อยากให้สทศ นำ U-netกลับมาใช้ เเละเร่งการจัดสอบU-net

เห็นด้วย อย่างยิ่ง ถ้ามีแบบนี้เด็กยิ่งไม่อยากเข้า มหาวิทยาลัยดังๆๆ เพราะว่าเรียนที่ไหนก็สอบเอา ยูเน็ต การพัฒนาของเด้กยิ่งจะลดต่ำลง ประเทศชาติยิ่งจะล่มจม

กรุก้อยากรุ้จิงค่ะ ว่าอิ๊เจ้าของกระทู้ คุนเก่งมากหรอคะ อ่านแล้วค่อนข้างปี๊ด คืออยากรุว่า จขกท.จบ ป.6 หรือยังอ่ะคะ แล้วเคยทำพวกข้อสอบ O-net n-t อะไรปามานนี้ป๊ คะแนนคุนเกิน 50%ป๊ คือเราก้ไม่ได้อะไรนะ อยากจะรุนัก ประเทศนอกที่เขาการเรียนดีๆอ่ะ เขามีสอบ U-net ป๊ ประเทศไทยแม้ง เรื่องมาก (คะแนน O-net ของดิฉันก้ไม่ได้เริ่ดหรอก แต่เอาไปยื่นโรงเรียนไหนเขาก้รับ) แต่รู้ป๊ ว่าการสอบมันมีอะไรบ้าง เอาตงๆเลย ถ้ากุเป็นผู้ปาเมินข้อสอบ กุไม่ได้ผ่านอ่ะ คุนไม่ฟังเพลง+คุณไม่ดูหนัง คุนก้ทำข้อสอบ(บางข้อ)ไม่ได้ เอาตงๆความรุ้รอบตัวชัดๆอ่ะ (อยากรุ้คะแนนสอบของ จขกท.จังเลย เรียกร้องอยากจะให้มีการสอบ คะแนนสอบคุณมันดีนักหรอคะ?????)
*ปล.ความคิดเห็นส่วนตัว แค่ไม่อยากให้มีการสอบเกินขึ้น มันกระทบต่อการหางานทำ ซึ่งก็รู้กันดี ว่าถ้าเป็นประชาคมอาเซียนแล้ว โอกาสของคนไทยที่จะตกงาน มันมีเยอะมว๊าก!!!! แล้วจะเอาคะแนนข้อสอบมาเป็นส่วนหนึ่งหรอ กรรมกรมาเยือนแน่ๆ อุ๊บ!! ปรี๊ดกะคำถาม (ช่วงนี้รอบเดือน)

ผมรู้สึกที่พูดมานี่เค้าบอกว่า " ไม่สามารถเอาเกรด เอาคะแนนมาเป็นตัวชี้วัดในการเข้าทำงานได้ " แต่ผมรู้สึกว่าการสอบ U-net ก็ต้องเอาผลการสอบ เอาคะแนนมาดูเพื่อเป็นตัวตัดสิน เป็นตัวพิจารณาในการเข้าทำงานรึป่าว? แล้วการสอบ U-net มันไม่สามารถแก้ไขปัญหาระบบพี่น้องได้หรอกครับ ประเทศไทยชินกับรูปแบบนี้แล้ว ไม่งั้นการสอบหลายๆอย่างที่ผ่านมาก็ยังมีระบบนีให้เห็นนี่ครับ

ผมขอคัดค้านครับการสอบU-netไม่สามารถทำให้มหาวิทยาลัยเป็นมาตรฐานเดียวกันได้จริงครับจากการสอบO-netก็รู้อยู่นิครับว่าสอบไปกลถ่ทคะแนนสูงก็เกาะในรร.เดียวกันเป็นส่วนใหญ่เช่น เตรียมอุดม มหิดลวิทย์ เป็นต้นพอคแนนO-netออกมาแล้วรร.แต่ละแห่งก็จะมีคะแนนเก็บไว้ทำไม สทศ รร. ก.ศธ ก็ยังไม่สามารถทำให้รร.เป็นมาตรฐานเดียวกันได้เลยแล้วU-netก็คงสภาพเดียวกันครับ.

