหาวิทยาลัยไหน เซียนด้านใดมากที่สุด เพราะจะให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซะทุกอย่าง อย่างที่ค่านิยมของพ่อแม่ปู่ย่าคิดในสมัยก่อนก็ไม่ใช่ เพราะสมัยนี้อะไรก็เปลี่ยน เด็กก็เก่งขึ้นมาเยอะ ยกตัวอย่างง่ายๆ
เด็กวิศวะเกษตร เดี๋ยวนี้เริ่มทำงานในที่ๆวิศวะจุฬาอยู่เยอะมากขึ้นแล้วนะครับ ต่างกับสมัยก่อน(ยุคปู่)ที่วิศวะจุฬาครอบหมดทุกอย่าง
คณะสื่อสารมวลชนตามมหาวิทยาลัยเอกชนก็ใช่ย่อยนะครับ อย่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพนี่มาแรง เอแบคนี่ก็มาแรงเช่นกันครับ รังสิตนี่ก็เช่นกัน
คณะพวกการเงินการบริหาร มหาวิทยาลัยหอการค้าซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนก็เก่งนะครับ เค้าจะเน้นพวกการเป็นนักบริหารธุรกิจต่างๆ สร้างธุรกิจเอง เป็นต้นครับ คนที่จบมามีชื่อเสียงบก็มีกันเยอะแยะ โดยเฉพาะ เฒ่าแก่น้อย^ ^
คณะดนตรีต่างๆที่ดังก็มีเยอะแยะครับ
อาจจะดูเยิ่นย้อไปหน่อยเพราะไม่ค่อยได้พิมอะไรเยอะๆขนาดนี้มาก่อนครับ^ ^
โดยสรุปแล้วผมว่าในแง่ของความเป็นจริง นายจ้าง เค้าอยากได้เด็กที่จบมาจาก ม.ดัง คณะดัง มารับหน้าที่ต่างๆ ที่เหมาะสมกับคณะนั้นๆด้วย เพราะม.ดังๆ สามารถการันตีได้ว่าคุณมีความพยายาม คุณมีความสามารถมากแค่ไหน นั่นเองครับ
ปล. ขออภัยที่อ้างอิงมหาวิทยาลัยบางแห่งเยอะเกินไปหน่อยนะครับ แต่ในเมื่อมันคือความเป็นจริง จะให้ปิดปากแล้วบอกว่ามหาวิทยาลัยที่อื่นๆก็เหมือนกันหมดนี่ก็คงไม่ใช่ในสังคมไทยนะครับบ^ ^
จากการที่คุณ Mojo กล่าวว่าถ้าคณะนิติศาสตร์ก็ต้องธรรมศาสตร์เท่านั้น ผมว่าก็ไม่ค่อยจะถูกต้องนักนะครับ เนื่องจากสายงานทางนิติศาสตร์มีหลากหลายมากก็จะต้องพิจารณาว่าจะเข้าทำงานที่ใดด้วย เช่น บริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมาย หรือ Law Firm นั้น ก็คงตกยกให้ทางนิติศาสตร์ จุฬาฯ มากกว่าเนื่องจากมีรายวิชาที่สอนเกี่ยวกับกฎหมายธุรกิจโดยตรงและความเชี่ยวชาญทางภาษา บริษัทเหล่านี้จึงมักที่จะรับคนเข้าทำงาน ซึ่งจบจากจุฬาฯมากกว่าในอัตราส่วนที่สูงกว่ามาก
ในส่วนของธรรมศาสตร์นั้นความเชี่ยวชาญในส่วนของความแม่นยำในคำพิพากษาจึงไม่น่าแปลกใจที่บริษัททนายความจะยกเครดิตให้ดีกว่า เช่นเดี่ยวกับมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่มีความขยันเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งความรู้ที่ไม่ด้อยไปกว่ากัน
ถึงจุดนี้แล้วจึงขอบอกว่ามหาวิทยาลัยที่จบนั้นมีความสำคัญยิ่งในการสมัครงานในครั้งแรก ในกรณีที่ผู้นั้นๆไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน เพราะเนื่องจากมหาวิทยาลัยจะเป็นตัวกำหนดแบบของผู้จบการศึกษานั้นๆแบบคราวไว้ ดังเช่น ลักษณะความรู้ความสามารถเมื่อเอาเกรดจากมหาวิทยาลัยนั้นเป็นตัวกำหนดก็จะรู้ว่าผู้นั้นเชี่ยวชาญในลักษณะใด รวมถึงคาดหมายอุปนิสัยแบบคราวในการทำงานของผู้นั้นได้ด้วย
ในส่วนกรณีที่จบมหาวิทยาลัยเอกชนมาก็จะเกิดคำถามว่าจาบริษัทว่า "ทำไมถึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไม่ได้ตั้งแต่ต้น" ซึ่งเป็นคำถามที่ออกจะโหดร้ายมาก หน้าที่ของผู้สมัครเข้าทำงานคือ อธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผล ทำให้เครดิตเราดูดีขึ้น เช่น ปรับปรุงตนเองหลักจากพลาดจากการสอบเข้ามหาลัยของรัฐแล้ว เป็นต้น ซึ่งเป็นทางหนึ่งที่บริษัทจะวัดไหวพริบของผุ้สมัครทางหนึ่งครับ
โอ้ อ่านเม้นนี้เม้นเดียวก็พอเลยนะเนี่ย
ตอบได้ครบถ้วนกระบวนความ~
การจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังและเป็นที่ยอมรับ ยอมมีแน่วโน้มที่จะได้งานทำมากกว่าอยู่แล้วครับ ไม่เฉพาะที่ไทยเท่านั้น แต่รวมถึงต่างประเทศด้วย เพราะคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บริษัทชั้นนำบริษัทหนึ่ง จะมีแต่จะรับบุคคลากรที่จบจาก Harvard มากกว่า คนที่จบจาก University of Idaho หรือมหาวิทยาลัยประจำรัฐเล็กแห่งอื่น อย่างแน่นอนครับ
ถึงกระนั้นก็คงไม่มีบริษัทไหนที่จะดูแค่คนนั้นจบมหาลัยอะไรมาเพียงเท่านั้น แต่ยังมีตัวแปรอื่นๆเช่น บุคคลิกลักษณะ การร่วมทำกิจกรรม ในมหาวิทยาลัย และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย สิ่งที่จำทำได้คือ แสดงความชาญฉลาด มีไหวพริบ และขยันขันแข่งออกไปให้บริษัทเห็น ถ้าคุณทำได้ความเป็นไปได้ในการเข้าทำงานจะสูงขึ้นเยอะเลยครับ
เภสัช ม.รัฐน่าจะมีมั้งคะ แต่รพ.(รัฐ)พี่เราอยู่ต่างจังหวัด พี่เลยบอกว่าไม่ค่อยได้ดูเท่าไร แต่ดูแน่ๆก็ "เกียรตินิยม" ค่ะ นอกนั้นก็เป็นบุคลิกภาพตอนสัมภาษณ์ คำพูดคำจา บลาๆ
แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเราเรียนเภสัชถ้าใช้ทุน มีที่ลงให้นี่ได้ทำงานรพ.แน่ อาจมีพาร์ทไทม์เป็นเอกชนก็ได้จ้า แล้วยิ่งช่วงนี้ร้าน chain store พวก boost watson ก็หันมาตื่นตัวเรื่องมีเภสัชประจำร้าน อนาคตคงได้เปิดกว้างขึ้นอีกนิด