แต่ก็อย่าลืมนะคะ คนที่คัดค้านก็มีคนที่เจอมาจากประสบการณ์จริงเหมือนกัน คุณเคยสอบแกทแพทหรือโอเน็ตบ้างรึป่าวคะ? แล้วเคยได้ติดตามหรือรู้ข่าวสารของข้อสอบพวกนี้ในปีก่อนๆบ้างรึป่าวคะ? ว่ามันผิดพลาดอะไร? ไม่เหมาะสมยังไง? ในมุมมองของคนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เข้าสอบ หรือ อาจารย์ จากที่เห็น สทศ ยังไม่มีประสิทธิภาพพอในการแก้ไขเรื่องปัญหาพวกนี้ให้มันพัฒนาดีขึ้นหรือเป็นมาตรฐานได้เลยยย แล้วนี่ถ้าจัดสอบ ยูเน็ตขึ้นมาอีก โดยที่ปัญหาพวกนี้มันก็ยังไม่ถูกแก้ไข คุณคิดว่า ประเทศมันจะก้าวหน้าหรอคะ? เราคิดว่ามันอาจจะกลายเป็นการสร้างภาระให้กับคนที่ต้องสอบ เราเองก็ศึกษาติดตามเรื่องของยูเน็ตมาพอสมควรเรื่องข้อมูลต่างๆที่ได้รับรู้มา เราก็ ยืนยันว่าเราไม่เห็นด้วยอยู่ดีค่ะ อย่างน้อยเราขอเป็นคนนึงนะ จะบอกคุณว่า คนไทยบางส่วนก็ไม่ได้แต่จะคัดค้านลูกเดียวหรือตามกระแสหรอกค่ะ

ความเห็นส่วนตัวนะ ถ้าสทศ ยังไม่พัฒนาข้อสอบ O-Net gat-pat ก็อย่าพึ่งทำ U-Net ออกมาเลยดีกว่า มันจะยิ่งยุ่งยากเข้าไปอีก แล้วอีกอย่างการเรียนในมหาลัยก็ไม่ได้เหมือนประถม มัธยมที่สอบปีนึงเเล้วเลื่อนชั้นเลย นี่มหาลัยเรียนตั้ง 4 ปี กว่าจะจบเเล้วยังต้องมาสอบข้อสอบแบบนี้อีกเสียเวลาไปไหม? 
แล้วที่คนออกมาค้าน U-Net ก็เพราะเขาเห็นว่ามันไม่จำเป็นไง เมื่อเห็นอะไรที่มันไม่ถูกไม่ควรไม่เหมาะสมก็ใช่ว่าจะต้องเออออห่อหมกตามทุกเรื่องป่ะ ก็ควรที่จะมีสิทธิมีเสียงในการค้าน ขนาดเลือกตั้งยังให้เราออกไปใช้สิทธิ ดังนั้นเรื่องนี้เราก็มีสิทธิที่จะค้านเหมือนกัน 

ถ้าคุณบอกว่าการใช้เกรดเป็นตัวตัดสินคุณภาพมันไม่ดี ก็เห็นด้วยว่าใช่ แต่ว่าการสอบ U-net เพื่อนำเอาคะแนนจากข้อเขียนหรรือข้อฝนกาอะไรก็แล้วแต่มาวัดคุณภาพนิสิต คุณภาพของมหาวิทยาลัยต่างๆ มันดีแล้วหรือ ทำไมถึงอยากให้ สทศ. นำ U-net กลับมาใช้อีกครั้งล่ะครับ การวัดคุณภาพจากคะแนนที่มาจากทฤษฎีมันก็เหมือนกับการวัดจากเกราดเฉลี่ยนั่นแหละ ไม่ข้อสนับสนุนอย่างยิ่ง U-net มีการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร(ไม่จำเป็นเพราะเห็นได้จากการสัมภาษณ์งานอยู่แล้ว) การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร(ไม่จำเป็นเพราะเห็นได้จากการสัมภาษณ์งานอยู่แล้ว) การรู้เท่าทันสื่อและการตัดสินใจ(สองอย่างนี้เป็นแบบกา ดังนั้นคำตอบจึงมีเพียงข้อเดียว ไม่สนับสนุนอย่างแรงที่จะให้คนคิดแบบเดียวกันตลอด) แล้วปีหน้าจะมีเพิ่มมาสองรายการคืออะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าการสอบ U-net ที่โดนอ้างว่าเป็นการวัดความรู้ วัดสิ่งที่ได้จากมหาวิทยาลัย จากคณะที่เรียน จริงๆแล้วมันไม่มีเลยที่นำมาใช้ทำข้อสอบ ข้อสอบเดียวกันหมด ต่างคนต่างคณะ วัดอะไรกันไม่ได้ นี่ยังไม่ได้คิดเอาผลงานจากข้อสอบ O-net หรือ Gat-Pat ของสทศ. มันก็ไม่สมควรแล้วที่สทศ.จะนำมาใช้ มันวัดอะไรได้ ขอถามเจ้าของกระทู้หน่อยเถอว่าเมื่อมาอ่านความคิดเห็นนี้แล้วยังจะมีแนวความคิดเดิมที่อยากจะให้สทศ.นำเอา U-net ที่ใช้วัดอะไรก็ไม่ได้ มาใช้อีกเหรอ ทำไมเจ้าของกระทู้ถึงอยากสนับสนุนสทศ.นักล่ะ ถ้าให้เดาคือคุณยังไม่ได้ผ่านตากับผลงานของสทศ. หรือคุณอาจจะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้ประโยชน์เอื้อด้วย หรือคุณอาจจะเป็นคนที่ทั้งได้และไม่ได้รับผลเสียจาก U-net เลย คุณก็สามารถพูดได้ จริงอยู่ที่ว่าจะเปิดอาเซียนแล้ว แทนที่จะนำเอา U-net มาใช้ หันไปสู้ลดภาระในการสอบของเด็กดีกว่า ขอถามอีกครั้งนะครับเจ้าขอกระทู้ถ้าคุณมาอ่านก็ขอให้ตอบด้วยว่าทำไมจึงมีความคิดเช่นนั้น

ขออภัยถ้าคำพูดมันอาจจะรุนแรงเกินไปและสะเทือนใจใครหลายๆคน

แต่ก็อย่าลืมนะคะ คนที่คัดค้านก็มีคนที่เจอมาจากประสบการณ์จริงเหมือนกัน คุณเคยสอบแกทแพทหรือโอเน็ตบ้างรึป่าวคะ? แล้วเคยได้ติดตามหรือรู้ข่าวสารของข้อสอบพวกนี้ในปีก่อนๆบ้างรึป่าวคะ? ว่ามันผิดพลาดอะไร? ไม่เหมาะสมยังไง? ในมุมมองของคนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เข้าสอบ หรือ อาจารย์ จากที่เห็น สทศ ยังไม่มีประสิทธิภาพพอในการแก้ไขเรื่องปัญหาพวกนี้ให้มันพัฒนาดีขึ้นหรือเป็นมาตรฐานได้เลยยย แล้วนี่ถ้าจัดสอบ ยูเน็ตขึ้นมาอีก โดยที่ปัญหาพวกนี้มันก็ยังไม่ถูกแก้ไข คุณคิดว่า ประเทศมันจะก้าวหน้าหรอคะ? เราคิดว่ามันอาจจะกลายเป็นการสร้างภาระให้กับคนที่ต้องสอบ เราเองก็ศึกษาติดตามเรื่องของยูเน็ตมาพอสมควรเรื่องข้อมูลต่างๆที่ได้รับรู้มา เราก็ ยืนยันว่าเราไม่เห็นด้วยอยู่ดีค่ะ อย่างน้อยเราขอเป็นคนนึงนะ จะบอกคุณว่า คนไทยบางส่วนก็ไม่ได้แต่จะคัดค้านลูกเดียวหรือตามกระแสหรอกค่ะ