ปล.แต่ถ้าทำบริษัทยาอันนี้เราไม่รู้จริงๆจ้าว่าเขาดูไหม(แต่คงจะดูแหละเนอะ) เราว่าอาวุธอีกอย่างคือ ภาษานะ ถ้าภาษาเราดี ไปที่ไหนมีคนอยากได้แน่นอน (ความคิดเรา 55)
ถ้าไม่มีเราจะแห่กันสอบเข้าม.ดังๆกันทำไมครับ
คนทั่วไป ชอบมองว่าจบ ม.ดัง แล้วใช้เส้นสายทำงาน เอาจริงก็อยุที่ความสามารถล้วนๆอะครับ เด็ก ม.ดัง 90เปอเซนมันก็เก่งอยุแล้วละครับ ไม่มีองกรไหนให้เด็กโง่ๆใช้เส้นสายเข้ามาทำงานหรอกครับ ^^ นอกซะจากว่าเป็นงานแบบที่ไม่ยากมาก
สถาปัตย์ลาดกระบังดังตรงไหนอ่ะ จุฬากับศิลปากรยังมีชื่อกว่าเยอะ
แล้ว จุฬากับศิลปากรดังตรงไหน ลาดกระบังดังกว่าเยอะ โอเคมั้ยถ้าถามกลับแบบนี้
ตอบแบบโลกไม่สวยนะ มีผลมากพอสมควร เคยมีเหตุการ์ณหนึ่งคือ เด็ก ม รัฐ ไม่ขอเอ่ย กับเด็ก ราชพัดแห่งหนึ่ง มาจากคณะ สาขา เดียวกัน ม รัฐ เกรด 2 นิดๆไม่ถึง 2.5 แต่ ราชพัด 3.8 ปรากฎว่าเด็ก ม รัฐได้งานครับ และหลายๆบริษัทจะรับเฉพาะคนที่จบสถาบันเดียวกันเท่านั้นบริษัทรุ่นพี่ผมมีอยู่ที่สองที่ทำแบบนี้ผมเคยถามว่าทำไมเขาบอก เขารู้ว่าน้องๆเรียนอะไรบ้าง ทำอะไรได้บ้าง พี่เลยรับ ไม่อยากไปสอนใหม่ Toyota ไม่รับเด็กจากราชมงลคล ที่รู้เพราะคนรู้จักผมจบราชมงคลไปสมัคร เขาไม่รับครับ
อันนี้ฟังมาจากพี่วิศวกรอุตจุฬาที่สอนพิเศษ พี่โหน่ง คอร์ส N ซีรีย์ เหมือนจะมีนักเรียนถามว่า วิศวะ ม ไหนดีหางานง่ายประมาณนี้ พี่โหน่งได้ตอบว่า สายบริหาร จัดการ มักจะรับ จุฬา และอะไรอีกสองที่เนี่ยแหละจำไม่ได้ ส่วนถ้าเป็นวิศวกรสาย ปฏิบัติมักจะรับ 3 สถาบันพระจอมเกล้า เพราะเก่งปฏิบัติมาก
สายอื่นผมไม่รู้แต่ วิศวกร แรกๆจะเน้นสถาบันเป็นหลัก หลังๆจะเน้นประสบการ์ณครับ
ไม่มีผลตอนสมัคร แต่มีผลต่อความก้าวหน้าครับ ที่บ้านนอกผมมีคนจบเภสัชคนนึง จาก ม รัฐ ต่างจังหวัดหน่อย ทำงานมา 4-5 ปีแล้ว เงินเดือนยังอยู่แค่ 25000 เขาบอกพวก ม อื่นเงินขึ้นกันหมดยกเว้นเขา
ถ้าจะตอบวิศวะจุฬา คุณคงไม่รู้จักชื่อของสามพระจอมสิน่ะครับ
เห็นด้วยนะ จากที่เราดูๆมา พูดถึงถาปัตแจ่มๆต้องลาดกระบัง ถาปัตจุฬานี่เขาพูดถึงความนิยมหรอก
คหสต+ข้อมูลที่ค้นเรื่องคณะในฝัน
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วคนจบม.ใหญๆดังๆ คุณภาพจะเหนือกว่าจิงๆนะ