เหอะ ปัญญาอ่อนจ้ะ ! ถ้าบอกว่าระบบเกรดมันล้าหลัง ระบบคะแนนสิชัวร์กว่า มันก็เหมือนกันป่ะวะ
เพราะมันก็คือ เกณฑ์การตัดสินเหมือนกัน เผลอๆนะ เกรดน่ะตัดสินได้ครอบคลุมกว่าคะแนนอีก คะแนนวัดไรได้ ??? วัดได้แต่ความรู้ไง สมัยนี้คนมีความรู้อย่างเดียวใช่จะเป็นที่ต้องการนะ มันต้องมีการประยุกต์ใช้ให้เป็นด้วยเหอะ แล้วเกรดเนี่ยมันได้ซึ่งมาด้วยความรับผิดชอบต่อการงานป้ะ ? ถ้าไม่มีการได้มาของความรับผิดชอบ ถามหน่อยคนเก่งแค่สร้างเรื่องแต่ไม่รับผิดเนี่ย มันดีจริงหรอ !!! ถ้าหน่วยงาน องค์กรไหนอยากได้คนที่มีแต่ความรู้แต่เกรดต่ำ ก็เปิดสอบไปเลย

เอาง่ายๆ ตามความเข้าใจของเรานะ
คะแนน = วัดความรู้ของคนสอบ
เกรด = วัดความรับผิดชอบ,ความรู้ ผสมๆกันไป

ถ้าการที่คุณบอกว่า การตัดสินด้วยคะแนนเนี่ย มันคือความยุติธรรม ไม่ทราบว่ามันยุติฯตรงไหนหรอ ในแต่ละองค์กรเขาก็มีการจัดสอบคัดตามแต่ที่เขาต้องการอยู่แล้ว 
ถ้าท่านบอกว่าระบบเกรดมันล้าสมัยแล้ว สมมติ เอ ได้เกรด 1.95 กับ บีได้เกรด 3.69 ผลปรากฏว่านายเอสอบได้มากกว่านายบี 2-3 คะแนน(คิดดูความต่างของคะแนนสอบแลคะแนนซ้ำของนศ.เป็นหมื่นจะทำไง) แปลว่าความพยายามของบีต้องมาง่อยแด่กเพราะสอบได้น้อยกว่าเอหรอ 

เหมือนท็อปเมนต์บอกอะ   เอา-คิดหรอ

ผมพูดจริงๆนะ มันเป็นไปไม่ได้อ่ะ คุณจะให้ระบบการอุปถัมกับระบบพี่น้องหายไปหรอครับ งั้นผมถามให้คุณคิดนะ ถ้าคุณมีน้องกับน้องของเพื่อน คุณจะรับใครเค้าทำงาน แล้วเรื่องการสอบเรื่องศีลธรรมกับจริยธรรมอีก มันจะไปแฟร์ได้ยังไง ในเมื่อข้อสอบไม่ใช่ข้อเขียนแต่เป็นข้อกา เค้าล็อคความคิดของเราอ่ะ