ถ้าคิดว่ามี มันก็มี ถ้าคิดว่าไม่มีมันก็ไม่มี บัวมีสีเหล่า เจอพวกเหล่าสี ก็พยายามโทษทุกอย่างในโลก ยกเว้นตัวเอง ส่วนตัวคิดว่ามีผลแค่ 10 % ไม่ว่าจะจบจากไหนมา ที่เหลือเป็นทัศนคติ
มีส่วนเยอะเลยจ้ะ ขนาดเค้าถามว่า ใครได้เกียรตินิยมบ้าง ก็ยกมือขึ้น พอบอกชื่อ มหาลัยไปปุป เงียบ แต่ให้อีกคนที่จบมหาลัยดังของประเทศไปเฉย ... องค์กรโคตรยุติธรรม TT
ราชกาลก็มีผลนะ ไม่เชื่อลองไปดูรายชื่อสอบบรรจุครูล่าสุดนี้สิว่าอันดับต้นๆเป็นมหาวิทยาลัยไหน ลองเอาชื่อไปเสิดดู
ขอเสนอในฐานะเป็นเภสัชกร ม.เอกชนครับ
ตอบสั้นๆว่า "ไม่มีครับ"
ยังไงเราก็สอบใบประกอบโรคศิลป์ข้อสอบเดียวกันทุกมหาวิทยาลัยครับ
คนที่ผ่านก็คือเภสัชกรเต็มตัว ไม่เกี่ยงสถาบัน ทำได้เหมือนกันทุกอย่าง
อยู่ที่มุมมองและความสามารถของน้องครับ
เกรดผมสอง.XX แต่สอบใบประกอบผ่านรอบแรกเหมือนรัฐบาล + เป็นเด็กกิจกรรม ผมไม่กลัวเด็กมหาวิทยาลัยไหนทั้งนั้นครับ
เพราะการที่พ่อแม่คาดหวัง คอยพูด เปรียบเทียบลูกตัวเอง อยู่เสมอไงคะ ว่าลูกต้องเข้าที่นี่ให้ได้นะ ประมาณนี้ บางคนพยายามที่จะสอบเข้าเพราะแรงกดดันของพ่อแม่
มีผลแน่นอน ถ้าเป็นศึกษาศาสตร์ สาขาการศึกษาปฐมวัย ส่วนใหญ่เขาจะคัดครูที่เรียนจบจากมหาลัยราชภัฎสวนดุสิต เข้ารับราชการ เนื่องจากการเรียนการสอนเขาดีที่สุด
เขียนได้ตรงมากค่ะ ไม่อ้อมค้อม
เนี่ยแหละที่น่าจะให้จัดสอบยูเนต ให้เห็นกันไปเลยมหาลัยไหนดี อันไหนห่วย
ตอนสมัครงานก็เอนตัววัดไปเลย
ตอบแบบหยาบๆเลยนะคะ โคตรมีผลค่ะ !!!
ง่ายๆเลย แค่ตอนฝึกงานนี่รู้เลยค่ะ
ตัวเราเอง เรียนชีววิทยาโดยตรง ถูกสั่งให้ไปร่อนตะกอนดิน
อีกมหาลัย เปนมหาลัยที่ติดท๊อบ 3 ของประเทศ เปนนักศึกงานที่เรียน การจัดการสิ่งแวดล้อม แต่ให้ไปคีย์กุ้ง ( คีย์กุ้ง ประมาณว่า จำแนกชนิด ดูระยางค์และอื่นๆ ) คีย์สัตว์หน้าดิน ทั้งๆที่เค้าไม่ได้เคยเรียนมาก่อนเลย แต่กับเรา เราเรียนชีววิทยามา เรียนเรื่องพวกนี้มาโดยตรง มหาลัยก้อไม่ได้ไก่กาอาราเล่นะ ก้อติด ท๊อบ 5 ท๊อบ 10 เอ่ยชื่อไปก้อรู้จักกัน แต่ของเค้าดังกว่า พี่ที่ฝึกงานบางคนก้อเลือกปฏิบัติกับเราก้อคอยจับผิด ตะคอกเอา กับเค้าละพูดเสียงหวาน
ตอนแรกคิดแค่ว่า เราคิดมากไป เค้าต้องการให้เรียนรู้หลายๆอย่าง แต่ ,,, เราไป 4 อาทิด เราทำอย่างเดียวเลย 3 อาทิด อีกอาทิดว่าง
คือแบบ ,,, โคตรเข้าใจคำว่า มหาลัยโคตรมีผลหลังเรียนจบเลย !!