ถ้าคุณบอกว่าการใช้เกรดเป็นตัวตัดสินคุณภาพมันไม่ดี ก็เห็นด้วยว่าใช่ แต่ว่าการสอบ U-net เพื่อนำเอาคะแนนจากข้อเขียนหรรือข้อฝนกาอะไรก็แล้วแต่มาวัดคุณภาพนิสิต คุณภาพของมหาวิทยาลัยต่างๆ มันดีแล้วหรือ ทำไมถึงอยากให้ สทศ. นำ U-net กลับมาใช้อีกครั้งล่ะครับ การวัดคุณภาพจากคะแนนที่มาจากทฤษฎีมันก็เหมือนกับการวัดจากเกราดเฉลี่ยนั่นแหละ ไม่ข้อสนับสนุนอย่างยิ่ง U-net มีการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร(ไม่จำเป็นเพราะเห็นได้จากการสัมภาษณ์งานอยู่แล้ว) การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร(ไม่จำเป็นเพราะเห็นได้จากการสัมภาษณ์งานอยู่แล้ว) การรู้เท่าทันสื่อและการตัดสินใจ(สองอย่างนี้เป็นแบบกา ดังนั้นคำตอบจึงมีเพียงข้อเดียว ไม่สนับสนุนอย่างแรงที่จะให้คนคิดแบบเดียวกันตลอด) แล้วปีหน้าจะมีเพิ่มมาสองรายการคืออะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าการสอบ U-net ที่โดนอ้างว่าเป็นการวัดความรู้ วัดสิ่งที่ได้จากมหาวิทยาลัย จากคณะที่เรียน จริงๆแล้วมันไม่มีเลยที่นำมาใช้ทำข้อสอบ ข้อสอบเดียวกันหมด ต่างคนต่างคณะ วัดอะไรกันไม่ได้ นี่ยังไม่ได้คิดเอาผลงานจากข้อสอบ O-net หรือ Gat-Pat ของสทศ. มันก็ไม่สมควรแล้วที่สทศ.จะนำมาใช้ มันวัดอะไรได้ ขอถามเจ้าของกระทู้หน่อยเถอว่าเมื่อมาอ่านความคิดเห็นนี้แล้วยังจะมีแนวความคิดเดิมที่อยากจะให้สทศ.นำเอา U-net ที่ใช้วัดอะไรก็ไม่ได้ มาใช้อีกเหรอ ทำไมเจ้าของกระทู้ถึงอยากสนับสนุนสทศ.นักล่ะ ถ้าให้เดาคือคุณยังไม่ได้ผ่านตากับผลงานของสทศ. หรือคุณอาจจะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้ประโยชน์เอื้อด้วย หรือคุณอาจจะเป็นคนที่ทั้งได้และไม่ได้รับผลเสียจาก U-net เลย คุณก็สามารถพูดได้ จริงอยู่ที่ว่าจะเปิดอาเซียนแล้ว แทนที่จะนำเอา U-net มาใช้ หันไปสู้ลดภาระในการสอบของเด็กดีกว่า ขอถามอีกครั้งนะครับเจ้าขอกระทู้ถ้าคุณมาอ่านก็ขอให้ตอบด้วยว่าทำไมจึงมีความคิดเช่นนั้น

ขออภัยถ้าคำพูดมันอาจจะรุนแรงเกินไปและสะเทือนใจใครหลายๆคน

ยังไงก็ไม่คิดจะสอบU-NETค่ะ เพราะคิดว่าการศึกษาไทยเรียนไว้เพื่อเอาไปใช้ในชีวิตจริง ไม่ใช่เพื่อเอาไว้ไปสอบ การสอบU-NETที่บอกว่ามีมาตรฐาน เอาอะไรมารับรองคะ มาตรฐานของคนออกข้อสอบหรอ ยิ่งเป็นพวกจริยธรรม คำตอบมันก็ไม่ตายตัว แล้วจะเอาอะไรมาวัดคะ ว่าข้อไหนถูก ถูกของเราอาจจะไม่ใช่ถูกของเขาก็ได้ แล้วก็เกี่ยวกับการรับเข้าทำงานอะ คิดว่าบริษัททุกที่ก็มีแบบทดสอบของแต่ละแห่งอยู่แล้วนะคะ คงไม่ต้องไปเพิ่มแบบทดสอบให้เค้าหรอก

ยกตัวอย่างง่ายๆน่ะคะ 
คนนึงเล่นบอลเก่งมาก... ตัวท๊อฟในทีมเลยแต่ถ้าถามถึงว่าต้องเตะยังไงทฤษฎีการเตะคุณเตะยังไง คนๆนี้ตอบไม่ได้ค่ะ ส่วนที่คนนึง เขาอธิบายได้ทุกขั้นตอนว่าต้องเตะอย่างนั้นอย่างนี้น่ะ อธิบายมาเป็นบทๆได้เลยค่ะ แต่ลงสนามไปไม่เป็นค่ะ ถามว่าถ้าจะคัดตัวนักกีฬาเนี้ยคุณเป็นโค้ชคุณเลือกใคร?
คิดเช่นเดียวกันค่ะการเลือกบุคคลเข้าทำงานเขาเลือกจากคนปฏิบัติเป็นไม่ใช่ทฤษฎีเป๊ะแต่ไปไม่เป็นค่ะ ทฤษฎีไม่ได้วัดว่าใครเตะบอลเก่งหรือเตะไม่ได้เรื่อง เช่นกันค่ะ การสอบไม่ได้วัดว่าใครจะทำงานได้หรือไม่ได้ ลองคิดดูน่ะคะ