มีผลค่ะ อย่างลุงเราเป็นผู้บริหารในบริษัทเอกชนอันดับต้นๆของประเทศ เค้ายังคอยบอกเราเสมอเลยค่ะ ว่าถ้าเราอยากทำงานกับเค้าเราต้องเรียน จุฬา ไม่ก็ธรรมศาสตร์ ค่ะ นี่เรื่องจริงค่ะ บัญชี บริหาร จุฬา ธรรมศาสตร์เท่านั้น เราก็รู้สึกกดดัน แต่เค้าปลูกฝังเราตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ อีกอย่างเรื่องเส้นสายก็มีผลค่ะ และถ้าจบจากที่ดังๆเกรดดีๆ หน่อย ก้าวหน้าไปไกลแล้วค่ะ เจอกันค่ะ เด็กแอด ^^
สอบบรรจุไม่ได้ดูที่คะแนนสอบหรอกหรอคะ ใครทำคะแนนได้ดีก็ได้ไป
ตอบ2-1 ไม่จริงเสมอไป เด็กหลายคนสอบเข้าเพราะอยากเข้าเอง เราคนนึง เพราะคิดว่ามันเป็นการสร้างอนาคตให้กับตัวเอง
ตอบ ณ ตอนนี้เลย.................มีค่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เอาง่ายๆ ณ ตอนนี้เลยที่หนูมาฝึกงานอยู่
ในกรมฯหนึ่ง ซึ่งเป็นกรมฯเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมระหว่างประเทศ
ในกลุ่มงาน (ไม่นับคนจบนอกนะคะ) พี่ๆมีทั้ง>>> จุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตร มหิดล มาครบเลยจ้าา 5555
เก่งทุกคนเลยยยยยยยย
มีผลคะ
ทั้งนี้ HR เค้ามีหลักเกณฑ์การคัดคนมากมาย
ไม่ใช่เเค่จบจาก ม.ดังก็จะเข้าได้ มันขึ้นอยู่กับ'ตัวเอง' ว่าคุณเก่งจริงหรือไม่ เเละมีหลายปัจจัยเข้ามารองรับตามเเต่ละองค์กร
ส่วนเรื่องเส้นสายนี่ คิดว่าที่ไหนก็มีนะคะ เเต่จัมากหรือน้อยก็ต่างกันไป
แต่ทั้งนี้เราต้องยอมรับกันว่า เด็กจบมาจาก พวก มรัฐ ชั้นนำในไทยท็อปๆ
ฬ มธ ม เกษตร หรือ (ลาดกระบัง พวก วิศวะ)
ม เอกชน รังสิต เอเเบค abac เราต้องยอมรับวาาเค้าจบมาพร้อมทักษะทางภาษาอังกฤษที่มากกว่า มองในภาพรวมนะคะ เเละ ม. กรุงเทพ บ้างบางคณะ)
เขาจะมีภาษีกว่าดีมาก เพราะคุณภาพการศึกษาเขาจะสูงกว่า ม.ทั่วๆไป
(ไม่ได้เเค่พูดลอยๆนะคะ เค้ามีการวัดเเละประเมิณผลกันจริงๆ)
จบจากม.ทั่วไป เกรด 3กว่า กับ มรัฐ เกรด 2 กว่า
ไม่ต้องแปลกใจเลยคะว่าทำไม HRถึงเลือก เด็กม รัฐทีีเกรดต่ำกว่าทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเส้นคะ ตอนสมัครงานเคยลองมาเเล้วคะ เกรด2กว่า ได้งานสบายๆ เเต่ถ้าเจแเด็กมอ รัฐด้วยกันนี่ต้องงัดกัน หืดขึ้นคอคะ
(ให้ลองสังเกตนะคะ ง่ายๆเลย เพื่อนที่เรียน มปลาย มาด้วยกัน
เด็กคนนึงสอบได้ท็อปๆ ของห้องมาตลอด สอบเข้าม.รัฐได้ บางคน พอเข้า มหาลัยไปเกรดเหลือ 2กว่าๆ เเต่ ขณะที่ อีกคนตอนอยู่ม.ปลายคะเเนนงั้นๆเข้าเอกชน ได้เกรด 3กว่า เห็นมาเยอะคะ จากเพื่อนๆตัวเอง )
# ตรงนี้ถ้ามี unet จริง เดือดร้อนนะคะ เด็ก มทั่วไป ถ้าึุณไม่เก่งจริง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?