ของม.ปลายสอบได้ไม่มีปัญหาเนื่องจากเรียนหลักสูตรเดียวกันค่ะ (หลักสูตรกระทรวงศึกษาเหมือนกัน)

แต่มหาลัยมันก็แล้วแต่มหาลัย แล้วแต่คณะนะคะ ถึงแม้ขอสอบจะไม่ได้มีปัญหา เช่น ไม่ได้ออกผิดหรือไม่ยากเกินหลักสูตร ก็ไม่ได้หมายความว่าจะวัดความสามารถของนักศักษาได้ทั้งหมดค่ะ

ถ้าคุณบอกว่าการใช้เกรดเป็นตัวตัดสินคุณภาพมันไม่ดี ก็เห็นด้วยว่าใช่ แต่ว่าการสอบ U-net เพื่อนำเอาคะแนนจากข้อเขียนหรรือข้อฝนกาอะไรก็แล้วแต่มาวัดคุณภาพนิสิต คุณภาพของมหาวิทยาลัยต่างๆ มันดีแล้วหรือ ทำไมถึงอยากให้ สทศ. นำ U-net กลับมาใช้อีกครั้งล่ะครับ การวัดคุณภาพจากคะแนนที่มาจากทฤษฎีมันก็เหมือนกับการวัดจากเกราดเฉลี่ยนั่นแหละ ไม่ข้อสนับสนุนอย่างยิ่ง U-net มีการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร(ไม่จำเป็นเพราะเห็นได้จากการสัมภาษณ์งานอยู่แล้ว) การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร(ไม่จำเป็นเพราะเห็นได้จากการสัมภาษณ์งานอยู่แล้ว) การรู้เท่าทันสื่อและการตัดสินใจ(สองอย่างนี้เป็นแบบกา ดังนั้นคำตอบจึงมีเพียงข้อเดียว ไม่สนับสนุนอย่างแรงที่จะให้คนคิดแบบเดียวกันตลอด) แล้วปีหน้าจะมีเพิ่มมาสองรายการคืออะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าการสอบ U-net ที่โดนอ้างว่าเป็นการวัดความรู้ วัดสิ่งที่ได้จากมหาวิทยาลัย จากคณะที่เรียน จริงๆแล้วมันไม่มีเลยที่นำมาใช้ทำข้อสอบ ข้อสอบเดียวกันหมด ต่างคนต่างคณะ วัดอะไรกันไม่ได้ นี่ยังไม่ได้คิดเอาผลงานจากข้อสอบ O-net หรือ Gat-Pat ของสทศ. มันก็ไม่สมควรแล้วที่สทศ.จะนำมาใช้ มันวัดอะไรได้ ขอถามเจ้าของกระทู้หน่อยเถอว่าเมื่อมาอ่านความคิดเห็นนี้แล้วยังจะมีแนวความคิดเดิมที่อยากจะให้สทศ.นำเอา U-net ที่ใช้วัดอะไรก็ไม่ได้ มาใช้อีกเหรอ ทำไมเจ้าของกระทู้ถึงอยากสนับสนุนสทศ.นักล่ะ ถ้าให้เดาคือคุณยังไม่ได้ผ่านตากับผลงานของสทศ. หรือคุณอาจจะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้ประโยชน์เอื้อด้วย หรือคุณอาจจะเป็นคนที่ทั้งได้และไม่ได้รับผลเสียจาก U-net เลย คุณก็สามารถพูดได้ จริงอยู่ที่ว่าจะเปิดอาเซียนแล้ว แทนที่จะนำเอา U-net มาใช้ หันไปสู้ลดภาระในการสอบของเด็กดีกว่า ขอถามอีกครั้งนะครับเจ้าขอกระทู้ถ้าคุณมาอ่านก็ขอให้ตอบด้วยว่าทำไมจึงมีความคิดเช่นนั้น

ขออภัยถ้าคำพูดมันอาจจะรุนแรงเกินไปและสะเทือนใจใครหลายๆคน

คิดเหมือนกันเลย ในใจคิดได้แรงกว่านี้อีกนะ (เกรงใจ)